MKT Code 21 : ทะลุแนวต้านสำคัญ 750

วันพุธที่ 17 มีนาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ-การเมือง
ไทยรัฐ - เงาหุ้น: เขียวทั้งกระดาน!!
- ดัชนีหุ้นวันที่ 16 มี.ค.53 ปิดที่ 752.20 จุด เพิ่มขึ้น 17.37 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 27,395 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,240 ล้านบาทหุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด นำโดย ADVANC ปิด 84.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.25 บาท, PTT ปิด 246 บาท บวก 6 บาท, PTTEP ปิด 142.50 บาท บวก 4 บาท, BANPU ปิด 608 บาท บวก 20 บาท และ TMB ปิด 1.42 บาท บวก 0.05 บาท
- ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ชี้ว่าตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นหรือ Bullish อย่างเต็มตัว หลังการเมืองภายในประเทศไม่มีเหตุรุนแรงและน่าจะสลายหรือยุติการชุมนุมได้ และหุ้นไทยยังได้ปัจจัยบวกจาก รมว.คลัง "กรณ์ จาติกวณิช" ที่ออกมาระบุว่ารัฐบาลจะไม่ฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากบริษัทในกลุ่มสื่อสารที่มีการแก้ไขสัญญาสัมปทาน หรือกฎหมายใดที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินคดียึดทรัพย์ ทำให้หุ้นกลุ่มสื่อสารดี๊ด๊าปรับตัวขึ้น เป็นตัวหนุนตลาดอีกแรง
- ทั้งนี้ ประเมินแนวโน้มตลาดระยะสั้นว่า ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ หลังคลายความกังวลกับปัจจัยการเมือง แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เข้าเก็งกำไรต่อได้หากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงยกเลิกหรือยุติ เชื่อว่าตลาดยังไปได้ต่อ ส่วนมุมมองทางเทคนิค หลังดัชนีทะลุแนวต้านสำคัญที่ 750 จุดได้ ไปรอลุ้นแนวต้านใหม่ที่ 765 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 745 จุด
- ปิดท้าย เจพีมอร์แกนออกบทวิเคราะห์ ชี้ผลประกอบการกลุ่มแบงก์ ปีนี้มีแนวโน้มสดใส เหตุยอดสินเชื่อโตตามภาคส่งออก แนะลงทุนหุ้น KBANK และ SCB เนื่องจากมีแนวโน้มผลประกอบการดีจากการมุ่งปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอี โดยอาจให้ผลตอบแทนปีนี้ได้ในอัตรา 25-30%
- ขณะที่มองดัชนีครึ่งปีหลังมีโอกาสพุ่งแตะระดับ 845 จุด หาก รัฐบาลมีเสถียรภาพมากขึ้น และสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น แต่ครึ่งปีแรกดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบ 650-750 จุด!!
... By อินเด็กซ์ 51

ไทยรัฐ - เศรษฐกิจหุ้น : พุ่งกระฉูดค่าบาทแข็งโป๊ก
- สวนทางการเมืองละเลงเลือด ต่างชาติทุ่มเงินลงทุนหุ้นไทย ส่งผลวานนี้ ดัชนีตลาดพุ่งสูงสุดในรอบ 20 เดือน ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าสูงสุดในรอบ 21 เดือนเช่นกัน ธปท.ระบุทุนนอกเชื่อมั่น และเห็นแนวโน้มเงินยังไหลเข้ามาลงทุนในไทยต่อ...
- โดยในวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,240.31 ล้านบาท ทั้งนี้ หากนับจากวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติที่เริ่มเข้าซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยมาอย่างต่อเนื่องทุกวันทำการ จนถึงวันที่ 16 มี.ค. ซื้อสุทธิทั้งสิ้น 28,986.54 ล้านบาท และล่าสุดมูลค่าหลักทรัพย์ ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) ที่แสดงความ มั่งคั่งของนักลงทุนในตลาดหุ้นแตะ 6.04 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากก่อนการชุมนุมวันที่ 11 มี.ค. มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 5.83 ล้านล้านบาท
-ขณะเดียวกัน การไหลเข้าของเงินทุนมาลงทุนในตลาดหุ้น และตลาดตราสารหนี้อย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ ได้ส่งผลให้ค่าเงินบาทวานนี้ (16 มี.ค.) ในภาคบ่ายแข็งค่าขึ้นไปสูงสุดในรอบ 21 เดือน โดยปิดตลาดที่ 32.42 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
-นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวถึง ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับสถานการณ์ การเมืองที่ยังมีการชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศยุบสภาว่า ข้อเท็จจริงคือ ราคาหุ้นไทยถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างชาติมองเห็นว่าการชุมนุมครั้งนี้ไม่น่าจบด้วยความรุนแรง และจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ค่อนข้างสอดคล้องกับความเชื่อของนักลงทุน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ดัชนีหุ้นปรับเพิ่มขึ้น
- ส่วนค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ปรับค่าแข็งขึ้นนั้น เนื่องจากระดับดุลการค้าของไทยที่เป็นบวกและคาดว่าจะบวกต่อเนื่องเป็นผลจากเศรษฐกิจที่ดี และมีสัญญาณจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจจะปรับเพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดความมั่นใจในทิศทางสกุลบาทของไทย
- ขณะที่นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวถึงนักลงทุนต่างชาติที่เดินหน้าซื้อสุทธิหุ้นไทยมาอย่างต่อเนื่องว่า โบรกเกอร์ต่างชาติให้ความเห็นตรงกันว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติไม่ค่อยห่วงปัญหาการ เมืองมากนัก นับตั้งแต่เห็นตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของไทยหลายตัว ตั้งแต่ไตรมาส 4 ที่ผ่านมาส่งสัญญาณที่ดี ทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์ มวลรวมในประเทศ (จีดีพี), ดัชนีการผลิต และการบริโภค รวมถึงดัชนีภาคการส่งออกที่ดีขึ้น อย่างชัดเจน
-ที่สำคัญล่าสุด มอร์แกน สแตนเลย์ ผู้จัดการดัชนี MSCI ก็ได้มีการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ตุรกี และเช็ก ในดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ โดยปรับคำแนะนำเป็น Overweight ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อทิศทางของตลาดหุ้นไทย ขณะที่ผลการโรดโชว์ในงาน Daiwa Invest– ment Conference Tokyo 2010 พบว่า ผู้ลงทุนญี่ปุ่นยังมีความเชื่อมั่นและสนใจเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
- นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า มี 4 เหตุผลหลักที่ทำให้ฝรั่งเข้ามาไล่ซื้อหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง คือ
1. ฝรั่งมองว่าเรื่องปัญหาการเมืองเป็นเรื่องภายในประเทศ และคาดว่าการชุมนุมไม่น่าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล
2. ตลาดหุ้นที่เคยร้อนแรงปีที่แล้วได้ปรับตัวลงมาในปีนี้ เช่น ตลาดหุ้นจีน ไต้หวัน และฮ่องกง ทำให้ฝรั่งโยกเงินส่วนหนึ่งมาลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียที่เล็กลง เช่น ไทย อินโดนีเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้ฝรั่งถือหุ้นอยู่น้อยมาก
3. ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนปี 52 ออกมาดีกว่าที่คาด และจ่ายเงินปันผลสูงทำให้มองแนวโน้มปี 53 ดีขึ้น
4. ค่าเงินในสกุลใหญ่ๆในโลกอ่อนค่าลง ทั้งดอลลาร์ ยูโร และปอนด์ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดเงินเอเชีย

หุ้นมีข่าว
สภาพตลาดวันนี้ - กระทิงสายพันธ์นอก วัยละอ่อนเริ่มจาก ฝรั่งที่ซือ้มา18วันทำการติดกัน2.9หมื่นล้านที่ต้นทุนเฉลี่ย SET Index ประมาณ 725 จุด ดึงดัชนีจาก700จุดขึ้นมา750จุดสำเร็จท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองจากการตัดสินยึดทรัพย์ อดีตนายกมาถึงการชุมนุมกลุ่มเสือ้แดง - ภายใต้assumption ศก.ไทยเข้มแข็ง บจ.ผลประกอบการดีและอัตราปันผลสูง ............. และได้แปลงร่างเป็นกระทิงหนุ่มพันธ์ผสม โดยมีกองทุนไทยและพอร์ตโบรกเกอร์มาร่วมวงชัดเจนวานนี้ จนขึ้นมาทดสอบhigh เดิมได้สำเร็จ ( 753.17จุด 15/1/53)
- ประเด็นคือจากนี้ไป big player จะเล่นต่อหรือไม่ หลังจาก flow เงินไหลเข้าจนทำให้เงินบาทแข็งค่าในรอบ21เดือน วานนี้ฝรั่งซือ้ 1240ล้านแต่ short ใน future 588 Ctcs - กองทุนซือ้ 2152ล้าน และ long ใน future 402 Ctcs ..........
- ขณะที่เป้าหมายในครั้งแรกประมาณการไว้ที่บริเวณ770 จุด และเริ่มมีโบรกฝรั่งย้ำเป้าหมายปีนี้ที่800-850จุด ขณะที่พีคที่SET เคยทำไว้ปลายปีที่แล้วอยู่ที่ 758.55จุด (13/10/52)
- เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องติดตาม
1. fundflow ซึ่งต้องตามอย่างใกล้ชิดทั้ง3ค่ายตือ ฝรั่ง - กองทุนไทย-พอร์ตโบรกเกอร์ ถ้ายังnet buyต่อหุ้นมีโอกาสเดินหน้าสูง ...........
2. fundamental ที่มีผลระยะสั้นคือการเมือง หากการชุมนุมเสื้อแดงยุติลงอย่างสงบ วานนี้หม่อมอุ๋ยคาดจีดีพีโตต่อได้เกิน5% ขณะที่จตุพรคาดปิดเกมใน7วัน - ที่มีผลระยะปานกลางถึงยาวคือเรื่องมาบตะพุด - การฟ้องร้องของรัฐในกลุ่มสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับสัมปทาน- การเดินหน้านโยบายต่างๆ อาทิ 3จี - เมกะโปรเจคต์ตามโครงการไทยเข้มแข็ง..... เงินบาทแข็งค่ารอบ21เดือนจากเงินทุนไหลเข้า ดอลล่าร์อ่อนค่าจากเฟดคงดอกเบี้ย-เทรนด์ตลาดโลกภาพรวมยังฟื้นตัวต่อเนื่อง DJ เดินหน้าทำ new high รอบ17เดือน ............
3. technical ระยะสั้น SET ยังคงเป็นแนวโน้มขึ้นจากการทำ higer high higher low ติดกันเป็นวันที่5- ยืนเหนือ MA ทุกเส้น - ควรระวังหากวันใดที่ SET ไม่ทำ high หรือเริ่มมีการทำ lower low จับหลักวันนี้ที่ 752.91/737.82จุด
- เมื่อคืน DJ บวกต่อ43จุด ตลาดยุโรปปิดบวก0.4-1.3% ตลาดเอเซีย เปิดบวก - ดอลล่าร์อ่อนค่าลงน้ำมันพุ่ง1.90เหรียญ 81.70เหรียญ เช้านี้82.05เหรียญ ทองคำพุ่ง17.10เหรียญ1122.20เหรียญ เช้านี้ขึ้นต่อ1127.50เหรียญ BDIลบ76จุด
- สรุป SET ขึ้นมาได้อย่างงงงงตามคาด จากพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแรงเป็นหลัก แต่ก็ขึ้นมาพอสมควรโดยยังไม่มีการขายทำกำไรให้เห็นชัดเจน จึงควรตาม big player อย่างใกล้ชิด และที่สำคัญ น้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ .........

หุ้นมีข่าว
10หุ้นข่าวเด่น .......
1. SCC อุต ปูนเริ่มฟื้นขึ้นในเดือนมค.ดูจากตัวเลขยอดขายเพิ่มขึ้น 5.4% สำหรับตลาดในประเทศและเพิ่มขึ้น 21.5% ในตลาดส่งออก คาดผู้ผลิตปูนซีเมนต์มีแนวโน้มกำไรเพิ่มขึ้นในปี 53 XD5 บาท 7/4/53 ......
2. ADVANC ราคาก่อนลง87-90บาท กทช.จะประมูล3จีในไตรมาส3 - สอบสัมปทานใช้เวลานาน 5ปี -เป็นหุ้นหลักที่ฝรั่งยังคงแนะนำซือ้ แต่อาจมีลดเป้าหมายบ้าง MS -RBS- DB-BNP-UBS-CS-GS เป้าหมาย103 -99 -112-100-121-133-105.....
3. DTAC ผ่าน37ได้ลุ้น40บาท XD 4 /5/53 (เงินปันผลประจำปี 2552 ที่ 1.39 บาท/หุ้น) - รอความคืบหน้า3จีได้ประโยชน์มากสุด- RBS - UBS- MS -CITI ให้เป้าหมาย 39-59.5- 40-46บาท .........
4. THCOM มีดีที่บุ๊คสูง - เร่งขยายตลาดไอพีสตาร์ ตั้งเป้าแบรนด์วิธเพิ่ม 15%- ลั่นพร้อมลงทุนไทยคม6 - มั่นใจผลงานปีนี้กำไร ตั้งเป้ายอดขายโต30% - เร่งขยายตลาด IPSTAR ตั้งเป้าให้เช่าช่องสัญญานเพิ่ม ส่วนประเด็นต้องติดตาม1ข้อสรุปของ ICT จากประเด็นดาวเทียมสำรองไทยคม3การเรียกร้องค่าเสียหายจากที่ไม่ได้สร้างดาวเทียมสำรอง 2การหาดาวเทียมใหม่ชดเชยไทยคม2ที่จะหมดอายุ- ความล่าช้าในการตรวจสอบเกทเวยอินเดีย ............
5. PTTEP การร่วมลงทุนกับกิจการร่วมค้าในท่อก๊าซเวียดนามช่วยส่งเสริมก๊าซเติบโตในระยะกลาง JPM- MACQ-UBS-BNPP CITI -CLSA แนะนำซือ้ 170-180 -164-175-175 บาท .........
6. PTT รอสตอรี่ควบรวมบ.ในเครือ JPM UBS MACQ CLSA BNPP RBS DB target 350/341 /288/280/300 /321/288 บาท - คาดสิ้นสค.รัฐบาลจะทบทวนมาตรการตรึงราคาLPG NGV แม้การชดเชย NGV จะเป็นจุดถ่วงผลประกอบการใน1-2ปีข้างหน้า แต่ยังคาดเติบโตได้6%YOY ........
7. PTTCH กำไรปีนี้แจ่มไฟเขียวผลิตพีอี :UBS ปรับ PTTCH จาก 87 เป็น 105(Buy) .........
8. TOP โรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในเอเซียแปซิฟิก และโรงกลั่นผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่อะโรแมติกส์ชะลอตัวลงบ้าง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง พร้อมเริ่มวัฏจักรการลงทุนใหม่ปี54 การรวมบริษัทในเครือปตท -การผสานพลังทางธุรกิจเกิดขึ้นแล้วใน TOP.....
9. TMB ลั่นแผนการล้างขาดทุนยังเดินหน้า ล่าสุดส่งเรื่องให้คลังพิจารณาแล้ว คาดคลังส่งกลับในเร็วๆนี้ / ลุ้นราคาขาย ฝรั่ง1.60บาท/ฟิทซ์ปรับอันดับความน่าเชื่อถือเป้น A(Tha)คาดฟื้นตัวปีนี้ -รายงานสินเชื่อเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 0.28% จากสิ้น ม.ค. 53 ........
10. SCB CL- JPM - CS ยังเลือกเป็นtop pick เป้าหมาย106-120 สินเชื่อเติบโต+มาร์จิ้นขยาย+ค่าธรรมเนียมขยาย,สำรองลด,ต้นทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คาดกำไร +78% ปี 09-12 ปันผลสูงกว่าคาด- อัตราการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นหนุนความมั่นใจ .........

Comment Broker
บล.ฟิลลิป ........ แนะนำซือ้ KCE เป้าหมาย9.90บาท คาดผลดำเนินการโตก้าวกระโดดจากปีก่อนหน้า รวมถึงคงสัดส่วนการขายในกลุ่มมาร์จิ้นสูง และมีการพิจรณาสร้างโรงงานใหม่เพื่อให้ยอดขายถึง400ล้านเหรียญในปี56 เพิ่มการขายในตลาดญี่ปุ่นมากขึ้นคาดกำไรปีนี้ 577ล้านบาทเพิ่ม 236% ...........

บล.ยูไนเต็ด ......CK ราคาเป้าหมาย 6.80 บาท ปีนี้รายได้ไม่โดดเด่นแต่มีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษจากเขื่อนน้ำงึมที่เปิดใช้ก่อนกำหนด25/12/53 ขณะที่งานเขื่อนไซยะบุรี7หมื่นล้านคาดเซ็น MOUกับกฟผเร็วๆนี้ จะดันแบคล็อคสูงถึง9หมื่นล้าน .....

หุ้นน่าติดตาม
FSS - เปรียบเทียบโรงกลั่น ESSO กับ TOP : มูลค่าหุ้น ESSO น่าสนใจในการลงทุนระยะสั้น
- เราได้เปรียบเทียบมูคค่าหุ้นระหว่าง ESSO กับ TOP ตามตารางข้างล่างนี้ พบว่าหุ้น ESSO ซื้อขายกันในระดับต่ำกว่า TOP ค่อนข้างมาก
Stock__ Price__ P/BV__ P/E__ Div. Yield %__Target Price
TOP___ 45.00__ 1.25___ 6.76___ 6.67____ 53.00
ESSO___ 7.10___ 0.91___ 6.02 ___7.04____ 8.00
- นอกจากนี้หุ้นกลุ่มโรงกลั่นยังได้ปัจจัยหนุนจากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวและสามารถยืนอยู่ได้ในระดับเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปี 2010 ถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 5 USD/บาร์เรล เทียบกับเฉลี่ยทั้งปี 2009 ที่ระดับ 1.9 USD/บาร์เรล ทำให้คาดกันว่าผลการดำเนินงานใน 1Q10 จะออกมาดี อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่ากำไรสุทธิ 1Q10 เปียบเทียบ Q-Q แค่ทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพราะช่วง4Q09 โรงกลั่นมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันราว 3.5 USD/บาร์เรล ในขณะที่ 1Q10 แทบจะไม่มีหากราคาน้ำมันดูไปปิดสิ้น 31 มีนาคม ไม่เกิน 78 USD/บาร์เรล
- ส่วนข่าวลือเกี่ยวกับการ take over ก็แค่ข่าว แต่ไม่ง่าย เพราะเหตุผลที่เจ้าของ( Exxon Mobil) จะขาย ESSO ด้วยเหตุผลใดซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องค้นหา
- เรายังคงแนะนำ ซื้อ TOP (เป้า 53) ในขณะที่ ESSO เบี้องต้นให้ราคาเป้าพื้นฐาน 8 บาท/หุ้น อย่างไรก็ตามความเสี่ยงของหุ้นกลุ่มโรงกลั่นคือ ความผันผวนของค่าการกลั่นและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยิ่งผัวผวนมากยิ่งเสี่ยงมาก

หุ้นมีข่าว : Fund Survey........17/3/53 Strategy: คาด Flows จะชะลอการซื้อลงหลังจากซื้อต่อเนื่องแล้วเกือบ 3 หมื่นล้านบาท พิจารณาจากมูลค่าการซื้อขายวานนี้สูงสุดในรอบ 10 วัน แต่สัดส่วนต่างชาติกลับลดลงเหลือ 19% จากเฉลี่ยทั้งเดือน 24% โดยการซื้อลดลงเหลือ 21% จากวานก่อน 35% เราคาดว่าการขายจะเพิ่มขึ้นหากปัจจัยต่างประเทศมีพัฒนาการไปในทางลบ ขณะที่ปัจจัยการเมืองลดความสำคัญลงไปมาก แรงซื้อของสถาบันจะส่งผลให้ SET ปรับขึ้นต่อ ซึ่งเราคาดแนวต้านระยะสั้นที่ 758 จุด และคาดแรงซื้อใน BANK จะชะลอตัวเข้า ENERG แทน ขณะที่หุ้นขนาดกลางจะมีการเก็งกำไรมากขึ้น
กลยุทธ์
1) เก็งกำไรจบในวัน
2) Switch จาก BANK เข้า ENERG (PTT, BANPU เป็น Top Pick)
3) T-Buy TTA, RCL
4) T-Buy BANPU จาก ITMG ปรับขึ้นระยะสั้น
5) ขาย BBL เข้า BBL-F/ขาย SCB เข้า KBANK
6) T-Buy Second Tier เลือก ROJNA-W2, KCE, SAT, STEC เป็น Top T-Buy
Trading Stocks: รัุบเหมามาอย่าลืมดู - CNT รับกำไรจากการก่อสร้างเจดีย์พระธรรมกาย+ผูกขาดงานก่อสร้างบริษัทเครือทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์บริษัทที่เช่าที่ดินสำนักทรัพย์สิน ส่วนใหญ่แล้วจะมี CNT และั นันทวันโอบายาชิได้งานเสมอ ฉะนั้น back log ในมือจึงสูง+ปันผล 0.2 XD 19 เม.ย. PE เพียง 8 เท่า เทียบกลุ่มที่ 20 เท่า+ จ่ายปันผล 6.4% ผู้ถือหุ้น สำนักทรัพย์สิน 85%,BBL 3%, Indochina 3.4% นอกนั้นรายย่อย - มาร์เก็ตแคป 1200 ลบ. ขณะที่รายได้ 4.3 พันล้านบาท กำไรฟื้นตัวต่อเนื่องจาก 4 ล้านบาทปี 08 เป็น 153 ล้านบาทปี 09 - ราคาหุ้นซื้อขายที่ 1.1P/BV ขณะที่ ROE ขยับจาก 0.4% ปี 08 ขึ้นมาอยู่ที่ 14% ปี 09...........
- BANPU (Buy,TP Consensus@658) 8 สำนักวิจัยต่างชาติแนะนำ Buy BANPU TP@684 หรือ Upside อีก 16% RBS สูงสุดที่ 830 JPM@713, DB@740. - ITMG ทำ High ในรอบ 21 เดือน ราคา BANPU ยังคง Laggard น้ำมัน - ITMG ปรับขึ้น 3.5% ..........
- BBL Target Price Consensus@146/CL สูงสุดที่ 190/UBS@167/RBS@144 - เปลี่ยนตัวเล่นจาก BBL เป็น BBL-F ในระยะสั้น เนื่องจาก Premium ลดลงเหลือ 1.5% จากค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 3%.....

SET: ภาคเช้า ปิดที่ บวก/ลบ จุด
ภาคบ่าย ปิดที่765.54 บวก 13.34 จุด +1.77 %
มูลค่าการซื้อขาย 33,676 ลบ.
MACD:
Sto:
TFEX:
ปิดที่ 540.50 บวก 5.80 จุด +1.08%

Foreign
SET: เช้า Net Buy+700MB. บ่าย Net Buy+3,026 MB.
Month 2 date: Net Buy+24,576l MB.
TFEX: Net Short -1,248 contracts
Month 2 date: Net Long +3,116 contracts

Direction:

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น