Code 218 : เกาหลีใต้เสร็จสิ้นการซ้อมรบแล้ว

วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2553
ATT Code : เกาหลีใต้เสร็จสิ้นการซ้อมรบแล้ว
KOREA:กองทัพเกาหลีใต้เสร็จสิ้นการซ้อมรบแล้วเมื่อเวลา 14.30 น. ยอนเปียง--20 ธ.ค.--รอยเตอร์
เกาหลีใต้เสร็จสิ้นการซ้อมรบโดยใช้กระสุนจริงในวันนี้แล้วเมื่อเวลา14.30 น.ตามเวลาไทย หลังจากที่ได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 12.30 น. โดยมีการ
ยิงกระสุนปืนใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการยิงทั้งในระยะใกล้และระยะไกลซึ่งมีแรงสั่นสะเทือนไปถึงหลุมหลบภัยบนเกาะยอนเปียง
เกาหลีใต้ทำการซ้อมรบในวันนี้ หลังจากได้ถูกเลื่อนจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อันเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย แม้มีการขู่ทำสงครามจาก
เกาหลีเหนือ หลังการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแนวทางในการหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ครั้งนี้
ยังไม่มีการยิงตอบโต้จากฝ่ายเกาหลีเหนือในขณะนี้--จบ--

----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
20 ธค. 53 ( -7.14 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

“สัญญาณขาย” ถ้าปรับตัวลงต่ำกว่า1015 จุด
ดัชนีในวันศุกร์ ปรับตัวลงต่ำกว่า1023.71 จุดต่ำสุดของวันที่ 8 ธค. และปรับตัวลงต่ำกว่ากรอบล่างของสามเหลี่ยม ภาพระยะวันถือเป็นแนวโน้มที่ไม่ดีนัก

จากนี้ไปถ้ามีการปรับตัวลง ต่ำกว่า 1015จุด นอกจากจะเป็นการปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันแล้ว ยังจะถือเป็นการเกิด “สัญญาณขาย” ในเครื่องมือPoint & Figure อีกด้วย ดัชนีมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อบริเวณ 940 – 980 จุด ช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 25 สัปดาห์ ในรูปแบบของ wave c flat or c triangle ??

หุ้นเด่น
PATO
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวัน รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 14.70 กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายสองสามวัน15.20 – 16.20( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 13.60 )15.20 – 16.20

HMPRO
ปรับตัวขึ้นมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงอีกครั้ง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 8.70 จุดสูงสุดวันศุกร์และเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าว เป้าหมายสองสามวัน 8.95 – 9.05( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 8.55 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
TOP ต่ำกว่า 71.50 ลง 67 - 69
TRUE ต่ำกว่า 6.50 ลง 6 – 6.20
IRPC ปรับตัวลง 5 – 5.20
IVL ปรับตัวลง 50 – 53
PTTAR ต่ำกว่า 37.25 ลง 34 - 36
TMB แกว่งตัว 2.22 – 2.28
PTT ปรับตัวลง 317 - 318
SCB ต่ำกว่า 102.50 ลง 100 – 101
KTB ปรับตัวลง 16 – 16.50
PTTCH แกว่งตัว 144.50 – 153

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS :
เริ่มมีลุ้นจังหวะดีดกลับขึ้นได้ ดังนั้นเลือกหุ้นทยอยเข้ารับเพื่อลุ้นดีด...
แนวโน้ม: เริ่มมีแรงขายในตลาดหุ้นไทยอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นต่างประเทศก็ยังปรับตัวลดลงกันอยู่ จากความกังวลต่อปัญหาหนี้สินในยุโรป รวมถึงความวิตกต่อมาตรการคุมเข้มของจีนที่อาจจะมีออกมาอีกในรอบสัปดาห์นี้ ทำให้ FSS คาดว่า SET จะยังแกว่งตัวผันผวนในด้านลบต่อได้ในช่วงต้นสัปดาห์ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นในเอเชียเปิดลบในกรอบที่ไม่ลึกมากนักขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐก็ยังออกมาดีต่อเนื่อง รวมทั้งเม็ดเงินใหม่จากกองทุน LTF และ RMF ที่คาดว่าน่าจะมีเข้ามาเพิ่มเติมหลังการจัดงานกระตุ้นยอดซื้อกองทุนของ ตลท.เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศยังคงมียอดซื้อสลับเข้ามาเป็นระยะๆ ดังนั้นการปรับตัวลดลงของตลาดจึงยังถือเป็นจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อได้ เพื่อลุ้นโอกาสดีดกลับขึ้นภายในสัปดาห์นี้ต่อไป
กลยุทธ์: เลือกหุ้นเข้าซื้อได้ โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ BANPU, BIGC, KTB,PTL, SEAFCO, AP, CSL, DELTA, DRT, LPN, PTT, PTTEP, KTB, KBANK,SCB, TASCO, AMATA, PS, SPALI, CK, STEC เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
• (-) ปัญหาความตึงเครียดของคาบสมุทรเกาหลีจะยังเป็นปัจจัยเสี่ยงในสัปดาห์นี้ แต่เราเชื่อว่าเป็นปัจจัยกระทบระยะสั้น
• (+) ผลกระทบของมาตรการประชาวิวัฒน์เป็นบวกกับกลุ่มแบงก์ ค้าปลีกและบันเทิง การขึ้นค่าจ้างและเงินเดือนข้าราชการจะกดดันเงินเฟ้อในปีหน้า และส่งผลลบต่ออุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานจำนวนมากเช่นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์ภาคการผลิต อาหาร และ SMEs ขนาดเล็กเพราะมีต้นทุนแรงงานประมาณ 20% -
30% ของต้นทุนรวม ขณะที่ผู้ประกอบการขนาดใหญ่มีต้นทุนแรงงาน 8% - 10%แต่ส่งผลดีต่อกลุ่มค้าปลีก (CPALL, BIGC, MAKRO) กลุ่มแบงก์โดยเฉพาะที่มีฐานลูกค้ารายย่อยและข้าราชการ (KTB, SCB, BAY) กลุ่มบันเทิง (MAJOR) กลุ่มสื่อสารที่ติดตั้งรับเหมางาน (FORTH, LOXLEY, SAMTEL, JTS, MFEC)
• (+) ซื้อสะสมกลุ่มแบงก์ สัปดาห์นี้ กลุ่มแบงก์จะรายงานสินเชื่อเดือน พ.ย.คาดว่าจะดีขึ้น M-M และจะดียิ่งขึ้นในเดือน ธ.ค. จากการกลับมาของความต้องการสินเชื่อเพื่อการลงทุนตามฤดูกาล เราแนะนำแบงก์ใหญ่เพราะได้ประโยชน์เต็มที่จากช่วง High season ทั้ง KTB (ราคาเป้าหมาย 19 บาท), KBANK (ราคาเป้าหมาย 150 บาท), SCB (ราคาเป้าหมาย 136 บาท) และ BBL (ราคาเป้าหมาย185 บาท) โดยแบงก์ที่ราคา laggard ที่สุดในกลุ่มคือ BBL และ SCB ส่วนระยะยาว KBANK ยังคงเป็น Top pick ของเรา
• (-) การประมูล 3G ของ TOT อาจล่าช้า ความล่าช้าในการประมูลและการดำเนินโครงการเป็นปัจจัยเสี่ยง จะทำให้การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นมีความผันผวนตาม โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับงานประมูลวางโครงข่าย เช่น กลุ่มSAMART (ผ่านบ.ย่อย SAMTEL) ที่จะร่วมประมูลกับกลุ่ม LOXLEY, JTS, JAS,AIT ผันผวนไปตามกระแสข่าว ทั้งนี้ จากการสอบถาม SAMTEL ทาง TOT ได้มีการเปิดขายซองประมูลติดตั้งโครงข่ายแล้วตามกำหนดการ คือ วันที่ 14-27 ธ.ค.(จากที่เลื่อนมา 2-3 ครั้ง) และเดิมคาด e-Auction วันที่ 28 ม.ค.11 และทำสัญญาได้ประมาณกลางเดือนก.พ. 11 ยังคงมุมมอง เพียงเชิงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มดังกล่าว กรณี SAMTEL ราคาเป้าหมายปี 11 เดิมที่ 11.60 บาท (อิง P/E 15 เท่า)และ Upside จากโอกาสได้งานติดตั้งโครงข่าย 3G ของ TOT ดังกล่าว (คาดมอบงาน 2H11) เบื้องต้นประมาณหุ้นละ 3 บาท
• Fund flow เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเม็ดเงินไหลเข้าภูมิภาคเป็นวันที่ 13 ติดต่อกันทำให้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสู่ตลาดแม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะออกมาดีแต่ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรปเพิ่มมากขึ้นหลังมูดี้ส์ปรับลดอันดับเครดิตของไอร์แลนด์ลง 5 อันดับรวด ส่วนค่าเงินบาทเช้านี้ยังคงทรงตัวอยู่ที่ราว 30 บาทต่อดอลลาร์ แม้ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรดังนั้นแนวโน้มกระแสเงินทุนจากต่างชาติจะยังคงไหลเข้าแต่ปริมาณน้อยลง


ข่าวภายในประเทศ
บอร์ด TOT กังวลโครงการ 3G ล่าช้า: จากหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น วันนี้ บอร์ด TOT มีความกังวลโครงการขยายโครงข่าย 3G มูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาทจะไม่สามารถเปิดให้บริการได้ทันในเดือนเม.ย. 11 โดยเฉพาะความเสี่ยง 1. ไม่สามารถลงนามสัญญาจัดซื้อได้ตามเป้าหมาย 2. ความเสี่ยงจากการนำเข้าอุปกรณ์ติดตั้ง 3G และรอให้กทช.อนุมัติ และ 3. การสร้างโครงข่ายเสร็จไม่ทันเวลา ความเห็นและคำแนะนำ: ความล่าช้าในการประมูลและการดำเนินโครงการ เป็นปัจจัยเสี่ยง ซึ่งอาจทำให้การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นมีความผันผวนตาม โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับงานประมูลวางโครงข่าย เช่น กลุ่ม SAMART (ผ่านบ.ย่อย SAMTEL) ที่จะร่วมประมูลกับกลุ่ม LOXLEY, JTS, JAS, AIT ผันผวนไปตามกระแสข่าว ทั้งนี้ จากการ
สอบถาม SAMTEL ทาง TOT ได้มีการเปิดขายซองประมูลติดตั้งโครงข่ายแล้วตามกำหนดการ คือ วันที่ 14-27 ธ.ค. (จากที่เลื่อนมา 2-3 ครั้ง) และเดิมคาด e-Auction วันที่ 28 ม.ค.11 และทำสัญญาได้ประมาณกลางเดือนก.พ. 11 จึงยังคงมุมมอง เพียงเชิงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มดังกล่าว กรณี SAMTELราคาเป้าหมายปี 11 เดิมที่ 11.60 บาท (อิง P/E 15 เท่า) และ Upside จากโอกาสได้งานติดตั้งโครงข่าย 3G ของ TOT ดังกล่าว (คาดมอบงาน2H11) เบื้องต้นประมาณหุ้นละ 3 บาท
TMB เป้าสินเชื่อโตเกิน 10% ลุยหนักกลุ่มเอสเอ็มอีดันขยายตัว 15% แบงก์ TMB วางยุทธศาสตร์ปี 2554 ตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อมากกว่า 10%หลังประเมินในระบบขยายตัว 6-7% เท่านั้น พร้อมชู SME เป็นหัวใจสำคัญ หวังเติบโต 15% สินเชื่อรายใหญ่ 5-8% สินเชื่อรายย่อย 35% ส่วน NPLมั่นใจบริหารเหลือ 7.5% ได้ภายในในสิ้นปีหน้า จากปัจจุบันอยู่ที่ 9.5% (Source - ข่าวหุ้น 20 ธ.ค.10)
CPF งบQ4กำไร2.1พันล้าน ครึ่งปีหลังปันผลเกิน 40 สต. CPF ครึ่งหลังลุ้นปันผลกว่า 0.40 บาท คาดไตรมาส 4 กำไรกว่า 2,100 ล้านบาท รับอานิสงส์ปันผล CPALL สัดส่วนที่ถือหุ้นกว่า 28% ดันกำไรครึ่งปีหลังพุ่งกว่า 6,300 ล้านบาท ประกอบกับผู้บริหารการันตีรายได้ปีนี้ตามเป้า 1.8 แสนล้านบาท และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากปีก่อนที่ 10,190 ล้านบาท (Source - ข่าวหุ้น 20 ธ.ค.10)
ROJNA งบQ4แจ่มกำไรสูงสุดรอบปีบุ๊คขายที่ดินกัลฟ์ ROJNA แจ่ม! ไตรมาส 4 กำไรสูงสุดรอบปี บุ๊ครายได้ขายที่ดินแปลงใหญ่ 300 ไร่ ให้กัลฟ์เจพีและส่วนแบ่งกำไรขายกองทุนอสังหาไทคอน โบรกฯคาดปีนี้ฟาดกำไร 1,020 ล้านบาท โต 35% จากปีก่อน เชียร์ซื้อเป้าหมาย 14.43 บาท ลุ้นรับปันผลครึ่งหลัง 0.30 บาท (Source - ข่าวหุ้น 20 ธ.ค.10)
SEAFCO บันทึกรายได้สีม่วง 100 ล้าน การันตีปีนี้พลิกมีกำไร SEAFCO เผยไตรมาส 4 รายได้เติบโต ส่วนทั้งปีพลิกมีกำไร รอลุ้นอานิสงส์บันทึกงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง มูลค่า 90-100 ล้านบาท ปีหน้ารับรู้เข้ามาอีก 600 ล้านบาท ดันผลประกอบการปี 2554 เติบโตจากปีนี้ (Source - ข่าวหุ้น 20 ธ.ค.10)
AGE คิดการใหญ่ซื้อ 2 เหมืองอิเหนา รับยอดขายถ่านหินก้าวกระโดด ออเดอร์จีนไหลเข้าเพียบ AGE เตรียมดอดเจรจาซื้อหุ้นเหมืองถ่านหินอินโดฯ 2 ราย ช่วงไตรมาส 1/54 รองรับยอดขายถ่านหินปีหน้าก้าวกระโดดเฉียด 2 ล้านตัน จากปีนี้อยู่ที่ 1.2 ล้านตัน หลังออเดอร์จากจีนเข้ามาเพียบ(Source - ข่าวหุ้น 20 ธ.ค.10)
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.

ข่าวต่างประเทศ
ยุโรป: ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดในเดือนธ.ค. ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนธันวาคม บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจมีมุมมองที่เป็นบวกต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศทั้งใน ปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต โดยสถาบัน Ifoเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจซึ่งได้จากการสำรวจผู้บริหาร 7,000 คน ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 109.9จุดในเดือนธันวาคม จากระดับ 109.3 จุดในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งตัวเลขล่าสุดนับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เยอรมนีรวมประเทศในปีพ.ศ. 2534 (ที่มา: อินโฟเควสท์ 17-12-2010)
สหรัฐอเมริกา: เงินดอลล์พุ่งสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เทียบยูโรเช้านี้ จากคาดการณ์จีดีพีสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวช่วงเช้าวันนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ จะขยายตัวแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ณ เวลา 08.21 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้ สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3159 ยูโร จากระดับที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ 1.3188 ยูโร (ที่มา: อินโฟเควสท์ 20-12-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% หลังจากที่กระเตื้องขึ้น 0.5% ในเดือนต.ค. (ที่มา: อินโฟเควสท์ 18-12-2010)
เอเชีย: เกาหลีใต้ประกาศเก็บภาษีธนาคารปีหน้าเพื่อควบคุมเงินไหลออก เกาหลีใต้แถลงในวันนี้ว่าจะเก็บภาษีธนาคารในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการป้องกันกระแสเงินทุนไหลออกจำนวนมากซึ่ง อาจจะสร้างความเสียหายต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ แถลงการณ์ร่วมที่เผยแพร่ในวันนี้โดยกระทรวงการคลัง ธนาคารกลาง และสำนักงานบริการการกำกับดูแลการเงินของเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีมีความเสี่ยงสูงต่อความเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของเศรษฐกิจโลกและความ เคลื่อนไหวของเงินทุน ซึ่งในบรรดากระแสทุนต่างๆ นั้น การกู้ยืมในต่างประเทศมีความผันผวนมากที่สุด โดยเฉพาะการกู้ยืมระยะสั้น ดังนั้น รัฐบาลเกาหลีใต้จึงตัดสินใจที่จะใช้มาตรการเก็บภาษี เพื่อลดความผันผวนของกระแสเงินทุนภายในกรอบของเศรษฐกิจที่เปิดกว้างและเสรี (ที่มา: อินโฟเควสท์ 19-12-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น