Code 405 : จะ Rebound ได้อีกหรือไม่... ลุ้นตาม DJIA

วันพฤหัสที่ 28 เมษายน 2554

ATT Code : จะ Rebound ได้อีกหรือไม่... ลุ้นตาม DJIA
1. เข้าที่.... หลังจากที่ Main Indicators เป็น Sell Signal หมดแล้ว.... แต่ RSI พลิกกลับขึ้นมาได้
2. ระวัง.... จับตา SET ไม่ควรต่ำกว่า 1096.95 หรือ ต่ำกว่า MAV5 ที่ 1100
3. ไป.... ถ้า CandleStick ต่ำกว่า MAV5... SET ก็จะลงไปสู่แนวรับที่ MAV10 ได้ // แต่ถ้ายืนเหนือ 1100 อยู่ ก็อาจจะไปปิด Gap ที่ 1107 ได้




สรุปสภาวะการซื้อขายในวันพุธ 27/04/54 นี้ : Rebound ตามยุโรปและอเมริกา
1. SET ขึ้นมายืนเหนือ MAV5 ที่ 1100 ได้ในช่วงก่อนปิดตลาด... ดูดีขึ้นมาบ้าง
2. ระหว่างวัน CandleStick ปิด GAP 1107 ได้แล้ว... แต่ไม่สามารถยืนอยู่ได้ โดยลงตาม HSKI
3. RSI ขยับขึ้นมาตาม SET
4. Vol > MAV5

แนวโน้มในวันพฤหัสที่ 28/04/54 นี้ : จะ Rebound ได้อีกหรือไม่... ลุ้นตาม DJIA
1. หลังจากที่ RSI เกิด Sell Signal แล้ว.... แต่เมื่อวานมีการ rebound ขึ้นมา มีลุ้นที่ SET จะปรับตัวขึ้นได้ โดยมีแนวต้านที่ 1107
2. SET ยืนเหนือ MAV5 ได้.... มีลุ้นปิด GAP ที่ 1107
3. STO : %K มีอกาสที่จะต่ำกว่าเส้น 80
4. ถ้า SET ย่อลง ก็มีโอกาสที่จะต่ำกว่า MAV5 ได้

โดยที่ตลาดมีกรอบแนวรับ-แนวต้าน ดังนี้
แนวรับ : MAV5. 1100 / MAV10. 1095
แนวต้าน : ปิด GAP 1107 / 1109

-----------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
28 เมษ. 54 ( + 4.40 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

แกว่งตัวในกรอบ 1091 – 1107 จุด
แนวโน้มวันพฤหัสนี้ ดัชนีน่าจะแกว่งตัวในกรอบเล็ก 1091 - 1107 หรือระหว่างจุดต่ำสุดของวันอังคารถึงจุดสูงสุดของวันพุธ

อย่างไรก็ตาม พอมีความเสี่ยงอยู่บ้างหากมีการปรับตัวลง ต่ำกว่า 1091.29 จุดต่ำสุดของวันอังคาร ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงต่อแถว1075 – 80 จุด (จะกลายเป็นการแกว่งตัวย่ำฐานในกรอบใหญ่ 1070 – 1110)

ขณะที่แนวโน้มหลักของตลาดยังคงเป็น“ขาขึ้น” โดยเฉพาะการปรับตัว เกิน 1113.63จุดสูงสุดของสัปดาห์ที่แล้ว จะถือเป็นสัญญาณการปรับตัวขึ้นอีกครั้งของตลาด มีเป้าหมายเดือน พค. บริเวณ 1185 - 95 จุด ในรูปแบบที่คาดว่าเป็น Double zigzag

หุ้นเด่น
TTA
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะสัปดาห์ รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 21.60กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายระยะสัปดาห์ 23.60 – 25.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 20.70 )

AMATA
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะสัปดาห์ รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 16.20กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 16.40 – 16.60 / เป้าหมายระยะสัปดาห์ขึ้นไป 20.50 – 25.50( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 15.60 )

BAY
ปรับตัวทะลุกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะเดือนทยอยซื้อแถว 27.75 – 28.25 หรือรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 28.50 จุดสูงสุดวันพุธเป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 29.00 - 29.25 /เป้าหมายระยะเดือนขึ้นไป 38.00 – 40.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 27.25 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
CPF เกิน 31 ขึ้น 31.50 - 32
JAS ไม่ต่ำกว่า 3.32 ขึ้น 3.60 – 3.86
SCC ไม่ต่ำกว่า 380 ขึ้น 397 – 417
IVL ไม่ต่ำกว่า 53 ขึ้น 55 – 56
MAJOR เกิน 14.70 ขึ้น 14.90 – 15.20
PTT แกว่งตัว 373 – 380
SCB ต่ำกว่า 115 ลง 112 - 114
SUSCO ต่ำกว่า 1.31 ลง 1.21 – 1.25
BBL เกิน 174 ขึ้น 180 – 184
AMATA รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”

-----------------------------------------------------------------------------
ถ้อยแถลง เบอร์นันเก้

เบอร์นันเก้คาดศก.สหรัฐโต 3.3% ปีนี้
ย้ำ QE2 ประสบความสำเร็จ คาดตลาดแรงงานฟื้นตัว

เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) เมื่อวานนี้ โดยเบอร์นันเก้คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะอยู่ที่ระดับ 3.1-3.3% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.9%

เบอร์นันเก้มีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐ โดยคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 8.4% ภายในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 8.8% และคาดว่าอัตราว่างงานในปี 2555 จะลดลงสู่ระดับ 7.6-7.9% นอกจากนี้ เบอร์นันเก้ประมาณการว่า ดัชนีการใช้จ่ายด้านการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล (PCE)ในสหรัฐ ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อ จะอยู่ที่ระดับ 2.1-2.8% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.3-1.7% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงาน คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.3-1.6% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.0-1.3%

"อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจะค่อนข้างอ่อนแอในช่วงไตรมาสแรก แต่สถานการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงระยะสั้นๆเท่านั้น ส่วนตลาดแรงงานกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และผมมั่นใจว่าตลาดแรงงานจะฟื้นตัวขึ้นอีก" เบอร์นันเก้กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 98 ปีของเฟดที่ประธานเฟดจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์ค่าเงินดอลลาร์ เบอร์นันเก้ยืนยันว่า "สกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและมีเสถียรภาพ" เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับที่นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐได้ออกมายืนยันก่อนหน้านี้ว่า "สหรัฐไม่เคยมีแผนใช้นโยบายที่ทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเพียงเพื่อจะฉวยข้อได้เปรียบด้านการค้าในตลาดโลก และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ถือเป็นประโยชน์ของสหรัฐ"

ส่วนเรื่องมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ที่เฟดถูกวิพากษ์วิจารย์อย่างหนักนั้น เบอร์นันเก้ยืนยันว่า มาตรการ QE2 ที่เฟดนำมาใช้เพื่อรับมือกับวิกฤตการเงินและกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจนั้น "ประสบความสำเร็จ" เป็นอย่างดี และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ เบอร์นันเก้กลาวว่า ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์เงินเฟ้อและการขยายตัวของเศรษฐกิจในอีกหลายเดือนข้างหน้า

เบอร์นันเก้กล่าวว่า การที่เฟดตัดสินใจจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.ปีนี้นั้น จะไม่ส่งผลกระทบ "อย่างมีนัยสำคัญ" ต่อตลาดการเงินหรือเศรษฐกิจ และเฟดจะยังคงรักษาขนาดของงบดุลบัญชีไว้ที่ระดับเดิมภายหลังเดือนมิ.ย. ด้วยการนำเงินที่ได้รับจากสินทรัพย์ที่ครบกำหนดไถ่ถอนมาลงทุนใหม่ สินทรัพย์ดังกล่าวรวมถึงพันธบัตรและตราสารหนี้ประเภทที่มีสินเชื่อบ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (MBS) ซึ่งสินทรัพย์เหล่านี้จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ เบอร์นันเก้ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังคงใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปจนกว่าตัวเลขการจ้างงานจะขยายตัวรวดเร็วขึ้น และจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวแข็งแกร่งพอที่จะต้านทานภาวะสินเชื่อตึงตัวได้

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการแถลงข่าวครั้งนี้ เบอร์นันเก้ยอมรับว่า สหรัฐกำลังเผชิญกับปัญหาหนี้มูลค่ามหาศาล ซึ่งถือเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดที่สหรัฐกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน


-----------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น