Code 201 : แดงเดือด ที่คาบสมุทรเกาหลี

วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน 2553
ATT Code : แดงเดือด ที่คาบสมุทรเกาหลี
----------------------------------------------------------------------------------
Short News
xBT> *KOREA:ครม.ศก.เกาหลีใต้ประชุมฉุกเฉินพรุ่งนี้ประเมินผลกระทบจากเหตุโจมตี
โซล--23 พ.ย.--รอยเตอร์

กระทรวงการคลังเกาหลีใต้แถลงในวันนี้ว่า คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจของเกาหลีใต้จะจัดการประชุมฉุกเฉินในเช้าวันพรุ่งนี้เวลา 07.30 น.ตามเวลา
ท้องถิ่น หรือ 05.30 น.ตามเวลาไทย เพื่อประเมินผลกระทบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจ จากเหตุการณ์ตึงเครียดของการยิงปืนใหญ่ตอบโต้กันระหว่าง
เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในวันนี้
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมได้แก่ รมช.คลัง, รมช.เศรษฐกิจความรู้,รองผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ และรองประธานคณะกรรมการบริการการเงิน--จบ--

xBT> *KOREA:รัฐบาลเกาหลีใต้เรียกประชุมฉุกเฉินหลังเกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ถล่ม
โซล--23 พ.ย.--รอยเตอร์

สถานีโทรทัศน์วายทีเอ็นของเกาหลีใต้รายงานวันนี้ว่า สำนักประธานาธิบดีของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ระดมยิงกระสุนปืนใหญ่อย่างน้อย 200 ลูกเข้าใส่เกาะยอนเปียงใกล้ชายแดนติดกับเกาหลีเหนือ เพื่อตอบโต้การซ้อมรบของเกาหลีใต้ ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เรียกประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคง
วายทีเอ็นยังรายงานว่า พลเรือนและทหารเกาหลีใต้ได้รับบาดเจ็บหลายคนและมีการอพยพคนอีกจำนวนมากไปยังบังเกอร์บนเกาะยอนเปียง หลังจากถูกเกาหลีเหนือยิงถล่มด้วยกระสุนปืนใหญ่
วายทีเอ็นรายงานโดยอ้างคำกล่าวของผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งว่า มีรายงานว่าเกิดกระแสไฟฟ้าดับที่เกาะยอนเปียงหลังเกิดการยิงปืนใหญ่ดังกล่าว และภาพจากสถานีโทรทัศน์ก็ปรากฎกลุ่มควันอย่างน้อย 4 กลุ่มบนเกาะดังกล่าว--จบ--

ฮั่งเส็งลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 นำลงโดยแบงก์และนำมัน หลังจากจีนประกาศมาตรการ Price control คุมราคาสินค้าเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ

เกิดโรคระบาดในหมูที่จ.พิษณุโลก เป็นข่าวดีต่อ CPF
- เกิดโรคระบาด HRRS ในหมู ที่จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่แพร่ระบาดในหมู (แต่ไม่ติดต่อสู่คน) แต่ฟาร์มหมูของ CPF ที่พิษณุโลกไม่ได้รับผลกระทบเพราะเป็นฟาร์มปิด
- ปัจจุบันโรค HRRS ไม่มียารักษาให้หายขาด แต่สามารถป้องกันได้โดยทำให้หมูแข็งแรงด้วยการให้กลูโคส และทำฟาร์มปิดเพื่อป้องกันโรคจากที่อื่นเข้ามา
- เป็นข่าวดีต่อ CPF เนื่องจากมีระบบการเลี้ยงที่มาตรฐานและเป็นฟาร์มปิด และโรคระบาดอาจทำให้ราคาหมูแพงขึ้นจากปริมาณผลผลิตลดลง
- อย่างไรก็ตามปัจจุบันเกิดโรคระบาดในพื้นที่จำกัด และหากสามารถควบคุมการแพร่เชื้อได้เร็ว อาจไม่กระทบต่อปริมาณผลผลิตอย่างมีนัยสำคัญ
- ราคาเป้าหมาย CPF 25 บาท ราคาหุ้นใกล้เต็มมูลค่าแล้วแต่มีข่าวดีเข้ามาเพิ่มแนะนำถือ let profit run ไปก่อน

BANPU: CS raised TP to 925 from 810 to reflect the upgrade of the target price of its ITMG

THAI (HOLD) : ตัวเลข Traffics ดีขึ้นใน 4Q10 แต่คาดชดเชยด้วยค่าใช้จ่ายพนักงานมากขึ้น
หมายเหตุ : บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มีความสัมพันธ์กับบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบมจ.การบินไทย
* ตัวชี้ด้าน Traffic และ Passenger yields ต่างๆ เริ่มดีขึ้น ในเดือน ต.ค. โดยปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่ม 5.6% M-M และ 2.7% Y-Y ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่ม 7.7% M-M และ 1.9% Y-Y ทำให้อัตราส่วนขนส่งผู้โดยสาร (Cabin factor) เพิ่มขึ้นเป็น 74.5% จากเดือนก่อนที่ 73.1% แม้ยังต่ำกว่าเดือน ต.ค. 2009 ที่ 75.1% จากผลของน้ำท่วม ขณะที่ Passenger yield ก็ฟื้นตัวขึ้นเป็น 2.11 บาท/RPK จากเดือนก่อนที่ลดลงไปต่ำเพียง 1.97 บาท/RPK (จาก 2 เดือนก่อนที่ 2.01 บาท/RPK และ 2.11 บาท/RPK ตามลำดับ) ในช่วงต่อไป คาดว่าปริมาณ Traffics และ Passenger yields จะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้าสู่ช่วง High season ในกลาง 4Q10 - ต้น 1Q11
----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
23 พย. 53 ( +10.42 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ต่ำกว่า 1002.50 ปรับตัวลง 980 – 985จุด
แนวโน้มดัชนีในวันอังคารนี้ ในกรณีปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนีไม่น่าจะไปได้เกิน 1031.16จุดสูงสุดของสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะเดียวกันการปรับตัวลง ต่ำกว่า1002.50 จุดต่ำสุดของวันศุกร์ และเส้นค่าเฉลี่ย25 วัน ดัชนีมีโอกาสปรับตัวกลับลงไปบริเวณ980 - 985 ใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้วอีกครั้ง

ขณะที่การปรับตัวลง ต่ำกว่า 978.50 จุดต่ำสุดสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงต่อประมาณปลายเดือนนี้ถึงต้นเดือนหน้าแถว 910– 960 จุด ใกล้แนวรับตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 สัปดาห์

หุ้นเด่น
RATCH
ปรับตัวขึ้นมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงอีกครั้ง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 35.75จุดสูงสุดวันจันทร์ และเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าวเป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 37.00 – 38.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 35.00 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
CPF ไม่ต่ำกว่า 24.20 ขึ้น 25.25 – 25.75
TRUE ต่ำกว่า 6 ลง 5.60 – 5.70
ITD ต่ำกว่า 4.74 ลง 4.60 – 4.70
JAS แกว่งตัว 2.06 – 2.20
PTL ต่ำกว่า 34 ลง 33 – 33.50
PTTCH แกว่งตัว 161.50 – 165.50
PTTAR เกิน 37 ขึ้น 37.50 - 38
TOP ต่ำกว่า 64 ลง 62 - 63
PTT ต่ำกว่า 324 ลง 313 - 316
IVL แกว่งตัว 46 – 48
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS: หลังทยอยทำกำไรเมื่อตลาดบวก...ถัดจากนี้รอรอบพักตัวลงใหม่ของ SET
แนวโน้ม: ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์กลับขึ้นมาถึงบริเวณ 1020 จุดซึ่งเป็นระดับที่เคยมีแรงขายกดดันให้ดัชนีปรับตัวลงรุนแรงในรอบก่อนแล้ว ขณะที่ความกังวลต่อการลุกลามของปัญหาหนี้สินในยุโรปก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง แม้ว่าไอร์แลนด์จะได้รับการช่วยเหลือจาก IMF และ EU ไปแล้วก็ตาม รวมทั้งความวิตกต่อมาตรการคุมเข้มจากทางการจีนก็ยังกดดันความมั่นใจของนักลงทุนอยู่พอควรเนื่องจากยังไม่มีความชัดเจน นอกจากนี้ในบ้านเราช่วงนี้ยังมีปัญหาด้านการเมืองไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงในวันจันทร์ที่ 29 พ.ย.นี้จะเป็นการแถลงปิดคดีเกี่ยวกับการใช้เงินเลือกตั้งผิดกฎหมายของพรรค ปชป. ซึ่งคาดว่าศาลฯ จะมีการกำหนดวันตัดสินคดีว่าจะยุบพรรค ปชป.หรือไม่ในช่วงนั้นด้วย ดังนั้น FSSคาดว่าตั้งแต่กลางสัปดาห์นี้ไปจนถึงสัปดาห์หน้า SET มีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนและอาจเน้นหนักทางด้านปรับตัวลงได้ เป้าหมายอยู่ที่ 980 จุดหรือใกล้เคียง
กลยุทธ์: หลังจากขายทำกำไรเมื่อตลาดขยับขึ้นไปแล้ว จังหวะกลับเข้าซื้อแนะนำให้รอตลาดปรับตัวลงก่อน โดยหุ้นน่าสนใจได้แก่ TASCO, PTL, AMATA,PS, VNG, SPALI, AP, CK, SSI, MAJOR, HEMRAJ เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
• (-) GDP ของไทยใน 3Q10 +6.7%Y-Y ใกล้เคียงตลาดคาด แต่ต่ำกว่าBloomberg consensus คาด แต่หากปรับผลกระทบของฤดูกาล พบว่าเศรษฐกิจไม่ได้ดูดีขึ้นโดย -0.2%Q-Q หดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ส่วนงวด 9 เดือนแรกโต9.3%Y-Y สภาพัฒน์คาดทั้งปีโต 7.9% (ธปท. คาดปีนี้โต 7.3-8%) และคาดปีหน้าโตชะลอลงเป็น 3.5-4.5% ผลักดันโดยการลงทุนภาคเอกชน (+9.8%) และการใช้จ่ายของประชาชน (+4.3%) ขณะที่คาดการส่งออกโตเพียง 11.7% ลดลงจากปีนี้ที่คาด +25.1% สศช.เตือนปัจจัยเสี่ยงคือเศรษฐกิจโลก ค่าเงิน การเมือง
• (-) GDP มาเลเซียใน 3Q10 น้อยกว่าคาด โดยเพิ่ม 5.3%Y-Y ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ +8.9%Y-Y เป็นการโตจากการบริโภคภายในประเทศ ขณะที่การส่งออกที่ชะลอฉุด GDP ให้ชะลอลงในไตรมาสนี้
• (+) CPF, GFPT EU จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสุ่มตรวจสอบโรงงานไก่แช่แข็งของไทยในช่วงต้นปีหน้าหลังจากเกิดโรคระบาดไข้หวัดนกในไทยปี 2004 ทำให้ไทยไม่สามารถส่งไก่สดแช่แข็งเข้ายุโรปและญี่ปุ่นได้ หาก EU อนุมัตินำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทยอีกครั้ง ก็มีแนวโน้มที่ญี่ปุ่นจะกลับมานำเข้าด้วย จะเป็นผลดีต่อทั้งCPF และ GFPT ที่จะขยายตลาดได้ นอกจากนี้ มาตรการของจีนในการคุมเงินเฟ้อจะช่วยให้ราคาต้นทุนอาหารสัตว์ (ข้าวโพด กากถั่วเหลือง) ชะลอการปรับขึ้น เราประเมินราคา CPF 25 บาท (ถือ) GFPT 11 บาท (ซื้อลงทุน)
• (+) THAI ปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 50 บาท Traffic และ Passenger yieldsต่างๆ เริ่มดีขึ้นในเดือน ต.ค. ทำให้เราปรับกำไรและเป้าหมายขึ้น
• (0) GSTEEL ปรับโครงสร้างหนี้สำเร็จ ราคาหุ้นรับรู้ไปแล้ว หุ้นกู้ US$170ล้านที่จะครบกำหนดชำระ ต.ค. นี้ หนี้ 65% (US$110 ล้าน) ถูกแปลงเป็นทุนที่อัตรา 30 หุ้นต่อเงินต้น US$1 ตีราคา ~0.80 บาท/หุ้น หนี้อีก 35% (US$60ล้าน) ถูก haircut 60% (US$36 ล้าน) เหลือหนี้ที่จะชำระ US$24 ล้าน (แบ่งเป็นชำระด้วยเงินสด US$8.5 ล้านซึ่งถ้าบริษัทจ่ายไม่ได้ก็อาจแปลงเป็นหุ้น ที่เหลือUS$15.3 ล้านชำระภายใน 5 ปี) แผนนี้ทำให้เกิดกำไร (ตัวเลขทางบัญชี) จากการปรับโครงสร้างหนี้ 2 พันล้านบาทบันทึกใน 4Q10 แต่ไม่มากพอที่จะทำให้ขาดทุนสะสมกลายเป็นกำไรสะสมและจ่ายปันผลได้ ส่วนจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น 23% ถ้าเจ้าหนี้แปลงสภาพทั้งหมด Book value จะ dilute ลงเหลือ 0.85 บาท/หุ้นในงบ
เดี่ยวและ 0.97 บาท/หุ้นในงบรวม ราคาหุ้นได้สะท้อนการปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้ว ราคาหุ้นปรับขึ้นวันนี้จึงเป็นโอกาสดีในการขาย
• Fund Flow วานนี้ไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน แต่ปริมาณยังเบาบางมาก ทั้งนี้น่าจะเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ Ireland แม้จะยอมรับการช่วยจาก EU และ IMF แต่เนื่องจาก Ireland ยังมีปัญหาการเมืองตามมาด้วย ทำให้ตลาดคาดว่าปัญหานี้อาจจะขยายวงกว้างในยุโรป นอกจากนี้นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับการออกมาตรการสกัดเงินเฟ้อของจีนจะทำให้อุปสงค์ลดลงด้วย อย่างไรก็ตามตัวเลขจีดีพีของเอเชียยังเติบโตในระดับสูง Y-Y แม้จะชะลอเล็กน้อย Q-Q ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามตลาดคาด ค่าเงินเช้านี้ยูโรอ่อนค่าเล็กน้อยส่วนค่าเงินบาทและเอเชียก็อ่อนตัวเล็กน้อยเช่นกัน ดังนั้นแนวโน้มกระแสเงินทุนจากต่างชาติวันนี้น่าจะยังเบาบาง
-----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.

ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา: ผลสำรวจชี้ราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐพุ่งสูงสุดก่อนถึงวันขอบคุณพระเจ้า ผลสำรวจราคาน้ำมันเบนซินที่สถานีบริการเชื้อเพลิงทั่วสหรัฐซึ่งเผยแพร่โดยบริษัท ทริลบี ลุนด์เบิร์กบ่งชี้ว่า ราคาน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยที่สถานีบริการทั่วประเทศ พุ่งขึ้นแตระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนก่อนถึงวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ย.นี้ โดยราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2.87 ดอลลาร์/แกลลอน เพิ่มขึ้น4.5% จากการสำรวจในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันเบนซินที่ระดับดังกล่าวเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. อย่างไรก็ตาม คาดว่า ราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้นจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น เนื่องจากราคามีแนวโน้มปรับตัวลดลงอันเนื่องมาจากปัจจัยหลักๆคือ การที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นลบต่อดีมานด์พลังงาน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นรายงาน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 22-11-2010)
จีน: จีนสั่งบริษัทถ่านหิน-รัฐบาลท้องถิ่น คุมราคาถ่านหินให้มีเสถียรภาพ ทางการจีนใช้มาตรการต่างๆ เพื่อตรวจสอบราคาถ่านหินที่พุ่งสูง พร้อมสั่งการให้บริษัททำเหมืองถ่านหินและรัฐบาลท้องถิ่นควบคุมราคาถ่านหินให้มีเสถียรภาพ แหล่งข่าวจากสำนักงานเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ให้สัมภาษณ์กับซินหัวว่า NDRC ได้กระตุ้นให้บริษัทผู้ผลิตถ่านหินมีระเบียบวินัยในตนเองมากขึ้น นอกจากนั้นยังสั่งไม่ให้รัฐบาลท้องถิ่นจำกัดการขายถ่านหินนอกมณฑลของตนเอง (ที่มา: อินโฟเควสท์ 22-11-2010)
เอเชีย: ดัชนีราคาผู้บริโภคฮ่องกงเดือนต.ค.ขยายตัว 2.6% สำนักงานสถิติและสำมะโนประชากรฮ่องกงเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของฮ่องกงในเดือนต.ค.ขยายตัวขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว และยังอยู่ในระดับเดียวกันกับสถิติเดือนก.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีCPI เดือนต.ค.นั้น ชี้ให้เห็นว่าดัชนี Composite CPI เดือนต.ค.ขยายตัวขึ้น 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าเดือนก.ย.เล็กน้อย โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าเช่าที่อยู่อาศัยภาคเอกชนและราคาอาหารที่สูงขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายฤดูกาลแล้ว อัตราเฉลี่ยของการเปลี่ยนแปลงของดัชนี Composite CPI ในเดือนส.ค.-ต.ค.อยู่ที่ 0.8% ซึ่งอ่อนตัวลงจากระดับเดือนก.ค.-ก.ย. (ที่มา: อินโฟเควสท์ 22-11-2010)
เอเชีย: มาเลเซียเผยจีดีพี Q3 ชะลอตัวแตะ 5.3% เหตุความต้องการภายนอกลดลง ธนาคารกลางมาเลเซียแถลงในวันนี้ว่า เศรษฐกิจมาเลเซียไตรมาส 3 ขยายตัว 5.3% ต่อปี โดยได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการภายในประเทศ ขณะที่ความต้องการจากต่างประเทศลดลง ทั้งนี้ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ชะลอตัวลง หลังจากที่เศรษฐกิจมาเลเซียทำสถิติขยายตัวถึง 10.1% ในไตรมาสแรก และ 8.9% ในไตรมาส 2 (ที่มา: อินโฟเควสท์ 22-11-2010)
เอเชีย: สถาบันพัฒนาเกาหลีใต้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในประเทศปีหน้าลงเหลือ 4.2% สถาบันพัฒนาเกาหลีใต้ (KDI) ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเศรษฐกิจของรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในปี 2554 ลงสู่ระดับ 4.2% จากเดิม 4.4% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม KDI ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้มาอยู่ที่ระดับ 6.2% เพิ่มขึ้น 0.3% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5.9% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 22-11-2010)
เอเชีย: ธนาคารโลกอัดงบ 800 ล้านดอลล์ ช่วยอินโดนีเซียเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจ ธนาคารโลกเตรียมจัดสรรเงิน 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนโครงการปฏิรูปเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย และกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนภายในประเทศ โดยเงินงบประมาณข้างต้นจะถูกเบิกจ่ายเป็น 2 งวดซึ่งงวดแรกจะมีการเบิกจ่ายให้อินโดนีเซียจำนวน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือด้านการลงทุน การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดงานเงินงบประมาณของรัฐบาลกลาง รวมถึงใช้เป็นทุนสนับสนุนโครงการบรรเทาความยากจน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 22-11-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น