Code 34 : ซื้อวันเดียว Cover 3 วันที่ลง

วันพุธที่ 31 มีนาคม 2553

สรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทย
ไทยรั๗ : เงาหุ้น - ร้อนแรงไม่แคร์ใคร!!

- ดัชนีหุ้นวันที่ 30 มี.ค. ปิดที่ 778.80 จุด บวก 17.40 จุด ทำนิวไฮในรอบ 22 เดือน ขณะที่มีมูลค่าการซื้อขาย 23,346 ล้านบาท ต่างชาติ ซื้อสุทธิ 1,296.87 ล้านบาท
- หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด นำโดย PTTAR ปิด 29.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท, PTT ปิด 255 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท, PTTEP ปิด 148 บาท บวก 4.50 บาท, SCB ปิด 93.75 บาท บวก 2.50 บาท และ TCAP ปิด 25.75 บาท บวก 1.65 บาท
- ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ระบุมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ นำโดยหุ้นพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นร่วม 3 เหรียญ เพราะเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง
- ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบไลต์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือน พ.ค. ปิดตลาดที่ 82.17 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.17 ดอลลาร์ หรือ 2.71%
- มองแนวโน้มตลาดระยะสั้นว่ายังมีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศยังสดใส ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ยังต้องจับตา Fund Flow กระแสเงินทุนต่างชาติและปัจจัยการเมืองภายในประเทศ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการแกว่งตัวของตลาด
- แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เก็งกำไร 50% ของพอร์ต ด้านเทคนิค ให้แนวต้านไว้ที่ 800 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 781 จุด
- ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ชี้ว่าตลาดคลายความกังวลกับปัญหาในยุโรป หลังกรีซได้รับความช่วยเหลือแล้ว และตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯออกมาดี และ Flow ยังคงไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเอเชียต่อเนื่อง
- ดังนั้นมองแนวโน้มตลาดจะยังคงแกว่งตัวในทางบวกมากกว่า โดยให้กรอบการแกว่งของดัชนีไว้ที่ 780-795 จุด ปิดท้าย โฟกัสหุ้นรายตัว บล.เคจีไอ ออกบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อหุ้น SCC ให้ราคาเป้าหมาย 274 บาท ระบุว่าบริษัทกระเบื้องหลังคาซีแพค (บริษัท ในเครือ SCC) คาดว่ายอดขายของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน เป็น 3 พัน ล้านบาท ในปี 53 หลังจากหดตัว 5% ในปีก่อน มองว่าข่าวนี้เป็นข่าวบวกต่อ SCC โดยเคจีไอคาดยอดขายของกลุ่มผลิตภัณฑ์ก่อสร้างจะโต 15% จากปีก่อน เป็น 3.1 หมื่นล้านบาท ในปี 53 แถมให้อีกตัว
-บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส คงคำแนะนำ ซื้อ CKให้ราคาพื้นฐานที่ 6.55 บาท!!
By...อินเด็กซ์ 51

สรุปภาพรวมตลาดหุ้น ตปท.
ข่าวต่างประเทศ .............หุ้นโลกพุ่งสูงสุดในรอบ 17เดือนครึ่ง ใกล้สู่ระดับหลังเลห์แมนฯล้มละลาย......DJบวก0.11% หุ้นแอปเปิลหนุน .......คลังสหรัฐวางแผนขายหุ้นซิตี้กรุ๊ปปีนี้........ ABC เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ...... สหรัฐเผยราคาบ้านเพิ่มเกินคาดในมค ............กองทุนนอกห่วงเงินไหลเข้าตลาดใหม่ในเอเซีย730ล้านเหรียญใน1สัปดาห์อาจเกิดภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ต่างๆได้ ............ ศก.อังกฤษเติบโตเร็วเกินคาดในไตรมาส4............ฟิทซ์ระบุความน่าเชื่อถือของกรีซยังคงมีแนวโน้มเชิงลบ- ความเชื่อมั่นศก.ในยูโรโซนลดลงเล็กน้อยในกพ .............: IMF ระบุพร้อมปล่อยกู้ให้รัฐบาลกรีซหากร้องขอ แต่จะไม่สิทธิพิเศษเหนือประเทศอื่นๆ ..........รมว.คลังญี่ปุ่นเผยอาจหารือประเด็นเงินหยวนกับจีนสุดสัปดาห์นี้ .......ที่ปรึกษาธนาคารกลางชี้จีนควรปรับค่าเงินหยวนก่อนกย ลดแรงกดดันสหรัฐ ..........กลุ่มผู้ผลิตเกาหลีใต้เชือ่มั่นแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส2.....ธนาคารกลางเกาหลีเล็งคุมเข้มนโยบายหวังลดผลกระทบมาตรการผ่อนคลาย ..........ญี่ปุ่นผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงในกพ แต่แนวโน้มแข็งแกร่ง ........ญี่ปุ่นวางแผนกำหนดเป้าหมายลดระดับหนี้สินหวั่นถูกลดเครดิต ........ราคาขายปลีกเบนซินในสหรัฐลดลงหลังเพิ่มขึ้น6สัปดาห์ ........การ์ต้าชี้ราคาน้ำมันเหมาะสม70-80เหรียญ ..........ที่ประชุม IEF เล็งออกแถลงการณ์ร่วมรักษาเสถียรภาพน้ำมัน ..... ธุรกิจสายการบินทั่วโลกกำลังจะออกจากภาวะถดถอย .....

เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวค่อนข้างผันผวน ก่อนที่จะสามารถไต่ระดับขึ้นมาปิดเป็นบวกเล็กน้อยได้ เนื่องจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้งนักลงทุนยังมีความคาดหวังเชิงบวกกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มี.ค. ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ด้วย อย่างไรก็ตามค่าเงินยูโรที่กลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้งส่งผลให้เงินดอลลาร์ดีดตัวกลับขึ้นมาเป็นปัจจัยกดดันให้ดาวโจนส์ขยับบวกขึ้นได้ไม่มากนัก ขณะที่ตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้ก็ยังคงเคลื่อนไหวคล้ายกับวานนี้คือมีทั้งบวกและลบแต่ไม่กว้างมากนัก

FSS: ยังลุ้น SET ขยับหา 800 จุดหรือสูงกว่าแต่แนะให้เน้นเป็นถือรอขายแล้ว
-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ขยับขึ้นมาค่อนข้างแรงและดีกว่าเพื่อนบ้านพอควร ทำให้ FSS คาดว่าเช้านี้เราอาจเห็นจังหวะแกว่งตัวผันผวนของตลาดหุ้นไทยได้บ้าง อย่างไรก็ตามเม็ดเงินของนักลงทุนต่างประเทศที่ยังคงมีเข้ามาอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้เรายังเชื่อว่า SET จะขยับขึ้นไปหา 800 จุดหรือสูงกว่าได้ในที่สุด ดังนั้นจึงยังแนะนำตามเข้าเทรดดิ้งได้ แต่หลังจากดัชนีขยับขึ้นไปสูงกว่า 800 จุดแล้วควรเริ่มชะลอการเข้าซื้อ และเตรียมหาจังหวะทยอยขายทำกำไรด้วย เพราะในช่วงเดือน เม.ย.จะมีหุ้นขึ้นเครื่องหมาย XD หลายตัว และมีวันหยุดทำการหลายวัน รวมทั้งสิ้นสุดการเข้าเก็งกำไรจากการคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 1/53 แล้วด้วย ส่วนประเด็นการเมืองในบ้านเราวันนี้คงต้องจับตาดูท่าทีของแกนนำกลุ่มเสื้อแดงว่าจะมีการตอบรับกำหนดการยุบสภาที่ทางรัฐบาลทำออกมาว่าจะยุบสภาในวันที่ 6 ธ.ค. และจัดเลือกตั้งใหม่วันที่ 23 ม.ค.54 ในลักษณะใด เพราะถ้ามีท่าทียอมรับการเจรจารอบ 3 ก็อาจเป็นปัจจัยบวกให้กับ SET อีกทางหนึ่งได้

ปัจจัยภาวะเศรษฐกิจ ตปท.
FSS : ดอลลาร์แข็งค่า ในระยะนี้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าเพราะ
1) ตลาดยังวิตกกับปัญหาของกรีซและฐานะการคลังของกลุ่มยูโร
2) ตลาดเริ่มมีการคาดการณ์ว่า Fed อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่า ECB และ BOJ 3X ตลาดคาดว่ารายงานการจ้างงานของ ADP คืนนี้จะออกมาดี โดยคาดว่าน่าจะมีการจ้างงานเพิ่ม 40,000 ตำแหน่งในเดือน มี.ค. เทียบกับเดือน ก.พ. ที่ลดลง 20,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มี.ค. ที่จะประกาศคืนวันศุกร์ น่าจะรายงานตัวเลขที่ดีขึ้นจากเดือน ก.พ. ที่ประสบภัยพายุหิมะ อย่างไรก็ตาม แม้ดอลลาร์จะแข็งค่า แต่ราคาน้ำมันปิดบวกเล็กน้อย 20 เซนต์เพราะตลาดมีความคาดหวังกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้นหลังจากเห็นตัวเลขราคาบ้านในสหรัฐฯ ในเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน

10 หุ้นข่าวเด่น ........
1. PTT RBS ปรับจาก 321 เป็น 337(Buy) คาดมาบตาพุด จบ พ.ค.หนุนรายได้ ความเสี่ยงลดลง+ปิโตรฟื้น 2H10 คาดตลาดจะปรับประมาณการในไม่ช้า...........
2..KBANK เผยปีนี้ลุยแผนจับมือพันธมิตรอาเซียนหวังเพิ่มยอดธุรกรรมสายสัมพันธ์ต่างชาติ - JPM แนะนำ Buy TP@126 คาด 1Q10 กำไร 4.3 พันล้านบาท +18%QoQ, +14%YoY............
3 .KTB DB ปรับ เป็น 15.2 คาดรายได้ค่าธรรมเรียมโต 25%, ฐานเงินทุนแกร่ง, NPLs ลด ถูกสุดในกลุ่ม ราคาขึ้นมาช้ากว่ากลุ่ม ...........
4.SCC ฝรั่งเริ่มทยอยปรับเป้าขึ้น ความกังวลธุรกิจปิโตรเคมีลดลง ขณะที่ซีเมนต์ฟื้นตัวขึ้นช่วยลดผลกระทบราคาปิโตรเคมีที่ลดลง, สาธารณูปโภคภาครัฐ - เป็นtop pick CITI target 269.......
5.CPALL CL แนะนำ Buy CPALL TP@35 คาดกำไรเติบโตลี่ย 23% ในช่วง 3 ปี จากการขยายสาขา+กำไรแกร่ง+ความกังวลจากเจียไต๋จบลง..........
6.CPF 3เดือนต่างชาติซือ้4% คาดไตรมาส1กำไร3พันล้าน รัสเซียถึงจุดคุ้มทุน ปรับประมาณการกำไรปี 10 ขึ้น18% คาดมาร์จิ้นขยับขึ้นมาอยู่ที่ 17.5%, ยอดขายโต 5% จากบริษัทลูกในต่างประเทศ - ดันผลตอบแทนผถห.โต20%- ย้ายจากกลุ่มเกษตรเข้ากลุ่มอาหารพรุ่งนี้ ......
7.CK เก็งรัฐเทงบก่อนยุบสภา -คลายกังวล ลูกหุ้นPP เข้าเทรดแล้ววานนี้ หุ้นละ5.34บาท - รอข่าวบวกเซ็นสัญญาเขื่อนไซยะบุรี .........
8.DTAC คาดกำไรQ1/53ออกมาสวย เพิ่ม66% - 2.4พันล้าน รายได้บีบี-ไอโฟนกระหึ่ม เป้าหมายเกิน38บาท........
9. DEMCO กลุ่ม ปตท.เล็งลงทุนธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทน จับตา DEMCO ตกเป็นเป้าถูกซื้อ ...หลังเซ็นรับงานก่อสร้าง "วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง" จากที่ก่อนหน้านี้ RATCH เซ็นสัญญาโครงการพลังงานทดแทนที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์เรียบร้อยแล้ว ......
10. HEMRAJ เทรินอราวนด์ ไตรมาส1กำไรเฉลี่ย400%คาดมีการฟื้นตัวของยอดขาย คาดปีนี้ขายได้1000ไร่ โดยขายไปแล้ว400ไร่ในไตรมาส1/53 และเริ่มกลับมาขายคอนโดมเนียม The Park ชิดลม หนุนผลประกอบการ ส่วน โครงการ GHCO - One จะหนุนผลประกอบการโต100%ในปี55 .....
หุ้นเด่น - ประเด็นข่าว

Comment Broker ...หุ้นมีข่าว
บล.ดอยช์แบงค์
........... 31/3/53 DB ปรับเป้าหมายน้ำมันปี 53 ขึ้น 8.5% จาก $65 เป็น $70 สะท้อนการฟื้นตัวเศรษฐกิจ คาดฟื้นตัวชัด 4Q10 เป็นต้นไป และดีตลอดปี11 .......
-DB ปรับ PTTEP จาก 170 เป็น 174(Buy).........
-DB ปรับ PTT จาก 288 เป็น 305(Buy).......
-DB ปรับ KBANK จาก 98 เป็น 124(Buy) คาดกำไร 1Q10 4.5 พัน ลบ. +17%YoY +22%QoQ.........
-DB ปรับ KTB เป็น 15.2 คาดรายได้ค่าธรรมเรียมโต 25%, ฐานเงินทุนแกร่ง, NPLs ลด ถูกสุดในกลุ่ม ราคาขึ้นมาช้ากว่ากลุ่ม - ไม่หวั่นคลังเล็งขายหุ้นโบรกเชื่อเดินเครื่องได้หลังปี56...........

นครหลวงไทย........ 31/3/53 ซื้อสะสม CPF / RCL / SCC / PTTAR ซื้อเก็งกำไร SCC / PS .........

บล.ไอร่า .............. 31/3/53 แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" DTAC เป้าหมาย 41.00 บาท .........

บล.โกลเบล็ก ........... 31/3/53 แนะนำ "ซื้อ" DTAC เป้าหมาย 42 บาท ..........

บล.ทรีนีตี้ .............. 31/3/53 . Bullish ยานยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง แนะนำซื้อ SAT, STANLY, SSI, KCE, IRPC, PTTAR, STA, HEMRAJ .........

บล.เคทีซิมิโก้ ........... 31/3/53 แนะนำซือ้ KBANK เป้าหมาย118บาท คาดไตรมาส1/53ปรับตัวดีขึ้นในหลายมิติ แนวโน้มกำไรเด่นสุดในไตรมาส1/53......

บล.บัวหลวง ........31/3/53 PTTAR แนะนำ ซื้อ เป้าหมายพื้นฐาน 34.00 บาทคิดว่าแนวโน้มกำไรที่ดีในไตรมาส 1/53 และการเปิดเผยแผนงานเกี่ยว กับการ ควบรวมกิจการภายในกลุ่มจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันราคาหุ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ นอกจากนี้เราเชื่อว่า PTTAR ซึ่งนับว่าเป็นบริษัทที่มีปริมาณการผลิตอะโรเมติกส์มากที่สุดในกลุ่มธุรกิจการกลั่นของไทยน่าจะยังสามารถรักษาแนวโน้มของราคาหุ้นไว้ได้ในปีนี้ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นไปได้เร็วกว่าที่คาด ......

บล.เกียรตินาคิน ............31/3/53 แนะนำซือ้ TCAP ราคาเหมาะสม30.50บาท การเข้าซือ้ SCIB ทำให้จำนวนสาขาเพิ่ม ต้นทุนทางการเงินลดลง ฐานสินเชือ่ใหญ่ขึ้น และธุรกิจในเครือแข็งแกร่งขึ้น ............

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ............31/3/53 KBANK แนะนำ 'ซื้อ' ราคาพื้นฐาน 110 บาทเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง จากการที่เศรษฐกิจไทยเติบโตสูงมากใน 4Q52 และมีโมเมนตัมดีต่อเนื่องถึงปี 53 ทาง KBANK จึงปรับเพิ่มประมาณการ GDP Growth ปีนี้ขึ้นเป็น 3.0-5.0% (เดิม 2.5-3.5%) และผู้บริหารเชื่อว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อปีนี้จะสูงกว่าเป้า หมายที่ตั้งไว้ที่ 7-9% ด้าน NPL Ratio จะลดลงต่ำกว่า 3.8% ซึ่งส่วนนี้สนับสนุนสมมติฐานอัตรา การเติบโตของสินเชื่อ KBANK ที่เราให้ไว้ 9.0% สำหรับปี 53 คุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่ง........

กลุ่มอุตสาหกรรม ...หุ้นมีข่าว
กลุ่มพลังงาน ..... ขึ้นพร้อมเพรียง รับ windowdressing..........
-PTTAR หุ้นสังกัดกองทุนไทย รอสตอรี่ควบรวม -ลุ้นQ1กำไร2.5พันล้าน รับค่ากลั่น-อะโรเมติกส์พุ่ง ...........
-TOP ML เคยปรับ TOP จาก 49 เป็น 58.5(Buy)........
-PTT RBS ปรับจาก 321 เป็น 337(Buy) คาดมาบตาพุด จบ พ.ค.หนุนรายได้ ความเสี่ยงลดลง+ปิโตรฟื้น 2H10 คาดตลาดจะปรับประมาณการในไม่ช้า.....
-PTTEP รับผลบวกราคาน้ำมันขยับขึ้น-เดินหน้าหาโอกาสขยายลงทุนอินโดฯ/คาด"เซไม ทู"เริ่มเจาะสำรวจปลายปี53 ........
-PTTCH กลับมาเป็นดาวเด่นหลังฝรั่งสารพัดค่ายปรับเป้าใหม่เป็น100up รับประโยชน์จากน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนเป็นก๊าซธรรมชาติ คาดกำไร +51% ในช่วง 3 ปี+คาดโรงแยกก๊าซ 6จะได้รับการแก้ไข ก.ย.10 แม้คาดปิโตรจะฟื้นจากต่ำสุดปี 10 แต่ระยะสั้นถูกกดันจากสเปรด HDPE .......
-BANPU RBS maintain buy target@ 830 - CS outperform target 694......

กลุ่มแบงค์ ........ KBANK เผยปีนี้ลุยแผนจับมือพันธมิตรอาเซียนหวังเพิ่มยอดธุรกรรมสายสัมพันธ์ต่างชาติ JPM แนะนำ Buy TP@126 คาด 1Q10 กำไร 4.3 พันล้านบาท +18%QoQ, +14%YoY.......
-SCB คาดกำไรไตรมาส1/53เติบโตมาก .......
-KK เด้งรับยืดเวลาอสังหาฯ จัดอีเวนท์แฮปปี้โฮมกู้95%.......
-KTB DB ปรับ เป็น 15.2 คาดรายได้ค่าธรรมเรียมโต 25%, ฐานเงินทุนแกร่ง, NPLs ลด ถูกสุดในกลุ่ม ราคาขึ้นมาช้ากว่ากลุ่ม - ไม่หวั่นคลังเล็งขายหุ้นโบรกเชื่อเดินเครื่องได้หลังปี56...........
-TCAP กองทุนฟื้นฟูการันตีดีลสคิป ศาลจำคุกผู้บริหาร`ธนชาต'ไม่สะดุด ........
-BBL สินเชื่อSME โตปีนี้ปล่อยกู้1หมื่นล้าน .......
-BAY สานต่อซือ้กิจการดันผลงานปี53โตเต็มสูบ ..........

กลุ่มสื่อสารไอซีที ......... DTAC คาดกำไรQ1/53ออกมาสวย เพิ่ม66% - 2.4พันล้าน รายได้บีบี-ไอโฟนกระหึ่ม เป้าหมายเกิน38บาท......
-ADVANC คาดสิ้นไตรมาส1/53มีลูกค้ามือถือ29ล้านรายเพิ่มจากสิ้นไตรมาส4/52 .....
-TRUE ตั้งงบลงทุน3-4พันล้าน พัฒนาระบบคุณภาพ2จี ขยายเครือข่าย3จี- ทรูมูฟ"การันตีปีนี้โตสูงสุด5% แรงบวก "นอนวอยซ์-โรมมิ่ง" สวนทางการเมืองป่วน .........
-INET อยู่ระหว่างการเจรจาผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ทดาต้าเซ็นเตอร์ในต่างแดนหวังต่อยอดธุรกิจในไทย ......
-SVOA ประกาศจ่ายปันผล ปี 52 หุ้นละ 0.048 บาท........

กลุ่มขนส่ง .....THAI คาดราคาเมทุนแตะ30บาท -กท.การคลังคงสัดส่วนการถือหุ้นรมว.คลังพร้อมเพิ่มทุน 1 หมื่นลบ.แต่แนะแก้เงื่อนไขผูกติดกับภาครัฐ 3 ปีต้องลดคชจลง20%รอประชุม28/4/53คาดกำไรพุ่งสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส1/53 พีอีต่ำเพียง5เท่า XD0.25 บาทวันนี้ ........
กลุ่มรับเหมา........ CK STEC เก็งรัฐเทงบก่อนยุบสภา ............
-CKคลายกังวล ลูกหุ้นPP เข้าเทรดแล้ววานนี้ หุ้นละ5.34บาท - รอข่าวบวกเซ็นสัญญาเขื่อนไซยะบุรี ...............
-SYNTEC มองกำไรปี53โดดเด่น เพิ่มคาดการณ์กำไร .....

กลุ่มเกษตร ......... GFPT มีปันผล2.50บาท รอแตกพาร์จาก10เหลือ1บาท ยอดขายไก่ญี่ปุ่น ยุโรปหนุน ขยายไลน์ไก่ปรุงรส หนุนกำลังผลิตพุ่ง40% .......
-CPF 3เดือนต่างชาติซือ้4% คาดไตรมาส1กำไร3พันล้าน รัสเซียถึงจุดคุ้มทุน ปรับประมาณการกำไรปี 10 ขึ้น18% คาดมาร์จิ้นขยับขึ้นมาอยู่ที่ 17.5%, ยอดขายโต 5% จากบริษัทลูกในต่างประเทศ - ดันผลตอบแทนผถห.โต20%- ย้ายจากกลุ่มเกษตรเข้ากลุ่มอาหารพรุ่งนี้ ......
-STA ไตรมาส1ผลงานพุ่ง15%ขานรับยานยนต์ผงาด .......
-KSL ราคาน้ำตาลดีดตัว KSL-W1เข้าเทรดวันนี้ ...........
กลุ่มอิเลคโทรนิกส์ .........KCE ส่งซิกปรับเป้ารายได้ หลัง Q2/53 ตุนออเดอร์ 70% ....
-HANA กำลังการผลิตพุ่งบาน 80% สินค้า PCBA ยังเป็นพระเอกหลัก แถมชิงลูกค้าจากทางคู่แข่งได้มากขึ้น ปันผลทั้งปียังสูงเกิน 6% ........

กลุ่มวัสดุ ......... SCC ฝรั่งเริ่มทยอยปรับเป้าขึ้น ความกังวลธุรกิจปิโตรเคมีลดลง ขณะที่ซีเมนต์ฟื้นตัวขึ้นช่วยลดผลกระทบราคาปิโตรเคมีที่ลดลง, สาธารณูปโภคภาครัฐ - เป็นtop pick CITI target 269 ....
SSI รับยอดขาย2เดือนเท่ากับครึ่งปีก่อน คาดไตรมาส1กำไร56% ราคเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น คาดกำไรปีนี้โต165%- DB ปรับเป้าขึ้นเป็น2บาท .........
-TSTH โรงงานถลุงเหล็กขนาดย่อมจะเปิดดำเนินการเมย53น่าจะทำให้ต้นทุนการผลิตของบริษัทลดลง และจากปริมาณการขายที่จะกลับมาเติบโต 21%YOY ..........
-VNG เคยมีข่าวรอการออกวอแรนท์แต่ปฏิเสธ - กำลังการผลิตเพิ่ม 1 แสนตันราคาขายขึ้น 10-15% คาดกำไรปีนี้โตก้าวกระโดด .............
-GSTEEL เล็งเพิ่มทุน8.8พันล้านหุ้น รองรับการแปลงหนี้ พันธมิตรใหม่ โดยราคาพาร์อยู่ที่ 1 บาทต่อหุ้น ให้แก่เจ้าหนี้ หนี้ลด 78% ถ้าเพิ่มทุนสำเร็จ ดีดลูกคิดพบหุ้น GSTEELไดลูต 39% .........
กลุ่มMAI ........ DEMCO กลุ่ม ปตท.เล็งลงทุนธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทน จับตา DEMCO ตกเป็นเป้าถูกซื้อ ...หลังเซ็นรับงานก่อสร้าง "วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง" จากที่ก่อนหน้านี้ RATCH เซ็นสัญญาโครงการพลังงานทดแทนที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์เรียบร้อยแล้ว ........ S2 เหล็กแผ่นรีดร้อน ยอดขายทุบสถิติ ........

กลุ่มพาณิชย์ ......... CPALL CL แนะนำ Buy CPALL TP@35 คาดกำไรเติบโตลี่ย 23% ในช่วง 3 ปี จากการขยายสาขา+กำไรแกร่ง+ความกังวลจากเจียไต๋จบลง...

กลุ่มอสังหา ........... SIRI ยอดโอนพุ่งกระฉูด - ประเด็นการเพิ่มทุนเลื่อนออกไปก่อน - เปิดตัวโครงการ26โครงการปีนี้ 3.6หมื่นล้าน ..........
-HEMRAJ เทรินอราวนด์ ไตรมาส1กำไรเฉลี่ย400%คาดมีการฟื้นตัวของยอดขาย คาดปีนี้ขายได้1000ไร่ โดยขายไปแล้ว400ไร่ในไตรมาส1/53 และเริ่มกลับมาขายคอนโดมเนียม The Park ชิดลม หนุนผลประกอบการ ส่วน โครงการ GHCO - One จะหนุนผลประกอบการโต100%ในปี55 .....

หุ้นน่าติดตาม
- KBANK:
FSS เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 118 บาท จากเดิม 109 บาท จากการปรับประมาณการ GDP ปี 2010 ขึ้นจากเดิม 3% - 4% เป็น 3% - 5% จากการส่งออกและอุปสงค์ในประเทศที่ขยายตัวดีขึ้น แต่ยังคงเป้าสินเชื่อปีนี้ที่ 7% - 9% นอกจากนี้ เรามีมุมมองบวกมากขึ้นต่อรายได้เบี้ยประกันภัยรับซึ่งเป็นผลจากการรวม MTGH เราคงประมาณการรายได้ค่าเบี้ยประกันภัยในปีนี้ แต่ปรับประมาณการการเติบโตรายได้ค่าเบี้ยประกันภัยรับเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 20% ในปี 2011 และอีก 15% ในปี 2012 ทำให้ EPS ปี 2011-2012 ปรับขึ้น 3% โดยมีอัตราเฉลี่ยการเติบโตของ EPS ในปี 2011-12 ที่ 20% ต่อปี

Technical View : FSS
“ดัชนีขยับมาแกว่งในกรอบ 788-793 จุดอยู่ ต้องผ่าน 793 จุดก่อนถึงจะเทรดดิ้งต่อขึ้นไปรอขายทำกำไรที่แนวต้านถัดๆ ไป แต่ถ้ายังไม่ผ่านขึ้น แนะนำให้รอเข้ารับที่ 785-780 จุด...ถ้าต่ำกว่านี้ชะลอการเข้า!!”
แนวรับ : 785-780*** , 760-750*
แนวต้าน : 792-793* , 800-810** , 820-840***

Golden Cross

Dead Cross

Code 33 : เจรจาครั้งที่ 2 ยังหาทางออกไม่ตรงกัน

วันอังคารที่ 30 มีนาคม 2553

สรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ : เงาหุ้น - แค่ขายทำกำไร!!

- ดัชนีหุ้นวันที่ 29 มี.ค.53 ปิดที่ 771.40 จุด ลดลง 7.46 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 19,859.03 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 329.30 ล้านบาท
- หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด นำโดย PTTAR ปิดที่ 28 บาท ลดลง 0.25 บาท, PTT ปิดที่ 247 บาท ลดลง 4 บาท, IVL ปิดที่ 17.40 บาท ลดลง 0.60 บาท, PTTEP ปิดที่ 143.50 บาท ลดลง 2.50 บาท และ CPF ปิดที่ 14.60 บาท ลดลง 0.20 บาท
- ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ชี้ว่าแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอตัวลง ถือเป็นแรงกดดันด้านจิตวิทยาต่อนักลงทุนในประเทศพอสมควร
- ขณะที่มองแนวโน้มตลาดในระยะสั้นคาดว่า จะเคลื่อนไหวผันผวน เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามากระตุ้นการลงทุน โดยขณะนี้มี 2 ปัจจัยหลักที่จะมีผลต่อบรรยากาศการลงทุน คือผลการเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรและมีข้อสรุปหรือไม่
- นอกจากนี้ ยังต้องจับตาการเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างชาติว่าจะพลิกกลับมาเป็นผู้ขาย หรือขายทำกำไรหรือไม่ แต่เบื้องต้นยังไม่มีการส่งสัญญาณว่าเงินทุนต่างชาติจะไหลออกจากตลาดหุ้นไทย แม้ตลาดหุ้นในเอเชียบางแห่ง เริ่มเห็นสัญญาณการไหลออกของเงินทุนบ้างแล้ว แต่ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปถึงเป้าหมาย 800 จุด แต่คงไม่ใช่ช่วงนี้ คาดว่าช่วงนี้ดัชนีอาจแกว่งตัวสลับขึ้นลงทั้งในแดนบวกและลบในช่วง 780 จุด
-แนะกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ ให้เก็งกำไรระยะสั้นได้ โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 764 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 788 จุด
- ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส มองแนวโน้มตลาดว่า ขึ้นอยู่กับการเจรจาของรัฐบาลกับคนเสื้อแดงว่าจะออกมาในแนวทางใด ซึ่งต้องติดตามเงื่อนไขต่างๆที่จะออกมา
- แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้ทยอยขายทำกำไร โดยให้ถือเงินสด 20-30% ของพอร์ต และให้ถือหุ้นที่มีอยู่ในมือไว้ก่อน ด้านเทคนิคประเมินแนวรับไว้ที่ 770-760 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 780-790 จุด
- ปิดท้าย "พิชิต อัคราทิตย์" กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี ระบุว่า เอ็มเอฟซียังคงเป้าดัชนีตลาดหุ้นไทยปลายปีนี้อยู่ที่ 830 จุด โดยประเมินจากปัจจัยพื้นฐานที่ P/E ที่ 10 เท่า กำไรสุทธิของบริษัทจด ทะเบียนไทยโต 15% และขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะปรับเป้าหมายดัชนี.
By...อินเด็กซ์ 51

FSS : เตรียมลุ้นจังหวะดีดตัวขึ้นของ SET แต่ควรแบ่งส่วนทยอยทำกำไรบ้าง..
- ปัจจัยการเมืองภายในประเทศกลับไปสู่จุดเดิม หลังการนัดเจรจารอบสองระหว่างตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงและรัฐบาลผ่านพ้นไปโดยไม่บรรลุข้อตกลง ซึ่งต้องจับตาดูว่าจะมีการนัดเจรจากันอีก หรือกลุ่มเสื้อแดงจะยกระดับการชุมนุมเพื่อกดดันรัฐบาลแทน อย่างไรก็ตามปัจจัยทางด้านต่างประเทศเช้านี้ถือว่าค่อนข้างสดใส เมื่อตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอีกครั้งจากการอ่อนตัวลงของค่าเงินดอลลาร์และตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังออกมาดีตามคาด แต่ยังมีแรงขายในหุ้นกลุ่มการเงินเนื่องจากกระทรวงการคลังสหรัฐประกาศแผนการที่จะขายหุ้น 7.7 พันล้านหุ้นที่มีอยู่ในซิตี้กรุ๊ปภายในปีนี้ ขณะที่ SET ปรับตัวลงต่อเนื่องกันมา 3 วันกว่า 2% แล้ว ทำให้ FSS คาดว่าเริ่มมีโอกาสลุ้นจังหวะดีดตัวกลับขึ้นของตลาดหุ้นได้ อย่างไรก็ตามการขยับขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกเช้านี้ถือว่ายังค่อนข้างแคบ และค่าเงินดอลลาร์ก็เริ่มทรงตัวหลังจากอ่อนค่าลงวานนี้ รวมทั้งประเด็นการเมืองในบ้านเราที่ยังต้องดูว่าจะมีการยกระดับความรุนแรงหรือไม่ จึงคาดว่าน่าจะทำให้ SET ยังมีลักษณะของการแกว่งตัวผันผวนต่อไปได้ ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้เน้นเป็นการเข้าเทรดดิ้งเล่นตามรอบต่อไปก่อน โดยจังหวะซื้อยังน่ารอเมื่อ SET อ่อนตัวลง และยังควรหาจังหวะทยอยขายทำกำไรบ้างเมื่อตลาดขยับขึ้น สำหรับหุ้นที่น่าสนใจหาจังหวะเข้ารับได้แก่ SCB, PTTEP, PTT, DTAC, QH, BCP, HANA, ITD, KCE, LH, MCOT, TTW, TVO, TASCO เป็นต้น

สรุปภาพรวมตลาดหุ้น ตปท.
FSS : ดัชนีดาวโจนส์ขยับขึ้นปิดเป็นบวก 45.50 จุด หลังค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดี โดยข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นตามคาดในเดือน ก.พ. นับเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน รวมถึงการคาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานใหม่ในเดือน มี.ค. จะฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้

ปัจจัยภาวะเศรษฐกิจ ตปท.
FSS : ค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนตัวลงต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และตลาดหุ้น เนื่องจากค่าเงินยูโรขยับแข็งค่าขึ้น จากข่าวที่ว่ากรีซประสบความสำเร็จในการขายพันธบัตร โดย Dollar Index ปรับตัวลดลงอีก 0.5%

10 หุ้นเด่น .... By...หุ้นมีข่าว
1. MAKRO
อินเทรนด์กลุ่มcommerce คาดจะเปิด 1 สาขาใหญ่และอีก 2 สาขาย่อยในปี 2553 ทำให้สาขาเพิ่มเป็น 47 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายต่อพื้นที่เดิมที่ 6.0%-7.0% ซึ่งอาจปรับเพิ่มได้อีก เนื่องจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง...........
2. HMPRO เล่นข่าว SCC เข้า Takeover รวมกับ Cementthai Homemart แต่ตอนนี้ราคาสุงกว่า BV@1.42 - ปีนี้คาดฟันกำไร1.4พันล้าน ............
3. GLOBAL พลิกขาดทุน130เป็นกำไร358ล้าน ปันผล0.13 บาทXD 27/4/53 จะเปิดสาขาใหม่อย่างน้อย 3 แห่งในปีนี้ เป็น11สาขา ฐานะการเงินยังมีแนวโน้มเข้มแข็ง กำไรโตปีละ26% .....
4. SSI รับประโยชน์เต็มที่จากหลายอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัว แนวโน้มกำไร1H53โดดเด่นทั้งจากยอดขายและมาร์จิ้นที่เพิ่ม- ยอดขาย2เดือนเท่ากับครึ่งปีก่อน คาดไตรมาส1กำไรกระฉูด56%- DB ปรับเป้าขึ้นเป็น2บาท .......
5. VNG เคยมีข่าวรอการออกวอแรนท์แต่ปฏิเสธ - กำลังการผลิตเพิ่ม 1 แสนตันราคาขายขึ้น 10-15% คาดกำไรปีนี้โตก้าวกระโดด .............
6.SPORT รับฟุตบอลโลก ไทยพรีเมียร์ลีค2010 คาดดันรายได้ปีนี้- ทุ่ม100ล้านทำทีวีดาวเทียมใหม่2ช่อง กำไรปีก่อนเพิ่มจาก 22เป็น35ล้าน . ......
7.THAI คมนาคมเสนอครม.วันนี้แผนจัดหาเครื่องบิน15ลำ -กท.การคลังคงสัดส่วนการถือหุ้น รมว.คลัง พร้อมเพิ่มทุน 1 หมื่นลบ. แต่แนะแก้เงื่อนไขผูกติดกับภาครัฐ 3 ปีต้องลดคชจลง20% -รอประชุม28/4/53คาดกำไรพุ่งสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส1/53 พีอีต่ำเพียง5เท่า เทียบอุตสาหกรรม18เท่า มองการเพิ่มทุนทำฐานะการเงินเกร่ง พรุ่งนี้ XD 0.25 บาท ........
8.SGP ได้รับประโยชน์จากการปรับราคาLPG.หลังหมดมาตรการตรึงราคาในสค นี้ - การขยายตลาดไปยังจีนเวียดนามจะช่วยให้รายได้และผลกำไรเติบโตในระยะยาว-ราคาหุ้นยังlaggardกลุ่มพลังงานอยู่มาก-PERต่ำ5.3เท่าและอัตราเงินปันผลสูง7.5%- แต่ระวังติด turn over list ......
9.PTTCH กลับมาเป็นดาวเด่นหลังฝรั่งสารพัดค่ายปรับเป้าหม่เป็น100up รับประโยชน์จากน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนเป็นก๊าซธรรมชาติ คาดกำไร +51% ในช่วง 3 ปี+คาดโรงแยกก๊าซ 6จะได้รับการแก้ไข ก.ย.10 แม้คาดปิโตรจะฟื้นจากต่ำสุดปี 10 แต่ระยะสั้นถูกกดันจากสเปรด HDPE .........
10.AEONTS รับผลบวกศก.ฟื้นตัว -ไทยเข้มแข็ง รากหญ้าแข็งแรง AEONTS แข็งแกร่ง - เด่นที่การควบคุมคุณภาพหนี้ .....

หุ้นเด่น - ประเด็นข่าว
`กรณ์' แปรรูปเงียบ! คลังลดถือหุ้นบินไทย ให้อิสระเหมือนปตท.`MCOT-KTB' รายต่อไป "กรณ์" ยื่นเงื่อนไขเพิ่มทุนการบินไทย ระบุชัดต้องไปปลดล็อคสัญญาเงินกู้ทุกฉบับ ที่กำหนดให้คลังต้องถือหุ้นในบริษัทไม่ต่ำกว่า 51% ก่อนใส่เงินก้อนใหม่ 1 หมื่นล้านบาท ย้ำอยากให้ THAI มีอิสระเหมือนกรณี "ปตท." เล็งปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น MCOT ด้วย พบไม่สนองนโยบายรัฐบาล พร้อมเล็งลดหุ้นใน KTB เพื่อให้แข่งขันกับแบงพาณิชย์ได้ ส่วนการรถไฟฯ ต้องแปรรูปแน่นอน ด้าน THAI ชงครม. ขอจัดหาเครื่องบินเพิ่ม 15 ระหว่างปี 53-57 วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-03-10)
แดงไม่รับ 9 เดือนยุบ ไม่มีนัดเจรจารอบ 3 "รัฐบาล-กลุ่มเสื้อแดง" เจรจากันล้มเหลว ต่างเห็นต่างในเงื่อนเวลาการยุบสภา ด้านรัฐบาลขอเวลา 9 เดือนส่วน นปช.ปฏิเสธรับข้อเสนอ บอกที่เสนอไปเหมาะสมแล้ว ด้าน "สมพล" ประธาน ตลท.ยังคาดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทย เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยแกร่ง แม้จะมีปัญหาการเมืองในประเทศ ด้านบลจ.เอ็มเอฟซี ยอมรับ หากมีการยุบสภาฯ หุ้นไทยอาจสะดุดบ้าง (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-03-10)
PTTCH วิ่งคึกคัก รับปิโตรเคมีสูง เป้าเกิน 100 บ. หุ้น PTTCH วิ่งคึกสวนทางตลาดติดลบ หลังนักลงทุนมั่นใจแนวโน้มตัวเลขกำไรไตรมาสแรกดีต่อเนื่อง หลังราคาปิโตรเคมียังสูง ผู้บริหารเชื่อไตรมาสแรก แจ่มไม่แพ้ Q4/52 (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-03-10)
ไอแบงก์ซื้อหุ้น NVL 49% เทนเดอร์ฯ มากกว่าบุ๊ค "นวลิสซิ่ง" (NVL)เตรียมเสนอขายหุ้นให้กับแบงก์อิสลาม(ไอแบงก์)จำนวน 25% ก่อนที่ไอแบงก์จะทำเทนเดอร์ฯ ที่ราคา sums up book value อีก 24% รวมเป็น 49% กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทันที คาดกระบวนการทั้งหมดแล้วเสร็จในเดือนเม.ย.นี้ ด้าน "ธีระศักดิ์" ยอมรับอยู่ระหว่างเจรจาซื้อหุ้นลิสซิ่งแห่งหนึ่ง ส่วนผู้บริหาร NVL กล่าวเช่นกันว่า จะมีพันธมิตรใหม่เข้ามาถือหุ้น อีกไม่เกิน 2 เดือนดีลจบ(ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-03-10)
สหวิริยาฯ มีดีเกิน 2 บาท รับ Q1 กำไรกระฉูด 56% SSI กำไรไตรมาส 1/53 โตก้าวกระโดดกว่า 56% อยู่ที่ประมาณ 1.5-1.8 พันล้านบาทเนื่องจากปริมาณการส่งมอบเหล็กที่เพิ่มขึ้น ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่สต็อกต้นทุนต่ำ ส่วนปี 53 คาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 165% ยอดการผลิต 2.7 แสนตัน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-03-10)
PTT ระดม 2 หมื่นล. ขยายฐาน 3 ธุรกิจ โรง 6 เปิดกลางปี ปตท.รอจังหวะออกเงินกู้อีก 2 หมื่นล้านบาท ภายในปีนี้ ขยายฐานธุรกิจน้ำมัน-ปิโตรเลียม-ถ่านหิน "ประเสริฐ" ย้ำสถาบันการเงินญี่ปุ่นมั่นใจ ปตท.แม้การเมืองป่วนและปัญหามาบตาพุดยังค้างคา ด้านบิ๊กการเงินย้ำโรงแยกก๊าซฯ 6 อาจปลดล็อกภายในกลางปีนี้ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-03-10)
ต่างชาติไล่เก็บ BEC สบายใจ ปัญหาสัมปทานจบ งบโฆษณาเข้าทะลัก ต่างชาติเตรียมเข้าเก็บ BEC "ฉัตรชัย" ชี้ปัญหาสัมปทานจบ ยิ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติ ลั่นไตรมาสแรกสุดหรู เม็ดเงินโฆษณาไหลเข้าแน่นเอี๊ยด แถมไฮซีซั่นมาเร็วเกินคาด ช่วยดันรายได้พุ่ง (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-03-10)
AP ยอดขาย Q1 พุ่ง 2.9 พันล้าน พร้อมมั่นใจรายได้โอนทะลัก "AP" ยอดขายไตรมาส 1/53 พุ่ง 2,900 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาส 1/52 หลังเปิด 2 โครงการใหม่แล้วลูกค้ามั่นใจซื้อบ้านเพิ่มขึ้น "วิษณุ" แย้มรายได้โอนไตรมาส 1/53 ทะลักสูงกว่าไตรมาส 1/52 และไตรมาส 4/52 เหตุลูกค้าแห่โอนจำนวนมาก ส่วนวันที่ 2-3 เม.ย.นี้ เตรียมจัดงาน Grand Opening เปิดตัวโครงการ RHYTHM รัชดา-ห้วยขวางมูลค่า 2,200 ล้านบาทอย่างเป็นทางการ ตั้งเป้ายอดขาย 80-90% ล่าสุดมียอดขาย 70% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-03-10)
`บัวหลวง' แชร์พุ่ง 9.24% 2 เดือน เอยูเอ็มรวมแตะ 1.67 แสนลบ. บลจ.บัวหลวงเผย 2 เดือน มาร์เก็ตแชร์ธุรกิจกองทุนรวมขยับจาก 8.86% มาอยู่ที่ 9.24% ด้าน AUM เพิ่มขึ้นจาก 163,488 ล้านบาท เป็น 167,124 ล้านบาท โดย AUM รวม 3 ธุรกิจที่ 210,822 ล้านบาท มั่นใจหลังปรับโครงสร้างองค์กรดึงธุรกิจจัดการกองทุนธนาคารกรุงเทพ (BBL)มา รวมไว้กับ บลจ.เพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งให้กับบริษัทได้รองรับการดำเนินธุรกิจเต็มรูปแบบ (ที่มา:นสพ.ข่าวหุ้น 30-03-10)
• สศค.ปั่นจีดีพีปีนี้โต 4.5% ฝรั่งมั่นใจขนเงินเข้าไทย สศค.เผยตัวเลขประมาณจีดีพีปีนี้ คาดโต 4.5% จากเดิม 3.5% ระบุต่างชาติมองเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5% ขนเงินเข้าตลาดหุ้น 2 สัปดาห์เดือนมีนาคม กว่า 1.2 พันล้านเหรียญ โดกว่า 6.7% สูงที่สุดในโลก เร่งรัฐบาลแก้ปัญหาการเมืองและมาบตาพุดกระทบเล็กน้อย ถ้ายืด 3 เดือนแค่ 0.2% ของจีดีพี (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-03-10)
"จีสตีล" เล็งเพิ่มทุน 8.8 พันล. หุ้นรองรับแปลงหนี้-พันธมิตรใหม่ จีสตีลเปิดแผนปรับหนี้ เล็งเพิ่มทุน 8.8 พันล้านหุ้น รองรับแปลงหนี้เป็นทุนให้เจ้าหนี้-พันธมิตรใหม่ มั่นใจไม่กระทบหุ้นในกระดาน เหตุมีเงื่อนไขเจ้าหนี้ห้ามขายหุ้นภายใน 30 เดือน หากราคาเกินหุ้นละ 1 บาท ให้สิทธิบริษัทซื้อกลับคืน แย้มเปิดกว้างพันธมิตรใหม่ รับมิตซุยเป็นหนึ่งในเป้าหมาย เร่งเดินสายเจรจาเจ้าหนี้ พร้อมลุยปรับโครงสร้างบริหาร-องค์กร คาดไตรมาส 3 ทุกอย่างลงตัว (ที่มา: นสพ.กรุงเทพธุรกิจ 30-03-10)
SGP ถึงเวลาโชว์ทีเด็ด จีน-เวียดนามหนุนรวย เอกซเรย์ SGP หุ้นสุขภาพดีพบเงินสดในมือ 1.6-1.7 พันล้านบาทต่อปีวาดฝันปันผลสูงลิ่ว นักวิเคราะห์เชียร์สุดฤทธิ์ เหตุราคาขยับขึ้นช้ากว่าอุตสาหกรรม พี/อี ต่ำ ชี้ขยายตลาดจีน-เวียดนามหนุนอนาคตขึ้นแท่นเศรษฐี ส่วนผลงานปีเสือรับทรัพย์นับไม่ถ้วนหลังดีมานด์พุ่งตามเศรษฐกิจผนึกกำลังรัฐจ่อขยับราคาขาย LPG หลังสิงหาคมนี้ แม่ทัพใหญ่ "ศุภชัย วีรบวรพงศ์" หมดห่วง Q2/2553 ไม่หดตามโลว์ซีซั่นมีลุ้นผลงานสูงกว่าไตรมาส 1/2553 ที่โต 15% ขานรับยอดขายจากเวียดนามสูงกว่า 1 พันตันต่อเดือน พร้อมเร่งเครื่องเร็วๆ นี้ แตะ 4 พันตัน (ที่มา: นสพ.ทันหุ้น30-03-10)
THAI เฮคลังเพิ่มทุนหมื่นล้าน กูรูเคาะเป้าหมายสำคัญ 30 บาท ขุนคลังการันตียันเพิ่มทุน THAI แน่ยันรักษาสิทธิ์การถือหุ้นใหญ่ 51% ผุดเงื่อนไขหลังมีสิทธิจองซื้อหุ้นก่อนเพื่อรักษาสัดส่วนกระทุ้ง THAI ต้องผ่อนปรนข้อผูกพันลดความยุ่งเกี่ยวทางคู่สัญญา เชื่อราคาหุ้นพุ่งสอดรับพื้นฐานเติบโต ด้านโบรก ส่องกล้องราคาเหมาะสมไม่รวมเพิ่มทุนที่ 30.00 บาท แนะกลยุทธ์เด็ดปล่อยของทำกำไรช่วงราคาเพิ่มทุนคลอด (ที่มา: นสพ.ทันหุ้น30-03-10)
GFPT ญี่ปุ่น-ยุโรปเสริมเขี้ยวทุ่ม 1.3 พันล้านสยายปีกธุรกิจ บิ๊ก GFPT ลั่นราคาหุ้นทะยานรับผลบวกปันผลปี 2552 แจ่ม 2.50 บาทต่อหุ้นพ่วงขอบอร์ดแตกพาร์จาก 10 บาทเหลือ 1 บาท เมษายนนี้หวังเพิ่มสภาพคล่องรุนแรงเก็งกำไรหนาแน่นขึ้น ขณะที่ยอดขายไก่ทะยานหลังได้มือดีญี่ปุ่น-ยุโรปหนุนหลังคาดดันสินค้ากระจายทั่วโลกลั่นปีนี้เตรียมงบ 1.3 พันล้านบาท ลุยขยายไลน์ไก่ปรุงรส หนุนกำลังการผลิตพุ่งอีก 40% แตะ 2.5 พันตัน ต่อเดือน รายได้พุ่งไม่ต่ำกว่า 10% (ที่มา: นสพ.ทันหุ้น30-03-10)
PTTCH หัวแข็งบวกสวนตลาด สเปรดเม็ดพลาสติก 1,300 ดอลล์ PTTCH ม้ามืด ยืนบวกสวนตลาดรวมร่วงหนัก ผู้บริหาร "วีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล" มองขานรับสเปรดเม็ดพลาสติกแตะ 1,300 ดอลลาร์ต่อตัน บวกนาฟทามียืน 800 ดอลลาร์ต่อตัน และเอทิลีน 1,100 ดอลลาร์ต่อตันหนุนธุรกิจไตรมาส 1/2553 รุ่ง โบรกประเมินไตรมาส 1/2553 โชว์กำไรสุทธิ 2,386 ล้านบาทจากขาดทุน 393 ล้านบาท งวดเดียวกันของปีก่อน เหตุบุ๊กกำไร FX กว่า 450 บาท (ที่มา: นสพ.ทันหุ้น30-03-10)
ลือ SCC ฮุบ HMPRO ดันหุ้นวิ่ง โบรกชี้ปีนี้ฟันกำไร 1.4 พันล้านบาท HMPRO แรงสวนดัชนีดิ่งพร้อมวอลุ่มคึกคักจากข่าวลือ SCC จ้องเทกโอเวอร์ เพื่อนำไปควบรวมกิจการกับ "ซีเมนต์ไทย โฮมมาร์ท" ด้านผู้บริหาร HMPRO "ณัฏฐ์ จริตชนะ" ระบุไม่ทราบข่าวลือดังกล่าวและราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นก็ไม่รู้มาจากเรื่องนี้หรือไม่ ขณะที่นางสุวรรณา พุทธประสาท กรรมการ HMPRO ยืนยันไม่มีการพูดคุยในบอร์ด ขณะที่นักวิเคราะห์แนะนำ "ซื้อ" เหตุหุ้นดีมีอนาคตคาดปีนี้มีกำไร 1.4 พันล้าน (ที่มา: นสพ.ทันหุ้น30-03-10)
STA ลั่น Q1 ผลงานพุ่ง 15% ขานรับยานยนต์ปี 53 ผงาด บิ๊ก STA "กิติชัย สินเจริญกุล" ลั่นราคาหุ้นพุ่งฉิว รับยานยนต์ปี 2553 ผงาด หนุนความต้องการยางธรรมชาติทะลักทั่วโลก แถมราคายางพุ่งกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัม คาดอานิสงส์เต็มหน้าตักดันไตรมาส 1/2553 รายได้พุ่งไม่ต่ำกว่า 10-15% จากปีก่อน ทั้งปีกวาดผลงานชุ่มฉ่ำ 15% จ่อทุ่มงบ 600 ล้านบาท ผุดโรงงานยางแท่ง ภาคอีสาน คาดหนุนกำลังการผลิตแตะ 8 แสนตัน (ที่มา: นสพ.ทันหุ้น30-03-10)
EASTW ตั้งเป้าปั๊มรายได้ 8% ปีนี้ขอเอี่ยวโครงการแก้มลิง "ประพันธ์ อัศวอารี" บิ๊กบอส EASTW วาดฝันปีนี้ปั๊มรายได้เติบโต 8% เทียบกับปีก่อนที่2.87 พันล้านบาท หลังมีความต้องการให้น้ำเพิ่มขึ้น พร้อมลั่นขอมีเอี่ยวพัฒนาโครงการแก้มลิง ชี้น้ำท่วมภัยแล้งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เตรียมทุ่มงบ 10 ล้านบาท ทำการสำรวจอย่างเร่งด่วน คาดได้เห็นโครงการในปีหน้า ส่วนแผนลงทุนปีนี้เดินหน้าปรับปรุงคุณภาพ ท่อเดินน้ำดิบและอุปกรณ์ต่างๆ ในงบ 100 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ทันหุ้น30-03-10)

Comment Broker
จาก E-Finance
***เซียนหุ้นพยากรณ์หุ้นไทยเดือน เม.ย.เฉา เหตุหยุดยาว แถมเงินทุนเริ่มไหลออก
- นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ รองผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในช่วงเดือนเมษายนนี้ โดยเบื้องต้นประเมินว่าจะมีปริมาณการซื้อขายจะเข้ามาเบาบาง เนื่องจากตลาดฯมีวันหยุดทำการที่มากกว่าเดือนอื่นๆ ประกอบกับต้องจับตาการไหลออกของเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่อาจจะเริ่มส่งสัญญาณการถอนเงินออก หลังจากตลาดหุ้นเอเชียบางแห่งเงินทุนต่างชาติได้ไหลออกไปบ้างแล้ว ทำให้ผู้เล่นในตลาดหุ้นจะมีเฉพาะนักลงทุนรายย่อยเท่านั้น สำหรับด้านปัจจัยการเมืองโดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ที่มีการเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาฯ ซึ่งปัจจุบันได้มีการเจรจากันเพื่อหาข้อยุติ ทั้งนี้ เชื่อว่าไม่น่าจะเกิดการยืดเยื้อการชุมนุมจนส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเดือนหน้า
- ขณะเดียวกัน ในช่วงเดือนเมษายนจะมีการประกาศผลประกอบการของบริษัทฯจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน ที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าจะเป็นไปตามคาดและไม่โดดเด่นเท่าใดนัก ซึ่งจะเป็นแรงสนับสนุนตลาดหุ้นได้ในส่วนหนึ่ง
- นอกจากนี้ ประเมินว่าด้านปัจจัยต่างประเทศช่วงนี้ ถือว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะกรณีประเทศกรีซ ที่ปัจจุบันกลุ่มประเทศ EU ได้มีมาตรการเพื่อช่วยเหลือประเทศดังกล่าวจากวิกฤติการเงินแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศต่างๆด้วย เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังมีความเปราะบางพอสมควร แม้ว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ประกอบกับ ต้องจับปัจจัยเศรษฐกิจจีน เพราะได้ออกมาตรการควบคุมสินเชื่อ โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาฯ ซึ่งจะส่งผลกดดันจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวจะเป็นผลดีในการควบคุมการฟื้นตัวเศรษฐกิจไม่ให้เกิดเร็วเกินไป
- กลยุทธ์การลงทุน แนะพิจารณาหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็ก ที่มีผลประกอบการไตรมาส 1 ที่โดดเด่น และหลีกเลี่ยงหุ้นขนาดใหญ่ที่อาจจะปรับตัวลดลง หลังจากเงินทุนต่างชาติอาจจะเริ่มไหลออก โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 750 จุด และประเมินแนวต้านไว้ที่ 840 จุด

*** บล.พัฒนสิน มองดัชนีฯ ต้องปรับฐานเพื่อขึ้นต่อ
- บทวิเคราะห์ บล.พัฒนสิน ระบุว่า ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนระยะเดือน และมองการอ่อนตัวของดัชนีฯ เป็นเพียงการปรับฐานเพื่อขึ้นต่อ แนะนำ Accumulate บริเวณ 764-770 จุด แนะนำกลุ่มแบงก์ใหญ่ กลุ่มพลังงานประเภท Downstream (โรงกลั่น) เกษตรและอาหารเนื่องจากเรายังคงมุมมองการแรลลี่รอบนี้ อาจไปสิ้นสุดที่สัปดาห์ที่ 7 พค.10 และจะปรับขึ้นไปถึงบริเวณ 809 จุดเป็นอย่างน้อย (Historical repeats itself) ขณะที่กรอบสูงสุด อาจขึ้นไปได้ถึงบริเวณ 870-890จุด
- สำหรับกลยุทธ์ลงทุน แนะนำ “ Hold / Selective Buy on weakness” (ความเสี่ยงขาลง จะเกิดขึ้นหากดัชนีฯหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ที่ 769 จุด และค่าเงินบาท/ดอลล์ อ่อนค่ากว่า 32.50 บาท และจะยืนยันสัญญาณต้องขายอีกครั้ง หากดัชนีฯหลุดระดับ 746 จุด)”เราคงคำแนะนำ Hold
1) พอร์ต High Beta 10% ของพอร์ตรวม ได้แก่ PTTCH BANPU BAY SCB PTT
2) พอร์ต High Earnings Play 5% ของพอร์ตรวม ได้แก่ KBANK TMB TISCO PTTEP PTTAR IRPC TTA AOT MINT QH KCE(ขึ้น XD 0.15บาท วันจันทร์ 29/3) TUF GFPT หุ้นแนะนำซื้อเพิ่ม KBANK GFPT CPF PTTAR IRPC
- ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรม/หลักทรัพย์ ที่แนะนำ
1. หุ้นกลุ่มเกษตรและอาหาร(Neutral) : คงคำนะนำ CPF (Neutral แต่ปรับราคาเป้าหมายสูงขึ้นเป็น 16.85 บาทจากเดิม 12.10บาท จากกำไรครึ่งปีแรกดีกว่าคาดการณ์) GPPT(BUY ราคาเป้าหมายปรับขึ้นเป็น 68.20 บาทจากเดิม 43.50บาทคาดกำไรเติบโตกว่า 10%ในปี 11-12F) / KSL(แนะนำ Reduce แนวโน้มกำไรปี 53 แย่กว่าคาดของเราและConsensus)
2. กลุ่มพลังงาน (Bullish) : แนะนำ Downstream เช่น PTTAR IRPC TOP และระยะยาว แนะนำ PTT PTTEP (Reuter Poll: ปรับเพิ่มราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบปี 53 สูงขึ้นเป็น $78.91/บาร์เรล จากเดิม $65.95/บาร์เรล จาก 32 นักวิเคราะห์
3. กลุ่มแบงก์ (Bullish) : CNS ปรับเพิ่มเป้าหมาย KBANK เป็น 120 บาทจากเดิม 95 บาท เนื่องจาก Earnings Upgrade และคงมุมมองเชิงบวกต่อแบงก์ใหญ่ BBL SCB เก็งกำไร KTB TISCO
4. กลุ่มสื่อสาร(Bullish) : TRUE ออกโปรโมชั่นใหม่ คาดส่งผลบวกจำกัด (Trading กรอบ 2.89-3.22 บาท)

***บล.คันทรี่ กรุ๊ป คาดเดือน เม.ย.ดัชนีฯแกว่งตัวกรอบแคบให้ต้าน 800 จุด
- กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ เลือกหุ้นเข้าเก็งกำไร โดยอิงหุ้นที่กลุ่มยานยนต์ อาหาร และเกษตร ซึ่งในกลุ่มยานยนต์แนะนำ CFRESH ขณะที่ SSI ค่อนข้างที่โดดเด่นในแง่ของผลประกอบการ ส่วนหุ้นในกลุ่มอสังหาฯ คือ SPALI และ LPN
- ประเมินแนวรับไว้ที่ 760 จุด แนวต้าน 800 จุด

จากหุ้นมีข่าว
-บล.เมอริลลินซ์ ............... 30/3/53 : ML เลือก SPALI,PS,QH เป็น Top Picks คาดรายได้ AP,QH โตแรงใน 1Q10 ส่วน SPALI,LPN รอ 4Q10 ....
- บล.ซีแอลเอสเอ ................ 30/3/53 CL คงคำแนะนำ Buy QH target3 บาท กำไร 10-11 +9% เลือกเป็น Top Picks เร่งขยายโครงการคอนโด และเจาะตลาดกลางมากขึ้น หนุนการเติบโต 17% ในช่วง 10-12/PE@9x ไม่เหมาะสมเมื่อเทียบกับการเติบโต.......
- บล.ดอยช์แบงค์ ........... 30/3/53 DB ปรับ IVL จาก 13.2 เป็น 17(Hold) ปรับกำไร 11-12 ขึ้น 12% สะท้อนมูลค่าเพิ่มจาก M&A ในอิตาลี...บล.ทิสโก้ ..........30/3/53 แนะนำซือ้ HEMRAJ เป้าหมาย1.40บาท คาดมีการฟื้นตัวของยอดขาย คาดปีนี้ขายได้1000ไร่ โดยขายไปแล้ว400ไร่ในไตรมาส1/53 และเริ่มกลับมาขายคอนโดมเนียม The Park ชิดลม หนุนผลประกอบการ ส่วน โครงการ GHCO - One จะหนุนผลประกอบการโต100%ในปี55......
- บล.เอเซียพลัส ..........30/3/53 KCE มีความโดดเด่น โดยเฉพาะในไตรมาส 1/53 รายได้จะสูงถึง 58 ล้านเหรียญสหรัฐ จากไตรมาส 4/52 ที่มีรายได้ 52 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้ว่าโดยปกติไตรมาสแรกของปีจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่บริษัทยังคงมีคำสั่งซื้อแผงวงจรอิเล็คโทรนิกส์(PCD)ต่อเนื่อง..........
- บล.กรุงศรีอยุธยา ........... 30/3/53 แนะนำซือ้ TISCO พื้นฐาน28บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส1/53โต41%YOY สินเชื่อไตรมาส1/53 ขยายตัวจากสินเชื่อเช่าซือ้รถยนต์ NIM มกล้เคียงไตรมาสก่อนที่5% .........

กลุ่มอุตสาหกรรม

หุ้นน่าติดตาม ... จากหุ้นมีข่าว
- PTTEP
รับผลบวกราคาน้ำมันขยับขึ้น ........
- PTTCH กลับมาเป็นดาวเด่นหลังฝรั่งสารพัดค่ายปรับเป้าใหม่เป็น100up รับประโยชน์จากน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนเป็นก๊าซธรรมชาติ คาดกำไร +51% ในช่วง 3 ปี+คาดโรงแยกก๊าซ 6จะได้รับการแก้ไข ก.ย.10 แม้คาดปิโตรจะฟื้นจากต่ำสุดปี 10 แต่ระยะสั้นถูกกดันจากสเปรด HDPE ...
-SGP ได้รับประโยชน์จากการปรับราคาLPG.หลังหมดมาตรการตรึงราคาในสค นี้ - การขยายตลาดไปยังจีนเวียดนามจะช่วยให้รายได้และผลกำไรเติบโตในระยะยาว-ราคาหุ้นยังlaggardกลุ่มพลังงานอยู่มาก-PERต่ำ5.3เท่าและอัตราเงินปันผลสูง7.5%- แต่ระวังติด turn over list ......
- KBANK เผยปีนี้ลุยแผนจับมือพันธมิตรอาเซียนหวังเพิ่มยอดธุรกรรมสายสัมพันธ์ต่างชาติ ........
- SCB คาดกำไรไตรมาส1/53เติบโตมาก .......
- KK เด้งรับยืดเวลาอสังหาฯ จัดอีเวนท์แฮปปี้โฮมกู้95%.......
- KTB DB ปรับ เป็น 15.2 คาดรายได้ค่าธรรมเรียมโต 25%, ฐานเงินทุนแกร่ง, NPLs ลด ถูกสุดในกลุ่ม ราคาขึ้นมาช้ากว่ากลุ่ม ...........
- TCAP กองทุนฟื้นฟูการันตีดีลสคิป ศาลจำคุกผู้บริหาร`ธนชาต'ไม่สะดุด ........
- NVL เตรียมขายหุ้น40% ให้ผู้ร่วมทุนใหม่เพื่อขยายกิจการ - IBANK เดินหน้าจะซือ้ราคาไม่เกิน1.40บาท เทนเดอร์ออฟเฟอร์จบมิยนี้ .........
- DTAC เจ๋งโบรกฯคาดกำไรQ1/53ออกมาสวยแนะซื้อ- วันนี้อาจมีความคืบหน้าประเด็น3จี ......
- ADVANC คาดสิ้นไตรมาส1/53มีลูกค้ามือถือ29ล้านรายเพิ่มจากสิ้นไตรมาส4/52 .....
- THAI คมนาคมเสนอครม.วันนี้แผนจัดหาเครื่องบิน15ลำ - กท.การคลังคงสัดส่วนการถือหุ้นรมว.คลังพร้อมเพิ่มทุน 1 หมื่นลบ.แต่แนะแก้เงื่อนไขผูกติดกับภาครัฐ 3 ปีต้องลดคชจลง20%รอประชุม28/4/53คาดกำไรพุ่งสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส1/53 พีอีต่ำเพียง5เท่าพรุ่งนี XD0.25 บาท ........
- SYNTEC มองกำไรปี53โดดเด่น เพิ่มคาดการณ์กำไร .....
- TRUE ตั้งงบลงทุน3-4พันล้าน พัฒนาระบบคุณภาพ2จี ขยายเครือข่าย3จี .........
- GFPT มีปันผล2.50บาท รอแตกพาร์จาก10เหลือ1บาท ยอดขายไก่ญี่ปุ่น ยุโรปหนุน ขยายไลน์ไก่ปรุงรส หนุนกำลังผลิตพุ่ง40% .......
- KCE ส่งซิกปรับเป้ารายได้ หลัง Q2/53 ตุนออเดอร์ 70% ....
- SSI รับประโยชน์เต็มที่จากหลายอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัว แนวโน้มกำไร1H53โดดเด่นทั้งจากยอดขายและมาร์จิ้นที่เพิ่ม- ยอดขาย2เดือนเท่ากับครึ่งปีก่อน คาดไตรมาส1กำไร56% ราคเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น คาดกำไรปีนี้โต165%- DB ปรับเป้าขึ้นเป็น2บาท .........
-TSTH โรงงานถลุงเหล็กขนาดย่อมจะเปิดดำเนินการเมย53น่าจะทำให้ต้นทุนการผลิตของบริษัทลดลง และจากปริมาณการขายที่จะกลับมาเติบโต 21%YOY ..........
- S2 เหล็กแผ่นรีดร้อน ยอดขายทุบสถิติ VNG เคยมีข่าวรอการออกวอแรนท์แต่ปฏิเสธ - กำลังการผลิตเพิ่ม 1 แสนตันราคาขายขึ้น 10-15% คาดกำไรปีนี้โตก้าวกระโดด .............
- GLOBAL พลิกขาดทุน130เป็นกำไร358ล้าน ปันผล0.13 บาทXD 27/4/53 จะเปิดสาขาใหม่อย่างน้อย 3 แห่งในปีนี้ เป็น11สาขา ฐานะการเงินยังมีแนวโน้มเข้มแข็ง กำไรโตปีละ26% ............
- GSTEEL เล็งเพิ่มทุน8.8พันล้านหุ้น รองรับการแปลงหนี้ พันธมิตรใหม่ - ได้แจ้งความคืบหน้าในการเจรจากับเจ้าหนี้ของบริษัทและบริษัทย่อย ทั้งนี้ บริษัทอาจเพิ่มทุนจดทะเบียนโดยการออกหุ้นใหม่ โดยราคาพาร์อยู่ที่ 1 บาทต่อหุ้น ให้แก่เจ้าหนี้ .........
- INET อยู่ระหว่างการเจรจาผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ทดาต้าเซ็นเตอร์ในต่างแดนหวังต่อยอดธุรกิจในไทย ......
- IVL JPM แนะนำ Sell TP@15 ราคาสะท้อนข่าวดีไปหมดแล้ว เต็มมูลค่า และยังไม่มีแผนสร้างความมั่นใจในการเติบโตระยะยาว มีความเสี่ยงด้านต้นทุนซึ่งมาจาก MEG และ PX.......
- TRUE คาด EBITDA ปี53ขยายตัวได้น้อยกว่าปีก่อนที่โต27% หลังคู่แข่งปรับตัวรักษาIC ........

Technical View : FSS
- “ตลาดลงไปทดสอบแนวรับแถว 769 จุดแล้วสามารถแกว่งทรงตัวได้ แต่ยังไม่เห็นแรงซื้อที่ชัดเจน ทำให้ยังเสี่ยงต่อการไหลลงต่อเนื่องไปหาแนวรับระดับถัดๆ ไปได้ ดังนั้นรอรับต่ำ หรือซื้อตามเมื่อวิ่งผ่าน 780”
แนวรับ : 769* , 762-757** , 753-747***
แนวต้าน : 776-780* , 788-793** , 796-800***


Golden Cross

Dead Cross

Code 32 : รัฐบาล-นปก. เจรจา-หาทางออก

วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม 2553

สรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทย
FSS: จังหวะตลาดลบยังเลือกหุ้นเข้ารับได้ เพื่อรอดีดขึ้นให้ขายทำกำไรต่อไป
-เนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศในเช้าวันนี้ไม่เอื้ออำนวยต่อการดีดขึ้นของตลาดหุ้นไทยเท่าไหร่ หลังวันศุกร์ดัชนีดาวโจนส์ยังย้อนลงมาปิดเป็นบวกเพียงเล็กน้อย และตลาดหุ้นยุโรปเป็นลบ ส่วนตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้ก็ยังเคลื่อนไหวเป็นบวก-เป็นลบเล็กน้อยสลับกันไป สำหรับในบ้านเราคาดว่านักลงทุนบางส่วนจะยังคงรอดูผลการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มเสื้อแดงในช่วงเย็นวันนี้ ว่าจะมีข้อสรุปของระยะเวลาทำงานของรัฐบาลก่อนถึงวันยุบสภาฯ เพื่อเลือกตั้งใหม่อย่างไรบ้าง และเป็นที่ยอมรับได้ของกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ก่อน ดังนั้น FSS จึงยังคาดว่า SET จะอยู่ในลักษณะแกว่งตัวผันผวนคล้ายกับในช่วงท้ายของสัปดาห์ก่อน และอาจจะยังเน้นหนักทางด้านปรับตัวลงต่ออยู่ อย่างไรก็ตามเรามองว่าหลังจากแกว่งพักตัวในช่วงนี้แล้ว SET ยังมีแนวโน้มที่จะดีดขึ้นได้อีกครั้ง และมีโอกาสได้เห็นดัชนีแถว 800 จุดได้ เราจึงยังแนะนำให้หาจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อเมื่อ SET อ่อนตัวลงในด้านลบ สำหรับหุ้นที่น่าสนใจหาจังหวะเข้ารับได้แก่ SCB, PTTEP, PTT, DTAC, QH, BCP, HANA, ITD, KCE, LH, MCOT, TTW, TVO, TASCO เป็นต้น

ปัจจัยภาวะเศรษฐกิจ ตปท.
-FSS: GDP ไตรมาส 4 ของสหรัฐฯ ขยายตัว 5.6% annualize ลดลงจากที่สำรวจครั้งก่อนที่ 5.9% ค่อนข้างสร้างความผิดหวังให้ตลาด ขณะเดียวกัน ความช่วยเหลือของกรีซที่มีความชัดเจนขึ้นว่าจะเป็นการให้เงินกู้ร่วมระหว่างกลุ่ม EU (2 ใน 3) และ IMF (1 ใน 3) และคิดดอกเบี้ยตามตลาดและบวก premium ค่าความเสี่ยง ไม่ได้คิดในอัตราของ Eurozone ซึ่งต่ำกว่าปกติ แม้ว่าข่าวดังกล่าวจะดูเหมือนเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ แต่อย่างน้อยก็ทำให้ตลาดคลายความวิตก เห็นได้จาก CDS spread ปรับลงทันที 14 basis point (bps) เหลือ 309 bps หลังจากที่ก่อนหน้านั้นได้ปรับลงมาแล้วระยะหนึ่ง และข่าวดังกล่าวทำให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าชั่วคราวเมื่อเทียบกับดอลลาร์

หุ้นมีข่าว-เบอร์นันเก้"ส่งสัญญาณหนุนขายตราสาร MBS ตามแผนถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ...
-ทำเนียบขาวเตรียมประกาศแผนปลดหนี้ที่อยู่อาศัยสำหรับคนตกงาน - จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงบ่งชี้ตลาดแรงานสหรัฐเริ่มฟื้นตัว ....
-ไอเอ็มเอฟขานรับดูไบอัดฉีดเงินร่วม1หมื่นล้านเหรียญ อุ้มดูไบเวิร์ด ....
-นายกกรีซขานรับอียูจับมือไอเอ็มเอฟดันข้อตกลงแก้วิกฤติหนี้สาธารณะ ....
-ดัชนีราคาผู้บริโภคญี่ปุ่นกพ ติดลบ1.2%บ่งชี้วิกฤติเงินฝืดยังไม่คลี่คลาย ....
-ตลาดญี่ปุ่นปิดทำนิวไฮรอบ18เดือน .....
-กำไรบ.กลุ่มอุตฯจีนพุ่ง 120% มาอยู่ที่ 486.7 พันล้านหยวน รับอานิสงส์การปล่อยสินเชื่อบูม...
-ที่ปรึกษาธนาคารกลางจีน ระบุการตัดสินใจเรื่องหยวนขึ้นกับปัจจัยภายในของจีน ...
-แบงค์ชาติจีนส่งสัญญานยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ ...
-ธนาคารออสซี่ชี้เอเซียอาจได้ประโยชน์จากการแข็งค่าของสกุลเงิน ...
-มาเลเซียเตรียมใช้นดยบาย Invest Malaysia ดึงการงทุนเข้าประเทศ .....
-โพลล์รอยเตอร์คาดราคาน้ำมันดิบสหรัฐมีราคาเฉลี่ย78.91เหรียญปีนี้ .....
-โพลล์รอยเตอร์คาดจีนปล่อยหยวนแข็งค่าในไตรมาส2/10.....

10 หุ้นข่าวเด่น .....หุ้นมีข่าว
1. PTTCH CITI ปรับจาก 59 เป็น 109 / RBS ปรับ จาก 85 เป็น 140 รับประโยชน์จากน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนเป็นก๊าซธรรมชาติ คาดกำไร +51% ในช่วง 3 ปี+คาดโรงแยกก๊าซ 6 จะได้รับการแก้ไข ก.ย.10 แม้คาดปิโตรจะฟื้นจากต่ำสุดปี 10 แต่ระยะสั้นถูกกดันจากสเปรด HDPE ที่ร่วลงจากอุปสงค์จากจีนที่ชะลอลง..........
2.CPF 3เดือนต่างชาติซือ้4% คาดไตรมาส1กำไร3พันล้าน รัสเซียถึงจุดคุ้มทุน ปรับประมาณการกำไรปี 10 ขึ้น18% คาดมาร์จิ้นขยับขึ้นมาอยู่ที่ 17.5%, ยอดขายโต 5% จากบริษัทลูกในต่างประเทศ - ดันผลตอบแทนผถห.โต20% ........
3.SSI รับประโยชน์เต็มที่จากหลายอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัว แนวโน้มกำไร1H53โดดเด่นทั้งจากยอดขายและมาร์จิ้นที่เพิ่ม ........
4.ROBINS รอถอยตั้งรับ สะท้อนภาพรวมยอดขายที่ดีขึ้น+ขยายสาขา+กำไรจากการชำระหนี้ ถูกสุดในกลุ่ม PE@9.7x...................
5 .GLOBAL พลิกขาดทุน130เป็นกำไร358ล้าน ปันผล0.13 บาทXD 27/4/53 จะเปิดสาขาใหม่อย่างน้อย 3 แห่งในปีนี้ เป็น11สาขา ฐานะการเงินยังมีแนวโน้มเข้มแข็ง กำไรโตปีละ26% .....
6.CNT มีจำนวนหุ้นหมุนเวียนประมาณ 36 ล้านหุ้น ที่เหลือ สำนักทรัพย์สิน,Indochina Bank และ BBL ถือ - รับงานของสนง.ทรัพย์สินหลายโครงการ ..........
7. SAMART สตอรี่เพียบ กำไรไตรมาส1พุ่ง300% ......
8.SGP ผู้ค้าLPGอันดับ2ของประเทศที่จะได้รับประโยชน์จากการปรับราคาLPG.หลังหมดมาตรการตรึงราคาในเดือนสิงหาคมนี้-การขยายตลาดไปยังจีนเวียดนามจะช่วยให้รายได้และผลกำไรเติบโตในระยะยาว-ราคาหุ้นยังlaggardกลุ่มพลังงานอยู่มาก-PERต่ำ5.3เท่าและอัตราเงินปันผลสูง7.5%......
9.LPN ขาย 2 โครงการมูลค่า 4.6 พันล้านบาทหมดเรียบ - คาดมาร์จิ้นขยบัขึ้นจากโครงการพระราม 4 .....
10. CPALL CL แนะนำ Buy CPALL TP@35 คาดกำไรเติบโตลี่ย 23% ในช่วง 3 ปี จากการขยายสาขา+กำไรแกร่ง+ความกังวลจากเจียไต๋จบลง...

หุ้นเด่น - ประเด็นข่าว : FSS
-เบรกล้างขาดทุน TMB เลื่อนเสนอหลัง 19 พ.ค.: คลังเลื่อนเสนอแผนล้างขาดทุนสะสมทหารไทยออกไปหลังวันที่ 19 พ.ค. 53 จากเดิม 23 เม.ย. ระบุติดเงื่อนไขโครงการ 14 สิงหาฯ เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติก่อนไม่ได้และต้องรอให้คลังแปลงหุ้นบุริมสิทธิ 22% เป็นหุ้นสามัญก่อน ส่วนแผนลดพาร์อยู่ระหว่าง 1-2 บาท ปันผลอาจเลื่อนไปเป็นปีหน้า (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 26-03-2010) ความเห็น ถือเป็นปัจจัยลบต่อราคาหุ้น ประเด็นล้างขาดทุนสะสมและจ่ายเงินปันผลอยู่ในความสนใจของตลาดมาโดยตลอด ตลาดเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวจะทำให้งบดุลของธนาคารดีขึ้นเทียบเท่ากับกลุ่ม อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าถึงแม้จะล้างขาดทุนสะสมและจ่ายเงินปันผลได้แต่คิดเป็นอัตราผลตอบแทนไม่มากนัก (เราคาดลดพาร์เหลือ 0.75 บาทจาก 10 บาท และจ่ายเงินปันผลราว 0.03-0.035 บาทต่อหุ้นในปี 2011) ทั้งนี้จากการติดขัดของเงื่อนไขของโครงการ 14 สิงหาฯ อาจจะทำให้การลดพาร์ต้องเลื่อนออกไปอย่างช้าเป็นปี 2011 ในเชิงพื้นฐาน คงคำแนะนำ ขาย ราคาเหมาะสม 1.15 บาท
CPF เนื้อกำลังหอม! 3 เดือนต่างชาติซื้อ 4% ขานรับ Q1 กำไร 3 พันล้าน "รัสเซีย" เริ่มถึงจุดคุ้มทุน CPF อนาคตแจ่ม 3 เดือน ต่างชาติแห่ซื้อหุ้นเพิ่ม 4% ล่าสุดสัดส่วนขึ้นมาเป็น 26% จากสิ้นปีอยู่แค่ 22% ด้านธุรกิจเติบโตทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะ"รัสเซีย" มีแนวโน้มถึงจุดคุ้มทุนก่อนกำหนดขณะที่ผลประกอบการ Q1 พุ่งกระฉูดเกือบ 3,000 ล้านบาท พร้อมรุกสร้างโรงงานเกี๊ยวกุ้งเพิ่ม 2 แห่ง หลังได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ 1 ในอเมริกา คาดอาหารปีนี้โต 15-20% ยอดขาย-กำไรโต 5-10% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 26-03-2010)
• หุ้นไทยฮอตสุดปีนี้ 900 เก็บเกษตร-ยานยนต์ ประธานตลาดหลักทรัพย์เชียร์ปีนี้ดัชนีมีสิทธิแตะ 820-900 จุด ต่างชาติยังซื้อสุทธิหนุนด้าน "อภิสิทธิ์" เปิดเจรจาเสื้อแดงลดดีกรีการเมือง โบรกแนะถือกลุ่มเกษตร อาหาร และยานยนต์ ตัวเด่น CPF GFPT KSL STANLY SAT KCE อนาคตดี ระยะสั้นแกว่งตัว แต่ระยะยาวกำไรงาม (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 26-03-2010)
• มติบอร์ด 'ตลท.' แต่งตั้งจรัมพรผู้จัดการคนใหม่ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติแต่งตั้ง "จรัมพร โชติกเสถียร" เป็นกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนที่ 11 เริ่มดำรงตำแหน่ง 1 มิถุนายน 2553 นี้ วาระ 4 ปี "สมพล" การันตีผู้จัดการใหม่มีความสามารถและประสบการณ์ในตลาดเงินและตลาดทุน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 26-03-2010)
FORTH ติดปีก! รายได้กระฉูด 30% ปีนี้ 1.3 หมื่นล้าน FORTH ตีปีกรายได้อื้อจากงานประมูล เป้ารวม โต 30% จบที่ 13,000 ล้านบาท หลังคว้าโครงการ MSAN ทีโอทีได้กว่า 2,000 ล้านบาท รอบอร์ดเซ็นอนุมัติกดปุ่มเดินหน้าได้ทันที พร้อมเดินหน้าประมูลอีกจากโครงการบรอดแบนด์เฉียด 7 พันล้านบาท ประธานโครงการเอ็มแซน เข้าแจงกรณีร้องเรียนกับบอร์ด ก่อนนำเสนออนุมัติวันที่ 5 เม.ย. (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 26-03-2010)
RCL รับหนี้ลด-พลิกกำไร RCL ออกหุ้นเพิ่มทุน 165 ล้านหุ้น ช่วยลด D/E ลงต่ำกว่า 1 เท่าฟากวงการเงินลั่นไดลูชั่นเอฟเฟ็กต์ลง 20% ไม่สะเทือน ชี้ให้มองที่ผลการดำเนินงานและโครงสร้างการเงินแข็งแกร่งขึ้น แถมค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ ยังฟื้นไม่เลิก ช่วยดันให้เห็นกำไรได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 26-03-2010)
CK ตั้งบริษัทลูกลาวเซ็นสัญญา 7 หมื่นล. ขายไฟฟ้าให้กฟผ. CK ตั้งบริษัทลูกรับสัมปทานผลิตไฟฟ้าในลาวพร้อมเซ็น MOU ขายไฟฟ้าให้กันฟกผ. ราคาเฉลี่ย 2,159 บาทต่อหน่วย คาดเซ็นงานก่อสร้างเขื่อนไชยะบุรี มูลค่า 7 หมื่นล้านบาทได้ต้นเดือนเม.ย.นี้ (ที่มา:นสพ.ข่าวหุ้น 26-03-2010)
TUF ไตรมาสแรกยอดขายโต 12% สร้างห้องเย็น 4 หมื่นตัน น่าซื้อเป้าหมาย 41 บาท TUF มั่นใจไตรมาส 1/53 เติบโต ดันปีนี้ยอดขายสกุลเงินดอลลาร์ตามเป้าโต 12% แนวโน้มกำไรโต 15-20% โดยล่าสุดซื้อที่ดินสร้างห้องเย็น ขนาด 4 หมื่นตันรองรับการผลิตในอนาคตพร้อมยันบริหารจัดการได้ดีแม้เงินบาทแข็ง ด้าน โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" เป้าหมาย ราคาเป้าหมาย 41 บาท มองธุรกิจเติบโต ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ปันผลสม่ำเสมอ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 26-03-2010)
TRT ลุ้นหม้อแปลงกฟผ. 2 พันล้านเคาะผลประมูลปลายไตรมาส 2 TRT จ่อเข้าประมูลงานหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มูลค่า 2,000 ล้านบาท รู้ผลปลาย Q2/53 รับรู้รายได้ปีหน้า ดันยอดขายปี'54 เติบโต 3,000 ล้านบาท พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 20-25% ส่วนไตรมาส 1/53 รายได้ 400 ล้านบาท จากแบ็กล็อก 900 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 26-03-2010)
BCP รับลงทุนเอทานอล สะดุด เงื่อนไขพันธมิตรไม่ลงตัว ค่าการกลั่นพุ่ง 6 เหรียญ BCP เผยแผนลงทุนเอทานอลไม่คืบหน้าเงื่อนไขพันธมิตรไม่ลงตัว "อนุสรณ์" แย้มผลประกอบการไตรมาส 1/53 ดีจากค่ากลั่นที่ปรับตัวสูงขึ้น เชื่อโดยเฉลี่ย 6 เหรียญต่อบาร์เรลล่าสุดคลอดซูเปอร์เพาเวอร์ D มาตรฐานยูโร ดันยอดขายเพิ่มขึ้น 8-10% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 26-03-2010)
NCH ไตรมาส 1 ยอดขายพุ่ง รายได้ปี 53 โต 1.2 พันล้าน "NCH" แย้ม Q1/53 ยอดขายสูงกว่า Q1/52 หลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวลูกค้ามั่นใจซื้อบ้านมากขึ้น ล่าสุดเปิดขายโครงการใหม่ "The Green Park จอมเทียน" ฉลุย ยอดขายกว่า 100 ล้านบาท ส่วนรายได้ปีนี้เติบโตแตะ 1.2 พันล้านบาท โชว์แบ็กล็อก 200-300 ล้านบาท ลั่นมาร์จิ้นไม่ต่ำกว่า 30% เล็งปรับขึ้นราคาขาย 5% หลังหมดภาษีอสังหาฯ เดือนพ.ค.นี้ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 26-03-2010)

Comment Broker
บล.ซิตี้กรุ๊ป ......29/3/53 CITI ปรับ PTTCH จาก 59 เป็น 109 ปรับจาก Sell เป็น Buy รับประโยชน์จากน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนเป็นก๊าซธรรมชาติ คาดกำไร +51% ในช่วง 3 ปี+คาดโรงแยกก๊าซ 6 จะได้รับการแก้ไข ก.ย.10 แม้คาดปิโตรจะฟื้นจากต่ำสุดปี 10 แต่ระยะสั้นถูกกดันจากสเปรด HDPE ที่ร่วลงจากอุปสงค์จากจีนที่ชะลอลง...... 26/3/53 CITIมอง down side ของ BDI ที่2500 จุด ยังไม่ควรเข้าซือ้กลุ่มเรือ .........
บล.อาร์บีเอส .........29/3/53 RBS ปรับ PTTCH จาก 85 เป็น 140(Buy) รับประโยชน์จากสเปรดปิโตรที่มีเสถียรภาพจากอุปสงค์จีน ขณะที่กำลังการผลิตใหม่เลื่อนออกไปหนุนราคา+กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 100% ใน 3Q10+คาดปัญหามาบตาพุดได้รับการแก้ไข 3Q10 คาดวอลุ่มปี 10/11 เติบโต 48%/26% คาดกำไรโต 102%/126% ปี 10/11........RBS ปรับ HMPRO จาก 5 เป็น 5.3 แต่ปรับจาก Buy เป็น Hold คาดเปิด 4 สาขาใหม่+จ่ายปันผลเพิ่มจาก 60% เป็น 70% DIY@4.5%,ปรับกำไร 10-11 +3% ปรับเป้าขึ้นแต่เกินมูลค่าแล้ว ชอบ BIGC มากกว่ารับประโยชน์จากการบริโภคตลาดระดับกลาง-ล่าง+PE@11.6x น่าสนใจ.....
บล.เครดิสวิส ............ 29/3/53 CS คาดตลาดปรับตัวลงในระยะสั้นจนถึงเดือนหน้า ปัจจัยบวกระยะสั้นต่อ SET ชะลอลง การเมืองกดดันมากขึ้น, ความน่าสนใจด้าน Valuations ลดลง และแบ็งค์จะไม่มีปัจจัยบวกจนกว่า 21 เม.ย. ระวัง BBL จาก NIM ที่จะหดตัวใน 1H10........
บล.เจพีมอร์แกน .........29/3/53 . JPM แนะนำ Buy BANPU TP@713 ราคาถ่านหิน 1Q10 ขึ้นมาอยู่ที่ $95/ton +29%YoY, +24%QoQ สูงกว่าสมมุติฐานปี 10 ที่คาดไว้ที่ $80/ton คาดว่าทุก $1/ton ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลบวกต่อ EPS ประมาณ 2.1% ราคาหุ้นล่าช้ากว่าตลาด แต่การเข้าซื้อกิจการใหม่จะหนุนราคาปรับขึ้น..
บล.ซีแอลเอสเอ .......29/3/53 CL แนะนำ Buy CPALL TP@35 คาดกำไรเติบโตลี่ย 23% ในช่วง 3 ปี จากการขยายสาขา+กำไรแกร่ง+ความกังวลจากเจียไต๋จบลง..บล.ธนชาต ........... 29/3/53 แนะนำ "ซื้อ" LPN แม้ว่าเราจะปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ลงเพื่อสะท้อนอัตรากำไรที่ต่ำกว่าคาด LPN มี backlog รองรับยอดขายที่แน่นอนแล้วราว 75% ของยอดขายในปี 2010Eและให้ dividend yield ที่สูงที่สุดเกือบ 8% ในปี 2010E นอกจากนี้ LPN ยังมีมูลค่าถูกที่สุดในกลุ่มที่ 6.2 เท่าในปี 2010E อีก....
บล.เอเซียพลัส .......... 29/3/53 แนะนำซือ้ RCL fair value 14.10บาท ประกาศเพิ่มทุน4ต่อ1 ผลประกอบการฟื้นตัวเกินคาดหักล้าง diluation effect การเพิ่มทุน .....แนะนำซือ้ SSI fair value 2.04บาท รับประโยชน์เต็มที่จากหลายอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัว แนวโน้มกำไร1H63โดดเด่นทั้งจากยอดขายและมาร์จิ้นที่เพิ่ม ........
บล.กสิกรไทย ........... 29/3/53 มองว่า ดัชนีหุ้นไทยน่าจะแกว่งตัวผันผวน จากแรงขายทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุนบางส่วนหลังจากที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ดัชนียังมีโอกาสขยับขึ้นได้แต่จะอยู่ในกรอบที่จำกัด ปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตา ได้แก่ การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และตัวเลขเงินเฟ้อของกระทรวงพาณิชย์ รวมไปถึงประเด็นทางการเมือง ส่วนปัจจัยในต่างประเทศที่สำคัญ คงจะต้องติดตาม ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ การปรับตัวของตลาดหุ้นภูมิภาค ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ........
บล.ฟินันเซียไซรัส ......... 29/3/53 แนวโน้มสัปดาห์นี้ คาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์อาจมีการแกว่งตัวในกรอบ และอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาระยะสั้น ติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท โดยประเมินกรอบแนวรับที่ 775 จุด แนวต้านที่ 788 จุด กลยุทธ์แนะนำนักลงทุนเก็งกำไร ขึ้นขาย-ลงซื้อ......

กลุ่มอุตสาหกรรม
กลุ่มพลังงาน-ปิโตร
......
-PTTCH CITI ปรับจาก 59 เป็น 109 / RBS ปรับ จาก 85 เป็น 140 รับประโยชน์จากน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนเป็นก๊าซธรรมชาติ คาดกำไร +51% ในช่วง 3 ปี+คาดโรงแยกก๊าซ 6 จะได้รับการแก้ไข ก.ย.10 แม้คาดปิโตรจะฟื้นจากต่ำสุดปี 10 แต่ระยะสั้นถูกกดันจากสเปรด HDPE ที่ร่วลงจากอุปสงค์จากจีนที่ชะลอลง........
-SGP ผู้ค้าLPGอันดับ2ของประเทศที่จะได้รับประโยชน์จากการปรับราคาLPG.หลังหมดมาตรการตรึงราคาในเดือนสิงหาคมนี้-การขยายตลาดไปยังจีนเวียดนามจะช่วยให้รายได้และผลกำไรเติบโตในระยะยาว-ราคาหุ้นยังlaggardกลุ่มพลังงานอยู่มาก-PERต่ำ5.3เท่าและอัตราเงินปันผลสูง7.5%...... I
-VL ซื้อบริษัทPETอิตาลี พื้นฐานหุ้นขยับขึ้น25บ............
-BCP คาดผลงาน Q1/53 ดีกว่าที่คาดการณ์ หลังค่าการกลั่นทรงตัวในระดับสูง แถมมีกำไรจากสต็อคน้ำมัน - รับลงทุนเอทานอลสะดุดเงื่อนไขพัธมิตรไม่ลงตัว ....
-GLOW บ.ย่อยเล็งลงทุนดรงไฟฟ้าในลาว โครงการเซเปียน ห้วยซอย .........
-TTW ร้อนจัดดันยอดใช้น้ำโต กำไรขึ้นแท่น1.8พันล้าน .........

Fund Survey ............ หุ้นมีข่าว
- ปรับลดพอร์ตระยะสั้นจาก 100% ลงสู่ 50% และถ้ายืน 769 ไม่ได้ลดน้ำหนักเหลือ 0%/T-Buy SSI, PTTCH, KTB......
- ในเอเชีย +1.4 พันล้านเหรียญสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนไทยชะลอตามหลังจากซื้อสุทธิ 24 วัน 4.7 หมื่นล้านบาท/เช้านี้จีน +2% หนุนการลงทุนเอเชีย น้ำมัน +0.6%/SET ปรับขึ้นมาจนส่งผลให้หุ้น SET50 เหลือ Upside ลดลง ขณะที่การเมืองดูยืดเยื้อ+เพิ่มความกังวลมากขึ้น ปรับลดพอร์ตระยะสั้นจาก 100% ลงสู่ 50% และถ้ายืน 769 ไม่ได้ลดน้ำหนักเหลือ 0%/T-Buy .......
- เราพบว่า "ข้อมุลใหม่" ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว อาจส่งผลให้ต่างชาติมีมุมมองลบต่อตลาดไทยมากขึ้น สรุปไปในทางยืดเยื้อ และส่อเค้าวุ่นวาย ดังนั้นจึงเห็น CS ลดมุมมองเชิงบวกต่อไทยลงหลังจากที่ดูดีมากช่วงก่อน - การเมืองไม่จบเร็วเหมือนที่ฝรั่งคาด แถมยังมีพัฒนาไปในทางลบมากขึ้น แม้แจรจาแต่ไม่จบและไม่พบคำตอบที่สองฝ่ายต้องการ ฉะนั้นการ Road Show ของเสื้อแดงจะเพิ่มกระบวนท่าใหม่ๆมากขึ้น....
- HMPRO เล่นข่าว SCC เข้า Takeover รวมกับ Cementthai Homemart แต่ตอนนี้ราคาสุงกว่า BV@1.42 แล้ว แนะนำขายทำกำไร.......

Technical View : FSS
-“ดัชนีขยับขึ้นชนแนวต้าน 788 จุดแล้วยังไม่สามารถผ่านขึ้น แต่กลับย้อนลงมาปิดต่ำกว่า 780 จุดแทน ดังนั้นต้นสัปดาห์นี้ยังต้องระวังจังหวะแกว่งตัวลงต่อหาแนวรับถัดๆ ไปก่อนลุ้นจังหวะรีบาวด์...”
แนวรับ : 774* , 769-762** , 757-753***
แนวต้าน : 782-784* , 788-793** , 796-800***


Golden Cross

Dead Cross

Code 31 : ทิศทางหุ้น 29/3/53

วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2553

สรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทย


ภาวะการซื้อขายหุ้น
-สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 778.86 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.55% จาก 774.59 จุด ในสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์เพิ่มขึ้น 18.06% จาก 135,799.06 ล้านบาท ในสัปดาห์ ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 160,326.61 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 213.20 จุด ขยับลดลง 0.47% จาก 214.20 จุดในสัปดาห์ก่อนหน้า และ 0.98% จากสิ้นปีก่อน
-แนวโน้มสัปดาห์นี้ (29 มี.ค.-2 เม.ย.53) บริษัทหลักทรัพย์กสิกร-ไทยและบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่าดัชนีหุ้นไทยน่าจะแกว่งตัวผันผวน จากแรงขายทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุนบางส่วน หลังจากที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ดัชนี ยังมีโอกาสขยับขึ้นได้แต่ในกรอบแคบๆ
-โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตา ได้แก่ การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนของ ธปท.ในวันพุธ และตัวเลขเงินเฟ้อของกระทรวงพาณิชย์ในวันพฤหัสบดี รวมไปถึงประเด็นทางการเมือง ส่วนปัจจัยในต่างประเทศที่สำคัญ คงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ การปรับตัวของตลาดหุ้นภูมิภาค ตลอดจนการรายงาน ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ อาทิ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มี.ค. คาดว่าดัชนีจะมีแนวรับที่ 776 และ 767 จุด แนวต้านอยู่ที่ 790 และ 824 จุด ตามลำดับ

ภาวะตลาดเงินและตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
-อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นทรงตัวต่อเนื่อง โดยธนาคารพาณิชย์ปิดสำรองสภาพคล่องรายปักษ์ในวันอังคาร รวมถึงเตรียมสภาพคล่องเพื่อรองรับการเบิกถอนเงินสดของลูกค้าในช่วงสิ้นเดือน ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ประเภทกู้ยืมข้ามคืน (Overnight) หนาแน่นทั้งสัปดาห์ที่ 1.15% เงินบาทในประเทศ (Onshore) ปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ อยู่ที่ระดับ 32.40 (ตลาดเอเชีย) เทียบ กับระดับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.53 เงินเยนอ่อน ค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ ปรับตัวอยู่ที่ระดับ 92.51 (ตลาดยุโรป) เทียบกับระดับ 90.53 เยนต่อดอลลาร์ฯ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.53 เงินยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนก่อนฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ปรับตัวอยู่ที่ระดับ 1.3531 ดอลลาร์ฯ ต่อยูโร เมื่อวันที่ 19 มี.ค.53.

กลยุทธ์ลงทุนรายสัปดาห์
วันที่ 29 มี.ค. 2 เม.ย. พ.ศ. 2553

-ทยอยขายหุ้นรายตัว
หลังซื้อหุ้นไทยกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท ในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา แม้คาดยังมี Fund Flow แต่อาจเริ่มแผ่วเบา ในลักษณะเดียวกันกับตลาดหุ้น ๆ ในเอเซีย ทำให้ดัชนีมีความผันผวนสูง โดยน่าจะมีกรอบการเคลื่อนไหว 770-
800 จุด แนะนำให้ทยอยขายหุ้นรายบริษัทที่ราคาสูงกว่า Fair Value พร้อมปรับเลือกถือหุ้นป้องกันเงินเฟ้อ สัปดาห์นี้แนะนำ: SSI และ SCC
-การเมืองอาจจะไม่จบง่าย และกดดันเสถียรภาพของรัฐบาล
-Fund Flow ยังหนุน SET เข้าต่อ แต่จะมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นเช่นกัน
-ประเด็นการวิเคราะห์
• สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ SET จะยังคงปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงสัญญาณการย่อตัว หลังจากที่ดัชนีขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 21 เดือนที่ 793.14 จุด ดัชนีก็ปรับตัวลดลง 3 วันต่อเนื่องจนลงมาที่บริเวณ 782-784 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ปรับเพิ่มขึ้นจากจากสัปดาห์ก่อนที่ 2.72 หมื่นล้านต่อวัน มาเป็น 3.27 หมื่นล้านบาทต่อวัน
• ภาพการย่อตัวที่เกิดขึ้น ค่อนข้างสอดคล้องกับแนวทางที่ได้วางไว้ใน บทวิเคราะห์รายไตรมาส Invest +2Q53 และฝ่ายวิจัยได้นำภาพ SET ที่วาดแนวเส้น Eliot Wave มาลงไว้ในบทวิเคราะห์เทคนิครายวันเมื่อ 24 มี.ค.2553 โดยได้กล่าวไว้ว่า SET ในระยะสั้นน่าจะขึ้นมาตันที่ 790 จุด เพื่อมาก่อเป็นคลื่น 3 ย่อย ก่อนที่จะย่อลงมาที่ 770-780 จุด เพื่อก่อคลื่น 4 ย่อย หลังจากนั้นจะมีการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง เพื่อไปทดสอบที่ระดับ 800 จุด (โดยนักลงทุนสามารถอ่านรายละเอียดได้ในบทวิเคราะห์ Invest+ ฉบับ 2Q53 ซึ่งจะมีแนวทางของทิศทางระยะสั้น กลาง ยาว ภายใน 2Q53)
• จากแนวทางเดิมที่ฝ่ายวิจัยได้วางไว้ มาตั้งแต่ต้นไม่ว่าจะเป็นในบทวิเคราะห์ Technical View จนมาถึงแนวทางระยะยาวในInvest+ ฉบับ 2Q53 ก็พอจะทำให้สรุปได้ว่า SET ย่อตัวเพื่อเตรียมที่ขึ้นต่ออีกครั้ง ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะมีการไปเยี่ยมเยือน 800 จุด
สรุป
• 800 จุดเป็นคำตอบสำหรับสัปดาห์นี้

Code 30 : ต่างชาติซื้อน้อยลง

วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม 2553

สรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ : เงาหุ้น - เชียร์ซื้อหุ้นพลังงาน!!
-ดัชนีหุ้นวันที่ 26 มี.ค.53 ปิดที่ 778.86 จุด ลดลง 5.52 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 21,474.91 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,007.20 ล้านบาท
-หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด IVL ปิดที่ 18 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท, CPF ปิดที่ 14.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท, PTTAR ปิดที่ 28.25 บาท ลดลง 1.25 บาท, TCAP ปิดที่ 24.50 บาท ลดลง 1 บาท และ BANPU ปิดที่ 602 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท
-ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองแนวโน้มตลาดสัปดาห์หน้าประเมินว่าอาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา หลังดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ช่วงต้นสัปดาห์ดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวในแดนลบ ส่วนประเด็นการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ยังเป็นปัจจัยที่ต้องจับตา เพราะหากมีเหตุรุนแรงจะกดดันบรรยากาศการลงทุน แต่หากการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ก็ยังอาจมีแรงขายระยะสั้นออกมาจากค่าเงินดอลลาร์ สหรัฐฯที่แข็งค่า
-ปัจจัยที่ต้องจับตาคือ สถานการณ์ทางการเมืองว่ามีเหตุรุนแรงหรือไม่ รวมทั้งเม็ดเงินลงทุนของต่างชาติหลังซื้อต่อเนื่องมาระดับหนึ่งแล้ว จึงอาจมีแรงขายทำกำไรออกมา
-กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ยังเก็งกำไรระยะสั้นได้ โดยฉวยจังหวะขายทำกำไรออกมาเมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นและรอซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวลง ด้านเทคนิค ให้แนวรับที่ 775 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 788 จุด
-ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง มองตลาดหุ้นสัปดาห์หน้า คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ขณะที่ต้องติดตามการประชุมของกลุ่ม EU ว่าจะมีแผนที่ เป็นรูปธรรมหรือไม่ในการช่วยเหลือแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ โดยคาดว่าน่าจะออกมาในเชิงบวก ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง และเป็นปัจจัยให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น
-แนะกลยุทธ์การลงทุน หากรับความเสี่ยงได้สูงให้ทยอยซื้อหุ้นพลังงานในช่วงที่ราคาอ่อนตัวลง เพราะเชื่อว่าทิศทางของค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่า ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงราคาน้ำมันปรับขึ้นในสัปดาห์หน้า-ด้านเทคนิค ประเมินแนวรับไว้ที่ 775 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 785 จุด.
By...อินเด็กซ์ 51

Code 29 : กองทุนขาย

วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ-การเมือง
ไทยรัฐ : เงาหุ้น - หุ้น KTB!!
-ดัชนีหุ้นวันที่ 25 มี.ค.53 ปิดที่ 784.38 จุด ลดลง 2.16 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 26,746.63 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,202 ล้านบาท
-หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด นำโดย IVL ปิดที่ 17.60 บาท ลดลง 0.30 บาท, PTTEP ปิดที่ 147.50 บาท ลดลง 2.50 บาท, PTTAR ปิดที่ 29.05 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, PTT ปิดที่ 254 บาท ลดลง 2 บาท และ SCB ปิดที่ 94 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
-ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ชี้ว่ามีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ในหุ้นกลุ่มแบงก์ ช่วยพยุงตลาดไม่ให้ปรับตัวลงมากนัก หลังซิตี้กรุ๊ปได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าสนใจลงทุนหุ้นกลุ่มแบงก์ของไทย แม้ช่วงที่ผ่านมาหุ้นแบงก์ได้ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วมองแนวโน้มตลาดระยะสั้น คาดว่าดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและแดนลบสลับกัน โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุน ต่างชาติ โดยให้สังเกตจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท หากเริ่มอ่อนค่าลง ก็ต้องระมัดระวังการลงทุน เพราะอาจเป็นสัญญาณการขายหุ้นของต่างชาติ
-แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เทรดดิ้ง ซื้อขายเก็งกำไรระยะสั้น ด้านเทคนิค ประเมินกรอบแนวรับของดัชนีไว้ที่ 775 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 788 จุด
-ปิดท้าย มีบทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง แนะ "ซื้อ" หุ้น KTB โดยให้ ราคาพื้นฐานที่ 13.60 บาท โดยมีประเด็นสำคัญคือ การที่ KTB มุ่งเป้าเพิ่มการขยายตัวของสินเชื่อที่หนุนการเติบโตโดยภาครัฐวิสาหกิจ ซึ่งส่วนใหญ่ เกี่ยวข้องกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในโครงการสาธารณูปโภคและโครงการไทยเข้มแข็ง
-ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศดีขึ้นนอกจากนี้ ธนาคารยังมีแนวโน้มเชิงบวกจากการเพิ่มขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (เมื่ออัตราดอกเบี้ยในประเทศปรับเพิ่มขึ้น) รวมถึงการปรับตัวดีขึ้นของอัตราส่วนต้นทุนต่อรายรับ ซึ่งสอดคล้องไปกับยอดสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นและรายรับค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น
-ทั้งนี้ ได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 53 ขึ้นสู่ระดับ 13.60 บาท จาก 10.50 บาท เพื่อสะท้อนการขยายตัวของการเติบโตของสินเชื่อที่ คาดว่าจะปรับเพิ่มจาก 5% เป็น 11% นับว่าแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับ ธนาคารขนาดใหญ่!!
By...อินเด็กซ์ 51

FSS: จังหวะตลาดลบยังเลือกหุ้นเข้ารับได้ เพื่อรอดีดขึ้นให้ขายทำกำไรต่อไป
-เมื่อวานนี้ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง หลังค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงจากความวิตกต่อปัญหาหนี้สินของประเทศในยุโรป ถือเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ รวมถึงตลาดหุ้นด้วย ขณะที่การประมูลพันธบัตรของสหรัฐที่ไม่ดีนักส่งผลให้แนวโน้มอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐมีสิทธิที่จะสูงขึ้น เป็นแรงกดดันให้ดัชนีดาวโจนส์ย้อนกลับลงมาปิดเป็นบวกเพียง 5 จุดเศษ จากก่อนหน้าที่วิ่งขึ้นอีกกว่า 100 จุดในระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ส่วนตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้เปิดทำการกันด้วยการบวก/ลบ เพียงเล็กน้อย ทำให้ FSS ยังแนะนำให้เข้าเทรดดิ้งในตลาดหุ้นไทยด้วยความระมัดระวังต่อไป โดยมองหาจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อเมื่อ SET อ่อนตัวลงโดยเฉพาะในด้านลบเป็นหลัก และควรแบ่งส่วนขายทำกำไรตามรอบด้วยเมื่อดัชนีขยับขึ้นในด้านบวก อย่างไรก็ตามเรายังคาดว่า SET มีโอกาสแกว่งตัวขึ้นไปยืนเหนือ 800 จุดได้ในช่วงถัดไป สำหรับหุ้นที่น่าสนใจเข้ารับได้แก่ หุ้นขนาดใหญ่ที่ยัง laggard ได้แก่ SCB, PTTEP, PTTส่วนหุ้นขนาดกลางที่ laggard ได้แก่ QH, BCP, HANA, ITD, KCE, LH, MCOT, TTW, TVO เป็นต้น

ประเด็นสำคัญวันนี้
- Dow Jones ปิดตลาดบวกเพียง 5 จุดลดช่วงบวกลงจากในช่วงระหว่างวันบวกไปถึง 100 จุดหลังจากที่ Bernanke แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งสภา Congress เมื่อคืนนี้ว่า Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ย Fed fund rate ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% ต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งและรับมือกับอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง ตลาดที่ลดแรงบวกเพราะความกังวลเกี่ยวกับการจัดการปัญหาหนี้ของกรีซทำให้ค่าเงินยูโรร่วง ประกอบกับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรของสหรัฐฯ ที่ประมูลในช่วง 3 วันที่ผ่านมาสูงขึ้นจนเริ่มน่าสนใจ
-CPF: เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 16.50 บาทจาก 13.50 บาท เพื่อสะท้อนผลประกอบการที่ดีขึ้นจากเดิม เนื่องจากบริษัทซื้อวัตถุดิบล็อคราคาไว้ยาวขึ้นจากเดิมที่เพียงพอใช้ถึงเดือน มิ.ย. เป็นเดือน ต.ค. ขณะที่ภาวะแล้งกลับเป็นผลดีต่อราคาสัตว์บกของบริษัทเพราะปริมาณสัตว์บกน่าจะลดลงเพราะขาดน้ำและอากาศร้อน ช่วยหนุนให้ราคาขายยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงและอาจปรับเพิ่มได้ในบางช่วง แนะนำซื้อ

Investor Station : ชอบยานยนต์ เลือก STANLY-SAT โบรกให้น้ำหนักลงทุนมากกว่าตลาด
-หุ้นกลุ่มยานยนต์พุ่งกระฉูด แซงทุกโค้ง โบรกเกอร์แนะลงทุนมากกว่าตลาด ปล่อยทีเด็ด STANLY ราคาเป้าหมาย 167.00 บาท และ SAT ด้วยเป้าหมาย 17.65 บาท ชี้อุตสาหกรรมฟื้นตัวโดดเด่น ยอดผลิตรถ ก.พ. โตจากปีก่อนถึง 109% สูงเป็นประวัติการณ์ คาดทั้งปียอดผลิตทะลุ 1.2 ล้านคัน โต 20%
-TKT ฟุ้งรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่าตลาดรถยนต์ที่คาดโต 40% ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ ไม่หวั่นการเมือง เชื่อไม่กระทบ คาดอัตรากำไรขั้นต้น 53 อยู่ที่ 18% โต จาก 16 - 17% ปีก่อน หลังควบคุมต้นทุนเยี่ยม
-ชวนสะสม ชี้ AOT เซฟงบ 2 หมื่นล. หลังเลื่อนเสกเทอร์มินอลเซฟ&รันเวย์ 3
นักวิเคราะห์ชวนทยอยสะสมหุ้น AOT มูลค่าเหมาะสมที่ 43.00 บาทแม้นโยบายช่วยเหลือสายการบิน-ผู้ประกอบการอาจฉุดรายได้วูบลง 453 ล้านบาท ประเมินรายได้ค่าธรรมเนียมจอดปี 52 ที่ระดับ 3.36 พันล้านบาท และรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่ 5,451 ล้านบาท ส่วนกรณีที่ “ท่าอากาศยานไทย” เลื่อนก่อสร้าง Domestic Terminal และ Runway ที่ 3 คาดเซฟเงินได้กว่า 2 หมื่นล้านบาทในช่วง 3 ปีข้างหน้า
-BLA เป็นหุ้นมึนๆ ดี แกว่งไปแกว่งมาน่าฉงน สังเกตจากกราฟจะเห็นได้ว่า นับตั้งแต่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 27.00 บาท เมื่อ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากนั้นราคาหุ้นก็เป็นไปในลักษณะแดงหลายๆ วันติดกันแล้วก็พลิกกลับมาเขียวสัก 1 - 2 วัน ทำเอานักลงทุนมึนกันรายวันเลยแต่แม้ว่าราคาหุ้นค่อนข้างจะแกว่งตัวสับสนขึ้นลงไม่บอกกล่าวแต่พออุ่นใจได้ในระดับ กับหุ้นตัวนี้ตรงที่มีสภาพคล่องอยู่ในขั้นพอใช้ได้ยิ่งช่วงหลังๆ มูลค่าการซื้อขายเข้าหลักร้อยล้านเกือบทุกวันนักวิเคราะห์บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่าสัญญาณทางเทคนิคยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ มีแนวต้านที่ 25.50 บาทแนวรับที่ 24.00 บาท กลยุทธ์การลงทุน รอซื้อเมื่อราคาผ่านแนวต้านวานนี้ราคาหุ้นปิดที่ 24.60 ล้านบาท บวก 0.20 บาท หรือ0.82% มูลค่าการซื้อขาย 224.41 ล้านบาท
-KBANK ทะยานแตะ 100 บาท สูงสุดในรอบ 14 ปี หลังแววเด่นสินเชื่อในเดือนก.พ.ขยายตัว 1.6% คาดทั้งปีกำไรแตะ 1.8 หมื่นลบ. ฟาก บล.บัวหลวง ปรับเป้าหมายปีนี้เป็น 100 บาท ส่วนบล.ฟิลลิป ให้เป้า 101.20 บาท แต่เทคนิคไม่เป็นใจระยะสั้น แนะระวังแรงขายทำกำไร

10 หุ้นข่าวเด่น ........ หุ้นมีข่าว
1.KTB คาดไตรมาสแรกกำไรเพิ่ม 10%-ความเสี่ยงการเมืองที่ลดลง, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นรวมกับการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม แต่หนี้คุณภาพไม่ดี ลงตั้งรับ -RBS-CITI-JPM ให้เป้า 14/13.5/15บาท ...
2.KBANK ROE สูง 14% มองอีก 2-3 ปี เพิ่มเป็น 16-17% ราคาหุ้นเทรด 1.7-1.8 เท่าของบุ๊ก ต่ำกว่าอดีตที่เทรด 1.9 เท่า ...
3.BBL คาดกำไร +89% ช่วงปี 09-12 กำไรที่เพิ่มขึ้นจะกลับมาในรูปปันผลที่มากขึ้น ......
4.SCC ฝรั่งเริ่มทยอยปรับเป้าขึ้นล่าสุด CLSA - RBS -UBS -MS - BNPP ให้เป้าหมาย 300-279-262.5-270-280 บาท - MACQ ให้เป้าหมายใหม่335บาท ความกังวลธุรกิจปิโตรเคมีลดลง ขณะที่ซีเมนต์ฟื้นตัวขึ้นช่วยลดผลกระทบราคาปิโตรเคมีที่ลดลง, สาธารณูปโภคภาครัฐ- คาดไตรมาส1กำไร6พันล้าน ......
5.CK เตรียมเซ็น MOU กับ กฟผ.ซื้อขายไฟฟ้าเขื่อนไซยะบุรี มี.ค.-เม.ย. นี้- CL ให้เป้าหมายที่ 6.58 สายสัมพันธ์ที่ดีกับ ปชป.ลุ้นประมูลสายสีน้ำเงิน เม.ย.+โปรเจ็คลาว - ตั้งบ.ย่อย รับสัมปทานผลิตกระแสไฟฟ้าจากสปป.ลาว .........
6.CPF DB ปรับ จาก 14.2 เป็น 18.7(Buy) ปรับกำไรปี 10 +18% คาดมาร์จิ้นขยับขึ้นมาอยู่ที่ 17.5%, ยอดขายโต 5% จากบริษัทลูกในต่างประเทศ........
7.TKT หุ้นกลุ่มยานยนต์ รับข่าวบวก ยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.พ. สูงสุดรอบ 20 เดือน-สอยออเดอร์อีโคคาร์ Q2 ปีนี้ ........
8.ROBINS JPM ปรับจาก 12 เป็น 15(Buy) สะท้อนภาพรวมยอดขายที่ดีขึ้น+ขยายสาขา+กำไรจากการชำระหนี้ ถูกสุดในกลุ่ม PE@9.7x...........
9.TTCL งานใหม่ปีนี้เฉียด2หมื่นล้าน - backlog มีมูลค่า 9.9 พันล้านบาท เทียบกับ 5.9 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2552 ล่าสุดบริษัทได้รับหนังสือแสดงเจตจำนง หรือ Letter ofIntent : LOI สำหรับโรงงานเอทานอล 2 แห่งในเวียดนาม ด้วยมูลค่ารวม 4 พันล้านบาท..........
10.MAJOR คาดรายได้ปีนี้โต10-15% เล็งขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหา-เล็งเพิ่มสัดส่วนบ.ร่วมทุนอินเดีย-เล็งขายสินทรัพย์1พันล้านเข้ากองทุรนอสังหา-จ่อเพิ่มราคาตั๋วหนัง 3-5% ...

Comment Broker
-บล.ซิตี้กรุ๊ป .........CITIมอง down side ของ BDI ที่2500 จุด ยังไม่ควรเข้าซือ้กลุ่มเรือ .........
-บล.ดอยช์แบงค์ ........DB แนะนำ Buy MINT TP@14 กระทบระยะสั้นจากปัจจัยการเมือง.....
-บล.ยูบีเอส ......... UBS คาด SET จะปรับขึ้นสู่ระดับ 850-900 ในช่วง 12 เดือน เลือก PTT, SCC, PTTCH, KTB, TISCO, GLOW, LPN เป็น Top Picks
-นครหลวงไทย ........... แนะนำขาย KSL มูลค่าเหมาะสม8.40บาท ผลผลิตน้ำตาลปี53จะลดลง20%YOY - เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นโรงงานน้ำตาลที่กัมพูชาจาก50% เป็น70% - ผลขาดทุนจากการลงทุนตราสารอนุพันธ์ไม่ได้เกิดจากการเก็งกำไรที่ผิดพลาด บันทึกผลขาดทุน 237ล้านงวดไตรมาส1/53(พย-มค53)และอีก630ล้านในไตรมาส2(กพ-เมย53) ........ แนะนำซือ้เก็งกำไร CPF มูลค่าเหมาะสม17บาท คาดยังได้รับอานิสงค์จากราคาเนื้อสัตว์ที่ทรงตัวระดับสูงและการสต๊อคอาหารสัตว์ต้นทุนต่ำ คาดไตรมาส1/53โต36.8%YOY .............
-บล.เอเซียพลัส .......แนะนำซือ้ RCL fair value 14.10บาท ประกาศเพิ่มทุน4ต่อ1 ผลประกอบการฟื้นตัวเกินคาดหักล้าง diluation effect การเพิ่มทุน .....แนะนำซือ้ SSI fair value 2.04บาท รับประโยชน์เต็มที่จากหลายอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัว แนวโน้มกำไร1H63โดดเด่นทั้งจากยอดขายและมาร์จิ้นที่เพิ่ม ........
-บล.ซีไอเอ็มบี .......เพิ่มเป้าดัชนีเป็น835 คลายกังวลการเมือง ทุนต่างประเทศหนุน ..........

Fund Survey.......
-ROBINS นักวิเคราะห์ 6 รายให้เป้าหมาย ROBINS ที่ 14.20 โดย JPM@15/RBS@14.5/CIMB@14.9/BNPP@15- นักวิเคราะห์ 10 รายคาด 10EPS ของ ROBINS ที่ 1.0 ปัจจุบันซื้อขายที่ 10PE@12.4x ถูกสุดในกลุ่ม.............
-KTB (Strong Buy) คาด DB, ML, MACQ ปรับประมาณการขึ้นในท้ายที่สุด เป็นแรงหนุนต่อ KTB เราจึงเลือกเป็น Top Picks.........
-TCB (Buy, TP 50 (Old 24.4) Upside 100.5%) พลิกฟื้นจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง- ถ้า KCE ทำแผงวงจรรถยนต์ หรือ SAT ทำชิ้นส่วนรถกำไรโต ดังนั้น TCB ซึ่งทำล้อรถยนต์ก็ต้องกำไรโตด้วย/ECO Car+รถปิคอัพการเกษตรเป้นตัวหนุนยอดขาย-TCB ปรับตัวลงจาก 31 บาท ต้นปี 08 ก่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกพบกับวิกฤติเศรษฐกิจ และลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี EPS ใน 4Q09 กลับมาฟื้นตัวเท่ากับระดับก่อนวิกฤตแล้ว............
Fund Survey Top Picks Nextweek ;KCE,ROBINS ,CNT* ,TTCL.............


หุ้นมีข่าว
-ROBINS
JPM ปรับ ROBINS จาก 12 เป็น 15(Buy) สะท้อนภาพรวมยอดขายที่ดีขึ้น+ขยายสาขา+กำไรจากการชำระหนี้ ถูกสุดในกลุ่ม PE@9.7x.....
-CPF DB ปรับ จาก 14.2 เป็น 18.7(Buy) ปรับกำไรปี 10 +18% คาดมาร์จิ้นขยับขึ้นมาอยู่ที่ 17.5%, ยอดขายโต 5% จากบริษัทลูกในต่างประเทศ......
-KCE ส่งซิกปรับเป้ารายได้ หลัง Q2/53 ตุนออเดอร์ 70%ออาร์เดอร์เพิ่มต่อเนื่องเล็งปรับเพิ่มเป้ารายได้ - XD จันทร์ 0.15บาท ....
-LPN CS- CITI แนะนำ Buy LPN TP@8.9 /8.3ขายหมด 2 โครงการมูลค่า 4.6 พันล้านบาทเมื่อวันเสาร์ คาดมาร์จิ้นขยบัขึ้นจากโครงการพระราม 4 .....
-TRUE ML maintain buy TRUE target@ 4.40-กระแส3จี3เดือน ร่างพรบคลื่นจัดสรรความถี่ผ่าน -ปลุกผีตลาดโทรศัพท์บ้าน ดั๊มพ์โทร 3 บาททั่วไทย เชื่อลูกค้าเพิ่มขึ้น30%.....
-SGP ผู้ค้าLPGอันดับ2ของประเทศที่จะได้รับประโยชน์จากการปรับราคาLPG.หลังหมดมาตรการตรึงราคาในเดือนสิงหาคมนี้-การขยายตลาดไปยังจีนเวียดนามจะช่วยให้รายได้และผลกำไรเติบโตในระยะยาว-ราคาหุ้นยังlaggardกลุ่มพลังงานอยู่มาก-PERต่ำ5.3เท่าและอัตราเงินปันผลสูง7.5%......
-IVL ซื้อบริษัทPETอิตาลี พื้นฐานหุ้นขยับขึ้น25บ............
-IRPC กำไรคาด1-2พันล้านในไตรมาส1/53 เทียบขาดทุนในไตรมาส4/52จากค่าการกลั่นดีขึ้น - เข้าสู่ช่วงการดีลควบรวมน่าจะจบในพค คาดได้ประโยชน์มากกว่า PTTAR ......
-PTTCH เป้าหมาย UBS 105 BNPP -CL 110 บาท
-STANLY คาดจะได้แรงหนุนจาก มาสด้า 2 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และตลาดรถเก๋งเล็กที่เติบโตสูง.......
-SAT รับผลบวก ยอดส่งออกรถยนต์พุ่งรอบ17เดือน- คาดยอดขายปีนี้โต 32% คาดกำไรพุ่ง 97%.......
-TCB ทำล้อรถยนต์ รับผลบวกตามกระแสยอดรถยนต์โต กำไรโตด้วย - ECO Car+รถปิคอัพการเกษตรเป้นตัวหนุนยอดขาย........
-ECL หุ้นลีสซิ่งพุ่งรับยอดขายโต 109% มั่นใจ Q1 กำไรชุ่มฉ่ำ......
-SPALI คึกปรับเป้ารายได้ 53 มั่นใจแตะ1.2 หมื่นล- ML แนะนำ Buy TP@11..........
-PREB มือทองรอโกยงาน 3 พันล. เม.ย.เตรียมเพิ่มเป้ารายได้โต 20%..........
-KTB คาดไตรมาสแรกกำไรเพิ่ม 10%-ความเสี่ยงการเมืองที่ลดลง, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นรวมกับการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม แต่หนี้คุณภาพไม่ดี ลงตั้งรับ -RBS- CITI - JPM ให้เป้า 14 / 13.5/15บาท ............
-NBC ตั้งเป้าปี 53 รายได้โต 15-20% เพิ่มช่องใหม่"แมงโก้ ทีวี"พ.ค.นี้.....
-TTCL งานใหม่ปีนี้เฉียด2หมื่นล้าน - backlog มีมูลค่า 9.9 พันล้านบาท เทียบกับ 5.9 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2552 ล่าสุดบริษัทได้รับหนังสือแสดงเจตจำนง หรือ Letter ofIntent : LOI สำหรับโรงงานเอทานอล 2 แห่งในเวียดนาม ด้วยมูลค่ารวม 4 พันล้านบาท...
-UNIQ ปันผล0.11บาท จ่าย22/4/53 ..........
-SIMAT ปฏิเสธกระแสข่าว บจ.เข้าซื้อกิจการ-ไม่มีแนวคิดขาย- รายได้พุ่งกระฉูด 1.8 พันล้าน โตก้าวกระโดดจากปีก่อน549ล้านหลังบ.ลูกสร้างผลงานเข้าตา-.เด้งรับขาใหญ่ฮุบกิจการ ลั่นควบมาเลย์ดันรายได้กระฉูด.......
-AIM ปลดSPแล้วเช้านี้ ......
-CIMBT เพิ่มทุน2.96พันล้านหุ้น ขายผถห.เดิม 9ต่อ2ที่1บาท .......
-THAI แย้มกท.การคลังยืนยันหลังเพิ่มทุนยังคงสัดส่วนการถือหุ้นไว้51% - เตรียมเสนอแผนเพิ่มทุนเร็วๆนี้ .......
-TCAP ฟิทช์ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวกแก่ บริษัท ทุนธนชาต ธนาคารธนชาตและธนาคารนครหลวงไทย ..........
-CK มีมติขายหุ้นให้บุคคลในวงจำกัด PP 48.3ล้านหุ้น ให้ BBL 38ล้านหุ้น และบ.เริมกิจแมนเนจเมนต์10.3ล้านหุ้นราคาหุ้นละ5.34บาท .......

-หุ้น XD วันจันทร์ .......... DTC @ 0.50..... ECL @ 0.04.... ETG @ 0.04.... JTS @ 0.06..... KCE @ 0.15... ROJNA @ 0.30......

กลุ่มอุตสาหกรรม
กลุ่มแบงค์ .......
-สตาร์จากการที่โบรกฝรั่งแห่ปรับเป้า ........KTB คาดไตรมาสแรกกำไรเพิ่ม 10%-ความเสี่ยงการเมืองที่ลดลง, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นรวมกับการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม แต่หนี้คุณภาพไม่ดี ลงตั้งรับ -RBS- CITI - JPM ให้เป้า 14 / 13.5/15บาท ........
-KBANK ROE สูง 14% มองอีก 2-3 ปี เพิ่มเป็น 16-17% ราคาหุ้นเทรด 1.7-1.8 เท่าของบุ๊ก ต่ำกว่าอดีตที่เทรด 1.9 เท่า ........
-BBL คาดกำไร +89% ช่วงปี 09-12 กำไรที่เพิ่มขึ้นจะกลับมาในรูปปันผลที่มากขึ้น ......
-ACL' ชี้ 'ICBC' หนุนธุรกิจ เสริมเงินทุน-ระบบแกร่ง ......

กลุ่มยานยนต์ ........
-STANLY คาดจะได้แรงหนุนจาก มาสด้า 2 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และตลาดรถเก๋งเล็กที่เติบโตสูง........
-AH SAT รับข่าวบวก ยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.พ. สูงถึง 127,849 คัน เติบโตถึง 109% และ สูงสุดรอบ 20 เดือน....
-SAT รับผลบวก ยอดส่งออกรถยนต์พุ่งรอบ17เดือน- คาดยอดขายปีนี้โต 32% คาดกำไรพุ่ง 97%.......
-TKT หุ้นกลุ่มยานยนต์ รับข่าวบวก ยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.พ. สูงสุดรอบ 20 เดือน-สอยออเดอร์อีโคคาร์ Q2 ปีนี้ .....

กลุ่มสื่อสาร ......
-ADVANC DTAC กระแส3จี3เดือน ร่างพรบคลื่นจัดสรรความถี่ผ่าน ......
-TRUE ปลุกผีตลาดโทรศัพท์บ้าน ดั๊มพ์โทร 3 บาททั่วไทย เชื่อลูกค้าเพิ่มขึ้น30%.....

กลุ่มวัสดุ .........
-TASCO กองทุนดังจ้องลงทุน - คาดรายได้ปีนี้พุ่ง 100% โกยกำไรปีพุ่งกระฉูด 700 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 494 ล้านบาท โรงกลั่นมาเลย์ลุยผลิต 100% - ปี52จากขาดทุน1089เป็นกำไร493ล้าน -ถนนไร้ฝุ่นเฟส 2ใกล้คลอด .......
-SCC ฝรั่งเริ่มทยอยปรับเป้าขึ้นล่าสุด CLSA - RBS -UBS -MS - BNPP ให้เป้าหมาย 300-279-262.5-270-280 บาท - MACQ ให้เป้าหมายใหม่335บาท ความกังวลธุรกิจปิโตรเคมีลดลง ขณะที่ซีเมนต์ฟื้นตัวขึ้นช่วยลดผลกระทบราคาปิโตรเคมีที่ลดลง, สาธารณูปโภคภาครัฐ - คาดไตรมาส1กำไร6พันล้าน . .....

กลุ่มรับเหมา .........
-STEC คาดกำไรปี 10 +21.4% และโอกาสชนะประมูลงานมาร์จิ้นสูงมีมาก อาทิ Pluto LNG Phase 2-คาดจะชนะประมูลอีก 2 หมื่นล้านบาทในปีนี้, คาดมมาร์จิ้นดีขึ้น ปี 10-11 เป็นปีที่ดีของ STEC- Target Price: UBS@7.0/BNPP@7.8/DB@8.7CL@8.4/CS@7.0 .....
-SEAFCO เดินหน้าตอกเสาเอกสายสีม่วง คาดทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/53 ส่วนงานประมูลใหม่ยังวิ่งเข้าไม่หยุดหนุนรายได้เข้าเป้า 2 พันล้านบาท ....
-CK เตรียมเซ็น MOU กับ กฟผ.ซื้อขายไฟฟ้าเขื่อนไซยะบุรี มี.ค.-เม.ย. นี้- CL ให้เป้าหมายที่ 6.58 สายสัมพันธ์ที่ดีกับ ปชป.ลุ้นประมูลสายสีน้ำเงิน เม.ย.+โปรเจ็คลาว- ตั้งบ.ย่อย รับสัมปทานผลิตกระแสไฟฟ้าจากสปป.ลาว ...............
-TTCL งานใหม่ปีนี้เฉียด2หมื่นล้าน - backlog มีมูลค่า 9.9 พันล้านบาท เทียบกับ 5.9 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2552 ล่าสุดบริษัทได้รับหนังสือแสดงเจตจำนง หรือ Letter ofIntent : LOI สำหรับโรงงานเอทานอล 2 แห่งในเวียดนาม ด้วยมูลค่ารวม 4 พันล้านบาท.......
-PREB มือทองรอโกยงาน 3 พันล. เม.ย.เตรียมเพิ่มเป้ารายได้โต 20%..........

Technical View : FSS
“ตลาดกลับมาอยู่ในช่วงเทรดดิ้งได้ ดังนั้นถ้าผ่าน 788 จุดขึ้นไปซื้อตามได้ แต่ถ้ายังไม่ผ่าน หรือยังหลุดต่ำกว่า 780 จุดอีก ให้ลงไปรอดูจังหวะซื้อที่แนวรับระดับถัดๆ ไป โดยใช้วิธีตามดูแรงซื้อก่อนเข้ารับด้วย...”
แนวรับ : 782-780*** , 775-769* , 763-757**
แนวต้าน : 788* , 793** , 796-800***




Code 28 : SAA ปรับเป้า SET ใหม่เป็น 827

วันพฤหัสที่ 25 มีนาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ-การเมือง
ไทยรัฐ : เงาหุ้น - เงินไหลเข้าไม่หยุด!!
- ดัชนีหุ้นวันที่ 24 มี.ค.53 ปิดที่ 786.54 จุด เพิ่มขึ้น 4.06 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 36,924.10 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,603.57 ล้านบาท
- หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด นำโดย PTT ปิดที่ 256 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, PTTAR ปิดที่ 29.50 บาท ลดลง 0.50 บาท, BBL ปิดที่ 135 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท, SCB ปิดที่ 94 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท, IVL ปิดที่ 17.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท
- ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป มองแนวโน้มตลาดระยะสั้นยังเป็นเชิงบวกแต่ต้องติดตาม Fund Flow เพราะเป็นปัจจัยสำคัญต่อบรรยากาศการลงทุนซึ่งนักลงทุนต้องระมัดระวังสำหรับการเก็งกำไร เพราะระหว่างวันอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง เช่นเดียวกับประเด็นการเมืองยังเป็นปัจจัยต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง แม้การชุมนุมของคนเสื้อแดงจะไม่มีเหตุรุนแรงก็ตามแนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เลือกหุ้นขนาดใหญ่หรือหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น น้อยกว่าตลาดหรือน้อยกว่ากลุ่ม เช่น หุ้นพลังงาน, ธนาคารพาณิชย์, อิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ โดยหุ้นรายตัวที่น่าลุ้น เช่น HANA, KCE, STANLY และ SAT
- ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส มองระยะสั้นหากดัชนีปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านที่ 790 จุดได้ มีโอกาสไปลุ้นแนวต้านถัดไปที่ 800 จุด แต่ในกรอบดังกล่าวจะมีแรงขายทำกำไรออกมา ซึ่งจะส่งผลให้ดัชนีปรับฐานลงได้แต่คงไม่มาก แต่หลังจากนั้นดัชนีมีโอกาสจะไปต่อได้แนะกลยุทธ์การลงทุน ช่วงสัปดาห์นี้หากดัชนีเข้าสู่กรอบแนวต้าน ควรขายทำกำไรลดพอร์ตหุ้นลง 20-30%ส่วน
- บล.ฟิลลิป มองจุดสูงสุดของดัชนีหุ้นไทยปี 53 อยู่ที่ 810 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 700 จุด แนะกลยุทธ์การลงทุน ช่วงที่เงินทุนต่างชาติยังคงไหล เข้าว่าสามารถเก็งกำไรระยะสั้นได้ ส่วนนักลงทุนระยะยาวแนะหาจังหวะในการซื้อเพื่อถือโดยประเมินปัจจัยพื้นฐานของหุ้นอย่างรอบคอบปิดท้าย
- บล.ทรีนีตี้ แนะนำซื้อหุ้นน่าลงทุนในไตรมาส 2 ดังนี้ PTTAR, PTTCH, PTTEP, IRPC, KTB, TCAP, CK, QH, HEMRAJ, TUF, KSL, SAT, DELTA, KCE และ MCOTส่วนหุ้นประเภท "มาไวไปไว" หรือขึ้น-ลงเร็ว แนะลุ้น SPALI, LPN, SPA, SSI และ ESSO.
By...อินเด็กซ์ 51

ข่าวเศรษฐกิจ ...........หุ้นมีข่าว
-ต่างชาติอุ้มหุ้นไทยขึ้นผู้นำโลก แซงหน้าดาวโจนส์ของสหรัฐ........
-หุ้นไทยเสน่ห์แรง 16 ก.พ.-23 มี.ค.53 ต่างชาติซื้อสุทธิ 4.24 หมื่นลบ.- ส.นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มกำไรบจปี53โต13.9%จากเดิมคาด13.3% ปรับเป้าดัชนีจากเดิมคาดปลายปีที่812จุดเป็น827จุด และปี54ที่946จุด .........
-นักวิเคราะห์เตือนหุ้นไทยใกล้จุดพีก'ธปท.'ชี้เงินนอกทะลักพันล.เหรียญ.........
-วินโดว์เดรสซิ่ง" จุดพลุหุ้นไทย โบรกมองไตรมาส 2 วิ่งถึง 836 จุด............
-"กรณ์"เย้ยม็อบเสื้อแดง โบรกฯปรับเป้าดัชนี860............
-สอท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมกพ53อยู่ที่114.50 ลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อย ......
-สอท.เผยยอดส่งออกรถยนต์กพ.53อยู่ที่7.4หมื่นคันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน66.03% .......

FSS: ถ้า SET บวกให้ทำกำไร..จังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อแนะนำให้รอตลาดลบ!!
- ตลาดหุ้นต่างประเทศเริ่มกลับมาลบกันเป็นส่วนใหญ่ จากความวิตกกังวลต่อปัญหาหนี้สินในยุโรป หลังโปรตุเกสถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง และบรรดานักการทูตแสดงความไม่เห็นด้วยกับมาตรการช่วยเหลือกรีซเนื่องจากมีภาระหนี้ที่สูงเกินไป ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ถ่วงให้ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์และตลาดหุ้นปรับตัวลง ทำให้ FSS คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะยังคงแกว่งตัวผันผวนและมีโอกาสสูงที่จะมีการปรับพักตัวลงในเร็วๆ นี้ ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ทยอยทำกำไรเมื่อตลาดขยับขึ้น โดยจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อครั้งใหม่ให้รอช่วงตลาดปรับพักตัวลงไปเคลื่อนไหวในด้านลบก่อนดีกว่า อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วเรายังคาดว่า SET จะสามารถขยับขึ้นไปยืนเหนือ 800 จุด โดยหุ้นที่น่าสนใจเข้ารับได้แก่ หุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มแบงก์และพลังงาน โดยแบงก์ที่ยัง laggard มี SCB, KBANK ส่วนกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่ Laggard มี PTTEP, PTT, SCC นอกนั้น หุ้นขนาดกลางที่ laggard ได้แก่ AP, QH, BCP, CPALL, DTAC, HANA, ITD, KCE, LH, MCOT, TMB, TTW, TVO

ประเด็นสำคัญวันนี้
-โปรตุเกสถูกปรับลดอันดับเครดิต...ยูโรร่วง ดอลลาร์แข็งค่า ตลาดวอลล์สตรีทปิดลบ
- นักวิเคราะห์ปรับเป้า SET ปีนี้ขึ้นเป็น 827 จุด และปีหน้า 946 จุด ผลสำรวจของนักวิเคราะห์ครั้งที่ 1/53 มีมุมมองดีขึ้นจากที่สำรวจครั้งก่อนในเดือน ธ.ค. โดยปรับเพิ่ม SET Target ปลายปี 2010 เป็นเฉลี่ย 827 จุด (จากคาดการณ์ครั้งก่อนที่มอง 812 จุด) (FSS คาด 860 จุด) และปลายปี 2011 อยู่ที่ 946 จุด (FSS คาด 1,100 จุด) โดยประเมินดัชนีสูงสุดในปีนี้ไว้ที่ 861 จุด และต่ำสุดที่ 643 จุด และปรับเพิ่ม GDP จากเดิมที่คาด 3.5% เป็น 4% (FSS คาด 3.5%) และปี 2011 จะขยายตัว 4.5% (FSS คาด 4.5%) หุ้นเด่นที่นักวิเคราะห์แนะนำให้ลงทุนตรงกันหลายสำนักวิจัยได้แก่ ADVANC, BANPU, BAY, KBANK, KTB, PTTEP, QH เป็นต้น
- วานนี้ต่างชาติขาย Futures สูงถึงกว่า 1.8 พันสัญญา รวมเป็น 8 พันสัญญาในรอบ 10 วันที่ผ่านมา คิดเป็นเกือบ 60% ของที่ซื้อสุทธิไปในช่วง 1 เดือนก่อนหน้านั้น อย่างไรก็ตาม ในตลาดหุ้น ยอดซื้อกลับสูงถึง 9 พันล้านบาทสูงที่สุดในรอบหลายเดือน เช่นเดียวกับยอดขายที่สูงถึง 6.6 พันล้านบาท ทำให้ยอดสุทธิยังเป็นการซื้อ แต่สถาบันในประเทศกลับขายหนักมา 3 วันติดต่อกัน ตลาดอาจใกล้ปรับฐานแต่น่าจะเป็นหลังจากสิ้นเดือน มี.ค. หรือให้ผ่านช่วง Window dressing ไปก่อน โดยกลุ่มที่จะผลักดันให้ตลาดไปยืนเหนือ 800 จุดในรอบนี้ยังคงเป็นหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มแบงก์และพลังงาน

ASP
-Dollar Index ฟื้นตัว จากยูโรทำสถิติจุดต่ำสุดใหม่ หลังโปรตุเกสถูก Fitch ลดอันดิบเครดิตลง
-สต๊อกน้ำมันเบนซินลด เข้าสู่ฤดูกาลขับขี่ เชื่อยังดันค่าการกลั่นเดินหน้าทำสถิติ 2 หลัก ใน เม.ย.
สหรัฐรายงานสต๊อกน้ำมันของสัปดาห์ล่าสุด พบว่าแม้น้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 7.3 ล้านบาร์เรล สู่ 351.3 ล้านบาร์เรล แต่ทางด้านสต๊อกน้ำมันสำเร็จรูปยังคงลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล สู่ 224.6 ล้านบาร์เรล โดยเกือบทั้งหมดเกิดจากน้ำมันเบนซินที่ลดลง จึงคาดหมายว่าปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลน่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้เนื่องจากได้ผ่านพ้นฤดูหนาว ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงมีแนวโน้มลดลง แต่เนื่องจาก
กำลังเข้าสู่ฤดูกาล Driving Season ในช่วงปลาย มี.ค. ต่อเนื่อง เม.ย. – พ.ค. ทำให้ความต้องใช้น้ำมันเบนซิน เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์เพิ่มมากขึ้น บวกกับโรงกลั่นหลายแห่งในโลกเริ่มหยุดซ่อมบำรุง หลังจากที่เดินเครื่องเต็มที่ในช่วงไตรมาสแรกของทุกปี ซึ่งยังหนุนให้ค่าการกลั่น(GRM) มีแนวโน้มขยับขึ้นไปสู่ระดับ 5-8 เหรียญฯต่อบาร์เรล และมีโอกาสทำสถิติสูงสุดของของปีที่ 10 เหรียญฯต่อบาร์เรลได้ ระยะสั้น
นอกจากนี้คาดหมายว่าผลประกอบการในงวด 1Q53 ของโรงกลั่นน่าจะมีแนวโน้มสดสดอันเป็นผลของฤดูกาล กล่าวคือค่า GRM เฉลี่ยตั้งแต่ต้นปี 2553 จนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 5.02 เหรียญฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.6 เท่าตัว จาก 1.96 เหรียญฯต่อบาร์เรลในงวด 4Q52 ซึ่งน่าจะดีกับ TOP ซึ่งมีฐานกำไรมาจากธุรกิจโรงกลั่นถึง 60% และอีก 40% มาจากธุรกิจปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์ ซึ่งยังได้รับผลบวกจาก Spread (PX-ULG95) ที่สามารถรักษาช่วง 300-350 เหรียญฯต่อตัน จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในธุรกิจ PTA และช่วยหักล้างกับ Supply ใหม่จากตะวันออกกลางที่จะทยอยเข้าสู่ตลาดได้ แนะนำให้ซื้อ TOP เมื่อราคาอ่อนตัว เนื่องจากกำไรที่มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี แต่หากนักลงทุนชื่นชมหุ้นโรงกลั่น 100% ต้องเลือก BCP แม้ว่าเป็นหุ้นที่ถูกขนานนามว่า “คลานเป็นเต่า” ก็ตาม แต่ฝ่ายวิจัยชอบหุ้นBCP เพราะประเด็นของเงินปันผลที่ดีมาก ซึ่งน่าจะเหมาะกับนักลงทุนที่สนใจผลตอบแทนในรูปเงินปันผล ซึ่งภายหลังจากโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเสร็จสิ้นเชื่อว่าจะทำให้กำไรของ BCP มีเสถียรภาพ และน่าลบภาพขี้ริ้วขี้เหร่ในอดีตไปได้หมดคร๊าบ

SET Index แนวรับ 770 จุด แนวต้าน 800 จุด


ประเด็นวิเคราะห์:
• SET ไปไม่กลับอีก 4.06 จุด สู่ 786.54 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายทะลักเดือดกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท
• วานนี้ SET ทำ New High อีกครั้งด้วยการ Break ผ่าน 787 จุดซึ่งเป็น High ในรอบ 21 เดือน ไปได้อย่าง ชิว ชิว มาก มองว่าการ Break ผ่านครั้งนี้ เป็นการรับลูกต่อเนื่องมาจาก อิทธิพลของ Candlestick เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2553 ที่เกิดการไล่ดัชนีอย่างต่อเนื่องในช่วงบ่ายของตลาด โดย Momentum ที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้มองได้ว่าดัชนีเตรียมที่จะขึ้นกันอีกรอบ และอาจจะไปถึง 800 จุดได้ไม่ยากนัก
• สัญญาณทางเทคนิคใน Indicators สำคัญอย่าง RSI, MACD ล้วนเข้าเขต Over Bought สุดๆ แต่ก็ยังไม่เกิดสัญญาณ Divergence อาการแบบนี้จะทำให้ดัชนี จะเกิดแค่ย่อตัว แต่จะยังไม่ปรับร่วงรุนแรงอะไร
• ในช่วงสั้น ดัชนีอาจจะต้องเกิดการย่อตัวบ้างเมื่อมา
สรุป :
• ได้เวลาถอย แต่คงแค่ ก้าว สอง ก้าว และไม่ต่ำกว่า 770 จุด ก่อนทะเลจะกว้างอีกครั้งเพื่อไปที่ 800 จุด

หุ้นเด่น - ประเด็นข่าว
ข่าวหุ้น:
ทันหุ้น:

10หุ้นข่าวเด่น........หุ้นมีข่าว

1.ROJNA คาดจะทำสถิติกำไรสูงสุดในปีนี้ ยอดขายคอนโดและภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัว คาดปันผลปีนี้จะสูง8.9% คาดกำไรปีนี้เพิ่ม41%YOY XD 0.30 29/3/53-ML ให้เป้า12.9 บาท .........

2.AMATA ได้รับปัจจัยบวกจากการส่งเสริมการลงทุนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ - รอเอาอมตะเวียดนามเข้าตลาดเวียดนาม- Q1 ยอดขายพุ่ง 250 ไร่ลูกค้ารอเซ็นสัญญาในไตรมาส 1/2553 จำนวน 5-7 รายไม่ยกเลิกเซ็นสัญญา -ปัจจุบันขายที่ดินได้แล้ว119ไร่เป้าอยู่ที่600ไร่ คาดเติบโต69.%YOY เป้าหมาย9.5-10บาท ...........

3.HEMRAJ บุ๊ค0.82บาท บัวหลวงเคยแนะนำที่1.10บาท เริ่มกลับมายืนแถวหน้าของกลุ่มพัฒนาที่ดินอุตสาหกรรมกำไรมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในทุกกลุ่มทั้งการขายที่ดิน บริการสาธารณูปโภค และโรงงานให้เช่า ........

4.BBL พี/อี ต่ำสุด 11 เท่าน่าลงทุน - CL ปรับ จาก Buy เป็น Strong Buy ปรับ TP 190 คาดกำไร +89% ช่วงปี 09-12 กำไรที่เพิ่มขึ้นจะกลับมาในรูปปันผลที่มากขึ้น -Top Picks ของUBS คาดอัตราการจ่ายปันผล BANK ที่เพิ่มจาก 33% เป็น 39% ในปี 09- ML ปรับ BBL จาก 132.6 เป็น 153.5(Buy)...................

5.KBANK ROE สูง 14% มองอีก 2-3 ปี เพิ่มเป็น 16-17% ราคาหุ้นเทรด 1.7-1.8 เท่าของบุ๊ก ต่ำกว่าอดีตที่เทรด 1.9 เท่า -JPM ปรับ เป็น 126(Buy) ปรับกำไร 10-12 ขึ้นอีก +6%/+8%/+9% สินเชื่อโตโดดเด่นจาก SME และรายย่อย(บ้าน)+NIM ขยายจากดอกเบี้ยขึ้น........

6.SCB CS แนะนำ Buy TP@120 เลือกเป็น Top Picks................

7.CK เตรียมเซ็น MOU กับ กฟผ.ซื้อขายไฟฟ้าเขื่อนไซยะบุรี มี.ค.-เม.ย. นี้- CL ให้เป้าหมายที่ 6.58 สายสัมพันธ์ที่ดีกับ ปชป.ลุ้นประมูลสายสีน้ำเงิน เม.ย.+โปรเจ็คลาว ...................

8.STEC Target Price: RBS@7.0/BNPP@7.8/DB@8.7CL@8.4/CS@7.0 คาดกำไรปี 10 +21.4% และโอกาสชนะประมูลงานมาร์จิ้นสูงมีมาก อาทิ Pluto LNG Phase 2. - คาดจะชนะประมูลอีก 2 หมื่นล้านบาทในปีนี้, คาดมมาร์จิ้นดีขึ้น ปี 10-11 เป็นปีที่ดีของ STEC.....

9.LPN CS- CITI แนะนำ Buy LPN TP@8.9 /8.3ขายหมด 2 โครงการมูลค่า 4.6 พันล้านบาทเมื่อวันเสาร์ คาดมาร์จิ้นขยบัขึ้นจากโครงการพระราม 4 ..............

10.SSI ก.พ. ส่งมอบเหล็กรีดร้อนม้วนสูงสุดเป็นประวัติการณ์และสูงกว่ายอดส่งมอบทั้งไตรมาส 1/52 เชื่อปีนี้กำไรโตก้าวกระโดด 6 พันล้านบาท เทียบปี'52 กำไรแค่ 1.3 พันล้าน - รับผลบวก ข้อมูลการผลิตเหล็กทั่วโลกพุ่ง ...............

Comment Broker

บล.กิมเอ็ง.....25/3/53 AOT แนะนำ ทยอยสะสม ราคาเหมาะสม43บาท.....ชะลอโครงการก่อสร้าง Domestic Terminal ช่วยลดภาระเงินลงทุน มุมมองเป็นบวกต่อโครงการพัฒนาสุวรรณภูมิแผนใหม่ ช่วยลดเงินลงทุนได้กว่า 2 หมื่นล้านบาท จำนวนผู้โดยสารไตรมาส 2 คาดยังเติบโตแข็งแกร่งแม้จะมีปัญหาทางการเมือง ประเมินกำไรปกติที่ 1.6 พันล้านบาท

บล.ซิตี้กรุ๊ป .....25/3/53 CITI เลือก BBL,SCB, KTB, BAY, TISCO เป็น Top Picks ปรับ BBL, KTB เป็น Buy/ ปรับ KBANK จาก Sell เป็น Hold ...........:

CITI ปรับ BBL จาก Sell เป็น Buy ปรับ TP จาก 116 เป็น 160 ปรับกำไร 10-11 14-15% สะท้อนการเติบโตสินเชื่อ+NIM ขยาย....CITI ปรับ SCB จาก 100 เป็น 108(Buy) ปรับกำไร 10-11 5-6% สะท้อนการเติบโตสินเชื่อ+NIM ขยาย+ROE 18% สูงสุดในกลุ่ม........

CITI ปรับ TISCO จาก 29 เป็น 31(Buy) สินเชื่อ HP โต+NIM สูงที่ 4.6%+ROE@17%+DIY@6%......

CITI ปรับ BAY จาก 24 เป็น 27(Buy) ปรับกำไร 10-11 8-11% สะท้อนการเติบโตสินเชื่อ+NIM ขยาย+รายได้ค่าบริการโต คาดกำไร BAY +55% ใน 2 ปีข้างหน้า เทียบกลุ่ม +34.5%.......

CITI ปรับ KTB จาก Hold เป็น Buy ปรับ TP จาก 10.5 เป็น 13.5 ปรับกำไร 10-11 11-13% สะท้อนการเติบโตสินเชื่อ+NIM ขยาย+รายได้ค่าธรรมเนียมโต สถาพคล่องสูงสุด ได้รับประโยชน์สูงจากดกอเบี้ยขาขึ้น..............

CITI ปรับ KBANK จาก Sell เป็น Hold ปรับ TP จาก 88 เป็น 108 ปรับกำไร 10-11 4-6% สะท้อนการเติบโตสินเชื่อ+NIM ขยาย.......

CITI ปรับ SCIB จาก 29 เป็น 32.5(Sell) สะท้อนราคาขายให้ TCAP......

CITI ปรับ TMB จาก 1.0 เป็น 1.2(Sell) ปรับกำไร 10-11 1-12% สะท้อนการเติบโตสินเชื่อ+NIM ขยาย+รายได้ค่าบริการโต

บล.อาร์บีเอส ..... 25/3/53 RBS เพิ่ม KTB เป็น Top Picks ปรับ KTB จาก 12 เป็น 14(Buy) คาดสินเชื่อโตจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ PBV เพียง 1.1x แถม PE ต่ำเพียง 9x ...

บล.เมอริลลินซ์ ........... 25/3/53 : ML ปรับ BBL จาก 132.6 เป็น 153.5(Buy)........ บล.ยูบีเอส ....... 25/3/53 UBS ชอบ LPN เพราะ Valuations ถูก,งบดุลแกร่ง,ประสิทธิภาพการทำกำไรสูง........ ชอบ LH เพราะมีบ้านพร้อมขาย..........

บล.ดอยช์แบงค์ ......... 25/3/53 DB ปรับ CPF จาก 14.2 เป็น 18.7(Buy) ปรับกำไรปี 10 +18% คาดมาร์จิ้นขยับขึ้นมาอยู่ที่ 17.5%, ยอดขายโต 5% จากบริษัทลูกในต่างประเทศ........ : DB ชอบ LH, LPN หลังต่อมาตรการภาษี แต่ให้น้ำหนัก Neutral กลุ่มอสังหา......... : DB แนะนำ Buy HMPRO TP@5.5 รับประโยชน์จากมาตรการภาษีที่ต่ออายุออกไป.......

บล.ซีแอลเอสเอ .......25/3/53 CL ปรับ BBL จาก Buy เป็น Strong Buy ปรับ TP จาก 134 เป็น 190 คาดกำไร +89% ช่วงปี 09-12 กำไรที่เพิ่มขึ้นจะกลับมาในรูปปันผลที่มากขึ้น........

CL ปรับ TCAP จาก Buy เป็น Strong Buy ปรับ TP จาก 24.25 เป็น 31 คาดกำไร +49% ในปี 09-12 จากสินเชื่อโตลบล้างมาร์จิ้นที่หดตัวลง การควบ SCIB ช่วยหนุนการเติบโตในระยะยาว.........

CL ปรับ SCB จาก 107 เป็น 106(Buy) สินเชื่อเติบโต+มาร์จิ้นขยาย+ค่าธรรมเนียมขยาย,สำรองลด,ต้นทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คาดกำไร +78% ปี 09-12.....

CL ปรับ KBANK TP จาก 111 เป็น 125(Buy) คาดกำไร +130% ช่วงปี 09-12 สินเชื่อเติบโต+มาร์จิ้นขยาย+ค่าธรรมเนียมขยาย,สำรองลด,ต้นทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คาดบริษัทจะจ่ายปันผลมากขึ้น..............

CL แนะนำ Buy TISCO TP@31.50 คาดกำไร +54% ในช่วง 09-12 จากการเติบโตของสินเชื่อ, การควบคุมต้นทุนดี+สำรองต่ำช่วยลบล้างมาร์จิ้นที่ลดลง, ปันผลสูง ...........

CL ปรับ KK TP จาก 32 เป็น 33(Buy) คาดกำไร +43% ช่วงปี 09-12 คาดสินเชื่อจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง เนื่องจากกำไรในสินทรัพย์ และต้นทุน+สำรองที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น...

TMB จาก 1.02 เป็น 1.13(Sell) NPLs สูง 13%, สำรองต่ำ, กำไรจากการดำเนินงานต่ำเพียง 1.3%........

CL ปรับ SCIB TP จาก 30 เป็น 33(Sell) คาดกำไร +62% ช่วงปี 09-12 การควบกับ TCAP จะทำให้โครงสร้างรายได้เปลี่ยนเป็นรายย่อยมากขึ้น, มาร์จิ้นดีขึ้น+ค่าธรรมเนียมดีขึ้น .....

CL ปรับ KTB จาก Strong Sell เป็น Sell ปรับ TP จาก 9.4 เป็น 11.4 ปรับ P/B จาก 0.9x เป็น 1.1x เพราะคาดกำไร +68% ในปี 09-12 สินเชื่อ+มาร์จิ้น+ค่าธรรมเนียมขยาย ........

Fund Survey ....... 25/3/53 ฝรั่งปรับเป้า BANK ขึ้นมาก และหลายเจ้ายังไม่ได้ปรับ เราคาดว่าจะปรับขึ้นตามในไม่ช้าอาทิ ML,MACQ,DB,MS ฉะนั้น BANK ไม่น่าลง Flowsซื้อต่อเนื่อง......

กลุ่มอุตสาหกรรม

กลุ่มแบงค์ .....แบงก์Q1กำไรโต21% ........ BBLโชว์ตัวเลข7พันล. -รายได้ดอกเบี้ยสุทธิพุ่งสินเชื่อทะลัก - พี/อี ต่ำสุด 11 เท่าน่าลงทุน - CL ปรับ จาก Buy เป็น Strong Buy ปรับ TP 190 คาดกำไร +89% ช่วงปี 09-12 กำไรที่เพิ่มขึ้นจะกลับมาในรูปปันผลที่มากขึ้น -Top Picks ของUBS คาดอัตราการจ่ายปันผล BANK ที่เพิ่มจาก 33% เป็น 39% ในปี 09 - ML ปรับ BBL จาก 132.6 เป็น 153.5(Buy) ....................

-SCB CS แนะนำ Buy TP@120 เลือกเป็น Top Picks........

-KBANK ROE สูง 14% มองอีก 2-3 ปี เพิ่มเป็น 16-17% ราคาหุ้นเทรด 1.7-1.8 เท่าของบุ๊ก ต่ำกว่าอดีตที่เทรด 1.9 เท่า - JPM ปรับ เป็น 126(Buy) ปรับกำไร 10-12 ขึ้นอีก +6%/+8%/+9% สินเชื่อโตโดดเด่นจาก SME และรายย่อย(บ้าน)+NIM ขยายจากดอกเบี้ยขึ้น........ ........

-KK XD1.25 บาท 28/4/53 รับผลบวกอุตระยนต์โตต่อเนื่อง KK-W4แปลง 19.53 บาท หมดมคปี2011........ TISCO ตีปีกรับมอเตอร์โชว์ สบช่องอีโคคาร์ปลุกกระแส ......

กลุ่มพลังงาน-ปิโตร......... พิชัย" ฟันธงควบรวมสรุป PTTAR-IRPC ก่อน คาดจบ พ.ค.นี้ ลั่นขาดทุนก้อนโตไร้ปัญหา ........PTT ถอยตั้งรับ-รอสตอรี่บ.เครือชัดเจนเรื่องการควบรวมพค53- คาดมาบตาพุดที่จะได้ข้อสรุป พ.ค.- M&A PTTAR+IRPC ก่อนสิ้น พ.ค.- การนำ Star Petroleum เข้าจดทะเบียน- การปรับราคารขาย LPG/CNG ในเดือน ส.ค.ช่วยหนุนรายได้............

-PTTEP วันนี้น้ำมันลงแรง -แต่คาดผลประกอบการปีนี้ turn around ฝรั่งปรับเป้าขึ้น CL- CITI ให้ 195/175บาท ............TOP ML ปรับ TOP จาก 49 เป็น 58.5(Buy) .........

-BCP ไทยเอ็นวีดีอาร์ เก็บหุ้น BCP เพิ่ม 0.12% - มีการกระจายความเสี่ยงด้านการตั้งเป้าเป็นผู้นำพลังงานทดแทน มีการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงงานผลิตเอทานอล และเหมืองโปแตช ..........

-IVL เข้าร่วมทุนบริษัทในยุโรป 50% ในการซื้อธุรกิจผลิต PTA-PET ในอิตาลี. - พื้นฐานแน่นปึ๊กกำไรโตต่อเนื่อง ส่วนดีลซื้อหุ้นบริษัทปิโตรเคมียุโรป จบภายในครึ่งปีแรก 1 แห่ง ส่วนอีกบริษัทสรุปช่วงครึ่งหลัง แถมเป้าหมายบริษัทภายใน 4 ปีกำไรโตอีก 2 เท่า......

กลุ่มวัสดุ ........ SSI ก.พ. ส่งมอบเหล็กรีดร้อนม้วนสูงสุดเป็นประวัติการณ์และสูงกว่ายอดส่งมอบทั้งไตรมาส 1/52 เชื่อปีนี้กำไรโตก้าวกระโดด 6 พันล้านบาท เทียบปี'52 กำไรแค่ 1.3 พันล้าน - รับผลบวก ข้อมูลการผลิตเหล็กทั่วโลกพุ่ง ......

-SCC ฝรั่งเริ่มทยอยปรับเป้าขึ้นล่าสุด CLSA - RBS -UBS -MS - BNPP ให้เป้าหมาย 300-279-262.5-270-280 บาท และเช้านี้ MACQ ให้เป้าหมายใหม่335บาท ความกังวลธุรกิจปิโตรเคมีลดลง ขณะที่ซีเมนต์ฟื้นตัวขึ้นช่วยลดผลกระทบราคาปิโตรเคมีที่ลดลง, สาธารณูปโภคภาครัฐ.........

หุ้นน่าติดตาม
FSS:
IVL ได้ลงนามเข้าซื้อกิจการ PTA และ PET ในประเทศอิตาลี ราคาหุ้นรับข่าวระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นจึงเปลี่ยนจาก ซื้อเก็งกำไร เป็น ถือ

Technical View : FSS
“ตลาดดีดขึ้นไปใกล้แนวต้านแล้วเริ่มมีแรงขายออกมาอีกครั้ง ถือว่าเป็นการเตือนถึงจังหวะแกว่งย้อนลงที่กำลังจะเกิดขึ้น ดังนั้นควรชะลอการเทรดดิ้งและกลับมาเน้นขายทำกำไร...เพื่อรอรับต่ำ!!”
แนวรับ : 782-780* , 776-769** , 763-757***
แนวต้าน : 793** , 796-800***


SET: ภาคเช้า ปิดที่ บวก/ลบ จุด
ภาคบ่าย ปิดที่ บวก/ลบ จุด %
มูลค่าการซื้อขาย ลบ.
MACD:
Sto:
TFEX: ปิดที่ บวก/ลบ จุด

Foreign
SET: เช้า Net Buy/Sell MB. บ่าย Net Buy/Sell MB.
Month 2 date: Net Buy/Sell MB.
TFEX: Net Long/short contracts
Month 2 date: Net Long/short contracts

Direction: