Code 496 : 16/09/54 Baby Bull... Tweezers top/Hammer... SETI ก็มีโอกาสที่จะ Rebound ได้... ถ้าผ่าน 1039 ไปได้.... Next Station 1046/1053...

---------------------------------------------------------------
วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2554

ATT Code : Baby Bull... Tweezers top/Hammer... SETI ก็มีโอกาสที่จะ Rebound ได้... ถ้าผ่าน 1039 ไปได้.... Next Station 1046/1053...

กลยุทธ์.... Baby Bull... Buy Signal ถ้าผ่าน 1039 EMA5... หลังจากที่ผ่าน EMA200ขึ้นมาได้...

Five Factors
1. Market Structure...
- Minor Trading Range อยู่ที่ 1029 - 1046...
- Major Trading Range อยู่ที่ 1011 - 1053...
2. Trend Analysis.... Moving Up to target 1046/1053...
3. Price Analysis... ฺBullishCandle = Moving Up...
4. Main Indicators... ยังเป็น Sell Signal... แต่มีสัญญาณบวกเกิดขึ้น... เกือบ D
MACD Osc.. Below Zero Line... แต่มีค่ากลับมาเป็นบวก เป็นวันแรก... D
SSTO กับ RSI เริ่มให้สัญญาณบวกเล็กน้อย..
5. Minor Indicators... บางตัวให้สัญญาณ Buy Signal... เริ่ม D

%R และ CCI มีสัญญาณบวก... ขึ้นมาเป็น Buy Signal... D 



*สรุป : Moving Up...
ดัชนีปรับตัวขึ้นมา และ Indy ส่วนมากให้สัญญาณที่ดีขึ้น... 
ดังนั้นตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นไปตามภูมิภาค...

--------------------------------------------------------------------
*** แนวโน้มหลัก : Below BBA = Bearish market...  เกิด Buy Signal ที่ Price Action ของ Candlestick... Moving Up...
Trading Range อยู่ที่ 1029 - 1046...

1. เข้าที่...
วันทำการก่อนหน้า SETI ปิดที่ 1036.21 จุด +13.25 จุด... Volume ยังไม่ค่อยหนาแน่น 21,596 MB...
SETI : ผ่านแนวต้านที่ 1030 EMA200 เป็น Buy Signal... D มากๆ
- EMA5 ตัด EMA10 ลง... ยังคงเป็น Dress Cross = Down Trend... ไม่ D มากๆ
- EMA5 ตัด BBA ลงมา.... ส่งสัญญาณเป็นลบ... ไม่ D มากๆ
- EMA10 ตัด EMA25 ลงมา.... ส่งสัญญาณลบอยู่... ยังไม่ D
- Chart Pattern ... White Candle... D

- Main Indicators... ยังเป็น Sell Signal... แต่มีสัญญาณบวกเกิดขึ้น... เกือบ D
MACD Osc.. Below Zero Line... แต่มีค่ากลับมาเป็นบวก เป็นวันแรก... D
***แต่ MACD ยังคงเป็น Sell Signal อยู่...

SSTO กับ RSI เป็น Sell Signal... แต่เริ่มให้สัญญาณบวกเล็กน้อย... เกือบ D
แต่ SSTO กับ RSI ยังคงต่ำกว่าเส้น 50... Weakness...

- Minor Indicators... บางตัวให้สัญญาณ Buy Signal... เริ่ม D
%R และ CCI มีสัญญาณบวก... ขึ้นมาเป็น Buy Signal... D 
ADX และ DI+ ต่ำกว่า 25 ยังเป็น Sideway Market อยู่.... ไม่ D

----------------------------------------------------------------------------
2. ระวัง...
- ถ้าดัชนีลงมาต่ำกว่าที่ 1029.. ก็มีโอกาสที่จะลงไปที่ 1020 ได้อีกครั้ง... ไม่ D

-----------------------------------------------------------------------------
3. ไป...
แนวโน้มวันนี้ >>>  Baby Bull... Tweezers top/Hammer... SETI ก็มีโอกาสที่จะ Rebound ได้... ถ้าผ่าน 1039 ไปได้.... Next Station 1046/1053...



- สัญญาณบวก :  Continue Pattern  >>>  หลังจากที่ดัชนีสามารถผ่าน 1030... เป็น Buy Signal แล้ว และปิดเป็น High... ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน EMA5 ที่ 1039/1046 ได้... D

*** ถ้าผ่าน 1039/1046 ขึ้นไปได้ ก็จะเป็น Buy Signal... มีเป้าหมายที่ 1053.... D

- สัญญาณลบ : Reversal Pattern  >>> แต่ถ้าหลุดแนวรับ 1029 EMA200 ก็จะเป็น Sell Signal... ก็จะมีโอกาสที่จะลงมาทดสอบแนวรับที่ 1020 ได้อีกครั้ง... ไม่ D

*** ถ้าหลุด 1020 ลงมา... ก็จะเป็น Sell Signal โดยมีเป้าหมายที่ 1011 ได้... ไม่ D

----------------------------------------------------------------------------
แนวรับ... 1029 / 1020 / 1011...
แนวต้าน... 1039 / 1046 / 1053...




---------------------------------------------------------------
* ระยะ Day >>> หลังจากที่ผ่าน EMA200 ขึ้นมา... และ Indy เริ่มให้สํญญาณที่ดีขึ้น ทำให้ SETI มีแน้วโน้ม Moving Up ไปที่แนวต้าน 1046/1053...... 

* ระยะ Week 12 - 16 ก.ย..54 >>> Still in Bearish Market... ลุ้นผ่าน BBA เป็น Bull Market...
กรอบเล็ก 1040 - 1074... กรอบใหญ่ 1037 - 1082...

Week ที่แล้ว 5 - 9 ก.ย. 54 ... ยังอยู่ในโซน Bear Market แต่มีการ Rebound ผ่าน 1057 EMA25 แต่ไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1065 EMA5 ได้...
Main Indy = ทุกตัวยังเป็น Sell Signal... 
MACD below Signal Line / MACD Osc under Zero line เป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว... 
แต่เริ่มกลับมาบวก (เขียว) เป็นสัปดาห์ที่2...

Minor Indy = ทุกตัวเป็น Sell Signal เหมือนกัน... ADX ยังเป็น Bearish Market...
เกิดเป็น Dead Cross แล้ว... หลังจาก EMA5 ตัด EMA10 ลงมา... 
- SETI ทำ High ที่ 1073.92 จุด... มี Low ที่ 1040.58 จุด...
- SETI อยู่ระหว่าง EMA5 กับ EMA25... ยังไม่สามารถผ่าน BBA ขึ้นมา...

* ระยะ Month 1-30 ก.ย. 54 >>> SETI เป็นลักษณะ UpTrend... แต่มี Sell Signal เกิดขึ้นกับ Candlestick... หลุด EMA5 ลงมาแล้ว Next Station อย่าให้หลุดแนวรับที่ EMA 10...
Market Structer.... Trading Range 1039 - 1113....

- เดือนที่แล้ว สิงหาคม ทำ New High 1148.28 จุด... มี Low ที่ 1012.15 จุด...
- นอกจากนั้น Candlestick = Black Candle เป็น Bearish engulfing = Reversal / ส่งสัญญาณลบ...
- ระวังอย่าให้หลุดเส้นแนวรับ EMA5 เลวร้ายที่สุดก็ให้หยุดที่แนวรับ EMA10...

-----------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis

16 กย. 54 (+13.25 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

แกว่งตัวในกรอบ 1011 - 60 จุด
ภาพตลาดยังคงไม่มีความชัดเจนนัก แต่ภาพตลาดโดยรวมยังคงเป็นการแกว่งตัว และ ย่ำฐานในกรอบ 1011 – 45 (หรือ 60 ) จุด ใต้เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ต่อไป

ตลาดไม่ควรปรับตัวลง ต่ำกว่า 1010 จุดเพราะจะทำให้เกิด “สัญญาณขาย” ในเครื่องมือPoint & Figure และ ดัชนีจะมีความเสี่ยงของการปรับตัวลงต่อบริเวณ 956 – 961 จุด


หุ้นเด่น

IVL
ปรับตัวขึ้นมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงพอดีรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 35.25 จุดสูงสุดวันพฤหัสและเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าว เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 36.50 – 37.50( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 34.50 )

SCC
ปรับตัวขึ้นมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงพอดีรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 312 จุดสูงสุดวันพฤหัสและเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าว เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 314 - 319( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 308 )




10 อันดับซื้อขายสูงสุด
BBL เกิน 152 ขึ้น 153 – 155
SCC รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
PTT เกิน 317 ขึ้น 319 – 321
KBANK เกิน 121 ขึ้น 122 – 124
BANPU เกิน 628 ขึ้น 634 – 636
PTTCH เกิน 125.50 ขึ้น 128 - 129
BAY เกิน 22.30 ขึ้ร 23.50 – 23.70
KTB เกิน 18.20 ขึ้น 18.50 – 19
ADVANC แกว่งตัว 119.50 – 124.50
IVL รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”



-----------------------------------------------------------------------------

DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 1.66% หลังคืบหน้าแก้วิกฤติหนี้ยุโรป

        ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ในวันพฤหัสบดี ขณะที่การดำเนิน
การร่วมกันของธนาคารกลางได้คลายความวิตกที่ว่า ภาคการเงินของยุโรปจะ
เผชิญกับภาวะสินเชื่อตึงตัวอันเนื่องมาจากวิกฤติหนี้
        ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 186.45 จุดหรือ
1.66% สู่ 11,433.18, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 20.43 จุดหรือ
1.72% สู่ 1,209.11 และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 34.52 จุดหรือ
1.34% สู่ 2,607.07
        ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ราว 7.5 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค,
ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq
ต่ำกว่าปริมาณเฉลี่ยของปีที่แล้วที่ราว 7.6 พันล้านหุ้น โดยมีจำนวนหุ้นบวกนำ
หุ้นลบมากกว่า 3 ต่อ 1 ในตลาดนิวยอร์ค และ 2 ต่อ 1 ในตลาด Nasdaq
        หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้นหลังจากธนาคารกลางยุโรปประกาศแผน
การร่วมกับธนาคารกลางอื่นๆ เพื่อทำให้การกู้ยืมดอลลาร์ของสถาบันการเงิน
ในยูโรโซนง่ายขึ้น
        ดัชนีหุ้นสำคัญพุ่งขึ้นมากกว่า 1% โดยหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นมาก
กว่าหุ้นกลุ่มอื่นๆ หลังจากที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากวิกฤติหนี้ยุโรป
        ดัชนี S&P หุ้นกลุ่มการเงินพุ่ง 2.6% และดัชนี S&P หุ้นกลุ่ม
อุตสาหกรรมบวก 1.9%
        ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการควบคุมวิกฤติหนี้นั้นได้ลดผลกระทบจาก
ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐ
        จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐเพิ่มขึ้นแตะระดับ
สูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมิ.ย. และดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์คหดตัวลงใน
เดือนก.ย.
        นอกจากนี้ กิจกรรมการผลิตในเขตมิดแอตแลนติกหดตัวลงเป็น
เดือนที่ 2 ติดต่อกันด้วย--จบ--


ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:น้ำมันดิบปรับขึ้น 49 เซนต์ขณะตลาดลดกังวลยุโรป

        ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันพฤหัสบดี ในขณะที่ธนาคาร
กลางของประเทศสำคัญดำเนินมาตรการช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ในยุโรปในด้านการ
ระดมทุน และผู้นำของยุโรปกล่าวว่าจะให้การสนับสนุนกรีซ โดยปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้
นักลงทุนลดความกังวลเรื่องหนี้ยูโรโซน
        ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนต.ค.ปรับขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.55 % มาปิด
ตลาดที่ 89.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 88.01-90.15 ดอลลาร์
        ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนทะยานขึ้น 2.94
ดอลลาร์ หรือ 2.62 % สู่ 115.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง
111.75-116.10 ดอลลาร์
        นักลงทุนไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาด
แรงงานสหรัฐและกิจกรรมภาคโรงงานในแถบชายฝั่งทะเลตะวันออกของสหรัฐอ่อนแอ
ลง โดยตัวเลขที่อ่อนแอเหล่านี้ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
อาจจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆนี้
        ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นพร้อมกับตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ซึ่งได้รับแรงหนุนจาก
มาตรการของธนาคารกลาง
        ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แถลงว่า อีซีบีและธนาคารกลางของประเทศสำคัญ
แห่งอื่นๆจะเปิดใช้มาตรการอัดฉีดสภาพคล่องดอลลาร์ระยะ 3 เดือนอีกครั้งใน
ไตรมาส 4/2011
        สภาปิโตรเลียมแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า ภายในปี 2035 ปริมาณการผลิตน้ำมัน
จากหินน้ำมัน (shale oil) ของสหรัฐอาจอยู่ที่ 2-3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ถ้าหาก
กฎระเบียบเอื้ออำนวยและมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการผลิตน้ำมันประเภทนี้--จบ--


ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ราคาทองดิ่งลงขณะตลาดลดกังวลยุโรป
 
        ราคาทองที่ตลาดสหรัฐดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี
ในขณะที่ความพยายามควบคุมวิกฤติหนี้ยุโรปกระตุ้นให้ราคาทองแกว่งตัวผันผวน และทำให้
นักลงทุนลดความต้องการซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
        ราคาทองสปอตดิ่งลง 1.8 % สู่ 1,788.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแตะจุดต่ำสุด
ของวันที่ 1,772.04 ดอลลาร์
        ราคาทองรูดลงมาแล้ว 7 % นับตั้งแต่ทำสถิติสูงสุดที่ 1,920.30 ดอลลาร์ในวัน
อังคารที่ 6 ก.ย.
        ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดตลาดดิ่งลง 2.5 % หลังจากเคลื่อนตัว
ในช่วง 1,775.00-1,829.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีวอลุ่มการซื้อขายอยู่ที่ระดับสูง
กว่าค่าเฉลี่ยของสัปดาห์นี้ราว 10 %
        ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นหลังจากธนาคารกลางสำคัญประกาศว่า ธนาคารกลางจะร่วมมือกัน
เพื่อปล่อยกู้ดอลลาร์ระยะ 3 เดือนแก่ธนาคารพาณิชย์ เพื่อป้องกันไม่ให้ตลาดเงินประสบ
ภาวะชะงักงัน
        นายอดัม ซาร์ฮาน ซีอีโอของบริษัทซาร์ฮาน แคปิตัลกล่าวว่า ราคาทองอาจจะ
พบกับแนวรับทางเทคนิคที่ระดับราว 1,702 ดอลลาร์

        สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันพฤหัสบดีมีดังต่อไปนี้  
                  ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์) 
 ทองเดือนธ.ค.     1,781.40                  - 45.10
 เงินเดือนธ.ค.        39.501                 -103.20 (เซนต์) 
                ส่วนราคาโลหะมีค่าที่ตลาด NYMEX ในวันพฤหัสบดีมีดังต่อไปนี้ 
                  ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)  
 พลาตินั่มเดือนต.ค.  1,780.60                  - 35.30
 พัลลาเดียมเดือนธ.ค.  723.50                  +  2.50 --จบ-- 
 


ตลาดเงิน Emerging Asia:สกุลเงินเอเชียอ่อนค่ารอบหลายเดือนเทียบดอลล์วันนี้

        ดอลลาร์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเอเชียในวันนี้ ขณะที่วอนร่วง
แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนจากแรงขายของนักลงทุนในต่างประเทศ
และคำสั่งขายตัดขาดทุน 
        รูเปียห์ทรงตัว หลังจากที่ดิ่งลงเมื่อวานนี้ โดยกลุ่มนักลงทุน
ในต่างประเทศขายพันธบัตรรัฐบาลอินโดนีเซียออกมา ขณะที่รูเปียห์
ร่วงลง แต่ก็ทรงตัวเหนือระดับต่ำสุดที่ทำไว้เมื่อวานนี้
        เงินเอเชียยังคงเผชิญกับแรงกดดันโดยรวม โดยริงกิตร่วง
แตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และเปโซร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 
6 เดือน
        เทรดเดอร์กล่าวว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์ และนักลงทุนในต่าง
ประเทศส่งคำสั่งซื้อดอลลาร์อีกครั้งในวันนี้
        ธนาคารกลางในเอเชีย ซึ่งทุ่มเงินราว 4 พันล้านดอลลาร์
ในการแทรกแซงขายดอลลาร์เมื่อวานนี้ ส่งคำสั่งขายดอลลาร์อีกครั้งในวันนี้ 
ขณะที่เทรดเดอร์ระบุว่ามีแรงขายดอลลาร์ของธนาคารกลางของเกาหลีใต้
และอินโดนีเซีย รวมทั้งฟิลิปปินส์ด้วย
        นายโจนาธาน คาเวนาห์ นักยุทธศาสตร์การลงทุนสกุลเงินของ
ธนาคารเวสท์แพคในสิงคโปร์ กล่าวว่า ดอลลาร์/เงินเอเชียอาจจะเริ่ม
มีการปรับฐานบ้างในระยะใกล้ แต่เขาก็เตือนมิให้รีบขายดอลลาร์/เงิน
เอเชียในขณะนี้ 
        ดอลลาร์/รูเปียห์ทรงตัว หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่
ปลายเดือนก.พ.ที่ 8,840 เมื่อวานนี้ และเทรดเดอร์รายหนึ่งกล่าวว่า 
ดอลลาร์/รูเปียห์แตะระดับสูงสุดของวันนี้ที่ 8,800
        แรงขายดอลลาร์/วอนของนักลงทุนในประเทศถ่วงดอลลาร์
ในช่วงแรก แต่ก็มีแรงซื้อคืนดอลลาร์/วอนในช่วงขาลง 
        ดอลลาร์/ริงกิตพุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 9 เดือนที่ 3.1030
        ดอลลาร์/เปโซพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ 43.700 
จากแรงซื้อคืนดอลลาร์ของกลุ่มนักลงทุน และธนาคารกลางฟิลิปปินส์ก็ได้
ขายดอลลาร์เพื่อสกัดการแข็งค่าของดอลลาร์ด้วย
        นายวิลเลียม แอคแมน ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ซึ่งมีชื่อเสียง
ในเรื่องการเลือกหุ้น กล่าวว่า เขาซื้อดอลลาร์ฮ่องกง โดยตั้งข้อสังเกตว่า 
สิ่งนี้อาจจะเป็นการคาดการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา
        เขากล่าวอีกว่า เขาเชื่อว่าธนาคารกลางฮ่องกงจะปล่อยให้ดอลลาร์
ฮ่องกงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในที่สุด   


ENGLAND:ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index)ปิดลบ 20 จุด สู่ 1907

        ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ (15 ก.ย.) ลบ 20 จุด
หรือ 1.04% สู่ระดับ 1907 
        ระดับสูงสุดของปี้นี้อยู่ที่ 1927 และระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 1043
        ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554      
        ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-     
          วันที่                  ระดับปิด          เปลี่ยนแปลง (จุด)
        14 ก.ย.                 1927               +26
        13 ก.ย.                 1901               +25
        12 ก.ย.                 1876               +38
         9 ก.ย.                 1838               +56
         8 ก.ย.                 1782               +38


16-09-54>> แนวโน้ม Sideways Down...
SETI มีสัญญาณที่ดีขึ้นจากการดีดตัวขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และแท่งเทียนมีสีขาว แต่
MACD ยังคงปิดต่ำกว่าเส้น Zero Line จึงทำให้มีแนวโน้มในระยะสั้นเป็น Sideways Down แต่มีลุ้น
ดีดตัวในระยะสั้น
ดังนั้นในระยะสั้นแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร"

LPN ปิด 11.40 บาท
ราคาปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น และ MACD
สามารถปิดเหนือเส้น Zero Line ได้ แนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้าน 11.80-12.20 บาท แนวรับ 11.10-
10.90 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 10.70 บาท

KAMART ปิด 2.52 บาท
ราคาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น และ MACD สามารถยืนเหนือเส้น
Zero Line ได้ แนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้าน 2.30-3.00 บาท แนวรับ 2.48-2.44
บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 2.40 บาท

ASP ปิด 2.46 บาท
ราคาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น และ Indicator ทุกตัวให้
สัญญาณลบ แนวโน้มเป็นขาลง มีเป้าหมายทางเทคนิค
อยู่บริเวณ 2.20 บาท
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 2.52-2.56 บาท แนวรับที่ 2.30-2.20 บาท

STA ปิด 23.10 บาท
แท่งเทียนมีสีดำ ประกอบกับราคาปรับตัวลงมาต่ำกว่าเส้น
ค่าเฉลี่ยทุกเส้น แนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 23.50-23.80 บาท แนวรับที่ 22.00-21.00
บาท


·         ประเมินหุ้นเข้าเกณฑ์ Cash Balance ประจำสัปดาห์ - คาด PAO เข้าเกณฑ์

http://bl157w.blu157.mail.live.com/mail/clear.gif
จากการคำนวณข้อมูลระหว่างวันที่   9-15 ก.ย. 54 (ครบ 5 วัน)
ได้ข้อมูลหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันตั้งแต่ 50 ล้านบาท (ตามตารางด้านล่าง) 
คาดการณ์ว่าในสัปดาห์นี้มี :

หุ้นสามัญใน  SET ที่เข้าข่ายเกณฑ์ Cash Balance :  PAO
หุ้นสามัญใน MAI ที่เข้าข่ายเกณฑ์ Cash Balance :    - ไม่มี -
ใบสำคัญแสดงสิทธิใน SET และ MAI ที่เข้าข่ายเกณฑ์ Cash Banlance :  - ไม่มี -


-----------------------------------------------------------------------------


-----------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น