Code 435 : 15/02/54 Buy Signal ไม้ 2 แล้วตอนที่ผ่านเส้น EMA5... ไม้ 3 ตอนผ่าน EMA10...

วันพุธที่ 15 มิถุนายน 2554

ATT Code : Buy Signal ไม้ 2 แล้วตอนที่ผ่านเส้น EMA5... ไม้ 3 ตอนผ่าน EMA10...
"เก็งกำไร... แบบมีจุดตัดขาดทุน... ถ้าหลุด EMA5 อีกครั้ง..."

*** แนวโน้มหลัก : เป็น Buy Signal in Down Trend ***
* SETI ยังอยู่ในกรอบขาลงอยู่... ผ่าน Buy Signal ไม้ 1 และ ไม้ 2 มาแล้ว...
* SETI เข้ามาอยู่ในกรอบ ระหว่าง BBB กับ BBA... ซึ่งอยู่ในเขต Bear Market อยู่...
* SETI = Bullish Reversal...

Buy Signal
- ไม้ 1... ตอนดัชนี้ตัด BBB ขึ้นมา... 10/06/54... (Supported by %R + CCI)...
- ไม้ 2... ตอนดัชนีตัด EMA5 ขึ้นมา... 14/06/54... (Supported by... SSTO + RSI)...
- ไม้ 3... ตอนดัชนีตัด EMA10 ขึ้นมา... วันไหนหละ

1. เข้าที่...
วันอังคาร SETI ปิดที่ 1034.92 จุด +19.39 จุด...
- SETI ถือว่าดูดีมาก สามารถผ่าน EMA5... ปิดขึ้นมาเกือบถึง EMA10...
- EMA5 ต่ำกว่า EMA10... แต่เริ่มกลับตัวขึ้นแล้ว....
- EMA10 ต่ำกว่า EMA75... แต่เริ่มกลับตัวขึ้นแล้ว....
- Candlestick = Morning Star = Bullish Reversal พลิกกลับเป็นจุดเริ่มของการขึ้น....

- Main Indicators เริ่มมีสัญญาณบวกเพิ่มขึ้น... SSTO+RSI = Buy Signal...
1. MacD... Down Trend (MacD under Signal)... & Bearish Zone (Under Zero Line)... เริ่มมีการขยับขึ้นแล้ว... แต่ยังไม่ Confirm การกลับตัวเป็นขาขึ้น... รออีกนิดนึง...
2. SSTO... ฺีBuy Signal >>>Start to Up Trend (%K higher %D)... & ขึ้นมาจาก OS แล้ว (%K Higher than 20) เป็นวันที่แรก...
3. RSI... Buy Signal >>> (RSI Higher than MAV9)... & Still Weak (Under 50)...

- Minor Indicators มีสัญญาณเป็นบวกขึ้นมาเรื่อยๆ...
1. %R... Start to Up Trend & Buy Signal (Upper -90) ไม้แรกแล้ว... มีค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ...
2. CCI... Down Trend (Under Zero Line) & Rebound ขึ้นมาเรื่อยๆ.... มีโอกาสที่จะขึ้นมาอยู่เหนือเส้นศูนย์ได้...
3. ADX... ยังคง Down Trend (DI+ Under DI-)... เริ่มห่างกันน้องลงแล้ว...

2. ระวัง...
- แรงขายจากแนวต้านที่ EMA10...
- ถ้าดัชนีหลุด EMA5 ลงมาอีกครั้ง ก็จะเป็น Fault Signal ได้...
- "เก็งกำไร... แบบมีจุดตัดขาดทุน... ถ้าหลุด EMA5 ลงมาอีกครั้ง...."

3. ไป... (แนวโน้มวันนี้... ยังมีโอกาสเกิด Buy Signal ไม้ที่ 3... ถ้า SETI ขึ้นมาเหนือ EMA10)...
- หลังจากที่ดัชนีผ่าน EMA5 มาได้อย่างสวยงาม... ก็ต้องดูว่าจะมีแรงซื้อดันให้ผ่าน EMA10 เป็น Buy Signal ไม่ที่ 3 ได้หรือไม่...

กรอบเล็ก : 1027 - 1035
กรอบใหญ่ : 1010 - 1050

แนวรับ : EMA5 1027 / 1020 / 1015 / 1010
แนวต้าน : EMA10 1035 / EMA75 1047 / EMA25 1050


-----------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
15 มิย. 54 (+19.39 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

เป้าหมายสองสามวัน 1050 – 60 จุด
จากนี้ไปถ้าดัชนีไม่ต่ำกว่า เส้นค่าเฉลี่ย25 ชั่วโมง และสามารถปรับตัวขึ้นเกินเส้นค่าเฉลี่ย 25 สัปดาห์ได้ จะถือเป็นสัญญาณที่ดีของตลาด

เป้าหมายแรก ระยะสองสามวันข้างหน้าอยู่บริเวณ 1050 – 60 จุด แถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน

เป้าหมายหลัก ของการปรับตัวขึ้นรอบนี้ระยะสองสามเดือนอยู่บริเวณ 1090 – 1110 ใกล้จุดสูงสุดเดิมของปีนี้

หุ้นเด่น
TOP
ยังสามารถปรับตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25ชั่วโมงได้ ทยอยซื้อแถว 73.00 – 74.00 หรือรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 75.00 จุดสูงสุดวันอังคาร เป้าหมายสองสามวัน 77.00 – 80.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 72.25 )

IVL
ยังสามารถปรับตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25ชั่วโมงได้ ทยอยซื้อแถว 46.25 – 46.75 หรือรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 47.25 จุดสูงสุดวันอังคาร เป้าหมายสองสามวัน 50.00 – 52.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 45.25 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTT ไม่ต่ำกว่า 333 ขึ้น 345 – 350
ADVANC ไม่ต่ำกว่า 95.50 ขึ้น 104 - 106
BBL ไม่ต่ำกว่า 152 ขึ้น 158 - 160
COLOR ต่ำกว่า 6.40 ลง 5.80 – 6.10
KBANK ไม่ต่ำกว่า 112 ขึ้น 120 - 122
SCB ไม่ต่ำกว่า103 ขึ้น 110 - 112
KTB ไม่ต่ำกว่า 17.20 ขึ้น 18 - 19
DTAC เกิน 61 ขึ้น 62 – 63
TOP รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
PTTCH ไม่ต่ำกว่า 141 ขึ้น 149 – 150

-----------------------------------------------------------------------------

DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 1.03% รับข้อมูลยอดค้าปลีกดีกว่าคาด

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือนในวันอังคารขณะที่การเปิดเผยยอดค้าปลีกช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจซึ่งถ่วงตลาดร่วงลงในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 123.14 จุดหรือ 1.03%สู่ 12,076.11, ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 16.04 จุดหรือ 1.26% สู่ 1,287.87และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 39.03 จุดหรือ 1.48% สู่ 2,678.72

ปริมาณการซื้อขายเบาบางราว 6.45 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค,ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งต่ำกว่าระดับเฉลี่ยต่อวันของปีนี้ที่ 7.58 พันล้านหุ้น

จำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบ 2,511 ต่อ 503 ในตลาดนิวยอร์คและ 2,034 ต่อ 592 ในตลาด Nasdaq

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การทะยานขึ้นของตลาดมีแนวโน้มเป็นการปรับตัวขึ้นวันเดียว โดยนักลงทุนใช้การเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกที่ดีเกินคาดเป็นข้ออ้างในการเช้าซื้อหุ้นหลังจากตลาดเข้าสู่ภาวะที่มีแรงขายมากเกินไปแล้วในปีนี้

ปัจจัยลบจำนวนมากยังคงมีอยู่ในตลาดได้แก่ ความวิตกเกี่ยวกับปัญหาหนี้ในยุโรปและสหรัฐ รวมถึงการสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรของสหรัฐในช่วงสิ้นเดือนนี้

ยอดค้าปลีกของสหรัฐลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือนในเดือนพ.ค.แต่ลดลงน้อยกว่าคาด ขณะที่ข้อมูลของจีนช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

ตลาดปรับตัวขึ้นโดยรวม โดยดัชนีหุ้นกลุ่มค้าปลีกของมอร์แกน สแตนเลย์พุ่งขึ้น 2.8% และดัชนี S&P หุ้นกลุ่มพลังงานบวก 2% ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น

เงินเฟ้อในจีนยังคงเป็นความวิตก หลังดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีในเดือนพ.ค. และธนาคารกลางจีนได้ประกาศปรับเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50%--จบ--

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:ตัวเลขศก.หนุนน้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้น 2.07 ดอลล์

ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดพุ่งขึ้นกว่า 2 % ในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและจีนที่ช่วยลดความกังวลเรื่องอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ค.ทะยานขึ้น 2.07 ดอลลาร์ หรือ 2.13 %มาปิดตลาดที่ 99.37ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 96.51-99.44ดอลลาร์

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 1.06 ดอลลาร์หรือ 0.89 % สู่ 120.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยระดับปิดวันอังคารถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.เป็นต้นมา

ยอดค้าปลีกของสหรัฐร่วงลงในเดือนพ.ค.เป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน แต่ร่วงลงในระดับไม่มากเท่าที่คาด โดยยอดค้าปลีกร่วงลงเพียง 0.2 % ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกอาจร่วงลง 0.4 %

ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐขยับขึ้น 0.2 % ในเดือนพ.ค. หลังจากบวกขึ้น0.8 % ในเดือนเม.ย. โดยดัชนีราคาผู้ผลิตขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเพราะว่าราคาน้ำมันเบนซินร่วงลง

ผลผลิตทางอุตสาหกรรมของจีนพุ่งขึ้น 13.3 % ต่อปีในเดือนพ.ค. หลังจากทะยานขึ้น 13.4 % ในเดือนเม.ย.

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 มิ.ย.ในวันพุธนี้ โดยโพลล์รอยเตอร์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 1ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.3 %

หลังจากตลาด NYMEX ปิดทำการ การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 3.0 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 426,000 บาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.2 %

--จบ--

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ตัวเลขเงินเฟ้อจีนหนุนราคาทองปรับขึ้น

ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดปรับขึ้นในวันอังคาร หลังจากปิดตลาดในแดนลบติดต่อกัน2 วัน โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากภาวะเงินเฟ้อในจีน และจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของราคาสินค้าโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่ดีเกินคาด

ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนส.ค.เคลื่อนตัวในช่วง 1,512.80-1,526.70 ดอลลาร์โดยวอลุ่มการซื้อขายอยู่ที่ระดับเพียงครึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ย 30 วัน

ภาวะไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจช่วยหนุนราคาโลหะเงินในตลาดสปอตให้พุ่งขึ้น 2.4 %ในวันอังคาร หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือนว่าความล้มเหลวในการปรับขึ้นเพดานหนี้สหรัฐอาจก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากต่อความน่าเชื่อถือของสหรัฐ

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อจากดัชนี ราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.5% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน

ยอดค้าปลีกของสหรัฐร่วงลงในเดือนพ.ค.เป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน แต่ร่วงลง ในระดับไม่มากเท่าที่คาด โดยยอดค้าปลีกร่วงลงเพียง 0.2 % ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกอาจร่วงลง 0.4 %

สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันอังคารมีดังต่อไปนี้

ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)

ทองเดือนส.ค. 1,524.40 + 8.80

เงินเดือนก.ค. 35.411 + 67.40 (เซนต์)

ส่วนราคาโลหะมีค่าที่ตลาด NYMEX ในวันอังคารมีดังต่อไปนี้

ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)

พลาตินั่มเดือนก.ค. 1,794.90 - 11.90

พัลลาเดียมเดือนก.ย. 790.90 - 7.55 --จบ--

ENGLAND:ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index)ปิดวานนี้ที่ 1400 ลบ 12 จุด

ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ (14 มิ.ย.) ลดลง 12 จุดหรือ 0.85% สู่ระดับ 1400

ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554

ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-

วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)

13 มิ.ย. 1412 -6

10 มิ.ย. 1418 -10

9 มิ.ย. 1428 -6

8 มิ.ย. 1434 -22

7 มิ.ย. 1456 -28

>> แนวโน้มขาลง...

�� SETI ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นมีแท่งเทียนสีขาวเต็มแท่ง รวมทั้ง Modified Stochastic และ RSI ให้ค่าสัญญาณบวก แต่ได้รับแรงกดดันจาก MACD ที่ให้ค่าสัญญาณลบ ประกอบกับ MACD ปิดต่ำกว่าเส้นZero Line แนวโน้มเป็นขาลง�� ดังนั้นในระยะสั้นเราแนะนำขาย

UAC ปิด 14.20 บาท

ปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกเส้น ประกอบกับแท่งเทียนปิดมีสีขาวพร้อมปริมาณการซื้อขายหนุน แนวโน้มแกว่งตัวขึ้นต่อ

แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 15.30-16.00 บาท แนวรับที่ 14.00-13.80 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 13.60 บาท

SCP ปิด 18.10 บาท

Indicators ทุกตัวให้สัญญาณเป็นบวก และแท่งเทียนมีสีขาวพร้อมปริมาณการซื้อขายหนุน แนวโน้มเป็นขาขึ้น

แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 19.00-20.00 บาท แนวรับที่ 17.80-17.60 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 17.40 บาท

AMC ปิด 2.16 บาท

ปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น ประกอบกับ RSI ให้ค่าสัญญาณเป็นบวกแนวโน้มเป็นขาขึ้น

แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 2.26-2.36 บาท แนวรับที่ 2.12-2.08 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 2.04 บาท

DCON ปิด 3.70 บาท

ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับปิดมีแท่งเทียนสีขาวเต็มแท่ง รวมทั้ง Indicatorsทุกตัวให้สัญญาณเป็นบวก แนวโน้มแกว่งตัวขึ้นต่อ

แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 3.90-4.10 บาท แนวรับที่ 3.66-3.62 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 3.58 บาท


-----------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น