Code 221 : ยืนเหนือ 1020 แต่พลังงานยังกดดันตลาด

วันพฤหัสที่ 22 ธันวาคม 2553

ATT Code : ยืนเหนือ 1020 แต่พลังงานยังกดดันตลาด
----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
23 ธค. 53 ( +5.95 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ไม่ควรต่ำกว่า 1013.27 จุด
ดัชนีในวันพุธปรับตัวขึ้นมาแถว แนวต้านตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันพอดี

ถ้าสามารถปรับตัวขึ้น เกิน 1020.52จุดสูงสุดของวันพุธและเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้ดัชนีสามารถกลับขึ้นไปแถว 1025 – 35 ใกล้จุดสูงสุดของสัปดาห์นี้

แต่ถ้า ต่ำกว่า 1013.27 จุดต่ำสุดของวันพุธ ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงแถว 1002 – 05( หรือต่ำกว่า ? ) ใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์นี้อีกครั้ง

ภาพโดยรวมแล้ว ยังคงเป็นการแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบ 980 – 1040 หรือระหว่างจุดต่ำสุดของเดือน พย. ถึงจุดสุงสุดของเดือนธค.

หุ้นเด่น
STA
ปรับตัวขึ้นมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงพอดีรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 34.75 จุดสูงสุดวันพุธ และเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าว เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 36.25 – 36.75( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 33.75 )

PTTAR
ปรับตัวขึ้นมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงพอดีรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 37.00 จุดสูงสุดวันพุธ และเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมง เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 38.00 – 38.50( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 36.25 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
IVL ต่ำกว่า 53.75 ลง 49 - 50
IRPC ต่ำกว่า 5.50 ลง 5.10 – 5.20
PTTCH ต่ำกว่า 141.50 ลง 130 – 135
PTT แกว่งตัว 318 - 324
TOP ต่ำกว่า 74.25 ลง 71.50 – 72
TRUE ต่ำกว่า 6.15 ลง 5.90 - 6
BAY ต่ำกว่า 24.70 ลง 23.50 – 24
SCB เกิน 105.50 ขึ้น 108 - 109
PTTAR รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
BANPU ปรับตัวลง 766 – 770
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS : ตลาดยังมีสิทธิแกว่งลงใหม่ ดังนั้นจะซื้อเพิ่มยังน่ารอช่วงอ่อนตัว...
แนวโน้ม: FSS ยังคาดว่า SET จะอยู่ในช่วงรีบาวด์ต่อเนื่องเหมือนช่วง 2 วันที่ผ่านมาได้ หลังตลาดต่างประเทศเริ่มกลับมาดูสดใส ทั้งจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ดี
ของสหรัฐ และการคาดการณ์ จีดีพี ของสหรัฐที่ยังขยายตัวได้ดี แต่มีแนวโน้มที่จะเริ่มมีการแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวันมากขึ้น และอาจจะเริ่มเห็นการแกว่งตัว
ในด้านลบได้บ้างในช่วงถัดจากนี้ เนื่องจากเช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียหลายประเทศก็เริ่มมีแรงขายทำกำไรให้เห็นบ้างแล้ว ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้แบ่งส่วนขายทำ
กำไรบ้างเมื่อตลาดขยับขึ้นต่อ โดยยังสามารถรอเลือกหุ้นเข้ารับเมื่อตลาดปรับพักตัวลงในรอบถัดไปได้ ซึ่งระดับดัชนีที่น่าสนใจยังมองไว้แถว 1000 จุดหรือหลุด
ต่ำกว่าลงไปอยู่
กลยุทธ์: หาจังหวะทำกำไรบ้างเมื่อตลาดเป็นบวก ส่วนจังหวะซื้อเพิ่มยังน่ารอรับต่ำ โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ BANPU, BIGC, KTB, PTL, SEAFCO, AP, CSL,DELTA, DRT, LPN, PTT, PTTEP, KTB, KBANK, SCB, TASCO, AMATA, PS,
SPALI, CK, STEC เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
• (+) สหรัฐฯ รายงาน GDP 3Q10 เป็นการคาดการณ์ครั้งสุดท้าย ถูกปรับขึ้นเป็น+2.6% ขึ้นจากที่คาดการณ์ครั้งก่อนที่ +2.5% แต่ต่ำกว่า Consensus ที่คาด+2.8% การบริโภคในประเทศยังเพิ่มไม่มากพอที่จะผลักดันให้ GDP โตได้สูงกว่านี้ซึ่งเป็นระดับที่ไม่สามารถทำให้อัตราการว่างงานลดลงได้ แม้ว่า GDP จะต่ำกว่าตลาดคาดแต่ DJIA ยังบวกได้เพราะนักลงทุนคาดว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
• (-) นิวซีแลนด์รายงาน GDP 3Q10 -0.2% เพราะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 7 ริกเตอร์ รุนแรงที่สุดในรอบ 8 ทศวรรษ ซึ่งส่งผลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมหดตัว อย่างไรก็ตาม สำนักงานสถิติแห่งชาตินิวซีแลนด์ยังเชื่อว่า GDP ปีนี้จะขยายตัวได้ 1.4%
• (+) สภาพัฒน์คาด GDP ปีนี้ทะลุ 8% โดย 4Q10 น่าจะยังขยายตัวเป็นบวกY-Y แต่หดตัวไม่เกิน 0.2% Q-Q ส่วนปีหน้าเศรษฐกิจโตเกิน 4.5% ปัจจัยเสี่ยงมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและค่าเงินบาท มีความเป็นไปได้สูงที่ กนง.จะขึ้นดอกเบี้ย 1-1.5% เป็น 3-3.5% เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่คาดว่าจะเพิ่มเป็น 3-5%
• (+) DELTA เราปรับลดคำแนะนำจาก ‘ซื้อ’ เป็น ‘ถือ’ ผู้บริหารมีมุมมองconservative มากขึ้นในปีหน้าเพราะเงินบาทแข็งค่าและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในธุรกิจ Solar inverter จากการเข้ามาของคู่แข่งรายใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของเราอยู่แล้ว เหตุที่เราปรับลดคำแนะนำลงเป็น ‘ถือ’ เพราะกำไรในปีหน้าคาดว่าจะโตเพียง 2% ชะลอลงมากจากปีนี้ที่คาดว่าจะโตถึง 103% สอดคล้องกับราคาหุ้นที่ปีนี้ DELTA +90%YTD ดีที่สุดในกลุ่ม เราจึงเชื่อว่าราคาหุ้น DELTA จะunderperform ในปีหน้า ที่สำคัญคือราคาเป้าหมายซึ่งปรับลงเป็น 37 บาทจากการปรับ PE ลงเป็น 10 เท่าจาก 11 เท่า เป้าหมายดังกล่าวมี upside เพียง 5%แต่มี Dividend yield สูง 5-6% จ่ายปีละ 1 ครั้ง จึงแนะนำถือได้
• (0) TSR ของ IVL ที่ขึ้น XT ไปแล้ววันที่ 22 ธ.ค. นั้น จะมีการจัดสรรประมาณต้นเดือน ม.ค. 2011 และคาดว่าจะเริ่มซื้อขายในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ม.ค.จนถึงสิ้นเดือน ม.ค. รวมอายุประมาณ 15 วันทำการ ส่วนหุ้นสามัญใหม่ที่มีการแปลงสภาพมาจาก TSR จะเริ่มซื้อขายประมาณต้นเดือน มี.ค. 2011
• Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาค 16 วันติดต่อกัน และมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เข้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้และไต้หวัน แม้ช่วงนี้ยังไม่ปัจจัยใหม่เข้าสู่ตลาด แต่สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงราคาน้ำมันดิบและทองคำในตลาดโลกปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ทั่วหน้า ส่วนค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าเล็กน้อย ค่าเงินบาทยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 30 บาท/ดอลลาร์ หุ้นกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี สินค้าเกษตร ได้รับความสนใจในการลงทุนในช่วงนี้มาก

ข่าวภายในประเทศ
EMC ไตรมาส4เริ่ดสุดปีนี้ตัวเลขส่งมอบงานเพียบ EMC ฟุ้งไตรมาส 4 ดีสุดปีนี้ มั่นใจพลิกมีกำไร หลังมีการส่งมอบงานมากขึ้นและเรียกเก็บเงินค้าง
ชำระที่ดีขึ้น ประกอบกับมีรับรู้กว่า 4,500 ล้านบาท ยอมรับรายได้ทั้งปีต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 2,500-2,700 ล้านบาท เนื่องจากความล่าช้าของโครงการ
(ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 23-12-2010)
GRAND ราคาร้อนแรงบวก 30% บริษัทลูก TPROP เข้าถือหุ้นใหญ่ จ่อทำเทนเดอร์ต้นปี ราคาหุ้น GRAND ร้อนแรงบวก 30% หลังเมโทร
พรีเมียร์ โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TPROP เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 63.43%และจะทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ในหุ้นที่เหลือทั้งหมดระหว่างวันที่ 7 ม.ค.
2554 ถึง 10 ก.พ. 2554 ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 0.57 บาท พร้อมกู้ยืมเงินจาก TPORP 170 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนด้วย (ที่มา:นสพ.ข่าวหุ้น 23-12-2010)
ERAWAN ทุ่มหมื่นล้านลงทุน 5 ปี ปีหน้าพลิกขาดทุนกลับเป็นกำไร ERAWAN เตรียมทุ่มงบลงทุน 7,000-10,000 ล้านบาท ขยายจำนวนโรงแรมในช่วง 5 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าไว้ที่ 20 แห่ง จากปัจจุบันมี 13 แห่ง ส่วนรายได้ปีนี้ทำได้ 3.4 พันล้านบาท โต 7-8% จากปีก่อน แต่ปีหน้าคาดพลิกกลับเป็นกำไร (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 23-12-2010)
SGP ไม่หวั่นรัฐบาลลอยตัว LGP เชื่อกระทบยอดขายเล็กน้อย ปีหน้ารายได้โต 40% SGP เชื่อรัฐบาลลอยตัว LPG ภาคอุตสาหกรรมและปิโตร
เคมี กระทบยอดขายเล็กน้อย เนื่องจากมีลูกค้าเพียง 10% ของยอดขายรวม คาดกำไร-รายได้ Q4/53 ดีกว่า Q3/53 เหตุธุรกิจเข้าสู่ไฮซีซั่นปริมาณใช้
ก๊าซพุ่ง ส่วนปี 2554 รายได้โต 40% หลังเริ่มรับรู้รายได้จาก BPZH (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 23-12-2010)
BKI เป๋าตุงขายหุ้นทำกำไร รอทิ้งต้นปี 200 ล. คาดกำไรปีนี้ฟาด 1.3 พันล. “กรุงเทพประกันภัย” (BKI) เล็งทิ้งหุ้นออกจากพอร์ตต้นปีหน้า 200
ล้านบาท หลังช่วงปีนี้ได้ผลตอบแทนจากพอร์ตลงทุนหุ้นสูงกว่าช่วงปีที่ผ่านมาถึง 50% ส่วนผลกำไรสุทธิสิ้นปีนี้แตะ 1,200-1,300 ล้านบาท (ที่มา:
นสพ.ข่าวหุ้น 23-12-2010)
BBL สินเชื่อปีหน้าโต 5-7% จับกลุ่มลูกค้าทุกเซ็กเตอร์ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดแผนธุรกิจปีหน้า หวังสินเชื่อเติบโต 5-7% เน้นกระจายทุก
เซ็กเตอร์ ปลื้มสัดส่วนสินเชื่อต่างแดนฟาดแล้ว 18% ส่วนหนี้เน่าหั่นเหลือ 4% ด้าน NIM ตั้งเป้ารักษา 3%
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วร่วงเกินคาด 5.33 ล้านบาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐรายงาน
ว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 17 ธ.ค.ร่วงลง 5.33 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 340.69 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
คาดว่าจะขยับลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 589,000 บาร์เรล แตะที่ 160.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง
500,000 บาร์เรล อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล แตะที่ 217.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.6 ล้าน
บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.3% แตะที่ 87.7% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ (ที่มา: อินโฟเควสท์
23-12-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐปรับเพิ่มประมาณการ GDP Q3/53 เป็นขยายตัว 2.6% หลังเอกชนเพิ่มสต็อกสินค้า กระทรวงพาณิชย์เปิด เผยการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ครั้งสุดท้าย โดยระบุว่าจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 2.6% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 2.5% ต่อปี หลังจากภาคเอกชนปรับเพิ่มสต็อกสินค้า (ที่มา: อินโฟเควสท์ 23-12-2010)
จีน: จีนประกาศขึ้นราคาน้ำมันเครื่องบิน คาดอาจบีบสายการบินจีนแห่ขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมัน คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ประกาศขึ้นราคาน้ำมันเครื่องบินภายในประเทศอีก 300 หยวน หรือ 5.3% เป็น 5,990 หยวนต่อตัน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (ที่มา: อินโฟเควสท์ 22-12-2010)
จีน: จีนเผยสต็อกน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์เดือนพ.ย.ลดลง 3.2% ข้อมูลสถิติปริมาณสำรองปิโตรเลียมจีน (CPSS) จากบริการข้อมูลการเงินแบบออนไลน์ของสำนักข่าวซินหัวระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของจีนในช่วงสิ้นสุดเดือนพ.ย. 2553 ลดลง 3.2% เมื่อเทียบเป็นรายได้ อย่างไรก็ดีจากผลการสำรวจของ CPSS พบว่า ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของจีนนั้นไม่นับรวมสต็อกน้ำมันดิบจากสำรอง เชื้อเพลิงปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 22-12-2010)
เอเชีย: ญี่ปุ่นปรับลดคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจปีงบ 54 สู่ระดับ 1.5% รัฐบาลญี่ปุ่นได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปีงบประมาณ 2554 ลงสู่ระดับ 1.5% จากระดับ 3.1% ในปีงบประมาณปัจจุบัน เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนที่อ่อนแอ ประกอบกับอานิสงส์จากการใช้มาตรการกระตุ้นการคลังเบาบางลง (ที่มา: อินโฟเควสท์ 22-12-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น