Code 458 : 25/07/54 Breakout ทำ New High... เป็นขาขึ้นรอบใหม่... Target 1133....

วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม 2554
ATT Code : Breakout ทำ New High... เป็นขาขึ้นรอบใหม่... Target 1133....
กรอบเล็ก... Range อยู่ที่ 1113 - 1122....
กรอบใหญ่...
Range อยู่ที่ 1103 - 1133...

* ระยะ Day >>> มีลักษณะเป็น Lower High... มีโอกาสปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ...
- ผ่านแนวต้าน ที่ High เดิม ที่ 1113.63 จุด... จะเป็นขาขึ้นรอบใหม่ เป็น Break out ขึ้น... โดยจะมี Target อยู่ทีี 1133 -1140....

* ระยะ Week 18 - 22 ก.ค. 54 >>> เป็น Buy Signal in Bull Market
- SETI อยู่ระหว่าง BBA กับ BBT...
- UpTrend = MacD crossover Signal Line...
- MacD Osc ขึ้นมาเป็นบวกมากขึ้น....
- Main Indicators ทุกตัวเป็น Buy Signal...
- กรอบเล็ก Range อยู่ที่ 1080 - 1122...
- กรอบใหญ่ Range อยู่ที่ 1060 - 1126...

* ระยะ Month 1-31 ก.ค. 54 >>> SETI เป็นลักษณะ Sideway in UpTrend..
- กรอบเล็ก Range อยู่ที่ 1016 - 1133
- กรอบใหญ่ Range อยู่ทีี่ EMA10 - BBT... หรือที่ 998 - 1182...

*** แนวโน้มหลัก : ฺBull market... Up Trend in Range 1103 - 1122...***
* SETI ทำ New High โดยการ Breakout 1113.. โดยมี Target 1133...
* SETI อยู่ใน Trading Range ของ BBA กับ BBT...

---------------------------------------------------------------------------
1. เข้าที่...
วันอังคาร SETI ปิดที่ 1121.04 จุด +16.89 จุด... Volume 39,998 MB...
- SETI สามารถผ่านแนวต้าน 1113 ขึ้นไปได้... โดยแรงขายไม่สามารถต้านทานแรงซื้อได้ ทำให้เกิดเป็น New High... โดยเป็นขาขึ้นรอบใหม่...
- SETI อยู่แหนือ EMA5 ได้ เป็น Up Trend... และ EMA5 ยังอยู่เหนือกว่า EMA10 อยู่...
โดยถือว่า EMA5 เป็นแนวรับที่สำคัญ...
(ถ้า EMA5 ตัด EMA10 ลงมา... ก็จะเป็น Dead Cross = Down Trend)
- Chart Pattern เป็นลักษณะคล้ายๆ White Candle...Bull
นอกจากนี้ Chart มีลักษณะเป็น Lower High...

- Main Indicators... มีความแข็งแรงขึ้นทุกตัว.... มีแนวโน้มที่ดี ไปในทิศทางเดียวกัน...
MACD Osc.. มีค่าเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 แล้ว...
RSI ก็มีความแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ....

- Minor Indicators... มีค่าเพิ่มขึ้นทุกตัว...มีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง ไปในทิศทางเดียวกัน กับ Main Indicators...
โดยมี %R พลิกกลับมาเป็น Buy Signal อีกครั้ง...

----------------------------------------------------------------------------
2. ระวัง...
- ระวังถ้าดัชนีต่ำกว่า 1121... ก็มีโอกาสที่จะลงไปสู่ 1113ได้...

-----------------------------------------------------------------------------

3. ไป...
- แนวโน้มวันนี้ >>> Breakout ทำ New High... เป็นขาขึ้นรอบใหม่... Target 1133....

- สัญญาณบวก >>> ถ้าดัชนีสามารถปรับตัวสูงขึ้น โดยไม่ต่ำกว่า 1122... ก็มีโอกาสที่จะทำ New High และขึ้นไปเทสที่ 1133 ได้..
*** ถ้าผ่าน 1133 ไปได้ ก็จะเป็น Buy Signal ขึ้นมา... ตามกฎของ BB โดยดัชนีจะเกาะไปกับ BB...

- สัญญาณลบ >>> แต่ถ้าดัชนีลงมาต่ำกว่า 1121 ลงมา... ก็มีโอกาสที่จะลงมาที่เป้าหมายที่ 1113 ได้...
*** ถ้าหลุด 1113 ลงมา ก็จะเกิด Sell Signal... โดยมีเป้าหมายที่ 1103...

----------------------------------------------------------------------------
แนวรับ... 1113 / 1110 / 1103...
แนวต้าน...
1122 / 1133...



-----------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
25 กค. 54 (+16.89 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ไม่เกิน 1121.99 ปรับฐาน 1100 - 05 จุด
แนวโน้มในวันจันทรนี้ ตราบใดไม่เกิน1121.99 จุดสูงสุดวันศุกร์ ดัชนีมีโอกาสปรับตัว“ชั่วคราว” แถว 1100 – 05 ใกล้จุดต่ำสุดของวันพฤหัส และเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมง

ตลาด “อาจจะ” ใช้ระยะเวลาอีกหนึ่งถึงสองวัน แกว่งตัวขึ้นลงในกรอบ 1100 – 20 หรือประมาณ จุดต่ำสุดของวันพฤหัสถึงจุดสูงสุดของวันศุกร์

ขณะที่การปรับตัวขึ้น เกิน 1121.99จุดสูงสุดวันศุกร์ ภาพตลาดระยะสัปดาห์มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อแถว 1133 - 68 จุด

หุ้นเด่น
KTB
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวัน รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 20.30 กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายระยะสัปดาห์21.00 – 21.50( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 20.00 )

PTTEP
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวัน รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 186.50จุดสูงสุดสัปดาห์ที่แล้ว เป้าหมายระยะสัปดาห์ 191.50 – 193.50( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 182.50 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
KBANK เกิน 144 ขึ้น 145 - 146
TOP เกิน 878 ขึ้น 79 - 80
PTT ต่ำกว่า 351 ลง 345 - 348
BBL เกิน 172 ขึ้น 173 – 174
PTTCH แกว่งตัว 159.50 – 162.50
IRPC ต่ำกว่า 5.85 ลง 5.60 – 5.70
SCB ไม่น่าเกิน 122 – 123
TRUE ไม่ต่ำกว่า 4.16 ขึ้น 4.34 – 4.40
CPF ไม่ต่ำกว่า 29.25 ขึ้น 31 - 32
KTB รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”

-----------------------------------------------------------------------------

DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ปิดลบ 0.34% ขณะ S&P,Nasdaq ปิดบวก

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดไร้ทิศทางในวันศุกร์ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของกลุ่มบริษัทผลิตชิพ และความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤติหนี้ของสหรัฐกระตุ้นแรงซื้อหุ้นที่เกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 43.25 จุดหรือ 0.34%

สู่ 12,681.16, ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 1.22 จุดหรือ 0.09% สู่ 1,345.02

และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 24.40 จุดหรือ 0.86% สู่ 2,858.83

ปริมาณการซื้อขายเบาบางราว 5.81 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค,ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งต่ำกว่าระดับเฉลี่ยต่อวันที่ 7.48 พันล้านหุ้น โดยมีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวก1,530 ต่อ 1,400 ในตลาดนิวยอร์ค และ 1,294 ต่อ 1,256 ในตลาด Nasdaqในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.6% , ดัชนี S&P 500เพิ่มขึ้น 2.2% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 2.5%

หุ้นคาเตอร์พิลลาร์ถ่วงดัชนีดาวโจนส์ลงหลังเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งและแผนความช่วยเหลือครั้งใหม่สำหรับกรีซที่จะควบคุมวิกฤติหนี้

หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์นำตลาดขึ้น หลังบริษัทแซนดิสค์และแอดวานซ์ ไมโครดีไวเซสรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาด PHLX บวก 2.4%

หุ้นแมคโดนัลด์พุ่งขึ้น 2.3% หลังเปิดเผยรายได้สูงเกินคาด และหุ้นไมโครซอฟท์ปรับตัวขึ้น 1.6% หลังเปิดเผยผลกำไรเพิ่มขึ้นเกินคาด--จบ--

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นตามผลิตภัณฑ์น้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นมาปิดตลาดที่ระดับปิดสูงสุดรอบ 6 สัปดาห์ใกล้ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการดีดขึ้นอย่างแข็งแกร่งของราคาผลิตภัณฑ์น้ำมัน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.บวกขึ้น 74 เซนต์ หรือ 0.75 % มาปิดตลาดที่ 99.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 98.43-100.19 ดอลลาร์ โดยระดับปิดวันศุกร์ถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. ส่วนจุดสูงสุดของวันศุกร์ถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับขึ้น 1.16ดอลลาร์ สู่ 118.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเทียบกับระดับปิดสัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันดิบเดือนใกล้ของสหรัฐก็ปิดตลาดสัปดาห์นี้พุ่งขึ้น 2.63 ดอลลาร์ หรือ 2.7 % ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดในแดนบวก4 สัปดาห์ติดต่อกัน

ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากคำสั่งซื้อชดเชยก่อนช่วงสุดสัปดาห์ นักลงทุนพึงพอใจที่ผู้นำยูโรโซนดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบสองต่อกรีซ แต่นักลงทุนยังคงกังวลที่สหรัฐยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับขึ้นเพดานหนี้ก่อนที่จะถึงเส้นตายในวันที่ 2 ส.ค.

นักวิเคราะห์กล่าวว่า คลื่นความร้อนที่ปกคลุมฝั่งตะวันออกของสหรัฐในขณะนี้อาจส่งผลให้บริษัทผลิตกระแสไฟฟ้าใช้น้ำมัน heating oil เป็นส่วนผสมในเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น ในขณะที่บริษัทกลุ่มนี้พยายามปรับเพิ่มการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ระดับสูง

ราคาน้ำมัน heating oil พุ่งขึ้นเกือบ 1 % และปิดตลาดที่ระดับปิดสูงสุดรอบ 6 สัปดาห์ในวันศุกร์--จบ--

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ปัญหาหนี้สหรัฐ,ยุโรปหนุนราคาทองพุ่งขึ้น

ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้นราว 1 % ในวันศุกร์ และเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ความไม่มั่นใจในแผนช่วยเหลือกรีซ และความกังวลเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง

ราคาทองสปอตขึ้นไปแตะ 1,607.01 ดอลลาร์ในระหว่างวัน เทียบกับสถิติสูงสุดที่ 1,609.51 ดอลลาร์ที่ทำไว้ในวันอังคารที่ 19 ก.ค.วอลุ่มการซื้อขายทองในตลาด COMEX อยู่ในระดับสูง โดยอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ย30 วันราว 20 %

ราคาทองพุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 12 % จากช่วงต้นปีนี้ นักวิเคราะห์หลายรายปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ราคาทองสำหรับปีนี้และปีหน้าแต่คาดว่าราคาพลาตินั่มและพัลลาเดียมอาจจะพุ่งขึ้นได้ยาก นักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า ราคาทองอาจมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,510 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีนี้ และ 1,575 ดอลลาร์ในปี 2012

สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันศุกร์มีดังต่อไปนี้

ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)

ทองเดือนส.ค. 1,601.50 + 14.50

เงินเดือนก.ย. 40.122 +117.50 (เซนต์)

ส่วนราคาโลหะมีค่าที่ตลาด NYMEX ในวันศุกร์มีดังต่อไปนี้

ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)

พลาตินั่มเดือนต.ค. 1,798.40 + 10.60

พัลลาเดียมเดือนก.ย. 806.40 - 2.60 --จบ--


ตลาดเงินนิวยอร์ค:ดอลล์อาจร่วงสัปดาห์นี้ขณะใกล้กำหนดเส้นตายเพิ่มเพดานหนี้

ดอลลาร์สหรัฐอาจร่วงลงในสัปดาห์นี้จากความวิตกที่ว่าสหรัฐอาจสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือขั้นสูงสุด ขณะที่นักการเมืองยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มเพดานหนี้ที่ใกล้ถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 2 ส.ค.

ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 78.430 เยน เทียบกับระดับปิดวันพฤหัสบดีที่ 78.420 เยนส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4361 ดอลลาร์และ 112.66 เยน เทียบกับระดับปิดวันพฤหัสบดีที่1.4421 ดอลลาร์และ 113.14 เยน

ความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยูโรโซนได้ลดลงแล้วในขณะนี้ หลังการประกาศมาตรการช่วยเหลือรอบสองสำหรับกรีซ และจุดสนใจมุ่งไปที่ความพยายามของสหรัฐที่จะหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

ทำเนียบขาวและพรรครีพับลิกันยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มภาษีซึ่งถูกคัดค้านโดยพรรครีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ระบุว่า มีโอกาส 50-50 ที่อันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA ของสหรัฐอาจถูกปรับลดลงภายในเวลา 3 เดือน

นักวิเคราะห์คาดว่า ดอลลาร์จะอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเยนและฟรังก์สวิส หากมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ

ตลาดเงิน Emerging Asia:สกุลเงินเอเชียแข็งค่ารับแผนช่วยเหลือกรีซ

ดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ขณะที่วอนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีในวันนี้ โดยนักลงทุนเข้าซื้อเงินเอเชียขานรับมาตรการของยุโรปในการช่วยเหลือกรีซ แม้ทางการเอเชียเข้าแทรกแซงตลาด และสัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ถึงภาวะมีแรงซื้อมากเกินไปก็ตาม

ผู้นำยูโรโซนได้เห็นพ้องกับมาตรการช่วยเหลือกรีซรอบสอง ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงที่วิกฤติหนี้จะลุกลามออกไป

นักลงทุนกล่าวว่า พวกเขาจะรอดูว่านักการเมืองสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้หรือไม่ แต่ก็คาดว่าสกุลเงินในภูมิภาคจะยังคงอยู่ในทิศทางที่สดใสต่อไป

ถ้าสหรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนถึงกำหนดเส้นตายวันที่ 2 ส.ค.ก็อาจจะกระทบความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง แต่ก็จะกดดันดอลลาร์อ่อนค่าลงด้วย ซึ่งจะหนุนสกุลเงินในภูมิภาคในที่สุด

บาท/ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นจากความต้องการของกลุ่มเอกชนและกองทุนแต่ก็พบว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าซื้อดอลลาร์/บาทตั้งแต่ระดับ29.84

บาทแข็งค่าขึ้นมากกว่าสกุลเงินเอเชีย ขณะที่การเลือกตั้งเมื่อวันที่3 ก.ค.ได้ช่วยคลายความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่บาร์เคลย์ แคปิตอลคาดว่าบาทจะปรับฐานในระยะสั้น โดยระบุว่าบาทแข็งค่าขึ้นมากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา และได้แนะให้นักลงทุนปรับสถานะการลงทุน

บาร์เคลย์คาดว่า ธปท.จะเข้าแทรกแซงต่อไปเพื่อชะลอการแข็งค่าของบาท และไทยอาจจะขาดดุลการค้าบ่อยขึ้นอันเนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น

"เราขอแนะให้ปรับสถานะการลงทุนรองรับการพลิกกลับระยะสั้นของการแข็งค่าของบาท ด้วยการซื้อสัญญาฟอร์เวิร์ดระยะ 1 เดือนของ

ดอลลาร์/บาทที่ 29.94 โดยมีเป้าหมายที่ระดับ 30.35" บาร์เคลย์ระบุ

ENGLAND:ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index)ปิดวันศุกร์ลบ 2 จุด สู่ 1323

ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวันศุกร์ (22 ก.ค.) ลบ 2 จุด

หรือ 0.15% สู่ระดับ 1323

ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554

ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-

วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)

21 ก.ค. 1325 -3

20 ก.ค. 1328 -2

19 ก.ค. 1330 -10

18 ก.ค. 1340 -13

15 ก.ค. 1353 -14


25-07-54>> แนวโน้มขาขึ้น... SETI ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ และปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นประกอบกับปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกเส้น และ MACDสามารถปิดเหนือเส้น Zero Line ได้ รวมทั้ง Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวก จึงทำให้ SETIมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นต่อไปดังนั้นในระยะสั้นแนะนำ "ซื้อ


BLA ปิด 47.75 บาท
ราคาได้แกว่งตัวอยู่ในกรอบสามเห
ลี่ยม Symmetrical Triangleเป็นเวลากว่า 2 เดือน แล้วได้เบรกกรอบสามเหลี่ยมขึ้นมาได้โดยมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น และ RSI ได้ให้ค่าสัญญาณ
บวกเป็นวันแรก แนวโน้มเป็นขาขึ้นชัดเจน
แนะนำ "ซื้อ" แนวต้านที่ 50.25-52.00 บาท แนวรับที่ 46.75-46.25
บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 45.50 บาท

IRPC ปิด 5.90 บาท
สร้างรูปแบบราคาแบบ Double Bottom และแท่งเทียนมีสีขาว พร้อมปริมาณการซื้อขายหนุน และ Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวก แนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อ" แนวต้านที่ 6.25-6.40 แนวรับที่ 5.75-5.65 บาท CutLoss หากราคาปิดต่ำกว่า 5.60 บาท

SGP ปิด 19.00 บาท
แท่งเทียนมีสีขาว ประกอบกับ Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวก แนวโน้มดีดตัวขึ้นต่อ
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 19.30-19.70 บาท แนวรับที่ 18.80-18.60 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 18.40 บาท

TTCL ปิด 9.70 บาท TTCL

ช่วงที่ผ่านมาได้ทำรูปแบบราคาแบTriple Bottom ถึงแม้ว่าจะย่อตัวลงมาแต่สามารถปิดเหนือเส้น EMA(5) วันได้อย่างต่อเนื่องและไม่หลุดแนวรับบริเวณเส้น Neck Line บริเวณ 9.45 บาท แนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อ" แนวต้านที่ 10.50-11.00 บาท แนวรับที่ 9.60-9.50บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 9.40 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น