Code 86 : ลุ้น Golden Cross

วันพฤหัสที่ 3 มิถุนายน 2553

ATT Code : ลุ้น Golden Cross
ต่างชาติเริ่มขายน้อยลงแล้ว และทั้ง DJIA HSKI NIX ต่างก็ยืนในแดนบวกันมากพอสมควร ทำให้เช้านี้ SET เปิดที่ 758.58 จุด +13.94 จุด ส่วน TFEX เปิดที่ 528 จุด + 8.80จุด

SET ปิดภาคเช้าที่ 762.77 จุด +13.09 จุด สามารถปิดเหนือ BB Average ที่ 760 ได้ และ เส้น 5 วัน 5 เริ่มตัดเส้น 10 วัน เป็น Golden Cross แล้ว ต้องรอดูตอนสั้นวันว่ายังคงยืนเหนือ 760 ได้อยู่มั้ย ต่างชาติขาย 480 ล.บ. TFEX ปิดที่ 530.60 จุด + 8.80จุด

ภาคบ่าย SET ปิดที่ 765.96 จุด +16.28 จุด V.24,142 M.B. Confirm เป็น Golden Cross แล้ว และก็ Break High เดิม ที่ 765.54 โดย
แนวต้านต่อไปอยู่ที่ 777 และ 787 แนวรับอยู่ที่ 755 - 760
ส่วน TFEX ปิดที่ 532.5 จุด +10.70 จุด ปิดยืนเหนือ BB Average ที่ 531 จุด และก็เป็น Golden Cross ตาม SET มีแนวต้านต่อไปที่ 535-538 และมีแนวรับที่ 523-527


ข่าวสั้น
-DJIA ทะยานขึ้นกว่า 2% โดยหุ้นพลังงานนำตลาด
-STEC และ UNIQ ชนะการประมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยกลุ่ม UNIQ ได้งานในสัญญาที่ 3 (เตาปูน-ท่าพระ) ด้วยราคา 11,320 ล้านบาท (ราคากลาง 11,352 ล้านบาท) ส่วน STEC ได้งานในสัญญา 4 (ท่าพระ-หลักสอง) ด้วยราคา 13,380 ล้านบาท (ราคากลาง 13,390 ล้านบาท)

--------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย

ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-หุ้นรับเหมาคึก!!
ดัชนีหุ้นวันที่ 2 มิ.ย.53 ปิดที่ 749.68 จุด เพิ่มขึ้น 8.76 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 13,946.38 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 687.80 ล้านบาท

หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด STPI ปิดที่ 26 บาท เพิ่มขึ้น 2.30 บาท, IVL ปิดที่ 17.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท, PTT ปิดที่ 244 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท, CPF ปิดที่ 17.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท และ PTTEP ปิดที่ 145 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป มองว่า แม้ดัชนีจะดีดเด้งขึ้นมาได้ด้วยวอลุ่มที่ไม่มากนัก โดยประเมินว่าตลาดรอบนี้ไม่ค่อยดีนัก เพราะยังมีปัญหาหนี้สินยุโรปที่ยังเป็นความกังวลของตลาดอยู่ ทำให้ดัชนีจะลงก็ลงไม่ลึกมาก และช่วงจังหวะที่จะขึ้นก็ขึ้นไม่แรงเช่นกัน ซึ่งคาดว่าตลาดจะเป็นลักษณะเช่นนี้อีกระยะหนึ่ง

ส่วนการที่ ธปท.คงอัตราดอกเบี้ยไว้ 1.25% ถือว่าเป็นไปตามคาดหมายจึงไม่มีผลต่อการลงทุนมากนัก ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และฝั่งยุโรป เพื่อพิจารณาผลกระทบที่อาจต่อเนื่องมายังเศรษฐกิจและตลาดหุ้นโลก ประเมินแนวรับดัชนีไว้ที่ 740 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 765 จุด

แนะกลยุทธ์การลงทุน "ขึ้นขาย-ลงซื้อ" หรือเก็งกำไรตามรอบ โดยถือหุ้น 50% และถือเงินสด 50%

ขณะที่มีบทวิเคราะห์สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ยังคงให้น้ำหนักการลงทุน "มากกว่าตลาดหรือแนะนำลงทุน" ในกลุ่มพาณิชย์ แม้เดิมคาดว่าธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง โดยนครหลวงไทยเลือกหุ้น CPALL เป็นหุ้นที่แนะให้ลงทุนสูงสุดของกลุ่ม ประเมินราคาเหมาะสม 35 บาท และแนะ "ซื้อ" HMPRO ให้ราคาเหมาะสม 6.70 บาท

ขณะที่แนะ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" หุ้น BIGC ให้ราคาเหมาะสม 53 บาท, หุ้น MAKRO ให้ราคาเหมาะสม 109 บาท และ GLOBAL ราคาเหมาะสม 3.60 บาท

ปิดท้ายแสดงความยินดีต่อหุ้นรับเหมาทั้ง STEC และ UNIQ ที่ชนะเลิศเสนอราคาต่ำสุดในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสัญญาที่ 3 และสัญญาที่ 4 ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างคึกคักเป็นพิเศษ ทั้ง CK, ITD, STEC และ UNIQ

บล.เอเซียพลัส คาดว่ากระแสการเก็งกำไรจะยังอยู่ต่อไปอีกระยะ เนื่องจากยังมีอีก 3 สัญญาในโครงการดังกล่าว ที่รอเปิดซอง โดยสัญญาที่ 1 และ 2 เป็นการก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดิน มูลค่า 11,694 ล้านบาท และ 10,818 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนสัญญาที่ 5 เป็นสัญญาระบบราง มูลค่า 5,169 ล้านบาท.

FSS : แรงขายเริ่มแผ่ว..มีสิทธิไม่ต่ำกว่า 700 จุดแล้ว แต่ยังแนะให้รอลงค่อยเริ่มซื้อ!!
แนวโน้ม: ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาสดใสอีกครั้ง โดยบวกขึ้นกว่า 2% จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังออกมาดีต่อเนื่อง ช่วยชดเชยความกังวลต่อปัญหาการรั่วไหลของน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก และความวิตกต่อปัญหาหนี้สินในยุโรปลงได้บ้าง โดยจะเห็นว่าดัชนี VIX ที่สะท้อนความกังวลของนักลงทุนก็เริ่มปรับตัวลดลงซึ่งล่าสุดวานนี้ลดลงกว่า 15% แม้จะยังเคลื่อนไหวในระดับสูงกว่า 30 จุดอยู่ แต่ก็ช่วยให้ตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่สามารถเปิดบวกกว่า 1% ซึ่ง FSS คาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้ SET สามารถดีดตัวบวกต่อเนื่องจากวานนี้ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดยังมีความเสี่ยงต่อการแกว่งตัวผันผวนและยังมีโอกาสที่จะย้อนปรับตัวลงอีกครั้งได้ เนื่องจากความกังวลเรื่องหนี้สินในยุโรปยังจะเป็นประเด็นกดดันต่อเนื่อง ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับมาตรการคุมเข้มของจีนก็ยังมีอยู่ ดังนั้นแนวโน้มที่ SET จะย้อนกลับลงไปหาจุดต่ำสุดในรอบที่ผ่านมาแถว 720 จุดหรือใกล้เคียงยังเป็นไปได้ แม้ว่าโอกาสที่จะหลุดลงไปต่ำกว่า 700 จุดอาจจะมีความเป็นไปได้น้อยลงบ้างแล้วก็ตาม
กลยุทธ์: ยังแนะนำให้เน้นถือเงินสดไว้ก่อน เพื่อรอหาจังหวะเข้าซื้อเพื่อถือลงทุนเมื่อดัชนีปรับตัวลงอีกครั้ง แต่โอกาสต่ำกว่า 700 จุดมีน้อยลง ดังนั้นอาจเริ่มทยอยรับได้เมื่อดัชนีลงไปแถว 720 จุดหรือใกล้เคียง โดยหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี (BANPU, PTTEP, PTTCH) โรงไฟฟ้า (GLOW) กลุ่มวัสดุฯ (SCC, SSI, DCC) กลุ่มอาหารและเกษตร (CPF, GFPT, TUF, TVO, STA) กลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ (KCE, DELTA) และกลุ่มยานยนต์ (SAT, STANLY)

ประเด็นสำคัญวันนี้
-DJIA ทะยานขึ้นกว่า 2% โดยหุ้นพลังงานนำตลาด
หลังจากที่วันก่อนมีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน วานนี้เริ่มมีแรงซื้อกลับ รวมถึงหุ้นอื่นๆ ด้วย จากข้อมูลที่บ่งชี้ว่ายอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนในเดือน เม.ย. รวมถึงยอดขายรถยนต์ในสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลักในเดือน พ.ค. ส่งผลให้นักลงทุนกลับมามีความมั่นใจต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอีกครั้ง แม้ว่าความพยายามครั้งล่าสุดที่จะยุติการรั่วไหลของน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกจะยังมีอุปสรรคก็ตาม ขณะที่ราคาน้ำมัน NYMEX ดีดกลับ 28 เซนต์มาปิดที่ 72.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
-STA ผู้บริหารมองว่าราคายางพาราปัจจุบันที่ 113 บาท/กก. แพงเกินไป (ราคานี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ สูงกว่าราคาเฉลี่ยทั้งปีของปีก่อนที่ 58 บาท/กก.) เชื่อว่าราคายางจะเริ่มขยับลงตั้งแต่เดือนนี้ โดยมองว่าราคาเฉลี่ยทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 90 – 99 บาท/กก. ตลาดหลักของ STA 40% อยู่ที่ลูกค้ารถยนต์ในจีน ซึ่งมีความต้องการสูงกว่าปีก่อนกว่า 10% แนวโน้มกำไร 2Q10 จะดีขึ้น Q-Q ดังนั้น กำไร 1H10 ไม่น่าต่ำกว่า 11 บาท/หุ้น แต่ 2H10 จะเริ่มลดลง เราคาดเบื้องต้นว่า EPS ปีนี้จะเป็น 13.80 บาท เนื่องจาก STA เป็น Pure commodity play ผันผวนสูงมาก ถ้าใช้ PE 5 - 6 เท่า ราคาหุ้นน่าจะ 70 – 75 บาท (ก่อนเพิ่มทุน หรือ 11 – 12 บาทหลังเพิ่มทุนและแตกพาร์) แนะนำให้เทรดดิ้งด้วยความระวัง กำไรที่แข็งแกร่งใน 2Q10 จะ support ราคาหุ้น แต่ความเสี่ยงคือหากเศรษฐกิจในยุโรปและจีนแย่กว่าคาด จะกระทบอุปสงค์ของยาง และหากราคาหุ้นเพิ่มทุนต่ำกว่าราคาบนกระดานมากก็จะเป็น sentiment เชิงลบกับหุ้น การแตกพาร์ (จาก 5 เป็น 1 บาท) เพิ่มทุน และ Dual listing ต้องรอกำหนดวันหลังประชุมผู้ถือหุ้น 28 มิ.ย.
-กลุ่มรับเหมา ขายก่อน เก็งกำไรใหม่เดือนหน้า STEC และ UNIQ ชนะการประมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยกลุ่ม UNIQ ได้งานในสัญญาที่ 3 (เตาปูน-ท่าพระ) ด้วยราคา 11,320 ล้านบาท (ราคากลาง 11,352 ล้านบาท) ส่วน STEC ได้งานในสัญญา 4 (ท่าพระ-หลักสอง) ด้วยราคา 13,380 ล้านบาท (ราคากลาง 13,390 ล้านบาท) หลังจากนี้จะมีการต่อรองราคา สรุปผล และเสนอ ครม. ประมาณ ก.ค. คาดว่าจะเซ็นสัญญากับผู้รับเหมาได้ในเดือน ส.ค. เริ่มก่อสร้าง พ.ย. และแล้วเสร็จ 2559 ส่วนการเปิดซองสัญญาที่เหลือ 1, 2 และ 5 น่าจะดำเนินการได้ในเดือน ก.ค. นี้ (ราคาหุ้นวานนี้รับข่าวไปแล้ว ขายก่อนแล้วเก็งกำไรใหม่เดือนหน้า) ปัจจุบันหุ้นที่มี PBV ต่ำสุดคือ PLE (BV=3บาท) รองลงมาคือ NWR (BV=0.59บาท) ITD (BV=2.54บาท) CK (BV=3.79บาท) STEC (BV=3.68บาท) แพงสุดคือ UNIQ (BV=2.40บาท)

FSS : News Comment
• สั่งปรับบุ๊คแวลู SSC หุ้นวิ่งเมินเทนเดอร์ ที่ปรึกษาการเงินให้ราคาพื้นฐาน 39.30 บาท ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ปรับราคาบุ๊คแวลูหุ้น SSC ใหม่
หลังประเมินสินทรัพย์ล่าสุด จาก 24.75 บาท เป็น 39.30 บาท ปมหุ้น SSC วิ่งแรง เมินราคาเทนเดอร์ฯ ฟันธงงานนี้ไม่มีใครยอมเอาหุ้นมาขายเทนเดอร์ฯ แน่ เหตุราคาในกระดานกำลังวิ่งเข้าหาบุ๊คแวลูใหม่ กูรูแนะรายย่อยที่อยากซื้อหุ้น SSC ต้องเป็นนักลงทุนระยะยาว อย่าหวังเก็งกำไร เพราะสภาพคล่องน้อย แต่ปันผลดี อนาคตสดใส (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 3-06-2010)
• UNIQ-STEC วิ่งกระฉ่อน! เข้าวินสีน้ำเงินสัญญา 3-4 UNIQ-STEC เข้าวินสายสีน้ำเงินสัญญา 3 และ 4 ราคาหุ้นวิ่งกระฉูดรับข่าวดี “นที” ระบุแบ็กล็อก “ยูนิคฯ” เพิ่มขึ้นเฉียด 20,000 ล้านบาท เผยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป รฟม.คาดเซ็นสัญญาไม่เกินเดือนส.ค.นี้ แจงภาษีสายสีม่วง ยันไม่ได้เอื้อประโยชน์เอกชน เหตุเพราะใช้เงินกู้ JICA ซึ่งมีเงื่อนไขไม่คิดภาษี การันตีแม้รวมภาษีและเงินสำรองจ่ายแล้วค่าก่อสร้างยังต่ำกว่าความจริง (ที่มา:นสพ.ข่าวหุ้น 3-06-2010)
• SPORT-SMM เจ๋งรับบอลโลก SPORT การันตีบอลโลก 2010 ได้ 70 ล้านบาทอยู่ในมือแน่ ด้าน “อดิศัย” ชี้งบไตรมาส 2-3 สุดหรู ได้เงินทั้งบอลโลกควบฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก วางแผนเปิดทีวีดาวเทียมใหม่อีก 2 ช่อง ในไตรมาส 3 ลั่นยิ่งช่วยหนุนเม็ดเงินโฆษณาเข้าทะลัก มั่นใจรายได้รวมทั้งปีโตตามนัด 10% แน่ ขณะที่ SMM เด่นไม่แพ้ เม็ดเงินโฆษณาไหลเข้าต้อนรับบอลโลกทะลักร่วม 80% สุดเจ๋งนำเสนอผลการแข่งขันผ่านป้ายจราจรอัจฉริยะ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 3-06-2010)
• หุ้นกลุ่มธนาคารยังแกร่ง โบรกฯมองหุ้นกลุ่มธนาคาร ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองเพียงระยะสั้น คาดผลประกอบการไตรมาส 2 อาจลดลงจากไตรมาสแรก แต่ไม่มาก ยังคงเป้าตัวเลขผลประกอบการทั้งปีไว้เท่าเดิม มอง BBL และ KBANK ยังแกร่งสุดในกลุ่ม พร้อมแนะนำซื้อเก็บ TCAP เหตุ ROE ดีขึ้น ขณะที่หุ้น BAY แม้จะถูกเทขายหนักในช่วงที่ผ่านมา แต่พื้นฐานยังดี แนวโน้มกำไรเพิ่มขึ้นใน Q2 ประมาณ 4% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 3-06-2010)
• ไอแบงก์ซื้อ NVL แจงจบเดือนนี้ยังสนฟินันซ่าฯ แบงก์อิสลามยืนยันราคาซื้อ NVL ต้องไม่สูงกว่า 1.40 บาท หากดีลไม่จบภายในเดือนนี้ หากตกลงกันไม่ได้ล้มแผนทันที ระบุสนใจธุรกิจลีสซิ่งอีกหลายแห่ง ในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนฟินันซ่าประกันชีวิต ยันต้องล้างขาดทุนสะสมให้หมดก่อน และจะไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุน พร้อมเตรียมแผนระดมทุนพันธบัตรอิสลาม วงเงิน 5 พันล้านบาท ขยายธุรกิจเพิ่ม (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 3-06-2010)
• โบรกฯเชียร์โตโย-ไทยเจ๋งสุดหุ้นกลุ่มก่อสร้าง โบรกฯมองหุ้น TTCL ดีสุดในกลุ่มก่อสร้าง เมื่อเทียบกับ CK ITD และ STEC ฐานะการเงินปึ้ก เงินสดในมือต่อหุ้นนำโด่ง 5.30 บาทต่อหุ้น PE ต่ำแค่ 8.6 เท่า เทียบกับ CK 96.4 เท่า และ STEC 19.5 เท่า ถือว่าราคาหุ้นโตโย-ไทยถูกมาก ผลตอบแทนปันผลสูงสุด 5.9% ขณะที่งานในมือล้น 8 พันล้านบาทรอเข้ามาใหม่อีก 4.5 หมื่นล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 3-06-2010)
• SPALI ดาวเด่นหุ้นปันผลดี ลุ้นครึ่งปีแรกจ่าย 0.30 บาท ทั้งปีรับยีลด์สูง 9% “ศุภาลัย” ดาวเด่นปันผลดี ครึ่งปีแรกคาดจ่ายไม่ต่ำกว่า 0.30 บาท แม้ Q2 กำไรชะลอลงจาก Q1 เซียนอสังหาฯฟันธงครึ่งปีหลังกำไรฟื้น รับแรงหนุนโอนคอนโดฯสร้างเสร็จ 3 โครงการ คาดทั้งปีโกยกำไร 2.88 พันล้านบาท โต 16% ลุ้นปันผลปีนี้ 0.67 บาท ยีลด์สูง 9% อนาคตสดใสรายได้โตต่อเนื่อง ตุนแบ็กล็อก 1.83 หมื่นล้านบาท สูงสุดในอุตสาหกรรม (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 3-06-2010)
• AIS ลั่นพร้อมลุยประมูลมือถือ 3.9 จี ตั้งกรอบงบลงทุนไม่ต่ำ 45,000 ล้าน AIS พร้อมรีวิวแผนทำ 3.9 จี มั่นใจปรับเปลี่ยนตามสภาพตลาดได้ทันเล็งตั้งบริษัทลูกใหม่เข้าประมูลไลเซนส์แล้ว วางกรอบการลงทุนมากกว่า 3 จี เดิมที่ 45,000 ล้านบาทแน่นอน หาก กทช.ต้องการให้ครอบคลุมพื้นที่ใช้บริการได้เร็ว จำเป็นต้องอัดงบปีแรกมากถึง 20,000 ล้านบาท ส่วนราคาเริ่มต้นจะเป็นหมื่นล้านบาทก็ไม่หวั่น พร้อมสู้ราคาไม่ถอย (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 3-06-2010)
• JUBILE อัดแคมเปญ จิวเวลรี่ผ่อนชำระได้ มั่นใจยอดขายเพิ่ม 30% JUBILE อัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า-ผ่อนชำระได้ เพื่อกระตุ้นการซื้อ ดันยอดขายเพิ่มขึ้น 30% ส่วนความวุ่นวายทางการเมืองกระทบเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทมีสาขาต่างจังหวัดช่วยชดเชยรายได้ ย้ำเป้าทั้งปีโต 20% คาดอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11-12% เชื่อตลาดฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง 2553 (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 3-06-2010)
• TPOLY ส่งซิกข่าวดีแจกวอร์แรนต์ “เจริญ”ลั่นหุ้นต่ำกว่า 1.90 บาทพร้อมกว้านซื้อหมด TPOLY แย้มมีแผนจะออกวอร์แรนต์ภายในปีนี้ “เจริญ” ลั่นใครขายหุ้นตอนนี้ รับซื้อหมด หากราคาต่ำกว่า 1.90 บาท มั่นใจรายได้-กำไรไตรมาส 2/53 ออกมาดีกว่าไตรมาส 1/53 เนื่องจากมีงานเพิ่มขึ้น ดัน Backlog ทะลุ 4,000 ล้านบาท ย้ำสิ้นปีโต 20% ตามเป้าที่ตั้งไว้ 2,100 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 3-06-2010)
• SENA เลื่อนเปิดธุรกิจให้เช่า Q3 เจอพิษการเมืองรุนแรง CI รับ Q2 กำไรลด “SENA” ยอมรับการเมืองรุนแรงทำพิษ เลื่อนเปิดโครงการธุรกิจให้เช่าย่านเจริญนครไป Q3 จากเดิมเล็งเปิดเดือนนี้ เหตุบรรยากาศไม่เอื้อ ส่วน Q2 คาดยอดขายหด แต่รายได้ใกล้เคียงไตรมาสแรก ส่วนทั้งปีมั่นใจรายได้ตามเป้า 1,500 ล้านบาท ด้าน CI เผยไตรมาส 2 รายได้ลด หลังการเมืองพ่นพิษยอดขายบ้านตก พร้อมเล็งเปิดทาวน์เฮาส์ 1 โครงการทหีั่วหิน-ชะอำเดือนนี้(ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 3-06-2010)
• RATCH ดีมานด์ไฟสูงดันงบ Q2 หรูเตรียมสรุปลงทุนต่างประเทศ1แห่ง RATCH ได้ดีการใช้ไฟฟ้าเดือนพ.ค.สูงแตะ 24,000 เมกะวัตต์ ดันงบ Q2/53พร้อมเดินเครื่องจักรเต็มที่หากความต้องการเพิ่ม ส่วนการลงทุนพลังงานทดแทนยังรอดูนโยบายรัฐ ด้านการลงทุนในต่างประเทศยังอยู่ระหว่างการเจรจาโบรกฯคาด Q3/52 สรุปได้ 1 แห่ง ทั้งนี้แนะถือลงทุน รับเงินปันผลครึ่งปีแรก 1.10 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 3-06-2010)
• SCC รับอานิสงส์เม็ดพลาสติกพุ่ง อุตสาหกรรมต้นน้ำน่าห่วง สเปรดราคาปิโตรเคมีรูดลง SCC รับอานิสงส์ราคาเม็ดพลาสติกดีดตัว แต่กลุ่มPTTCH-PTTAR-TOP ยังน่าห่วง สเปรดปิโตรเคมีปรับลงแรงจากซัพพลายใหม่ในเอเชีย กดดันราคาหุ้น โบรกแนะระยะสั้นเลี่ยงไปก่อน ลุ้นข่าวดีค่าการกลั่นน้ำมันช่วงนี้ดีดตัวช่วยพยุงกำไรไตรมาส 2/53 และหากคดีมาบตาพุดคลี่คลายในทางที่ดีจะทำให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัว (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 3-06-2010)
• สั่งสรรพากรโด๊ปท่องเที่ยว เปิดช่องใช้ใบเสร็จค่าพักโรงแรมหักภาษี “กรณ์” สั่งสรรพากร คิดมาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว ระบุเปิดโอกาสให้ประชาชนนำใบเสร็จค่าเดินทางและที่พักโรงแรม มาหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ส่วนอัตราของอุบไว้ก่อน หวังใช้กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงต่างชาติยังขาดความเชื่อมั่น เหตุผลกระทบจากการชุมนุม ด้านสรรพากรมองควรทำเป็นแพ็กเกจท่องเที่ยวร่วมกับผู้ประกอบการ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 3-06-2010)

--------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.

ไทยรัฐ -หุ้นมะกันพุ่ง225จุด-น้ำมันปิด72.86ดอลล์

หุ้นสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 225.52 จุด จากยอดขายบ้านในเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น ส่วนราคาน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ ปิดที่ 72.86 ดอลลาร์สหรัฐฯ...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีกลับขึ้นไปอยู่ในแดนบวก จากข้อมูลดัชนียอดขายบ้านในเดือน เม.ย. ที่เพิ่มขึ้น 6% มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ สะท้อนว่า เศรษฐกิจส่งสัญญาณกระเตื้องขึ้น โดยนักลงทุนมองข้ามปัจจัยที่รัฐบาลสหรัฐเตรียมสอบเอาผิดคดีแพ่งและอาญา กรณีน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโก ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ พุ่งขึ้น 225.52 จุด ไปปิดที่ 10,249.54 จุด แนสแดค ปิดที่ 2,281.07 จุด เพิ่มขึ้น 58.74 จุด และเอสแอนด์พี ปิดที่ 1,098.38 จุด เพิ่มขึ้น 27.67 จุด

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ ไปปิดที่ 72.86 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

--------------------------------------------------
Technical View : FSS
“ดัชนียังยืนเหนือรับแรกที่ 740 จุดได้ ทำให้ยังมีลุ้นดีดกลับขึ้นหาแนวต้านต่างๆ ในกรอบแกว่งเดิมอีกครั้ง แต่ยังเน้นขายทำกำไรเมื่อตลาดบวก เพราะโอกาสไหลย้อนลงไปหา 720 จุดยังเป็นไปได้...”
แนวรับ : 740-735* , 720-718** , 715-710***
แนวต้าน : 752** , 758-762***

--------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น