ATT Code : ข่าวร้ายไม่มี ข่าวดีไม่เกิด
วานนี้ ต่างชาติขายหุ้น 705 ล.บ. แต่กลับมา Long Future 1,269 สัญญา มีแนวโน้มที่จะสร้างฐานแล้วไปต่อได้ เพราะข่าวร้ายยังไม่มี ข่าวดีก็ไม่เกิด ทำให้ SET อยู่ในกรอบ 750-760 โดยถ้า SET จะไปได้ ก็ควรจะยืนที่ 760 ได้ก่อน แล้วค่อยมองไปที่ 766 แต่ถ้ายังไม่สามารถยืน 760 แล้วหลุด 756 ก็อาจจะทำให้ SET ไหลหลุด 750 กลับเป็นขาลงอีกครั้งได้ แต่ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามปัจจัยประเด็นปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะในแถบประเทศยุโรป อย่างใกล้ชิด เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก
ถึงแม้ว่าตลาดสหรัฐจะได้รับข่าวจากประธานเฟด เชื่อเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่กลับสู่ภาวะถดถอยอีก แต่ตลาดทางเอเซีย ก็ไม่ได้ดีดขึ้นตามตลาดสหรัฐ โดยตลาดเช้านี้ SET ก็เปิดที่ 760.65 จุด +3.24จุด ยืนเหนือ 5 วัน ที่ 758 ได้ แต่ก็คาดว่ายังไม่น่าจะมีแนวโน้มไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ยังคงสร้างฐานที่แนวเดิมคือ 756-760 อยู่ ส่วน TFEX เปิดที่ 525 จุด +2.10 จุด
Gold มีแนวรับอยู่ที่ 1,230 $ และแนวต้านอยู่ที่ 1,250 $
ภาคเช้า SET ปิดที่ 762.96 จุด +5.55 จุด V. 7,316 ต่างชาติ NET SELL 400 MB. ส่วน TFEX ปิดที่ 528.90 จุด
ภาคบ่าย SET เปิดที่ 765.13 จุด บวกโดดมาอีก 2.17 จุด ส่วน TFEX เปิดโดดที่ 532 จุด บวกมา 3.10 จุด โดยที่ช่วงบ่ายตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้น 3% และฮ่องกง +200 จุด +0.5% จากที่จีนเปิดเผยข้อมูลการส่งออกที่แข็งแกร่ง ในเดือน พ.ค.
SET ปิดตลาดที่ 764.21 จุด +6.80 จุด ถือว่าดีที่สามารถยืนเหนือ 760 ได้ โดยช่วงบ่ายสามารถขึ้นไปแตะที่ 766 ได้ แต่ก็มีแรงขายที่แนวต้านออกมา ลงมานิดหน่อย ก็ถือว่ายังไม่เสียแนว ส่วน TFEX ปิดที่ 528.90 จุด +6จุด ก็ถือว่าดีเหมือนกันที่สามารถยืนเหนือเส้น 5 วัน ที่ 527 ได้
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ก็ลุ้นมาจะสามารถยืนเหนือแนวที่ 766 ได้หรือไม่ เพราะตลาดหุ้นยุโรปก็เริ่มลบน้อยลงแล้ว เนื่องจากได้รับข่าวตัวเลขส่งออกจากจีนที่ช่วยหนุนตลาดให้ดีดขึ้นได้
--------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-หุ้นสื่อสารคึก!!
ดัชนีหุ้นวันที่ 8 มิ.ย.53 ปิดที่ 757.41 จุด ลดลง 2.44 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 16,099.27 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 705.26 ล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป มองแนวโน้มตลาดระยะสั้น คาดว่ามีโอกาสแกว่งตัวในกรอบแคบ ขณะที่ต้องติดตามการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจ ทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯและรายงานสต๊อกน้ำมัน รวมถึงความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ด้านเทคนิคประเมินแนวรับไว้ที่ 750 จุด โดยหากดัชนียังยืนเหนือ 750 จุดได้ ถือว่าตลาดยังอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่มองแนวต้านไว้ที่ 766 จุด
แนะกลยุทธ์การลงทุนให้เทรดดิ้ง 25% ของพอร์ต ลดลงจากเดิมที่ให้เทรด 50% ของพอร์ต ปิดท้ายหลังการปรับ ครม.ใหม่ กระทรวงไอทีซีถูกดึงกลับเข้ามาอยู่ในการดูแลของพรรคประชาธิปัตย์ ที่คาดว่าจะมีการเร่งผลักดันแผนคลอดไลเซ่นส์ 3G และ 3.9G ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมในอีก 3 เดือนข้างหน้า ส่งผลให้หุ้นสื่อสารกลับมาสดใสคึกคัก โดยฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ภายใต้ต้นทุนการขอใบอนุญาตใหม่ มีแนวโน้มสูงขึ้นจากเดิมราว 100% หาก กทช.จะนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ คือ 3.9G มาแทน 3G ทำให้คาดว่ามูลค่าที่เหมาะสมจากการให้บริการ 3.9G เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันไม่มาก คือประมาณ 3 บาท สำหรับ ADVANC และ 2.16 บาท สำหรับ DTAC ส่วน TRUE จะเพิ่มขึ้น 0.67 บาท แต่ Fair value ใหม่ที่รวม 3G จะมี upside 30%, 36% และ 13% ตามลำดับ
ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงเพิ่มน้ำหนักการลงทุนกลุ่มสื่อสารโดยชู ADVANC และ DTAC เป็น Top picks ขณะที่ปรับคำแนะนำ TRUE จากเดิมขาย เป็นถือ เนื่องจากการเข้าสู่ 3G และ 3.9G จะทำให้ผู้ประกอบการทุกรายมีต้นทุนที่ใกล้เคียงกัน สามารถแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม มากกว่าปัจจุบัน
ส่วน บล.กิมเอ็ง ปรับเพิ่มมุมมองต่อกลุ่มสื่อสารจาก "ถือ" เป็น "ลงทุนหรือมีมุมมองเป็นบวก" เชื่อว่าทั้ง ADVANC และ DTAC มีความพร้อมที่จะเข้าประมูล เนื่องจากมีฐานะการเงินแข็งแกร่งมาก ส่วนทรูมูฟค่อนข้างลำบากที่จะต้องเร่งหาเงินทุนสำหรับประมูล
ปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น ADVANC จากซื้อเมื่ออ่อนตัว เป็นทยอยสะสม ประเมินราคาเหมาะสมหลักไม่รวม 3 จี ที่ 99 บาท ขณะที่ให้ DTAC เป็นหุ้นเด่น แนะซื้อ ให้ราคาเหมาะสมไม่รวม 3 จี ที่ 41 บาท ส่วน TRUE นั้น คงคำแนะนำ ถือ ให้ราคาเหมาะสม 3.24 บาท.
FSS : ตลาดยังแกว่งตัวผันผวน..เทรดดิ้งต้องเน้นเล่นสั้นๆ ส่วนจังหวะซื้อจริงยังรอ!!
แนวโน้ม: ตลาดหุ้นไทยดีดขึ้นตามภูมิภาคได้ในช่วงเช้าวานนี้ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงขายกดดันให้ภาคบ่าย ทำให้ย้อนกลับลงมาปิดที่ระดับต่ำสุดของวันและเป็นลบไปเล็กน้อย เนื่องจากตลาดหุ้นยุโรปที่เปิดทำการในภาคบ่ายบ้านเราส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงประมาณ 1% ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศยังมีความกังวลต่อปัญหาหนี้สินในยุโรป ส่งผลให้ยังมีแรงขายออกมาเป็นระยะๆ แม้ว่าจะลดความรุนแรงลงแต่ก็ยังกดดันให้ SET ขยับขึ้นต่อไม่ไหว ส่วนเช้านี้แม้ว่าเมื่อคืนตลาดหุ้นสหรัฐจะสามารถดีดกลับขึ้นไปปิดเป็นบวกกว่า 1% จากบทสัมภาษณ์ของประธานเฟด ที่ยืนยันว่าเศรษฐกิจของสหรัฐยังมีแรงหนุนเพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะถดถอยรอบสองได้ แต่ตลาดหุ้นในเอเชียไม่ตอบสนองในเชิงบวกมากนัก โดยเปิดทำการมาส่วนใหญ่จะเป็นการแกว่งตัวแคบๆ และมีทั้งที่เป็นบวกและลบให้เห็น ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET จะยังแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่อง ซึ่งแม้ว่าอาจจะมีจังหวะบวกอยู่ได้แต่ก็จะบวกในกรอบจำกัด และยังมีแนวโน้มที่จะปรับพักตัวลงหาจุดต่ำใน 2 รอบที่ผ่านมาบริเวณ 720 และ 714 จุดตามลำดับได้ ซึ่งเรายังมองว่าระดับดัชนีที่น่าสนใจและสามารถดึงดูดแรงซื้อที่แท้จริงได้น่าจะอยู่ที่บริเวณ 715-700 จุดมากกว่าอยู่
กลยุทธ์: ช่วงนี้จึงยังแนะนำเป็นเพียงเทรดดิ้งสั้นๆ และเน้นขายทำกำไรเมื่อตลาดขยับบวก โดยหุ้นที่สามารถเข้าเก็งกำไรระยะสั้นได้แก่ กลุ่มที่คาดว่าจะได้เข้า SET50 (IVL, TISCO) กลุ่มแบงก์ (KBANK, KTB) กลุ่มส่งออก (CPF, GFPT, STA) และกลุ่มอสังหาฯ (PS, SPALI) และ CPALL รวมถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับบอลโลก (11 มิ.ย. – 11 ก.ค.) ได้แก่ RS, SPORT, DTAC, BEC และ TMB จากข่าว M&A ส่วนจังหวะซื้อเพื่อถือลงทุนยังแนะนำให้รอการแกว่งตัวลงไปแถว 715-710 จุดโดยประมาณก่อนค่อยพิจารณาเข้ารับต่อไป
ประเด็นสำคัญวันนี้
-มุมมองยังเป็นลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ฝรั่งยังไม่ซื้อ สภาพคล่องโลกตึงตัวมากขึ้น TED Spread ปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 0.417% จาก 0.386% เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 1 ปี สะท้อนความไม่เชื่อมั่นของสถาบันการเงินในการปล่อยกู้ระหว่างกัน
-ตัวเลขเศรษฐกิจจีนพฤหัส-ศุกร์มีแนวโน้มเป็นลบกับตลาด จีนจะรายงานเศรษฐกิจเดือน พ.ค. วันพฤหัส – ศุกร์นี้ มีแนวโน้มชะลอลง M-M อย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากมาตรการควบคุมการซื้อบ้านใหม่ คุมการปล่อยกู้ และการเพิ่มเพดานการกันสำรองของแบงก์ โดยตลาดคาดว่ายอดปล่อยกู้เดือน พ.ค. จะมีจำนวน 6 แสนล้านหยวน ลดลงจากเดือน เม.ย. ที่มียอด 7.74 แสนล้านหยวน ส่วนเงินเฟ้อคาดว่าจะเร่งตัวมากขึ้น ถ้าตัวเลขเศรษฐกิจแสดงถึงการชะลอตัวจะเป็นข่าวลบกับตลาด แต่ถ้ายังร้อนแรงต่อ ก็เป็นข่าวลบกับตลาดเช่นกันเพราะหมายถึงความกดดันในการขึ้นดอกเบี้ย หรือเพิ่มเพดานกันสำรองของแบงก์ (RRR) ที่ขึ้นมาแล้ว 3 ครั้งในปีนี้ ประกาศทุกครั้ง หุ้นลงทุกครั้ง
-ยังไม่ยกเลิกพรก. ฉุกเฉิน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์ว่าจะยังไม่มีการประกาศยกเลิก พรก.ฉุกเฉินใน 24 จังหวัด เพราะมีกระแสข่าวว่าอีก 2 เดือนกลุ่ม นปช. จะกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง แต่ทหารกลับเข้าสู่กรมกองเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงสารวัตรทหารและตำรวจดูแลสถานการณ์เป็นหลัก
-ธปท. เล็งปรับ GDP ขึ้น ในการประชุม กนง. วันที่ 14 ก.ค. นี้ ธปท.อาจจะปรับประมาณการ GDP ปีนี้ในกรอบบนให้สูงขึ้นกว่า 5.8% จากกรอบเดิมคาดการณ์เศรษฐกิจทั้งปีที่ 4.3% - 5.8% โดยมีโอกาสปรับเป็น 6% - 6.3% หลังปัจจัย "การเมือง-ภัยแล้ง" รุนแรงต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ แต่ยังห่วงวิกฤตหนี้ยุโรปที่ยังลุกลาม
-รมว. ไอซีทีคนใหม่เร่ง 3G และเคลียร์ปมสัมปทาน ขณะที่ข่าว 3G ที่ดูจะเป็นรูปธรรมมากขึ้น (บ่ายนี้ กทช. จะนำร่าง IM โพสต์ขึ้นเว็บไซด์หลังการประชุม) แต่การพิจารณาเรื่องค่าสัมปทานจะเป็นประเด็นกดดันหุ้นกลุ่มนี้ต่อไป เราเริ่มเห็นแรงขายหุ้นกลุ่มนี้ผ่าน NVDR แล้ว ประกอบกับราคาหุ้น ADVANC และ DTAC บวกขึ้นมา ~9% - 10% ในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ดังนั้น ในระยะสั้น แนะนำขายทำกำไรก่อนเช่นกัน แต่สำหรับการลงทุนกลาง-ยาว ADVANC ถือต่อได้เพราะมีเงินปันผล 3 บาทงวดครึ่งปีแรก และ 3.30 บาทครึ่งปีหลัง
FSS : News Comment
• ยัน 3 หุ้น mai ไม่มีปั่น วอลุ่มโป่งรับข่าวดี 'ศักรินทร์’การันตีทั้ง KIAT-CYBER และ TMI ฝ่ายตรวจสอบตลท. การันตี 3 หุ้นตลาด เอ็ม เอ ไอ TMI,CYBER และ KIAT ปลอดภัยไร้การปั่น เหตุหุ้น 2 ตัวแรกเป็นหุ้นน้องใหม่มหาชนให้ความสนใจ เทรดคึกคักวอลุ่มโป่งไม่ต่ำกว่าวันละ 130 ล้านบาท ส่วน KIAT มีข่าวรับงานโครงการใหญ่ 2 ช่วงสนับสนุน “ศักรินทร์” ยืนยันปัจจุบันหุ้น 3 ตัวนี้ไม่พบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ด้าน” ชนิตร” ลั่นหุ้นไอพีโอล่าสุดที่เข้าตลาดหุ้นมา 10 ตัวเหนือจองไอพีโอหมดทุกตัว (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-06-2010)
• SSC ลุ้นเทนเดอร์ล่มหรือรุ่ง จับตาวันสุดท้าย (10 มิ.ย.) แผนการเทกโอเวอร์ SSC จะล่มหรือไม่ หลัง “สตาทีจิค” ซื้อหุ้นเพิ่มได้เพียง 8.54% จากเป้าตั้งไว้ 51% และยังเหลือหุ้นอีกกว่า 2 ล้านหุ้น หากไม่มีใครขายเพิ่มงานนี้เป็นอันจบ แล้วรอไปอีก 1 ปี ค่อยว่ากันใหม่ (ที่มา: นสพ.ข่าว หุ้น 9-06-2010)
• EASTW กำไรพิเศษ 600 ล้าน EASTW รายได้-กำไรไตรมาส 2/53 เติบโตแบบก้าวกระโดด หลังรับรู้รายได้พิเศษประแสร์ให้กรมชลประทาน 1,677 ล้านบาท จ่อปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 53 โต 12% จากเดิมคาดโต 8-10% ลั่นพยายามรักษาปริมาณน้ำไม่ให้ต่ำกว่า 160 ล้านลูกบาศก์เมตร เผยอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก กำลังการผลิต 3-5 เมกะวัตต์ ประเมินปีนี้เห็นการลงทุน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-06-2010)
• DCC งบ Q2 โต15% กำไรไม่ต่ำ 284 ล้าน ราคาสินค้าปรับขึ้น DCC แย้มยอดขายไตรมาส 2/53 โต 15% จากปีก่อน หลังความต้องการยังคงมีต่อเนื่อง “ชนะ” ย้ำรายได้ทั้งปีขยายตัว 15% รับกำลังการผลิตใหม่ โบรกฯ คาดกำไร Q2/53 เพิ่มไม่ต่ำกว่า 20% ที่ 284 ล้านบาท จากการขึ้นราคาขาย 5 บาท/ตารางเมตร ช่วยชดเชยต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-06-2010)
• TCAP ปีนี้จ่อปันผล 6.7% วันนี้ปิดเทนเดอร์ฯสคิบ โบรกฯมอง "ทุนธนชาต" (TCAP) ยังคงได้รับผลบวกจากธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ในปีนี้ ส่วนการรับรู้กำไรจาก "นครหลวงไทย" (SCIB) จะเกิดขึ้นราวไตรมาส 3 คาดเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาทต่อเดือน ตามสัดส่วนหุ้นที่ถืออยู่ในสคิบ ส่วนเงินปันผลปีนี้จะสูงถึง 6.7% และปี'54 กว่า 10.2% ให้ราคาเป้าหมาย 30.84 บาท วันนี้เทนเดอร์ฯ หุ้นสคิบวันสุดท้าย (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-06-2010)
• BCP เล็งทบทวนโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ พลังงานลดราคารับซื้อแค่ 6.50 บาท หวั่นลงทุนได้ไม่คุ้มเสีย BCP อาจทบทวนโครงการ โรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ขนาด 30 เมกะวัตต์ หากกระทรวงพลังงานปรับลด Adder จากเดิม 8 บาทต่อหน่วย เหลือ 6.50 บาทต่อหน่วย หวั่นสร้างแล้วไม่คุ้มทุนเพราะราคาขายไฟฟ้าต่ำเกินไป “อนุสรณ์” เผยโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ เฟส 2 ไม่กระทบ เหตุเซ็นสัญญาขายไฟฟ้ากับกฟภ.แล้วในอัตรา 8 บาทต่อหน่วย (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-06-2010)
• SPALI ยอดขายพุ่ง 6.6 พันล้าน โชว์แบ็กล็อกสูงสุด 1.8 หมื่นล้าน Q3 เปิด 6 โครงการ “ศุภาลัย” 5 เดือนแรกโชว์ยอดขายทะลัก 6,600 ล้านบาท คงเป้ายอดขายทั้งปี 15,000 ล้านบาท พร้อมโชว์แบ็กล็อกสูงที่สุดในกลุ่ม 18,000 ล้านบาท ส่วน Q2 คาดสูงกว่า 1,500 ล้านบาท เหตุลูกค้าเร่งโอนรับมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนที่ยืดอายุถึงสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ Q3 เล็งเปิดบ้านและคอนโด 5-6 โครงการ รายได้ปีนี้มั่นใจตามเป้า 11,000 ล้านบาท เหตุครึ่งปีหลังรอบุ๊คคอนโดก้อนใหญ่ 6,000 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-06-2010)
• NBC ปันผลเจ้าแรกในเอ็มเอไอ จ่ายงาม 10 สต.-รายได้ปีนี้โต 10% NBC ประเดิมจ่ายเงินปันผลเจ้าแรกในเอ็ม เอ ไอ 10 สตางค์/หุ้น สูงเกือบ 1 ใน 3 ของปันผลทั้งปี 2552 ด้านผู้บริหารชี้งวดที่เหลือของปีนี้ยังได้เห็นปันผลอีกแน่ ลั่นไตรมาส 2 งบสุดหรู ยอดคนดูเคเบิ้ลพุ่งรับการเมืองร้อน แถมดึงโฆษณาเข้ามาได้อีกเพียบ มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามนัด 10% พร้อมจ่อคิวเปิดช่องใหม่ปลายสัปดาห์นี้ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-
06-2010)
• SVOA มั่นใจรายได้ปีนี้โตกว่า 10% ประมูลงานสพฐ. 3 พันล้าน การเมืองกระทบไม่มาก SVOA มั่นใจรายได้โตตามเป้า 10% เชื่อแนวโน้มงบ Q2 ทำได้ดีต่อเนื่อง จากงานประมูลคอมพ์สพฐ.เฟส 2 กว่า 3,000 ล้านบาท รอกระทรวงศึกษาฯกำหนดวันยื่นซองให้ชัดเจน พร้อมโดดเข้าร่วมประมูลแน่ เผยวิกฤตการเมืองกระทบไม่มากนัก เพราะงบประมาณยังเดินตามแผนเดิม คาดปีนี้รายได้จากงานภาครัฐคิดเป็นกว่า 20% ของรายได้รวม (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-06-2010)
• STEC มือขึ้นงานเพิ่ม 3 โครงการ 490 ล้าน ดันแบ็กล็อกกระฉูด STEC มือขึ้นคว้างานใหม่อีก 3 โครงการ มูลค่ากว่า 490 ล้านบาท หนุนงานในมือเพิ่มจาก 3.5 หมื่นล้านบาท บรรลุเป้าหมายในปี 2553 ที่คาดว่าจะมีงานในมือไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท โบรกฯแนะ "ซื้อ" คาดปี 2554 กำไรสุทธิเติบโตมากจากปีนี้ เนื่องจาก Backlog เพิ่มขึ้น และยังมีโอกาสได้งานในครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นจากโครงการภาครัฐ หลังการเมืองนิ่ง (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-06-2010)
• SENA งัดแคมเปญ “จองปั๊บรับทอง”กระตุ้นยอดขายตั้งเป้าเกิน 300 ล้าน “SENA” ประกาศงัดแคมเปญ “จองปั๊บรับทอง” กระตุ้นยอดขายลูกค้าที่ร่วมจับจองบ้านและคอนโดฯ มีสิทธิ์ได้รับทองคำหนักสูงสุดถึง 17 บาทต่อหลัง เตรียมนำคาราวานบ้านพร้อมอยู่และคอนโดฯกว่า 17 โครงการมาให้เลือกสรร ระหว่างวันที่ 10-16 มิ.ย.นี้ ณ ชั้น G ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ มั่นใจกระแสดีรับจังหวะภาครัฐขยายเวลา มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ ตั้งเป้ายอดขายงานนี้เกิน 300 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-06-2010)
• AMATA ฟุ้งปีนี้รายได้โต 200% เชื่อยอดขายที่ดินเข้าเป้า 900 ไร่ หลังการเมืองคลี่คลาย “อมตะฯ” โปรยยาหอมรายได้ปีนี้เติบโต 200% มั่นใจขายที่ดินเข้าเป้า 900 ไร่ ส่วนกำไรโตต่อเนื่อง หลังลูกค้ากลับซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อขยายธุรกิจภายหลังการเมืองในประเทศคลี่คลาย โชว์แบ็กล็อกรอโอน 364 ล้านบาท ด้านธุรกิจบริการสาธารณูปโภคเชื่อเติบโต 10% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-06-2010)
• คลังติดล็อก ‘กลุ่มไอเอ็นจี’ ขายหุ้น TMB ให้รายอื่นยาก คลังเผยแผนขายหุ้นทหารไทยให้พันธมิตรใหม่เกิดยาก ถ้าไอเอ็นจีกรุ๊ปยังไม่ถอนตัว หรือขายออกมาพร้อมคลัง ด้านประธานบอร์ดระบุรอคำตอบจากเนเธอแลนด์ อีก 1-2 เดือน พร้อมปฏิเสธแบงก์แดนภารตทาบซื้อ เดินหน้าจ่ายปันผลหลังผู้ถือหุ้นอนุมัติล้างขาดทุนสะสม (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-06-2010)
• หนีหุ้นหันตุน ‘ทองคำ’ จับตาแตะ 2 พันเหรียญ โบรกฯเผยนักลงทุนสถาบันแห่ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น หลังเศรษฐกิจยุโรปยังยืดเยื้อ คาดใช้เวลาเยียวยานานกว่าวิกฤตต้มยำกุ้ง ส่งผลทำให้ราคาทองคำสูงต่อเนื่อง ด้านโกลด์ฟิวเจอร์สยอดเทรดพุ่งไม่แพ้กัน พร้อมปรับประมาณการณ์ราคาทองคำจาก 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในสิ้นปีนี้เป็น 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านพอล วอล์คเกอร์ อดีตประธานเฟด คาดราคาทองอาจจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปลุกลามไปยังภูมิภาคอื่นๆ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-06-2010)
-------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ไทยรัฐ : หุ้นมะกันพุ่งหลังปธ.เฟดชีี้ศก.ฟื้นตัว
หุ้นสหรัฐพุ่งขึ้น หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ เชื่อเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่กลับสู่ภาวะถดถอยอีก ขณะราคาน้ำมัน ปิดที่ 71.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ...
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ตามเวลาท้องถิ่นว่า ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีปรับเพิ่มขึ้น หลังนายเบน เบอร์นานกี ประธานธนาคารสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงเดินหน้าฟื้นตัวต่อไป และว่าบรรดาผู้นำชาติยุโรปดำเนินมาตรการที่ถูกต้องแล้วในการควบคุมหนี้สิน ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ 9,939.98 จุด เพิ่มขึ้น 123.49 จุด แนสแดคปิดที่ 2,170.57 จุด ลดลง 3.33 จุด และเอสแอนด์พีปิดที่ 1,062 จุด เพิ่มขึ้น 11.53 จุด
ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ ไปปิดที่ 71.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
-------------------------------------------------------------
Technical View : FSS
“ต้องผ่าน 773 จุดขึ้นก่อนถึงจะน่าตามเทรดดิ้งต่อ ถ้ายังไม่ผ่าน ก็ยังเสี่ยงต่อการแกว่งลงต่อเนื่องไปหา 740 และ 720 จุดตามลำดับได้ ดังนั้นช่วงนี้ยังเน้นเทรดดิ้งแค่เบาๆ และขึ้นยังเน้นขายต่อไปก่อน!!”
แนวรับ : 750-748** , 744-740*** , 724-720
แนวต้าน : 760 ** , 768-773***
-------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น