Code 184 : 1,000 จุด เป็นแนวต้านที่แข็งแรงมาก

วันพฤหัสที่ 28 ตุลาคม 2553

ATT Code : 1,000 จุด เป็นแนวต้านที่แข็งแรงมาก

เมื่อเช้าวานนี้ SET สามารถเปิดกระโดดขึ้นมาฝ่าน 1,000 จุด ได้อีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นแนวต้านที่แข็งแรงมาก บวกกับตลาด Hong Kong ที่ลงไปลบถึง 400 กว่าจุด ทำให้ SET ก็มีแรงขายออกมาลงมาเรื่อยจนหลุดเส้น 5 วัน ที่ 989 จุด และตามด้วยเส้น 10 วัน ที่ 987 จุด มาหยุดที่เส้น BB Average ที่ 982 ก่อนที่จะมาปิดที่ระดับ 983.96 จุด แต่ก้ยังอยู่ในกรอบ 980-1,000 จุด แต่ในวันนี้ก็ไม่ควรที่จะตำกว่า 970 จุด

----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
28 ตค. 53 ( -12.08 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ไม่ควรต่ำกว่า 970 จุด
ดัชนีในวันพุธ ปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมง ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีและโอกาสที่จะปรับตัวขึ้น 1040 – 1060 จุด เริ่มลดน้อยลง ?

ภาพในวันพฤหัสนี้ ดัชนียังพอมีโอกาสที่จะแกว่งตัวในกรอบ 980 – 1000 หรือระหว่างจุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว ถึงจุดสูงสุดของสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากสภาวะ RSI Overbought & Bearish Divergence ในภาพระยะสัปดาห์ ไม่ว่าดัชนีจะขึ้นถึง 1040 –
1060 จุดหรือไม่ ?

ตลาดมีโอกาสปรับฐานใหญ่แถว 900 – 940 จุด ในระยะต่อไป (โดยเฉพาะการปรับตัวลง ต่ำกว่า 970 จุด จะถือเป็นการปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน และถือเป็นการเกิด “สัญญาณขาย” ในเครื่องมือ Point &Figure)

หุ้นเด่น
STECกำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะสัปดาห์ รอซื้อตามมื่อปรับตัวเกิน 13.70กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายระยะสัปดาห์ 14.80 – 15.20( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 13.00 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTTCH แกว่งตัว 145 - 147
PTT ต่ำกว่า 300 ลง 290 - 295
BANPU ไม่น่าเกิน 784 - 788
IVL ต่ำกว่า 32.75 ลง 31 - 32
JAS แกว่งตัว 1.48 – 1.53
ADVANC ไม่น่าเกิน 92.50 – 93
PTTAR ปรับตัวลง 28 – 28.50
STEC รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
PTTEP ปรับตัวลง 165 - 167
SCC ปรับตัวลง 318 – 320

Intraday
แกว่งตัวในกรอบ 982 - 990 ใต้เส้น 25 ชม.

ต่ำกว่า 970 เส้น 25 วัน เป็นสัญญาณปรับฐานใหญ่ 900 - 940 จุด
----------------------------------------------------------------------------------
วัสดุก่อสร้างที่น่าจะขายดีหลังน้ำลด - GLOBAL, HMPRO, TASCO, DCC, DRT, SCC, SCCC, TSTH
ivl : เกิดไฟไหม้โรงงานที่ระยองเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ย้งไม่ทราบความเสียหาย
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย

FSS:ตลาดปรับลงน่าทยอยเข้ารับ...เพื่อลุ้นโอกาสดีดขึ้นเหนือ 1000 จุดต่อได้
แนวโน้ม: เมื่อวานนี้ตลาดเริ่มปรับตัวลงจากกรอบแกว่งระหว่าง 980-1000 จุดอีกครั้ง แต่เป็นการปรับตัวลงวันเดียวที่ค่อนข้างแรง ทำให้โอกาสที่ SET จะหลุดต่ำกว่า 980 จุดลงไปมีความเป็นไปได้มากขึ้น ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศยังมียอดขายสุทธิต่อเนื่องอีกวัน ซึ่งแม้ว่าจะไม่มากนัก แต่คาดว่าจะสร้างความกังวลให้กับตลาดพอควร อย่างไรก็ตาม FSS ยังมองว่านักลงทุนต่างประเทศเป็นเพียงการขายปรับพอร์ตช่วงสั้นๆ ก่อนทราบรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ของสหรัฐ และยังมีโอกาสที่จะกลับเข้ามาซื้อได้อีกครั้ง รวมทั้งตลาดหุ้นไทยยังมีเม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF ที่คาดว่าจะเข้ามาเสริมในตลาดหุ้นช่วงท้ายๆ ปีด้วย ดังนั้นช่วงตลาดปรับตัวลงเราจึงยังแนะนำให้เป็นจังหวะของการเลือกหุ้นเข้าซื้ออยู่ เพื่อลุ้นดัชนีขยับขึ้นเหนือ 1000 จุดได้ต่อไป
กลยุทธ์: ยังเลือกหุ้นเข้าซื้อได้เมื่อตลาดปรับตัวลง โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่TASCO, GLOBAL, HMPRO, AMATA, SIRI, SPALI, QH, VNG, CK, STEC,MAJOR, IRPC, PTTAR, LANNA, BGH, DTAC, ADVANC, SITHAI เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
• (-) ความเสี่ยงของตลาดหุ้นในระยะสั้นยังไม่หมดไป หุ้นทั่วโลก ทอง น้ำมันและโภคภัณฑ์อื่น ปรับตัวลงถ้วนหน้าเพราะตลาดเริ่มกังวลกับขนาดของ QE2 ว่าอาจน้อยกว่าคาด ความเสี่ยงของตลาดในระยะสั้นยังมี ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 (short cover) สอดคล้องกับความเห็นของโบรกต่างชาติที่ให้short equity, long dollar เรามองภาพระยะกลาง-ยาวยังคงขึ้นเหมือนเดิม
• (-) สศค.ประเมินน้ำท่วมกระทบ GDP ปีนี้ 0.08% - 0.21% น้ำท่วมสร้างความเสียหายเบื้องต้นราว 7.7 พัน - 2.02 หมื่นลบ. ซึ่งจะกระทบ GDP ปีนี้0.08% - 0.21% (สศค.คาด GDP ก่อนน้ำท่วมโต 7.6%) พื้นที่การเกษตรที่เสียหายมีประมาณ 2.4 ล้านไร่ ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบเช่นกันทำให้การผลิตต้องหยุดชะงัก โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ อิเลคทรอนิกส์ยานยนต์ และภาคการท่องเที่ยว ส่วนก.คมนาคมประเมินน้ำท่วมทำถนนเสียหายกว่า 8 พันลบ. เล็งของบกลางปี 2555 ซ่อมถนน
• (+) TUF คาดกำไร 3Q10 +3% Q-Q, -12% Y-Y จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดเพราะบาทแข็งและต้นทุนปลาทูน่าผันผวน เรายังแนะนำซื้อ เป้าหมาย 70 บาท ความน่าสนใจอยู่ที่การเติบโตของกำไรในอนาคตหลังซื้อ MWB ซึ่งจะทำให้ TUF เป็นผู้ผลิตปลาทูน่ากระป๋องรายใหญ่สุดในโลกได้เปรียบคู่แข่งในทุกด้าน
• (+) SCC ปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 375 บาท จาก 330 บาท กำไร 3Q10 ต่ำสุดจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q10 เป็นต้นไป การเติบโตในปีหน้าจะมาจากโรงงานปิโตรเคมีแห่งที่ 2 ที่จะเดินเครื่องได้อย่างเต็มที่ ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจะช่วยชดเชยmargin ของธุรกิจปิโตรเคมีที่ยังอยู่ในระดับต่ำได้
• (+) TVO ปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 31 บาทแต่ลดคำแนะนำลงเป็นถือ จากเดิมซื้อเพราะราคาหุ้นมี upside เหลือเพียง 8% แนวโน้มกำไร 3Q10 แย่กว่าคาดโดย -6.8% Q-Q และ -27.8% Y-Y
• (+) คาด SSI, RATCH ประกาศผลประกอบการวันนี้
• Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้า แต่ปริมาณเบาบางมาก ทั้งนี้เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่รอดูประกาศตัวเลขจีดีพีสหรัฐและการประชุมเฟดในวันที่ 2-3 พ.ย นี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร นอกจากนี้ข่าวที่ว่าเฟดอาจจะอัดฉีดเม็ดเงินประมาณ 5 แสนล้านดอลลาร์ เป็นเวลา 6 เดือน โดยจะทะยอยอัดฉีดเดือนละประมาณ 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ที่คาดว่ากันว่าจะออกในปริมาณที่มากถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 5 แสนล้านในคราวเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามเรามองว่าแม้จะไม่มีการอัดฉีดเม็ดเงินจากเฟด กระแสเงินทุนจากต่างชาติก็จะยังไหลเข้าตลาดภูมิภาคเอเชียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะอย่างไรก็แล้วแต่อัตราดอกเบี้ยของ
ประเทศในเอเชียสูงกว่าสหรัฐและยูโรปมาก นอกจากนี้การที่เฟดไม่อัดฉีดเม็ดเงินของสู่ระบบก็ยังหมายความว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่ถดถอยอีกหรือแข็งแกร่งพอที่จะ
ฟื้นตัวในอนาคตนั้นเอง อย่างไรก็ตามระยะสั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินในภูมิภาคที่อ่อนค่าลงและตลาดหุ้นเกิดแรงขายทำกำไรหลังเฟดอัดฉีดเม็ดเงินน้อย
กว่าคาด แต่จะเป็นจังหวะซื้อสะสมในการลงทุนระยะยาว

ข่าวภายในประเทศ
ทยอยซื้อ ‘LTF-RMF’ ก่อนดัชนีทะลุพันจุด กองทุนแนะทยอยซื้อ LTF-RMF ช่วงหุ้นปรับฐาน ฟันธงปีนี้ดัชนีทะลุ 1 พันจุด รับอานิสงส์เงินซื้อ
กองทุนหวังลดหย่อนภาษีเข้าอีกหมื่นล้านบาท ต้านทานแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ด้าน “บลจ.กรุงไทย” –“บลจ.แอสเซท พลัส” มั่นใจผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นยังสวย หลังดัชนีปรับตัวขึ้นทำนิวไฮ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 28-10-2010)
JAS เทรดวอลุ่มโป่งหวั่นถูกแคชบาลานซ์ JAS เตรียมติด turnover list หากวอลุ่มเทรดวันนี้เกิน 144 ล้านบาท และราคาหุ้นปิดต้องสูงกว่า 1.45บาท ทำให้การคำนวณ P/E เกิน 50 เท่า เข้าเกณฑ์ ก.ล.ต. ทันที และมีสิทธิถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ บังคับให้ซื้อในบัญชีเงินสด (cash balance) (ที่มา:นสพ.ข่าวหุ้น 28-10-2010)
N-PARK ลุ้นชนะ! คดีแบงก์สินเอเซียบอร์ดมีมติเพิ่มทุน เอ็นพาร์คมั่นใจชนะคดีเก่า สินเอเซีย 741.40 ล้านบาท ภายใน 1-2 เดือนนี้ ระบุถ้าชนะใช้เป็นบรรทัดฐานกับคดีอื่นได้หมด ส่วนโครงการร้อยชักสามอยู่ระหว่างเจรจาหาข้อยุติ บอร์ด "N-PARK" มีมติให้นำหุ้นสามัญ 13,645.95 ล้านหุ้นที่เหลือจากการเพิ่มทุนครั้งที่แล้ว เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาขายหุ้นละ 0.01 บาท(ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 28-10-2010)
SC ยอดขายพุ่ง 6 พันล้าน ทุ่ม 80 ล้านลุยรีแบรนดิ้ง SC เผย 10 เดือนโชว์ยอดขาย 4,000 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปีนี้ยอดขายพุ่ง 6,000 ล้านบาท ทุ่มงบคอร์ปอเรทกว่า 80 ล้านบาท เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาและจัดกิจกรรมเปิดตัว 12 โครงการ มูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 5-7 พ.ย.นี้"ยิ่งลักษณ์" ลั่นปีหน้าตั้งเป้ายอดขาย-รายได้โต 25% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 28-10-2010)
CSL ครึ่งหลังลูกค้าองค์กรไหลเข้า เชื่อทั้งปีกำไร 76 ล้าน - ปันผล 0.25 บ. CSL เชื่อธุรกิจอินเตอร์เน็ตยังพอไปได้ คาดครึ่งปีหลังลูกค้าองค์กรยังทยอยเข้ามาต่อเนื่อง คาดรายได้โตสูงสุด 10% วางเป้าหมายรักษากำไรที่ 40 สต.ต่อหุ้น โบรกฯคาดรายได้ไตรมาส 3 มากกว่า 678 ล้านบาท กำไร76 ล้านบาท ส่วนทั้งปีคงกำไรที่ 343 ล้านบาท โตขึ้น 20% เชื่อปันผลที่เหลืออีก 0.25 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 28-10-2010)
PTTCH กำไร Q3 ต่ำสุดรอบปีนี้ รับสเปรดลด-กำลังผลิตใหม่เข้า PTTCH ส่งสัญญาณ Q3 กำไรทำจุดต่ำสุดที่ 2,132 ล้านบาท หลังเปรดลดลง
กำลังผลิตใหม่จากตปท.จะเข้ามา แต่ลุ้นวอลุ่มช่วย เหตุ ส.ค.นี้ แครกเกอร์ 1 ล้านตัน เดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ และLDPE 3 แสนตันต่อปี สตาร์เครื่องผลิตแล้ว รอลุ้นไตรมาส 4 รายได้ฟื้น หลังความต้องการยังเติบโต (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 28-10-2010)
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.

ข่าวต่างประเทศ
ยุโรป: เยอรมนีเผยอัตราว่างงานเดือนต.ค.ลดลง 7.5% หลังตลาดแรงงานฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ นายอุร์ซูลา วอน เดอ เลเยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของเยอรมนี เปิดเผยว่า จำนวนคนว่างงานในเยอรมนีลดลงต่ำกว่าระดับทางจิตวิทยาที่ 3 ล้านคนในเดือนตุลาคม โดยนายวอน เดอ เลเยน ระบุว่า อัตราการว่างงานเดือนต.ค.ร่วงลง 7.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับ 2.9 ล้านคน และทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2535 (ที่มา: อินโฟเควสท์ 28-10-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเกินคาด 3.3% กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนก.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.2% เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของยอดสั่งซื้อเครื่องจักร เครื่องบินและชิ้นส่วนเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมยอดสั่งซื้อในหมวดการขนส่ง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.ลดลง 8.8% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 28-10-2010)
สหรัฐอเมริกา: ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.ของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด 6.6% หลังยอดขายในเขตมิดเวสต์ทะยาน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 6.6% แตะระดับ 307,000 ยูนิต/ปี จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 288,000 ยูนิต/ปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 300,000 ยูนิต ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเกินคาดนั้นมาจากยอดขายบ้านใหม่ในเขตมิดเวสต์ที่ทะยานขึ้น 61% ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่ในภูมิภาคตอนใต้และตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง3% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 28-10-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งเกินคาด 5.01 ล้านบาร์เรล หลังยอดนำเข้าสูงขึ้น สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 22 ต.ค. พุ่งขึ้น 5.01 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 366.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล หลังจากสหรัฐนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 863,000 บาร์เรล/วัน แตะระดับ9.43 ล้านบาร์เรล/วัน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 28-10-2010)
เอเชีย: สนง.สถิติเวียดนามคาดยอดขาดดุลการค้า 10 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ $9.5 พันล้าน สำนักงานสถิติเวียดนามคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าของเวียดนามอาจเคลื่อนไหวที่ระดับ 9.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 16.4% ของรายได้การส่งออกโดยรวมในประเทศ สำหรับยอดขาดดุลการค้าในเดือนต.ค.อาจอยู่ที่ระดับ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 17.6% ของรายได้จากการส่งออก (ที่มา: อินโฟเควสท์ 27-10-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น