Code 208 : ธปท.ขึ้นอาร์พี0.25% แบงก์เฮ-อสังหาฯโฮ!

วันพฤหัสที่ 2 ธันวาคม 2553
ATT Code : ธปท.ขึ้นอาร์พี0.25% แบงก์เฮ-อสังหาฯโฮ!
EFinance Thai - ธปท.ทำเซอร์ไพรส์!!ขึ้นดอกเบี้ยอาร์พี 0.25% ให้เหตุผลเงินเฟ้อมีแนวโน้มกลับมากดดันเศรษฐกิจ ขณะที่ดอกเบี้ยแท้จริงติดลบมากสุดในเอเชีย หวั่นจุดชนวนภาวะฟองสบู่ ด้านหุ้นอสังหาฯช็อกกอดคอร่วงยกกลุ่ม เหตุดอกเบี้ยขาขึ้นมาเร็วเกินคาด ส่วนกลุ่มแบงก์รับส้มหล่นเข่งใหญ่ จ่อขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ ขณะที่ราคาหุ้นทะยานรับข่าวยกก๊วน
----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
2 ธค. 53 ( +12.52 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐาน
แนวโน้มในวันพฤหัสนี้ ถ้าปรับตัวขึ้นเกิน 1018.57 จุดสูงสุดของวันพุธได้ ดัชนีสามารถขึ้นต่อแถว1022 – 26 จุด

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังอยู่ในช่วงของการปรับฐานแกว่งตัวในกรอบ 985 – 1025 จุด และยังคงมีโอกาสปรับตัวกลับลงไปแถว 990 – 995ใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์นี้ เช่นเดิม

และถ้ายังปรับตัวลงต่อ ต่ำกว่า 978.52จุดต่ำสุดของเดือน พย. ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงต่อยังเป้าหมาย 905 – 940 จุด ใกล้เส้นค่าเฉลี่ย25 สัปดาห์

หุ้นเด่น
TUF
ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันอีกครั้ง ทยอยซื้อแถว 55.50 – 56.00 หรือซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 57.00 จุดสูงสุดวันพุธเป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 59.00 – 60.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 55.50 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
IVL ต่ำกว่า 56.25 ลง 52 - 54
PTL เกิน 40.75 ขึ้น 41 – 42
IRPC แกว่งตัว 4.94 – 5.05
PTTCH แกว่งตัว 150 – 156
PTTAR แกว่งตัว 36.50 – 38.50
PTT แกว่งตัว 305 – 314
KTB ไม่น่าเกิน 17.10 – 17.40
TRUE ต่ำกว่า 6.20 ลง 6 – 6.10
STA ไม่น่าเกิน 35 – 35.75
BBL ไม่น่าเกิน 150 – 152
----------------------------------------------------------------------------------
ธปท.ขึ้นอาร์พี0.25% แบงก์เฮ-อสังหาฯโฮ!
ธปท.ทำเซอร์ไพรส์!!ขึ้นดอกเบี้ยอาร์พี 0.25% ให้เหตุผลเงินเฟ้อมีแนวโน้มกลับมากดดันเศรษฐกิจ ขณะที่ดอกเบี้ยแท้จริงติดลบมากสุดในเอเชีย หวั่นจุดชนวนภาวะฟองสบู่ ด้านหุ้นอสังหาฯช็อกกอดคอร่วงยกกลุ่ม เหตุดอกเบี้ยขาขึ้นมาเร็วเกินคาด ส่วนกลุ่มแบงก์รับส้มหล่นเข่งใหญ่ จ่อขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ ขณะที่ราคาหุ้นทะยานรับข่าวยกก๊วน

วันนี้(1 ธ.ค.)คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)มีมติให้ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย(อาร์พี)อีก 0.25% เป็น 2% ซึ่งถือว่าสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดพอสมควร เนื่องจากก่อนหน้านี้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% เท่าเดิม โดยกนง.ให้เหตุผลที่ขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ว่าเป็นเพราะความจำเป็นในการคงดอกเบี้ยในระดับต่ำลดลง ขณะที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มกดดันภาพรวมเศรษฐกิจมากขึ้น รวมทั้งการที่ดอกเบี้ยแท้จริงยังติดลบมากอาจทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ได้ในอนาคต

ทั้งนี้ การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ถือเป็นข่าวเซอร์ไพรส์ทางลบของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้การบริโภคของประชาชนชะลอตัวลง โดยเฉพาะการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีต้นทุนที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มอสังหาฯวันนี้ปรับตัวลดลงทันทีที่ กนง.ประกาศขึ้นดอกเบี้ย ในทางตรงกันข้ามการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้กลับเป็นข่าวเซอร์ไพรส์ทางบวกกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะได้รับประโยชน์จากส่วนต่างดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้หุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรงและดันดัชนียืนในแดนบวกได้

***** กนง.ขึ้นดอกเบี้ยอาร์พี 0.25%
นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ว่า กนง.มีมติให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย(อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน ) 0.25% จากเดิมอยู่ที่ 1.75% เป็น 2% โดยให้มีผลทันที เนื่องจาก กนง.ได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะต่อไป พบว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องและนโยบายการเงินของสหรัฐฯ มีความชัดเจนมากขึ้น แม้ว่าตลาดการเงินระหว่างประเทศยังคงผันผวนจากปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปแต่มีมาตรการรองรับที่มีรูปธรรม รวมถึงเศรษฐกิจเอเชียมีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่งจากการบริโภคและการลงทุน

ส่วนอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันยังทรงตัว แต่ระยะต่อไปแรงกดดันด้านต้นทุนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามแรงกดดันด้านอุปสงค์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจทำให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต ดังนั้นนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากเช่นปัจจุบันจึงมีความจำเป็นที่น้อยลง อีกทั้งการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับเป็นเวลานานจะก่อให้เกิดความไม่สมดุลในเศรษฐกิจได้

ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดีและมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในปีหน้าที่คาดเติบโต 3-5% จากปีนี้ที่คาดเติบโต 7-8% ซึ่งมีอุปสงค์ในประเทศเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ การลงทุนยังอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวดีต่อเนื่อง แม้ในระยะสั้นเศรษฐกิจอาจจะชะลอตัวบ้างจากที่เร่งตัวขึ้นมากจากช่วงก่อนหน้า

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังคงติดลบที่ 1.6-1.7% ซึ่งถือว่ามากสุดในภูมิภาคเอเชีย ยกเว้นประเทศอินเดียเพียงประเทศเดียว ซึ่งเมื่อ กนง.ได้พิจารณาประเด็นดังกล่าวจากการเปรียบเทียบกับประเทศอื่นที่มีลักษณะเช่นเดียวกับประเทศไทย จึงได้มีมติให้ปรับอัตราดอกเบี้ยเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น ซึ่งการปรับขึ้นครั้งนี้จะมีผลมากแค่ไหนนั้นขอให้ปล่อยไปตามกลไกการทำงานของตลาด

"การใช้อัตราดอกเบี้ยในการดำเนินนโยบายการเงินนั้น ต้องใช้ระยะเวลา 4-8 ไตรมาสจึงจะเห็นผล ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่ติดลบเป็นเวลานานจะมีผลที่บิดเบือนกลไกตลาดและต่อเนื่องไปยังภาคการลงทุนที่คลาดเคลื่อนไปจากความจริงและอาจก่อให้เกิดปัญหาฟองสบู่ในอนาคตได้ "นายไพบูลย์ กล่าว

ทั้งนี้ จากแนวโน้มพื้นฐานเศรษฐกิจเห็นว่าดอกเบี้ยติดลบที่เป็นอยู่คงไม่เหมาะสมกับเศรษฐกิจไทยต่อไป เพราะจะทำให้เกิดความไม่สมดุลในทุกภาคส่วนสะสมความเสี่ยงในการเก็งกำไรของสินทรัพย์ต่างๆ และไม่สนับสนุนให้มีการออมซึ่งจะกลายเป็นปัญหาในระยะยาว อย่างไรก็ตามส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูดให้เงินทุนไหลเข้า แต่เชื่อว่านักลงทุนที่จะเคลื่อนย้ายเงินทุนไปในแต่ละประเทศจะพิจารณาจากเศรษฐกิจที่แท้จริงมากกว่า และให้น้ำหนักของอัตราดอกเบี้ยเป็นเพียงปัจจัยที่ตามมาเท่านั้น

***** หุ้นอสังหาฯกอดคอดิ่งยกก๊วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อาทิ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI , บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) หรือ QH บริษัทเอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP และบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN และ บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)หรือ PS ปรับตัวลดลงถ้วนหน้า ภายหลังจากที่กนง.มีมติให้ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%

นักวิเคราะห์ เทคนิค บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาฯปรับตัวลดลงเนื่องจาก การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ กนง.ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสัญญาณทางเทคนิคหุ้นกลุ่มดังกล่าวมีแนวโน้มไปในลักษณะเดียวกัน แนะเก็งกำไรได้ หากราคาไม่หลุดแนวรับ เพราะหากไม่หลุดแนวรับราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นไปที่แนวต้าน โดยใส่วนของ SPALI ให้แนวรับอยู่ที่ 10.50 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 11.50 -12.00 บาท PS ให้แนวรับอยู่ที่ 19.50 บาท แนวต้าน 22.50 บาท

LH แนวรับอยู่ที่ 6.40 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 7.20 บาท QH ให้แนวรับอยู่ที่ 2.04 บาท แนวต้าน 2.30 บาท AP แนวรับอยู่ที่ 6.00 บาท แนวต้าน 6.80 บาท และLPN แนวรับ 9.40 บาท แนวต้านอยู่ที่ 6.80 -7.00 บาท

ปิดตลาดวันนี้ ราคาหุ้น SPALI อยู่ที่ 10.90บาท ลดลง 0.30 บาทหรือ 2.68% มูลค่าการซื้อขาย 372.48 ล้านบาท, PS อยู่ที่ 20.20 บาท ลดลง 0.80 บาทหรือ 3.81% มูลค่าการซื้อขาย 222.25 ล้านบาท ,QH อยู่ที่ 2.10 บาท ลดลง 0.02 บาทหรือ 0.94% มูลค่าการซื้อขาย 179.75 ล้านบาท, AP อยู่ที่ 6.30บาท ลดลง 0.20บาทหรือ 3.08% มูลค่าการซื้อขาย 244.30 ล้านบาท และ LPN อยู่ที่ 9.80 บาท ลดลง 0.15 บาทหรือ 1.51%มูลค่าการซื้อขาย 227.26 ล้านบาท

***** กลุ่มแบงก์ทะยานแรงรับข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)BBL ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) KTB ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)KBANK ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)SCB ธนาคาร ทหารไทย จำกัด(มหาชน) TMB และบริษัท ทุนธนชาต จำกัด(มหาชน) TCAP ปรับตัวเพิ่มขึ้นยกกลุ่ม ภายหลังจากที่ กนง.มีมติให้ขึ้นดอกเบี้ย 0.25%

ปิดตลาดวันนี้ ราคา BBL อยู่ที่ 148.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาทหรือ 3.13% มูลค่าการซื้อขาย 1.45 พันล้านบาท,KTB อยู่ที่ 17.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาทหรือ 5.56% มูลค่าการซื้อขาย 1.7 พันล้านบาท,KBANK อยู่ที่ 120 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาทหรือ 0.84% มูลค่าการซื้อขาย 1.1 พันล้านบาท, SCB อยู่ที่ 106 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาทหรือ 2.42% มูลค่าการซื้อขาย 1.28 พันล้านบาท, TMB อยู่ที่ 2.18 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาทหรือ 1.87% มูลค่าการซื้อขาย 618.56 ล้านบาท , BAYอยู่ที่ 23.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ 3.56% มูลค่าการซื้อขาย 389.14 ล้านบาท และTCAP อยู่ที่ 38 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 2.01% มูลค่าการซื้อขาย 1.01 พันล้านบาท

***** แบงก์จ่อขึ้นดอกเบี้ยกู้-ฝาก
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)(TMB) เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบว่า การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของกนง.ถือเป็นการชี้นำทิศทางดอกเบี้ยในตลาด แต่องค์ประกอบหนึ่งคือการแข่งขันที่ธนาคารพาณิชย์โดยรวมต้องประเมินและเป็นตัวกำหนดว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยทั้งในส่วนของเงินกู้และเงินฝากเมื่อไหร่ และขึ้นในอัตราเท่าใด ซึ่งในเบื้องต้นมองว่ามีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยทั้ง 2 ขาจะปรับขึ้นในช่วง 1 เดือนที่เหลือของปีนี้ตามทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย

'ต้องรอดูตลาดโอกาสที่จะขึ้นใน 1 เดือนสุดท้ายนี้ก็มี แต่จะมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับธนาคารขนาดใหญ่กำหนดการแข่งขันเพราะเขามีมาร์เก็ตแชร์มากและมีอิทธิพลต่อตลาดโดยรวม ซึ่งTMB ก็ต้องรอประเมินตลาดเช่นกัน' นายบุญทักษ์ กล่าว

**** PRIN คาดยังไม่กระทบธุรกิจ เหตุแบงก์ไม่ขึ้นดอกเบี้ยตามทันที
นายวีระ ศรีชนะชัยโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIN เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า จากกรณีที่ กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 2% นั้นเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจกลุ่มอสังหาฯในขณะนี้ เนื่องจากเชื่อว่าธนาคารแต่ละแห่งจะยังไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัยในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพราะความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนขณะนี้ยังอยู่ในระดับสูง รวมทั้งสภาพคล่องในตลาดฯ อยู่ในเกณฑ์ดี ประกอบกับอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้น จึงเชื่อว่าธนาคารจะใช้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับเดิมสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยต่อไปก่อน จากนั้นจึงจะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในช่วงไตรมาส 2/54

'การที่ กนง. ขึ้นดอกเบี้ยนั้น เชื่อว่าคงไม่กระทบมากนัก เพราะแม้ว่าดอกเบี้ยอ้างอิงจากแบงก์ชาติจะขึ้น แต่เชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยในตลาดฯของธนาคารจะยังไม่ขยับ เพราะสภาพคล่องในตลาดฯยังดีอยู่ และเศรษฐกิจยังไม่นิ่ง' นายวีระ กล่าว

***** LH มาแปลก!!ชี้ดอกเบี้ยยังขึ้นต่ำกว่าคาด
นายอดิศร ธนนันท์นราพล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)หรือ LH เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า การที่กนง.มีมติให้ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% มั่นใจว่าไม่กระทบต่อภาพรวมของบริษัทฯแต่อย่างใด อีกทั้งเป็นการปรับขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้มั่นใจว่าผลการดำเนินใน Q4/53 และทั้งปียังดีตามที่คาดการณ์ไว้แน่นอน

----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น