Code 211 : Big Lot - PTTCH

วันพุธที่ 8 ธันวาคม 2553
ATT Code : Big Lot - PTTCH
SCC: สรุป SCC ขาย 236 ล้านหุ้น ใน PTTCH เหลือ 4.42% บันทึกกำไรหลังหักภาษี 8.8 พันลบ. หรือ 7.33 บาท/หุ้น- แนะนำ ซื้อ SCC เป้าหมาย 395 บาท

PTTCH: SCC จะขายหุ้น 200 ล้านหุ้นใน PTTCH ที่ราคาประมาณ 140 บาท/หุ้น - แนะนำ ซื้อ SCC และซื้อ PTTCH สะสมหากราคาปรับลงแรง
ณ วันที่ 6 กันยายน 2010 SCC ถือหุ้น PTTCH จำนวน 327 ล้านหุ้น คิดเป็น 22% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 1,514 ล้านหุ้น
SCC จะขายหุ้น Big Lot จำนวนประมาณ 230 ล้านหุ้น (15%) ที่ราคาประมาณ 140 บาท/หุ้น หรือต่ำกว่าราคาในกระดาษ 9% คิดเป็นเงินประมาณ 32,200 ลบ.
สาเหตุการขายครั้งนี้อาจเป็นเพราะ 1) ราคาหุ้นปัจจุบันของ PTTCH ถือว่าอยู่ในช่วงขาขึ้นได้ราคาค่อนข้างดี 2) อาจขายเพื่อนำเงินไปขยายการลงทุนธุรกิจปิโตรเคมีในเวียดนามหรืออาจซื้อหุ้นเพิ่มใน TPC 3) เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกลดสัดส่วนการถือหุ้น หาก PTTCH และ PTTAR ควบรวมกิจการกันจริง
SCC จะมีบันทึกกำไรจากการขายหุ้นครั้งนี้ทันที PTTCH ประมาณ 21,620 ลบ. ที่ราคาต้นทุน 46 บาท/หุ้น หรือ คิดเป็น 18 บาทต่อหุ้น แต่อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าก่อนหน้านี้ SCC น่าจะทยอยขายหุ้น PTTCH ออกมาตั้งแต่แล้วประมาณ 6-7% เหลืออีกเพียง 15% ดังนั้นหากรวมเป็นการขายทั้งหมด 22% จะทำให้ SCC มีกำไรจากการครั้งทั้งหมด 30,738 ลบ. คิดเป็น 25.61 บาทต่อหุ้นของ SCC
ผลกระทบที่จะมีต่อ PTTCH นั้นจะทำให้ราคาหุ้นในกระดานปรับลงมาเท่ากับราคา Big Lot ในระยะสั้น แต่ระยะยาว การลดสัดส่วนการถือหุ้นครั้งนี้จะเป็นการเปิดทางให้ PTTCH สามารถควบรวมกับ PTTAR ง่ายขึ้น
เรายังคงแนะนำ ซื้อ SCC ราคาเป้าหมาย 395 บาท และ PTTCH ราคาเป้าหมาย 175 บาท/หุ้น
----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
8 ธค. 53 ( +6.66 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ปรับตัวลง ถ้าต่ำกว่า 1032 จุด
แนวโน้มในวันพุธนี้ถ้า ต่ำกว่า 1032 จุดนอกจากจะเป็นการ ปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงแล้ว ยังถือเป็นการเกิด“สัญญาณขาย” ในเครื่องมือ Point & Figureอีกด้วย ดัชนีระยะสองสามสัปดาห์ข้างหน้า มีโอกาสปรับตัวลงแถว 980 – 990 ใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะเดียวกันการปรับตัวขึ้น เกิน1044.44 จุดสูงสุดของวันอังคาร ดัชนีสามารถขึ้นต่อได้เล็กน้อยแถว 1050 – 55 ใกล้จุดสูงสุดเดิมของปีนี้

ภาพโดยรวมแล้ว ตลาดยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐาน และ แกว่งตัวในกรอบใหญ่980 – 1055 หรือระหว่างจุดต่ำสุดถึงจุดสูงสุด
ของเดือนที่แล้ว

หุ้นเด่น
SGP
ยังสามารถปรับตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25ชั่วโมงได้ รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 19.90จุดสูงสุดวันอังคาร เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน20.50 – 20.80( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 19.60 )

ITD
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวัน รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 4.84 กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายสองสามวัน5.05 - 5.15( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 4.78 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTT เกิน 329 ขึ้น 331 – 333
IVL ต่ำกว่า 57.25 ลง 55 – 56
BANPU เกิน 802 ขึ้น 804 – 814
PTTCH ไม่เกิน 157.50 ลง 150 – 151
IRPC แกว่งตัว 5.05 – 5.40
TRUE แกว่งตัว 6.35 – 6.65
STA เกิน 37.50 ขึ้น 38 - 39
PTTEP เกิน 177 ขึ้น 178 - 179
CPF ต่ำกว่า 23.80 ลง 23 – 23.50
SCB ต่ำกว่า 109 ลง 100 - 103
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS : ตลาดเริ่มแกว่งตัวผันผวนและมีสิทธิย้อนลงเป็นลบ ดังนั้นยังรอรับต่ำได้!!
แนวโน้ม: SET อยู่ในลักษณะแกว่งตัวขึ้น-ลงแคบๆ เกือบจะตลอดทั้งวันหลังจากดีดตัวขึ้นค่อนข้างแรงในช่วงต้นชั่วโมงการซื้อขายวานนี้ แสดงถึงแรงขายที่ยังมีอยู่พอควร ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นในเอเชียยังแกว่งตัวบวก-ลบไม่กว้างนัก หลังมีคาดการณ์ว่าทางการจีนมีแนวโน้มที่จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงท้ายของสัปดาห์นี้ ซึ่ง FSS คาดว่าจะเป็นแรงกดดันให้ SET จะยังคงแกว่งตัวผันผวน และมีโอกาสที่จะปรับพักตัวลงไปเคลื่อนไหวเป็นลบได้ โดยคาดว่าจะเป็น
การแกว่งตัวขึ้น-ลงอยู่ในกรอบ 1020-1050 จุดโดยประมาณ ดังนั้นถ้าดัชนีเข้าใกล้ 1050 จุดหรือสูงกว่าจึงยังต้องตามระวังแรงขายกดดันอยู่ ส่วนจังหวะเลือกหุ้นเข้ารับยังน่ารอแถว 1020 จุดหรือต่ำกว่าลงไปก่อนมากกว่า
กลยุทธ์: ยังเน้นเทรดดิ้งตามรอบ โดยน่าแบ่งส่วนขายทำกำไรเมื่อตลาดขยับขึ้นและรอซื้อในช่วงแกว่งตัวย้อนลงของตลาด โดยหุ้นที่น่าสนใจเน้นที่หุ้นพื้นฐานดี
เช่น BANPU, BIGC, KTB, PTL, SEAFCO (หุ้นเด่น Monthly) หุ้นปันผล เช่นADVANC, AP, CSL, DELTA, DRT, LPN รวมถึงหุ้นหลักอื่นๆ เช่น PTT, PTTEP,KTB, KBANK, SCB, TASCO, AMATA, PS, SPALI, CK, STEC, MAJOR เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
• (+) ADB ปรับประมาณการ GDP ไทยปีนี้ขึ้นเป็น 7.6% จากเดิม 7.0%ทั้งนี้ ADB ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ของเอเชียตะวันออกในปีนี้จากเดิม 8.4%เป็น 8.8% และคาดว่าจะชะลอลงในปีหน้าเป็น +7.3% จากการที่รัฐบาลประกาศเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้าและเศรษฐกิจโลกที่ยังอ่อนแอ โดยADB คาดว่าจีนจะโต 10.1% ปีนี้และ 9.1% ปีหน้า
• (-) จับตาจีนขึ้นดอกเบี้ยสุดสัปดาห์นี้? น้ำหนักตลาดสัปดาห์นี้อยู่ที่รายงานเศรษฐกิจจีนเดือน พ.ย. ที่จะประกาศวันจันทร์ที่ 13 นี้ ตัวเลขสำคัญที่ตลาดจับตา
คือเงินเฟ้อ ตลาดคาดว่าจะพุ่งขึ้นต่อเนื่องเป็น 4.7% (สูงสุดในรอบ 27 เดือน)จากเดือนก่อนที่ 4.4% ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะขยับดอกเบี้ย
นโยบายขึ้นจากปัจจุบัน 5.56% (เพิ่งปรับขึ้นมาจาก 5.31% ในเดือน ต.ค.)ก่อนที่จะมีรายงานเศรษฐกิจออกมา เหมือนครั้งก่อนก็ทำแบบนี้
• (+) ราคาสินค้าเกษตรทะยานสูงขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่แทบทุกประเภท เป็นบวกต่อต้นน้ำ (KSL, UVAN, UPOIC) และกลางน้ำ (TVO, STA, LST) แต่ลบกับปลายน้ำ (CPF, GFPT) จากความไม่สมดุลระหว่าง Demand & Supplyทำให้แนวโน้มราคาถั่วเหลือง น้ำตาล น้ำมันปาล์ม ยาง จะสูงขึ้นต่อไปในอนาคตซึ่งเป็นบวกอย่างมากกับ TVO ที่ขยายกำลังการผลิตพอดี แต่เป็นลบกับ CPF และGFPT เพราะต้นทุนอาหารสัตว์แพงขึ้น แต่ CPF ยังดีกว่า GFPT ที่ซื้อล็อกราคาวัตถุดิบถึงกลางปีหน้าแล้ว ถ้าสามารถผลักภาระให้ผู้บริโภคโดยปรับราคาขายไก่และหมูขึ้น ก็จะเป็นผลดีกับบริษัท เราแนะนำซื้อ TVO (เป้าหมาย 36 บาท) KSL(เป้าหมาย 18 บาท) ส่วน STA upside ค่อนข้างแคบ แนะนำอ่อนตัวซื้อ ส่วน CPFและ GFPT นอกจากไม่มีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นแล้วยังมีแต่ข่าวลบ เชื่อว่า CPF ยังเทรดอยู่ในกรอบ 23-25 บาท
• (0) หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณ SET50 (1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 2011) – เข้าBTS, PTL, ROBINS, SSI, STA, DCC ออก – BCP, KSL, HANA, PSL, QH, TTA// ส่วนหุ้นที่คาดว่าเข้าคำนวณ SET100 – เข้า AJ, GLOBAL, KKC, PTL, SMT,TTCL ออก – BMCL, CENTEL, GJS, MILL, SAT, SC
• Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าต่อเนื่อง แม้ปริมาณซื้อสุทธิในตลาดภูมิภาคจะไม่มาก แต่ที่สำคัญซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง 5 วันติดต่อกันหลังกนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% แนวโน้มกระแสเงินทุนต่างชาติจะยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นเพราะแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในเอเชียยังเป็นเทรนขาขึ้น ที่สำคัญจีนกำลังจะปรับขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้เพื่อสกัดกันเงินเฟ้อทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับว่าจะปรับขึ้นมากหรือน้อย เพราะหากปรับขึ้นมากก็จะทำให้ตลาดตกใจและขายทำกำไรในตลาดหุ้นออกมาได้ ค่าเงินยูโรและค่าเงินเอเชียอ่อนค่าเช่นเดียวกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าหลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจาก
มาตราการลดภาษีของโอบามา ดังนั้นการปรับขึ้นของตลาดในช่วงนี้ถือเป็นจังหวะขายทำกำไรมากกว่าที่จะซื้อเพิ่ม

ข่าวภายในประเทศ
บุลสุขทิ้งหุ้น SSC หมดดันเสี่ยเจริญสู้เป๊ปซี่ ซื้อผ่านNVDR หุ้นละ 59 บ. สัปดาห์หน้าเป๊ปซี่ซื้อหุ้นได้ กลุ่มบุลสุข ขายหุ้น SSC ทิ้งให้กับ “เอส
เอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์” 20.61% ดันตั้งโต๊ะเทนเดอร์สำเร็จ ได้หุ้นไป 32% จับตาผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ เตรียมขายต่อ งานนี้ “เสี่ยเจริญ”จ่อคิวซื้อ
คนแรก ตะลึงหุ้นกลุ่ม เอสเอสฯ บวกของ กลุ่มเสี่ยเจริญ แตะ 43% แซงหน้า เป๊ปซี่ เรียบร้อย มือดีแอบเก็บหุ้นผ่านNVDR เดือนพ.ย.เก็บ 7 ล้านหุ้น
ราคาหุ้นละ 59 บาท อาทิตย์หน้าเป๊ปซี่ ปลดล็อคเก็บหุ้นในกระดานได้ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-12-2010)
AIS ลั่นแก้สัญญา ICT ไม่มีสิทธิ์เกี่ยวยุ่งนักพึ่งอนุญาโต ADVANC ลั่นไอซีทีไม่มีสิทธิเปลี่ยนสัญญา พ.ร.บ.ร่วมทุน ยันทีโอทีเท่านั้นที่จะปรับเปลี่ยนสัญญาได้ มั่นใจที่ผ่านมาทำตามเงื่อนไขตลอด หากมติออกมาชัดเจนพร้อมปฏิบัติตาม ชี้หากสมเหตุสมผลยินดีจะพิจารณา แต่หากเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ ADVANC ไม่เห็นด้วย ขอพึ่งอนุญาโตตุลาการ รมว.ไอซีทียันไม่มีแนวคิด (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-12-2010)
LOXLEY ใกล้หลุดแคชฯคลังไฟเขียวลุยออนไลน์ LOXLEY ตีปีกใกล้หลุด Cash Balance หลังวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ด้านกระทรวงการคลังไฟเขียว สั่งกองสลากฯเร่งสรุปแผนขายสลากกินแบ่ง 6 ตัว ผ่านเครื่องจำหน่ายออนไลน์ แก้ปัญหาสลากขายเกินราคา และเคลียร์ปัญหาข้อพิพาทกับเอกชน เล็ง
ทดลองสลากการกุศลนำร่อง (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-12-2010)
STA-TRUBB จับมือกันวิ่งขึ้น รับดีมานด์สูงดันราคายางพุ่ง ดัน Q4 กำไรสดใส หุ้น STA-TRUBB พร้อมใจจับมือวิ่ง วานนี้ STA เพิ่มกว่า 5.67%ลุ้นแนวต้าน 40 บาท ขณะที่ TRUBB พุ่งขึ้น 2.74% ลุ้นแนวต้าน 8.20 บาท โบรกฯ แนะ "ซื้อเก็งกำไร" หลังราคายางทำสถิติสูงสุดในรอบ 50 ปี คาดจะส่งผลดีต่อกำไรในไตรมาส 4 ส่วนราคายางปีหน้าเชื่อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก 10% จากความกังวลเรื่องภัยธรรมชาติ และความต้องการในตลาดโลกที่สูง (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-12-2010)
TYM เพิ่มเป้าปีนี้โตกว่า 50% รายได้รวมปีนี้ 7 พันล้านบาท TYM เพิ่มเป้ารายได้ปีนี้เติบโตกว่า 50% จากเดิมที่ตั้งไว้ 20% หลังยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มไตรมาส 4 ดีขึ้น ได้อานิสงส์น้ำลด หนุนความต้องการใช้เหล็กพุ่ง จบดีลพันธมิตรร่วมทุน สร้างโรงเหล็กมูลค่า 1,000 ล้านบาท ต้นปีหน้า นักวิเคราะห์คาดรายได้รวมแตะ 7,000 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-12-2010)
TMI ขึ้นห้างโกลบอลเฮาส์ปูทางค้าปลีก “ธีระมงคลฯ” จับโอกาสพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ประเดิมจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์ควบคุมแสงสว่างและหลอดไฟผ่านห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างโกลบอลเฮาส์ มุ่งหวังสร้างแบรนด์เข้าอยู่ในใจผู้บริโภค แย้มปีหน้าเตรียมวางขายเพิ่มอีกแห่ง คาดหวังสัดส่วนรายได้ 1-2% ของรายได้รวมปีหน้า (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-12-2010)
-----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา: FED เผยยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคสหรัฐเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.7% ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า ยอดการกู้ยืมเงินผู้บริโภคในสหรัฐเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 3.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.7% จากเดือนก.ย. แตะระดับ 2.3992 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัว รายงานของเฟดระบุว่า ยอดการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อยานยนต์ การศึกษา และใช้จ่ายในวันหยุดพักผ่อน เพิ่มขึ้น 6.8% ในเดือนต.ค. (ที่มา: อินโฟเควสท์ 8-12-2010)
จีน: นักวิเคราะห์คาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนแข็งค่าขึ้นราว 3-5% ในปีหน้า เฉิง หงฉิง นักวิเคราะห์จากธนาคารไชน่า เอเวอร์ไบรท์ แบงก์คาดการณ์ว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้น 2.5 - 3% ในปีนี้ ก่อนที่จะขยับขึ้น 3-5% ในปีหน้า ขณะที่หลายฝ่ายคาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ของจีนจะขยายตัวต่อเนื่องในครึ่งแรกของปี 2554 (ที่มา: อินโฟเควสท์ 7-12-2010)
จีน: สถาบันสังคมศาสตร์จีนคาดอัตราการเติบโตของ GDP ปีหน้าที่อยู่ที่ 10% เฉิน เจียกุย นักเศรษฐศาสตร์และบรรณาธิการบริหารของEconomic Blue Book for 2011 ซึ่งทางสถาบันสังคมศาสตร์ของจีน (CASS) เป็นผู้รวบรวมได้คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปีหน้าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 10% เมื่อเทียบเป็นรายปี และคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะขยายตัวขึ้น 3.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่เศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และอัตราการขยายตัวที่ค่อนข้างจะรวดเร็วในปีนี้นั้นก็ได้รับปัจจัยหนุนจากนโยบายการคลังเชิงรุกของรัฐบาล รวมทั้งนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 7-12-2010)
เอเชีย: เวียดนามเผยมูลค่าการผลิตอุตสาหกรรมเพิ่ม 13.8% ช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ สำนักงานสถิติของเวียดนามเปิดเผยว่า มูลค่าการผลิตอุตสาหกรรมของเวียดนามปรับตัวสูงขึ้น 13.8% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 717.1 ล้านล้านดองเวียดนาม (3.678 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 11เดือนแรกของปีนี้ โดยในเดือนพฤศจิกายนเดือนเดียวมูลค่าการผลิตอุตสาหกรรมของเวียดนามอยู่ที่ 71.4 ล้านล้านดอง (3.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)(ที่มา: อินโฟเควสท์ 7-12-2010)
เอเชีย: ญี่ปุ่นเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนต.ค.ร่วง 1.4% หลังภาคเอกชนชะลอการใช้จ่าย รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานร่วงลง 1.4% ในเดือนต.ค. สู่ระดับ 7.457 แสนล้านเยน (8.93 พันล้านดอลลาร์) ทำสถิติลดลงติดต่อกัน 2 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคเอกชนของญี่ปุ่นยังคงชะลอการใช้จ่ายในช่วงที่เศรษฐกิจยังไร้ทิศทาง ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานเดือนต.ค.ร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 1% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 8-12-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น