Code 403 : 26/04/54 MACD = Sell Signal... RSI จะเกิด Sell Signal หรือไม่

วันอังคารที่ 26 เมษายน 2554

ATT Code : MACD = Sell Signal... RSI จะเกิด Sell Signal หรือไม่
1. เข้าที่.... หลังจาก Sto เกิด Sell signal แล้ว... เมื่อวาน MACD ก็เกิด Sell Signal ขึ้นแล้ว
2. ระวัง.... จับตา RSI จะตัดเส้น MAV9 ลงมาเป็น Sell Signal
3. ไป.... ถ้า RSI เกิด Sell Signal... ก็จะทำให้ Main Indicators ทุกตัว และ SET มีโอกาสที่จะหลุด 1100 ได้




สรุปสภาวะการซื้อขายในวันจันทร์ 25/04/54 นี้ : MACD = Sell Signal...
1. SET ไม่สามารถผ่าน 1107 ขึ้นมาได้ แต่ก็ยังดีที่ยังไม่หลุดต่ำกว่า 1104
2. MACD ตัดเส้น Signal ลงมาแล้ว = Sell Signal
3. RSI เกือบตัดเส้น MAV9 ลงมา.... รอดูพรุ่งนี้
4. Vol < MAV5
5. CandleStick ยังบอกอะไรได้ไม่ชัดเจน

แนวโน้มในวันอังคารที่ 26/04/54 นี้ : MACD = Sell Signal... RSI จะเกิด Sell Signal หรือไม่
1. หลังจากที่ MACD ตัดเส้น Signal ลงมาเป็น Sell Signal แล้ว... รอดูวันนี้ว่า RSI จะเกิด Sell Signal หรือไม่
2. CandleStick ต่ำกว่า 1105... แนวโน้ม SET มีโอกาสลงไปได้ที่ 1100
3. ถ้า RSI เกิดเป็น Sell Signal ... แนวโน้ม SET มีโอกาสลงไปต่ำกว่า 1100 ได้ แนวรับ MAV10 = 1093

โดยที่ตลาดมีกรอบแนวรับ-แนวต้าน ดังนี้
แนวรับ : 1104 / MAV5. 1102 / MAV10. 1093
แนวต้าน : 1107 / 1111 / 1113

-----------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
26 เมษ. 54 ( +0.14 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

มีโอกาสปรับตัวลง 1081 – 91 จุด
ดัชนีปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25ชั่วโมง ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีในระยะสั้น และมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงต่อแถว 1081 – 1091ใกล้จุดต่ำสุด 19 มษ.

และ ตลาดอาจจะต้องใช้ระยะเวลาอีกเป็นสัปดาห์ แกว่งตัวย่ำฐานในกรอบประมาณ1080 – 1110 หรือระหว่างจุดต่ำสุดถึงจุดสูงสุดของสัปดาห์ที่แล้ว ในรูปแบบที่อาจจะเป็นExpanding Flat

ขณะที่แนวโน้มหลักยังคงเป็น “ขาขึ้น”โดยเฉพาะการปรับตัว เกิน 1113.63 จุดสูงสุดของสัปดาห์ที่แล้ว จะถือเป็นสัญญาณการปรับตัวขึ้นอีกครั้งของตลาด มีเป้าหมายเดือนพค. บริเวณ 1180 - 90 จุด ในรูปแบบที่คาดว่าเป็น Double zigzag

หุ้นเด่น
LPN
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะสัปดาห์ รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 10.80กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายระยะสัปดาห์ 11.60 – 12.10( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 10.30 )

SCB
ปรับตัวทะลุกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวันขึ้นมาได้ รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 118.50จุดสูงสุดวันจันทร์ เป้าหมายระยะสัปดาห์127.00 – 129.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 116.00 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
BBL เกิน 177.50 ขึ้น 182 – 184
IRPC ต่ำกว่า 6.30 ลง 6.05 – 6.15
SCB รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
CPF ต่ำกว่า 29.50 ลง 28.25 – 28.75
BANPU ต่ำกว่า 756 ลง 730 - 740
HEMRAJ ต่ำกว่า 2.16 ลง 2 – 2.06
PS ไม่เกิน 21.20 ลง 20.40 – 20.60
SCC เกิน 384 ขึ้น 397 – 417
JAS แกว่งตัว 3.20 – 3.36
KBANK แกว่งตัว 126 – 130

-----------------------------------------------------------------------------
EFinance Thai : PS-SPALI-LPNกรี๊ดสลบ!!
คลังอัดแคมเปญบ้านหลังแรก ดันยอดขายที่อยู่อาศัยพุ่ง
หุ้นอสังหาฯรับส้มหล่นเข่งเบ้อเริ่ม!! หลังรัฐบาลประกาศอัดแคมเปญ"บ้านหลังแรก"และ"แปลงค่าเช่าเป็นซื้อ" หนุนประชาชนแห่ซื้อ-โอน ที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ชี้ PS- SPALI - LPN ได้ประโยชน์มากสุด เหตุมีโครงการสร้างเสร็จและพร้อมโอนมากสุด แถมเป็นเจ้าพ่อตลาดบ้านระดับกลาง-ล่าง
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกกดดันจากดอกเบี้ยขาขึ้นที่ฉุดกำลังซื้อบ้านของประชาชน และมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพราะล่าสุดรัฐบาลเตรียมประกาศเปิดตัวโครงการบ้านหลังแรกและโครงการแปลงเช่าเป็นซื้อ ผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งจะช่วยหนุนผู้ประกอบการในกลุ่มอสังหาฯให้สามารถขายบ้านได้มากขึ้น
สำหรับโครงการบ้านหลังแรก ผู้ซื้อบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะได้ดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 2 ปี พร้อมทั้งยกเว้นค่าธรรมเนียมจดจำนอง และการโอน 3% ให้กู้เป็นเวลา 30 ปี มีวงเงินให้กู้ทั้งหมด 5 หมื่นล้านบาท ส่วนโครงการแปลงเช่าเป็นซื้อ เพื่อให้ประชาชนสามารถมีบ้านเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น สำหรับผู้ที่เข้าถึงระบบสินเชื่อได้ยาก โดยโครงการดังกล่าวจะแทนค่าเช่าที่จะต้องเสียในแต่ละเดือนซึ่งผู้กู้จะต้องซื้อบ้านราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และจ่ายค่าเช่าอยู่แล้วไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนให้มีบ้านหลังแรกได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่าหุ้นอสังหาฯที่ได้ประโยชน์จากนโยบายดังกล่าวมากสุด ประกอบด้วย PS -SPALI และ LPN เนื่องจากมีสินค้าประเภทที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทมาก รวมทั้งมีโครงการสร้างเสร็จและพร้อมโอนภายในสิ้นปีนี้มากสุด ส่งผลให้วันนี้ราคาหุ้นทั้ง 3 บริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง โดย PS ปิดตลาดที่ระดับ 21 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาท หรือ 8.25% มีมูลค่าการซื้อขาย 753.94 ล้านบาท ราคา SPALI ปิดที่ 12 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 8.11% มีมูลค่าการซื้อขาย 544.56 ล้านบาท และราคา LPN ปิดที่ 10.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 4.90% มีมูลค่าซื้อขาย 304.69 ล้านบาท

***** PS คาดรับอานิสงส์ตั้งแต่ Q2/54 เป็นต้นไป
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตทจำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า การที่รัฐบาลออกโครงการบ้านหลังแรกด้วยการยกเว้นดอกเบี้ยในช่วง 2 ปีแรกของการผ่อน สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านในราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทนั้นจะส่งผลดีต่อประชาชนที่มีรายได้ปานกลาง-น้อย ที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองเพื่อเข้าอยู่จริง ซึ่งบริษัทฯ เองก็จะได้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าวเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมของ PS มากถึง 90% มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่1.8-1.9 ล้านบาท และบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทถึง 20% เป็นอันดับ 1 ในตลาด คาดว่า หากโครงการผ่านมติของคณะรัฐมนตรีและเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 1 พฤษภาคมก็น่าจะทำให้บริษัทรับผลดีตั้งแต่ไตรมาส 2 คาบเกี่ยวถึงต้นไตรมาส 3/54 เพราะวงเงินมีประมาณ 50,000 ล้านบาท
' น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับผู้บริโภคที่มีรายได้ระดับกลาง-น้อย เพราะเขาสามารถประหยัดเงินได้ถึง8%ภายใน 2 ปี จากการที่ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยใน 2 ปีแรก เพราะปัจจุบัน MLR-1 และที่สำคัญพอร์ตเราส่วนใหญ่อยู่ตรงนี้ ' นายประสริฐ กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่ายอดขายในไตรมาสแรกปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 8.5 พันล้านบาท ลดลงจากไตรมาสแรกปีก่อน แต่ยังเชื่อมั่นว่ายอดขายทั้งปีจะเข้าเป้าที่ 4.2 หมื่นล้านบาทตามที่ตั้งไว้เมื่อต้นปี โดยล่าสุดรัฐบาลก็ได้ออกโครงการซื้อบ้านหลังแรกราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ปลอดดอกเบี้ย 2 ปีแรก ก็จะช่วยกระตุ้นยอดขายได้ในภาวะที่เงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยขาขึ้น

***** SPALI มั่นใจยอดขายพุ่งกระฉูด
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า โครงการบ้านหลังแรกของรัฐบาลน่าจะเอื้อต่อยอดขายของบริษัทในครึ่งปีหลัง โดยบริษัทมีที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทประมาณ 50-60% ของพอร์ต จึงเป็นอีก 1 บริษัทที่ได้รับผลดีจากโครงการดังกล่าว และมีส่วนแบ่งการตลาดในที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทประมาณ 7-8%
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะยังไม่มีการปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายทั้งปี แม้จะมีสถานการณ์เข้ามาเอื้ออำนวยก็ตาม เพราะจะต้องรอดูผลบวกที่เกิดขึ้นกับบริษัทก่อน ซึ่งน่าจะเกิดในครึ่งหลังปีนี้
สำหรับ ยอดขายในไตรมาสแรกปีนี้ดีเกินคาด อยู่ที่กว่า 4,000 ล้านบาท จากที่ตั้งไว้เพียง 4,000 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้ามีการทยอยโอนต่อเนื่อง และล่าสุด ภาครัฐมีโครงการบ้านหลังแรกก็น่าจะช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ได้ เพราะเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการบ้านหลังแรกเพื่อเข้าอยู่จริง

***** LPN ชี้ได้ประโยน์ 100% เหตุขายบ้านราคาต่ำกว่า 3 ลบ.
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือ LPN เปิดเผยว่า บริษัทจะได้รับผลดีหากรัฐออกมาตรการปล่อยกู้ดอกเบี้ย 0% ในช่วง 2 ปีแรก สำหรับผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้าที่มีอยู่ทั้งหมดเป็นลูกค้าที่ซื้อบ้านต่ำกว่าราคา 3 ล้านบาท
"กลุ่มเรา ได้ประโยชน์ทั้ง 100% เพราะลูกค้าทั้งหมดที่มีต่ำกว่า 3 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับ backlog ว่า ของค่ายไหนจะโอนได้มากน้อยอย่างไร"นายโอภาส กล่าว
ทั้งนี้ มองว่าโครงการบ้านหลังแรกของรัฐบาลเป็นเรื่องที่ดี ที่จะกระตุ้นให้แบงก์เอกชนมีการปรับตัว และปรับเปลี่ยนแพ็คเกจสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมและแข่งขันกับธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)ได้ ในภาวะที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น
นายโอภาส กล่าวต่อว่า สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/54 ของ LPN ทั้งกำไรสุทธิและรายได้ คาดว่าจะดีกว่างวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากมีการโอนโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งก่อสร้างเสร็จแล้ว โดยในไตรมาส 1/54 บริษัทมียอดขายประมาณ 3.6 พันล้านบาท ขณะที่ทั้งปีนี้บริษัทคาดรายได้อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งการรับรู้รายได้ในปีนี้ จะมาจากยอดขายที่รอการโอน 9.6 พันล้านบาท จากปัจจุบันที่มีประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ที่เหลือจะมาจากโครงการที่มีการก่อสร้างเสร็จแล้ว ขณะที่ทั้งปีนี้ บริษัทจะมีการเปิดโครงการใหม่ ประมาณ 10 โครงการ มูลค่ารวม 1.6 หมื่นล้านบาท

***** เคจีไอ-ฟินันเซีย ไซรัส แนะซื้อ PS-LPN-SPALI
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล.เคจีไอ เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเดินหน้าจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชน ผ่านโครงการบ้านหลังแรก และโครงการแปลงเช่าเป็นซื้อ ผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยโครงการบ้านหลังแรก ผู้ซื้อบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะได้ดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 2 ปี พร้อมทั้งยกเว้นค่าธรรมเนียมจดจำนอง และการโอน 3% ให้กู้เป็นเวลา 30 ปี มีวงเงินให้กู้ทั้งหมด 5 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเปิดให้ยื่นคำขอกู้กับ ธอส. ระหว่าง 1 พ.ค.- 30 ธ.ค. 2554 และทำนิติกรรมภายใน 1 พ.ค.2555 สำหรับโครงการแปลงเช่าเป็นซื้อ เพื่อให้ประชาชนสามารถมีบ้านเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น สำหรับผู้ที่เข้าถึงระบบสินเชื่อได้ยาก โดยโครงการดังกล่าวจะแทนค่าเช่าที่จะต้องเสียในแต่ละเดือนซึ่งผู้กู้จะต้องซื้อบ้านราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และจ่ายค่าเช่าอยู่แล้วไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนให้มีบ้านหลังแรกได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าว เป็นบวกต่อผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่มีสินค้าในกลุ่มราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยเฉพาะ PS LPN และSPALI ซึ่งมีฐานลูกค้าแข็งแกร่งในตลาดระดับกลางถึงล่าง แนะนำซื้อ PS LPN และSPALI โดยมีราคาเป้าหมาย 31.00, 13.00 และ16.00 บาทตามลำดับ
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า นโยบายที่อยู่อาศัยของกระทรวงคลัง โดยมีมาตรการโครงการบ้านหลังแรก ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทจะได้อัตราดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 2 ปี และยกเว้นค่าธรรมเนียมจดจำนองและการโอน 3% ให้กู้ 30 ปี วงเงินรวม 5 หมื่นล้านบาท เป็นมาตรการที่ช่วยเหลือประชาชนรายได้ต่ำ-ปานกลาง ซึ่งเป็นผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง (Real demand) โดยคาดว่าผู้ประกอบการที่ได้ประโยชน์คือ PS, SPALI, LPN เนื่องจากมีโครงการสร้างเสร็จและพร้อมโอนภายในสิ้นปีนี้มากที่สุด

-----------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น