Code 54 : ยืดเวลา ยุบสภา

วันเสาร์ที่ 24 เมษายน 2553

ATT-Code : ยืดเวลา ยุบสภา อีก 30 วัน
จาการที่ นปช.ได้ประกาศจุดยืนให้รัฐบาลยุบสภาภายใน 30 วัน โดยรัฐบาลมีโอกาสสะสางเรื่องรางต่างๆ รวม 90 วัน แต่นายกได้ปฏิเสธการเจรจา และอาจจะมีการสลายการชุมนุมภายใน 48 ชั่วโมงนี้ ก็เป็นได้ ตามการวิเคราะห์ของแกนนำคนเสื้อแดง

ดูสถานการณ์แล้ว อาจจะมีการสลายการชุมนุม โดยเริ่มจากมีการใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ผลสรุปจะออกมาอย่างไร ไม่มีใครทราบได้ แต่นักลงทุนก็ต้องมีกลยุทธ์เอาไว้ในใจของตนเอง เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น เพราะว่ามันไม่มีใครหนีความจริงไปได้....
Let it be... อะไรจะเกิดมันต้องเกิด

เรามาคุยกันเรื่องเบาๆ บ้างดีกว่า
วันนี้...เป็นวันเปิดสนาม การแข่งขันกีฬา "ฟุตซอล" ของเหล่าโบรกเกอร์ทั้งหลาย คือ Broker Cup ซึ่งจัดกันที่สนาม S-One บางนา มีทั้งหมด 4 สาย สายละ 6 ทีม โดยมีโบรกเกอร์เป็นหลัก และก็มีทีมที่เชิญมาแข่งขันด้วย เช่น ทีมตลาดหลักทรัพย์ ทีมที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นต้น ไม่รู้ว่าน้องๆ ที่เขียน Blog ทั้ง 2 คน ทั้ง Wizard Kid และ Trader's Journey มาร่วมด้วยรึป่าว ภาพรวมของการแข่งขันวันนี้ ทุกคนเล่นเพราะอยากเล่นกีฬา อยากออกกำลังกาย และก็สายความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในแวดวงโบรกเกอร์ และก็ลงท้ายตาม concept ของเราเอง "เล่นกีฬา ออกกำลังกาย เหล้า เบียร์ เพียบ"


------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-กลยุทธ์เอเซียพลัส!!
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 23 เม.ย.53 ปิดตลาดที่ 754.58 จุด ลบ 6.60 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 17,949 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิหนีบึ้ม 2,325.11 ล้านบาท

บทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส คาดดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มไหลต่อลงไปแตะ PER 12 เท่า หรือที่ 700-711 จุดอีกครั้ง ตราบที่วิกฤติการเมืองยังส่อเค้ารุนแรง ขณะที่เสถียรภาพของรัฐบาลง่อนแง่น

ฝ่ายวิจัยแนะนำให้นักลงทุนถือเงินสดที่ระดับ 80% ของเงินลงทุนต่อไป และถือหุ้นเพียง 20% โดยให้หาโอกาสปรับพอร์ตการลงทุนใหม่ ทั้งนี้ ให้เน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์ หรือฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก แต่ให้หลีกเลี่ยงหุ้นที่กระทบจากปัญหาการเมืองในประเทศ โดยแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นอีกครั้ง เมื่อดัชนีใกล้ 700 จุด หรือต่ำกว่า

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำให้นักลงทุนระยะกลางและระยะยาว ที่ถือหุ้นอยู่แล้วบางส่วนคือ 20% ดังกล่าว หาโอกาสปรับพอร์ตการลงทุน โดยให้เลือกหุ้นที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ขณะเดียวกัน ให้ลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองในประเทศโดยตรง

โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก คือ 1. อุตสาหกรรมที่เน้นตลาดส่งออกเป็นหลัก ได้แก่ GFPT, TUF, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ HANA, SMT, DELTA, KCE รวมทั้งชิ้นส่วนรถยนต์ SAT, STANLY เป็นต้น

2. ผู้ผลิตและสำรวจปิโตรเลียมรวมทั้งถ่านหิน ที่จะได้ประโยชน์ราคาสินค้าปิโตรเลียมขาขึ้นโดยตรง คือ PTTEP, PTT, BANPU, LANNA 3. เดินเรือ ทั้งเทกอง TTA, PSL และ RCL

ส่วนหุ้นที่แนะให้หลีกเลี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากการเมือง โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีแนวโน้มจะต้องปรับลดประมาณการกำไร และมูลค่าที่เหมาะสมในปี 2553 ลง พร้อมทั้งอาจปรับลดน้ำหนักการลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรม เมื่อเทียบกับน้ำหนักของตลาด

ดังนี้ หุ้นโรงแรม ERAWAN, CENTEL และ MINT กลุ่มอสังหาริมทรัพย์, รับเหมาก่อสร้าง, ศูนย์การค้าคือ CPN!!

TNN : หุ้นไทยผันผวนจากปัจจัยการเมือง
บริษัทหลักทรัพย์ คาดการณ์แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าผันผวน จากปัจจัยการเมือง ขณะทีดาวโจนส์ขยับรอบ18เดือน

24 เม.ย. 53 : ปัจจัยทางการเมืองยังเป็นแรงกดดันที่สำคัญต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีหุ้นไทย ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 754.58 จุด ปรับตัวขึ้นร้อยละ 2.50 จาก 736.16 จุด ในสัปดาห์ก่อนหน้า โดยนักลงทุนรายย่อย ขายสุทธิออกมากว่า 4,300 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มสถาบัน ต่างชาติ และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย และบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ดัชนีน่าจะแกว่งตัวผันผวน โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์การเมืองในประเทศ ผลประกอบการไตรมาสแรก ของบริษัทจดทะเบียน และการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย

ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ คงจะต้องติดตามความคืบหน้าของกฎหมายปฏิรูประบบสถาบันการเงินของสหรัฐ ผลการประชุมนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน รวมทั้ง การปรับตัวของตลาดหุ้นภูมิภาค ทั้งนี้คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 746 จุด และ 736 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 770 และ 784 จุด ตามลำดับ

-------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
TNN :ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน ขานรับการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส โดยเฉพาะยอดขายบ้านใหม่ในเดือนมีนาคม ที่พุ่งสูงขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งช่วยบดบังปัจจัยลบจากกระแสความวิตกกังวลต่อปัญหาหนี้สินในกรีซ

ทั้งนี้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวกขึ้นไป 69.99 จุด ปิดที่ 11,204.28 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น8.61 จุด ปิดที่ 1,217.28 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 11.08 จุด ปิดที่ 2,530.15 จุด

ขณะที่ตลาดน้ำมันไนเม็กซ์ของสหรัฐส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ 42 เซนต์ ปิดที่ 85 ดอลลาร์ 12 เซนต์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาทองคำตลาด ส่งมอบเดือน มิถุนายน ปิดที่ 1,153 ดอลลาร์ 10 เซนต์ ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 10 ดอลลาร์ 80 เซนต์

--------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น