Code 224 : จับตากลุ่มพลังงานดันดัชนี หุ้นพลังงานสุดแจ่ม

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม 2553

ATT Code : จับตากลุ่มพลังงานดันดัชนี หุ้นพลังงานสุดแจ่ม!!
ปัจจัยบวกรุมหนุน หลังราคาน้ำมัน-ถ่านหินพุ่งทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง พร้อมดันค่าการกลั่น-สเปรดปิโตรเคมีพุ่งขึ้นตาม ขณะที่รัฐเตรียมปรับโครงสร้างราคา LPG ปลดแอกกลุ่ม PTT หลังต้องแบกภาระชดเชยมานาน ด้านนักวิเคราะห์เชื่อพลังงาน-ปิโตรเคมีจะกลับมานำตลาด แนะนำซื้อ PTT -PTTEP-TOP-IRPC-PTTCH-PTTAR-BANPU และ AGE
----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
28 ธค. 53 (-2.53 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ต่ำกว่า 1016 ปรับตัวลง 1002 – 05 จุด
แนวโน้มในวันอังคารนี้ถ้าปรับตัวลง ต่ำกว่า 1016 จุด ซึ่งนอกจากจะเป็นการปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันแล้ว ยังถือเป็นการเกิด“สัญญาณขาย” ในเครื่องมือ Point & Figureอีกด้วย ดัชนีจะมีเป้าหมายในการปรับตัวลงแถว1002 – 05 ใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว

และถ้ามีการปรับตัวลง ต่ำกว่า 1000 จุด จะถือเป็นการเกิด “สัญญาณขาย” อีกครั้ง ในเครื่องมือ Point & Figure ดัชนีจะมีแนวโน้มในการปรับตัวลงแถว 950 – 970 จุด ซึ่งเป็นบริเวณเป้าหมายตามเครื่องมือ Point & Figure และแนวรับตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 สัปดาห์

หุ้นเด่น
SAMART
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะสัปดาห์ รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 8.75 กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายระยะสัปดาห์9.15 – 9.65( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 8.30 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
TMB เกิน 2.32 ขึ้น 2.34 – 2.36
TRUE ต่ำกว่า 6.55 ลง 6.20 - 6.40
PTT ต่ำกว่า 315 ลง 305 – 310
ADVANC ปรับตัวลง 75 – 80
PTTEP ต่ำกว่า 163.50 ลง 157 – 160
PTL เกิน 38.25 ขึ้น 40.50 – 41.50
IRPC เกิน 5.80 ขึ้น 5.90 – 6
IVL แกว่งตัว 54 – 56.50
CPF แกว่งตัว 24.30 – 24.80
BANPU แกว่งตัว 766 – 780

----------------------------------------------------------------------------------
E Finance : จับตากลุ่มพลังงานดันดัชนี
หุ้นพลังงานสุดแจ่ม!! ปัจจัยบวกรุมหนุน หลังราคาน้ำมัน-ถ่านหินพุ่งทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง พร้อมดันค่าการกลั่น-สเปรดปิโตรเคมีพุ่งขึ้นตาม ขณะที่รัฐเตรียมปรับโครงสร้างราคา LPG ปลดแอกกลุ่ม PTT หลังต้องแบกภาระชดเชยมานาน ด้านนักวิเคราะห์เชื่อพลังงาน-ปิโตรเคมีจะกลับมานำตลาด แนะนำซื้อ PTT -PTTEP-TOP-IRPC-PTTCH-PTTAR-BANPU และ AGE

หุ้นกลุ่มพลังงานกลับมาเป็นพระเอกของตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปพักใหญ่และปล่อยให้กลุ่มแบงก์ดันดัชนีอยู่ฝ่ายเดียว แต่ ณ เวลานี้หุ้นพลังงานกลับแล้ว..อย่าได้กะพริบตาเป็นอันขาด!!

ปัจจัยที่ทำให้หุ้นพลังงานกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง มาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ และราคาถ่านหิน ซึ่งการปรับขึ้นของราคาโภคภัณฑ์ดังกล่าวทำให้ ค่าการกลั่นและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม ส่งผลดีกับหุ้นโรงกลั่น ปิโตรเคมี ด้วย นอกเหนือจากพลังงานถ่านหิน และน้ำมันที่ได้รับผลดีโดยตรงอยู่แล้ว

นอกจากนี้การที่รัฐบาลจะพิจารณาปรับโครงสร้างราคา LPG ใหม่ภายในสัปดาห์นี้จะทำให้ผู้ประกอบการอย่าง PTT ได้รับผลดีชัดเจน เนื่องจาก PTT เป็นผู้แบกรับภาระในการนำเข้า LPG ค่อนข้างมาก ซึ่งหากมีการปรับโครงสร้างราคาใหม่จะส่งผลให้ภาระของ PTT ลดลงไปด้วย สำหรับหุ้นพลังงานที่น่าสนใจลงทุนประกอบด้วย PTT- PTTEP- TOP- PTTCH-IRPC-PTTAR-BANPU และ AGE

***** ธนชาตมองสัปดาห์นี้พลังงานนำตลาด
บทวิเคราะห์บล.ธนชาต ระบุว่า ในสัปดาห์นี้คาดว่าหุ้นพลังงานจะเป็นกลุ่มนำตลาด แม้ว่าสัปดาห์ที่แล้วภาพโดยรวมอ่อนแอเนื่องจากมีแรงขายหุ้นใหญ่ PTTEP และ PTT ซึ่งคาดว่าสัปดาห์นี้จะฟื้นตัวขึ้นได้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำยอดสูงสุดใหม่ โดยราคาล่วงหน้าในตลาด NYMEX ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ US$91.51/bbl หรือเพิ่มขึ้น 4% และถ้าสิ้นปีนี้ราคายืนเหนือระดับ US$90/bbl ในเดือนม.ค.11 มีแนวโน้มที่จะขึ้นต่อถึงระดับ US$97/bbl ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้หุ้นพลังงานจะยังคงเป็นกลุ่มนำตลาดขึ้นได้ในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ กรอบความเคลื่อนไหวของดัชนีกลุ่มพลังงานคาดว่าจะแกว่งตัวระหว่าง 20800-21800 จุด โดย IRPC เป็นหุ้นที่มีแนวโน้มเป็นบวก ราคามีทิศทางขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม ความเคลื่อนไหวของราคาในสัปดาห์นี้ระหว่าง 5.60-6.10 บาท (+7%) ถัดมาคือ BCP เป็นหุ้นที่ราคาเคลื่อนไหวแคบระหว่าง 13.50-15.50 บาท เป็นเวลามากกว่า 1 ปี และเริ่มขึ้นแรงในเดือน ธ.ค. นี้ ทำให้แนวโน้มระยะกลางมีโอกาสที่จะขึ้นแรงได้ต่อเนื่อง และมีเป้าหมายทางเทคนิคที่ระดับ 21 บาท ระยะสัปดาห์คาดว่าจะขึ้นทดสอบแนวต้าน 18.50 บาทได้ (+4%)

สำหรับแรงขายของ PTTEP คาดว่าจะมีไม่มากนักและเป็นโอกาสของการทยอยซื้อสะสม แนวรับ 160-163.50 บาท นายประเสริฐ เปิดเผยว่า จากกรณีที่รัฐบาลอินโดนีเซียเรียกร้องค่าเสียหายจาก PTTEP เนื่องจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วในแหล่งมอนทารา ประเทศออสเตรเลีย โดย PTTEP ยังไม่ได้ยอมรับความผิดดังกล่าว และยังมีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ ซึ่งอยู่ระหว่างรอข้อสรุปจากรัฐบาลออสเตรเลีย

โดยคาดว่าทั้งสองฝ่ายจะมีข้อมูลสำหรับการหารือกันในรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเดือนก.พ.11 ราคาหุ้น PTTEP ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันในระยะสั้น อุบัติเหตุที่ มอนทารายังคงหลอกหลอนราคาหุ้น PTTEP ไปจนกว่ารายงานสุดท้ายในเรื่องการแพร่กระจายของน้ำมันจากมอนทาราของรัฐบาลออสเตรเลียจะออกมาในต้นปี 2011 เราไม่เชื่อว่าใบอนุญาตทั้งหมดของ PTTEP จะถูกเพิกถอน แต่แผนการปรับปรุงแก้ไข (Action Plan) ที่มอนทาราจะยังคงถูกตรวจสอบโดยรัฐบาลออสเตรเลีย ทางพื้นฐานเรายังคงแนะนำ “ซื้อ” PTTEP

ส่วนกรณีที่คณะกรรมการบริษัท PTT มีมติอนุมัติแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2011-14F) ของ PTT วงเงิน 244 พันลบ. (ไม่รวม PTTEP) ซึ่งสูงกว่าที่ PTT ประกาศก่อนหน้า 74% และสูงกว่าสมมติฐานของเรา 53% ซึ่งโดยหลักๆ แล้ว ส่วนที่เพิ่มขึ้น คือ ธุรกิจก๊าซ และการลงทุนในธุรกิจร่วมทุน ซึ่งงบลงทุนที่สูงกว่าที่เราคาดนี้ทำให้มูลค่าของ PTT ลดลง

อย่างไรก็ตามเรายังไม่ได้รวมสมมติฐานราคาน้ำมันใหม่ และการอัพเกรดมูลค่าของบริษัทย่อย และบริษัทร่วมในประมาณการ ซึ่งโดยรวมแล้ว เราคาดว่ามูลค่าใหม่สำหรับ PTT น่าจะอยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าราคาเป้าหมายในปัจจุบันของเรา ยังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาเป้าหมายเก่าที่ 375 บาท เนื่องจากมีมุมมองที่เป็นบวกต่อตลาดน้ำมัน และการเป็น volume play (GSP#6) ของบริษัทฯ และผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยที่ดีขึ้น

***** ฟาร์อีสท์แนะซื้อกลุ่ม PTT ยกก๊วน
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ปัจจัยที่จะสนับสนุนหุ้นกลุ่มพลังงานในช่วงนี้มี 3 ประเด็นคือ
1.ค่าการกลั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเริ่มโดดเด่นมาตั้งแต่ต้นไตรมาส 4/53 จนถึงปลายปีนี้ เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาว ส่งผลให้ค่าการกลั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5-6 เหรียญฯต่อบาร์เรล จากช่วงไตรมาส 2/53 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2-3 เหรียญฯต่อบาร์เรล
2.ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทั้งไนเมกซ์ เบรนท์ และดูไบ ปรับเพิ่มขึ้นมาสูงกว่า 90 เหรียญฯต่อบาร์เรล ซึ่งจะส่งผลดีต่อมายังบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เนื่องจากในการจำหน่ายก๊าสธรรมชาติจะต้องอ้างอิงกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
3.ธุรกิจปิโตรเคมีที่เป็นขาขึ้น สืบเนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบสูงขึ้นและสะท้อนมายังราคาผลิตภัณฑ์สูงขึ้น ส่งผลให้สเปรดกว้างขึ้น
" ทั้งหมดที่กล่าวมา ส่งผลดีต่อ PTT และบริษัทในเครือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น IRPC- PTTAR-PTTCH " นายปริญทร์ กล่าว
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ "ซื้อ"กลุ่มพลังงาน ในช่วงนี้ถือว่ากำลังดีเพราะต่างชาติพักฐาน ดัชนีทรงตัว อาจจะหาจังหวะเข้าซื้อเก็บได้ เพราะแนวโน้มกลุ่มพลังงานในปีหน้ายังโตต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจโลกไม่โต แต่กลุ่มพลังงานจะยังเติบโตดีด้วยผลของราคาขายที่สูงขึ้น

***** กิมเอ็งชอบโรงกลั่น TOP เด็ดสุด
บทวิเคราะห์บล.กิมเอ็ง ระบุว่า แนะนำทยอยสะสม TOP ให้ราคาเหมาะสม 87.00 บาท ประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้ คือการประชุมของ กพช ต่อการพิจารณาแยกราคาก๊าซ LPG ระหว่างภาคครัวเรือนและภาคขนส่ง ออกจากภาคอุตสาหกรรม กอปรกับความเห็นของนายกรัฐมนตรีวานนี้ ถึงมุมมองต่อโครงสร้างราคาดังกล่าว จึงมีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะพิจารณาอนุมัติแยกราคาก๊าซ LPG ในเร็วๆ นี้ น่าจะสอดคล้องกับนโยบาย ประชาวิวัฒน์ที่จะประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ม.ค. 2554

KimEng เชื่อว่า TOP จะได้ประโยชน์สูงสุด หากมีการประกาศแยกราคาก๊าซ LPG อย่างเป็นทางการ เพราะเป็นผู้ผลิตก๊าซ LPG มากที่สุดในกลุ่มโรงกลั่นราว 5% และมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้ Margin ของการผลิตก๊าซขยับขึ้น ช่วยต่อ Margin เฉลี่ยของ TOP ให้ขยับขึ้นด้วยเช่นกัน

อีกทั้งแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q53 ของ TOP เชื่อว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นทั้ง qoq และ yoy ไม่ว่าจะเป็นค่าเฉลี่ยการกลั่นปกติสิงคโปร์ QTD อยู่ที่ US$5.44/barrel เทียบกับ 3Q53 ที่เฉลี่ย US$4.22/barrel เพิ่มขึ้น 29% บวกกับกำไรจากสต็อกน้ำมันดิบ ราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ย MTD ของเดือนธ.ค. อยู่ที่ US$88.63/barrel เทียบกับราคาเฉลี่ยเดือนก.ย.ที่ US$75.74/barrel และธุรกิจปิโตรเคมีที่ราคาขยับขึ้นและทรงตัวอยู่ในระดับสูงเกือบตลอด 4Q53 นี้ ทั้งนี้ TOP ทำกำไรสุทธิใน 3Q53 ไว้ที่ 2,290 ล้านบาท และ 1,695 ล้านบาท ใน 4Q52

***** เกียรตินาคินเชียร์เก็บ BANPU-AGE
บทวิเคราะห์บล.เกียรตินาคิน ระบุว่า ราคาถ่านหินสัปดาห์ล่าสุดอยู่ที่ 119.18 เหรียญต่อตัน เพิ่มขึ้น 2.73 เหรียญต่อตันจากสัปดาห์ก่อน (+2.3%wow) ส่วนราคาเฉลี่ย ธ.ค. 53 อยู่ที่ 114.95 เหรียญต่อตัน เพิ่มขึ้น 41%yoy, ราคาเฉลี่ย 4Q53 (Qtd) อยู่ที่ 106.85 เหรียญต่อตัน เพิ่มขึ้น 39%yoy และ 14%qoq, ราคาเฉลี่ย 2553 (Ytd) อยู่ที่ 99.08 เหรียญต่อตัน เพิ่มขึ้น 38%yoy

ทั้งนี้ ราคาถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 สัปดาห์ติดต่อกัน ทำให้ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาถ่านหินเพิ่มขึ้นกว่า 9.9 เหรียญต่อตัน (+9.1%) เป็นผลมาจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในภูมิภาค โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ขณะที่จีนยังคงมีการนำเข้าถ่านหินในปริมาณที่สูงต่อเนื่องตลอด 2H53 ที่ผ่านมา ขณะที่ทิศทางของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอีกปัจจัยหนุนระดับราคาถ่านหิน

ส่วนแนวโน้มราคาถ่านหิน: ราคาถ่านหินตลาดล่วงหน้า 1 – 3 เดือนข้างหน้า (Richards Bays, South Africa) ยังอยู่ 110 – 113 เหรียญต่อตัน สูงกว่าราคาปัจจุบัน (Spot Price) ที่ระดับ 107.75 เหรียญต่อตัน ปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อระดับราคาถ่านหินยังคงมาจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของราคาถ่านหินเช่นกัน

สำหรับ BANPU ประกาศจ่ายปันผลพิเศษในอัตรา 5 บาทต่อหุ้น ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 0.65% เป็นการจ่ายเงินปันผลพิเศษจากกำไรสะสม และพิจารณารวมผลการดำเนินงานในรอบ 9M53 นัยสำคัญของการจ่ายเงินปันผลพิเศษส่วนหนึ่งมาจากกำไรที่ได้จากการ ITM ก่อนหน้านี้ ทำให้ผลการดำเนินงาน 3Q53 และกำไรสะสมของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

รวมทั้งบริษัทจะรับรู้กำไรจากการขาย RATCH ใน 4Q53 ทำให้บริษัทมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ในปี 2553 ประมาณ 14,000 ล้านบาท การจ่ายเงินปันผลพิเศษในครั้งนี้คิดเป็น 9.5% ของกำไรพิเศษ และไม่กระทบกระแสเงินสดของบริษัท แม้ว่าก่อนหน้านี้บริษัทจะการลงทุนใน CEY ด้วยเงินลงทุนจำนวนมากก็ตาม โดยบริษัทจะทำให้การขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 4 ม.ค. 2554 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 21 ม.ค. 2554

ทั้งนี้ เรา Overweight กลุ่มธุรกิจถ่านหิน และเรายังคงแนะนำ ซื้อ BANPU และ AGE ด้วยมูลค่าที่เหมาะสม 900 บาท และ 14 บาท ขณะที่เราอยู่ระหว่างการปรับมุมมองเป็นเชิงบวกกับ LANNA จากประเด็นการขยายการลงทุนในเหมืองถ่านหิน (คาดได้ข้อสรุปภายในปี 2553) รวมทั้งอยู่ระหว่างการเจรจาอีก 1 แห่ง คาดได้ข้อสรุปปี 2554 ส่งผลบวกต่อผลประกอบการ และราคาที่เหมาะสม
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.

----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น