Code 31 : ทิศทางหุ้น 29/3/53

วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2553

สรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทย


ภาวะการซื้อขายหุ้น
-สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 778.86 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.55% จาก 774.59 จุด ในสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์เพิ่มขึ้น 18.06% จาก 135,799.06 ล้านบาท ในสัปดาห์ ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 160,326.61 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 213.20 จุด ขยับลดลง 0.47% จาก 214.20 จุดในสัปดาห์ก่อนหน้า และ 0.98% จากสิ้นปีก่อน
-แนวโน้มสัปดาห์นี้ (29 มี.ค.-2 เม.ย.53) บริษัทหลักทรัพย์กสิกร-ไทยและบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่าดัชนีหุ้นไทยน่าจะแกว่งตัวผันผวน จากแรงขายทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุนบางส่วน หลังจากที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ดัชนี ยังมีโอกาสขยับขึ้นได้แต่ในกรอบแคบๆ
-โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตา ได้แก่ การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนของ ธปท.ในวันพุธ และตัวเลขเงินเฟ้อของกระทรวงพาณิชย์ในวันพฤหัสบดี รวมไปถึงประเด็นทางการเมือง ส่วนปัจจัยในต่างประเทศที่สำคัญ คงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ การปรับตัวของตลาดหุ้นภูมิภาค ตลอดจนการรายงาน ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ อาทิ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มี.ค. คาดว่าดัชนีจะมีแนวรับที่ 776 และ 767 จุด แนวต้านอยู่ที่ 790 และ 824 จุด ตามลำดับ

ภาวะตลาดเงินและตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
-อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นทรงตัวต่อเนื่อง โดยธนาคารพาณิชย์ปิดสำรองสภาพคล่องรายปักษ์ในวันอังคาร รวมถึงเตรียมสภาพคล่องเพื่อรองรับการเบิกถอนเงินสดของลูกค้าในช่วงสิ้นเดือน ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ประเภทกู้ยืมข้ามคืน (Overnight) หนาแน่นทั้งสัปดาห์ที่ 1.15% เงินบาทในประเทศ (Onshore) ปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ อยู่ที่ระดับ 32.40 (ตลาดเอเชีย) เทียบ กับระดับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.53 เงินเยนอ่อน ค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ ปรับตัวอยู่ที่ระดับ 92.51 (ตลาดยุโรป) เทียบกับระดับ 90.53 เยนต่อดอลลาร์ฯ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.53 เงินยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนก่อนฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ปรับตัวอยู่ที่ระดับ 1.3531 ดอลลาร์ฯ ต่อยูโร เมื่อวันที่ 19 มี.ค.53.

กลยุทธ์ลงทุนรายสัปดาห์
วันที่ 29 มี.ค. 2 เม.ย. พ.ศ. 2553

-ทยอยขายหุ้นรายตัว
หลังซื้อหุ้นไทยกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท ในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา แม้คาดยังมี Fund Flow แต่อาจเริ่มแผ่วเบา ในลักษณะเดียวกันกับตลาดหุ้น ๆ ในเอเซีย ทำให้ดัชนีมีความผันผวนสูง โดยน่าจะมีกรอบการเคลื่อนไหว 770-
800 จุด แนะนำให้ทยอยขายหุ้นรายบริษัทที่ราคาสูงกว่า Fair Value พร้อมปรับเลือกถือหุ้นป้องกันเงินเฟ้อ สัปดาห์นี้แนะนำ: SSI และ SCC
-การเมืองอาจจะไม่จบง่าย และกดดันเสถียรภาพของรัฐบาล
-Fund Flow ยังหนุน SET เข้าต่อ แต่จะมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นเช่นกัน
-ประเด็นการวิเคราะห์
• สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ SET จะยังคงปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงสัญญาณการย่อตัว หลังจากที่ดัชนีขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 21 เดือนที่ 793.14 จุด ดัชนีก็ปรับตัวลดลง 3 วันต่อเนื่องจนลงมาที่บริเวณ 782-784 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ปรับเพิ่มขึ้นจากจากสัปดาห์ก่อนที่ 2.72 หมื่นล้านต่อวัน มาเป็น 3.27 หมื่นล้านบาทต่อวัน
• ภาพการย่อตัวที่เกิดขึ้น ค่อนข้างสอดคล้องกับแนวทางที่ได้วางไว้ใน บทวิเคราะห์รายไตรมาส Invest +2Q53 และฝ่ายวิจัยได้นำภาพ SET ที่วาดแนวเส้น Eliot Wave มาลงไว้ในบทวิเคราะห์เทคนิครายวันเมื่อ 24 มี.ค.2553 โดยได้กล่าวไว้ว่า SET ในระยะสั้นน่าจะขึ้นมาตันที่ 790 จุด เพื่อมาก่อเป็นคลื่น 3 ย่อย ก่อนที่จะย่อลงมาที่ 770-780 จุด เพื่อก่อคลื่น 4 ย่อย หลังจากนั้นจะมีการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง เพื่อไปทดสอบที่ระดับ 800 จุด (โดยนักลงทุนสามารถอ่านรายละเอียดได้ในบทวิเคราะห์ Invest+ ฉบับ 2Q53 ซึ่งจะมีแนวทางของทิศทางระยะสั้น กลาง ยาว ภายใน 2Q53)
• จากแนวทางเดิมที่ฝ่ายวิจัยได้วางไว้ มาตั้งแต่ต้นไม่ว่าจะเป็นในบทวิเคราะห์ Technical View จนมาถึงแนวทางระยะยาวในInvest+ ฉบับ 2Q53 ก็พอจะทำให้สรุปได้ว่า SET ย่อตัวเพื่อเตรียมที่ขึ้นต่ออีกครั้ง ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะมีการไปเยี่ยมเยือน 800 จุด
สรุป
• 800 จุดเป็นคำตอบสำหรับสัปดาห์นี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น