Code 212 : จะดูดี ถ้า SET ยืนเหนือ 1032

วันพฤหัสที่ 9 ธันวาคม 2553

ATT Code : จะดูดี ถ้า SET ยืนเหนือ 1032
POL:ศาลรธน.สั่งยกคำร้อง กรณีปชป.รับเงินบริจาค 258 ลบ.จากบริษัทเอกชน กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--รอยเตอร์
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 4 ต่อ 3 ให้ยกคำร้อง กรณีพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)รับเงินบริจาคจำนวน 258 ล้านบาท จากบริษัทเอกชน เนื่องจากเห็นว่าเป็นการปฏิบัติที่ข้ามขั้นตอน
"ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรม มีมติ 4 ต่อ 3 ให้ยกคำร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากเห็นว่า กระบวนการยื่นคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นการดำเนินการข้ามขั้นตอนไม่ชอบด้วยวิธีปฏิบัติ และไม่มีอำนาจในการยื่นเรื่อง" นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย บนบัลลังก์

SCC (BUY) : เงินสดล้นเหลือ..พร้อมแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดี
* SCC ประกาศขายหุ้น PTTCH จำนวน 236 ล้านหุ้น (15.6%) ในราคา 140 บาท/หุ้น มูลค่า 33,000 ลบ. ทำให้เหลือสัดส่วนการถือหุ้นใน
PTTCH 4.4%เหตุผลในการขายหุ้นครั้งนี้เชื่อว่า :
1) ราคาสมเหตุสมผล ณ ราคาขาย 140 บาท/หุ้น โดยคิดเป็นระดับ PE ของ PTTCH ประมาณ 11 เท่าของปี 2011 เทียบกับใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย PE ของบริษัทปิโตรเคมีในระดับภูมิภาคที่ประมาณ 12 เท่า
2) คาดว่า SCC มีแผนขยายลงทุนในธุรกิจธุรกิจหลักของบริษัทที่น่าจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ซึ่ง SCC มีแผนขยายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ธุรกิจปิโตรเคมีในเวียดนามมูลค่ากว่า 45,000 ลบ.
3) เนื่องจากการถือหุ้นใน PTTCH เพียง 22% ไม่มีอำนาจในการควบคุมกิจการ และหาก PTTCH ต้องรวมกิจการกับ PTTAR ก็จะยิ่งทำให้สัดส่วน การถือหุ้นในบริษัทใหม่หลังควบรวมน้อยลง อีกทั้งยังเป็นทางให้ PTTCH และ PTTAR สามารถควบรวมกิจการกันง่ายขึ้น
* ยืนยันแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 395 บาท/หุ้น (DCF@WACC 8.5%): ราคาหุ้นที่ปรับตัวหลังประกาศขายหุ้น PTTCH ที่มีกำไรจากการขายหุ้นน้อยกว่าที่คาด และผลของภาวะตลาดหุ้นโดยรวมที่ปรับตัวลง แต่อย่างไรก็ตามหากกลยุทธ์การในการขาย PTTCH ครั้งนี้เพื่อนำเงินกับไปลงทุนใหม่ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าก็จะเป็นประโยชน์สำหรับบริษัทในอนาคต แต่เนื่องจาก SCC ยังไม่ชี้แจ้งว่าจะนำเงินที่ได้รับจากการขายบวกกับเงินสดที่มีอยู่ในมือกว่า 25,000 ลบ. รวมเป็นประมาณ 51,800 ลบ. ทำให้เรายังมองไม่เห็น Upside ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ SCC อาจจะต้องการจัดโครงการธุรกิจหลักคือ ปิโตร (44%ของกำไร) ปูน (21%) และกระดาษ(14%) ใหม่อาจต้องการลดสัดส่วนของธุรกิจปิโตรเคมีที่คาดว่าจะเพิ่มเป็นประมาณ 65-70% ในปีหน้า เพราะทั้ง SCC และ PTTCH จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ ดังนั้นการขายหุ้น PTTCH ครั้งนี้เรามองเป็นบวก แม้ราคาขายอาจมีส่วนลดมาก แต่การขายหุ้นในจำนวนมากขายยาก ดังนั้นหุ้นที่ปรับตัวลงมาก็ยังเป็นโอกาสซื้อสะสม นอกจากนี้อาจมีปันผลพิเศษ 3 บาท/หุ้น หากคำนวนจากกำไรจากการขายหุ้นครั้งนี้ 7.3 บาท/หุ้น คิดที่ Div. Pay Out Ratio ที่ 40% รวมกับคาดการทั้งปีที่ 10 บาท/หุ้น รวมเป็น 13 บาท/หุ้น (1H10 จ่ายปันผลแล้ว 4.5 บาท/หุ้น)
----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
9 ธค. 53 ( -15.64 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ปรับตัวลง 1015 - 20 จุด
แนวโน้มในวันพฤหัสนี้ ในกรณีปรับตัวขึ้น ดัชนีไม่น่าขึ้นไปได้เกิน 1032 – 35 จุด ซึ่งเป็นบริเวณ แนวต้านตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมง

จากนั้น ดัชนีมีเป้าหมายแรกในการปรับตัวลงแถว 1015 – 20 จุด ใกล้เส้นค่าเฉลี่ย25 วัน

ขณะที่แนวโน้มหลัก ระยะสองสามสัปดาห์ข้างหน้า ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงต่อแถว 980 – 990 ใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้วในรูปแบบของ wave c flat or c triangle ?

หุ้นเด่น
PTTEP
ปรับตัวขึ้นมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันพอดี รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 178.00 จุดสูงสุดวันพุธและเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าว เป้าหมายระยะสัปดาห์ 187.00 – 189.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 174.50 )

Intraday - แกว่งตัว 1023 - 36
แกว่งตัวในกรอบ 1023 - 36 จุด ใต้เส้น 25 ชม. หรือ "อาจจะ" แกว่งขึ้นไปได้ถึง 1044 จุดสูงสุดวันอังคาร ? แต่โดยรวมตลาดยังคงอยู่ในช่วงเวลาของการปรับฐาน

THAI
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะชั่วโมง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 54.25 กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายสองสามวัน 56.25 – 56.75( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 52.00 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTTCH ปรับตัวลง 133 – 141
SCC ปรับตัวลง 306 - 318
PTT แกว่งตัว 321 – 329
IVL แกว่งตัว 57 – 59
TRUE ต่ำกว่า 6.10 ลง 5.60 – 5.80
PTTEP รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
BANPU ต่ำกว่า 790 ลง 760 – 770
IRPC ต่ำกว่า 5 ลง 4.60 – 4.80
STA แกว่งตัว 35.50 – 36.50
TPC ต่ำกว่า 32 ลง 29 - 31
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS : คาดว่ายังมีโอกาสเลือกหุ้นทยอยรับเมื่อตลาดปรับตัวลงต่ำได้อยู่!!
แนวโน้ม: FSS ยังคาดว่า SET มีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่อง เพราะจะติดช่วงวันหยุดยาว ขณะที่นักลงทุนยังจับตาดูแนวโน้มการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากทางการจีนในช่วงท้ายของสัปดาห์นี้อยู่ ทำให้เช้านี้ตลาดหุ้นในเอเชียยังแกว่งตัวบวก-ลบไม่กว้างนัก โดย SET มีโอกาสที่จะปรับพักตัวลงไปเคลื่อนไหวเป็นลบต่อเนื่องในกรอบ 1010-1030 จุดโดยประมาณเพื่อรอความชัดเจนในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง ดังนั้นถ้าจะหาจังหวะเลือกหุ้นเข้ารับยังน่ารอแถว 1020 จุดหรือต่ำกว่าลงไปก่อนมากกว่า
กลยุทธ์: สำหรับเล่นสั้นตามรอบ ถ้าตลาดขยับขึ้นจึงยังน่าแบ่งส่วนขายทำกำไรและรอซื้อในช่วงแกว่งตัวย้อนลงของตลาด โดยหุ้นที่น่าสนใจเน้นที่หุ้นพื้นฐานดี
เช่น BANPU, BIGC, KTB, PTL, SEAFCO (หุ้นเด่น Monthly) หุ้นปันผล เช่นADVANC, AP, CSL, DELTA, DRT, LPN รวมถึงหุ้นหลักอื่นๆ เช่น PTT, PTTEP,KTB, KBANK, SCB, TASCO, AMATA, PS, SPALI, CK, STEC, MAJOR เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
• (+) ต่างชาติซื้อหุ้นไทยติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ทำให้ยอดสะสมในเดือน ธ.ค.รวมเป็นซื้อ 9.15 พันล้านบาท
• (-) ตลาดคาดจีนอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อนรายงานเศรษฐกิจวันจันทร์ ความไม่ชัดเจนทำให้ตลาดปรับลงชั่วคราว แต่หากชัดเจนแล้วโดยขึ้นดอกเบี้ยจริง 25bp คาดว่าจะทำให้ตลาดกลับมาปรับขึ้นได้ตาม Fund flow ที่เข้ามาปกติ
• (+) ประชุม OPEC วันที่ 11 ธ.ค. Bloomberg consensus คาดว่า OPEC จะคงเป้าหมายการผลิตที่ 24.84 ล้านบาร์เรล/วันเหมือนการประชุม 6 ครั้งที่ผ่านมานับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2551 ในปีนี้น้ำมัน WTC +11%YTD นักกลยุทธ์ของGoldman Sachs, JPMorgan, Morgan Stanley, Merrill ต่างคาดว่าราคาน้ำมันปีหน้าจะกลับไปอยู่ที่ US$100 ส่งผลบวกต่อ PTTEP, PTT, TOP, ESSO, IRPCโดยหุ้นที่ยัง laggard ที่สุดในกลุ่มโรงกลั่นในปีนี้คือ BCP, ESSO, PTTAR ขณะที่TOP +63% แต่ TOP ก็ยัง laggard เมื่อเทียบกับกลุ่มปิโตรเคมีอย่าง PTTCH,VNT, IVL, AJ
• (+) SCC ขาย PTTCH ผ่าน Big lot ราคา 140 บาทวานนี้ SCC ขาย PTTCH236 ล้านหุ้น (15%) ที่ราคา 140 บาท (คิดเป็น PE 12 เท่า) วานนี้ทำให้มีกำไรสุทธิจากการขาย 8.8 พันล้านบาทบันทึกเข้ามาใน 4Q10 สำหรับ PTTCH ที่ราคาปรับลงถึง 5% วานนี้ เราเห็นเป็นโอกาสในการซื้อ (ราคาเป้าหมาย 175 บาท)เพราะกำไรปีหน้าคาดว่าโตสูงสุดในกลุ่ม +93% จากการขยายกำลังการผลิต และแนะนำซื้อ SCC เช่นกัน คาดกำไรปีหน้าโต 18% จากการขยายกำลังการผลิตเท่าตัวตั้งแต่ เม.ย. ปีนี้ ราคาเป้าหมาย 395 บาท
• (+) MAJOR รายได้ตั๋วหนังฟื้นตัวในเดือน พ.ย. +70% จากเดือน ต.ค.ที่รายได้ลดลงไป 46% M-M อย่างไรก็ตาม แนวโน้มรายได้ตั๋วหนังทั้งไตรมาสใน 4Q10คาดว่าจะลดลง Q-Q และ Y-Y เพราะฐานสูงในอดีต แต่การขาย Major Avenueรัชโยธินเข้า MJLF ได้กำไร 80 ล้านบาท ทำให้กำไรลดลงไม่มากนักโดยคาดกำไรสุทธิ -14% Q-Q และ flat Y-Y เรายังมอง MAJOR เป็นหุ้น turnaround ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 17.20 บาท
• (0) หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณ SET50 (1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 2011) – เข้าBTS, PTL, ROBINS, SSI, STA, DCC ออก – BCP, KSL, HANA, PSL, QH, TTA// ส่วนหุ้นที่คาดว่าเข้าคำนวณ SET100 – เข้า AJ, GLOBAL, KKC, PTL, SMT,TTCL ออก – BMCL, CENTEL, GJS, MILL, SAT, SC
• Fund Flow วานนี้ไหลเข้าตลาดภูมิภาคต่อเนื่องและมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเอเชีย แต่
ตลาดกำลังจับตามองนโยบาลดภาษีของโอบามาที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ทำให้เงินไหลออกจากตลาดพันธบัตร์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เข้าสู่ตลาด
หุ้นหรือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น เพียงแต่ระยะสั้นอาจเกิดแรงขายในตลาดสินคาโภคภัณฑ์ระยะสั้นจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ซึ่งเรากลับมองว่าจะเป็น
โอกาสในการเข้าซื้อสะสมในหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตามข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของจีนอาจกดดันตลาดในช่วงนี้ซึ่งเราไม่ได้เป็นห่วงเพราะเป็น
การปรับขึ้นตามกลไกทางเศรษฐกิจ ดังนั้นแนวโน้ม fund Flow ยังไหลเข้าต่อเนื่องเช่นเดิม

ข่าวภายในประเทศ
􀂃 “คลัง”เล็งปรับลดภาษีน้ำมันดีเซล อุ้มเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย “คลัง” เตรียมลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ให้กลุ่มอาชีพประมงและรายย่อย แต่เมินลดเป็นการทั่วไป หลังราคาแตะ 30 บาทต่อลิตร ระบุไม่ใช่แนวทางรักษาระดับราคาน้ำมันให้ต่ำในระยะยาว เตรียมเสนอโครงการเร่งรัฐปฏิบัติการด่วนเพื่อคนไทย ให้นายกฯอนุมัติ “วรรณรัตน์” เทหมดหน้าตัก ควักเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงพยุงราคาขายปลีกดีเซลบี 3 จำนวน 30สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ราคาหน้าปั๊มลดเหลือ 29.99 บาทต่อลิตร (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-12-2010)
􀂃 บอร์ดTOTปลดวรุธพ้นตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานบอร์ด TOT เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดวานนี้ มีมติให้บอกเลิกสัญญาจ้าง นายวรุธ สุวกร เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยนายวรุธ จะยังทำหน้าที่ในตำแหน่งอยู่จนถึง วันที่ 8 ม.ค. 11 แต่จะถูกจำกัดอำนาจลง และจะมีการสรรหาผู้ขึ้นมาทำหน้าที่แทน ระหว่างนี้ บอร์ดจะลงมาดูแลเรื่องโครงการ 3G (Source: ไอ เอ็น เอ็น) ความเห็น: Neutral แม้มองในเชิงบวก แสดงถึงความพยายามเร่งรัดการดำเนินการโครงการวางโครงข่าย 3G ของ TOT มากขึ้น จากช่วงก่อนหน้าที่มีความล่าช้าในขั้นตอนก่อนเปิดขายซองประมูล (TOR) มา 2-3 ครั้ง ล่าสุดเดิมคาดเปิดขายซองวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา มาครั้งนี้ คาดอีกครั้งว่าเป็นวันที่ 13 ธ.ค.นี้ แต่การเปลี่ยนมาเป็นบอร์ด TOT มาดูแลเรื่องโครงการ 3G เอง อาจถูกจับตาเรื่องความโปร่งใสมากขึ้น คำแนะนำ: ยังคงมองความไม่แน่ชัดของการดำเนินการประมูล3G ของ TOT มากขึ้น แม้รัฐพยายามผลักดัน การลงทุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับงานประมูลวางโครงข่าย เช่น กลุ่ม SAMART (ผ่านบ.ย่อย SAMTEL) ที่จะร่วมประมูลกับกลุ่ม LOXLEY, JTS, JAS จึงเป็นเพียงเชิงเก็งกำไร
􀂃 BSM ไตรมาส Q4 แจ่มรับอานิสงส์กำลังซื้อฟื้นลั่นปี 53 รายได้ 550 ล้าน BSM ฟุ้งผลงานไตรมาส 4/53 แจ่ม รับปัจจัยบวกกำลังซื้อเริ่มฟื้น ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง และมีสินค้าที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง ช่วยหนุนยอดขาย มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้า 550 ล้านบาท ส่วนกรณีที่ "สัญชัย" ขายหุ้นออกมาให้ภรรยา ไม่มีนัยสำคัญ ชี้เป็นการลงทุนธรรมดา และไม่มีผลเปลี่ยนแปลงการบริหาร (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-12-2010)
􀂃 CPF บุกอินเดียตั้งเป้า 5 ปีโตเท่าตัว CPF ปักธงลงทุนโรงงานอาหารปลาอินเดีย มองศักยภาพเติบโต ทุ่มงบ 1.5 พันล้านบาท คาดยอดขายโตเท่าตัว 5 ปี จากปีนี้เชื่อได้ตามเป้า 1.52 หมื่นล้านบาท ขณะที่เครือซีพีเตรียมนำ “เซี่ยงไฮ้ คิงฮิลล์”เข้าตลาดเซี่ยงไฮ้ปีหน้าผุดศูนย์การค้าซูเปอร์แบรนด์มอลล์ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-12-2010)
􀂃 JMART ลั่นรายได้โต 5,500 ล้าน ธุรกิจขายโทรศัพท์ขาขึ้น ปรับโฉมแบรนด์ใหม่จับลูกค้าวัยทีน "JMART" มั่นใจปีนี้รายได้โต 5,500 ล้านบาท ขานรับแรงซื้อโทรศัพท์มือถือถาโถมใส่ไม่หยุด มั่นใจปีหน้ารายได้กระฉูดขึ้นถึง 6,000 ล้านบาท วางงบลงทุน 80 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่มอีก 70 แห่ง
ชี้กระแสโทรศัพท์ SMARTPHONE ขาขึ้น พร้อมปรับโฉมภาพลักษณ์ครั้งใหม่ เน้นจับลูกค้าวัยทีน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-12-2010)
􀂃 PS ลงทุนต่างประเทศสดใส "PS" ลงทุนต่างประเทศยังสดใส ล่าสุดโครงการที่อินเดียโชว์ยอดขายกว่า 131 ล้านบาท ส่วนโครงการที่มัลดีฟส์จ่อบุ๊
ครายได้ Q1 ปีหน้า (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-12-2010)
􀂃 ศึกชิงหุ้น SSC เดือดราคา 50 บาทต่ำไป!! หุ้น SSC มีค่าดั่งทองคำ 1 หุ้นต่อ 1 เสียงโหวต จับตา “เสี่ยเจริญ” พันธมิตรที่ดีของ “เอสเอส เนชั่นแนล
โลจิสติกส์ฯ” กว้านซื้อหุ้นในมือรายย่อยที่เหลืออีกไม่เกิน 10% เพื่อถือหุ้นอันดับ 1 หวังใช้สิทธิโหวตเสียงข้างมากในที่ประชุม และมีอำนาจใหญ่สุดในบอร์ด งานนี้เป๊ปซี่-โคล่า เหนื่อย หลังกลุ่มคนไทย ตัณฑเศรษฐี -ล่ำซำ ขนหุ้นมาช่วยขายเทนเดอร์ฯ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-12-2010)

---------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ข่าวต่างประเทศ
􀂃 สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วร่วง 3.8 ล้านบาร์เรล สต็อกเบนซินพุ่ง 3.8 ล้านบาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงาน ว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 3 ธ.ค. ร่วงลง 3.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 355.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ดี สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล แตะที่ 160.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.4 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 214.0 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 4.9% แตะที่ 87.5% ซึ่งมากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 9-12-2010)
􀂃 เอเชีย: ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจญี่ปุ่นเดือนพ.ย.ดีดตัวครั้งแรกในรอบ 4 เดือน รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของชาวญี่ปุ่นซึ่งประกอบอาชีพที่มีความอ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจ ปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนในเดือนพฤศจิกายน โดยได้รับแรงหนุนจากยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่ง ก่อนที่รัฐบาลจะปรับเปลี่ยนนโยบายครั้งสำคัญ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในกลุ่มคนที่ประกอบอาชีพที่ความอ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงพนักงานเก็บเงินในร้านค้า ผู้จัดการโรงแรม และคนขับแท็กซี่ ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 43.6 จุดในเดือนพฤศจิกายน จาก 40.2 จุดในเดือนตุลาคม แม้ว่าตัวเลขจะต่ำกว่าระดับ 50 จุด ซึ่งถือว่ายังหดตัวก็ตาม (ที่มา: อินโฟเควสท์ 8-12-2010)
􀂃 เอเชีย: ญี่ปุ่นเผยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 2.9% หลังได้เปรียบดุลการค้า กระทรวงการคลังของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนตุลาคม เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับ 1.4362 ล้านล้านเยน (1.72 หมื่นล้านดอลลาร์) ทั้งนี้กระทรวงกล่าวเพิ่มเติมว่า ญี่ปุ่นได้เปรียบดุลการค้าและบริการจำนวน 6.384 แสนล้านเยน (7.64 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยตัวเลขดุลการค้าของญี่ปุ่นของญี่ปุ่นคำนวณจากมูลค่าการส่งออกและนำเข้าสินค้าและบริการเท่านั้น ไม่นับรวมการโอนเงิน การลงทุนและอื่นๆ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 8-12-2010)
􀂃 เอเชีย: ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศคงดอกเบี้ย 2.5% ในการประชุมวันนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ในการประชุมวันนี้ หลังจากตัดสินใจประกาศขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งที่แล้วเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ การตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรประเภท7 วันของธนาคารกลางเกาหลีใต้ในวันนี้ เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำนักข่าวยอนฮัพคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสร้างความประหลาดใจให้กับนักวิเคราะห์ด้วยการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 2.5% ในการประชุมเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารกลางมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อภายในประเทศ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 9-12-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น