Code 422 : 27/05/54 ยืนที่ EMA5 แล้ว... ลุ้นผ่าน EMA10 / EMA 25

วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม 2554

ATT Code : ยืนที่ EMA5 แล้ว... ลุ้นผ่าน EMA10 / EMA 25
1. เข้าที่...
วันพฤหัส SETI ปิดที่ 1065.45 จุด +9.91 จุด...
- SETI สามารถยืนเหนือ EMA5 ที่ 1064 ได้.. แต่ก็มีแรงขายที่แนวต้านที่2 EMA10 ที่ 1070
แสดงให้เห็นว่า ตอนนี้ยังเป็นลักษณะ ขึ้นขาย - ลงซื้อ... คือ ซื้อที่แนวรับ แล้วขายตามแนวต้าน
ถ้าหลุดแนวรับก็ต้องขายตาม หรือ Break แนวต้าน ก็ต้องซื้อตาม
- CandleStick ปรับตัวขึ้นเป็นแ่ท่งเขียว และสูงกว่าเมื่อวันก่อน แต่ก็มีแรงขายออกมาทำให้ยังมีความไม่แน่นอนอยู่
- Main Indicators ยังยืนยันการลงอยู่ทุกตัว... แต่เริ่มที่จะไม่ต่ำไปกว่าเดิมและมีลักษณะที่มีค่าเพิ่มขึ้น
แต่คงต้องรอ Indicator ตัวแรก คือ STO ให้ %K ตัด %D ขึ้นมาก่อน
- Minor Indicators อย่าง %R และ CCI ก็มีสัญญาณ Buy เกิดขึ้นแล้ว

2. ระวัง...
- SETI ขึ้นมาอยู่ระหว่างเส้น EMA5 กับ EMA10
ถ้า SET ยังสามารถยืนอยู่และไม่ต่ำกว่า EMA5 1064 ก็มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ EMA10....
แต่ถ้าไม่สามารถผ่าน EMA10 ได้... ก็สามารถที่จะลงไปที่ EMA5 ใหม่ได้
และถ้าหลุด EMA5 อีก ก็จะกลับมาลงใหม่ เพราะ Main Indicators ยังไม่แสดงสํญญาณซื้อที่ชัดเจน

3. ไป...(แนวโน้มไปทางบวกมากว่าลบ)
- Main และ Minor Indicators เริ่มมีสัญญาณที่กลับขึ้นมาเป็นบวก...
ดังนั้นถ้า SETI สามารถยืนเหนือ EMA10 ได้ ก็มีลุ้นที่จะผ่าน EMA25 ได้

กรอบ : 1055 - 1079
แนวรับ : EMA5 1065 / 1061 / 1055
แนวต้าน : EMA10 1070 / EMA25 1073 / BB-A 1079


-----------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
27 พค.54 ( +9.91 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

แกว่งตัวในกรอบ 1064 – 70 จุด
แนวโน้มในวันศุกร์นี้ ดัชนีไม่น่าจะปรับตัวลงต่ำกว่า 1061 – 64 หรือแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมง ถึงจุดต่ำสุดของวันพฤหัส

และ ตลาด “อาจจะ” แกว่งตัวอีกหนึ่งถึงสองวันในกรอบ 1064 – 70 หรือระหว่างจุดต่ำสุด ถึงจุดสูงสุดของวันพฤหัส

ตราบใด ไม่ต่ำกว่า 1052.18 จุด ต่ำสุดสัปดาห์นี้ ภาพตลาดหนึ่งถึงสองสัปดาห์ข้างหน้า มีโอกาสปรับตัวกลับขึ้นไปบริเวณ1090 – 1100 ใกล้จุดสูงสุดเดิมของเดือนนี้อีกครั้ง

หุ้นเด่น
TOP
ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงอีกครั้ง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 77.25จุดสูงสุดวันพฤหัส เป้าหมายระยะสัปดาห์81.00 – 82.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 76.50 )

PTTCH
ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงอีกครั้ง ทยอยซื้อแถว 148.50 – 149.50 หรือรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 151.00 จุดสูงสุดวันพฤหัส เป้าหมายระยะสัปดาห์ 155.50 –158.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 147.00 )
10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTT แกว่งตัว 348 – 356
JAS ไม่ต่ำกว่า 2.78 ขึ้น 3 – 3.10
PTL ต่ำกว่า 23.80 ลง 23.30 – 23.50
BANPU เกิน 750 ขึ้น 755 – 760
TTA เกิน 23 ขึ้น 24.40 – 24.80
PTTCH รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
TOP รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
SCB ไม่ต่ำกว่า 113 ขึ้น 116 – 117
BBL แกว่งตัว 159.50 – 163.50
KBANK แกว่งตัว 121 - 124

TOP
ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงอีกครั้ง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 77.25จุดสูงสุดวันพฤหัส เป้าหมายระยะสัปดาห์81.00 – 82.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 76.50 )

PTTCH
ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงอีกครั้ง ทยอยซื้อแถว 148.50 – 149.50 หรือรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 151.00 จุดสูงสุดวันพฤหัส เป้าหมายระยะสัปดาห์ 155.50 –158.00 (ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 147.00)

-----------------------------------------------------------------------------
ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ปิดบวก 0.07% รับผลประกอบการสดใส

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สองในวันพฤหัสบดีในการซื้อขายที่ผันผวน โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและสินค้าฟุ่มเฟือยนำตลาดปรับตัวขึ้นหลังเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 8.10 จุดหรือ 0.07% สู่ 12,402.76, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 5.22 จุดหรือ 0.40% สู่ 1,325.69 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 21.54 จุดหรือ 0.78% สู่ 2,782.92
ปริมาณการซื้อขายเบาบางราว 6.4 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค, ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq โดยต่ำกว่าระดับเฉลี่ยต่อวันของปีนี้ที่ 7.64 พันล้านหุ้น
จำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วนมากกว่า 2 ต่อ 1 ทั้งในตลาดนิวยอร์ค และ Nasdaq
ตลาดปรับตัวลงในช่วงเช้าหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจต่ำกว่าคาดแต่ตลาดฟื้นตัวขึ้นทันทีที่ยูโรมีเสถียรภาพเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
สัญญาณความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจนั้นทำให้โกลด์แมน แซคส์ปรับลดระดับเป้าหมายสิ้นปีของดัชนี S&P 500 ลง 3.33% สู่ 1,450 จาก 1,500 โดยเป้าหมายที่ลดลงทำให้แนวโน้มขาขึ้นของดัชนีจากระดับปัจจุบันอยู่ที่ราว 10%
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาขณะที่ตัวเลขประมาณการครั้งที่สองของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8% ในไตรมาสแรก ไม่เปลี่ยนแปลงจากประมาณการครั้งแรก แต่ต่ำกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ (รอยเตอร์)

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:ราคาน้ำมันดิบร่วงจากวิตกเศรษฐกิจชะลอตัว

ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงมากกว่า 1% ในวันพฤหัสบดี ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวน้อยกว่าคาดในไตรมาสแรก ซึ่งทำให้เกิดความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมัน
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ค.ปิดร่วงลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.08% สู่ 100.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดลอนดอนปิดบวก 12 เซนต์ สู่ 115.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตัวเลขประมาณการครั้งที่สองของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)ของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดที่ 1.8% ในไตรมาสแรก, ผลกำไรภาคธุรกิจที่หดตัวลงและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นนั้นกดดันราคาน้ำมันดิบ (รอยเตอร์

ตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงขายทำกำไรฉุดทองคำปิดร่วง 3.90 ดอลลาร์

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐและสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำให้นักลงทุนบางกลุ่มยังคงเดินหน้าเข้าซื้อ ซึ่งช่วยพยุงสัญญาทองคำไม่ให้ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1,520 ดอลลาร์/อออนซ์
สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดร่วงลง 3.90 ดอลลาร์ หรือ 0.3% แตะที่ 1,522.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,514.60-1,531.10 ดอลลาร์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 31.2 เซนต์ ปิดที่ 37.330 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.4 เซนต์ ปิดที่ 4.111 ดอลลาร์/ปอนด์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 1.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,778.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 9.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 757.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการแสดงความคิดเห็นของเทรดเดอร์รายหนึ่งในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า ปัจจัยที่ทำให้สัญญาทองคำปรับตัวลงเมื่อคืนนี้มาจากการที่นักลงทุนเทขายเพื่อถือเงินสดเอาไว้ก่อนช่วงสุดสัปดาห์และก่อนสิ้นเดือนพ.ค. โดยมีเป้าหมายที่จะทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันในช่วง 4 วันทำการที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ประกอบกับการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ช่วยให้นักลงทุนบางกลุ่มยังคงเดินหน้าเข้าซื้อสัญญาทองคำ โดยเมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริง ประจำไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวเพียง 1.8% ต่อปี น้อยกว่าไตรมาสสี่ปีที่แล้วที่สามารถขยายตัวได้ถึง 3.1% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลลดการใช้จ่าย --อินโฟเควสท์

ตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงหลัง GDP สหรัฐขยายตัวน้อยเกินคาดใน Q1

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกที่ขยายตัวน้อยกว่าคาด ขณะที่ค่าเงินยูโรยังคงถูกกดดันจากความไม่แน่นอนที่ว่า กรีซจะได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินครั้งใหม่จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หรือไม่
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.31% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4129 ยูโร และดิ่งลง 0.71% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6386 ปอนด์ นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.84% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 81.300 เยน และดิ่งลง 0.77% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.8659 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.04% แตะระดับ 1.0638 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.72% แตะที่ 0.8113 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนกระหน่ำขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆแทบทุกสกุล เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริง ประจำไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวเพียง 1.8% ต่อปี น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 2.1% และน้อยกว่าไตรมาสสี่ปีที่แล้วที่สามารถขยายตัวได้ถึง 3.1% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลลดการใช้จ่าย ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด วัน 21 พ.ค.ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 424,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 414,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 400,000 รายอินโฟเควสท์

ตลาดเงิน Emerging Asia:วอน,ริงกิตแข็งค่ามากสุดรอบ 11 เดือน

วอนและริงกิตแข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบ 11 เดือน โดยนำเงินเอเชียพุ่งขึ้น ขณะที่นักลงทุนกลับเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และยูโรดีดตัวขึ้นเหนือระดับสำคัญ
วอนพุ่งขึ้น 1.24% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดในวันเดียวเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์ในรอบ 11 เดือน ขณะที่อินเตอร์แบงก์ในประเทศ และกองทุนต่างประเทศขายดอลลาร์เพื่อตัดขาดทุน ส่วนกลุ่มผู้ส่งออกเข้าซื้อวอนเพื่อชำระบัญชีด้วย
ริงกิตพุ่งขึ้นมากที่สุดในวันเดียวเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์ในรอบ 11 เดือนเช่นกัน ขณะที่กลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นขายดอลลาร์ออกมา และมีคำสั่งขายดอลลาร์เพื่อตัดขาดทุนด้วย
ส่วนดอลลาร์สิงคโปร์พุ่งขึ้น ขณะที่มีแรงขายดอลลาร์ออกมาเมื่อคืนนี้ขณะที่ดออลาร์สิงคโปร์แข็งค่าทะลุระดับ 1.2460 ต่อดอลลาร์
บาท/ดอลลาร์ภาคบ่ายแกว่งตัวอยู่ในกรอบ ตามทิศทางสกุลเงินยูโร และสินค้าโภคภัณฑ์ที่แม้ฟื้นตัวได้ แต่ยังคงมีความผันผวนสูง บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 30.38/44 จาก 30.36/41 ช่วงเช้า ขณะที่ในตลาด offshore อยู่ที่ 30.39/42 จาก 30.37/44 ช่วงเช้า โดยแนวโน้มในระยะสั้น เชื่อว่า เงินบาทจะยังแกว่งตัวในกรอบ 30.30 ถึง 30.50 ต่อไป เพื่อรอความชัดเจนของปัจจัยในต่างประเทศ (รอยเตอร์)


ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ (26 พ.ค.) บวก 21 จุด หรือ 1.45% สู่ระดับ 1467

ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554
ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-
วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)
25 พ.ค. 1446 +48
24 พ.ค. 1398 +29
23 พ.ค. 1369 +20
20 พ.ค. 1349 +20
19 พ.ค. 1329 +58 (รอยเตอร์)

>> แนวโน้ม Sideways Down...

􀁺 SETI ยังไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ในระยะสั้น และปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีแท่งเทียนสีขาว แต่ยังคงโดน

กดดันจาก Modified Stochastic และ MACD ที่ให้ค่าสัญญาณลบ ประกอบกับปิด MACD ปิดต่ำกว่า

เส้น Zero Line แนวโน้มแกว่งตัว Sideways Down

􀁺 ดังนั้นในระยะสั้นยังคงคำแนะนำ "ขาย"

THCOM ปิด 8.00 บาท

ปรับตัวเพิ่มขึ้นปิดมีแท่งเทียนสีขาวเต็มแท่งพร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับ RSI ให้สัญญาณเป็นบวก แนวโน้มเป็นขาขึ้น

แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 8.60-9.00 บาท แนวรับที่ 7.85-7.75 บาท Cut Loss หากราคาต่ำกว่า 7.65 บาท

CENTEL ปิด 7.50 บาท

แท่งเทียนปิดมีสีขาวพร้อมปริมาณการซื้อขายหนุน ประกอบกับสามารถปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกเส้น แนวโน้มเป็นขาขึ้น

แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 8.00-8.50 บาท แนวรับที่ 7.35-7.25 บาท Cut Loss หากราคาต่ำกว่า 7.10 บาท

THANI ปิด 1.85 บาท

แท่งเทียนปิดมีสีขาวพร้อมปริมาณการซื้อขายหนุน ประกอบกับ RSIและ Modified Stochastic ให้สัญญาณบวก แนวโน้มเป็นขาขึ้น

แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 1.88-1.95 บาท แนวรับที่ 1.82-1.80 บาท Cut Loss หากราคาต่ำกว่า 1.78 บาท

PAP ปิด 3.00 บาท

ราคาสามารถปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกเส้น ประกอบกับ Indicatorsทุกตัวให้สัญญาณบวก แนวโน้มเป็นขาขึ้น

แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 3.30-3.50 บาท แนวรับที่ 2.96-2.92 บาท Cut Loss หากราคาต่ำกว่า 2.88 บาท

-----------------------------------------------------------------------------

EFinance - ยึดTTA!!

บิ๊ก TTA ออกโรงแฉกลุ่มบี เตชะอุบล- วิจิตร สุพินิจ แจ้งเข้าถือหุ้น 30% จี้ เปลี่ยนบอร์ด-ปรับแผนธุรกิจ ฟากผู้บริหารเล็งส่งเรื่อง ตลท.-ก.ล.ต สอบ "วิจิตร" ประธานก.ล.ต.นั่งแท่นประธานบริษัท เหมาะสมหรือไม่ ขณะที่คาดรายได้ปี 54 ลดลง 20% จากปีก่อน หลังค่าระวางเรือทรุดต่อเนื่อง เล็งเข็น บริษัทลูก เอเชียออฟชอร์ เข้าตลาดหุ้น นอร์เวย์ภายในเดือนมิ.ย.นี้ ด้านโบรกฯมองสัญญาณเทคนิคแจ่ม ให้แนวต้าน 24-26 บาท

หลังมีกระแสข่าวลือสะพัดเกี่ยวกับการเข้าเทคโอเวอร์กิจการ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA)โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งกรณีกลุ่มทุนใหญ่ไล่เก็บหนังสือมอบฉันทะ(proxy) หวังสิทธิขอเปิดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น รวมทั้ง กองทุนออสเตรเลียเล็งเทคโอเวอร์ ซุ่มเก็บหุ้นในตลาดเข้าพอร์ต และเล็งตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นจากรายย่อย พร้อมเปิดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเสนอเพิ่มกรรมการและเดินหน้าจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่ หวังผลตอบแทนสูงสุด
ล่าสุดวานนี้ ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA) ออกโรงตั้งโต๊ะแถลงข่าวด่วนระบุ นายบี เตชะอุบล แจ้งความจำนงที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการบริษัทฯ รวมทั้งจะให้นายวิจิตร สุพินิจ เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานแทนนายอัศวิน คงสิริ หลังจากเข้ามาถือหุ้น TTA ในสัดส่วน 30%
ส่งผลให้วานนี้ (26 พ.ค.54)ราคาTTA ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดของวันที่ระดับ 23 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาทหรือ 4.55% มูลค่าการซื้อขาย 1,058.38 ล้านบาท
ขณะที่ SET Index ปิดที่ 1065.45จุด เพิ่มขึ้น9.91 จุดหรือ 0.94% มูลค่าการซื้อขาย 26,804.86ล้านบาท

***TTA เตรียมส่ง ก.ล.ต.-ตลท.สอบความเหมาะสม หลังกลุ่มบี เตชะอุบล วิจิตร สุพินิจ แจ้งเข้าถือหุ้น30% ***
ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA) เปิดเผยว่า หลังจากที่นายบี เตชะอุบล แจ้งความจำนงที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการบริษัทฯ รวมทั้งจะให้นายวิจิตร สุพินิจ เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานแทนนายอัศวิน คงสิริ หลังจากเข้ามาถือหุ้น TTA ในสัดส่วน 30% ซึ่งนายวิจิตร สุพินิจนั้น ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยบริษัทฯ จะรวบรวมหลักฐานเอกสารเกี่ยวกับการเจรจาต่างๆ เพื่อนำไปหารือกับทางตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต. ว่าการกระทำดังกล่าวมีความเหมาะสมหรือไม่
"คงต้องรอดูต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราไม่รู้ว่าที่เขาพูดนั้นมีข้อเท็จจริงอย่างไร เพราะยังไม่เห็นเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร คงต้องขอหารือกับทางตลาดฯและก.ล.ต. รวมทั้งคงจะต้องชี้แจงผ่านทางตลาดฯอย่างเป็นทางการอีกด้วย" ม.ล.จันทรจุฑา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปี 2554 รายได้ของบริษัทฯ มีโอกาสลดลง 20% จากปีก่อน หลังจากที่ค่าระวางเรือในปีนี้มีแนวโน้มปรับลดลง โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 10,800 เหรียญ/วัน/ลำ หรือลดลง 17% จากค่าระวางเรือเฉลี่ยในปีที่ผ่านมาที่ 12,000 เหรียญ/วัน/ลำ ขณะเดียวกันราคาน้ำมันยังทรงตัวในระดับสูงอีกด้วย ส่วนในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทยอยใช้เงินลงทุนไปแล้ว 49 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมนำบริษัทย่อยคือบริษัท เอเชีย ออฟชอร์ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นอร์เวย์ ภายในเดือน มิ.ย.นี้


***ลำดับเหตุการณ์ วีระ - บี - วิจิตร นัดเจรจาตั้งแต่ 3พ.คเพื่อเปลี่ยนบอร์ด-ปรับแผนธุรกิจ ***
ทั้งนี้ดีลการขอเข้ามาเป็นกรรมการ TTA ของนายบี เตชะอุบล คือลำดับเหตุการณ์ดังกล่าวต่อไปนี้
เริ่มเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2554 โดยนายวีระ มานะคงตรีชีพ ได้โทรศัพท์ติดต่อกับ ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต เพื่อขอนัดพบและรับประทานอาหาร แต่ในวันนั้นไม่ได้อยู่ในประเทศไทย จึงเลื่อนมาเป็นวันที่ 9 พ.ค.2554 ซึ่งหลังจากนายวีระและนายวิจิตร สุพินิจ ได้รับประทานอาหารรวมทั้งพูดคุยกับม.ล.จันทรจุฑา นายวีระได้แจ้งให้ทราบว่ากลุ่มของนายวีระ นายบี เตชะอุบล ได้เข้ามาถือหุ้น TTA แล้วในสัดส่วน 30% จึงขอแจ้งความจำนงว่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจของ TTA ขอทำธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิเช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ ยังขอเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริษัทฯ โดยเสนอให้นายอัศวิน คงสิริ ลาออกจากตำแหน่งประธาน และให้แต่งตั้งนายวิจิตร สุพินิจ เป็นประธานแทน รวมทั้งให้เปลี่ยนผู้บริหารใหม่จำนวน 3 คนด้วย โดยขอให้นายศักดิ์ เชื้อชูเกียรติ Mr.Stephen Rordhan ลาออก แต่หากไม่ลาออกกลุ่มบุคคลดังกล่าวจะเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นตามสิทธิทางกฎหมายที่สามารถทำได้หลังถือหุ้นเกินสัดส่วน 10% ซึ่งม.ล.จันทรจุฑาได้รับข้อเสนอไว้และนำมาหารือกับคณะกรรมการบริษัทฯ รวมทั้งขอตรวจสอบข้อมูลก่อนว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวถือหุ้น TTA ในสัดส่วน 30% จริงหรือไม่ เพราะในระหว่างที่มีการเจรจาเกิดขึ้นนั้น ไม่เคยมีเอกสารการถือหุ้น TTA ที่เป็นลายลักษณ์อักษรเลย ขณะเดียวกันการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา และล่าสุดในวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา โครงสร้างผู้ถือหุ้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย
หลังจากนั้นวันที่ 10 พ.ค.2554 นายวิจิตร นายวีระ นายบี และ Mr.Michael Fernances ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับบริษัทฯ และแจ้งให้กรรมการ 3 ท่านดังกล่าวข้างต้นลาออก นอกจากนี้นายบียังมีวัตถุประสงค์ที่จะให้ TTA เป็นอินเวสเมนท์คอมปานี และขายธุรกิจที่ไม่น่าสนใจออกไป
อย่างไรก็ตาม ม.ล.จันทรจุฑามีความคิดเห็นว่าคณะกรรมการของ TTA ชุดปัจจุบันเป็นมืออาชีพ มีประสบการทำงานมายาวนานและประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ แต่หากจะมีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามาเป็นคณะกรรมการบริษัทฯ ต้องพิจารณาให้รอบคอบและคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น รวมทั้งของบริษัทฯ ด้วย ฉะนั้นในระหว่างนี้บริษัทฯ จึงอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลและพิสูจน์เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร และพร้อมที่จะปฏิบัติตามข้อกฎหมายต่างๆ นอกจากนี้ยังเตรียมนำเรื่องนี้ไปหารือกับทางตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต. ว่านายวิจิตร สุพินิจ มีความเหมาะสมหรือไม่ ในการเข้ามาเป็นประธานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในขณะที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ ก.ล.ต.อยู่
สำหรับปัจจุบันสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติอยู่ที่ 10% และไทยเอ็นวีดีอาร์ถือหุ้นอยู่ 4% อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนเม.ย.2554 พบว่าปริมาณการซื้อขายหุ้น TTA ค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้บ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ต่อจากนี้ไป หลังจากที่มีการทยอยลงทุนอย่างต่อเนื่องคงจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น


*** โบรกฯ มองสัญญาณเทคนิคมีโอกาสฟื้นตัว แนะซื้อให้แนวต้าน 24-26 บาท***
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่กรุ๊ป เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเส้นกราฟเทคนิคราคาหุ้น TTA พบว่าราคาหุ้นได้ติดแนวต้านที่ระดับ 23.00 บาท ซึ่งหากราคาหุ้นผ่านระดับดังกล่าวได้ แนะนำซื้อตาม เพราะราคามีโอกาสแตะแนวต้านถัดไปที่ระดับ 24.00 บ
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส เปิดเผยว่า ราคาหุ้นมีโอกาสขยับเพิ่มขึ้น หากราคาไม่ต่ำกว่าแนวรับ 22.50-21.50 บาท ซึ่งมีแนวต้านที่ระดับ 24-25.50 บาท ดังนั้นหากราคาไม่ต่ำกว่าระดับ 21.50 บาท ก็เข้าเก็งกำไรได้
ส่วนนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส เปิดเผยว่า สัญญาณเทคนิค TTA ยังถือว่าดูดีและมีโอกาสฟื้นตัว แนะซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว แนวรับ 22.50 บาท และแนวต้าน 25-26 บาท

***ASP มอง TTA มูลค่าพื้นฐานที่ 24.60 บาท ขณะที่ บล.บัวหลวง ให้เป้าหมาย 24บาท***
ก่อนหน้านี้บล.เอเซียพลัส (ASP)ประเมินว่า ผลประกอบการงวด Q2/54 ที่ขาดทุนต่อเนื่อง บวกกับธุรกิจหลักเดินเรือเทกองยังคงรับศึกหนัก เนื่องจากดัชนี BDI ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แม้ปัจจุบันจะมีการรีบาวน์ขึ้นมาแล้ว แต่ยังอยู่แค่เพียง 1.2 พันจุด ทำให้คาดธุรกิจเดินเรือเทกองจะยังคงประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง แม้ว่า TTA ได้ทำสัญญาไปแล้วกว่า 46% ของปริมาณขนส่งปี 2554 ขณะที่ธุรกิจของบริษัทที่มีปัญหามากสุดคือ เมอร์เมด แม้ว่าทาง TTA พยายามแก้ไขปัญหาโดยปรับเปลี่ยนทีมงานบริหารที่มีความเชี่ยวชาญด้านตลาดมากขึ้น พร้อมทั้งพยายามหาช่องทางขยายตลาดมากขึ้นจากเดิมที่เน้นโดยเฉพาะการให้บริการในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แต่ผลประกอบการของเมอร์เมดยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัวในขณะนี้ ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยต้องปรับลดประมาณการปี 2554 จากกำไรสุทธิ 809 ล้านบาท เป็นขาดทุนสุทธิ 57 ล้านบาท และปี 2555 จากกำไรสุทธิ 936 ล้านบาท เป็น 226 ล้านบาท
แม้ธุรกิจยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวในขณะนี้ แต่ราคาหุ้น TTA ได้ลงมาตอบรับข่าวดังกล่าว จนราคาปัจจุบันเทียบเท่า PBV เพียง 0.56 เท่า บวกกับมูลค่าพื้นฐานหุ้นใหม่ อิง PBV ที่ 0.7 เท่า อยู่ที่ 24.60 บาท จึงคงคำแนะนำ “ทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว” เพื่อรอการฟื้นตัวของธุรกิจในอนาคต
ขณะที่บล.บัวหลวง ประเมินว่า จากอัตรา BDI เฉลี่ยตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.จนถึงปัจจุบันลดลง 2% QoQ มาอยู่ที่ 1,332 เนื่องจากมีอุปทานใหม่ โดยเฉพาะจากเรือขนาด Capesize แต่อย่างไรก็ตาม อัตราค่าระวางเรือ Supramax และ Handysize ที่ TTA ดำเนินงานอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่า เนื่องจากสมดุลอุปสงค์-อุปทานดีกว่า โดยดัชนีของเรือ Supramax เฉลี่ยตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 จนถึงปัจจุบันปรับตัวขึ้น 3% QoQ มาอยู่ที่ 1,418 จุด ขณะที่ดัชนีของเรือ Handysize เพิ่มขึ้น 9% QoQ มาอยู่ที่ 791 จุด นอกจากนี้ ผลประกอบการของ Mermaid Maritme คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้น QoQ เนื่องจากโดยปกติแล้วเดือนเม.ย.-มิ.ย.เป็นช่วงไฮซีซันของบริการซ่อมบำรุงใต้ทะเล ดังนั้นคาดว่าผลประกอบการของ TTA จะฟื้นตัวขึ้น QoQ
อย่างไรก็ตามได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2554 ลงมาอยู่ที่ 186 ล้านบาท เพื่อสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนตัวในไตรมาส 2/54 นอกจากนี้ยังปรับลดราคาเป้าหมายปี 2554 ลงมาอยู่ที่ 24 บาท (จาก 26 บาท) คิดที่ PBV 0.5 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 0.75 SD) นอกจากนี้คาดว่าตลาดจะปรับลดประมาณการกำไรลงเช่นกัน ทั้งนี้มองว่ากำไรที่น่าผิดหวังของบริษัท เนื่องจากธุรกิจฟื้นตัวช้ามาก จะส่งผลให้ราคาหุ้น underperform แต่อย่างไรก็ตาม คาดการณ์กำไรอ่อนตัวได้สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว TTA มีมูลค่าถูกที่ PBV ปี 2554 ที่ 0.5 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.1 เท่าอยู่ 1 SD) ดังนั้นความเสี่ยงที่ราคาหุ้นจะปรับตัวลงไม่น่าจะมากนัก

***วิจิตร ยังนั่งประธานบอร์ดก.ล.ต.***
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบรายชื่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. (ข้อมูล ณ 13 พฤษภาคม 2554) นายวิจิตร สุพินิจ ประธานกรรมการ ก.ล.ต.
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรี วันที่ 3 พฤษภาคม 2554 มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นางสาวนวพร เรืองสกุล เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แทนนายวิจิตร สุพินิจ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป
ด้าน นายบี เป็นบุตรชายนายศดาวุธ เตชะอุบล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บล.คันทรี่ กรุ๊ป(CGS) อนึ่งเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2553 นายบี ถูกสำนักงาน ก.ล.ต.กล่าวโทษขณะดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือIEC ได้กระทำการเข้าข่ายผิดหน้าที่ของกรรมการบริษัทด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ หรือเบียดบังเอาทรัพย์สินของ IEC ไปเป็นของตนเองหรือบุคคลอื่น โดยดำเนินการให้ IEC ทำสัญญาขอใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์จากบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งน่าเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับนายบี เป็นเหตุให้ IEC ต้องชำระเงินให้แก่ บริษัทดังกล่าวรวม 60.5 ล้านบาท โดยที่ IEC ไม่ได้รับประโยชน์ ส่งผลให้นายบี ต้องลาออกจากตำแหน่งกรรมการทุกบริษัทในตลาดหลักทรัพย์
ขณะที่นายวีระ มานะคงตรีชีพ คืออดีตผู้บริหารสูงสุดบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ (บลง.) ซิทก้า จำกัด (มหาชน) ซึ่งเคยถูกกล่าวหาเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ซิทก้า กระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินบริษัท กระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ในปี 2546

***TTA เผยQ2/54 (สิ้นสุด 31 มี.ค.54) พลิกขาดทุนอยู่ที่ 115.43 ลบ. ***
ทั้งนี้ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการ ไตรมาส 2/2554 (สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2554)ขาดทุน115.43 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่กำไร 451.39 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการในงวด 6 เดือน มีกำไร 30.05 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 386.31ล้านบาท
ปัจจุบัน นอกจาก TTA จะเป็นผู้ประกอบการเดินเรือแล้ว ยังถือหุ้น 99.99% ในบริษัทอะธีน โฮลดิ้งส์ ซึ่งบริษัทดังกล่าวถือหุ้น 88.68% ในบมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส(UMS) ซึ่งประกอบธุรกิจเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหิน
ขณะที่ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) 25,553 ราย
การถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (% Free float) 99.59 % โดยมีมูลค่าหุ้นตามบัญชี 36.57 บาท/หุ้น
ขณะที่10 อันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ของTTA ประกอบด้วย
1. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้นจำนวน 27,723,629 หุ้น สัดส่วน 3.92 %
2. STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY ถือหุ้นจำนวน 18,066,882 หุ้น สัดส่วน 2.55 %
3. HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD ถือหุ้นจำนวน 11,375,368 หุ้น สัดส่วน 1.61 %
4. น.ท.อภิวัฒน์ ชาญชัยมงคล ถือห้นจำนวน 11,000,000 หุ้น สัดส่วน 1.55 %
5. STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY FOR LONDON ถือหุ้นจำนวน 8,126,400 หุ้น สัดส่วน 1.15 %
6. นายประทีป ตั้งมติธรรม ถือหุ้นจำนวน 7,593,400 หุ้น สัดส่วน 1.07 %
7. NORTRUST NOMINEES LIMITED-MELBOURNE BRANCH FUTURE FUND CLIEN ถือหุ้นจำนวน 7,031,771หุ้นสัดส่วน 0.99 %
8. นายณัฐ โอษธีศ ถือหุ้นจำนวน 5,200,000 หุ้น สัดส่วน0.73 %
9. บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ถือหุ้นจำนวน 4,907,000 หุ้น สัดส่วน 0.69 %
10. นางปรียา สุนทรธรรม ถือหุ้นจำนวน 4,700,000 หุ้น สัดส่วน 0.66 %

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น