Code 222 : กลุ่มพลังงานยังคงกดดันตลาดอยู่

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2553
ATT Code : กลุ่มพลังงานยังคงกดดันตลาดอยู่
----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
24 ธค. 53 (+2.13 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ไม่น่าเกิน 1025 – 30 จุด
แนวโน้มในวันศุกร์นี้ ในกรณีปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนีไม่น่าจะไปได้เกิน 1025 – 30ใกล้จุดสูงสุดเดิมของสัปดาห์นี้

ขณะเดียวกัน ตลาดยังคงมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวกลับลงมาแถว 1002 – 05 ใกล้จุดต่ำสุดเดิมของสัปดาห์นี้

และถ้ามีการปรับตัวลง ต่ำกว่า 1000 จุด จะถือเป็นการเกิด “สัญญาณขาย” อีกครั้ง ในเครื่องมือ Point & Figure ดัชนีจะมีแนวโน้มในการปรับตัวลงแถว 950 – 970 จุด ซึ่งเป็นบริเวณเป้าหมายตามเครื่องมือ Point &Figure และแนวรับตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 สัปดาห์

หุ้นเด่น
JAS
ปรับตัวขึ้นมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันพอดี รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 2.08 จุดสูงสุดสัปดาห์นี้ และเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าว เป้าหมายสองสามวัน 2.16 – 2.20( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 2.00 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTT ต่ำกว่า 317 ลง 305 – 310
TRUE เกิน 6.65 ขึ้น 6.80 – 6.90
PTTCH ต่ำกว่า 144.50 ลง 141.50 – 142
IVL ปรับตัวลง 54 – 54.50
PTL ปรับตัวลง 36.25 – 36.70
CPF เกิน 24.40 ขึ้น 24.60 – 24.80
BANPU แกว่งตัว 766 – 780
IRPC ต่ำกว่า 5.50 ลง 5.10 – 5.20
TCAP เกิน 36 ขึ้น 36.75 – 37.25
SCB แกว่งตัว 103.50 – 105.50
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS : จังหวะซื้อยังสามารถรอช่วงตลาดอ่อนตัวลงได้ เพราะยังมีสิทธิแกว่งตัว!!
แนวโน้ม: แม้ว่านักลงทุนต่างประเทศในบ้านเราจะมียอดขายสุทธิไม่สูงมากนักเมื่อวานนี้ แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในช่วงของการขายทำกำไรต่อเนื่องช่วงท้ายปี ขณะที่
ตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ไม่ค่อยสดใสนัก โดยเฉพาะในเอเชีย หลังมีข่าวท่าทีที่แข็งกร้าวของเกาหลีเหนือ หลังจากเกาหลีใต้ยังคงทำการซ้อมรบในคาบสมุทร
เกาหลีต่ออีกครั้งในช่วงนี้ รวมทั้ง SET ก็สามารถดีดกลับขึ้นมาได้พอควรในช่วง2-3 วันที่ผ่านมาแล้วด้วย ทำให้ FSS คาดว่ามีแนวโน้มที่ SET จะเริ่มแกว่งตัวย้อนลงอีกครั้งได้ อย่างไรก็ตามเราเริ่มเห็นแรงซื้อจากกองทุนในประเทศอีกครั้ง ซึ่งคาดว่ามาจากเม็ดเงินใหม่ของกองทุน LTF และ RMF ตามที่เคยกล่าวถึง ดังนั้นจังหวะอ่อนตัวลงของตลาดยังสามารถเลือกหุ้นเข้าทยอยรับเพื่อลุ้นรอบรีบาวด์ครั้งใหม่ของ SET ได้อยู่ โดยเฉพาหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ เช่นอาหารและน้ำมัน
กลยุทธ์: จังหวะทยอยเข้าซื้อยังน่ารอรับต่ำ โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ BANPU,BIGC, KTB, PTL, SEAFCO, AP, CSL, DELTA, DRT, LPN, KBANK, SCB,TASCO, AMATA, PS, SPALI, CK, STEC เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
• คืนนี้(24 ธ.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการ 1 วัน เนื่องในวันคริสมาสต์ อีฟ
• (+) ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนนี้ยังดีต่อเนื่อง โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่ก็เพิ่มขึ้นในเดือน พ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ยังลดลงต่อเนื่อง และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 19ก.ค.2008 ด้วย
• (+) DTAC, TRUE CEO กสท.ให้ข่าวบอร์ดกสท.อนุมัติ DTAC-TRUE ทำ 3G เทคโนโลยี่ HSPA บนคลื่น 850 MHz แบบไม่เชิงพาณิชย์ โดยให้ขยายสถานีฐาน ตามที่ทรูขอมาจำนวน 1,400 สถานีฐาน DTAC 1,220สถานีฐาน เป็นข่าวเชิงบวกเล็กๆ กับหุ้นทั้ง 2 บริษัท ในการขยายความสามารถการให้บริการ โดยเฉพาะด้าน Data อย่างไรก็ตาม การจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ (คิดเงินได้) ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ
มาตรา 22 ของพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ โดยคาดจะมีการพิจารณากรณีของ DTAC ในเดือนม.ค.11 แต่สำหรับ TRUEMOVE ยังมีปัญหาเรื่องความถูกต้องของสัญญาหลัก นอกจากนี้ มองว่าผลประโยชน์สุทธิต่อการเติบโตและการลดต้นทุน อาจไม่มากอย่างมีนัยสำคัญนัก หากเทียบกับ จะไม่มีนัยสำคัญ ได้เท่า
บริการ 3G บนคลื่นใหม่ ซึ่งจากพ.ร.บ.ความถี่ใหม่ฯ มี ต้นทุนค่าใบอนุญาตอยู่ที่ 2% ขณะที่อัตราค่าสัมปทานปัจจุบัน 20-30% เชิงพื้นฐาน “ถือ” DTAC(TP– 48 บาท) ส่วน TRUE (TP- 3.24 บาท) ระยะสั้น อาจยังมีการเก็งกำไรจากแผนการซื้อ Hutch แต่จากข้อมูลในสื่อต่างๆ ยังไม่มีรายละเอียดแน่ชัดยังอยู่ใน Rating “ขาย”
• Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าต่อเนื่องเป็นวันที่ 17 ติดต่อกัน ส่วนใหญ่ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้และไต้หวันเช่นเคย ในขณะที่ตลาดขนาดเล็กอย่าง
ไทย อินโด ฟิลิปปินส์และเวียดนาม ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากนักลงทุนและกองทุนส่วนใหญ่หยุดพักผ่อนยาว อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ตลาดยังให้ความสนใจในหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะตัวเลขการบริโภคในสหรัฐปรับขึ้นดีมากกว่าคาด ทำให้คาดว่าความต้องการใช้สินค้าจะเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบและราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกือบทุกชนิดปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและบางชนิดทำสถิติใหม่ สำหรับค่าเงินสหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร แต่ค่าเงินบาททรงตัวอยู่ที่ระดับ 30 บาท/ดอลลาร์ ส่วนแนวโน้มกระแสเงินทุนต่างชาติช่วงนี้ยังทรงตัวหรือชะลอตัว เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีต่อเนื่อง


ข่าวภายในประเทศ
TRUE ซื้อฮัทช์เกินคุ้มกสทต่อสัมปทาน 14 ปี 2 ปีแปลง CDMA เป็น HSPA ต่อยอดบริการมือถือได้ถึง 4G TRUE ซื้อ HUTCH คุ้มเกินคุ้มล่าสุดยื่นขอแก้สัญญาดำเนินธุรกิจ 3 จี กสทฯ ลั่นไม่มีปัญหา พร้อมเปิดทางบริหารคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ต่ออีก 14 ปี “จิรายุทธ”รับลูกทันทีแผนงานอีก
2 ปีจะเปลี่ยน CDMA เป็น HSPA พร้อมกันนี้บอร์ด กสทฯ อนุมัติ DTAC-TRUE ขยายสถานีฐานทดลองบริการ 3 จีเพิ่ม (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 24-12-2010)
KK สินเชื่อปรี๊ด 22% กำไรจ่อ 3.06 พันลบ. โบรกฯ คาด “เกียรตินาคิน” (KK ) กำไรปี’53 ปลิ้น 3.06 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.1% ปันผล 1.50บาทต่อหุ้น หลังสินเชื่อเช่าซื้อ 11 เดือนแรกกระโดด 22% ราคาพื้นฐาน 49.90 บาท แนะนำ "ซื้อ" ด้านบอร์ด KK แต่งตั้ง “ธวัชชัย สุทธิกิจพิศาล” นั่งซีอีโอ ควบกรรมการผู้จัดการ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 24-12-2010)
IVL รายได้ไตรมาส 4 นิวไฮเป้า 3 ปี สินทรัพย์แสนล้าน IVL ลั่นรายได้ไตรมาส 4 ดีกว่าไตรมาส 3 เหตุรับรู้รายได้โรงงานอัลฟ่าเพ็ทสหรัฐเต็มไตรมาส ส่วนสเปรดราคาผลิตภัณฑ์ PTA แตะ 250-260 เหรียญต่อตัน ส่วน PET 220 เหรียญต่อตัน ส่วนปีหน้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% ตั้งเป้าเพิ่มการลงทุนภายในปี 2557 คิดเป็นมูลค่า 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 24-12-2010)
DCC เจรจาลูกค้ากระเบื้องพม่า 2 ราย ออเดอร์เตรียมไหลเข้าปีหน้า เตรียมงบลงทุนกว่า 420 ล้าน DCC บุกตลาดกระเบื้องพม่า แย้มเจรจาลูกค้าใหม่ 2-3 ราย คาดออเดอร์เข้าต้นปีหน้า ตั้งเป้ายอดขายโต 10% จากปีนี้ที่คาดว่าจะโต 12% วางงบลงทุน 420 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตสร้างเตาเผาเพิ่มอีก 2 เตา ทำให้กำลังการผลิตเป็น 61 ล้านตร.ม./ปี ส่วน DRT ฟุ้งยอดขายปีนี้ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 10% รับอานิสงส์อสังหาฯไทยฟื้น(ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 24-12-2010)
BSBM ยอดขายปีหน้า 2 แสนตัน ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 50-100% BSBM ตั้งเป้ายอดขายปีหน้า 2 แสนตัน เติบโต 50-100% ขยายฐานลูกค้ามากขึ้นทั้งภาครัฐและเอกชน เน้นปริมาณขายมากกว่ากำไรแต่ไม่ขาดทุน หวังส่วนแบ่งการตลาด 7-10% ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/53 ใกล้เคียง 457
ล้านบาทจากไตรมาสก่อน โบรกฯยังแนะซื้อ เป้าหมาย 1.93 บาท เหลืออัพไซด์ 32% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 24-12-2010)
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.พุ่ง 5.5% สะท้อนตลาดที่อยู่อาศัยฟื้นตัว กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงาน ว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 5.5% แตะระดับ 290,000 หลังต่อปี จากระดับของเดือนต.ค.ที่ 275,000 หลัง ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ รายงานระบุว่า ราคากลางของบ้านใหม่เดือนพ.ย.อยู่ที่ 213,000 ดอลลาร์ ลดลง 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี (ที่มา: อินโฟเควสท์ 24-12-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 2.4% บ่งชี้ภาคการผลิตสหรัฐยังสดใส กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิด เผยว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.ซึ่งไม่นับรวมสินค้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมการขน ส่ง พุ่งขึ้น 2.4% ทำสถิติเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 8 เดือน และสะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง (ที่มา: อินโฟเควสท์ 24-12-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วลดลง 3,000 ราย กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 18 ธ.ค.ปรับตัวลดลง 3,000 ราย แตะที่ 420,000 ราย ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีท (ที่มา: อินโฟเควสท์ 24-12-2010)
สหรัฐอเมริกา: ข้อมูลศก.สหรัฐแข็งแกร่ง หนุนน้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.03 สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงการปรับตัวขึ้นของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและยอดขายบ้านใหม่ ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะช่วยหนุนความต้องการ พลังงานให้ดีดตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันของสหรัฐที่ร่วงลงในรอบ สัปดาห์ที่แล้ว อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น (ที่มา: อินโฟเควสท์ 24-12-2010)
จีน: จีนเล็งเพิ่มปริมาณการผลิตข้าวในปี 2554 หลังดีมานด์ในประเทศพุ่ง กระทรวงเกษตรของจีนเปิดเผยว่า จีนมีมติในที่ประชุมสามัญกำหนดกรอบการทำงานสำหรับพื้นที่ชนบทให้เพิ่มปริมาณ การผลิตข้าวพร้อมกับส่งเสริมให้เกษตรกรเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดในปีหน้า ทั้งนี้ ปริมาณการบริโภคข้าวภายในประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ด้วยสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญๆทำให้ผลผลิตและอุปทานลดลงในปีนี้ โดยนายหลี่ หนิงหุย เจ้าหน้าที่จากสถาบันบัณฑิตยสถานวิทยาศาสตร์การเกษตรของจีน กล่าวว่า ปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคาธัญพืชภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้นในปี 2553 (ที่มา: อินโฟเควสท์ 23-12-2010)
เอเชีย: สิงคโปร์เผยเงินเฟ้อเดือนพ.ย.พุ่งแตะ 3.8% หลังต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้น สำนักงานสถิติแห่งชาติสิงคโปร์ รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงที่ 3.8% ในเดือนพ.ย.ปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากต้นทุนการขนส่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.4% ซึ่งเป็นผลมาจากการพุ่งขึ้นของราคารถยนต์และเชื้อเพลิง (ที่มา: อินโฟเควสท์ 23-12-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น