Code 494 : 14/09/54 Bearish 3 Black Crows... SETI ก็มีโอกาสที่จะลงได้อีก... ถ้ายังไม่สามารถยืนเหนือ 1041 ได้.... Next Station 1027/1012...


---------------------------------------------------------------
วันพุธที่ 14 กันยายน 2554

ATT Code : Bearish 3 Black Crows...  SETI ก็มีโอกาสที่จะลงได้อีก... ถ้ายังไม่สามารถยืนเหนือ 1041 ได้.... Next Station 1027/1012...

กลยุทธ์.... ซื้อตามแนวรับ / ขายตามแนวต้าน... แต่ถ้า Breakout ก้ให้ Trade Following...

Five Factors
1. Market Structure...
- Minor Trading Range อยู่ที่ 1027 - 1041...
- Major Trading Range อยู่ที่ 1012 - 1049...
2. Trend Analysis.... Moving down to target 1027/1012...
3. Price Analysis... ฺBearish 3 balck crows = Moving Down...
4. Main Indicators...  ทุกตัวเป็น Sell Signal... ไม่ D
- MACD Cross  Signal ลงมาเป็น Sell Signal แล้ว... 
-SSTO กับ RSI เป็น Sell Signal แล้ว... แลทั้งคู่ก็ต่ำกว่าเส้น 50 เป็น Weakness..
5. Minor Indicators...  ทุกตัวเป็น Sell Signal... ไม่ D
- %R กับ CCI ให้สัญญาณลบ... เปน Sell Signal...

*สรุป : ดัชนีลง และ Indy ทุกตัว เป็น Sell Signal... 
ดังนั้นตลาดมีแนวโน้มที่จะ Sideway Down ไปตามแนวรับต่างๆ...

--------------------------------------------------------------------
*** แนวโน้มหลัก : Below BBA = Bearish market...  เกิด Sell Signal ที่ Price Action ของ Candlestick... Moving Down...
Trading Range อยู่ที่ 1023 - 1046...

1. เข้าที่...
วันทำการก่อนหน้า SETI ปิดที่ 1031.67 จุด -9.16 จุด... Volume 20,541 MB...
SETI : หลุดแนวรับที่ 1036 เป็น Sell Signal...ไม่ D มากๆ
- EMA5 ตัด EMA10 ลง... ยังคงเป็น Dress Cross = Down Trend... ไม่ D มากๆ
- EMA5 ตัด BBA ลงมา.... ส่งสัญญาณเป็นลบ... ไม่ D มากๆ
- EMA10 ตัด EMA25 ลงมา.... ส่งสัญญาณลบอยู่... ยังไม่ D
- Chart Pattern ... Bearish 3 Black Crows... ไม่ D

- Main Indicators... ทุกตัวเป็น Sell Signal... ไม่ D
MACD Osc.. Under Zero Line... เป็นวันที่แรก... ไม่ D
***MACD cross Signal ลงมา ยังเป็น Sell Signal แล้ว...

SSTO กับ RSI เป็น Sell Signal... ไม่ D
และ SSTO กับ RSI กลับลงมาต่ำกว่าเส้น 50... Weakness...

- Minor Indicators... ทุกตัวเป็น Sell Signal... ไม่ D
%R และ CCI มีค่าลบลงมา เป็นสัญญาณลบ... เป็น Sell Signal... ไม่ D 
ADX และ DI+ ต่ำกว่า 25 ยังเป็น Sideway Market อยู่.... ไม่ D

----------------------------------------------------------------------------
2. ระวัง...
- ถ้าดัชนีลงมาต่ำกว่าที่ 1027... ก็มีโอกาสที่จะลงไปที่ 1023 ได้อีกครั้ง... ไม่ D

-----------------------------------------------------------------------------
3. ไป...
แนวโน้มวันนี้ >>>  Bearish 3 Black Crows...  SETI ก็มีโอกาสที่จะลงได้อีก... ถ้ายังไม่สามารถยืนเหนือ 1041 ได้.... Next Station 1027/1012...

- สัญญาณลบ : Continue Pattern  >>> หลังจากที่หลุดแนวรับ 1036 เป็น Sell Signal cแล้ว... ซึ่งถ้าดังชนีไม่สามารถยืนเหนือ 1041 ได้ ก็จะมีโอกาสที่จะลงมาทดสอบแนวรับที่ 1027/1023 ได้อีกครั้ง... ไม่ D

*** ถ้าหลุด 1023 ลงมา... ก็จะเป็น Sell Signal โดยมีเป้าหมายที่ 1012 ได้... ไม่ D

- สัญญาณบวก : Reversal Pattern  >>>  ถ้าดัชนีสามารถยืนเหนือ 1041... ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1046 ได้... D
*** ถ้าผ่าน 1046  ก็จะมีเป้าหมายที่ 1049.... D

----------------------------------------------------------------------------
แนวรับ... 1027 / 1023 / 1012...
แนวต้าน... 1041 / 1046 / 1049...






---------------------------------------------------------------
* ระยะ Day >>> จากที่เปิดโดดเป็น Gap ลงมา... ก็มาปิดที่แนวรับ ที่ 1040... Indy ให้ค่าลบทุกตัว ทำให้ SETI มีแน้วโน้ม Moving Down ไปที่แนวรับ 1027/1012... 

* ระยะ Week 12 - 16 ก.ย..54 >>> Still in Bearish Market... ลุ้นผ่าน BBA เป็น Bull Market...
กรอบเล็ก 1040 - 1074... กรอบใหญ่ 1037 - 1082...

Week ที่แล้ว 5 - 9 ก.ย. 54 ... ยังอยู่ในโซน Bear Market แต่มีการ Rebound ผ่าน 1057 EMA25 แต่ไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1065 EMA5 ได้...
Main Indy = ทุกตัวยังเป็น Sell Signal... 
MACD below Signal Line / MACD Osc under Zero line เป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว... 
แต่เริ่มกลับมาบวก (เขียว) เป็นสัปดาห์ที่2...

Minor Indy = ทุกตัวเป็น Sell Signal เหมือนกัน... ADX ยังเป็น Bearish Market...
เกิดเป็น Dead Cross แล้ว... หลังจาก EMA5 ตัด EMA10 ลงมา... 
- SETI ทำ High ที่ 1073.92 จุด... มี Low ที่ 1040.58 จุด...
- SETI อยู่ระหว่าง EMA5 กับ EMA25... ยังไม่สามารถผ่าน BBA ขึ้นมา...

* ระยะ Month 1-30 ก.ย. 54 >>> SETI เป็นลักษณะ UpTrend... แต่มี Sell Signal เกิดขึ้นกับ Candlestick... หลุด EMA5 ลงมาแล้ว Next Station อย่าให้หลุดแนวรับที่ EMA 10...
Market Structer.... Trading Range 1039 - 1113....

- เดือนที่แล้ว สิงหาคม ทำ New High 1148.28 จุด... มี Low ที่ 1012.15 จุด...
- นอกจากนั้น Candlestick = Black Candle เป็น Bearish engulfing = Reversal / ส่งสัญญาณลบ...
- ระวังอย่าให้หลุดเส้นแนวรับ EMA5 เลวร้ายที่สุดก็ให้หยุดที่แนวรับ EMA10...





 -----------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis

14 กย. 54 (-9.16 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ปรับตัวขึ้น 1050 – 60 จุด
จากสัญญาณ RSI BullishDivergence ภาพระยะชั่วโมง ถ้าในวันพุธนี้ไม่ต่ำกว่า 1027.70 จุดต่ำสุดวันอังคาร ดัชนีมีโอกาสปรับตัวกลับขึ้นไปบริเวณ 1050 – 60 จุดใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงอีกครั้ง

ภาพโดยรวมแล้ว ยังคงเป็นการแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบ 1013 – 73 หรือระหว่างจุดต่ำสุดของเดือนที่แล้วกับจุดสูงสุดของสัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ตามถ้ามีการปรับตัวลง ต่ำกว่า1010 จุด นอกจากจะเป็นการปรับตัวลงต่ำกว่าจุดต่ำสุดของเดือนที่แล้ว ยังถือเป็นการเกิด“สัญญาณขาย” ในเครื่องมือ Point & Figureและ ดัชนีมีความเสี่ยงของการปรับตัวลงต่อบริเวณ 950 – 960 จุด


หุ้นเด่น

BBL
RSI Bullish Divergence ภาพระยะชั่วโมงรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 148.50 จุดสูงสุดเวลา 16.00 น. วันอังคาร เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 151.50 – 155.50( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 147.50 )

SCB
RSI Bullish Divergence ภาพระยะชั่วโมงรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 113.00 จุดสูงสุดเวลา 16.00 น. วันอังคาร เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 115.00 – 116.00 ( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 112.00 )



10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTT ปรับตัวขึ้น 316 – 318
ADVANC แกว่งตัว 118.50 – 124.50
KBANK ปรับตัวขึ้น 120 - 122
BBL รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
PTTCH ต่ำกว่า 124 ลง 121 – 123
IVL ต่ำกว่า 35 ลง 33 - 34
BANPU ปรับตัวขึ้น 626 – 630
SCB รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
PAO ต่ำกว่า 0.58 ลง 0.45 – 0.55
TOP ปรับตัวขึ้น 66 - 66.50



-----------------------------------------------------------------------------

 คอมเมนต์โบรกเกอร์

บล.บัวหลวง..................สอยเก็บหุ้นสื่อสาร ADVANC - INTUCH เด่น กฤษฏีกาคาดสัปดาห์นี้ได้ข้อสรุปกรณีทูลเกล้าฯรายชื่อ กสทช. ภายในวันที่ 19ก.ยนี้  เป็นข่าวเชิงบวกต่อกลุ่มไอซีที เรายังคงมีมุมมองเป็นบวกกว่าขั้นตอนการประกาศรายชื่อกสทช.ทั้ง 11 รายอย่างเป็นทางการไม่น่าจะล่าช้าไปจากไตรมาส 4/54  เรายังคงมีมุมองเดิมว่ารายชื่อกสทช.ทั้ง 11 รายจะได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในไตรมาส 4/54และการประมูลใบอนุญาต 3G จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 1/56 ยังคงแนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงุทนสำหรับกลุ่มไอซีที โดย DTAC ADVANC INTUCH และ THCOM เป็นหุ้นที่เราชอบมากที่สุด ในขณะที่คำแนะนำหุ้น TRUE เป็นแค่ "ซื้อเก็งกำไร" โดยเป้าหมายรวมรวมใบอนุญาต3G  ได้แก่ ADVACN 150 บาท สำหรับ DTAC 90 บาท, TRUE 4.70 บาท , INTUCH 56 บาท


คู่หูคู่หุ้น....................กลุ่มพาณิชย์มาแรง BIGC - MAKRO ชูโรง หุ้นกลุ่มพาณิชย์ Outperform ดัชนีตลาดหุ้นไทย โดยเพิ่มขึ้น 34%YTD (เทียบกับดัชนีSET ที่ +3%YTD) แม้ราคาหุ้นกลุ่มนี้ราคาค่อนข้างสูง PER เฉลี่ยสูงถึง 27 เท่าในปี54และ 22เท่าในปี55 แต่ยังคง Outperform ตลาดในระยะกลางเพราะแรงหนุนจาก 1)ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น 2)ผลกำไรของกลุ่มที่เติบโตแข็งแกร่งหรือ21%YoY 3)แนวโน้มปรับเพิ่มประมาณการกำไรเพราะนย.ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐเชื่อว่าช่วยเพิ่มรายได้ของผู้บริโภคระดับรากหญ้า และ 4)การชะลอตัวศก.โลกส่งผลกระทบต่อกลุ่มพาณิชย์ในวงจำกัด จึงแนะนำ Overweigth กลุ่มพาณิชย์  MAKRO และ BIGC เป็นหุ้น Top Pick ของเราเนื่องจากมีPER ต่ำสุดในกลุ่ม ขณะที่ทั้ง 2 บ.ได้ปย.มากสุดจากอุปสงค์สินค้าพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ MAKRO ยังมีอัตราปันผลสูงที่ 4-4.5% .นปี 54-55 ขณะที่แนวโมปรับเพิ่มประมาณการกำไร BIGC สะท้อนปย.จาก Synergy จึงปรับเป้าหมาย BIGC ที่ 150 บาท (Upside 18.5%) MAKRO ที่ 285 บาท (มี Upside 18.2%) ทางเทคนิค BIGC (รับ 123 ต้าน 135บาท) / MAKRO (รับ 235 ต้าน 252บาท)


เด็กแนว...............CIG ด้านผลประกอบการคือผลขาดทุนลดลง ผู้บริหารครึ่งหลังรายได้โตเยอะ โดยเผยรายได้โตกว่าปีก่อนราว 30% ได้ 1,000 ลบ.และมีโอกาสพลิกกลับมามีกำไรกลับขึ้นมา Turnaruond ด้านเทคนิคราคาถือว่าต่ำสุดแต่ต้นปี 52 มี Down Side น้อยมาก กราฟสร้างW-Shape ขึ้นไปปิดGAP ที่ 1.10 บาท ก็น่าสนใจคือ Momentum ดีดตัวขึ้นล่วงมาร่วมเดือนเดือนแล้ว ซื้อสะสม มีโอกาสชนลิ่งที่เคยเป็นบ่อยๆๆ....................PAE อนาคตจะไปบวกกับ GLOBAL หรือไม่ เป็นไปได้ในอนาคตและจะดีกับPAE อย่างมาก จะเห็นว่ามีขาดทุนสะสมรวมกันในส่วนทุน 732 ลบ.ทำให้ทุนเหลือแค่ 24 ลบ.แบบนี้ต้องลดทุนล้างขาดทุนในไม่ช้า  ส่วนกราฟต้าน 1.65 บาท


บาดตาเซียน...................กำลังจับตา หากผ่าน 5.50 ได้จะมาอีกรอบ... TGCI ต่ำกว่า 5 ไม่ขอเล่น ผ่าน 5.50 จะขอตาม และหาก 5.50 ยืนอย่างมั่นคงโครงสร้างจะเป็นเชิงบวกอย่างมาก และเป้าหมายจะอยู่ที่ไฮเดิมคือ 7+/- สรุปการให้น้ำหนัก...ระยะสั้น และ ระยะกลางเป็นบวก  กลยุทธ์....ต่ำกว่า 5 ไม่เล่น หรือซื้อตามน้ำ เมื่อยืน 5.50 ก็ได้

บล.เกียรตินาคิน..................MAJOR เป้าหมาย 19.19 บาท หลังภาพรวมธุรกิจปี 54 ดีเนื่องจากหนังออกมาดีมากๆๆเท่าที่เคยพบมาทั้งหนังไทยและตปท.โดยหนังไทยทำรายได้ดีดีได้แก่ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรที่เข้าฉาย 3 ภาคพร้อมกันในปีนี้ ทำรายได้กว่า 200 ลบ.และภาค4ทำได้ 122 ลบ.  ทั้งปีคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 856 ลบ.หรือเพิ่มขึ้น 12% "ซื้อ"

บล.ทรีนีตี้....................SCCC เป้าหมาย 268 บาท หลังคาดปีนี้จะกำไรโตสูงและปันผลเด่น ผลประกอบการครึ่งปีแรกโดดเด่นอย่างมาก กำไรโตถึง 40%ได้แรงหนุนจากโครงการนำความร้อนเหลือทิ้งมาผลิตกระแสไฟฟ้า การบริหารต้นทุนมีประสิทธิภาพ และภาวะน้ำท่วมหลายพื้นที่ แต่ฐานกำไรจะยังสูง 700-800 ลบ.ต่อไตรมาส คาดกำไรทั้งปี54โตสูง 37% และโตอีก 8-11%ในอีก 2 ปีข้างหน้า มีฐานทุนแข็งแกร่ง คาดปันผลปีนี้  14 บาท "ซื้อ"

บล.ยูไนเต็ด..................BECL เป้าหมาย 26 บาท โดยยอดทางด่วนเดือนส.คเพิ่ม 7.8% จากปีก่อน ยอดใช้ทางด่วน 2เดือนแรกของไตรมาส3เติบโต 6.11% ยังคงประมาณการกำไรปี54 ที่ 1.60พันลบ. (EPS 2.08บาท)"ซื้อ" ทั้งนี้ยังมีการลงทุนในเขื่อนน้ำงึมที่ได้เปิดดำเนินการแล้วในต้นปี 54 ซึ่งจะสร้างมูลค่าให้กับBECLในอนาคต

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส……………STEC เป้าหมาย 16.60 บาท หลังได้งานโรงไฟฟ้าถึง 8.72 พันลบ. โครงการดังกล่าวเป็นของบ. กัลฟ์ เจพี ยูที จำกัด โดยเป็นงานออกแบบบางส่วน งานจัดหาภายในป. งานก่อสร้าง งานทดสอบระบบไฟฟ้า ระหว่างวันที่ 1ก.ย-1ธ.ค58 ซึ่งส่งผลบวกกับ STEC งานข้างต้นเป็นสัดส่วน 18% เทียบงานในมือปัจจุบัน ถือว่าบ.ได้งานก่อสร้างใหม่อย่างต่อเนื่อ 6ก.ยที่ผ่านมาได้งานก่อสร้างสาธารณูปมูลค่ารวม 1.34 พันลบ. งานโรงไฟฟ้านั้นให้อัตรากำไรขั้นต้นสูง 10-15% ขณะที่Backlog ที่สูงมากถึง 4.85หมื่นลบ. ซึ่งไม่นับรวมรถไฟฟ้าสายสีแดง "ซื้อ" ผนวกกับปันผลที่น่าพอใจ 3% คาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรปี 54 สูงมากถึง 77% จากปีก่อน


บล.ธนชาต....................PTTEP เป้าหมาย 192 บาท โดยเชื่อว่าการเพิ่มทุนน่าจะให้ผลเชิงบวกและหากกำลังการผลิตยังคงที่และปริมาณสำรองกำลังจะหมดไป PTTEP จำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อเติบโตตามเป้าปริมาณกำลังการผลิตปี 58 การเพิ่มทุนจะเพิ่มความแข็งแกร่งทางฐานะการเงินและเพิ่มโอกาสลงทุนในอนาคตของบ. จำเป็นต้องเข้าซื้อกิจการ  ดังนั้นบ.มีทางเลือกค่อนข้างจำกัด คือการเข้าซื้อสินทรัพย์หรือควบรวมกิจการเพื่อเติบโตตามเป้าหมายกำลังการผลิต 500,000 boed ในปี58 ซึ่งจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ "ซื้อ"


บล.ฟินันเซีย ไซรัส.................IHL เฮครม.ไฟเขียวคืนภาษีซื้อรถ กลุ่มยานยนต์ยิ้มกริ่ม รับโชคท้ายปี ครม.ไฟเขียวลดภาษีรถยนต์คันแรกราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท คาดอีโคคาร์ยอดขายสะพัด ด้านบิ๊ก IHL อ้าแขนรับนย.ทันควัน รับผลบวกเต็มประตู แย้มไตรมาส 3 แรงสุดโต่ง จับตาไตรมาส 4 ผลงานทำลายสถิติสูงสุด หลังลูกค้ากลับมาผลิตเต็มกรุ ล่าสุดบินด่วนทัวร์ญี่ปุ่นเจรจาลูกค้ายานยนต์รับออเดอร์เบาะหนัง "ซื้อ" เป้าหมาย 11 บาท

บล.กิมเอ็ง...............SGP ปั๊มยอด Q3 เกิน 9 พันลบ. หลังเห็นสัญญาณฟื้นตัวพร้อมมั่นใจรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 50% พุ่งแตะ 4 หมื่นลบ.จากปีก่อน 2.19 หมื่นลบ. หลังดีมานด์ใช้แก๊สครึ่งปีหลังพุ่งพรวด ฟากกูรูคาดกำไรครึ่งปีหลังโตต่อ หลังธุรกิจต่างแดนหนุนเต็มพิกัด พร้อมส่องเทคนิคลุ้นชน 15 บาท "ซื้อ"เป้าหมาย 21.10 บาท ..........................AIT เสือนอนกินตัวจริง บิ๊ก AIT โปรยเสน่ห์ครึ่งหลังกวาดรายได้ทะลัก หลังตุนงานเก่าไว้เพียบเกิน 3.7 พันลบ. คาดรับรู้เกิน 50% พ่วงรัฐ-เอกชนป้อน 3G หนุนงานวางระบบทะลักดันรายได้ครึ่งหลังพุ่งกระจายมากกว่า 10% ด้านโบรกส่องโค้งหลังกำไรพุ่งแรง 35% เป็นกำไรที่ 243 ลบ.ส่วนทั้งปีคาดกำไรผงาด 423 ลบ. "ซื้อ" เป้าหมาย 55 บาท พี/อี 9 เท่า

  -----------------------------------------------------------------------------



DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ปิดบวก 0.4% จากความหวังวิกฤติยุโรปคลี่คลาย

        ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่
ร่วงลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และคาดว่าผู้นำยุโรปจะดำเนินการใน
เร็วๆนี้เพื่อคลายวิกฤติหนี้กรีซ
        ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 44.73 จุดหรือ
0.40% สู่ 11,105.85, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 10.60 จุดหรือ
0.91% สู่ 1,172.87 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 37.06 จุดหรือ
1.49% สู่ 2,532.15
        ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ราว 7.8 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค,
ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq
สูงกว่าปริมาณเฉลี่ยของปีที่แล้วที่ราว 7.6 พันล้านหุ้น โดยมีจำนวนหุ้นบวกนำ
หุ้นลบเกือบ 4 ต่อ 1 ในตลาดนิวยอร์ค และราว 10 ต่อ 3 ในตลาด Nasdaq
        นักลงทุนดูเหมือนได้ฝากความหวังไว้ที่ความคืบหน้าที่จะเกิดขึ้นใน
ระหว่างการแถลงข่าวของประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โคซีของฝรั่งเศส,
นางแองเจลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี และนายจอร์จ
ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซในวันพุธนี้
        นักลงทุนได้เข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ซึ่งถูกมองว่ามีความ
เสี่ยงน้อยกว่า และมีแนวโน้มได้ประโยชน์จากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
        นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า ตลาดได้ปรับตัวรับปัจจัยลบต่างๆไว้แล้ว
ดังนั้นการปรับตัวดีขึ้นในยุโรปจึงเป็นเหตุผลในการเข้าซื้อหุ้น
        หุ้นออราเคิล คอร์ป, อินเทล และแอปเปิลหนุนดัชนี Nasdaq ขึ้นมากที่สุด
ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมนำดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น โดยดัชนี S&P หุ้นกลุ่มอุตสาห
กรรมพุ่งขึ้น 1.9%--จบ--

     

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:น้ำมันดิบพุ่งขึ้น 2 ดอลล์ขณะดอลล์อ่อนค่า

        ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นในวันอังคาร และปิดตลาดที่
ระดับปิดสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์ ในขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง และนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อก
น้ำมันดิบสหรัฐอาจลดลงในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ก.ย.
        ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 2.02 ดอลลาร์ หรือ 2.29 % มา
ปิดตลาดที่ 90.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.81-90.52
ดอลลาร์ โดยระดับปิดวันอังคารถือเป็นระดับปิดสูงสุดสำหรับสัญญาเดือนใกล้นับตั้งแต่
วันที่ 3 ส.ค.
        ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนร่วงลง 36 เซนต์ หรือ
0.32 % สู่ 111.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 111.28-113.30
ดอลลาร์
        สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุในรายงานรายเดือนว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก
อาจเติบโตขึ้น 1.04 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2011 โดยลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิม
160,000 บาร์เรลต่อวัน และคาดว่าอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกอาจเติบโตขึ้น 1.42
ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2012 โดยลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิม 190,000 บาร์เรล
ต่อวัน อย่างไรก็ดี เทรดเดอร์ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนักกับรายงานของ IEA ฉบับนี้
        บริษัทมาสเตอร์การ์ดระบุในรายงานรายสัปดาห์ว่า ยอดค้าปลีกน้ำมันเบนซินสหรัฐ
ลดลง 3.5 % ในสัปดาห์ที่แล้วเมื่อเทียบกับสัปดาห์เดียวกันในปีก่อน และอุปสงค์ลดลง
2.4 % จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
        นักวิเคราะห์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐอาจลดลงในสัปดาห์ที่แล้วเพราะปัญหา
ขัดข้องทางการผลิตในอ่าวเม็กซิโกที่เกิดจากพายุโซนร้อนลี
        สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลข
สต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ก.ย.ในวันพุธนี้ โดยโพลล์รอยเตอร์คาดว่า
สต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 700,000
บาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 500,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่น
น้ำมันอาจลดลง 0.8 %
        การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานหลังจากตลาดปิดทำการในวันอังคารว่า
สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว, สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่ม
ขึ้น 67,000 บาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้
กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.8 %--จบ--


ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองพุ่งขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ,ตลาดหุ้น
 
        ราคาทองที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้นราว 1 % ในวันอังคาร ในขณะที่การพุ่งขึ้นของ
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐและการฟื้นตัวของตลาดหุ้นกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อชดเชยทอง และ
ช่วยให้ราคาทองลดช่วงติดลบที่ทำไว้ในวันจันทร์
        ราคาทองสปอตทะยานขึ้น 1.1 % สู่ 1,832.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากร่วงลง
แตะจุดต่ำสุดของวันที่ 1,798.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์
        ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดสหรัฐปิดตลาดปรับขึ้น 0.9 % หลังจาก
เคลื่อนตัวในช่วง 1,794.80-1,847.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีวอลุ่มการซื้อขายอยู่
ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 30 วันราว 10 % 
        นักลงทุนบางรายไม่มั่นใจว่าราคาทองจะพุ่งขึ้นได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ 
เนื่องจากราคาทองไม่ได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง, ระดับ
ความผันผวนพุ่งสูงขึ้น และปัจจัยทางเทคนิคบ่งชี้ถึงสัญญาณในทางลบ
        ราคาทองสปอตดิ่งลงมาแล้ว 5 % จากสถิติสูงสุดที่ 1,920.30 ดอลลาร์ที่ทำไว้ใน
วันที่ 6 ก.ย.
        ดัชนีความผันผวนของออปชั่นสัญญาทองทรงตัวอยู่ใกล้จุดสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี
โดยดัชนีนี้บ่งชี้ว่าเทรดเดอร์คาดการณ์ว่าราคาทองจะแกว่งตัวอย่างรุนแรงเพียงใดใน
อนาคต
        ดัชนีความผันผวนระยะ 30 วันของทองอยู่ที่ 34 ในวันจันทร์ ซึ่งสูงเป็นสอง
เท่าของระดับ 17 ที่ทำไว้ในช่วงต้นเดือนส.ค.
                 
        สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันอังคารมีดังต่อไปนี้  
                  ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์) 
 ทองเดือนธ.ค.     1,830.10                  + 16.80 
 เงินเดือนก.ย.        41.123                 + 95.90 (เซนต์) 
                ส่วนราคาโลหะมีค่าที่ตลาด NYMEX ในวันอังคารมีดังต่อไปนี้ 
                  ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)  
 พลาตินั่มเดือนต.ค.  1,813.50                  +  4.10 
 พัลลาเดียมเดือนก.ย.  727.00                  + 16.75 --จบ-- 
 

ตลาดเงิน Emerging Asia:รูเปียห์ร่วงแตะนิวโลว์ 4 เดือน

        รูเปียห์ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือนในวันนี้ โดยถูกกด
ดันจากคำสั่งซื้อดอลลาร์ในสัญญา NDF ของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ และนักลงทุนบาง
รายใช้สัญญาฟอร์เวิร์ดเพื่อประกันความเสี่ยงจากการร่วงลงอีกของรูเปียห์ 
        นักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินสหรัฐในสิงคโปร์กล่าวว่า แนวโน้ม
เงินเอเชียเมื่อเทียบกับดอลลาร์ยังไม่มีความชัดเจนหลังจากแกว่งตัวผันผวนใน
ช่วงที่ผ่านมา 
        เขากล่าวอีกว่า วิธีการที่ดีกว่านี้ก็คือการถือสกุลเงินภายในภูมิภาค
เอเชีย "อย่างเช่นขายดอลลาร์ไต้หวัน ซื้อรูเปียห์ หรือซื้อบาท" 
        เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์กล่าวว่า การร่วงลงของเงินเอเชีย
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีสาเหตุจากการซื้อคืนดอลลาร์ของนักลงทุนระยะสั้น 
เช่น นักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์ และกองทุนเฮจด์ฟันด์ แทนที่จะเป็นกลุ่ม
นักลงทุนระยะยาว
        รูเปียห์ร่วงแตะจุดต่ำสุดที่ 8,635 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด
ตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย. 
        เทรดเดอร์ในสิงคโปร์กล่าวว่า เขาคิดว่าสถานะขายดอลลาร์อาจ
ลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่มีแรงซื้อคืนดอลลาร์ "จำนวน
มหาศาล" ของกองทุนเฮจด์ฟันด์ และนักลงทุนอินเตอร์แบงก์ 
        การคาดการณ์ในตลาดมากขึ้นที่ว่า ธนาคารกลางสิงคโปร์จะผ่อน
คลายนโยบายการเงินในเดือนหน้าด้วยการลดขอบเขตการแข็งค่าของกรอบ
นโยบายของดอลลาร์สิงคโปร์ ทำให้ดอลลาร์สิงคโปร์ร่วงลงในช่วงไม่กี่วันที่
ผ่านมา


ENGLAND:ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index)ปิดบวก 25 จุด สู่ 1901

        ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ (13 ก.ย.) บวก 25 จุด
หรือ 1.33% สู่ระดับ 1901 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปี้นี้ 
        ระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 1043
        ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554     
        ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-     
          วันที่                  ระดับปิด          เปลี่ยนแปลง (จุด)
        12 ก.ย.                 1876               +38
         9 ก.ย.                 1838               +56
         8 ก.ย.                 1782               +38
         7 ก.ย.                 1744               -23
         6 ก.ย.                 1767               +17


14-09-54POEMS>> แนวโน้ม Sideways Down...
SETI ปรับตัวลดลงมาถึงแนวรับบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น
ทุกเส้น รวมทั้ง Indicator ทุกตัวให้ค่าสัญญาณลบ จึงทำให้มีแนวโน้มในระยะสั้นเป็น Sideways Down
ดังนั้นในระยะสั้นแนะนำ "ขาย"

GUNKUL ปิด 16.50 บาท
ราคาปรับตัวลดลงหลุดเส้น Uptrend Line พร้อมมีปริมาณ
การซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น แนวโน้มเป็น Sideways Down
แนะนำ "ขาย" แนวต้าน 16.70-16.90 บาท แนวรับ 15.50-15.00
บาท

KTC ปิด 13.00 บาท
ทำจุดต่ำสุดใหม่ในระยะสั้น และราคาปรับตัวลงมาต่ำกว่าเส้น
ค่าเฉลี่ยทุกเส้น แนวโน้มเป็นขาลง มีโอกาสปรับตัวลงต่อเนื่อง
แนะนำ "ขาย" แนวต้าน 13.30-13.50 บาท แนวรับ 11.00-10.00
บาท

SGP ปิด 14.30 บาท

ราคาปรับตัวลดลงพร้อมปริมาณการซื้อขายหนุนอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับแท่งเทียนมีสีดำเต็มแท่ง แนวโน้มเป็นขาลง มีเป้า
หมายทางเทคนิคอยู่บริเวณ 11.50 บาท
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 14.50-14.70 บาท แนวรับที่ 12.00-11.50
บาท

PTTCH ปิด 124.50 บาท
ราคาปรับตัวลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น และ MACD
ยังคงปิดต่ำกว่าเส้น Zero Line แนวโน้มเป็นขาลง มีโอกาส
ปรับตัวลงต่อไปที่เป้าหมายทางเทคนิคบริเวณ 105.00 บาท
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 125.50-126.50 บาท แนวรับที่ 115.00-
105.00 บาท

ShortSales 14-09-2011 : มูลค่ายืมหุ้นขาย 962 ล้านบาท  http://issuu.com/marknotok/docs/shortsales_14-09-2011

NVDR 14-09-2011 : Net Buy 77 ล้านบาท http://issuu.com/marknotok/docs/nvdr_14-09-2011


 -----------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น