วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555... เงาหุ้น - ขายทำกำไร!!

วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ไทยรัฐ - เงาหุ้น
ขายทำกำไร!!

ดัชนีหุ้นวันที่ 29 ต.ค. 55 ปิดที่ 1,279.57 จุด ลดลง 2.24 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 25,403.46 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 593.40 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด PTTEP ปิด 161.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท, PTT ปิด 316 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท, BBL ปิด 177 บาท บวก 2 บาท, CPALL ปิด 39.25 บาท ลดลง 0.75 บาท และ CPF ปิด 35.25 บาท บวก 0.25 บาท

บล.ฟิลลิปชี้ว่ามีแรงซื้อระยะสั้นเกิดขึ้นเมื่อดัชนีอ่อนตัวลง หลังมีแรงขายของต่างชาติออกมาต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นฤดูกาลขายหุ้นของต่างชาติช่วงปลายปี โดยเฉพาะเดือน พ.ย. ที่คาดว่าเม็ดเงิน Fund Flow จะไหลออกมากกว่าเดือนอื่น แต่น่าจะเป็นเพียงการขายทำกำไร ไม่ใช่การขายทิ้งเนื่องจากตลาดหุ้นเอเชียและหุ้นไทยยังมีทิศทางที่ดี

ขณะที่ช่วงปลายปีจะมีแรงซื้อจากกองทุน LTF และกองทุน RMF

เข้ามาช่วยพยุงตลาด และยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากหลายประเทศ ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นยังมีสภาพคล่อง แนะกลยุทธ์ให้นักลงทุนปรับ

พอร์ตเหลือหุ้นเพียง 25% เพื่อถือเงินสดและรอซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวลงมาที่ 1,270-1,250 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,285-1,290 จุด

ปิดท้ายหุ้น “เด็กแนว” บล.คันทรี่กรุ๊ปย้อนกลับมาเชียร์ หุ้น AI

ระบุว่าเคยแนะหุ้นตัวนี้ตั้งแต่ ส.ค.แถวราคา 5 บาท ถ้าถือมาเดือนกว่าจะได้ผลตอบแทนร่วม 40% ถึงวันนี้ต้องมา update หน่อยว่าจะเอายังไง หลังเชิญผู้บริหารเข้าร่วมสัมมนาที่เชียงรายเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ได้ข้อมูลว่าครึ่งปีหลังจะมีกำไรเพิ่มขึ้นราว 100% จากครึ่งแรก เนื่องจากธุรกิจ

ลูกถ้วยมียอดขายเพิ่มขึ้นมาก และมีอัตรากำไรสูงถึง 40% ขณะที่ธุรกิจ Bio diesel ซึ่งมีผลขาดทุนครึ่งแรกจะกลับมามีกำไรแล้ว สำหรับครึ่งแรกปี 55 กำไรบาน 180% ส่วนทั้งปีถ้าเทียบกับปี 54 จะโต 700% เลยอ่ะ ผู้บริหารยังให้ข้อมูลอีกว่าปี 56 โตรุนแรงยิ่งกว่าเพราะรายได้จากท่าเรือราว 500 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจใหม่ด้านคลังน้ำมันอีกกว่า 200 ล้านบาท จะรับรู้เข้ามานอกเหนือจากปกติ

และที่ต้องบอกว่าจะทำให้กำไรทะลักขึ้นไปอีกจากการนำคลังน้ำมันทั้ง 18 แห่งขายเข้ากองทุนอสังหาฯ ซึ่งจะมีกำไรเพิ่มอีกระดับร้อยล้านบาท ทั้งหมดนี้จะทำให้ปี 56 กำไรของ AI อาจสูงถึง 540 ล้านบาท ถ้าประเมินมูลค่าปี 55 ที่ PE 12 เท่า จะได้เป้า 8.35 บาท แต่ปี 56 เป้าจะยืดไปถึง 13 บาท ขอบอก AI พื้นฐานแข็งแกร่งระยะยาว ใครสะสมลงทุนมีแต่รวยกะรวยแถมปันผลที่เหลืออาจจ่ายเฉียด 5%

สัญญาณเทคนิคมีแนวต้านใกล้ๆที่ 8.40 บาท ยังมี up side เพียบ ช่วงสั้นลุ้น Q3 แจ้งกำไรแรงมั่ก!!

อินเด็กซ์ 51

-----------------------------------------------------------------------------

KK: จากประชุมเช้านี้ เรามีมุมมองค่อนไปในทางลบ ยังคงแนะนำ Switch เข้า TCAP
-          เรามีมุมมองค่อนข้างเป็นลบจากการประชุมเช้านี้ เรื่องการตั้งด้อยค่าความนิยมที่เกิดจากการควบรวมกิจการกับ PHATRA ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นใน 4Q12 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจ่ายเงินปันผล
-          Synergy ที่เกิดจากการควบรวมกิจการกับ PHATRA อาจจะยังไม่เห็นเต็มที่ในปีแรกของการดำเนินงาน (2013)
-          เรายังคงแนะนำให้ Switch ไป TCAP ซึ่งเป็นธนาคารในกลุ่มเช่าซื้อเหมือนกัน แต่คาดหวังเงินปันผลที่สูงกว่าประมาณ 4% ต่อปี และซื้อขายที่ PBV ถูกกว่าคือ 1.1 เท่า ในปีนี้ รวมทั้งในระยะสั้นยังมีประเด็นให้เก็งกำไรเรื่องการขายธุรกิจประกันออกไป ราคาเป้าหมายของ TCAP ปี 2013 ประเมินไว้ที่ 46 บาท
FSS Research


-----------------------------------------------------------------------------

BGH (BUY) คาดกำไรปกติ 3Q12 ทำ New High
เราคาดว่าผลการดำเนินงาน 3Q12 จะเติบโตโดดเด่นทั้ง Q-Q และ Y-Y จากปัจจัยฤดูกาล โดยคาดกำไรสุทธิที่ 1,753 ลบ. +37.7% Y-Y, +35.5% Q-Q และกำไรปกติคาดที่ 1,613 ลบ. +26.7 % Y-Y, +24.7% Q-Q ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ จากการเติบโตของรายได้ที่ยังคงโดดเด่นราว 14.9% Y-Y และ 11.5% Q-Q ส่วนแนวโน้ม 4Q12 คาดว่าจะชะลอตัวลง Q-Q แต่ยังคงเติบโตโดดเด่น Y-Y ได้เนื่องจากปีที่แล้วได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2012 และปี 2013 ที่ 7,607 ลบ. +73.4% Y-Y และ 6,644 ลบ. -12.7% Y-Y ตามลำดับ กำไรปกติคงไว้ที่ 5,812 ลบ. +48.8% Y-Y และ 6,644 ลบ. +14.3% Y-Y ตามลำดับ โดยเรายังคงชื่นชอบ BGH และเลือกเป็น Top Pick ของกลุ่มการแพทย์ คงราคาเหมาะสมปี 2013 ที่ 130 บาท แนะนำ ซื้อ

KBANK (BUY) คงมุมมองและคงเป็นหุ้นที่เราชื่นชอบสุดในกลุ่มธ.ขนาดใหญ่
KBANK ยังคงเป็นหุ้นกลุ่มธนาคารที่เราชอบที่สุด คาดการณ์ EPS Growth ปีนี้และปีหน้าที่แข็งแกร่งและน่าจะดีที่สุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่จากการเติบโตที่แข็งแกร่งทั้งรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย รวมถึงการปรับตัวลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน แม้ระยะสั้นผลประกอบการ 4Q12E จะอ่อนตัวลงจากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล แต่แนวโน้มการลงทุนในปีหน้ายังสดใส จึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ คงราคาเหมาะสมที่ 219 บาท



BCP (HOLD) 3Q12 กำไรพุ่งตามตลาดคาด จากรายการพิเศษ 
ผลประกอบการ 3Q12 พลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิ 1,071 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 384 ล้านบาทใน 2Q12 ตามตลาดคาด ส่วนใหญ่เป็นผลจากกำไรจากสต๊อกและ FX ขณะที่ผลการดำเนินงานปกติขาดทุนเพราะโรงกลั่นหยุดซ่อมจากเหตุไฟไหม้เมื่อต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2012 จากการรับรู้ค่าเคลมประกันและการที่โรงกลั่นกลับมาเดินเครื่องได้เร็วกว่าคาด ทำให้การใช้กำลังผลิตเพิ่มขึ้น สำหรับปี 2013 คาดกำไรจะเข้าสู่ระดับปกติ เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2013 ที่ 26.50 บาท ยังแนะนำเพียงถือ เนื่องจากราคาหุ้นปรับขึ้นมาสะท้อนผลประกอบการที่จะกลับมาเป็นบวกเพราะโรงกลั่นสามารถกลับมาผลิตเช่นเดิมใน 4Q12 แล้ว



MCOT (BUY) คาดกำไร 3Q12 ลดลง Q-Q แต่เพิ่ม Y-Y  ปรับราคาเป้าหมายขึ้น
คาดกำไร 3Q12 ลดลง 8% Q-Q แต่เพิ่ม 14% Y-Y แนวโน้ม 4Q12 flat Q-Q แต่เพิ่มเท่าตัว Y-Y เราปรับประมาณการกำไรปี 2012 - 2013 ขึ้นเล็กน้อย 2% และ 5% ตามลำดับ ทำให้กำไรปีนี้เติบโต 19% และปีหน้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก 10% ทำให้ราคาเป้าหมายปีหน้าถูกปรับขึ้นเป็น 36.50 บาท (อิง PE 14 เท่า) มี upside 14.1% จากราคาหุ้นปัจจุบัน และคาด Dividend yield 6.5% - 7.0% ต่อปี และยังมี upside จากการเข้าประมูลใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายประมาณ 1Q13 และการประมูลใบอนุญาตทำช่องรายการทีวีดิจิตอล

PTTEP (BUY) ผู้ถือหุ้นอนุมัติเพิ่มทุน...พร้อมขยายการลงทุน ยังแนะนำ ซื้อ
วานนี้ผู้ถือหุ้น PTTEP อนุมัติแผนเพิ่มทุนไม่เกิน 650 ล้านหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นทุกคน โดยราคาเสนอขายหุ้นจะทำโดยวิธี Book Building จากนักลงทุนสถาบัน เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนส่วนหนึ่งจะนำไปลงทุนใน Cove Energy คาดจะทำให้ PTTEP มีปริมาณสำรองเพิ่มจากปัจจุบันอีก 17% เทียบกับการเกิด Dilution effect ต่อ EPS ในปี 2013 ราว 19% ถือว่าเหมาะสมในระยะยาว และด้วยศักยภาพการทำกำไรในช่วงปี 2012 - 2013 ที่คาดว่าจะเติบโตสูงกว่า 20% เฉลี่ยต่อปี และคาดว่าราคาหุ้นเพิ่มทุนน่าจะอยู่ที่ 150-155 บาท/หุ้น ซึ่ง Discount จากราคาหุ้นเป้าหมายปี 2013 ที่ 195 บาท(หลังเพิ่มทุน) ดังนั้นจึงยังคงแนะนำ ซื้อ
PSL: 3Q12 ผลประกอบการปกติยังน่าผิดหวัง แต่มีกำไรพิเศษทำให้กำไรสุทธิยังเป็นบวกได้
§  ผลประกอบการปกติใน 3Q12 ยังคงน่าผิดหวังขาดทุน 81 ล้านบาท แย่กว่าไตรมาสก่อนที่มีกำไรปกติ 11 ล้านบาท และช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรปกติ 67 ล้านบาท เนื่องจากอัตราค่าระวางเรือที่ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
§  อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิใน 3Q12 ยังเป็นบวกได้ เนื่องจาก PSL มีการบันทึกกำไรพิเศษจากการแปลงหนี้ใหม่ของสัญญาสั่งต่อเรือเดินทะเลจำนวน 2 ฉบับ เป็นเงิน 305 ล้านบาท ส่งผลให้ PSL มีกำไรสุทธิ 3Q12 ที่ 219 ล้านบาท +1,569% Q-Q และ +9.7% Y-Y
§  รวมงวด 9M12 ผลการดำเนินงานปกติขาดทุน 108 ล้านบาท แย่กว่าปีก่อนที่มีกำไรปกติ 393 ล้านบาท แต่หากรวมรายการพิเศษต่างๆ งวด 9M12 จะมีกำไร 191 ล้านบาท ลดลง 73% Y-Y
§  แนวโน้มกำไรปกติใน 4Q12 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น Q-Q เนื่องจากอัตราค่าระวางเรือเทกองจะฟื้นตัวขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล
§  กำไรปกติปี 2012 มีแนวโน้มต่ำกว่าที่เราเคยคาดไว้ที่ 90 ล้านบาท สำหรับแนวโน้มกำไรปี 2013 เราคาดว่าจะเริ่มทยอยปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางอุตสาหกรรมเรือเทกองที่คาดว่าปัญหา Oversupply จะลดลงต่อเนื่อง
§  แม้ปัจจุบันราคาหุ้นจะปรับตัวลงมาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่เราประเมินปี 2013 ประมาณ 14.4 บาทต่อหุ้น จากค่าเฉลี่ย PBV ในอดีตที่ซื้อขาย 1.2 เท่า อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ ดังนั้น แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมายปี 2013 ที่ 14.40 บาท


FPI (BUY) คาดกำไร 3Q12 โตก้าวกระโดด ปรับกำไรปี 2012-13 ขึ้น
หมายเหตุ : บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) ที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก
คาดกำไรสุทธิ 3Q12 จะเติบโตก้าวกระโดดเป็น 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89% Q-Q และ 115% Y-Y เนื่องจากคาดว่ารายได้และอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มสูงกว่าที่เคยคาดเดิม และยังคาดว่ากำไรใน 4Q12 จะยังคงโดดเด่นใกล้เคียง 3Q12 ดังนั้น เราจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2012 ขึ้นจากเดิม 32% เป็น 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 183% Y-Y และปรับปี 2013 ขึ้นจากเดิม 50% เป็น 240 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% Y-Y ขณะที่เราคาดกำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้า จะยังคงเติบโตโดดเด่นเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ 20% แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2013 ที่ 13 บาท

SPALI (BUY) คาดกำไรปกติ 3Q12E ดีขึ้น Q-Q และจะสูงสุดใน 4Q12E
คาดกำไรปกติ 3Q12E เพิ่ม 58.1% Q-Q จากยอดโอนที่ขึ้น 52.4% Q-Q  แต่คาดกำไรปกติลด 26.3% Y-Y เพราะยอดโอนยังน้อยกว่า 3Q11 อยู่ 11.9% Y-Y และคาดว่ากำไรปกติใน 4Q12E จะสูงสุดของปี 2012 เพราะมีคอนโดก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนรวม 4 โครงการ ขณะที่ยอด Presales 3Q12 เพิ่ม 23.4% Q-Q และ 2.7% Y-Y ดีขึ้นจากยอดขายคอนโดเป็นหลัก บริษัทมี Backlog สิ้น 3Q12 อยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท รับรู้เป็นรายได้ระยะยาวจาก 2012E-15E เราคงราคาเป้าหมายปี 2013E ที่ 21 บาท PE 10 เท่า คงแนะนำ ซื้อจากแนวโน้มกำไร 4Q12E จะปรับตัวดีขึ้นมาก Q-Q และแนวโน้มกำไรปกติปี 2013E ยังเติบโตต่อเนื่องในอัตรา 10.2% Y-Y จากปี 2012E ที่คาดว่าจะเติบโต 28.0% Y-Y

Commodities WoW
Þ สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบปรับลงมาก โดยเฉพาะ WTI W-W (เป็นลบต่อ PTTEP และโรงกลั่น)
Þ ค่าการกลั่นปรับลง  W-W (เป็นลบต่อ TOP, ESSO,  BCP, PTTGC และ IRPC ) 
Þ ราคานาฟทา (วัตถุดิบปิโตรเคมี) ปรับลงแรงตามราคาน้ำมันดิบ W-W  
Þ ราคาปิโตรเคมีต้นน้ำสายโอเลฟินส์ (Ethylene) ปรับลง W-W (เป็นลบต่อ PTTGC IRPC และ SCC) 
Þ  ราคาอะโรเมติกส์ PX ปรับลง  W-W (เป็นลบต่อ PTTGC, TOP, ESSO)
Ü ราคาเม็ดพลาสติก HDPE ทรงตัว W-W (เป็นกลางต่อ PTTGC, SCC) และ PP ทรงตัว W-W (เป็นกลางต่อ IRPC, SCC)
Ü  ราคาเม็ดพลาสติก PVC ทรงตัว W-W (เป็นกลางต่อ VNT และ TPC)
Þ MEG ปรับลงเล็กน้อย W-W (เป็นลบต่อ PTTGC และ IVL)
Ü  ราคา PTA ทรงตัว W-W (เป็นกลางต่อ IVL)
Þ ราคาสังกะสีปรับลงเล็กน้อย W-W (เป็นลบต่อ PDI)
Þ ถ่านหินปรับลงต่ำสุดในรอบปี (เป็นลบต่อ BANPU, LANNA, AGE และ EARTH)
Ý  ราคาหมูบวกแรง +9.5% W-W หลังสิ้นสุดเทศกาลกินเจ (เป็นบวกต่อ CPF)
Þ ราคาน้ำตาลปรับลงแรง -4.6% W-W


HMPRO: กำไรสุทธิ 3Q12 ดีเท่ากับคาด 620 ล้านบาท (+5% Q-Q, +24% Y-Y) และจะดีต่อใน 4Q12E คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 14.10 บาท
-       ประกาศกำไรสุทธิ 3Q12 ตรงตามคาดเท่ากับ 620 ล้านบาท (เราคาดไว้ 622 ล้านบาท) เป็นการเติบโต 5% Q-Q และ 24% Y-Y
-       บริษัทมีกำไรสุทธิ 9M12 เท่ากับ 1,822 ล้านบาท (+31% Y-Y) คิดเป็น 68% ของประมาณการทั้งปี แนวโน้มกำไร 4Q12E จะเติบโตต่อเนื่องและเป็นกำไรสูงสุดของปีนี้
-       ยังคาดกำไรสุทธิปี 2012E และ 2013E เติบโต 35% Y-Y และ 28% Y-Y เป็น 2,699 ล้านบาท และ 3,443 ล้านบาท ตามลำดับ
-       คงราคาเป้าหมายปี 2013 เท่ากับ 14.10 บาท (DCF) คงคำแนะนำซื้อ

Research Dept.
Finansia Syrus Securities Public Co.,Ltd.



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น