Code 392 : 05/04/54 ฝรั่งซื้อน้อยลง แต่ SET จะเขียวได้อีกวันมั้ย

วันอังคารที่ 5 เมษายน 2554
ATT Code : 05/04/54 ฝรั่งซื้อน้อยลง แต่ SET จะเขียวได้อีกวันมั้ย

เข้าที่.... SET เข้ามาอยู่ในเขต Overbought
ระวัง.... แรงขาย ที่จะทำให้ SET ย่อต่ำลงมา แล้วส่งผลให้ Indicator พลิกกลับลงมา
ไป.... ยังไม่เกิด Sell Signal ขึ้นมา

Main Indicators


Minor Indicators


สรุปสภาวะการซื้อขายในวันจันทร์ 04/04/54 นี้ : เปิดโดดเหนือ High เดิม แล้วทำ New High
หลังจากที่เมื่อวันศุกร์มีต่างชาติซื้อสุทธิเข้ามา 8 พันล้านบาท ทำให้ตอนเช้า SET เปิดกระโดดขึ้นไป 10 จุด มีแรงซื้อเข้ามาที่กลุ่มพลังงานเป็นหลัก จากนั้นก็มีแรงซื้อกลุ่มแบงค์ตามมา ก็เลยทำให้ SET ขึ้นไปทำ New High ที่ 1080.49 จุด ก่อนที่จะปิดย่อลงมาที่ระดับ 1078.66 จุด พร้อมกับ Volume 4 หมื่นกว่าล้านบาท โดย SET ยังสามารถยืนเหนือเส้น BB-T ขึ้นมาได้อยู่ นอกจากนี้ Indicators ทุกตัวยังขยับขึ้นมาได้สูงกว่าวันก่อน

แนวโน้มในวันอังคาร 05/04/54 นี้ : จะเขียวได้อีกวันมั้ย
หลังจากที่ SET ขึ้นมาทำ New High พร้อมด้วย volume อย่างหนาแน่น โดยต่างชาติก้ยังซื้ออยู่ แต่ว่าซื้อน้องลงมาครึ่งนึงที่เกือบ 5 พันล้าน แนวโน้มในวันอังคารนี้ ฏ้อาจจะขยับขึ้นต่อได้ แต่อัตราเร่งอาจจะลดลงได้ โดยต้องระวังแรงขายด้วย เพราะมี Indicators 4 ตัว ที่เข้ามาอยู่ในเขต Overbought แล้ว แต่ัยังไม่มี Sign ที่พลิกลับลงมา ทำให้ Indicators ต่างๆ อาจจะขยับขึ้นไปอีก จนกว่าจะหมดแรง แล้วชลอการขึ้นไป

โดยที่ตลาดมีกรอบแนวรับ-แนวต้าน ดังนี้
แนวรับที่ ราคาปิดเมื่อวาน ที่ 1,064 จุด
แนวต้านที่ New High เมื่อวาน ที่ 1,080.49 จุด

Indicators ต่างๆ ของวันก่อนหน้านี้ :
Main Buy Signal = MACD + Slow Stochastic + RSI
3 Indicators = Main Buy Signal
3 Indicators = Minor Buy Signal
4 Indicators = Overbought
0 Indicators = Bearish Divergence
0 Indicators = Sell Signal

-----------------------------------------------
Main Signal
1. Alert MACD (B)+(Stronger)
Major = Buy Signal : 1. MACD >. Signal.... และ Minor =Uptrend ยังดีอยู่โดย 2. MACD > 0)
(+) MACD Oscillator มีค่าเพิ่มขึ้นมา จาก 2.36 เป็น 3.37

2. Alert Slow Sto (B)+(Overbought)
(+/-) Slow Stochastic : %K(94) > %D(91)...

3. Alert RSI (B)+(Strong)+(Overbought)
(+) RSI(74) > MAV9(66) : RSI สูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ย

----------------------------------------------
Minor Signal
4. Alert William %R (B)+ (Overbought)
%R ตัดเส้น -10 ขึ้นมาอีกครั้ง : เป็น Buy Signal เบาๆ
(+/-) Williams %R เริ่มมีค่าอ่อนลงมา จาก (-6.80) เป็น (-2.98)

5. Alert CCI (B)+ (Overbought)
CCI ตัดเส้น 100 อยู่: อยู่ในเขต Overbought
(+/-) CCI กลับมามีค่าเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ลงมาจาก 166 มาที่ 174

6. Alert ADX (B)+(Stronger)
(+) เส้น ADX : DI+(45) > DI-(12)...

----------------------------------------------
Support
7. OBV + : Strong
(+) OBV มีค่าเพิ่มขึ้น

8. Alert Volume
(+) Volume > Avg 5 D

----------------------------------------------

****************
Historical Technics
****************
Buy Signal:
1. (+)MACD กลับมาเป็น Buy Signal อีกครั้ง(22/03/54)
2. (+) DI+ ตัดเส้น 20 ขึ้นมา... แสดงว่า UpTrend มีความแข็งแรง
3. (+) SET ผ่านแนวต้านหลัก BB Average = Major เป็น Bullish + Uptrend... ยืนยันความเข็งแรงของตลาด... BB Average เปลี่ยนจากแนวต้านมาเป็นแนวรับหลัก (16/02/54)
4. (+) EMA5 (979.12) ตัด EMA10 (976.12 )ขึ้นมา... Major เป็น Golden Cross = Buy Signal (17/02/54)
5. (+) EMA10 (988.34) ตัด EMA25 (987.47) = Golden Cross : Strong (04/03/54)
6. (+) EMA25 (992.96) ตัด EMA75 (991.78) : Stronger (09/03/54)
7. (+) SET สูงกว่าเส้น 10 วัน และ 5 วัน แล้ว : Stronger (21/03/54)
8. (+) Slow Sto : %K(72) > %D(69) = Buy Signal (22/03/54)
9. (+) SET > BB-T = Buy Signal (01/04/54)

Overbought:
1. (+/-) Slow Sto : %K(81) > %D(73) = Overbought (23/03/54)
2. (+/-) Alert William %R > -10 = Overbought (30/03/54)
3. (+/-) Alert CCI > 100 =(Overbought) (30/03/54)
4. (+/-) Alert RSI > 71 =(Overbought) (01/04/54)

Sell Signal : None
Bearish Divergence : None
Oversold : None

-----------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
5 เมษ. 54 ( +14.31 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ไม่น่าต่ำกว่า 1060 - 65 จุด
เริ่มเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ในเครื่องมือ RSI ภาพระยะชั่วโมง ที่ดัชนีปรับตัวสูงขึ้น แต่เครื่องมือทางเทคนิคดังกล่าวไม่ได้ปรับตัวขึ้นตาม

ดังนั้นในกรณีถ้าปรับฐาน ดัชนีอาจจะปรับตัว “ชั่วคราว” ลงมาแถว 1060 – 65 จุดบริเวณแนวรับตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25
ชั่วโมง

แต่ตราบใดไม่ต่ำกว่า 1020 จุด เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ถือว่าแนวโน้มหลักของตลาดเป็น “ขาขึ้น” มีเป้าหมายเดือน สค. 1300 จุด
ในรูปแบบของ Zigzag wave C ต่อไป

หุ้นเด่น
BBL
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะชั่วโมง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 178.00กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายระยะ
สัปดาห์ 180.50 – 185.50 / ระยะเดือนขึ้นไป197.00 – 204.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 176.00 )

PTT
ปรับตัวทะลุกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะสัปดาห์ขึ้นมาได้ รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน368 จุดสูงสุดวันจันทร์ เป้าหมายระยะ
สัปดาห์ 377 – 387 / ระยะเดือน 424 – 434( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 361 )

STA
ปรับตัวทะลุกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวันขึ้นมาได้ รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 30.50จุดสูงสุดวันจันทร์ เป้าหมายระยะสัปดาห์
32.50 – 34.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 29.00 )

-----------------------------------------------------------------------------
E Finance Thai : "เสริมสุข"มาวิน!!ศึกชิง SSC
สงครามแย่งชิงบมจ.เสริมสุข(SSC)ของสองผู้ถือหุ้นใหญ่ ระหว่างกลุ่มของนายสมชาย บุลสุข ประธานกรรมการ SSC กับ "เป๊ปซี่โค" เข้มข้นขึ้นทุกขณะ..หลังจากที่กลุ่มของนายสมชาย โชว์ความเก๋าประกาศยกเลิกสัญญาทางธุรกิจกับ"เป๊ปซี่" เพื่อชิงความได้เปรียบในสมรภูมิก่อน สร้างความตื่นตะลึงไปทั่ว!!

ก่อนที่"เป๊ปซี่โค"จะตอบโต้ ด้วยการรวบรวมหุ้นทั้งหมดในเครือ ทวงสิทธิ์ส่งคนเข้าไปนั่งในบอร์ดชุดใหม่ หวังพลิกสถานการณ์จากที่เป็นรอง..ให้กลับมาเป็นต่ออีกครั้ง..บทสรุปศึกนี้จะลงเอยอย่างไร.. "เป๊ปซี่"จะกลายเป็นแค่ตำนานหรือไม่..ต้องตามติดทุกฝีก้าว!!
ย้อนกลับไปที่ชนวนเหตุความขัดแย้ง ประทุขึ้นจากฝั่ง"เสริมสุข" ของ"สมชาย" ที่เห็นว่าสัญญา Exclusive Bottling Appointment (EBA) ซึ่งเป็นสัญญาเกี่ยวกับการจำหน่ายวัตถุดิบหรือส่วนผสมที่ใช้ในการผลิตน้ำอัดลมหรือหัวน้ำเชื้อกับกลุ่มบริษัทเป๊ปซี่ โค ที่ทำกันนั้นไม่เป็นธรรม เนื่องจากเสริมสุข ต้องจ่ายค่าหัวเชื้อให้แก่เป๊ปซี่ถึง 3,435 ล้านบาท และจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากฐานปัจจุบัน 3% ของรายได้ และเป๊ปซี่ยืนยันที่จะไม่ให้ขึ้นราคาขาย
ในขณะที่เสริมสุข ต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มต่อเนื่อง ทั้งราคาน้ำตาล ราคาขวดบรรจุ และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน นอกจากนี้เงื่อนไขทางธุรกิจที่ระบุใน EBA ยังจำกัดการเติบโตของเสริมสุข โดยเฉพาะการห้ามจำหน่ายสินค้าประเภทอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องสำหรับบริษัทจดทะเบียนที่โดนบี้ให้ทำกำไรตลอดเวลา..ในเมื่อการเจรจาไม่เป็นผล ความอัดอั้นตันใจมาถึงขีดสุด..ทุกอย่างจึงระเบิดออกมา
มาถึงจุดนี้ หลายฝ่ายอาจมองว่า "กลุ่มเป๊ปซี่โค" ได้เปรียบ "กลุ่มเสริมสุข" เพราะมีหุ้นในมือมากกว่า โดยถือหุ้นใน SSC รวม 41.54% ผ่านบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง 24.94% และ Seven-Up Nederland 16.60% และคาดว่าจะมีพันธมิตรที่ถือหุ้นในเอ็นวีดีอาร์(SBK)อีก 9% ส่วนฝั่งเสริมสุข ถือหุ้นอยู่รวมกันเพียง 32.6% ผ่านบริษัทเอสเอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์..
แต่ทว่ามีสัจธรรมที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ SSC เป็นบริษัทของคนไทย..ยังไงตามหลักการกลุ่มของ"สมชาย"ต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่...เป๊ปซี่โคไม่อาจถือหุ้นเกิน 49% ได้...ซึ่งผู้บริหารชั้นเซียนอย่าง"สมชาย" ย่อมต้องทราบดีถึงข้อได้เปรียบนี้!!
จึงเป็นที่มาของการร้องเรียนให้ ก.ล.ต. เข้าไปตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทเป๊ปซี่-โคล่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ 24.49% กับบริษัท เอสบีเค เบฟเวอเรจ(SBK) ผู้ถือหุ้นเอ็นวีดีอาร์ 9.13% เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะมีพฤติกรรมที่เป็นกลุ่มเดียวกัน และอาจเข้าข่ายการถือหุ้นเพื่อประโยชน์ในการครอบงำกิจการในอนาคตซึ่งถือว่าไม่ถูกกฎหมาย...
"จากการเข้าไปดูข้อมูลพบว่าทั้ง 2 บริษัทมีความสัมพันธ์กัน เพราะว่าบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า ในต่างประเทศ ได้ถือหุ้นของบริษัทในเครือ SBK ญี่ปุ่น และมีกรรมการบางรายมีอำนาจในการเซ็นเอกสารร่วมกันด้วย ถ้าหากมีความสัมพันธ์กันจริง แสดงว่ากลุ่ม เป๊ปซี่-โคล่า นับรวมการถือหุ้น SBK -เซเว่นอัพ ถือหุ้นเสริมสุขรวมกันประมาณ 51% ดังนั้น น่าจะเกิดการครอบงำกิจการได้" นายศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ ผู้ถือหุ้นรายย่อย SSC กล่าว
การดึงก.ล.ต.เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เพียงเป็นการบีบผู้ถือหุ้นต่างด้าวคายหุ้นออกมาเท่านั้น หากแต่เป็นการเดินเกมที่เฉียบขาดของ"สมชาย" เพื่อหวังกดดันให้"เป๊ปซี่โค" ต้องทบทวนสัญญาทาส EBA ให้จงได้!!
ขณะเดียวกัน"สมชาย"ยังมั่นใจว่าผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ถือหุ้นรวมกันประมาณ 15% จะยืนเคียงข้างเขาแน่นอน เพราะการไล่บี้"เป๊ปซี่โค"ให้รื้อสัญญาทาส..มีนัยสำคัญอยู่ที่การจัดสรรผลประโยชน์ใน SSC ใหม่...นั่นคือการบีบให้"เป๊ปซี่โค"เฉือนกำไรของตัวเองออกมาเผื่อแผ่ผู้ถือหุ้นรายอื่นมากขึ้น..ซึ่งเป็นเรื่องที่รายย่อย SSC ต้องเห็นพ้องด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
ดังนั้น ภาพจึงออกมาค่อนข้างชัดว่า แม้"กลุ่มเสริมสุข"จะเป็นรองด้วยจำนวนทหาร(หุ้น)..แต่กลับเป็นต่อด้วยชัยภูมิและกลยุทธ์ศึก หากประคับประคองตัวเองให้ดี ยื้อยุดฉุดกระชากให้ถูกจังหวะ..อย่างไรเสียชัยชนะก็อยู่ในมือ
ขึ้นอยู่กับ"เป๊ปซี่โค"ว่าจะยอมรื้อสัญญา หรือ "ปิดตำนานตัวเองในเมืองไทย"!!!

โครงสร้างผู้ถือหุ้น SSC
ลำดับ ผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้น %
1. เอสเอสเนชั่นแนล โลจิสติกส์ 86,732,207 32.62
2. เป๊ปซี่-โคลา(ไทย) เทรดดิ้ง 66,321,960 24.94
3. SEVEN-UP NEDERLAND,B.V. 44,140,000 16.60
4. ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 27,678,916 10.41
5. นายศราวุธ เทียนสุวรรณ 12,574,800 4.73
6. นางสวนีย์ ภัทรวานิชานนท์ 9,494,000 3.57
7. นางจารุณี ชินวงศ์วรกุล 3,600,000 1.35

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น