ข่าวเศรษฐกิจ-การเมือง
เงาหุ้น...ไทยรัฐ : MSCI อัพเกรดหุ้นไทย!!
- ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 มี.ค.53 ปิดที่ 734.83 จุด บวก 1.49 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 13,215 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,310.62 ล้านบาท
- หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด นำโดย SCIB ปิดที่ 31.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง, BBL ปิด 126 บาท บวก 3 บาท, KBANK ปิดที่ 88.50 บาท บวก 0.25 บาท, SCB ปิดที่ 86.50 บาท บวก 0.25 บาท และ PTT ปิด 240 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
- ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินัยเซียไซรัส มองสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภานั้น ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุน ชะลอการลงทุนและคาดว่าตลาดหุ้นไทยอาจปรับขึ้นได้ไม่มากนัก จนกว่าปัจจัยการเมืองจะคลี่คลายดังนั้น แนะกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ ระยะสั้นควรถือเงินสดไว้เพื่อรอประเมินสถานการณ์
- ขณะที่นักลงทุนระยะยาว แนะนำให้รอจังหวะซื้อในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงแรง โดยเลือกซื้อหุ้นที่พื้นฐานดีทยอยตุนเข้าพอร์ตขณะที่มองแนวโน้มตลาดระยะสั้น คาดว่าจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยมองแนวต้านไว้ที่ 735 จุด หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ให้ไปรอลุ้นต่อที่ 745 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 723 จุด
- ข่าวดีจากบริษัทมอร์แกน สแตนเลย์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ได้ออกบท วิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียและตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก โดยปรับเกรดหุ้นไทย ตุรกี และสาธารณรัฐเช็กขึ้น และลดเกรดตลาดหุ้นอียิปต์ อินโดนีเซีย โปแลนด์และเปรู โดยอ้างอิงจากดัชนี MSCI ตลาดเกิดใหม่ ที่ส่งผลอันดับการลงทุนตลาดหุ้นไทยพุ่งจากอันดับที่ 12 ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 เหนือค่าเฉลี่ย สะท้อนอัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน
-นอกจากนี้ บทวิเคราะห์เจพี มอร์แกน ยังแนะให้ซื้อหุ้นบริษัททุนธนชาต (TCAP) ที่บริษัทลูกคือธนาคารธนชาต เข้าซื้อกิจการ SCIB ที่จะได้รับเงินปันผลเข้ามาและส่งผลให้กลายเป็นธนาคารที่ขนาดสินทรัพย์ใหญ่อันดับ 5 ของประเทศ และยังแนะซื้อหุ้นบริษัทซีพีออลล์ (CPALL) ที่ได้รับผลดีจาก ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว ทำให้ยอดขายจากสาขาเดิมพุ่ง โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 26 บาท เป็น 27 บาท.
...By อินเด็กซ์ 51
หุ้นมีข่าว
ข่าวการเมือง .......ศอ.รส.ห้าม"เสื้อแดง" บุกเข้าภายใน ร.11 รอ.,เตรียม 7 ขั้นตอนรับมือ
- นายกฯ ยัน รัฐบาลบริหารประเทศตามระบบรัฐสภา และมาจากการเลือกตั้งตามกฎหมาย
- ทหาร2นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่กรมทหารราบที่1 ถ.วิภาวดีช่วงบ่ายนี้
- วันนี้เสือ้แดงนัดเจาะเลือด1ล้านซีซีเทหน้าทำเนียบยกระดับกดดันรัฐ- กาชาดเตือนอันตราย
- จุดยืนพรรคร่วมไม่ยุบ
- เอกชนแนะเจรจา2ฝ่าย ค้านยุบสภาหวั่นฉุดศก
- เอเอฟพีตีข่าวทักษิณโผล่มอรเตเนโกร
ข่าวเศรษฐกิจ ........ ธปท เผยเตรียมสภาพคล่องรับมือสถานการณ์ม็อบเสื้อแดง ระบุ ห่วง ส่งออก-บริโภค กระทบหนักหากชุมนุมยืดเยื้อ
- หุ้นไทยจะพุ่งอีกหากเสื้อแดงกลับบ้านเร็ว นักลงทุนต่างชาติกำลังต้องการหุ้นไทยเพิ่มขึ้น...........
สภาพตลาดวันนี้ ...... 3แนวทางการวิเคราะห์หุ้นในปัจจุบันคือ
1. Fundamental
2. Technical
3. Fund Flow
- ดูเสมือนหนึ่งว่าช่วงนี้ Fund Flow จะมีอิทธิพลมากสุด โดย flowฝรั่งซื้อ หุ้นไม่ลงแม้จะมีข่าวลบเข้ามาระหว่างการเทรดก็ตาม ซึ่งฝรั่งเดินหน้าซือ้สุทธิติดกัน17วันทำการ 2.8หมื่นล้านบาทประเมินได้ว่าซือ้อย่าางมีนัยสำคัญ
- ส่วน Technical SET ยังคงมีสัญญานที่ดีต่อเนื่อง
- Fundamental ระยะสั้งอาจมีปัจจัยลบด้านการเมืองแต่ระยะยาวปัจจัยทางเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง
สรุปช่วงนี้ คงต้องให้น้ำหนักการวิเคราะห์ด้าน fund flow มากที่สุด และติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะตลอดต้นปีฝรั่งยังคง net buyอย่างต่อเนื่องส่วนหนึ่งน่าจะมาจากตลาดไทยก่อนหน้านี้ laggardตลาดเอเซียพอสมควรและมีอัตราปันผลสูงที่จูงใจ เมื่อวานนี้ที่ net buyมี UBS CS JPM CLSA ซึ่งในบทวิเคราะห์จะมีแนะนำกลุ่มแบงค์ เน้น BBL SCB KBANK พลังงานมี PTTEP PTT BANPU พาณิชย์มี CPALL BIGC ............
นสพ.กรุงเทพธุรกิจ: หุ้นแกว่งตัวแคบรอดูการเมือง 'ต่างชาติ' ซื้อต่อเนื่อง 1.3 พันล. ต่างชาติมองบวกสถานการณ์การเมืองไทยลุยซื้อหุ้นต่อเนื่องอีก1.3 พันล้านบาท ดันดัชนีปิดบวกเล็กน้อย 1.49 จุด ด้านโบรกเกอร์ ระบุหุ้นเคลื่อนไหวผันผวน แต่ไม่รุนแรงเหตุนักลงทุนรอประเมินสถานการณ์ชุมนุมวันนี้ ขณะที่ยอดซื้อสะสมของนักลงทุนต่างชาติ รวม 2 สัปดาห์กว่า 2 หมื่นล้านบาท
หุ้นเด่น - ประเด็นข่าว
ข่าวหุ้น: - CIMBT รอฟาดกำไร รับทันที 392 ล้านบาท ขาย'บีทีประกันภัย'-บันทึกไตรมาส 2 นี้
- GLOW เป้าสูง 40 บ. รับกำไรห้วยเฮาะ งบ Q1 รับรู้ได้พิเศษ
- CK รับโบนัสพิเศษ 570 ล้าน รายได้น้ำงึม 2 ก่อนกำหนด
10หุ้นข่าวเด่น ........ by หุ้นมีข่าว
1.SCB CL- JPM - CS ยังเลือกเป็นtop pick เป้าหมาย106-120 สินเชื่อเติบโต+มาร์จิ้นขยาย+ค่าธรรมเนียมขยาย,สำรองลด,ต้นทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คาดกำไร +78% ปี 09-12 ปันผลสูงกว่าคาด- อัตราการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นหนุนความมั่นใจ .........
2. KBANK CS- CL ปรับ TP เป็น124- 125 คาดกำไร +130% ช่วงปี 09-12 สินเชื่อเติบโต+มาร์จิ้นขยาย+ค่าธรรมเนียมขยาย,สำรองลด,ต้นทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คาดบริษัทจะจ่ายปันผลมากขึ้น-JPM มองความวุ่นวายการเมืองยังคงมีอยู่เลือก SCB เป็น Top Picks - คาดอัตราการจ่ายปันผลกลุ่ม BANK ที่เพิ่มจาก 33% เป็น 39% ในปี 09 สะท้อนถึงมุมมองเชิงบวก,ฐานทุนที่แกร่ง.........
3. BBL CL ปรับ BBL จาก Buy เป็น Strong Buy ปรับ TP 190 คาดกำไร +89% ช่วงปี 09-12 กำไรที่เพิ่มขึ้นจะกลับมาในรูปปันผลที่มากขึ้น -Top Picks ของUBS - คาดอัตราการจ่ายปันผล BANK ที่เพิ่มจาก 33% เป็น 39% ในปี 09 สะท้อนถึงมุมมองเชิงบวก,ฐานทุนที่แกร่ง- CS overweight Thai Bank BBL(TP@164) เป็น Top Picks ....
4. KTB UBS ปรับ KTB จาก 11.75 เป็น 12.25(Buy) ปันผล 0.40 บาท XD22/4/53 สินเชื่อ 2 เดือนแรก โต 2.5% และคาด Q2/53 โตอีก 6 -7% ......
5.BANPU ITMG ทำ High ในรอบ 21 เดือน ราคา BANPU ยังคง Laggard น้ำมัน......
6.CPN คาดปี 53กำไรปกติจะลดลง 12%จากการปิดสาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว 6 เดือนแต่CPN เป็น long-term asset play ที่ดีคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของกำไรเป็น 2 เท่าภายในปี56 เนื่องจากการเปิดสาขาเพิ่มคาด20สาขาในปี56จาก10สาขาปี51.........
7.CPALL ธุรกิจเกี่ยวข้องกับการบริโภคการเมืองไม่กระทบ - อัตรากำไรขั้นต้นของร้านสะดวกซือ้ขยายตัว0.36% จากปีที่แล้วเป็น25.7% มาจากสินค้าาประเภทอาหารและไม่ใช่อาหาร - เงินสดสุทธิยังอยู่ในระดับสูง12.7พันล้าน 2.82บาทต่อหุ้น XD 28/4/53 0.80 บาท - การขยายตัวของยอดขายร้านเดิมสูงต่อเนื่อง คาดการลดลงทุนในหุ้นกู้เจียไต๋ช่วยลดความเสี่ยงการเงิน - JPM CS TP@27-27.3......
8.BIGC DB RBS TP@57-58 กลับจาก Road show ที่ SG, HK/ภาพรวมสดใสปี 10 จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจ คาดยอดขายโต+ขยายสาขาเพิ่ม คาดจะจ่ายปันผล 1.97 บาท (DIY@4%)สิ้นเดือนนี้ .......
9.DTAC กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 4 พค 2553 และจ่ายวันที่ 26 พค 2553 (เงินปันผลประจำปี 2552 ที่ 1.39 บาท/หุ้น) - รอความคืบหน้า3จีได้ประโยชน์มากสุด ...............
10 CK คาดเซ็นสัญญางานเขื่อนไซยะบุรี มูลค่า 7 หมื่นล้านบาทได้ภายในปีนี้ 4 โบรกโหวต "ซื้อ" ลุ้นปลายปี งับกำไรพิเศษ 570 ล.
กลุ่มอิเลคโทรนิกส์ ......... KCE คาดยอดขาย Q1/53 อยู่ที่ 58 ล้านเหรียญฯสูงกว่า Q4/52 หลังออเดอร์ เข้ายาวถึง เม.ย.นี้ เชื่อดันยอดขาย Q2/53 แตะ 60 ล้านเหรียญฯ-ปักธงรักษา Net Profit ที่ 10% .........
กลุ่มเกษตร อาหาร ........CPF ผลดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องมีกำไรสุทธิระดับสูง 9.8พันล้านทั้งปี53และ54 ROE ROA แข็งแกร่ง -ประเมินยอดขายในประเทศตุรกีมีเพียง9% - สัดส่วนการส่งออกกุ้งยังสูง และอัตราปันผลดี XD 0.50บาท 29/4/53
- TVO ได้ประโยชน์จากปัญหาการสไตร์คที่ท่าเรือของอาร์เจนติน่า
- STA เจ๋งเล็งตั้งบ.ย่อยอินเดีย ตั้งเป้า 3 ปียอดยางพุ่งล้านตัน......
กลุ่มวัสดุ ........ SCC SCCC เซียนให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มปูนซีเมนต์ "มากกว่าตลาด" หลังความต้องการชะลอตัวในช่วงหลายปีและเริ่มฟื้นขึ้นในเดือนมกราคมดูจากตัวเลขยอดขายเพิ่มขึ้น 5.4% สำหรับตลาดในประเทศและเพิ่มขึ้น 21.5% ในตลาดส่งออก คาดผู้ผลิตปูนซีเมนต์มีแนวโน้มกำไรเพิ่มขึ้นในปี 2553 .......
Comment Broker
นครหลวงไทย - THAI ราคาเหมาะสมก่อนเพิ่มทุน30 บาท การคงสัดส่วนของกระทรงการ คลังที่ประมาณ 51% ทำให้เพิ่มความคาดหวังความสำเร็จของการเพิ่มทุนมากขึ้น โดย จะมีการขออนุมัติผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เม.ย. 2553 Dilution ประมาณ 37% ในปีนี้ ประเมินว่าการ เพิ่มทุนจะส่งผลดีต่อบริษัทอย่างชัดเจนในระยะยาว
- ESSO แนะนำ “ถือ” มูลค่าเหมาะสมที่ 7.10 บาท ...ข่าวการเข้า Takeover กิจการของ PTT ซึ่งกรณีนี้ผู้บริหาร ESSO และ PTT ออกมากล่าวในเชิงปฏิเสธแล้ว แต่ประเด็นการ จ่ายปันผลถือว่ายังคงให้ Dividend Yield ที่น่าสนใจ ร่วมกับแนวโน้มกำไร Q1/53 ที่ คาดจะฟื้นตัว qoq.....
บล.เคที ซีมิโก้ .... กลุ่มธุรกิจการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร แนะนำมากกว่าตลาด....ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์มีแนวโน้มสูงขึ้น ราคาเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มจะสูงต่อเนื่องในปี 53 แนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q53 ยังสดใส
- CPF แนะนำซื้อ มูลค่าพื้นฐาน 12.55 บาท....ดำเนินธุรกิจอาหารที่ครบ วงจร (Feed, Farm , Food) และมีการต่อยอดทางธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการแปรรูป ผลิตผลทางการเกษตรเป็นอาหารสำเร็จรูปที่มีแบรนด์สินค้าอาหารเป็นของตัวเองและเป็นที่ยอม รับของตลาดโลก
- GFPT แนะนำซื้อ มูลค่าพื้นฐาน 48.50 บาทโดดเด่นในธุรกิจไก่ และแนวโน้มกำไรมีศักยภาพการเติบโตสูงจากการขยายธุรกิจร่วมทุนกับผู้นำด้านการจำหน่าย อาหารสำเร็จรูปรายใหญ่ในญี่ปุ่นที่คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้กำไรปี 54 เติบโตอย่างโดดเด่นถึง 30% นอกจากนี้การแตกพาร์จาก 10 บาท เป็น 1 บาท ที่ คาดว่าจะมีผลทางกฎหมายภายในพ.ค.นี้ ยังเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้นด้วย ทำให้เราชื่น ชอบ GFPT มากกว่าเพราะมีปัจจัยหนุนทั้งระยะสั้นและยาว ....
บล.เคจีไอ .... QH แนะนำ ‘ซื้อ’ ราคาเป้าหมายที่ 3.00 บาท เตรียมเปิด 13 โครงการแนวราบในปี 2553 จาก 6 โครงการในปี 2552 งบดุลแข็งแกร่งขึ้น น่าจะรายงานรายได้และกำไร เติบโตสูงสุดในกลุ่มที่อยู่อาศัยในปี 2553 .....
บล.ยูไนเต็ด....แนะนำ overweighted หุ้นกลุ่มธนาคาร โดยเห็นว่าธนาคาร 7 แห่งที่ทำการวิเคราะห์ มีสินเชื่อในไตรมาส 4/52 เติบโต 3.5% จากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่คาดว่าสินเชื่อในเดือนม.ค. ลดลง 0.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากการชำระคืนเงินกู้ และเป็นผลกระทบตามฤดูกาลที่เดือน ม.ค. สินเชื่อมักชะลอตัวลงคุณภาพของสินทรัพย์ ไม่เป็นปัญหาอย่างที่คาด โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ก่อนหักสำรอง(Gross NPL) ทั้งระบบ ณ สิ้นปี 52 อยู่ที่ 5.49% ลดลงจากปีก่อนที่5.89% และธนาคารไทยมีฐานะเงินกองทุนแข็งแกร่ง เพราะไม่มีปัญหางบดุล.....ยังชื่นชอบ BAY ให้ราคาเป้าหมาย 26.50 บาท และ KBANKให้ราคาเป้าหมาย 105.50 บาท ....
หุ้นน่าติดตาม
FSS: - CK สรุปประเด็นจากการประชุมนักวิเคราะห์-โครงการใหม่ๆ ที่จะเซ็นสัญญามีแนวโน้มมากขึ้นในปีนี้
CK มียอดรายได้รอรับรู้ (Backlog) ณ 31 ธ.ค.2009 ที่ 13,864 ล้านบาท (เพิ่มจากปี 2008 ที่อยู่ในระดับ 1.2 หมื่นล้านบาท) และยังมีโครงการรอเซ็นสัญญาอยู่อีก 2 โครงการรวม 5,978 ล้านบาท คือ โครงการโรงไฟฟ้าSPP (Small Power Producer) มูลค่า 4 พันล้านบาท และโครงการผันน้ำจากพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก-อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี มูลค่า 1.978 ล้านบาท รวมทั้งยังอยู่ระหว่างรอผลการประมูล
โครงการรับเหมาก่อสร้างของรัฐบาลและเอกชนอีก 1-2 โครงการ มูลค่ารวม ~1 พันล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลการประมูลปลาย 1Q10 หรือต้น 2Q10
- บริษัทคาดการณ์รายได้ปี 2010 ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มาจาก Backlog ประมาณ 6 พันล้านบาท และงานใหม่ประมาณ 4 พันล้านบาท และคาดการณ์เป้าหมายเซ็นสัญญารับงานใหม่ในปี 2010 ไว้ที่ ~4 หมื่นล้านบาท
- โครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 กำลังผลิต 615 เมกะวัตต์ ปัจจุบันมีความคืบหน้าในการก่อสร้าง 95% คาดว่าจะเริ่มส่งไฟฟ้าเข้าระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในวันที่ 25 ธ.ค.2010 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดที่จะแล้วเสร็จเดือนมี.ค.2011 ประมาณ 3 เดือน
- บริษัทคาดว่าจะรายได้พิเศษจากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ในช่วง 3 เดือนที่แล้วเสร็จก่อนกำหนดในสัดส่วน 50% หรือ ~600 ล้านบาท แต่ในส่วนของต้นทุนยังอยู่ระหว่างการเจรจากับ South East Energy(SEAN) ว่าจะจัดสรรต้นทุนของทั้งสองฝ่ายอย่างไร ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ได้อย่างเร็วสุดปลาย 4Q10 หรือใน1Q11 และในปี 2011 บริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ในลักษณะส่วนแบ่งกำไรจาก SEANตามสัดส่วนถือหุ้น 38% เบื้องต้น คาดว่า CK จะรับรู้ส่วนแบ่ง ~ 114 ล้านบาท จากปี 2011 เป็นต้นไป
- โครงการโรงไฟฟ้าไซยะบุรี กำลังผลิต 1,280 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 1 แสนล้านบาท เริ่มมีความชัดเจน โดยคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติเห็นชอบร่างบันทึกลงนามความเข้าใจรับซื้อไฟฟ้าราคาเฉลี่ย 2.159 บาทต่อหน่วย สัญญาซื้อขายไฟฟ้ามีอายุ 29 ปี ซึ่ง CK คาดว่า จะสามารถเซ็นสัญญารับงานนี้ได้ในช่วง 1H10 โดยคาดว่าจะถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 30%
- มีความมั่นใจในการเข้าประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ มูลค่าโครงการ 52,280 ล้านบาท เพราะมีประสบการณ์ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมาก่อน ทำให้มีความได้เปรียบคู่แข่งขัน
- เงินลงทุนปี 2010 อยู่ที่ 900 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนใน South East Energy 600 ล้านบาท โรงไฟฟ้า SPP100 ล้านบาท และโครงการไซยะบุรี 200 ล้านบาท
- ราคาเป้าหมายปี 2010 อยู่ที่ 7 บาท ใช้ PBV ที่ 1.6 เท่า
Technical View : FSS
“ตลาดยังแกว่งทดสอบแนวต้าน 735 จุดอยู่ ต้องรอผ่านขึ้นยืนได้จึงจะน่าลุ้นเทรดดิ้งต่อขึ้นหาแนวต้านถัดไปที่ 745-749 จุด... แต่ถ้าย้อนหลุด 728 จุดลงก่อน...ควรถอยไปรอดูแรงซื้อใหม่แถว 722-716 จุดอีกครั้ง!”
แนวรับ : 728***, 722-716**, 713-703*
แนวต้าน : 735-738**, 745-749***
Fund Flow: FSS
- บาทแข็งค่าที่สุดในรอบ 11 เดือน!! SET ถึงเป้าของเราที่ 750 จุดแล้ว ทยอยขายไปเรื่อยๆ SET มีโอกาสเขยิบขึ้นไปถึง 760 จุดเพราะ Flow เข้า
- เงินบาทอยู่ที่ 32.46 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าที่สุดในเอเชียวันนี้ สวนทางค่าเงินในเอเชียส่วนใหญ่ และเป็นการแข็งค่าที่สุดในรอบ 11 เดือน
เทคนิค SET ระหว่างวัน: FSS
- ตลาดขยับขึ้นถึงสุดทางด้านบนของกรอบแกว่งในรอบรีบาวด์แล้ว ต้องระวังจังหวะแกว่งย้อนลง โดยเฉพาะต้องระวังการปรับลงในลักษณะเดียวกับ 2 รอบที่แล้ว...
SET: ภาคเช้า ปิดที่ 744.98 บวก 10.15 จุด
ภาคบ่าย ปิดที่ 752.20 บวก 17.37 จุด +2.36%
มูลค่าการซื้อขาย 27,395 ลบ.
Set ปิดยืนอยู่เหนือ BB Top ที่ 749.47
MACD: ยืนยันตัดเส้น Signal Line
Sto: ยังอยู่ในทิศทางบวกอยู่
TFEX: ปิดที่ 534.70 บวก 16.40 จุด + 3.16%
Foreign
SET: เช้า Net Buy 400 MB. บ่าย Net Buy 1,240 MB.
Month 2 date: Net Buy +21,550 MB.
TFEX: Net Short -709 contracts
Month 2 date: Net Long +4,364 contracts
Direction: ตาม Fund Flow
สรุปควาคิดเห็นส่วนตัว: ผิดคาดไปมากที่ SET สามารถมาปิดทะลุ 750 ยืนเหนือแนวต้าน BB Top ได้ และสถาบันก็มีแรงซื้อเข้ามามาก คิดว่าน่าจะเป็นการซื้อเพื่อเป็นการทำ Window Dressing ภายใน Q1นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น