-----------------------------------------------------------------------------


DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ปิดลบ 0.34% ขณะ S&P,Nasdaq ปิดบวก
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดไร้ทิศทางในวันศุกร์ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของกลุ่มบริษัทผลิตชิพ และความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤติหนี้ของสหรัฐกระตุ้นแรงซื้อหุ้นที่เกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 43.25 จุดหรือ 0.34%
สู่ 12,681.16, ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 1.22 จุดหรือ 0.09% สู่ 1,345.02
และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 24.40 จุดหรือ 0.86% สู่ 2,858.83
ปริมาณการซื้อขายเบาบางราว 5.81 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค,ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งต่ำกว่าระดับเฉลี่ยต่อวันที่ 7.48 พันล้านหุ้น โดยมีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวก1,530 ต่อ 1,400 ในตลาดนิวยอร์ค และ 1,294 ต่อ 1,256 ในตลาด Nasdaqในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.6% , ดัชนี S&P 500เพิ่มขึ้น 2.2% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 2.5%
หุ้นคาเตอร์พิลลาร์ถ่วงดัชนีดาวโจนส์ลงหลังเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งและแผนความช่วยเหลือครั้งใหม่สำหรับกรีซที่จะควบคุมวิกฤติหนี้
หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์นำตลาดขึ้น หลังบริษัทแซนดิสค์และแอดวานซ์ ไมโครดีไวเซสรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาด PHLX บวก 2.4%
หุ้นแมคโดนัลด์พุ่งขึ้น 2.3% หลังเปิดเผยรายได้สูงเกินคาด และหุ้นไมโครซอฟท์ปรับตัวขึ้น 1.6% หลังเปิดเผยผลกำไรเพิ่มขึ้นเกินคาด--จบ--
ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นตามผลิตภัณฑ์น้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นมาปิดตลาดที่ระดับปิดสูงสุดรอบ 6 สัปดาห์ใกล้ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการดีดขึ้นอย่างแข็งแกร่งของราคาผลิตภัณฑ์น้ำมัน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.บวกขึ้น 74 เซนต์ หรือ 0.75 % มาปิดตลาดที่ 99.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 98.43-100.19 ดอลลาร์ โดยระดับปิดวันศุกร์ถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. ส่วนจุดสูงสุดของวันศุกร์ถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับขึ้น 1.16ดอลลาร์ สู่ 118.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเทียบกับระดับปิดสัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันดิบเดือนใกล้ของสหรัฐก็ปิดตลาดสัปดาห์นี้พุ่งขึ้น 2.63 ดอลลาร์ หรือ 2.7 % ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดในแดนบวก4 สัปดาห์ติดต่อกัน
ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากคำสั่งซื้อชดเชยก่อนช่วงสุดสัปดาห์ นักลงทุนพึงพอใจที่ผู้นำยูโรโซนดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบสองต่อกรีซ แต่นักลงทุนยังคงกังวลที่สหรัฐยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับขึ้นเพดานหนี้ก่อนที่จะถึงเส้นตายในวันที่ 2 ส.ค.
นักวิเคราะห์กล่าวว่า คลื่นความร้อนที่ปกคลุมฝั่งตะวันออกของสหรัฐในขณะนี้อาจส่งผลให้บริษัทผลิตกระแสไฟฟ้าใช้น้ำมัน heating oil เป็นส่วนผสมในเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น ในขณะที่บริษัทกลุ่มนี้พยายามปรับเพิ่มการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ระดับสูง
ราคาน้ำมัน heating oil พุ่งขึ้นเกือบ 1 % และปิดตลาดที่ระดับปิดสูงสุดรอบ 6 สัปดาห์ในวันศุกร์--จบ--
ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ปัญหาหนี้สหรัฐ,ยุโรปหนุนราคาทองพุ่งขึ้น
ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้นราว 1 % ในวันศุกร์ และเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ความไม่มั่นใจในแผนช่วยเหลือกรีซ และความกังวลเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง
ราคาทองสปอตขึ้นไปแตะ 1,607.01 ดอลลาร์ในระหว่างวัน เทียบกับสถิติสูงสุดที่ 1,609.51 ดอลลาร์ที่ทำไว้ในวันอังคารที่ 19 ก.ค.วอลุ่มการซื้อขายทองในตลาด COMEX อยู่ในระดับสูง โดยอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ย30 วันราว 20 %
ราคาทองพุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 12 % จากช่วงต้นปีนี้ นักวิเคราะห์หลายรายปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ราคาทองสำหรับปีนี้และปีหน้าแต่คาดว่าราคาพลาตินั่มและพัลลาเดียมอาจจะพุ่งขึ้นได้ยาก นักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า ราคาทองอาจมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,510 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีนี้ และ 1,575 ดอลลาร์ในปี 2012
สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันศุกร์มีดังต่อไปนี้
ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)
ทองเดือนส.ค. 1,601.50 + 14.50
เงินเดือนก.ย. 40.122 +117.50 (เซนต์)
ส่วนราคาโลหะมีค่าที่ตลาด NYMEX ในวันศุกร์มีดังต่อไปนี้
ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)
พลาตินั่มเดือนต.ค. 1,798.40 + 10.60
พัลลาเดียมเดือนก.ย. 806.40 - 2.60 --จบ--
ตลาดเงินนิวยอร์ค:ดอลล์อาจร่วงสัปดาห์นี้ขณะใกล้กำหนดเส้นตายเพิ่มเพดานหนี้
ดอลลาร์สหรัฐอาจร่วงลงในสัปดาห์นี้จากความวิตกที่ว่าสหรัฐอาจสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือขั้นสูงสุด ขณะที่นักการเมืองยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มเพดานหนี้ที่ใกล้ถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 2 ส.ค.
ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 78.430 เยน เทียบกับระดับปิดวันพฤหัสบดีที่ 78.420 เยนส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4361 ดอลลาร์และ 112.66 เยน เทียบกับระดับปิดวันพฤหัสบดีที่1.4421 ดอลลาร์และ 113.14 เยน
ความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยูโรโซนได้ลดลงแล้วในขณะนี้ หลังการประกาศมาตรการช่วยเหลือรอบสองสำหรับกรีซ และจุดสนใจมุ่งไปที่ความพยายามของสหรัฐที่จะหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
ทำเนียบขาวและพรรครีพับลิกันยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มภาษีซึ่งถูกคัดค้านโดยพรรครีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ระบุว่า มีโอกาส 50-50 ที่อันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA ของสหรัฐอาจถูกปรับลดลงภายในเวลา 3 เดือน
นักวิเคราะห์คาดว่า ดอลลาร์จะอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเยนและฟรังก์สวิส หากมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ
ตลาดเงิน Emerging Asia:สกุลเงินเอเชียแข็งค่ารับแผนช่วยเหลือกรีซ
ดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ขณะที่วอนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีในวันนี้ โดยนักลงทุนเข้าซื้อเงินเอเชียขานรับมาตรการของยุโรปในการช่วยเหลือกรีซ แม้ทางการเอเชียเข้าแทรกแซงตลาด และสัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ถึงภาวะมีแรงซื้อมากเกินไปก็ตาม
ผู้นำยูโรโซนได้เห็นพ้องกับมาตรการช่วยเหลือกรีซรอบสอง ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงที่วิกฤติหนี้จะลุกลามออกไป
นักลงทุนกล่าวว่า พวกเขาจะรอดูว่านักการเมืองสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้หรือไม่ แต่ก็คาดว่าสกุลเงินในภูมิภาคจะยังคงอยู่ในทิศทางที่สดใสต่อไป
ถ้าสหรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนถึงกำหนดเส้นตายวันที่ 2 ส.ค.ก็อาจจะกระทบความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง แต่ก็จะกดดันดอลลาร์อ่อนค่าลงด้วย ซึ่งจะหนุนสกุลเงินในภูมิภาคในที่สุด
บาท/ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นจากความต้องการของกลุ่มเอกชนและกองทุนแต่ก็พบว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าซื้อดอลลาร์/บาทตั้งแต่ระดับ29.84
บาทแข็งค่าขึ้นมากกว่าสกุลเงินเอเชีย ขณะที่การเลือกตั้งเมื่อวันที่3 ก.ค.ได้ช่วยคลายความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่บาร์เคลย์ แคปิตอลคาดว่าบาทจะปรับฐานในระยะสั้น โดยระบุว่าบาทแข็งค่าขึ้นมากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา และได้แนะให้นักลงทุนปรับสถานะการลงทุน
บาร์เคลย์คาดว่า ธปท.จะเข้าแทรกแซงต่อไปเพื่อชะลอการแข็งค่าของบาท และไทยอาจจะขาดดุลการค้าบ่อยขึ้นอันเนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น
"เราขอแนะให้ปรับสถานะการลงทุนรองรับการพลิกกลับระยะสั้นของการแข็งค่าของบาท ด้วยการซื้อสัญญาฟอร์เวิร์ดระยะ 1 เดือนของ
ดอลลาร์/บาทที่ 29.94 โดยมีเป้าหมายที่ระดับ 30.35" บาร์เคลย์ระบุ
ENGLAND:ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index)ปิดวันศุกร์ลบ 2 จุด สู่ 1323
ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวันศุกร์ (22 ก.ค.) ลบ 2 จุด
หรือ 0.15% สู่ระดับ 1323
ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554
ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-
วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)
21 ก.ค. 1325 -3
20 ก.ค. 1328 -2
19 ก.ค. 1330 -10
18 ก.ค. 1340 -13
15 ก.ค. 1353 -14
25-07-54>> แนวโน้มขาขึ้น... SETI ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ และปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นประกอบกับปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกเส้น และ MACDสามารถปิดเหนือเส้น Zero Line ได้ รวมทั้ง Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวก จึงทำให้ SETIมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นต่อไปดังนั้นในระยะสั้นแนะนำ "ซื้อ”
BLA ปิด 47.75 บาท
ราคาได้แกว่งตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยม Symmetrical Triangleเป็นเวลากว่า 2 เดือน แล้วได้เบรกกรอบสามเหลี่ยมขึ้นมาได้โดยมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น และ RSI ได้ให้ค่าสัญญาณ
บวกเป็นวันแรก แนวโน้มเป็นขาขึ้นชัดเจน
แนะนำ "ซื้อ" แนวต้านที่ 50.25-52.00 บาท แนวรับที่ 46.75-46.25
บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 45.50 บาท
IRPC ปิด 5.90 บาท
สร้างรูปแบบราคาแบบ Double Bottom และแท่งเทียนมีสีขาว พร้อมปริมาณการซื้อขายหนุน และ Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวก แนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อ" แนวต้านที่ 6.25-6.40 แนวรับที่ 5.75-5.65 บาท CutLoss หากราคาปิดต่ำกว่า 5.60 บาท
SGP ปิด 19.00 บาท
แท่งเทียนมีสีขาว ประกอบกับ Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวก แนวโน้มดีดตัวขึ้นต่อ
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 19.30-19.70 บาท แนวรับที่ 18.80-18.60 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 18.40 บาท
TTCL ปิด 9.70 บาท TTCL
ช่วงที่ผ่านมาได้ทำรูปแบบราคาแบบ Triple Bottom ถึงแม้ว่าจะย่อตัวลงมาแต่สามารถปิดเหนือเส้น EMA(5) วันได้อย่างต่อเนื่องและไม่หลุดแนวรับบริเวณเส้น Neck Line บริเวณ 9.45 บาท แนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อ" แนวต้านที่ 10.50-11.00 บาท แนวรับที่ 9.60-9.50บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 9.40 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น