Code 493 : 13/09/54 Downward Gap + Dead Cross = SETI ก็มีโอกาสที่จะลงได้อีก... ถ้ายังไม่สามารถยืนเหนือ 1049 ได้.... Next Station 1027/1012...

---------------------------------------------------------------
วันอังคารที่ 13 กันยายน 2554

ATT Code : Downward Gap + Dead Cross = SETI ก็มีโอกาสที่จะลงได้อีก... ถ้ายังไม่สามารถยืนเหนือ 1049 ได้.... Next Station 1027/1012...

กลยุทธ์.... จะเป็น Sell Signal ถ้าแนวรับที่ 1036/1027 เอาไม่อยู่... โดยมี Target ที่ 1012...

Five Factors
1. Market Structure...
- Minor Trading Range อยู่ที่ 1036 - 1049...
- Major Trading Range อยู่ที่ 1012 - 1062...
2. Trend Analysis.... Moving down to target 1027/1012...
3. Price Analysis... Downward Gap + Dead Cross = Moving Down...
4. Main Indicators... ทุกตัวให้สัญญาณลบตามทิศทางของ SETI...  ไม่ D
- MACD Osc ให้สัญญาณลบ... 
-SSTO กับ RSI เป็น Sell Signal แล้ว... และ RSI ก็ต่ำกว่าเส้น 50 เป็น Weakness..
5. Minor Indicators... ทุกตัวให้สัญญาณลบตามทิศทางของ SETI...  ไม่ D
- %R กับ CCI ให้สัญญาณลบ... 

*สรุป : ดัชนีลง และ Indy ทุกตัว Support การลงมา... 
ดังนั้นตลาดมีแนวโน้มที่จะ Sideway Down ไปตามแนวรับต่างๆ...

--------------------------------------------------------------------
*** แนวโน้มหลัก : หลุดแนวรับลงมาทุกแนว และ Below BBA = Bearish market...  เกิด Sell Signal ที่ Price Action ของ Candlestick...
Trading Range อยู่ที่ 1027 - 1058...

1. เข้าที่...
วันทำการก่อนหน้า SETI ปิดที่ 1040.83 จุด -21.54จุด... Volume 22,104 MB...
SETI : ลงไปตามทิศทางตลาดต่างประเทศ... หลุดแนวรับลงมาทุกเส้น... และเป็น Bearish Market... ไม่ D มากๆ
- EMA5 ตัด EMA10 ขึ้น... เป็น Dress Cross = Down Trend... ไม่ D มากๆ
- EMA5 ตัด BBA ลงมา.... ส่งสัญญาณเป็นลบ... ไม่ D มากๆ
- EMA10 ตัด EMA25 ลงมา.... ส่งสัญญาณลบอยู่... ยังไม่ D
- Chart Pattern ... Downward Gap... ไม่ D

- Main Indicators... ทุกตัวให้สัญญาณลบตามทิศทางของ SETI...  ไม่ D
MACD Osc.. upper Zero Line... กลับมาเป็นลบ เป็นวันที่ 2... ไม่ D
แต่ยังยืนเหนือเส้นศูนย์ แต่ใกล้จะหลุด Zero Line แล้ว... ไม่ D

***MACD crossover Signal ขึ้นมา ยังเป็น Buy Signal อยู่... 
แต่เกือบจะตัดเส้น Signal ลงมา เป็น Sell Signal แล้ว...ไม่ D
(แต่ยังรอให้ผ่าน Zero Line ก่อนถึงจะเป็น Bull Market อย่างเต็มตัว)... 
แต่ถ้า MACD ตัดลงมาเร็วก็จะเป็น MACD Failure...

SSTO กับ RSI เป็น Sell Signal แล้ว... เป็นสัญญาณลบขึ้นมา... ไม่ D
และ RSI กลับลงมาต่ำกว่าเส้น 50... Weakness...

- Minor Indicators... ทุกตัวให้สัญญาณลบตามทิศทางของ SETI...  ไม่ D
%R และ CCI มีค่าลบลงมา เป็นสัญญาณลบ... ไม่ D 
ADX และ DI+ ต่ำกว่า 25 ยังเป็น Sideway Market อยู่.... ไม่ D

----------------------------------------------------------------------------
2. ระวัง...
- ถ้าดัชนีลงมาต่ำกว่าที่ 1036... ก็มีโอกาสที่จะลงไปที่ 1027 ได้อีกครั้ง... ไม่ D

-----------------------------------------------------------------------------
3. ไป...
แนวโน้มวันนี้ >>>  Downward Gap + Dead Cross = SETI ก็มีโอกาสที่จะลงได้อีก... ถ้ายังไม่สามารถยืนเหนือ 1049 ได้.... Next Station 1027/1012...

- สัญญาณลบ : Continue Pattern  >>> หลังจากที่หลุดแนวรับทุกแนว เป็น Sell Signal และลงมาต่ำกว่า BBA เป็น Bearish Market...โดยถ้าไม่สามารถยืนเหนือ 1049 ได้ ก็จะมีโอกาสที่จะลงมาทดสอบแนวรับที่ 1036/1027 ได้อีกครั้ง... ไม่ D

*** ถ้าหลุด 1027 ลงมา... ก็จะเป็น Sell Signal โดยมีเป้าหมายที่ 1012 ได้... ไม่ D

- สัญญาณบวก : Reversal Pattern  >>>  ถ้าดัชนีสามารถยืนเหนือ 1049... ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1052/1058 ได้... D
*** ถ้าผ่าน 1058  ก็จะมีเป้าหมายที่ 1062... D

----------------------------------------------------------------------------
แนวรับ... 1036 / 1027 / 1012...
แนวต้าน... 1049 / 1052 / 1058 / 1062...




---------------------------------------------------------------
* ระยะ Day >>> จากที่เปิดโดดเป็น Gap ลงมา... ก็มาปิดที่แนวรับ ที่ 1040... Indy ให้ค่าลบทุกตัว ทำให้ SETI มีแน้วโน้ม Moving Down ไปที่แนวรับ 1027/1012... 

* ระยะ Week 12 - 16 ก.ย..54 >>> Still in Bearish Market... ลุ้นผ่าน BBA เป็น Bull Market...
กรอบเล็ก 1040 - 1074... กรอบใหญ่ 1037 - 1082...

Week ที่แล้ว 5 - 9 ก.ย. 54 ... ยังอยู่ในโซน Bear Market แต่มีการ Rebound ผ่าน 1057 EMA25 แต่ไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1065 EMA5 ได้...
Main Indy = ทุกตัวยังเป็น Sell Signal... 
MACD below Signal Line / MACD Osc under Zero line เป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว... 
แต่เริ่มกลับมาบวก (เขียว) เป็นสัปดาห์ที่2...

Minor Indy = ทุกตัวเป็น Sell Signal เหมือนกัน... ADX ยังเป็น Bearish Market...
เกิดเป็น Dead Cross แล้ว... หลังจาก EMA5 ตัด EMA10 ลงมา... 
- SETI ทำ High ที่ 1073.92 จุด... มี Low ที่ 1040.58 จุด...
- SETI อยู่ระหว่าง EMA5 กับ EMA25... ยังไม่สามารถผ่าน BBA ขึ้นมา...

* ระยะ Month 1-30 ก.ย. 54 >>> SETI เป็นลักษณะ UpTrend... แต่มี Sell Signal เกิดขึ้นกับ Candlestick... หลุด EMA5 ลงมาแล้ว Next Station อย่าให้หลุดแนวรับที่ EMA 10...
Market Structer.... Trading Range 1039 - 1113....

- เดือนที่แล้ว สิงหาคม ทำ New High 1148.28 จุด... มี Low ที่ 1012.15 จุด...
- นอกจากนั้น Candlestick = Black Candle เป็น Bearish engulfing = Reversal / ส่งสัญญาณลบ...
- ระวังอย่าให้หลุดเส้นแนวรับ EMA5 เลวร้ายที่สุดก็ให้หยุดที่แนวรับ EMA10...


---------------------------------------------------------------------------

----------------------------------------------------------------------------- 
MARKET WAVE Analysis

13 กย. 54 (-21.54 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ไม่ต่ำกว่า 1036.81 ปรับตัวขึ้น 1045 -47 จุด
แนวโน้มในวันอังคารนี้ตราบใด ไม่ต่ำกว่า 1036.81 จุดต่ำสุดของวันจันทร์ ดัชนีพอมีโอกาสดีดตัวขึ้นแถว 1045 – 47 จุด

แต่ตราบใดไม่เกิน 1051.21 จุดสูงสุดของวันจันทร์ ดัชนีน่าจะแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบ1037 – 47 จุด

ขณะเดียวกันการปรับตัวขึ้น เกิน1051.21 จุดสูงสุดของวันจันทร์ ดัชนีมีโอกาสปรับตัวกลับขึ้นไปแถว 1055 – 60 จุด ใกล้แนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน


หุ้นเด่น

ADVANC
ปรับตัวขึ้นมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงพอดีรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 122.00 จุดสูงสุดวันจันทร์และเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าว เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 124.00 – 125.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 120.00 )

KC
ปรับตัวขึ้นมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงพอดีรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 1.06 จุดสูงสุดวันจันทร์และเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าว เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 1.13 – 1.16( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 0.99 )



10 อันดับซื้อขายสูงสุด
BBL ไม่น่าเกิน 152 - 154
PTT ไม่น่าเกิน 318 – 320
IVL ไม่น่าเกิน 37 – 37.50
SCC ไม่น่าเกิน 318 – 320
ADVANC รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
KBANK ไม่น่าเกิน 122 – 124
SCB ไม่น่าเกิน 115 - 117
PTTCH ต่ำกว่า 127 ลง 121 – 123
BANPU ต่ำกว่า 622 ลง 615 – 618
TOP ไม่น่าเกิน 66 – 67


----------------------------------------------------------------------------- 

PTTCH&PTTAR : อัตราส่วนการแลกหุ้นเป็น PTTGC….
การจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่
จัดสรรหุ้นสามัญที่จาหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทใหม่(PTTGC) จำนวน 4,505,907,538 หุ้น ให้แก่บุคคลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหุ้นของ PTTCH และทะเบียนผู้ถือหุ้นของ PTTAR ณ วันกาหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของ PTTAR (Record Date) ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ (หรือวันที่ 13 ตุลาคม 2554) ในอัตราส่วนดังนี้

1 หุ้นใน PTTCH
ต่อ 1.980122323 หุ้นในบริษัทใหม่
1 หุ้นใน PTTAR
ต่อ 0.501296791 หุ้นในบริษัทใหม่

การจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ PTTCH และผู้ถือหุ้นของ PTTAR ดังกล่าวข้างต้น หากมีเศษหุ้นที่เกิดขึ้นจากการคานวณตามอัตราส่วนดังกล่าวมากกว่าหรือเท่ากับ 0.5 หุ้น ในบริษัทใหม่ จะมีการปัดเศษหุ้นนั้นขึ้นเป็นหนึ่งหุ้นเต็ม ในกรณีที่เศษหุ้นนั้นน้อยกว่า 0.5 หุ้น จะมีการปัดเศษหุ้นนั้นทิ้ง และบริษัทใหม่จะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้รับจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่เฉพาะในส่วนของเศษหุ้นบริษัทใหม่ที่ถูกปัดทิ้งนั้น
ทั้งนี้ เงินชดเชยดังกล่าวจะเป็นไปตามราคาต่อหุ้นของบริษัทใหม่ ซึ่งคานวณมาจากการถัวเฉลี่ยถ่วงน้าหนักของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ของ PTTCH และ PTTAR ณ วันสุดท้าย ก่อนหยุดพักการซื้อขายและบริษัทใหม่จะทาการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ถูกปัดเศษหุ้นบริษัทใหม่ทิ้งภายใน 14 วันทาการนับจากวันจดทะเบียนควบบริษัท โดยจะมอบหมายให้บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จากัด ทาการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ถือหุ้นตามที่อยู่ที่ปรากฎในทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันกาหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของ PTTAR (Record Date) ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่





DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ฟื้นตัวปิดบวก 0.63%

        ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นในวันจันทร์โดยดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายการ
ซื้อขาย ขณะที่ความหวังที่ว่าอิตาลีอาจได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจาก
จีนได้คลายความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยูโรโซน
        ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 68.99 จุดหรือ
0.63% สู่ 11,061.12, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 8.04 จุดหรือ 0.70%
สู่ 1,162.27 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 27.10 จุดหรือ 1.10% สู่
2,495.09
        ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ราว 8.3 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค,
ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq
สูงกว่าปริมาณเฉลี่ยของปีที่แล้วที่ราว 7.6 พันล้านหุ้น โดยจำนวนหุ้นลบยังคงนำ
หุ้นบวกราว 15 ต่อ 14 ในตลาดนิวยอร์ค ขณะที่หุ้นบวกนำหุ้นลบราว 7 ต่อ 6
ในตลาด Nasdaq
        ตลาดเริ่มต้นวันด้วยความวิตกว่ามูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสอาจปรับ
ลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารชั้นนำของฝรั่งเศส แต่บรรยากาศการซื้อขาย
ปรับตัวดีขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่ยุโรปสามารถคลายความวิตกที่ว่า ผู้นำทางการเมือง
และการเงินไม่สามารถควบคุมสถานการณ์
        ไฟแนนเชียล ไทมส์รายงานในเว็บไซท์ในวันจันทร์ว่า อิตาลีได้ขอให้จีน
ช่วยซื้อพันธบัตรของอิตาลี
        การฟื้นตัวของตลาดบ่งชี้ถึงความวิตกที่ลดลงที่ว่า เศรษฐกิจโลกจะเข้า
สู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง
        หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวดีที่สุดในดัชนี S&P 500 โดยเพิ่มขึ้น 1.2%
        เจ้าหน้าที่ยูโรโซนเปิดเผยว่า นายทิโมธี ไกธ์เนอร์จะเข้าร่วมประชุม
รมว.คลังยูโรโซนในวันศุกร์นี้เพื่อแสดงความเอกภาพ ขณะที่ตลาดเผชิญกับความปั่น
ป่วน และความเสี่ยงต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ--จบ--


ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:การทำสเปรดหนุนน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น,เบรนท์ร่วง

        ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นในวันจันทร์ โดยได้รับ
แรงหนุนจากการทำสเปรดระหว่างสัญญาน้ำมันดิบสหรัฐกับสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์
ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า วิกฤติหนี้ยุโรปอาจ
ทำให้เศรษฐกิจยุโรปอ่อนแอลงและส่งผลลบต่ออุปสงค์น้ำมัน
        ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 95 เซนต์ หรือ 1.09 % มาปิด
ตลาดที่ 88.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.00-88.95 ดอลลาร์
        ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนร่วงลง 52 เซนต์
หรือ 0.46 % สู่ 112.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 110.42-113.76
ดอลลาร์
        กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของ
อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกประจำปี 2011 และ 2012 โดยให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้ม
ย่ำแย่ลง
        โอเปกคาดว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกอาจเพิ่มขึ้นเพียง 1.06 ล้านบาร์เรล
ต่อวันในปี 2011 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในรายงานเดือนส.ค.ราว 150,000
บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ โอเปกยังคาดว่าอุปสงค์น้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 1.27 ล้านบาร์เรล
ต่อวันในปี 2012 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมราว 40,000 บาร์เรลต่อวัน
        ไนจีเรียมีกำหนดจะส่งออกน้ำมันดิบบอนนี ไลท์ 245,000 บาร์เรลต่อวันใน
เดือนต.ค. ซึ่งรวมถึงการจัดส่งน้ำมันที่ประสบปัญหาล่าช้าในเดือนก.ย.
        ธนาคารเครดิต สวิสระบุในรายงานรายสัปดาห์ว่า อัตราผลกำไรในการกลั่นน้ำมัน
ในสหรัฐดิ่งลง 12.6 % ในสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่นักลงทุนชั่งน้ำหนักระหว่างแผน
สร้างงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ กับความกังวลเรื่องระบบการเงินยุโรป
        สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลข
สต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ก.ย.ในวันพุธนี้ โดยโพลล์รอยเตอร์คาดว่า
สต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 3 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 800,000
บาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 400,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่น
น้ำมันอาจลดลง 0.9 %--จบ--


ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองปิดดิ่งลง 2.5%ขณะนักลงทุนขายทองชดเชยหุ้น
 
        ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดดิ่งลง 2.5 % ในวันจันทร์ ในขณะที่ความกังวลเรื่อง
วิกฤติหนี้ยุโรปกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองเพื่อนำเงินมาชดเชยยอดขาดทุนในตลาดหุ้น
        ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดตลาดดิ่งลง 2.5 % หลังจากเคลื่อนตัว
ในช่วง 1,804.00-1,865.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
        ราคาทองสปอตดิ่งลง 2.3 % สู่ 1,814.39 ดอลลาร์ในวันจันทร์ หลังจากทำ
สถิติสูงสุดที่ 1,920.30 ดอลลาร์ในวันอังคารที่ 6 ก.ย.
        ถึงแม้ทองเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง ราคาทองก็มักร่วงลงในช่วงที่
มีแรงเทขายเข้ามาในตลาดหุ้น เพราะนักลงทุนขายทองที่มีสภาพคล่องสูงเพื่อนำเงิน
มาใช้ในการวางหลักประกันเพิ่มในตลาดหุ้น
        นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าราคาทองอาจดิ่งลง
ต่อไปอีก
        นายแฟรงค์ แมคจี หัวหน้าฝ่ายเทรดเดอร์โลหะมีค่าของบริษัทอินทิเกรเท็ด
โบรกเคอเรจ เซอร์วิสเซสกล่าวว่า "มีคำสั่งขายตามปัจจัยทางเทคนิคเข้ามาในตลาด
ในช่วงนี้ ทั้งนี้ ถ้าหากราคาทองร่วงผ่านระดับ 1,800 ดอลลาร์ลงไป ราคาทองก็อาจ
ดิ่งลงอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และอาจลงไปแตะระดับ 1,700 ดอลลาร์"
        นายฟิลิปปอส ซาชินิดิส รมช.คลังของกรีซ เปิดเผยในวันจันทร์ว่า กรีซมีเงิน
สดเพียงพอสำหรับการบริหารประเทศไปได้จนถึงเดือนหน้าเท่านั้น 

        สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันจันทร์มีดังต่อไปนี้  
                  ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์) 
 ทองเดือนธ.ค.     1,813.30                  - 46.20
 เงินเดือนก.ย.        40.164                 -140.90 (เซนต์) 
                ส่วนราคาโลหะมีค่าที่ตลาด NYMEX ในวันจันทร์มีดังต่อไปนี้ 
                  ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)  
 พลาตินั่มเดือนต.ค.  1,809.40                  - 28.50
 พัลลาเดียมเดือนก.ย.  710.25                  - 26.85 --จบ-- 
 

ตลาดเงินยุโรป:กังวลหนี้กรีซกดยูโร/เยนดิ่งลงแตะต่ำสุด 10 ปี
 
        ยูโรร่วงลงสู่จุดต่ำสุดรอบ 7 เดือนเทียบดอลลาร์สหรัฐ และจุดต่ำสุดรอบ 10
ปีเทียบเยนในช่วงการซื้อขายที่ตลาดยุโรปวันจันทร์นี้ โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวล
เรื่องการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ และความเสี่ยงที่วิกฤติหนี้อาจลุกลามออกสู่ระบบ
ธนาคารยุโรปและสู่ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่
        ในการซื้อขายช่วงท้ายตลาดยุโรป ดอลลาร์อยู่ที่ 77.00 เยน ร่วงลงจาก 77.55
เยนในการซื้อขายช่วงท้ายวันศุกร์ที่ตลาดสหรัฐ ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.3628 ดอลลาร์ 
อ่อนลงจาก 1.3651 ดอลลาร์ ทางด้านยูโร/เยนอยู่ที่ 104.94 เยน ร่วงลงจาก 105.91 เยน
        เยนได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินลงทุนที่หลั่งไหลเข้าสู่สินทรัพย์ที่มีความ
ปลอดภัยสูง
        อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีและสเปนพุ่งขึ้น และส่งผลให้ค่าสเปรด
(ส่วนต่าง) เมื่อเทียบกับพันธบัตรเยอรมนีขยายกว้างมากยิ่งขึ้น ทางด้านหุ้นกลุ่ม
ธนาคารและตลาดหุ้นยุโรปดิ่งลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนขาดความเชื่อมั่นใน
สินทรัพย์ยูโรโซน
        ยูโรร่วงลงแตะ 1.34949 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
ส่วนยูโร/เยนดิ่งลง 1.7 % และแตะระดับ 103.90 เยนในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุด
รอบ 10 ปี
     

ตลาดเงิน Emerging Asia:ยูโรร่วงกดดันสกุลเงินเอเชียอ่อนค่าเทียบดอลลาร์

        ดอลลาร์สิงคโปร์แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือนในวันนี้ โดยได้รับ
ผลกระทบจากนักลงทุนที่วิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยูโรโซน และการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้น
ในตลาดว่า ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) อาจจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน
ในเดือนหน้า
        ความวิตกที่ว่ายูโรโซนอาจลดการสนับสนุนต่อกรีซนั้นได้เป็นปัจจัยลดความ
ต้องการเสี่ยง และกระตุ้นแรงขายสกุลเงินเอเชีย โดยฉุดค่าเงินรูปีของอินเดียลงสู่
ระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 1 ปี และถ่วงค่าเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียลงสู่ระดับ
ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
        ยูโรดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปีเทียบเยน และต่ำสุดในรอบ 
6 เดือน เทียบดอลลาร์ โดยร่วงผ่านระดับสำคัญทางเทคนิค ในขณะที่นักลงทุน
กังวลว่ายูโรโซนอาจลดการให้ความช่วยเหลือต่อกรีซ และกรีซอาจจะผิดนัด
ชำระหนี้ในอนาคต 
        นักลงทุนมีความกังวลมากยิ่งขึ้นต่อการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ หลังจาก
นักการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลฝ่ายกลาง-ขวาของเยอรมนีแสดงความเห็นอย่าง
เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ 
        การทะยานขึ้นของดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโรในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผล
กระทบต่อสกุลเงินเอเชีย ซึ่งถูกกดดันจากความวิตกที่ว่า เศรษฐกิจของเอเชียอาจ
ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของประเทศที่พัฒนาแล้ว
        ดอลลาร์สิงคโปร์อาจร่วงลงอีกในระยะสั้นหากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมา
ส่งสัญญาณอ่อนแอ และทำให้มีการคาดการณ์ถึงการผ่อนคลายนโยบายของ MAS 
ในเดือนต.ค.มากกว่าที่จะคงอัตราดอกเบี้ย
        ดอลลาร์สิงคโปร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำถึง 1.2358 ต่อดอลลาร์สหรัฐ 
ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมิ.ย.
        ริงกิตมาเลเซียกำลังทดสอบแนวรับที่เส้นค่าเฉลี่ยรอบ 200 วันที่ 
3.0283 หากดอลลาร์/ริงกิตปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยรอบ 200 วัน ก็จะเป็น
ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.2009 และอาจหนุนดอลลาร์ขึ้นต่อไป 
        ดอลลาร์แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 1 ปีที่ 46.99 ต่อรูปี 
โดยดอลลาร์ปรับตัวขึ้นหลังข้อมูลบ่งชี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของอินเดีย
เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด โดยอยู่ที่ 3.3% จากปีก่อน
        รูเปียห์ร่วงลงสู่ 8,618 ต่อดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 
2 เดือน แม้ยังคงมีการแทรกแซงจากธนาคารกลางที่ระดับเหนือ 8,600


ENGLAND:ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index)ปิดบวก 38 จุด สู่ 1876

        ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ (12 ก.ย.) บวก 38 จุด
หรือ 2.07% สู่ระดับ 1876 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปี้นี้ 
        ระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 1043
        ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554     
        ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-     
          วันที่                  ระดับปิด          เปลี่ยนแปลง (จุด)
         9 ก.ย.                 1838               +56
         8 ก.ย.                 1782               +38
         7 ก.ย.                 1744               -23
         6 ก.ย.                 1767               +17
         5 ก.ย.                 1750               +10

 
13-09-54>> แนวโน้ม Sideways Down...
SETI สร้างรูปแบบ The Diamond และปรับตัวลดลงมาบริเวณ 1040 จุด และหลุดต่ำกว่า
เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นทุกเส้น รวมทั้ง MACD ยังปิดต่ำกว่าเส้น Zero Line จึงทำให้มี
แนวโน้มในระยะสั้นเป็น Sideways Down ซึ่งคาดว่าจะสิ้นสุดภาวะกระทิงแล้ว เว้นแต่จะ
สามารถดีดตัวขึ้นไปพ้นระดับ 1080 จุดได้อีกครั้ง
ดังนั้นในระยะสั้นแนะนำ "ขาย"

SCC ปิด 312.00 บาท
ราคาปรับตัวลดลงมาแตะที่แนวรับ 311.00 บาท และแท่งเทียน
มีสีดำเต็มแท่งพร้อมปริมาณการซื้อขายหนุน แนวโน้มเป็นขาลง
ชัดเจน หากปรับตัวลดลงไปต่ำกว่า 311.00 บาทจะลงไป
ที่เป้าหมายทางเทคนิคอยู่บริเวณ 270.00 บาท
แนะนำ "ขาย" แนวต้าน 318.00-322.00 บาท แนวรับ 250.00-270.00
บาท

PAO ปิด 0.70 บาท
ตั้งแต่กลับเข้ามาเทรด ยังไม่เกิดสัญญาณซื้อ แนวโน้มปรับตัวลงต่อ
แนะนำ "ขาย" แนวต้าน 0.72-0.74 บาท แนวรับ 0.60-0.50 บาท

GFPT ปิด 9.85 บาท
แรงซื้ออ่อนแรงลงและลงมาใกล้แนวรับบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
ประกอบกับ Indicators ทุกตัวยังคงให้ค่าสัญญาณบวก
แนวโน้มเป็น Sideways Down
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 10.00-10.20 บาท แนวรับที่ 9.50-9.00
บาท

CENTEL ปิด 9.85 บาท
ปรับตัวลดลงมาปิดต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 10.00 บาท และทำให้เส้น
ค่าเฉลี่ย 5 วันตัด 35 วันลงมา แนวโน้มปรับตัวลงต่อ
โดยมีเป้าหมายทางเทคนิคอยู่บริเวณ 8.50 บาท
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 10.00-10.20 บาท แนวรับที่ 9.00-8.50
บาท


-----------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น