

DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 1.03% รับข้อมูลยอดค้าปลีกดีกว่าคาด
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือนในวันอังคารขณะที่การเปิดเผยยอดค้าปลีกช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจซึ่งถ่วงตลาดร่วงลงในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 123.14 จุดหรือ 1.03%สู่ 12,076.11, ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 16.04 จุดหรือ 1.26% สู่ 1,287.87และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 39.03 จุดหรือ 1.48% สู่ 2,678.72
ปริมาณการซื้อขายเบาบางราว 6.45 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค,ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งต่ำกว่าระดับเฉลี่ยต่อวันของปีนี้ที่ 7.58 พันล้านหุ้น
จำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบ 2,511 ต่อ 503 ในตลาดนิวยอร์คและ 2,034 ต่อ 592 ในตลาด Nasdaq
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การทะยานขึ้นของตลาดมีแนวโน้มเป็นการปรับตัวขึ้นวันเดียว โดยนักลงทุนใช้การเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกที่ดีเกินคาดเป็นข้ออ้างในการเช้าซื้อหุ้นหลังจากตลาดเข้าสู่ภาวะที่มีแรงขายมากเกินไปแล้วในปีนี้
ปัจจัยลบจำนวนมากยังคงมีอยู่ในตลาดได้แก่ ความวิตกเกี่ยวกับปัญหาหนี้ในยุโรปและสหรัฐ รวมถึงการสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรของสหรัฐในช่วงสิ้นเดือนนี้
ยอดค้าปลีกของสหรัฐลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือนในเดือนพ.ค.แต่ลดลงน้อยกว่าคาด ขณะที่ข้อมูลของจีนช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ตลาดปรับตัวขึ้นโดยรวม โดยดัชนีหุ้นกลุ่มค้าปลีกของมอร์แกน สแตนเลย์พุ่งขึ้น 2.8% และดัชนี S&P หุ้นกลุ่มพลังงานบวก 2% ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น
เงินเฟ้อในจีนยังคงเป็นความวิตก หลังดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีในเดือนพ.ค. และธนาคารกลางจีนได้ประกาศปรับเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50%--จบ--
ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:ตัวเลขศก.หนุนน้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้น 2.07 ดอลล์
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดพุ่งขึ้นกว่า 2 % ในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและจีนที่ช่วยลดความกังวลเรื่องอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ค.ทะยานขึ้น 2.07 ดอลลาร์ หรือ 2.13 %มาปิดตลาดที่ 99.37ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 96.51-99.44ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 1.06 ดอลลาร์หรือ 0.89 % สู่ 120.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยระดับปิดวันอังคารถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.เป็นต้นมา
ยอดค้าปลีกของสหรัฐร่วงลงในเดือนพ.ค.เป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน แต่ร่วงลงในระดับไม่มากเท่าที่คาด โดยยอดค้าปลีกร่วงลงเพียง 0.2 % ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกอาจร่วงลง 0.4 %
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐขยับขึ้น 0.2 % ในเดือนพ.ค. หลังจากบวกขึ้น0.8 % ในเดือนเม.ย. โดยดัชนีราคาผู้ผลิตขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเพราะว่าราคาน้ำมันเบนซินร่วงลง
ผลผลิตทางอุตสาหกรรมของจีนพุ่งขึ้น 13.3 % ต่อปีในเดือนพ.ค. หลังจากทะยานขึ้น 13.4 % ในเดือนเม.ย.
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 มิ.ย.ในวันพุธนี้ โดยโพลล์รอยเตอร์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 1ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.3 %
หลังจากตลาด NYMEX ปิดทำการ การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 3.0 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 426,000 บาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.2 %
--จบ--
ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ตัวเลขเงินเฟ้อจีนหนุนราคาทองปรับขึ้น
ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดปรับขึ้นในวันอังคาร หลังจากปิดตลาดในแดนลบติดต่อกัน2 วัน โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากภาวะเงินเฟ้อในจีน และจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของราคาสินค้าโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่ดีเกินคาด
ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนส.ค.เคลื่อนตัวในช่วง 1,512.80-1,526.70 ดอลลาร์โดยวอลุ่มการซื้อขายอยู่ที่ระดับเพียงครึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ย 30 วัน
ภาวะไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจช่วยหนุนราคาโลหะเงินในตลาดสปอตให้พุ่งขึ้น 2.4 %ในวันอังคาร หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือนว่าความล้มเหลวในการปรับขึ้นเพดานหนี้สหรัฐอาจก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากต่อความน่าเชื่อถือของสหรัฐ
สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อจากดัชนี ราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.5% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน
ยอดค้าปลีกของสหรัฐร่วงลงในเดือนพ.ค.เป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน แต่ร่วงลง ในระดับไม่มากเท่าที่คาด โดยยอดค้าปลีกร่วงลงเพียง 0.2 % ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกอาจร่วงลง 0.4 %
สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันอังคารมีดังต่อไปนี้
ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)
ทองเดือนส.ค. 1,524.40 + 8.80
เงินเดือนก.ค. 35.411 + 67.40 (เซนต์)
ส่วนราคาโลหะมีค่าที่ตลาด NYMEX ในวันอังคารมีดังต่อไปนี้
ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)
พลาตินั่มเดือนก.ค. 1,794.90 - 11.90
พัลลาเดียมเดือนก.ย. 790.90 - 7.55 --จบ--
ENGLAND:ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index)ปิดวานนี้ที่ 1400 ลบ 12 จุด
ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ (14 มิ.ย.) ลดลง 12 จุดหรือ 0.85% สู่ระดับ 1400
ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554
ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-
วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)
13 มิ.ย. 1412 -6
10 มิ.ย. 1418 -10
9 มิ.ย. 1428 -6
8 มิ.ย. 1434 -22
7 มิ.ย. 1456 -28
>> แนวโน้มขาลง...
�� SETI ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นมีแท่งเทียนสีขาวเต็มแท่ง รวมทั้ง Modified Stochastic และ RSI ให้ค่าสัญญาณบวก แต่ได้รับแรงกดดันจาก MACD ที่ให้ค่าสัญญาณลบ ประกอบกับ MACD ปิดต่ำกว่าเส้นZero Line แนวโน้มเป็นขาลง�� ดังนั้นในระยะสั้นเราแนะนำ “ขาย”
UAC ปิด 14.20 บาท
ปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกเส้น ประกอบกับแท่งเทียนปิดมีสีขาวพร้อมปริมาณการซื้อขายหนุน แนวโน้มแกว่งตัวขึ้นต่อ
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 15.30-16.00 บาท แนวรับที่ 14.00-13.80 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 13.60 บาท
SCP ปิด 18.10 บาท
Indicators ทุกตัวให้สัญญาณเป็นบวก และแท่งเทียนมีสีขาวพร้อมปริมาณการซื้อขายหนุน แนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 19.00-20.00 บาท แนวรับที่ 17.80-17.60 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 17.40 บาท
AMC ปิด 2.16 บาท
ปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น ประกอบกับ RSI ให้ค่าสัญญาณเป็นบวกแนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 2.26-2.36 บาท แนวรับที่ 2.12-2.08 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 2.04 บาท
DCON ปิด 3.70 บาท
ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับปิดมีแท่งเทียนสีขาวเต็มแท่ง รวมทั้ง Indicatorsทุกตัวให้สัญญาณเป็นบวก แนวโน้มแกว่งตัวขึ้นต่อ
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 3.90-4.10 บาท แนวรับที่ 3.66-3.62 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 3.58 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น