Code 460 : 27/07/54 Indicators มีสัญญาณอ่่อนค่าลง... RSI / %R / CCI มีสัญญาณขายเบาๆ... Target แนวรับที่ 1115 - 1113...

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม 2554
ATT Code : Indicators มีสัญญาณอ่่อนค่าลง... RSI / %R / CCI มีสัญญาณขายเบาๆ... Target แนวรับที่ 1115 - 1113...

กรอบเล็ก... Range อยู่ที่ 1115 - 1128...
กรอบใหญ่...
Range อยู่ที่ 1102 - 1142...

* ระยะ Day >>> RSI / %R / CCI มีสัญญาณขายแล้ว

* ระยะ Week 125- 27 ก.ค. 54 >>> เป็น Buy Signal in Bull Market
- SETI อยู่ระหว่าง BBA กับ BBT...
- UpTrend = MacD crossover Signal Line...
- MacD Osc ขึ้นมาเป็นบวกมากขึ้น....
- Main Indicators ทุกตัวเป็น Buy Signal...
- กรอบเล็ก Range อยู่ที่ 1097 - 1128...
- กรอบใหญ่ Range อยู่ที่ 1080 - 1150...

* ระยะ Month 1-31 ก.ค. 54 >>> SETI เป็นลักษณะ Sideway in UpTrend..
- กรอบเล็ก Range อยู่ที่ 1016 - 1133
- กรอบใหญ่ Range อยู่ทีี่ EMA10 - BBT... หรือที่ 998 - 1182...

---------------------------------------------------------------------------
*** แนวโน้มหลัก : ฺBull market... Up Trend in Range 1115 - 1142...***
* SETI หลุด High ผ่านแนวรับที่ 1127 ลงมา.. โดยมี Targe ที่ 1115 - 1113...
* SETI อยู่ใน Trading Range ของ EMA5 กับ BBT...

1. เข้าที่...
วันอังคาร SETI ปิดที่ 1121.63 จุด -5.95จุด... Volume 38,769 MB...
- SETI หลุด High ผ่านแนวรับที่ 1127 ลงมา... โดยมีแรงขายทำกำไรออกมาก่อน เพราะขึ้นมาพอสมควรแล้ว...
- SETI อยู่แหนือ EMA5 ได้ เป็น Up Trend... และ EMA5 ยังอยู่เหนือกว่า EMA10 อยู่...
โดยถือว่า EMA5 เป็นแนวรับที่สำคัญ...
(ถ้า EMA5 ตัด EMA10 ลงมา... ก็จะเป็น Dead Cross = Down Trend)
- Chart Pattern เป็นลักษณะ Black Candle... Weak...

- Main Indicators... มีสัญญาณอ่อนค่าลงทุกตัว.... มีแนวโน้มที SET จะย่อลงไปที่แนวรับ EMA5 ได้...
MACD Osc.. มีค่าลดลงเป็นวันแรก..
RSI มีสัญญาณอ่อนค่าลง โดยลงมาจากเขต Overbought แล้ว... จึงเกิด Sell Signal ขึ้นมา...
*** แต่ต้องรอ SSTO กับ MACD ส่งสัญญาณขายตามมาด้วย... Main Indy ทั้งหมดถึงจะเป็น Sell Signal...

- Minor Indicators... มีสัญญาณอ่อนค่าลงตาม Main Indicators... เกิด Sell Signal เบาๆ...
โดย %R กับ CCI เกิดสัญญาณขาย หรือ Sell Signal ขึ้นมา...

----------------------------------------------------------------------------
2. ระวัง...
- ระวังถ้าดัชนีต่ำกว่า 1121... ก็มีโอกาสที่จะลงไปสู่ 1115ได้...

-----------------------------------------------------------------------------

3. ไป...
- แนวโน้มวันนี้ >>> Indicators มีสัญญาณอ่่อนค่าลง... RSI / %R / CCI มีสัญญาณขายเบาๆ... Target แนวรับที่ 1115 - 1113...

- สัญญาณลบ >>> ถ้าดัชนีลงมาต่ำกว่า 1121 ลงมา... ก็มีโอกาสที่จะลงมาที่เป้าหมายที่ 1115 ได้...
*** ถ้าหลุด 1115 EMA5 ลงมา ก็จะเกิด Sell Signal... โดยมีเป้าหมายลงมาที่ 1102 EMA10...

- สัญญาณบวก >>> แต่ถ้าดัชนีสามารถปรับตัวสูงขึ้น แล้วไม่กลับลงไปต่ำกว่า 1121... ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบที่ 1128 ได้อีกครั้ง
*** ถ้าผ่าน 1128 ไปได้ ก็จะเป็นสัญญาณที่ดี ที่มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบ ที่High เดิม ที่ 1130.56 ได้อีกครั้ง...

----------------------------------------------------------------------------
แนวรับ... 1115/ 1113 / 1102...
แนวต้าน... 1128 / 1130 / 1142...



-----------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
27 กค. 54 (-5.95 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ต่ำกว่า 1119.16 ปรับตัวลงต่อ 1100 –10 จุด
จากสัญญาณ Stochastic Overboughtในภาพระยะวัน ดัชนีพร้อมปรับตัวลงทุกเมื่อโดยเฉพาะการปรับตัวลง ต่ำกว่า 1119.16 จุดต่ำสุดวันอังคารและเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงดัชนีมีโอกาสปรับตัวลง “ชั่วคราว” แถว 1100- 10 ใกล้จุดต่ำสุดของวันพฤหัส

ตลาด “อาจจะ” ใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ สำหรับการปรับฐานชั่วคราว แกว่งตัวขึ้นลงในกรอบ 1100 – 30 หรือประมาณจุดต่ำสุดของวันพฤหัส ถึงจุดสูงสุดของวันอังคาร

ขณะที่แนวโน้มหลักยังคงเป็น “ขาขึ้น”ดัชนีมีเป้าหมายในการปรับตัวขึ้นต่อแถว 1142– 58 จุด หรือ สูงกว่า

หุ้นเด่น
PTTCH
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวัน ทยอยซื้อแถว 161.00 – 162.00 หรือรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 163.00 จุดสูงสุดวันอังคาร เป้าหมายสองสามวัน 167.00 – 171.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 160.00 )

SCC
ปรับตัวทะลุกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวันขึ้นมาได้ ทยอยซื้อแถว 372 – 374 หรือรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 378 จุดสูงสุดวันอังคารเป้าหมายสองสามวัน 385 – 395( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 372 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
BBL ไม่เกิน 176 ลง 170 - 171
SCB ต่ำกว่า 123 ลง 120 - 121
KBANK ไม่เกิน 144 133 - 135
PTT ต่ำกว่า 347 ลง 340 – 343
SCC รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
CPF ต่ำกว่า 30.25 ลง 29 – 29.50
PTTCH รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
BANPU ไม่ต่ำกว่า 742 ขึ้น 772 – 800
TOP ต่ำกว่า 77.25 ลง 75 – 76
KTB ไม่ต่ำกว่า 20.30 ขึ้น 21 – 21.50

-----------------------------------------------------------------------------

ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:วิตกเจรจาหนี้ชะงักฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 0.73%
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงเป็นวันที่สองในวันอังคาร โดยถูกถ่วงลงจากภาวะชะงักงันในการเจรจาเรื่องหนี้สินของสหรัฐ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายที่เบาบางบ่งชี้ว่านักลงทุนยังคงลังเลที่จะเข้าซื้อหุ้น แม้มีการประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่งก็ตาม
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 91.50 จุดหรือ 0.73% สู่ 12,501.30, ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 5.49 จุดหรือ 0.41% สู่ 1,331.94 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวลง 2.84 จุดหรือ 0.10% สู่ 2,839.96
ปริมาณการซื้อขายเบาบางเพียง 6.46 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค, ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ขณะที่จำนวนหุ้นลบแซงหน้าหุ้นบวกอย่างมาก
หากสหรัฐไม่สามารถเพิ่มเพดานหนี้ได้ภายในกำหนดเส้นตายในวันที่ 2 ส.ค. ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดและเศรษฐกิจ หากสหรัฐต้องเลื่อนการชำระหนี้ โดยพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงขัดแย้งกันในวันอังคารเกี่ยวกับแผนการที่มีโอกาสจะผ่านการอนุมัติของสภา
การเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสองที่ส่วนใหญ่แข็งแกร่งเกินคาดนั้นได้ช่วยพยุงตลาดที่ได้รับผลกระทบจากการเจรจาเรื่องหนี้ที่ชะงักงัน (รอยเตอร์)

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:ดอลล์อ่อนค่าหนุนน้ำมันดิบปิดบวก 39 เซนต์
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันอังคาร ในขณะที่การอ่อนค่าของดอลลาร์กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.บวกขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.39 % มาปิดตลาดที่ 99.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 97.76-100.62 ดอลลาร์ โดยจุดสูงสุดของวันอังคารถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. เป็นต้นมา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับขึ้น 34 เซนต์ สู่ 118.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 116.53-119.05 ดอลลาร์
ปัจจัยทางเทคนิคช่วยหนุนราคาน้ำมัน ในขณะที่วอลุ่มการซื้อขายอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากนักลงทุนหลายคนรอดูผลการเจรจาเรื่องเพดานหนี้ในกรุงวอชิงตัน นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาน้ำมันดิบสหรัฐมีแนวรับอยู่ที่ 97.36 ดอลลาร์ ซึ่งตรงกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 ก.ค.ในวันพุธ
การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานหลังจากตลาดปิดทำการในวันอังคารว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.0 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว, สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 639,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.3 % (รอยเตอร์)

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองทรงตัว,ตลาดจับตาปัญหาเพดานหนี้
ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐทรงตัวในวันอังคาร หลังจากทำสถิติสูงสุดที่ 1,622.49 ดอลลาร์ในวันจันทร์ โดยนักลงทุนรอดูท่าทีอยู่นอกตลาดในวันอังคาร และจับตาดูการเจรจาเรื่องงบประมาณในสหรัฐ เพื่อดูว่าสหรัฐจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหรือผิดนัดชำระหนี้หรือไม่
ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนส.ค.เคลื่อนตัวในช่วง 1,607.80-1,619.00 ดอลลาร์
ราคาทองได้รับแรงกดดันจากคำสั่งขายที่เกี่ยวเนื่องกับการครบกำหนดส่งมอบออปชั่นในวันอังคาร และปัจจัยนี้ส่งผลบวกต่อวอลุ่มการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า
ราคาโลหะเงินในตลาดสปอตพุ่งขึ้น 1.1 % สู่ 40.74 ดอลลาร์ หลังจากแตะจุดสูงสุดรอบ 2 เดือนที่ 41.05 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ส่วนสถิติสูงสุดของโลหะเงินยังคงอยู่ที่ 49.51 ดอลลาร์ ซึ่งทำไว้ในวันที่ 28 เม.ย.
นักยุทธศาสตร์การลงทุนกล่าวว่า ราคาทองอาจมีแนวรับอยู่ใกล้ 1,580 ดอลลาร์ ส่วนนักวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคกล่าวว่า ราคาทองมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,670 ดอลลาร์
สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันอังคารมีดังต่อไปนี้
ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)
ทองเดือนส.ค. 1,616.80 + 4.60
เงินเดือนก.ย. 40.698 + 33.70 (เซนต์)
พลาตินั่มเดือนต.ค. 1,807.20 + 13.20
พัลลาเดียมเดือนก.ย. 836.10 + 27.10 (รอยเตอร์)

ตลาดเงินนิวยอร์ค:ดอลล์ร่วงต่อขณะสหรัฐยังไม่บรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้
ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆในวันอังคาร และนักลงทุนคาดว่าดอลลาร์จะยังคงร่วงลงต่อไปตราบใดที่สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐยังไม่สามารถประนีประนอมแผนการด้านงบประมาณเพื่อสกัดกั้นการผิดนัดชำระหนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 77.910 เยน เทียบกับระดับปิดวันจันทร์ที่ 78.280 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4508 ดอลลาร์และ 113.05 เยน เทียบกับระดับปิดวันจันทร์ที่ 1.4374 ดอลลาร์และ 112.54 เยน
ดอลลาร์ร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสซึ่งเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย, ร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับเยน และระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโร
คำเตือนจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่ว่า ความล้มเหลวในการเพิ่มเพดานหนี้ให้ทันกำหนดเส้นตายในวันที่ 2 ส.ค.จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสหรัฐนั้น ได้กระตุ้นแรงขายดอลลาร์
พรรคเดโมแครตดูเหมือนเต็มใจที่จะยอมรับข้อตกลงที่จะไม่รวมการขึ้นภาษี แต่ยังไม่ชัดเจนว่า การเพิ่มเพดานหนี้จะเป็นการชั่วคราวหรือระยะยาวไปจนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.ปี 2012
นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถืออย่างน้อย 1 แห่ง จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงจากอันดับสูงสุดที่ AAA
ดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 0.8% สู่ 73.498 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. (รอยเตอร์)

ตลาดเงิน Emerging Asia:สกุลเงินเอเชียแข็งค่า ขณะนักลงทุนหวั่นปัญหาหนี้สหรัฐ
ดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนริงกิตพุ่งทะลุแนวต้านสำคัญ และนำสกุลเงินเอเชียปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนวิตกว่าสหรัฐจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ได้ทันเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้
ดอลลาร์สิงคโปร์พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสิงคโปร์จะปล่อยให้ดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ริงกิตดีดตัวทะลุแนวต้านทางเทคนิค ขณะที่นักลงทุนยังคงขายดอลลาร์ออกมา และไม่มีการแทรกแซงของธนาคารกลางมาเลเซีย
วอนขยับขึ้นใกล้แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ช่วงปลายเดือนของกลุ่มผู้ส่งออก ขณะที่นักเก็งกำไรในประเทศขายดอลลาร์ออกมา
เปโซได้แรงหนุนอย่างมากจากกองทุน และนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์ แต่ก็พบว่าธนาคารกลางฟิลิปปินส์เข้าซื้อดอลลาร์เพื่อสกัดการแข็งค่าของเปโซด้วย สแตนชาร์ทคาดว่า เปโซและบาทจะแข็งค่าขึ้นตามสกุลเงินอื่นๆในเอเชียเพื่อชดเชยการอ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา
บาท/ดอลลาร์ภาคบ่ายยังคงรักษาทิศทางการแข็งค่าไว้ได้ ตามสกุลเงินในภูมิภาคและยูโร หลังความกังวลต่อปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ ยังคงกดดันดอลลาร์ บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 29.69/73 จาก 29.68/70 ช่วงเช้า ขณะที่ในตลาด offshore อยู่ที่ 29.71/72 จาก 29.67/70 ช่วงเช้า (รอยเตอร์)

ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ (26 ก.ค.) ลบ 7 จุด หรือ 0.53% สู่ระดับ 1310
ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554
ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-
วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)
25
ก.ค. 1317 -6
22
ก.ค. 1323 -2
21
ก.ค. 1325 -3
20
ก.ค. 1328 -2
19
ก.ค. 1330 -10 (รอยเตอร์)

27-07-54>> แนวโน้มขาขึ้น... ถึงแม้ว่า SETI จะปรับตัวลดลงมา แต่ยังปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกเส้น และ MACD สามารถปิดเหนือเส้น Zero Line ได้ รวมทั้ง Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวก จึงทำให้ SETI มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นต่อไป

ดังนั้นในระยะสั้นแนะนำ "ซื้อ

TGCI ปิด 6.15 บาท
หลังจากช่วงที่ผ่านมาราคาดีดตัว
ขึ้นมาแล้วพักตัว โดยราคาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกเส้น ประกอบกับปิดที่แนวรับบริเวณ 6.15บาท หากสามารถเบรก 6.70 บาทขึ้นมาได้มีลุ้นไปเป้าหมายทางเทคนิคที่ 8.00 บาท แนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อ" แนวต้านที่ 6.65-7.00 บาท แนวรับที่ 6.15-6.00 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 5.85 บาท

NWR ปิด 0.78 บาท
แท่งเทียนมีสีขาวเต็มแท่ง ประกอบกับ Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวกเป็นวันแรก แนวโน้มแกว่งตัวขึ้นต่อ
แนะนำ "ซื้อ" แนวต้านที่ 0.82-0.85 บาท แนวรับที่ 0.75-0.73 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 0.70 บาท

THCOM ปิด 10.40 บาท
แท่งเทียนมีสีขาวพร้อมปริมาณการ
ซื้อขายหนุน และ Indicatorsทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวก แนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อ" แนวต้านที่ 10.70-11.00 บาท แนวรับที่ 10.20-10.00บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 9.90 บาท

ROBINS ปิด 35.00 บาท
แท่งเทียนมีสีขาว ประกอบกับ Modified Stochastic และ RSIให้ค่าสัญญาณบวก แนวโน้มเป็นขาขึ้นชัดเจน
แนะนำ "ซื้อ" แนวต้านที่ 36.00-37.00 บาท แนวรับที่ 34.25-33.75บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 33.00 บาท


-----------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น