Code 497 : 19/09/54 ชนแนวต้าน หลุดแนวรับ ปิดต่ำกว่าเมื่อวาน แต่ Vol น้อย... ให้สัญญาณที่ไม่ดีนิดหน่อย ถ้ายังไม่ผ่าน 1037... Next Station 1029/1020...

---------------------------------------------------------------
วันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2554

ATT Code : ชนแนวต้าน หลุดแนวรับ ปิดต่ำกว่าเมื่อวาน แต่ Vol น้อย... ให้สัญญาณที่ไม่ดีนิดหน่อย ถ้ายังไม่ผ่าน 1037... Next Station 1029/1020...

กลยุทธ์.... Sell Signal ถ้าหลุด 1029 EMA200... หลังจากที่ไม่ผ่าน EMA5/EMA10 ขึ้นไปได้...

Five Factors
1. Market Structure...
- Minor Trading Range อยู่ที่ 1029 - 1037...
- Major Trading Range อยู่ที่ 1011 - 1051...
2. Trend Analysis.... Moving down to target 1029/1020...
3. Price Analysis... ฺBearish Candle = Moving down...
4. Main Indicators... ยังเป็น Sell Signal... และสัญญาณยังไม่ดีขึ้น... ไม่ D
MACD Osc.. Below Zero Line... แต่มีสัญญาณที่ดีขึ้น เป็นวันที่ 2... เกือบ D
MACD SSTO กับ RSI สัญญาณยังไม่ดีขึ้น...
5. Minor Indicators... ยังไม่ดี แต่ก็ไม่ถึงกับเลวร้าย... ไม่ D
%R ย่อลง แต่ CCI ดีขึ้น... 
ADX ต่ำกว่า 25 ยังเป็น Sideway อยู่.... ไม่ D


*สรุป : Moving Sideway...
ดัชนีปรับตัวลงมา และ Indy ส่วนมากให้สัญญาณทรงๆ... 
ดังนั้นตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นลงไปตามแนวรับ-แนวต้าน...

--------------------------------------------------------------------
*** แนวโน้มหลัก : Below BBA = Bearish market...  และเกิด Sell Signal ที่ Price Action ของ Candlestick... Moving down...
Trading Range อยู่ที่ 1029 - 1044...

1. เข้าที่...
วันทำการก่อนหน้า SETI ปิดที่ 1033.34 จุด -2.87 จุด... Volume เบาบาง 19,536 MB...
SETI : ชนแนวต้านที่ EMA10 แล้วมีแรงขายจนลงมาหลุด EMA5... ไม่ D
- EMA5 ตัด EMA10 ลง... ยังคงเป็น Dress Cross = Down Trend... ไม่ D มากๆ
- EMA5 ตัด BBA ลงมา.... ส่งสัญญาณเป็นลบ... ไม่ D มากๆ
- EMA10 ตัด EMA25 ลงมา.... ส่งสัญญาณลบอยู่... ยังไม่ D
- Chart Pattern ... Black Candle... ไม่ D

- Main Indicators... ยังเป็น Sell Signal... และสัญญาณยังไม่ดีขึ้น... ไม่ D
MACD Osc.. Below Zero Line... แต่มีสัญญาณที่ดีขึ้น เป็นวันที่ 2... เกือบ D
***แต่ MACD ยังคงเป็น Sell Signal อยู่...
MACD SSTO กับ RSI สัญญาณยังไม่ดีขึ้น...

- Minor Indicators... ยังไม่ดี แต่ก็ไม่ถึงกับเลวร้าย... ไม่ D
%R ย่อลง แต่ CCI ดีขึ้น... 
ADX และ DI+ ต่ำกว่า 25 ยังเป็น Sideway Market อยู่.... ไม่ D

----------------------------------------------------------------------------
2. ระวัง...
- ถ้าดัชนีลงมาต่ำกว่าที่ 1029.. ก็มีโอกาสที่จะลงไปที่ 1020 ได้อีกครั้ง... ไม่ D

-----------------------------------------------------------------------------
3. ไป...
แนวโน้มวันนี้ >>>  ชนแนวต้าน หลุดแนวรับ ปิดต่ำกว่าเมื่อวาน แต่ Vol น้อย... ให้สัญญาณที่ไม่ดีนิดหน่อย ถ้ายังไม่ผ่าน 1037... Next Station 1029/1020...


- สัญญาณลบ : Continue Pattern  >>> หลังจากที่ไม่สามารถผ่่านแนวต้าน EMA10 และก็ลงมาหลุด EMA5 เป็น Sell Signal... ทำให้ดัชนีโอกาสที่จะลงมาทดสอบแนวรับที่ 1029 EMA200 ได้อีกครั้ง... ไม่ D

*** ถ้าหลุด 1029 ลงมา... ก็จะเป็น Sell Signal โดยมีเป้าหมายที่ 1020 ได้... ไม่ D

- สัญญาณบวก : Reversal Pattern  >>>  แต่ถ้าดัชนีสามารถกลับมายืนเหนือ 1037 EMA5 ได้ ก็จะเป็น Buy Signal อีกครั้ง... ทำให้ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้าน EMA10 ที่ 1044 ได้... D
*** ถ้าผ่าน 1044 ขึ้นไปได้ ก็จะเป็น Buy Signal... มีเป้าหมายที่ 1051.... D

----------------------------------------------------------------------------
แนวรับ... 1029 / 1020 / 1011...
แนวต้าน... 1037 / 1044 / 1051...





---------------------------------------------------------------
* ระยะ Day >>> หลังจากที่หลุด EMA5 ลงมา... และ Indy ให้สํญญาณทรงๆ ทำให้ SETI มีแน้วโน้ม Moving Sideway ไป 1020 - 1046...... 

* ระยะ Week 19 - 23 ก.ย..54 >>> Still in Bearish Market... มีโอกาส Sideway down...
กรอบเล็ก 1030 - 1050... กรอบใหญ่ 1011 - 1065...

Week ที่แล้ว 12 - 16 ก.ย. 54 ... ยังอยู่ในโซน Bear Market... Black Candle... มีการเกิด Dead Cross ขึ้น... มีสัญญาณลบ...

Main Indy = ทุกตัวยังเป็น Sell Signal... 
MACD below Signal Line / MACD Osc under Zero line เป็นสัปดาห์ที่ 5 แล้ว... 
และยังลบมากว่าเดิมอีก...

Minor Indy = ทุกตัวเป็น Sell Signal เหมือนกัน... ADX ยังเป็น Bearish Market...

เกิดเป็น Dead Cross แล้ว... หลังจาก EMA5 ตัด EMA10 ลงมา... 
- SETI ทำ High ที่ 1051.21จุด... มี Low ที่ 1011.58 จุด...
- SETI อยู่ระหว่าง EMA5 กับ BBB... ยังไม่สามารถผ่าน BBA ขึ้นมา...



* ระยะ Month 1-30 ก.ย. 54 >>> SETI เป็นลักษณะ UpTrend... แต่มี Sell Signal เกิดขึ้นกับ Candlestick... หลุด EMA5 ลงมาแล้ว Next Station อย่าให้หลุดแนวรับที่ EMA 10...
Market Structer.... Trading Range 1039 - 1113....

- เดือนที่แล้ว สิงหาคม ทำ New High 1148.28 จุด... มี Low ที่ 1012.15 จุด...
- นอกจากนั้น Candlestick = Black Candle เป็น Bearish engulfing = Reversal / ส่งสัญญาณลบ...
- ระวังอย่าให้หลุดเส้นแนวรับ EMA5 เลวร้ายที่สุดก็ให้หยุดที่แนวรับ EMA10...

 -----------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis

19 กย. 54 (-2.87 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ต่ำกว่า 1030.61 ปรับตัวลง 1015 – 20จุด
แนวโน้มในวันจันทร์นี้ถ้าปรับตัวลง ต่ำกว่า 1030.61 จุดต่ำสุดวันศุกร์และเส้นค่าเฉลี่ย25 ชั่วโมง ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงแถว 1015 –20 ใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว

ภาพโดยรวม ตลาดยังคงน่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1012 – 44 หรือ ระหว่างจุดต่ำสุดสัปดาห์ที่แล้วถึงจุดสูงสุดของวันศุกร์

แต่ถ้าตลาดมีการปรับตัวลง ต่ำกว่า1010 จุด จะทำให้เกิด “สัญญาณขาย” ในเครื่องมือ Point & Figure และ ดัชนีจะมีความเสี่ยงของการปรับตัวลงต่อบริเวณ 960 –965 จุด


หุ้นเด่น

SPALI
ปรับตัวขึ้นมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันพอดี รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 14.10 จุดสูงสุดวันศุกร์และเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าว เป้าหมายสองสามวัน 14.30 – 14.50( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 13.90 )

PS
ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงได้อีกครั้ง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 18.50จุดสูงสุดวันศุกร์ เป้าหมายสองสามวัน18.90 – 19.10( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 18.30 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด

PTT แกว่งตัว 307 – 319
ADVANC ต่ำกว่า 122 ลง 119 – 120
BBL แกว่งตัว 152.50 – 154.50
DTAC ต่ำกว่า 72.50 ลง 70 – 71
KBANK ต่ำกว่า 122 ลง 118 – 120
SCC แกว่งตัว 306 – 314
IVL แกว่งตัว 33.75 – 36
PTTCH แกว่งตัว 122 – 127.50
KTB แกว่งตัว 18 – 18.50
BANPU แกว่งตัว 618 – 632



 -----------------------------------------------------------------------------

ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ข่าวดีจากยุโรปหนุนดาวโจนส์ปิดบวก 0.66% 
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันในวันศุกร์ โดยดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นในสัปดาห์นี้ในอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าผู้นำยูโรโซนจะร่วมมือกันจำกัดความเสียหายที่เกิดจากวิกฤติหนี้ยูโรโซน
        ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 75.91จุด หรือ 0.66% สู่ 11,509.09, ดัชนี S&P 500 ปิดบวกขึ้น 6.90 จุด หรือ 0.57 % สู่ 1,216.01 และ ดัชนี Nasdaq ปิดปรับขึ้น 15.24 จุด หรือ 0.58 % สู่ 2,622.31
        ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ราว 8.8 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์คตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งสูงกว่าปริมาณเฉลี่ยต่อวันของปีที่แล้วที่ 7.6 พันล้านหุ้น
        จำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในสัดส่วน 15 ต่อ 14 ในตลาดนิวยอร์ค และ 7 ต่อ 6 ในตลาด Nasdaq
        ข่าวที่น่าพึงพอใจเกี่ยวกับยุโรปช่วยหนุนดัชนี S&P 500 ให้ปิดตลาดพุ่งขึ้น 5.4 % จากสัปดาห์ที่แล้ว โดยการปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกัน 5 วันในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่สิ้นเดือนมิ.ย.
        หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสได้ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือสกุลเงินต่างประเทศของอิตาลีที่ Aa2 แต่ย้ำว่าอันดับดังกล่าวยังคงได้รับการทบทวนเพื่ออาจปรับลดอันดับลง (รอยเตอร์)


ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:วิกฤติหนี้ยุโรปกดน้ำมันดิบปิดดิ่งลง 1.61% 
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 1.61 % ในวันศุกร์ ในขณะที่ความไม่แน่นอนเรื่องวิกฤติหนี้ยูโรโซนและแนวโน้มที่ซบเซาด้านการบริโภคในสหรัฐกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบก่อนช่วงสุดสัปดาห์
        ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนต.ค.รูดลง 1.44 ดอลลาร์ มาปิดตลาดที่ 87.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.00-89.78 ดอลลาร์   ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนขยับลง 8 เซนต์ หรือ 0.07 % สู่ 112.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 111.51-114.25 ดอลลาร์
        นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบอาจจะปรับขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์ได้เพียงในวงจำกัด หลังจากราคาน้ำมันดิบแตะจุดสูงสุดของสัปดาห์นี้ที่ 90.52 ดอลลาร์ในวันอังคารที่ 13 ก.ย.
        นายจิม ริทเทอร์บุช ประธานบริษัทริทเทอร์บุช แอนด์ แอสโซซิเอทส์กล่าวว่าถ้าหากราคาน้ำมันดิบสหรัฐร่วงลงในวันจันทร์ ราคาน้ำมันดิบก็อาจพบกับแนวรับที่เหนือระดับ 86 ดอลลาร์  (รอยเตอร์)


ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ดัชนีคาดการณ์ผู้บริโภคหนุนราคาทองพุ่งขึ้น 
ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวน ในขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง หลังจากธอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีการคาดการณ์ในอนาคตของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงจาก 47.4 ในเดือนส.ค. สู่ 47.0 ในเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 1980 
        ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ของสหรัฐปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.9 % หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,765.40-1,825.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 
        สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันศุกร์มีดังต่อไปนี้   
                  ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)  
 ทองเดือนธ.ค.     1,814.70                  + 33.30 
 เงินเดือนธ.ค.        40.831                 +133.30 (เซนต์)  
พลาตินั่มเดือนต.ค.  1,813.90                  + 33.30 
 พัลลาเดียมเดือนธ.ค.  732.95                  +  9.45     (รอยเตอร์)


ตลาดเงินนิวยอร์ค:ยูโรร่วงลงขณะตลาดกังวลวิกฤติหนี้ยุโรป 
ยูโร/ดอลลาร์อาจปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการพุ่งขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว ในอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 8 สัปดาห์ แต่ยูโรร่วงลงในวันศุกร์ ในขณะที่นักลงทุนมองว่า มาตรการล่าสุดของผู้กำหนดนโยบายจะไม่สามารถแก้ไขวิกฤติหนี้ยุโรปได้อย่างมากพอ 
        ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 76.80 เยน ขยับขึ้นจากระดับปิดตลาดวันพฤหัสบดีที่  76.72 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.3790 ดอลลาร์ ร่วงลงจาก 1.3876 ดอลลาร์ ทางด้านยูโร/เยนอยู่ที่ 105.90 เยน อ่อนลงจาก 106.48 เยน  
        ยูโรร่วงลงในวันศุกร์ ในขณะที่เทรดเดอร์มุ่งความสนใจไปยังความเป็นไปได้ที่กรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต 
        ยูโรเพิ่งได้รับแรงหนุนในวันพฤหัสบดีหลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศว่า อีซีบีจะร่วมมือกับธนาคารกลางของประเทศอื่นๆในการปล่อยกู้ดอลลาร์ระยะเดือนแก่ธนาคารพาณิชย์ เพื่อลดแรงกดดันในตลาดเงิน 
        จุดสนใจของตลาดจะมุ่งไปยังการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 ก.ย. โดยนักลงทุนหลายรายคาดว่า เฟดอาจจะเข้าแทรกแซงตลาดพันธบัตรเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 
        นักวิเคราะห์คาดว่า ยูโรอาจจะยังคงได้รับแรงกดดันต่อไปในช่วงนี้ ในขณะที่วิกฤติหนี้ยุโรปดำเนินต่อไป และเฟดยังไม่มีแนวโน้มจะประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3) ในเร็วๆนี้ 
        ยูโร/ดอลลาร์พุ่งขึ้นราว 1.6 % ในสัปดาห์นี้เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว  ซึ่งส่งผลให้สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ยูโรทะยานขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 24 ก.ค.   (รอยเตอร์)


ตลาดเงิน Emerging Asia:เฮดจ์ฟันด์ฉุดรูเปียห์ดิ่งสัปดาห์นี้หนักสุด 2 ปีครึ่ง 
รูเปียห์อ่อนค่าลง และสัปดาห์นี้ทำสถิติร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง หลังจากปะทะกับแรงขายอย่างหนักจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ และกลุ่มนักลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งหลายคนขายทำกำไรพันธบัตรรัฐบาลอินโดนีเซีย  
        ดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 เดือนเมื่อเทียบกับรูเปียห์ที่ 8,840 ในตลาดสัปดาห์นี้ ขณะที่ข้อมูลของรอยเตอร์พบว่า ดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับรูเปียห์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเท่ากับการแข็งค่าในเดือนก.พ.2009 
        ส่วนดอลลาร์สิงคโปร์วอน และดอลลาร์ไต้หวันปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ตลาดการเงินมีเสถียรภาพ หลังจากธนาคารกลางชั้นนำเปิดเผยว่า พวกเขาจะร่วมมือกันเพื่อจัดสรรเงินกู้สกุลดอลลาร์ ระยะ 3 เดือนให้แก่ธนาคารพาณิชย์เพื่อป้องกันไม่ให้ตลาดเงินชะงักงันหลังเกิดวิกฤติหนี้ของยุโรป  
        ดอลลาร์พุ่งขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับวอนในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2010  ขณะที่วอนได้รับผลกระทบจากกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นและพันธบัตรของเกาหลีใต้ 
        รูปีปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากที่ธนาคารกลางอินเดียตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 8.25% ตามความคาดหมายของตลาด    
      บาท/ดอลลาร์ช่วงท้ายภาคบ่าย อ่อนค่าจากช่วงเช้า ตามแรงซื้อดอลลาร์จากผู้ค้าทองคำ หลังราคาทองในตลาดโลกร่วงลง บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 30.34/38 จาก 30.32/36 ช่วงเช้า  ขณะที่ในตลาด offshore อยู่ที่ 30.36/39 จาก 30.31/34 ช่วงเช้า     (รอยเตอร์)


ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวันศุกร์ (16 ก.ย.) ลบ 93 จุด  หรือ 4.88 % สู่ระดับ 1814  
         ระดับสูงสุดของปี้นี้อยู่ที่ 1927 และระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 1043  
        ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554       
        ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-     
           วันที่                  ระดับปิด          เปลี่ยนแปลง (จุด)  
        15 ก.ย.                 1907                -20 
        14 ก.ย.                 1927               +26  
        13 ก.ย.                 1901               +25  
        12 ก.ย.                 1876               +38  
         9 ก.ย.                 1838               +56       (รอยเตอร์)



19-09-11>> แนวโน้ม Sideways Down...
SETI แกว่งตัวอยู่ในกรอบคู่ขนานขาลง และปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นทุกเส้น ประกอบกับ Indicator
ทุกตัวให้ค่าสัญญาณลบ จึงทำให้มีแนวโน้มในระยะสั้นเป็น Sideways Down
ดังนั้นในระยะสั้นแนะนำ "ขาย"

TGPRO ปิด 0.22 บาท
ราคาปรับตัวลดลง พร้อมกับVolume ที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับ
ราคาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น และ Indicator ทุกตัว
ให้ค่าสัญญาณลบ แนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย" แนวต้าน 0.25-0.27 บาท แนวรับ 0.17-0.15 บาท

SGP ปิด 13.20 บาท
แท่งเทียนเป็นสีดำ ประกอบกับราคาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น
และ Indicator ทุกตัวให้ค่าสัญญาณลบ แนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย" แนวต้าน 13.40-13.60 บาท แนวรับ 12.20-11.80
บาท

KSL ปิด 13.70 บาท
ราคาปรับตัวลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น และ Indicator
ทุกตัวให้สัญญาณลบ แนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 14.00-14.20 บาท แนวรับที่ 13.30-12.90
บาท

PAO ปิด 0.52 บาท
ราคาปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง และ MACD ไม่สามารถปิดเหนือเส้น
Zero Line ได้ แนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 0.55-0.57 บาท แนวรับที่ 0.48-0.40 บาท

-----------------------------------------------------------------------------


บล.บัวหลวง..................TUF เสี่ยงต่ำ อัพไซด์สูง จาก1)ความเสี่ยงต่ำสุดเมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่นในกลุ่มอาหาร ในแง่ความเสียงต่ำที่อาจจะเกิดจากการส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง 2)อัพไซด์จากประโยชน์ร่วมของการควบรวมกับ MWB หลังจากปี54 เป็นต้นไป  เรายังคงมีมุมมองเดิมว่าอุตฯเนื้อสัตว์จะถูกกดดันไปอีกอย่างน้อย 3 เดือนข้างหน้า เราได้คำนวณการปรับเพิ่มค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 300 บาทและการปรับลดอัตราภาษีฯเหลือ 23% ในปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้กำไรปี 55 TUF ลดลง 4%


คู่หูคู่หุ้น....................ADVANC  - DTAC เจ๋งสุด  วันนี้คาดว่านายกฯจะสามารถนำรายชื่อกสทช.ทั้ 11 คนขึ้นทูลเกล้าฯแต่งตั้ง ซึ่งจะเป็นประเด็นที่ทำให้ ADVANC DTAC  Outperform ตลาดได้ ทั้งนี้การที่อุตฯไอซีทีเดินห้าด้วยการจัดตั้งหน่วยงาน (Regulator) จะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการรายใหญ่ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เนื่อจากภารกิจเร่งด่วนที่สุดของกสทช.  เราเลือก ADVANC เป็นหุ้น Top Buy เป้าหมาย 155 บาทเนื่องจากมีอัตราปันผล 6.8% ขณะที่มีพี/อีต่ำที่สุด (14.7เท่าในปี54และ 11.8เท่าในปี55)  DTAC พี/อี 15.5เท่า แม้คาดจะเห็นบ.มีผลกำไรทรงตัวในปี 55 แต่เชื่อว่าจะมีการประกาศจ่ายปันผลพิเศษเท่านั้นอาจผลักดันราคาหุ้นในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า ให้เป้าหมาย 71 บาท (ราคาเป้าหมายจะเพิ่มขึ้น 11 บาท เป็น 82 บาท หากรวม NPV ของปันผลพิเศษเข้าไป) แนะนำ Neutral หุ้น DTAC


เด็กแนว.................. BBL มองเป็นหุ้นหลักที่จะคอยประคองตลาดแทนพลังงานที่ยังไม่ฟื้น ครึ่งปีหลังสินเชื่อจขยายตัวเต็มๆ จากนย.ภาครัฐและที่สำคัญพี/อี เพียง 9 เท่า มาดูกราฟย้อนหลัง 5 ปีพบว่าราคาหุ้นจะต่ำกว่าBook และPBV ต่ำกว่า 1 เท่า ครึ่งที่ต่ำมากคืปีที่เกิด Subprime และก็ครั้งกรีซ ข่าวจะ Default หลังจากนั้นแทบไม่เห็น และในครั้งนี้ ค่า PBV ต่ำกว่า 1 เท่า คำนวณหาBook ณสิ้นปีที่ 155 บาท จึงเป็นของถูก ราคาพื้นฐาน 199 บาท มีUpside 30%....................................CENTEL นับจากประกาศงบQ2 ราคาก็ไหลรูดจาก 12 บาท กำไรครึ่งปีแรก 443 ลบ.ทุบสถิติกำไรย้อนหลังไปอย่างน้อย 5 ปีและปีก่อนขาดทุนบักโกรกเพราะชุมนุมการเมือง ตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไปรัฐบาลมีเสถียรภาพแล้ว การท่องเที่ยวกลับมาโตยอดจองรร.เกือบเต็ม แถมล่าสุดไปซื้อร้านอาหารญี่ปุ่นอีกเพียบ เป็นจังหวะที่ดีมากเพราะราคาหุ้นรูดสู่ Oversold ท่ามกลางเข้าสู่ Hihg Season ของรร. ส่วนโบรกเกอร์ยังมองเป้า 13 บาท สัญญาณเทคนิคฟอร์มตัวดี ต้านสั้น 10 บาท.......................หุ้นแอบชอบ PAF  เชื่อมั่นในกลุ่ม ICC และ SPC ต้องปรับโครงสร้างทุน ล้างขาดทุนเตรียมจ่ายปันผลรอบ 10 ปี และอาจมีการเพิ่มทุนให้แข็งแกร่ง และแจกวอร์ ต้านรอบนี้ 2.40 บาท


บาดตาเซียน................... เล่นตามจังหวะ แบบ Matador (TMB)..................ถ้าเหนือ 1.75 น่าเสียบหรือร้ายสุด ไม่ต่ำกว่า 1.74 ลุ้นผ่าน 1.80อีกครั้ง ลุ้น 1.90-1.93 ส่วน 2 อาจจะต้องรอจังหวะ  สรุปให้น้ำหนัก แนวโน้มระยะสั้นเท่านั้น เป็นเชิงบวก  กลยุทธ์....ราคา 1.76-1.75 ยังน่าสนต่ำกว่า 1.70 Stop Loss


กระซิบหน้าจอ…………BIGC บ.มีแผนเปิดไฮเปอร์มาร์เก็ตรวม 3 แห่ง บิ๊กซีมาร์เก็ต 3แห่งและปรับปรุงพื้นที่เช่า 3 แห่ง และคาดมีกำไรปี 54 เพิ่มขึ้นตากเดิม 22.7% เป็น 4,170 ลบ. เติบโต 44.45 "ซื้อ"(รับ 124 ต้าน 136)............................LPN สำหรับ Backlog ปัจจุบัน 14,860 ลบ. คาดว่าจะรับรู้รายได้ในมือ 2H/54 ได้ประมาณ 56% และไปรับรู้รายได้ในปี 55 ได้ 45ขณะที่ปี 55 รองรับได้ 60% และคาดว่าจะมีกำไรปี 54 ที่ 1,909 ลบ.และปี 55 ที่ 1,985 ลบ. "ซื้อ"(รับ 11 ต้าน 12.40)

บล.เกียรตินาคิน.................. DTAC "ถือ" เป้าหมาย 54 บาท เนื่องจากรมต.ICT เปิดเผยสนง.อัยการสูงสุดมีหนังสือตอบกลับมาถึง CAT ระบุมีแนวโน้มว่า DTAC สามารถเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ 3G บนคลื่นความถี่เดิม ฝ่ายวิจัยมองว่าเป็น"บวก" แต่ไม่ได้ Cost Benefit เพราะให้บริการบนสัมปทานเดิม เนื่องจากDTAC เป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่รอความชัดเจนให้บริการเชิงพาณิชย์3G บนคลื่นเดิม

บล.เอเชียพลัส..................BTS เป้าหมาย 1.07 บาท เนื่องจากผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าปลายทางสิ้นสุดจตุจักร-ตากสิน-อ่อนนุช ของ BTSสร้างสถิติสูงสุดในประวัติการณ์ในส.คที่ผ่านมา แม้จะได้รับผลบวกของการเปิดเส้นทางส่วนต่อขยายใหม่ อ่อนนุช-แบริ่ง ระยะ 6กม.  ทั้งนี้เชื่อว่าBTS จะมีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ นับจากนี้ โดยเฉพาะแต่ก.ยนี้ จะเริ่มรับผู้โดยสารที่เข้ามาในระบบเดิมเต็มจำนวน ขณะที่อนาคตยังได้รับผลบวกหลายประเด็นจาการเปิดเส้นทางคือรายได้ค่าโฆษณาบนตู้โดยสาร รวมถึงโอกาสกระตุ้นยอดขายที่ยังไม่เป็นตามเป้าของธุรกิจอสังหาฯ "ซื้อ"

บล.ธนชาต...................TTW เป้าหมาย 7.30 บาท ได้แจ้งตลท.ว่าจะซื้อหุ้น 30% ในบ.ซีเค ฯ(CKP) จากกลุ่มCK ได้แก่ CK (เดิมถือหุ้น 49% เหลือ 38%) BECL ถือหุ้น 42% เหลือ 30% และบ.ที่ดินบางปะอิน (ถือหุ้น 9%เหนือ 2%) มูลค่าที่ตราไว้ 10 บาท ดังนั้นเงินลงทุนรวมที่ 30 ลบ. CKP เป็นบ.จัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อประกอบธุรกิจหลัก โดยการถือหุ้นในบ.อื่น(Holding Company) ในกลุ่มCK และท้ายสุดจะเป็นผถห.ใหญ่ (CK + BECL ถือหุ้นรวม 54% )ในบ.SEAN ซึ่งเป็นผู้พัฒนาและดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงาน-น้ำงึม2ในลาว  "ซื้อ"

 บล.กิมเอ็ง................PSL เป้าหมาย 28.07 บาท เนื่องจากเปิดเผยได้ซื้อเรือขนาด 57,000 เดตเวตตันใหม่ อีก 3 ลำ จากอู่ต่อเรือในป.จีนเป็นเงินรวม 2.3 พันลบ. หรือตกลำละ 26.5 ล้านดอลลาร์ ทำให้ขนาดกองเรือจะเพิ่มเป็น 25 ลำในปลายต.คนี้ และจะขยายระวางบรรทุกรวมอีกถึง 31% ซึ่งนอกประโยชน์กองเรือที่ใหญ่ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและขณะที่ค่าระวางเรือที่ทยอยฟื้นตัว ทางฝ่ายคาดว่าเป็นอีกสัญญาณว่าจุดต่ำสุดของอุตสาหกรรมเรือเทกองน่าจะผ่านไปแล้วผลักดันโดยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของจีน "ซื้อ"

บล.เคจีไอ..................TASCO อ้าแขนรับน้ำท่วม รัฐซ่อมถนนหลายหมื่นลบ. โปรยข่าวดีผลงานพีคยาว หลังรับผลพวงเร่งโครงการปิดท้ายงบปี 54 หนุนยอดใช้ยางมะตอยล้นกรุแถมได้อานิสงค์ปัญหาน้ำท่วมคาดรัฐอัดฉีดงบซ่อมแซมถนนหลายหมื่นลบ. ส่วนต่างประเทศโรงกลั่นยางตะตอยผลิตเต็มแม็กซ์ซดออเดอร์เวียดนาม-จีน พุงกาง กูรูเชื่อผลงานตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไปฉายแววสดใส เปลี่ยนเป็น "ซื้อ" (จากถือ) เป้าหมาย 60 บาท

บล.ฟิลลิป................... ครม.คลอดนย.อสังหา ถึงรอบสอยหุ้นเด่น PS - LPN  บิ๊กอสังหาเร่งขอความชัดเจฯนย.บ้านหลังแรก เหตุลูกค้าชะลอโอน กระทบผลการดำเนินงาน รับไตรมาส 4/54 อาจกระทบบ้างแต่ไตรมา 3/54 ยันผลงานโตทำสถิติสูงสุดของปี เตรียมเปิดโครงการทิ้งทวนปีนี้ 2 โครการ มูลค่ารวม 4 พันลบ. ส่วน PS รับไตรมาส 3/54 รายได้หดทันที 20% เซียนหุ้นมองหากนย.ผ่าน อังคารนี้ PS- LPN ได้รับประโยชน์สูงสุด PS พื้นฐาน 21.40 บาท

บล.ธนชาต ....... แนะนำซื้อ TTW ราคาพื้นฐานที่ 7.30 บาท แม้ฝ่ายวิเคราะห์จะปรับลดประมาณการกำไรลง เนื่องจากอัตรา การเติบโตของปริมาณขายที่ต่ำกว่าคาดในช่วง 8M11 ที่ 1.1% เพราะฝนที่ตกหนัก และการแข่งขันจากโรงงานบำบัดน้ำเสียใหม่ของ PWA
บล.เครดิตสวิส .......  PTT – Maintain Neutral TP Bt362.00

บล.ฟิลลิป.........  ประเมินหุ้นกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ระบุ จากข้อมูลของนีลเส็น (ประเทศไทย) เดือน ส.ค. 54 อุตสาหกรรมรวมปรับตัวขึ้น 10.01%YoY ดีขึ้นจาก 2 เดือนก่อนหน้าที่โต 5.46%YoY ในเดือน มิ.ย. และ 9.12%YoY ในเดือน ก.ค. การเติบโตที่ดีขึ้นยังสะท้อนความต้องการโฆษณาที่มีอยู่สูง และการโตในสื่ออื่นๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรงภาพยนตร์และในศูนย์การค้าที่มีพื้นที่โฆษณามากขึ้น เมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรกที่มีสื่อโทรทัศน์ เป็นตัวนำตลาดแนะนำ "ลงทุนมากกว่าปกติ" หุ้น Top Pick ได้แก่ WORK ราคาพื้นฐานปี 55 ที่ 18 บาท และลุ้นปันผลครึ่งปีแรกที่ยังไม่ประกาศจ่าย ทางฝ่ายคาดไว้ 0.60 บาท และ MAJOR ราคาพื้นฐานปี 54 ที่ 19.30 บาท จากภาพยนตร์ที่ทำรายได้ดีและงบโฆษณาในโรงภาพยนตร์ที่เติบโตสูง
บล.กรุงศรีอยุธยา..........  ประเมินหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ระบุว่า กลุ่มธนาคารจะได้รับประโยชน์จากมาตรการคืนภาษีรถยนต์คันแรกช่วยกระตุ้นการเติบโตสินเชื่อในช่วง Q4/54-Q4/55 แบ่งสินเชื่อเป็น 3 กลุ่มหลัก   1. ให้ผู้ซื้อรถยนต์โดยตรง คาด TCAP TISCO SCB KBANK  KK จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์   2. ให้กลุ่มผู้จำหน่ายรถยนต์ที่มีความต้องการเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นเพื่อใช้สต็อกรถยนต์เพิ่มขึ้น โดยคาด TCAP TISCO SCB KBANK  KK จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์   3. ให้กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์เพิ่มขึ้นตามการปรับเพิ่มขึ้นของดีมานต์รถยนต์ กลุ่มนี้ผลประโยชน์ที่ได้รับจะกระจายไปในธนาคารที่มีฐานสินเชื่อกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต และการพาณิชย์ คาด BBL KTB KBANK SCB TMB จะได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ........  แนวโน้มหุ้นไทยสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.54 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด บริษัท มองว่า ดัชนีอาจยังคงผันผวน โดยมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นหากสถานการณ์ในต่างประเทศไม่เลวร้ายลง ขณะที่คงจะต้องจับตาท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่อาจพิจารณาดำเนินมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมในการประชุม FOMC วันที่ 20-21 ก.ย. และความคืบหน้าของการแก้ปัญหาหนี้ในยุโรปซึ่งจะมีการครบกำหนดของพันธบัตรกรีซ ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ อาทิ เครื่องชี้วัดที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่าดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,030 และ 1,011 ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,044 และ 1,051 จุด ตามลำดับ.
บล.ซิตี้กรุ๊ป .......  BANPU Lower TP to Bt850 Maintain BUY
หยิบเงินหยิบทองวันนี้…….ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดลดลง 2.87 จุดมาปิดที่ 1,033.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 19,537 ล้านบาท เมื่อปัญหาในยุโรปยังไม่มีความชัดเจน แม้ว่าผู้นำและรมว.คลังในอียูจะเรียกประชุมด่วนเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ตาม ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ แต่ก็เพียง 470 ล้านบาท……. ทิศทาง SET INDEX วันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 1,030-1,040 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางต่อเนื่อง เพราะปัญหาในยุโรปยังไม่เห็นทางออกที่ชัดเจน แม้ว่าจะมีการประชุมด่วนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และแม้ว่าจะมีการประชุมลักษณะ Teleconference ระหว่างรมว.คลังกรีซ และทาง IMF – EU เย็นนี้ คาดว่าจะยังไม่ได้ข้อสรุป ....แม้ว่าในวันที่ 20-21 ก.ย. มีการประชุม FOMC และตลาดคาดหวังว่าจะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 3 อาจเป็น QE#3 หรือ Operation Twist คือ การปรับพอร์ตการลงทุนของเฟดจากการถือพันธบัตรระยะสั้นเป็นสัดส่วนหลัก เป็นพันธบัตรระยะยาวมากขึ้น เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงิน ลดลง กระตุ้นสินเชื่อทางอ้อม.......KimEng ยังคงให้น้ำหนักกับปัญหาในกรีซ และยุโรปเป็นสำคัญ ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกได้คาดหวังต่อQE#3 หรือ Operation Twist ไปมากแล้วเช่นกัน ภาพการลงทุนจึงมี Downside Risk ที่มากกว่า Return .......กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: KimEng แนะนำ ขายอีก 10% ของพอร์ต ณ SET INDEX สูงกว่า 1030 จุด
บล.อาร์บีเอส ........ RBS : Petrochemicals Sector - Fear overtaking fundamentals
 บล.กิมเอ็ง................PSL เป้าหมาย 28.07 บาท เนื่องจากเปิดเผยได้ซื้อเรือขนาด 57,000 เดตเวตตันใหม่ อีก 3 ลำ จากอู่ต่อเรือในป.จีนเป็นเงินรวม 2.3 พันลบ. หรือตกลำละ 26.5 ล้านดอลลาร์ ทำให้ขนาดกองเรือจะเพิ่มเป็น 25 ลำในปลายต.คนี้ และจะขยายระวางบรรทุกรวมอีกถึง 31% ซึ่งนอกประโยชน์กองเรือที่ใหญ่ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและขณะที่ค่าระวางเรือที่ทยอยฟื้นตัว ทางฝ่ายคาดว่าเป็นอีกสัญญาณว่าจุดต่ำสุดของอุตสาหกรรมเรือเทกองน่าจะผ่านไปแล้วผลักดันโดยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของจีน "ซื้อ"…… กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ( เป็นบวก ) เม็ดเงินโฆษณาเดือน ส.ค. สูงเป็นประวัติการณ์ ที่ 9,462 ล้านบาทเติบโต 10% yoy เนื่องจากโฆษณาทางสื่อโทรทัศน์ขยายตัวต่อเนื่องและโฆษณาทางโรงภาพยนตร์ทำสถิติสูงสุดใหม่จากการที่ภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เข้าฉาย อุตสาหกรรมมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายภาครัฐ หุ้นกลุ่มสื่อจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมโฆษณา เราแนะนำ ซื้อ MAJOR, WORK  MCOT โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 21.50 บาท 19.50 บาท และ 36 บาท ตามลำดับ

-----------------------------------------------------------------------------
หุ้นมีข่าว byแม่หมอ(เช้า) 19/9/5
หุ้นมีข่าวเชิงบวก

กลุ่มสื่อสาร

ADVANC  CS/UBS แนะซือ้เป้า145/150บาท -ได้รับรายชื่อ 11 กสทช จากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือนำขึ้นทูลเกล้าฯ กลุ่มมือถือของไทยน่าสนใจ คาดว่าจะเกิดการประมูล 3G บน 2.1 GHz ได้ในปีหน้า - ครึ่งปีแรกกำไรโตขึ้น 24%YoYต้นทุนค่าเสื่อมราคาลดลง
INTUCH  CS แนะนำ เป้าหมาย44.80 บาท   ถือADVANC42.52% คาดกสทชเริ่มQ4ใบอนุญาต 3G -ถือTHCOM41.14%คาดคุ้มทุนภายในไตรมาส 4/54 มีโอกาสจะกลับเข้าSET50  กำไรเพิ่มจาก1928เป็น2663 ล้าน Temasek ขายหุ้นออก 7.9% เพิ่ม freefloat สู่ 11.97%
DTAC อัยการสูงสุดได้ส่งหนังสือกลับมายัง CAT แล้วว่าให้ สามารถให้บริการ 3G เชิงพาณิชย์ได้  มั่นใจรายได้นอน-วอยซ์โต 30% หรือคิดเป็น 17-18% ของรายได้รวม จากการให้บริการด้านดาต้า 3G และ GPRS-  ASPคาดจะประกาศจ่ายปันผลพิเศษ4บาทในวันประกาศผลประกอบการไตรมาส3/54 20 ตคนี้  
PT  พีอี 6.6เท่า รวบงานโครงข่าย3G ปรับเป้ารายได้โตเกิน2พันล. ส่งบริษัทลูก "ดาต้าโปร" ขายแบรนด์ IBM และ SP อุปกรณ์สร้างฐานรากโครงข่าย 3G ให้ยักษ์ใหญ่
THCOM  คาดครม.จะพิจรณาให้ไทยคมเป็นผู้ดำเนินการวงโคจร 120 องศาตะวันออกใหม่อังคารนี้ - BV13บาท คาดกลับมากำไรไตรมาส4/54 รับพันล้านบาท หลัง PSI จองช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม 5 พร้อมจองช่องสัญญาณไทยคม 6 ล่วงหน้า 2 ปี
TRUE  -ได้รับอนุมัติสินเชี่อ Bridging Loan 4.8 หมื่นล้านบาท - แนวโน้มผลประกอบการอาจเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญหากสามารถโอนย้ายลูกค้าไปให้"TureMove H"-รีไฟแนนซ์หนี้สิน -ซื้อสินทรัพย์สัมปทานคืนจาก CAT

กลุ่มแบงค์

TISCO CS ให้เป้าหมาย49บาท - MLมองนโยบายรถคันแรก จะช่วยเพิ่มมูลค่าตลาดสินเชื่อรถยนต์ได้ราว 3-6%อานิสงส์รถคันแรก งบ Q3 พองโต 900 ล.-โลนพุ่ง 5%
 KBANK คาดเป็นหุ้นที่จะถูกซือ้คินจากการทำ short sell - -จ่อปล่อยกู้3.6 แสนล. ดันสินเชื่อรายใหญ่ปีนี้โต 10% จากเป้าเดิม 6% - มูดี้ส์ประกาศแนวโน้มเป็นมีเสถียรภาพคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
BBL KEST ให้เป้าหมาย215 บาท  ซื้อขายที่ระดับเพียง 1.1 เท่า PBV และ 9.4 เท่า พร้อมปล่อยกู้ไทยเบฟเวอเรจ 1.5 หมื่นล้านไปซื้อเสริมสุข
SCB รุกหนักรายย่อยมั่นใจทั้งปีสินเชื่อโต15-18%  ยืนยันสินเชื่อโตกว่าเป้าแน่ไม่เกิน 3 ปีขึ้นแท่นเบอร์ 1 เช่าซื้อ ปลื้ม 8 เดือนยอดสินเชื่อเอสเอ็มอีพุ่งแตะ 23% คาดสิ้นปีแตะ 30% รับเศรษฐกิจไทยเติบโตดี คาดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะช่วยกระตุ้นยอดสินเชื่อแบงก์โตต่อเนื่อง
 BAY KEST แนะ'ซื้อเป้า27 ยังคงมุมมองในเชิงบวกสำหรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของผลการดำเนินงานเช่นเดิม ขณะที่ประเด็นธนาคารต่างประเทศสนใจเข้าซื้อกิจการ BAY อาจเป็นอีกประเด็นที่ช่วยผลักดันราคาหุ้นในอนาคต
TMB   ธีระชัยประกาศขาย ทีเอ็มบี รับมีต่างชาติทาบซือ้ ไอเอ็นจียังเงียบ  ไฟเขียวขายหุ้นทั้งหมด 26% ในราคาที่เหมาะสม ขณะที่กลุ่มไอเอ็นจียังเงียบ คลังมองไม่มีปัญหาบริหารเพราะคลังถือมากกว่าไอเอ็นจี ที่ถือแค่ 25%

กลุ่มพลังงาน-ปิโตร

TOP KEST แนะซือ้เป้า87 บาทคาดดีลซื้อกิจการ 2-3 โครงการทั้งในส่วนโรงกลั่นและปิโตรเคมี จะสรุปได้ในปลายปีนี้  ย้ำผลงานปีนี้เข้าเป้า เหตุขาดทุนสต๊อกน้ำมันไม่มาก ส่วนการซื้อกิจการ 2-3 โครงการคาดได้ข้อสรุปปลายปีนี้ เบื้องต้นใช้เงิน 300-500 ล้านดอลลาร์
PTTCH คาดเป็นหุ้นที่อาจถูกซือ้คืนจากการทำ short sell รอการแปลงเป้น PTTCG - เจรจาซื้อกิจการโรงงานพลาสติกชีวภาพชนิด PLA ในสหรัฐ วงในแย้ม PTTCH เตรียมเข้าถือหุ้น 50%
PTTEP ผู้บริหาร ลั่นเตรียมพร้อมร่วมชิงเค้กหากกระทรวงพลังงานเปิดประมูลแหล่งสัมปทานพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา คาดมีศักยภาพปิโตรเลียมสูง แต่ต้องรอดูผลสรุปรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายก่อน

กลุ่มอสังหา

AMATA รายได้ไตรมาส 3/2554 ทะยานต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกหลังยอดขายไปได้สวย เตรียมปิดดีลให้ต่างชาติอีก 2 รายเฉียด 1 พันไร่ พร้อมดันแบ็กล็อกทะลุ 5 พันล้านบาท ส่วนแผนจัดตั้งบริษัทร่วมทุนจีนคืบ คาดไม่เกินสิ้นปีนี้เรียบร้อยส่งซิกครึ่งปีหลังยอดขายที่ดินสูงกว่าครึ่งปีแรก อานิสงส์ลูกค้าญี่ปุ่น-ยุโรปแห่จีบซื้อที่ดินเพิ่มขึ้น 30-40% จากงวดเดียวกันปีก่อน ยันเป้าขายที่ดินปีนี้ 1.5-1.8 พันไร่
MK  ส่งซิกไตรมาส 3/54 ยอดโอนลดลงจากไตรมาสก่อน เหตุลูกค้าชะลอโอนรอมาตรการรัฐ ก่อนจะดีขึ้นไตรมาส 4/54 โบรกฯปรับลดประมาณการรายได้ทั้งปีจากเดิม 2.9 พันล้านบาท เหลือ 2.5 พันล้านบาท หรือหดตัว 3% จากปีก่อนพร้อมปรับลดประมาณการกำไรสุทธิลดลง 12% เหลือ 434 ล้านบาท
SAMCOเตรียมปรับแผนการทำตลาดบ้านในปีหน้าด้วยการหันมาทำบ้านพร้อมอยู่ หรือบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย แทนบ้านสั่งสร้างหรือบ้านที่ขายก่อนสร้างเพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการต้นทุนก่อสร้าง
กลุ่มวัสดุ

TASCO TISCOให้เป้าหมาย 61.80 พีอี14.39 คาดผลประกอบการดีขึ้นจากการฟื้นตัวของแอสฟัลต์ สำหรับปี 55 เนื่องจากยอดขายในป.ส่วนต่างประเทศโรงกลั่นยางมะตอยผลิตเต็มแม็กซ์ซดออเดอร์เวียดนาม-จีน เพิ่มขึ้น 15% -อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากรง. AC ที่มาเลเซีย -กลับมามีกำไรจากสัญญาป้องกันความเสี่ยง  รับน้ำท่วมรัฐซ่อมถนนหลายหมื่นล้าน  
CSP  จ่อปรับเป้ารายได้ปีนี้โต 3.3 พันล้านบาท จากเดิม 3 พันล้านบาท เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้น อานิสงส์การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้านไตรมาส 3/54 รายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/54 หลังออเดอร์พุ่ง 20% จากลูกค้าเดิม-ใหม่ เกิดปัญหาสึนามิในญี่ปุ่น บวก Q4/54 ติดตั้งเครื่องจักรใหม่เสร็จ ส่งผลกำลังผลิตเพิ่มขึ้น 10%
DCC เล็งปรับเพิ่มเป้ารายได้โต 11-12% จากเดิม 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 6,513 ล้านบาท หลังประเมินยอดขายไตรมาส 3-4 โตต่อเนื่อง รับกำลังซื้อสูงขึ้นจากราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น บวกกับปีนี้ระดับน้ำลดเร็วกว่าปีก่อน

กลุ่มโรงแรม

CENTEL เพิ่มเป้ารายได้ปีนี้เป็น 1.15 หมื่นลบ. จากเดิม 1.1 หมื่นลบ.ขยับรายได้โต24% หลังฮุบกิจการร้านอาหาร 33 สาขา  ฟุ้งครึ่งหลังเป็นช่วงไฮซีซัน ทั้งธุรกิจอาหาร-โรงแรม หนุนรายได้ทะลัก เด็กแนวแนะนำ กำไรครึ่งปีแรก 443 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน

กลุ่มบันเทิง

BEC ใน Q3/54 ยังมีเม็ดเงินโฆษณาเข้ามามากในก.คและต้นส.ค ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกไตรมาสด้วย ทั้งปีเชื่อว่าจะสามารถถทำได้ตามเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้และกำไรโตมากกว่า 10% 
MPIC ไตรมาส 4/2554 พีคสุดโดดเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน ภูมิใจนำเสนอหนังฟอร์มยักษ์มูลค่าเกือบ 100 ล้านบาทจ่อเข้าฉายโดยหวังสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท อีกทั้งออกเดินสายหาหนังดีจากต่างแดนขนมาฉายอีกเพียบ

กลุ่มเกษตรอาหาร

TVO นับถอยหลังสู่เทศกาลกินเจ และขึ้น XD กันยายนนี้ หนุนราคาหุ้น TVO คึก โบรกประเมินไตรมาส 3/2554 ผลงานหดจากกำไรขั้นต้นของกากถั่วเหลือ ลดลงตามอุปทานกากถั่วเหลือที่เข้ามาสู่ตลาดมากขึ้น และความต้องการจากยุโรปที่ลดลง ปรับกำไรปีนี้ลงเหลือ 1.26 พันล้านบาท

กลุ่มอสังหา

SC แย้มยอดขายไตรมาส 3/2554 ดีไม่แพ้ไตรมาส 2/2554 ที่ทำไว้ 2,238 ล้านบาท หลังเลื่อนเปิดโครงการในไตรมาส 4 ทั้งหมดจากสภาพภูมิอากาศไม่เป็นใจ แต่ผลงานทั้งปีเข้าเป้า 7 พันล้านบาทชัวร์ ส่งซิกผุดโครงการใหม่เดือนตุลาคมนี้ 3 โครงการ มูลค่า 3,710 ล้านบาท

กลุ่มขนส่ง

THAI คาดcabin factor เกิน70%ในไตรมาส3 ยังมีความจำเป็นที่จะจัดตั้งสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) เพราะหากไม่มีการตั้งสายการบินไทย ไทเกอร์ แอร์เวย์ส ก็ต้องจัดตั้งสายการบินใหม่มาทดแทน
PSL วงการเงินชี้ซื้อเรือใหม่ตอกย้ำพ้นจุดต่ำสุดธุรกิจ สุดคุ้มซื้อเรือใหม่ได้ถูกกว่าราคาตลาดถึง 12% แถมมีลุ้นเซ็นค่าระวางเรือสูงลิ่วทะลุ 13,000 เหรียญตามราคาตลาด เชื่อกำไรทั้งปีพุ่ง 960 ล้านบาท

กลุ่มแฟชั่น

PAF จับมืออาดิดาสร่วมทุน จ้องปันผลรอบ4ปี โวจีนย้ายฐานการผลิต หนุนออเดอร์ทะลักแล้วกว่า 70% ของกำลังการผลิตต่อเดือนจากเดิมที่ 40% แย้มบอร์ดเร่งปั๊มแผนธุรกิจหลังงบพองโตกว่าคาด

กลุ่มไฟแนนซ์

PL ผลประกอบการไตรมาส 3/2554 ไปได้สวย หลังโกยงานเต็มพอร์ต ด้าน "พิภพ กุนาศล" ลั่น มีงานประมูลในมือเพียบ แถมมูลค่ายังอื้อซ่าฟุ้งโกยลูกค้ากว่า 600 บริษัทสิ้นปี 2554 นี้ ชูกลยุทธ์สู้วิกฤติเศรษฐกิจ และการแข่งขันสูง หนุนงบปี 2554 โดดเด่น
AMANAH  มั่นใจสินเชื่อปี 2554 เติบโต 20-25% ไม่หวั่นตลาดเช่าซื้อแข่งดุ หลังได้รับการสนับสนุนจากแบงก์อิสลามในเรื่องเงินทุน ตั้งเป้าลุยตลาดเช่าซื้อรถใหม่ เน้นขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่มทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด แต่ยังเอาใจกลุ่มลูกค้าอิสลาม

กลุ่มMAI

PAF จับมืออาดิดาสร่วมทุน จ้องปันผลรอบ4ปี โวจีนย้ายฐานการผลิต หนุนออเดอร์ทะลักแล้วกว่า 70% ของกำลังการผลิตต่อเดือนจากเดิมที่ 40% แย้มบอร์ดเร่งปั๊มแผนธุรกิจหลังงบพองโตกว่าคาด
AGE เผยปัจจุบันซื้อที่ดินในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แล้ว 100 ไร่ ล่าสุดซื้อเพิ่มอีก 3 ไร่เศษ มูลค่ากว่า 7.77 ล้านบาทฟาก
 PYLON ผู้บริหารแย้มมีลุ้นซิวงานใหม่ 350 ล้านบาท พร้อมคอนเฟิร์มทั้งปี 2554 รายได้เหยียบพันล้านบาท โหนกระแสเศรษฐกิจรุ่งดันงานใหม่อื้อ
TNDT ครึ่งหลังรายได้เด้งกว่าครึ่งปีแรกตามทิศทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประกอบกับธุรกิจมีทิศทางขยายตัวต่อเนื่องเน้นให้ความสำคัญทั้งตลาดในประเทศและ ตปท.เหตุมีช่องทางขยายฐานได้อีก ย้ำเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 300 ล้านบาท จากปีก่อน 244 ล้านบาท จากแบ็กล็อกในมือ 210 ล้านบาท

หุ้นมีข่าวเชิงลบ

PAO ติด cash balance

หุ้นมีข่าวทั่วไป

TYCNเปิดให้นักลงทุนเข้าซื้อTDRในประเทศไต้หวัน19-21ก.ย.นี้

19 ก.ย.         BIGC01CA    หลักทรัพย์ใหม่            14,000,000 หน่วย
                   BLA01CA     หลักทรัพย์ใหม่            20,000,000 หน่วย
                   TCAP01CA    หลักทรัพย์ใหม่            15,000,000 หน่วย
  
20 ก.ย.         TRUE01CB    รับส่วนเพิ่ม DW           20,000,000 หน่วย
                   SGF         ลูกหุ้นเข้า               949,977,635 หุ้น
                   TVO         XD                    หุ้นละ  0.60 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   UAC         XD                    หุ้นละ  0.0167 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   UAC         XD                    หุ้นปันผล 20 หุ้นเดิมต่อ 3 หุ้นใหม่   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   CGD         XR                    1 : 1.60 @ 1.00 บาท
                   EARTH       XW                    5 : 1
                   EASTW       จ่ายปันผล               หุ้นละ  0.12 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   MSPF        จ่ายปันผล               หน่วยลงทุนละ 0.3224 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
  
21 ก.ย.         BCP         จ่ายปันผล               หุ้นละ  0.65 บาท
                   SPORT       จ่ายปันผล               หุ้นละ  0.08 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   TIP         จ่ายปันผล               หุ้นละ  0.75 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
  
22 ก.ย.         IVL13CC     ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ   
                   IVL13PA     ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ   
                   IVL18CB     ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ   
                   MBK         XD                    หุ้นละ  2.50 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   BAY         จ่ายปันผล               หุ้นละ  0.35 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   KBANK       จ่ายปันผล               หุ้นละ  0.50 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
  
23 ก.ย.         KTB13CB     ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ   
                   TDEX        XD                    หุ้นละ  0.107 บาท   (รอบ 16 มิ.ย.-31 ส.ค.54)
                   WHAPF       XD                    หน่วยลงทุนละ 0.1765 บาท   (รอบ 13 ธ.ค.53-31 ก.ค.54)
                   ASP         จ่ายปันผล               หุ้นละ  0.08 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   BBL         จ่ายปันผล               หุ้นละ  2.00 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   CK          จ่ายปันผล               หุ้นละ  0.10 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   KK          จ่ายปันผล               หุ้นละ  1.00 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   PTT         จ่ายปันผล               หุ้นละ  6.00 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   SMIT        จ่ายปันผล               หุ้นละ  0.10 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   THRE        จ่ายปันผล               หุ้นละ  0.20 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
  
24 ก.ย.         BEC42CA     ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ   
                   KTB42CA     ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ   
                   LH42CA      ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ   
                   TCAP42CA    ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ   
  
26 ก.ย.         BECL        XD                    หุ้นละ  0.60 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   THANI       XR                    1 : 1 @ 1.52 บาท
                   CCP         XW                    2 : 1
  
27 ก.ย.         MCOT        XD                    หุ้นละ  1.00 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
                   LL          XR                    1 : 1 @ 0.25 บาท
                   SUPER       XR                    3 : 1
                   SSI         XR                    11,000 : 1 @ 1,000.00 บาท
                   LL          XW                    0 : 0
                   LUXF        จ่ายปันผล               หน่วยลงทุนละ 0.3471 บาท   (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)





-----------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น