DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ฟื้นตัวปิดบวก 0.63%
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดีโดยดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นถึง 1% แต่นักวิเคราะห์จำนวนมากมองว่าการดีดตัวเป็นเพียงระยะสั้น
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 75.42 จุดหรือ 0.63%สู่ 12,124.36, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 9.44 จุดหรือ 0.74% สู่ 1,289.00และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 9.49 จุดหรือ 0.35% สู่ 2,684.87
ปริมาณการซื้อขายเบาบางเพียง 6.31 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค,ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งต่ำกว่าระดับเฉลี่ยต่อวันของปีนี้ที่ 7.59 พันล้านหุ้น
จำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบ 1,904 ต่อ 1,076 ในตลาดนิวยอร์คและ 1,599 ต่อ 1,002 ในตลาด Nasdaq
รายงานที่บ่งชี้ว่ายอดส่งออกของสหรัฐสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย.นั้นได้คลายความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชะงักงันซึ่งถ่วงตลาดลงในช่วงที่ผ่านมา
การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มวัสดุและพลังงาน และนักลงทุนได้เข้าซื้อหุ้นกลุ่มการเงินที่ร่วงลงในช่วงที่ผ่านมาด้วย
ดัชนี S&P หุ้นกลุ่มวัสดุบวก 1.6% และดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานบวก 1.2%
ส่วนดัชนี KBW หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น 1.2%
นักเศรษฐศาสตร์หลายรายระบุว่าการพุ่งขึ้นของยอดส่งออกในเดือนเม.ย.อาจกระตุ้นให้มีการปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ของสหรัฐในไตรมาสสอง
แต่บรรยากาศการซื้อขายยังคงเปราะบาง โดยนักวิเคราะห์จำนวนมากยังคงคาดว่า ดัชนี S&P จะเข้าทดสอบระดับต่ำสุดของเดือนมี.ค.ที่ 1,250 หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาในช่วงที่ผ่านมา
ความวิตกเกี่ยวกับภาวะตลาดหุ้นหลังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสองวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ของเฟดสิ้นสุดลงในเดือนนี้นั้น ถ่วงตลาดลงด้วย
ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ดีดตัวขึ้นจากเส้นค่าเฉลี่ยในรอบ 200 วันและรักษาแนวรับสำคัญที่ระดับ 410 ไว้ได้
ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงเกินคาดในเดือนเม.ย. ขณะที่การส่งออกของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์และการนำเข้าจากญี่ปุ่นร่วงลงมากกว่า 25%
จำนวนชาวสหรัฐที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 1,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการต่อเนื่องลดลงมากเกินคาด--จบ--
ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:ราคาน้ำมันดิบปิดพุ่งต่อหลังโอเปกไม่เพิ่มการผลิต
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี ขณะที่ความล้มเหลวของโอเปกในการทำข้อตกลงเพิ่มการผลิตน้ำมันนั้น ยังคงทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่ตึงตัวในปีนี้
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ค.ปิดพุ่งขึ้น 1.19 ดอลลาร์ หรือ1.18% สู่ 101.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังปรับตัวในช่วง 100.74-102.44 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดลอนดอนปิดพุ่งขึ้น 1.72 ดอลลาร์หรือ 1.46% สู่ 119.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากปรับตัวในช่วง117.37-119.86 ดอลลาร์
แต่การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบถูกสกัดขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร โดยยูโรร่วงลงหลังธนาคารกลางยุโรปไม่เปลี่ยนแปลงการคาดการณ์เงินเฟ้อปี2012
ซึ่งบ่งชี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในยูโรโซนอาจช้ากว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้--จบ--
ราคาทองปิดตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.5% ในวันพฤหัสบดีซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นใน 1 วันมากที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบและธัญพืชทะยานขึ้นและความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยุโรปหนุนการเข้าซื้อทอง
ราคาทองยังได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทหลังร่วงลง 6 วันในช่วงที่ผ่านมา และราคทองปรับตัวขึ้นขณะที่ยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังธนาคารกลางยุโรปไม่ได้เปลี่ยนแปลงการคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2012 ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในยูโรโซนจะช้ากว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
ราคาโลหะเงิน, พลาตินั่ม และพัลลาเดียมปิดตลาดปรับตัวขึ้นเช่นกัน
สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันพฤหัสบดีมีดังต่อไปนี้
ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)
ทองเดือนส.ค. 1,542.70 + 4.00
เงินเดือนก.ค. 37.424 + 0.804
ส่วนราคาโลหะมีค่าที่ตลาด NYMEX ในวันพุธมีดังต่อไปนี้
ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)
พลาตินั่มเดือนก.ค. 1,844.70 + 13.50
พัลลาเดียมเดือนก.ย. 818.10 + 12.40--จบ--
ENGLAND:ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index)ปิดวานนี้ที่ 1428 ลบ 6 จุด
ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ (9 มิ.ย.) ลดลง 6 จุด
หรือ 0.42% สู่ระดับ 1428
ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554
ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-
วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)
8 มิ.ย. 1434 -22
7 มิ.ย. 1456 -28
6 มิ.ย. 1484 -5
3 มิ.ย. 1489 ไม่เปลี่ยนแปลง
2 มิ.ย. 1489 +4
>> มีลุ้นดีดตัว...
�� SETI ยังคงโดนกดดันจาก Indicators ทุกตัวที่ให้ค่าสัญญาณลบ และปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นทุกเส้น จึงทำให้แนวโน้มเป็นขาลง แต่มีลุ้นดีดตัวในระยะสั้นเนื่องจากแท่งเทียนปิดมีสีขาว ประกอบกับ
SETI เกิดการปรับตัวขึ้นหลังทดสอบแนวรับที่ 1000 จุด
�� ดังนั้นในระยะสั้นเราแนะนำ “ขาย”
KBS ปิด 10.80 บาท
ราคาพลิกกลับขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกเส้น ประกอบกับแท่งเทียนปิดมีสีขาวพร้อมวอลุ่มหนุน แนวโน้มแกว่งตัวขึ้นต่อ
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร” แนวต้านที่ 11.30-11.70 บาท แนวรับที่ 10.70-10.50 บาท Cut loss หากราคาต่ำกว่า 10.50 บาท
RAIMON ปิด 1.17 บาท
ราคาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น ในขณะที่ Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวก แนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อ
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร” แนวต้านที่ 1.29-1.40 บาท แนวรับที่ 1.16-
1.15 บาท Cut loss หากราคาต่ำกว่า 1.12 บาท
CNT ปิด 3.80 บาท
ราคาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น และ Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณลบ แนวโน้มปรับตัวลงต่อ
แนะนำ "ขาย” แนวต้านที่ 3.94-4.04 บาท แนวรับที่ 3.72-3.60 บาท
PDI ปิด 19.90 บาท
แท่งเทียนปิดมีสีดำพร้อมวอลุ่มหนุน ประกอบกับ MACD อยู่ต่ำกว่าเส้น Zero Line แนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย” แนวต้านที่ 20.10-20.50 บาท แนวรับที่ 19.00-18.00
บาท
ท่ามกลางวิกฤตยังมีโอกาส ขณะที่ต่างชาติแห่เทขายหุ้นไทย แต่กูรูยังเชื่อมั่น เม็ดเงินฝรั่งจะไหลกลับในเดือน ก.ค. ทั้งดัชนีฯ มีลุ้นเดินแดนบวกก่อนเลือกตั้ง 2 สัปดาห์ แนะช้อนซื้อหุ้น P/E ต่ำ 10 เท่า และเงินปันผลสูงกว่า 5% ชูหุ้นเด่น ASK -TMT-BCP-TVO-TPC-UPOIC-CPF-GFPT-PTTCH-BH- ADVANC-MAJOR- BECL- DTAC- SIS- RAIMON- SIRI-BGH-AMATA-BAY- BEC -CPALL-BBL-THAI
นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2554 เป็นต้นมาพบว่านักลงทุนต่างชาติทยอยเทขายหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยจากการรวบรวมข้อมูลการซื้อขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติในระยะเวลา 7 วันทำการ (1-9 มิ.ย.54) ปรากฎว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวมทั้งสิ้น 18,288.89 ล้านบาท
ส่วน SET Index ในช่วง 7 วันทำการที่ผ่านมา (1-9 มิ.ย.54) พบว่าเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2554 ดัชนีฯ ปิดตลาดฯ ที่ 1,065.63 จุด เปรียบเทียบกับดัชนีฯ ปิดวานนี้ที่ 1,016.85 จุด ปรากฎว่าดัชนีฯ ปรับลดลง 48.78 จุด หรือ 4.57% ซึ่งส่งผลให้มาร์เก็ตแคป (มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด) จากวันที่ 1 มิถุนายน 2554 ที่ 8,675,503.44 ล้านบาท มาอยู่ที่ 8,282,178.86 ล้านบาท ในวันที่ 9 มิถุนายน 2554
ขณะที่กูรูแต่ละค่ายยังเห็นว่าในวิกฤตยังมีโอกาสต่างตบเท้าออกมาแนะนำนักลงทุนเลือกหาจังหวะซื้อ แต่ควรเน้นเก็งกำไรเป็นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นปันผลเจ๋ง ขนาดกลางและขนาดเล็กยังมีความน่าสนใจลงทุนมากกว่าหุ้นบิ๊กแคป นอกจากนี้ยังมีลุ้นดัชนีฯ ดีดกลับก่อนเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554
***บล.เอเชีย พลัส ไม่หวั่นต่างชาติขายหุ้นต่อเนื่อง แนะซื้อสะสม หวังรับอานิสงส์ดีดกลับก่อนเลือกตั้ง 2 สัปดาห์
บล.เอเชีย พลัส เปิดเผยว่าแม้หุ้นไทยยังถูกดดันจากต่างชาติ แต่นักลงทุนระยะกลางและระยะยาว ยังคงแนะนำให้สะสมหุ้นประมาณ 40% ของเงินลงทุนรวม เพราะสถิติในอดีตบ่งบอกว่าเม็ดเงินต่างชาติจะกลับเข้าตลาดหุ้นอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม ประกอบกับตลาดหุ้นมักให้ผลตอบแทนเป็นบวกก่อนการเลือกตั้ง 2 สัปดาห์
โดยแนะนำหุ้น 3 กลุ่มหลักเช่นเดิม ประกอบด้วย P/E ต่ำ 10 เท่า และเงินปันผลสูงกว่า 5% ประกอบด้วย ASK, TMT, BCP, TVO, TPC, UPOIC รวมทั้งหุ้นที่ P/E ต่ำ 11 เท่า และ EPS เกิน 10% ประกอบด้วย CPF, GFPT, PTTCH และหุ้น Low Beta คือ BH, ADVANC, MAJOR, BECL
***บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะหาจังหวะซื้อหุ้น MAJOR- DTAC- SIS- RAIMON- SIRI- CPF- BGH-AMATA-BAY- BEC -CPALL เหตุเสน่ห์แรง
บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่าความวิตกต่อปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังเป็นประเด็นหลักในการกดดันตลาดหุ้น ขณะที่ SET ยังมีแรงขายหนักจากนักลงทุนต่างประเทศ หลังการออกรายงานแนะนำปรับลดการลงทุนในไทยลงจากหลายๆ สถาบันเช่น GS และ CS ในระยะนี้ ส่วนการปรับตัวลงมาค่อนข้างแรงมากในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับเช้านี้ยังพอมีข่าวบวกในกลุ่มน้ำมัน หลังจากที่ประชุมโอเปกเมื่อคืนนี้ยังไม่มีการขยับเพิ่มโควต้าการผลิต ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์คาดว่า SET มีแนวโน้มที่จะแกว่งทรงตัวได้และมีลุ้นโอกาสรีบาวน์กลับขึ้นในด้านบวกจากแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่ยังคงเน้นแนะนำลงทุนเพียงเข้าเก็งกำไรในระยะสั้นๆ ตามรอบเท่านั้นก่อน โดยจุดที่ต้องระวังแรงขายอีกครั้งคาดว่าจะอยู่ที่บริเวณ 1,025-1,035 จุด ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนเมื่อตลาดฯ ปรับตัวลงลึกสามารถหาจังหวะซื้อได้ แต่เน้นเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว โดยหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กจะน่าสนใจกว่า ได้แก่ MAJOR, DTAC, SIS, RAIMON, SIRI, CPF, BGH, AMATA, BAY, BEC และ CPALL เป็นต้น
***บล.โนมูระพัฒนสิน ระบุ SET Index หลุด 1,000 จุด ถูก force sell แนะระยะสั้นเก็งกำไร
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ นักวิเคราะห์อาวุโส บล.โนมูระพัฒนสิน เปิดเผยว่าสาเหตุที่วานนี้ (9 มิ.ย.54) ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงแรงหลุดระดับ 1,000 จุด เพราะในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา (6-8 มิ.ย.54) ดัชนีฯ ปรับลดลงรวม 50 จุด ซึ่งส่งผลให้บัญชีมาร์จิ้นโลนถูก force sell
ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงลดพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หลังจากที่ Over Weight ก่อนหน้าที่ผ่านมา ประกอบกับเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลดลง สำหรับแนวโน้มดัชนีฯ ในระยะสั้นมีความเสี่ยงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากปัจจัยเดิม โดยหากดัชนีฯ มีทิศทางปรับลงจะมีความเสี่ยงให้บัญชีมาร์จิ้นโลนถูก force sell ต่อเนื่อง สำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น แนะนำเก็งกำไร โดยมีจุด Stop Loss เมื่อดัชนีฯ ปรับลดลงทุกๆ 3% หรือรอซื้อที่แนวรับ 990 จุด และแนวรับถัดไปที่ 980 จุด
***บล.โกลเบล็ก เลือก BBL-PTTCH-TOP-THAI น่าลงทุน
นายธวัชชัย อัศวพรไชย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่าสาเหตุที่นักลงทุนต่างชาติทยอยเทขายหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ เพราะกังวลเกี่ยวกับปัจจัยทางการเมืองที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ซึ่งไม่มั่นใจว่าหลังจากการเลือกตั้งเสร็จ เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะการเลือกตั้งแล้วจะได้รับการยอมรับจากฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติยังคงจดจำภาพการเมืองของไทยในอดีตที่ผ่านมา
แต่จังหวะที่นักลงทุนต่างชาติทยอยขายหุ้นออกมานักลงทุนสามารถเลือกเข้าไปลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ พลังงาน ขนส่ง โดยแนะนำเลือกลงทุนในหุ้นของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL,บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTCH , บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI
" ในช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยก็น่าลงทุนทุกตัว เพราะราคาหุ้นก็ปรับลงมามากแล้ว ส่วนที่ต่างชาติขายหุ้นออกมา เพราะเขากังวลเกี่ยวกับปัจจัยการเมืองยังติดตามการเมืองไทยในอีดต แต่ระยะนี้ดัชนีฯ ก็มีโอกาสรีบาวน์ได้ในระยะสั้นๆ ก็ทยอยซื้อ" นายธวัชชัย กล่าว
***บิ๊ก mai แนะนลท.หาจังหวะช้อนหุ้นปันผลดี หลังฝรั่งทุบดัชนีร่วงอย่างต่อเนื่อง
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงภาพรวมของตลาดหุ้นไทยหลังจากที่ต่างชาติได้ทยอยขายหุ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันและล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2554 ขายกว่า 6,000 ล้านบาท
ทั้งนี้เริ่มเห็นต่างชาติขายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่หลังวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 ที่รัฐบาลประกาศยุบสภาเป็นต้นมา เพราะต่างชาติเกิดความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองเนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ และกรณีที่นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยออกมาค่อนข้างมากทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ตื่นตระหนก แต่ในความเป็นจริงแล้วช่วงปลายเดือนมีนาคม 2554 ซึ่งมีงาน Thailand Focus ต่อเนื่อง ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิ 29,000 ล้านบาท
ดังนั้นนักลงทุนไม่ควรที่จะตื่นตระหนกกับประเด็นดังกล่าวมากจนเกินไป แต่ควรใช้โอกาสนี้ในการเข้าเลือกซื้อหุ้น โดยเฉพาะบริษัทที่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาล ซึ่งปีที่แล้วมีประมาณ 100 บริษัท ที่จ่ายปันผลระหว่างกาล รวมไปถึงหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่
" ไม่ได้มองว่าตลาดหุ้นแย่จนต้องเชียร์ให้ซื้อหุ้นปันผลดี แต่แรงตื่นตระหนกมันมากเกินไป ดังนั้นให้นักลงทุนเลือกเอาว่าจะเลือกเล่นหุ้นที่มี Growth หรือหุ้นปันผลดี" นายชนิตร กล่าว
***ม.หอการค้าไทย คาดต่างชาติกลับเข้าตลาดหุ้นไทยอีกครั้งใน Q3/54 เหตุพื้นฐานศก.ยังแกร่ง
ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า สาเหตุที่นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ได้เทขายทำกำไรในตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากโบรกเกอร์ต่างชาติได้มีการปรับลดน้ำหนักการลงทุน โดยมองว่ามีความเสี่ยงในเรื่องของการเมืองสูงขึ้น จากการที่จะมีการเลือกตั้งเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่
แต่เชื่อว่าจะมีผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตและมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังมีโอกาสเติบโตเกิน 4% ทำให้เชื่อว่าแนวโน้มเงินทุนต่างชาติคงจะไหลกลับเข้ามาในช่วงไตรมาส 3/2554 ส่วนปัญหาหนี้สินในแถบยุโรป ไม่ได้เป็นประเด็นกดดันตลาดหุ้นไทยเนื่องจากยังไม่ส่งสัญญาณกดดันตลาดหุ้นประเทศแถบยุโรปให้ปรับตัวลดลง ซึ่งประเด็นหลักคงมาจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณชะลอลง จากตัวเลขว่างงานที่สูงขึ้น การซื้อสินค้าคงทนถาวร เช่น บ้านและรถยนต์ต่ำกว่าคาด รวมไปถึงกำลังการผลิตยังหดตัวลง ประกอบกับเงินกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ QE2 จะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน แต่ทางผู้นำสหรัฐฯ ยังคงระบุว่าจะใช้มาตรการงบประมาณขาดดุลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอาจจะไม่ใช้ QE3 ในการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ ดังนั้น จึงส่งผลเชิงลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
นอกจากนี้ เชื่อว่าการที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง เม็ดเงินต่างชาติจะยังคงไม่ไหลออกอย่างเต็มที่ แต่จะนำไปลงทุนในตราสารหนี้ โดยเฉพาะพันธบัตรระยะสั้น เพราะได้ผลตอบแทนที่สูงในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยเบื้องต้นประเมินอัตราดอกเบี้ยของประเทศในเอเชียจะปรับขึ้นเฉลี่ยอีก 0.5-1%
'ตลาดหุ้นไทยมีสัญญาณปรับตัวลดลง และมีสิทธิหลุด 1,000 จุด หลังจากที่โบรกฯ ต่างชาติลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทย แต่เชื่อว่ามีผลระยะสั้น เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังเติบโตดี โดยจีดีพีมีโอกาสเติบโตเกิน 4% ในปีนี้ โดยเชื่อว่าเงินทุนจากต่างชาติคงจะไหลกลับเข้ามาได้ในช่วงไตรมาส 3'ผศ.ดร.ธนวรรธน์ กล่าว
ด้านนายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่าภาคเอกชนมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ที่ออกมาจะมีผลกระทบให้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจไทยได้ในอนาคต โดยเฉพาะฐานะทางการคลัง หลังจากที่ธนาคารโลก ได้ออกมาเตือนว่านโยบายของพรรคการเมืองไทยจะนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจในอนาคต
แต่ส่วนตัวมองว่านโยบายของพรรคการเมืองแต่ละพรรคเป็นเพียงการโฆษณาเพื่อหวังเรียกคะแนนเสียงจากประชาชน ดังนั้นจะต้องจับตาดูว่าหลังการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จะมีนโยบายใดที่เป็นรูปธรรม แต่ขณะนี้ความเชื่อมั่นของต่างชาติได้ปรับตัวลดลงสะท้อนได้จากตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง จากความกังวลว่านโยบายของพรรคการเมืองจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะฐานะทางการคลังของประเทศ
'ตอนนี้ความเชื่อมั่นต่างชาติลดลงจากนโยบายของแต่ละพรรคที่หาเสียง เพราะหวั่นว่าในอนาคตจะกระทบและสร้างปัญหาให้กับเศรษฐกิจไทย แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นการโฆษณาเพื่อเรียกคะแนนเสียงเท่านั้น แต่หากเป็นเรื่องจริงทั้งหมดจะเป็นภาระทางการคลังอย่างแน่นอน ซึ่งต่างชาติได้วิตกกังวลจนเทขายหุ้นไทยและนำเงินไปพักไว้ลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะความเสี่ยงทางการเมืองของไทยยังมีค่อนข้างสูง'นายฉัตรชัย กล่าว
***BEC ปลื้ม! โบรกฯ แนะลงทุนช่วงฝรั่งเทขายหุ้น พร้อมมั่นใจพื้นฐานบริษัทแจ่ม-เน้นปันผลสม่ำเสมอ
นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่าสาเหตุที่นักวิเคราะห์แนะนำให้เลือกลงทุนหุ้น BEC ในช่วงที่นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทฯ ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมบันเทิง ซึ่งล่าสุดเม็ดเงินโฆษณาเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้รับปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อและบริโภคข้อมูลข่าวสารมากขึ้นด้วย จึงคาดว่าในปีนี้รายได้ของบริษัทฯ มีโอกาสเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2553 ที่ทำได้ 11,887.36 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังเป็นบริษัทฯ ที่เน้นการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ต่ำกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามที่แสดงในงบการเงินรวมและมีประเพณีที่จะจ่ายปีละสองครั้ง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของนักลงทุนไทยที่จะเลือกซื้อหุ้นที่ราคาปรับลดลงต่ำ แต่ปัจจัยพื้นฐานดี
สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ทันหุ้น
'เจ.พี' คาดน้ำมันแตะ 130 ดอลล์ 'TOP' รอรัฐใหม่ก่อนสอย 'ESSO'
เจ.พี. มอร์แกนคาด ราคาน้ำมันปีนี้แตะ 130 ดอลลาร์ หลังโอเปกล้มแผนเจรจาผลิตเพิ่ม ฟากตปท.
คาดระยะสั้นน้ำมันเฉียด 120 ดอลลาร์ จากปัจจัยทางธรรมชาติ ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และการ
ชะลอตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ส่วนผู้บริหาร TOP ประกาศก้องรอรัฐบาลชุดใหม่ ก่อนเดินหน้าซื้อกิจการ ESSO
แต่ย้ำการลงทุนต่อยอดธุรกิจเกิดแน่
ดัชนีดิ่งสยองก่อนเด้งขึ้น โบรกแนะสอยหุ้นปลอดภัย
ปลัดคังโวฝรั่งเทขายหุ้นไทยไม่เกี่ยวการเมือง เหตุหลักมาจากเศรษฐกิจสหรัฐยังเปราะบาง แย่กว่า
คาดไว้ ด้านผู้ว่าแบงก์ชาติบอกผลจากบทวิจัยของการลงทุนไทยความน่าสนใจลดลง ฝ่ายโบรกปลอบใจยกใหญ่
ดัชนีหุ้นไทยมีลุ้นรีบาวนด์แถมขึ้นทดสอบ 1,040 จุดเร็ว ๆ นี้ แนะสอยหุ้นปลอดภัย
'CEI' เบนเข็มธุรกิจพลังงาน เตรียมเปิดตัวพาร์ตเนอร์จีน
CEI วิ่งปรือ!!! รับกลุ่มทุนจีนเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าและถ่านหิน แถมล่าสุดได้ซัพพลายเออร์
รายใหม่ทำธุรกิจพัดลมขยายช่องทางจำหน่ายตลาดเกิดใหม่ ชี้ปีนี้ยอดขายพัดลมโตเกิน 60 ล้านบาท ส่วนผล
งานไตรมาส 3/2554 ยังรายได้กำไร 93.77 ล้านบาท โบรกฟันธงหากทุกอย่างเดินหน้ามีหวังผลงาน
เทิร์นอะราวนด์จับตาครึ่งหลังโตเท่าตัว ให้เป้าหมาย 5.00 บาท พี/อี 10 เท่า
SAMART ปีนี้เทิร์นอราวนด์ บุ๊กงาน 3G พันล.เป้า 12 บ.
ทีโอทีเคาะให้บริการ 3G ประเทศวันนี้ ผู้บริหาร SAMART คาดผลงาน Q2/2554 เด่น บุ๊กรายได้
ติดตั้งโครงข่าย 3G ของทีโอที 2 ล้านบาท พร้อมติดตั้งครบ 1,000 สถานีเดือนสิงหาคมนี้ หวัง ยอดผู้ใช้
บริการ MVNO สูงถึง 5 แสนราย โบรกแนะ "ซื้อ" เชื่อผลงานเทิร์นอราวนด์ เป้า 12 บาท
GSTEEL เดินแผนซื้อหุ้นกู้ขีดเส้นข้อเสนอสิ้นมิ.ย. 54
GSTEEL เผยเอกสารข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์และตลาดหลักทรัพย์ไทย ในการทำคำเสนอซื้อ
หุ้นกู้ 68 ล้านดอลลาร์ ที่จะครบกำหนดปีแก่ผู้ถือหุ้นกู้ที่มีสิทธิได้รับคำเสนอซื้อแล้ว โดยกำหนดค่าตอบแทนการ
ซื้อหุ้นกู้ไว้ที่ 0.70 ดอลลาร์สหรัฐ ขีดเส้นคำเสนอซื้อสิ้นผล 30 มิถุนายน 2554
DTAC เล็งนอนวอยซ์พุ่งกระฉูด เทรนด์ 3G หนุนกำไร-ปั้นผลงาม
DTAC คาดรายได้จากบริการนอน-วอยซ์ (Non-Voice) ปีนี้โต 20% หลังการใช้งานดาต้าโต 40%
ขณะที่โบรกจับตามองบริการ 3G จะเปิดตัวกลางเดือนกรกฎาคม นี้ เป็นแรงหนุนให้การใช้งานบริการ
Non-Voice เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะบริการอินเทอร์เน็ต บนมือถือ พร้อมอัพราคาเป้าหมาย
สูงถึง 72.80 บาท ภายใต้ใบอนุญาตใหม่ 3G แถมศักยภาพการเติบโตผลตอบแทนเงินปันผลสูงราว 7%
BECL จ่อสัมปทานสายศรีรัช โบรกส่องกำไรน่าสอยลงทุน
โบรกส่องผลงาน BECL ใหม่เห็นช่องทางโอกาสที่จะได้สัมปทานปรับเพิ่มจากงานประมูลก่อสร้างทาง
ด่วนเส้นทางใหม่ศรีรัช-วงแวนรอบนอก คาดรู้ผล 1-3 เดือนข้างหน้า หนุนให้บริษัท มีรายได้เพิ่มขึ้น และ
ได้รับคำยืนยันจากผู้บริหาร BECL ถึงปริมาณการใช้รถยนต์ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขยายการ
ลงทุนไม่หยุด ส่งผลการทำกำไรได้ต่อเนื่องทั้งระยะสั้น-ระยะยาว แนะ "ซื้อลงทุน" ราคาเหมาะสม
23.50 บาท
CCET โชว์ยอดขายพ.ค.โต 23% ขานรับไฮซีซัน-ถือรับปันผล
CCET กวาดยอดขายเดือนพฤษภาคม ทะลุ 1 เหมือนล้านบาท โต 23% หนุนยอดสะสม 5 เดือนตุน
ออเดอร์ ไปแล้ว 5.1 หมื่นล้านบาท โต 8% จากปีก่อนที่ทำได้ 4.7 หมื่นล้านบาท ฟากโบรกมองไตรมาส
2-3/2554 เข้าไฮซีซันดันผลงานเด่น แนะ "ถือ" รับปันผล เป้า 3.51 บาท
'SIRI' ยันหุ้นแกร่งพี/อี-บุ๊กต่ำ ส่องสัญญาณครึ่งหลังโตต่อ
โบรกแนะนักลงทุนเลือกเทรดดิ้งเป็นรายตัวช่วงตลาดผันผวน เล็งเล่นหุ้นไซซ์กลาง-เล็กน่าสน ด้าน
บิ๊กบอส SIRI "เศรษฐาทวีสิน" ยันพื้นฐานแกร่งพี/อี เรโช-บุ๊กต่ำติดดิน มั่นใจผลงานทั้งปีตามนัดชัวร์
พร้อมมองการณ์ไกล ครึ่งปีหลังโตต่อ ฟากโบรกเคาะเทคนิคให้ต้าน 4.80 บาท
'WORK' โบรกชี้เป้าไกล 14 บ. มั่นใจผลงานปี 54 ตามนัดแน่
WORK มีลุ้น โบรกให้ราคาเป้าหมาย 11.70 บาท หลังส่งสัญญาณการเติบโต รับทรัพย์หลายทาง
พร้อมเล็งปรับคาดการณ์รายได้รวมปี 2554 ขึ้นเป็น 1,761.06 ล้านบาท ด้าน "ครรชิต ควะชาติ" ลั่น
ไตรมาส 2 ผลงานแจ่ม แถมโฆษณาไหลเข้าไม่หยุด ส่อง Q3 ขยายตัวต่อเนื่อง มีงานจ่อเข้าคิวเพียบมั่นใจ
สิ้นปีเข้าเป้า
THAI ไม่สะเทือนคลังดอดหุ้นโบรกมองบวกบริหารคล่องตัว
สหภาพการบินไทย ออกโรงคัดค้านแปรสภาพรัฐวิสาหกิจเป็นเอกชน อ้างเป็นเรื่องใหญ่ที่คลังต้อง
รอบคอบเพราะเป็นธุรกิจเพื่อความมั่นคง แต่ขอปลดล็อกเกณฑ์บริหารให้เกิดความคล่องตัวและแข่งขันใน
ธุรกิจการบินได้ ฝ่าย DD "ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์" มองต่างมุมการลดสัดส่วนหุ้นเพียงเล็กน้อยจากคลังไม่
ได้เป็นประเด็นสำคัญ ฟากโบรกส่องผลบวกเพราะเกิดการบริหารคล่องตัว แนะ "ซื้อ" เป้าหมาย 60.25
บาท
แบงก์ธนชาตขอเวลา 3 ปี เพิ่มส่วนแบ่งรูดปรี๊ดโต 10%
แบงก์ธนชาต ปักธง 3 ปี กวาดมาร์เก็ตแชร์ธุรกิจบัตรเครดิต 10% จากปัจจุบันแค่ 3% หนุนฐานบัตร
พุ่งกระฉูด 1 ล้านบัตร จากเดิม 5 แสนบัตร ด้าน "ฌอง มาร์ค ดาแลร์" เตรียมผุดโปรโมชั่นเอาใจ
ลูกค้าต่อเนื่องเชื่อเป้าที่ตั้งไว้ทำได้ชัวร์ แถมออกแคมเปญโอนหนี้ดอกเบี้ยต่ำ 9.9% มัดใจ สู้กับ
"โครงการรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิตของรัฐบาทที่ดอกเบี้ย 10%
บล.โกลเบล็กเฟ้นหาพันธมิตร ยืนยันไม่มีปัญหากลุ่มผู้ถือหุ้น
"ชนะชัย" บล.โกลเบล็ก เปิดใจย้ำไม่ได้มีปัญหากับผู้ถือหุ้นกลุ่มคูหาเปรมกิจ และขณะนี้ยังอยู่ระหว่าง
ร่วมกันเฟ้นหาพันธมิตรที่เหมาะสม ที่ผ่านมาได้ทำงานเพื่อผลักดันนโยบาย บริหารรองรับการเปิดเสรีร่วมกัน
มาโดยตลอด
'SET Note' กำไรโตกว่า 30% อานิสงส์การควบคุมต้นทุน
SET Note ระบุ บจ.ไตรมาส 1/2554 ทำกำไรสูงาขึ้นกว่า 30% จากการควบคุมต้นทุนบริหารได้ดี
พร้อมให้ความสำคัญต่อการลงทุบริษัทในเครือหรือบริษัทที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทที่มีผลกำไรดีขึ้นถึง 400 กว่า
รายคิดเป็น 84% ของ บจ.ทั้งหมดที่ จดทะเบียน
บลจ.ยูโอบีโชว์ผลงานกองทุน 3 เดือนพอใจผลตอบแทน 2.23%
บลจ.ยูโอบี โชว์ผลการดำเนินงานกองทุนตราสารหนี้ ทรัพย์สินสุทธิวันที่ 27 พฤษภาคมอยู่ที่
5,748.32 ล้านบาท อัตราผลตอบแทน 3 เดือน 2.23% เชื่อลูกค้าพอใจผลตอบแทน แม้จะมีตัวถ่วงอย่าง
เศรษฐกิจโลก การเมือง และอัตราเงินเฟ้อในประเทศ ที่พุ่งแรงไม่หยุด แต่เชื่อการลงทุนตราสารหนี้ดี
กว่าถือเงินไว้เฉย ๆ ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก
กองตราสารหนี้มาแรงนิยมสูง ไทมิ่งแจ๋วเข้าซื้อหน่วยลงทุน
บลจ.ธนชาต-ฟินันซ่า ใจตรงกัน มองช่วงนี้เป็นจังหวะการลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เพราะผันผวน
น้อยสุดเมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้น ด้านธนชาตเสนอขาย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 112 (T-FixFIF112)
อายุโครงการประมาณ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ขณะที่ฟินันซ่า ส่งกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสาร
หนี้ 3 เดือน 5 (FAM FIX 3M5) มาอวด
โบรกพร้อมกันเทใจให้ 'BLA' เบี้ยปีนี้โตกว่า 20% กำไรก็งาม
โบรกเกอร์ เห็นพ้อง "ซื้อ" หุ้น BLA คาดเบี้ยประกันปี 2554 เติบโตกว่า 20% สูงกว่าภาพรวม
อุตสาหกรรมที่ประมาณ การว่าจะเติบโต 13-15% โดยรับแรงสนับสนุนจากธนาคารกรุงเทพ ในการเป็น
ช่องทางการขายสินค้าส่งผลให้มาร์เก็ตแชร์ BLA เติบโตมาเป็น 10% จากเดิมมีอยู่กว่า 7%
AGE ปรับเป้ารายได้โต 100% ปิดดีลเหมืองอินโดนีเซียสิ้นปีนี้
AGE ขยับเป้าปี 2554 เป็นรายได้พุ่ง 100% จากเดิมที่ตั้งไว้ 50% หลังดีมานด์ทั้งใน-นอกโตกระฉูด
แถมเปรยมีลุ้นขยับเป้าต่อช่วง Q4 นี้หากโควต้าถ่านหินใหม่เข้ามาเสริม ส่วน Q2/2554 เชื่อผลงานคล้าย
Q1/2554 ที่กำไร 74.83 ล้านบาท เหตุมีซัพพลายไม่พอต่อความต้องการ พร้อมยันปิดดีลร่วมลงทุน
เหมืองอินโดนีเซียแห่งแรกสิ้นปีนี้ ฟากนักวิเคราะห์ส่องต้านที่ 23.00 บาท
STEEL ดี๊ด๊าบจ.แห่ร่วมลงขัน
"STEEL" เนื้อหอม บจ.ขนาดใหญ่ด้านพลังงานอย่างน้อย 2 ราย ขอร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงานทด
แทน เชื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่ง และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้องค์กร คาดเซ็นสัญญาร่วมทุนภายในไตรมาส
3/2554 และจะชำระมูลค่าหุ้นภายในไตรมาส 4/2554
SALEE ทุ่ม 10ล. เพิ่มกำลังผลิตส่งสัญญาณไปต่อเป้า 4.80 บ.
SALEE ทุ่มงบ 10 ล้านบาท ซื้อเครื่องฉีดพลาสติกเพิ่ม หวังขยายกำลังผลิตแตะ 1.30 พันตันสิ้นปี
พร้อมตอกย้ำเป้าปี 2554 รายได้โต 30% จากปีก่อนที่ 775.60 ล้านบาท ขานรับเศรษฐกิจฟื้นหนุนออเดอร์
ทะลัก แจงเงินบาทแข็งค่าไม่กระทบธุรกิจ เหตุทำฟอร์เวิร์ดป้องกันความเสี่ยงไว้ล่วงหน้าแล้ว ด้าน
นักวิเคราะห์ชี้ลุ้นต้าน 4.30 บาท ให้เป้าหมายที่ 4.80 บาท
โบรกชี้กำไร 'LVT' คงที่ส่องเป้าหมายปีนี้ 2.12 บ.
โบรกส่องกำไร LVT ปีนี้ที่เดิม 150 ล้านบาทตามลำดับ เผยผลกระทบจากการเพิ่มทุนส่งผลให้เกิด
การ Dilution ของ EPS ในปีนี้ลงจากเดิมที่ประเมิน 0.40 บาท ต่อหุ้นมาเหลือ 0.35 บาทต่อหุ้น
หนุนราคาเป้าหมายในปี 2554 อยู่ที่ 2.12 บาทต่อหุ้น
สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
เปิดโผ72หุ้นเด้งเร็วชอร์ตเซลรีบซื้อกลับ คลังเมิน'โกลด์แมน แซคส์'ชี้ศก.ไทยสุดแหล่ม
เปิดโผหุ้นเด้งเร็ว 72 ตัว หลังเจอชอร์ตเซลหนัก ต้องรีบซื้อคืนเพราะดัชนีเด้งหลังแนวรับ 1,000
จุดแข็งแกร่ง บวกเข้าเขตขายมากเกินไป ทำให้ต้องไล่ซื้อคืนเพื่อปิดความเสี่ยง เอากำไรไว้ก่อน ด้านปลัด
คลังเมิน "โกลด์แมน แซคส์" แนะขายหุ้นไทย ระบุพื้นฐานเศรษฐกิจยังดี ปัญหาการเมืองไม่เกี่ยวกับสาเหตุ
ที่ฝรั่งขายหุ้นนำเงินกลับประเทศ แต่เกิดจากปัญหาภายนอกกลุ่มส่งออกขยายตัวดี ยอดจัดเก็บภาษี,มูลค่าเพิ่ม
ยังพุ่ง
INGแยก'แบงก์-ประกัน'เดินหน้าซื้อหุ้นTMBเพิ่ม
กลุ่มไอเอ็นจี (ING) เนเธอร์แลนด์ เตรียมแยกธุรกิจ"ธนาคาร" กับ "ประกัน" ออกจากกัน หวัง
ปั้นแบรนด์ประกันใหม่ ยันพร้อมซื้อหุ้นใน TMB เพิ่มจากคลัง หลังผลประกอบการไตรมาส 1/54 ออกมาแจ่ม
และหนี้เงินกู้กับรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เหลือเพียง 3 พันล้านยูโร ชม TMB ผลงานเยี่ยม
คลังเล็งขายหุ้นปตท.ทยอยปล่อยในตลาด
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเตรียมเสนอรัฐบาลใหม่ ขาย 4 หุ้นขนาดใหญ่ ปตท.
กรุงไทย อสมท และการบินไทย ในกระดาน สร้างสภาพคล่องในตลาดฯ การบินไทยปล่อยออกมากสุดต่ำกว่า
50% ส่วนกรุงไทยรอจังหวะหุ้นฟื้นลดเหลือ 52%
AGEดีวันดีคืนเป้าปีนี้โต 100% ซื้ออินโดนีเซีย
AGE เล็งปรับเป้ารายได้เป็นโต 100% ในไตรมาส 4/54 จากเดิม 5,000 ล้านบาท หลังแนวโน้ม
ความต้องการถ่านหินในประเทศและต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น พร้อมแผนลงทุนเหมืองอินโดนีเซียแห่งแรกปีนี้
คาดใช้เงินลงทุนไม่เกิน 1,000 ล้านบาท
TOPรับน้ำมันขาขึ้นโรงกลั่นซื้อได้ทั้งกลุ่ม
โอเปกเอฟเฟ็กต์ TOP ชี้คงโควต้าผลิตดันราคาน้ำมันกระฉูด "สุรงค์" มองราคาเฉลี่ยทั้งปีพุ่ง
105-110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มั่นใจ Q2 ไปได้สวย ค่าการกลั่นทรงตัวสูง 4-7 ดอลลาร์ เจพี มอร์แกน
ทำตะลึง ชี้ราคาน้ำมันจ่อทะยานถึง 130 ดอลลาร์ โบรกฯไทยย้ำถึงเวลาซื้อกลุ่มโรงกลั่น
TOP-IRPC-BCP-PTTA รับผลบวกไม่ต้องเจอสต๊อกกลอส
IVLเด้งแรงลุ้น49บ.ขานรับรายได้Q2หรู
"IVL" ได้ฤกษ์กลับมาเก็บเข้าพอร์ต หลังราคาปรับลดลงกว่า 20% เทคนิครีบาวด์ลุ้นแนวต้าน 46
บาท ผ่านได้ลุ้นไป 49 บาทขานรับรายได้ไตรมาส 2/54 สวยกว่าไตรมาสแรก ตามดีมานด์-ยอดขายที่เพิ่ม
ขึ้น ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 70% โบรกฯแนะซื้อราคาพื้นฐาน 63 บาท
จีสตีลซื้อหุ้นกู้คืน68ล้านเหรียญ เริ่มรับซื้อจากผู้ถือหุ้น 8-30 มิ.ย.นี้ ราคามีส่วนลด30%
GSTEEL ลุยซื้อหุ้นกู้คืนจากผู้ถือหุ้น 68 ล้านเหรียญสหรัฐ ราคามีส่วนลด 30% เริ่มรับซื้อวันที่ 8-30
มิ.ย.54 หลังออกหุ้นเพิ่มทุนขายให้เจ้าหน้า และอาเซลอร์ มิตตัล 13,316 ล้านหุ้น ลุ้นผู้ถือหุ้นโหวตเห็น
ชอบในการรับความช่วยเหลือจาก AM ในการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 ก.ค.54
STEELฟุ้งQ3ฟุ้งQ3ได้พันธมิตรร่วมทุน3บริษัทย่อยลุยโรงไฟฟ้าแสงแดด
STEEL ฟุ้งไตรมาส 3/54 ได้ผู้ร่วมทุนถือหุ้น 49% ใน 3 บริษัทย่อยทำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์
4 โครงการ คาดใช้เงินลงทุน 321 ล้านบาท ขณะที่บริษัทใหญ่ในตลาดกลุ่มพลังงานสนใจร่วมทุนโรงไฟฟ้า
โซลาร์ไม่ต่ำกว่า 2 รายเชื่อช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจของบริษัท
โนเบิลเพลินจิตแรง!ขายจริงยอดจองล้นรายได้ไตรมาส2แจ่ม
NOBLE ยิ้มร่า โครงการ "โนเบิล เพลินจิต" ยอดลงทะเบียนทะลัก คาดมีผู้ให้ความสนใจกว่า 1.5
เท่าของจำนวนยูนิตที่เปิดขาย ก่อนเปิดให้จองซื้อจริงวันที่ 19 มิ.ย.นี้ ส่วนแนวโน้มรายได้ไตรมาส 2/54
แจ่ม บันทึกกำไรพิเศษขายที่ดินเปล่าให้ LPN ประมาณกว่า 400 ล้านบาท โบรกฯแนะซื้อ เป้าหมาย 8.47
บาท
ปตท.จัดงานศิลปะฉลองครบรอบ25ปีเดินเครื่อง22มิ.ย.นี้
PTT เดินเครื่องจัดงานแสดงศิลปะ รวบผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นตลอด 25 ปี จัดแสดงควบคู่กับผล
งานศิลปินระดับชาติ 35 ภาพพิมพ์ประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์ 9 รัชกาล พร้อมร่วมเปิดประมูลภาพศิลปิน
ระดับชาติ นำรายได้ครึ่งหนึ่งทูลเกล้าฯถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เริ่มเปิดงานเป็นทางการ 22
มิ.ย.นี้
WORKอนาคตสดใสสมชื่อQ2กำไรเหนือ 55 ล้าน เม็ดเงินไหลเข้าทะลัก
WORK อนาคตสดใสเต็มพิกัด วงการเงินชี้ไตรมาส 2 กำไรสุทธิดีสุดรอบปี 2554 ยืนเหนือระดับ 55
ล้านบาท ไฮซีซั่นช่วยหนุนสุดตัว เม็ดเงินโฆษณาไหลทะลัก แถมได้เม็ดเงินจัดงานเข้าเพียบ มองกำไรสุทธิ
ทั้งปีทะลุ 200 ล้านบาท วางราคาเป้าหมาย 14 บาท
"เวิลด์แก๊ส"ยอมคืนคลังปิคนิคการันตียอดขายปีนี้โตอีก15%
"เวิลด์แก๊ส" ยืดอกคืนคลังแก๊ส 2 แห่งให้"ปิคนิค"ตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง คุยตั้งเป้ายอดขายปีนี้
8.6 ตันต่อปี เติบโต 15% รายได้แตะ 1.4 หมื่นล้านบาท หลังพลังงานมีราคาสูงขึ้นมาก พร้อมเพิ่ม
มาร์เก็ตแชร์อีก 2-3%
TIESโชว์แบ็กล็อกเกินพันล้านลุ้นงานใหม่ 3 โครงการ เชื่อธุรกิจไปได้สวย
TIES โชว์แบ็กล็อก 1,100 ล้านบาท รับงานก่อสร้างใหม่ 1 โครงการ มูลค่า 155 ล้านบาท
พร้อมลุ้นงานประมูลอีก 2-3 โครงการกว่า 1,500 ล้านบาท คาดทราบผลช่วงเดือนมิ.ย.นี้ และการ
ควบคุมต้นทุนที่ดี "ธีรพล" เชื่อดันผลประกอบการปีนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น
สทช.ยื่นปปช.-สตง.ตรวจสอบกทม.ส่อล็อกสเปกกำจัดขยะเอื้อพวกพ้อง
นายไชยนิรันดร์ พยอมแย้ม โฆษกเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ(ส.ท.ช.) เปิดเผยว่า
วานนี้ (9 มิ.ย.54) ตนเองพร้อมด้วยสมาชิกส.ท.ช.อีกจำนวนหนึ่งได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายปานเทพ กล้า
ณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจ
เงินแผ่นดิน (สตง.) เนื่องจากส.ท.ช.ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ขณะนี้สัญญาว่าจ้างเหมา
เอกชนกำจัดขยะกรุงเทพมหานคร(กทม.) มีปริมาณ 9,500 ตันต่อวันได้สิ้นสุดไปเป็นปีแล้ว แต่มีการแอบ
ต่ออายุให้ไปเรื่อยๆ โดยไม่มีกำหนด
SIMทุ่ม60ล้านเปิด"ไอเอ็มเอ็มแชต"ตั้งเป้าลูกค้า 5 แสนราย จับกลุ่มตลาดล่าง-กลาง
SIM ทุ่มงบ 60 ล้านบาทเปิดบริการ "ไอเอ็มเอ็ม แชต" บนมือถือฟีเจอร์โฟน หวังมีผู้ใช้บริการ 3-5
แสนราย จับกลุ่มลูกค้าระดับกลางและล่าง ก่อนเสิร์ฟบริการดังกล่าวยังต่างประเทศ ฟุ้งยอดขายมือถือสิ้นปีก
ว่า 4 ล้านเครื่อง ในขณะที่ลูกค้า 3 จี เอ็กซ์ที่ร่วมบริการผ่านเอ็มวีเอ็นโอกับทีโอทีสิ้นปีกว่าพุ่งกว่า 5 แสน
ราย
รฟม.เปิดซองสายสีเขียวปลายเดือน3บิ๊กก่อสร้างITD-STEC-CKลุ้นชิงดำ
นายชัยสิทธิ์ คุรุรัตน์ รองผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)กล่าวว่าสำหรับ
งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 13 ก.ม.นั้น ขณะนี้อยู่
ระหว่างการพิจารณาด้านเทคนิค หากผ่านด้านเทคนิคคาดว่าปลายเดือนมิถุนายน หรือต้นเดือนกรกฎาคม
2554 ก็จะสามารถเปิดซองราคาได้
หุ้นทั่วโลกยังทรุดอยู่กับที่อารมณ์บ่จอย-เฟดไร้มาตรการ QE3
หุ้นทั่วโลกยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ที่ทำไว้เมื่อวันพุธเมื่อวานนี้อารมณ์ของตลาดไม่สู้
ดีที่เฟดไม่ยอมส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสามในขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเพราะนักลงทุนมองว่า ธนาคาร
กลางยุโรปจะส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมเมื่อค่ำวานนี้
โอเปกเสียงแตก-ไม่เพิ่มกำลังผลิตราคาน้ำมันดิบพุ่งทะลุ100เหรียญ
โอเปกไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบได้ โดยจะใช้เวลาอีก 3
เดือนก่อนที่จะพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตใดๆ ส่งผลให้ราคาน้ำมันทะลุ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
"ยิ่งลักษณ์"ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ย้ำหากพรรคไหนได้เสียงส.ส.มา
อันดับ 1 ต้องจัดตั้งรัฐบาล เน้นแก้เศรษฐกิจ สามัคคีปรองดอง เชิญทุกภาคส่วนมาคุยกัน จะอดทนพิสูจน์ที่
ถูกกล่าวหาซุกหุ้น
"บีโอไอ"เผยอุตสาหกรรมชิ้นส่วนมุ่งไทย2ค่ายรถยนต์มุ่งผลิตอีโคคาร์ปีหน้า
บีโอไอเผย 5 เดือนแรกของปี ยอดคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนทะลุ 2 แสนล้านบาท มั่นใจยอด
รวมทั้งปีไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท เหตุนักลงทุนไม่กังวลการเมือง-ไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญและคาด
อุตสาหกรรมชิ้นส่วนมุ่งหน้าลงทุนในไทย ยืนยันมีรถอีโคคาร์ 2 ค่ายที่จะเปิดตัวปีหน้า
SCCCยันไฟไหม้โรงงานไม่กระทบการผลิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ปูนซีเมนต์ นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC ชี้แจงเหตุการณ์
เพลิงไหม้ที่โรงงานใน จ.สระบุรี ว่า วานนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 7.10 น. เกินเหตุเพลิงไหม้
สายพานลำเลียงหินปูน พื้นที่เตรียมวัตถุดิบ โรงงาน 3 ซึ่งพนักงานโรงงานฯ ได้เข้าระงับเหตุเบื้องต้นและ
ดำเนินการตามแผนฉุกเฉินโดยทันที ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยดับเพลิงเทศบาล
ธปท.เผยเงินไหลช่วง2สัปดาห์เยอะแต่ยังไม่น่ากังวล
ผู้ว่าการ ธปท. ระบุในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินทุนไหลออกจากไทย "ค่อนข้างเร็วและ
มาก" ทั้งจากตลาดหุ้นและตราสารหนี้โดยเป็นผลจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก และการเมืองไทยที่
กำลังจะจัดเลือกตั้ง
ยูโอบีโชว์อินคัมเดลี3เดือนปั้นได้ 2.23%-ดันมูลค่าสินทรัพย์พุ่ง
บลจ.ยูโอบี มั่นใจ อัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยลบสำคัญต่อการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายปีนี้
แนะ ลงทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยง ชูกองทุนเปิด ยูโอบี อินคัม เดลี 3 เดือน 2.23%
ให้ผลตอบแทนดีเหมาะกับช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น หลังพบผลตอบแทน-มูลค่าทรัพย์สินสุทธิช่วงที่ผ่านมาพุ่งพรวด
'ฟินันซ่า'แนะลงบอนด์สั้นช่วงรอจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
บลจ.ฟินันซ่า แนะนักลงทุน ลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อรอดูผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเพื่อลด
ความเสี่ยง ล่าสุดส่งกองทุนตราสารหนี้ 3 เดือน ผลตอบแทน 2.89% ต่อปีเป็นอีกหนึ่งทางเลือก พร้อม
เสนอขายถึงวันที่ 13 มิถุนายน 54 นี้
สลากชง2แนวทางขายหวยเข้าบอร์ดตัดสินใจ 15 มิ.ย.-ก่อนให้รัฐบาลใหม่เคาะ
สำนักงานสลากกินแบ่งฯ เสนอ 2 แนวทางทำสลากการกุศลออนไลน์เข้าบอร์ด 15 มิถุนายน นี้ แบ่ง
เป็นแนวทางของกองสลากเองและข้อเสนอของนายเกียรติ ก่อนเสนอรัฐบาลชุดใหม่พิจารณา ระบุถ้าไม่ต้อง
แก้ไขสัญญา สามารถเปิดจำหน่ายได้ภายใน 4-6 เดือน
โนมูระฯขยายฐานตจว.เปิดสาขาปีนี้อีก10แห่ง
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัดโดยตั้งเป้าเปิดสาขาห้อง
ค้าหลักทรัพย์ทั่วประเทศกว่า 10 แห่ง พร้อมกับขยายฐานการลงทุนในต่างประเทศ
ธนชาตขอแชร์บัตรเครดิต10%
TBANK ปักธงขอครองส่วนแบ่งตลาดบัตรเครดิตแตะ 10% ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 3% หลัง
ควบรวมกับ SCIB ตอดย้ำแผนควบรวมเสร็จทันภายในเดือน ต.ค.นี้
เช็ทโน้ตไตรมาส1บจ.ทำกำไรสูงขึ้น30%จากQ1ปี53
สายงานพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์องค์กรตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงาน SET Note Quarterly
Corporate Update พบว่าไตรมาส 1/2554 บริษัทจดทะเบียนมีผลประกอบการดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า
จากการควบคุมต้นทุนการดำเนินได้ดี และมีกำไรรวมเพิ่มขึ้นถึง 30.78% จากไตรมาส 1/2553 ส่งผลดีต่อ
ฐานะทางการเงินให้อยู่ในเกณฑ์มั่นคง บริษัทจดทะเบียนใช้เงินเพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยให้ความสำคัญต่อ
การลงทุนในบริษัทในเครือและบริษัทที่เกี่ยวข้องเป็นหลัก รวมถึงมีมูลค่าการระดมทุนเพิ่มขึ้นจากการระดมทุน
ของบริษัทขนาดใหญ่เพื่อขยายกิจการในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น