Code 105 : ปรับเป้าจาก Triple Top 808 ลงสู่ 804 ก่อน

วันพุธที่ 30 มิถุนายน 2553

ATT Code : ปรับเป้าจาก Triple Top 808 ลงสู่ 804 ก่อน
จากที่เมื่อวานคาดหวังว่า SET น่าจะไป Triple Top ที่ 808 แต่ก็มีแรงถล่มหุ้นจีนเพื่อที่จะนำเงินไปซื้อหุ้น หุ้น Agbank ที่กำลังจะ IPO มูลค่ากว่า 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ และธนาคารยุโรปต้องจ่ายคืนหนี้ให้กับ ECB จำนวน 5. 4 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้ต้องปรับเป้า จากแนวต้านที่ 808 ลงมาสู่ Triple Top ที่ 804 ก่อน แต่จากแรงซื้อกลับคืนของต่างชาติเมื่อวานนี้ ที่ตอนเช้า NET Sell 380 ล้าน กลับใจมา Net Buy 400 ล้าน ทำให้ต้องคิดว่าเพราะเหตุใด จึงเปลี่ยนใจกลับมาซื้อ ทั้งๆ ที่ทางยุโรปก็ไม่ค่อยดี แต่ยังไงก็ต้องถ้ายึดทางเทคนิดเป็นหลัก ก็คงต้องดูตามเส้นแนวรับแนวต้านต่างๆ ดีกว่า เพราะราคาหุ้นนั้นได้ซึมซับข่าวไปหมดแล้ว

ส่วนในเช้าวันนี้ ตลาดต่างประเทศอยู่ในแดนลบกันท่วนหน้า 1-2% แต่ SET กลับลบแค่ 4.55 จุด หรือ 0.57% ลงมาที่ 794 ใกล้แนวรับที่เส้น 5 วัน ที่ 795 แล้วก็สามารถเด้งผ่านแนวต้านเส้น 5 วัน ที่ 797 กลับมาสู่ 800 จุด ได้ ถือว่าผิดคาดเอามั้กๆ แต่วันนี้ก็ลุ้นเป้า Triple Top ที่ 804 กันก่อนว่าจะฮึดไหวมั้ย

Double Top 804
28/6/53 = 804.40
29/6/53 = 804.45
30/6/53 = 800.28 (11.40 น.)
สุดท้ายปิดตลาด SET ก็ไม่สามารถทดสอบแนวต้านที่ 804 ได้ แถมยังหลุด 800 ลงมาอีกด้วย มาปิด 797.31จุด - 1.78 จุด อยู่ที่เส้น 5 วัน ที่ 797-798 ดังนั้นวันศุกร์คงต้องเปลี่ยน Concept ใหม่ ให้เป็นการทดสอบแนวรับใหม่อีกครั้ง ที่ 794 จุด
----------------------------------------------------------------------------------
FSS
***ตลาดฯ ร่วมกับ TISCO นำ 10 บริษัทไปโรดโชว์ที่ลอนดอน กลาง ก.ค. นี้มี BAY, BBL, CPALL, CPF, CPN , MINT, PTT, RATCH, TISCO, TOP

ตัวเศรษฐกิจเดือน พ.ค. ที่ ธปท. เพิ่งประกาศ พบว่า:–
- (-) การท่องเที่ยวเฉพาะในพื้นที่ กทม.และภาคกลางได้รับผลกระทบเต็มที่
- (-) ภาคการผลิตถูกกระทบเพราะการขนส่งทำได้ลำบาก (การผลิตเพื่อส่งออกขยายตัวได้ แต่การผลิตเพื่อบริโภคในประเทศหดตัว)
- (-) การใช้จ่ายของภาคเอกชนลดลงเล็กน้อย
- (+) การส่งออกขายตัวดีมาก
- (+) การลงทุนขยายตัวดี
จากตัวเลขในเดือน พ.ค. กลุ่มที่น่าสนใจมากคือกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ เพราะเป็นกลุ่มเดียวใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งที่สุด สอดคล้องกับการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ (เพื่อมาผลิต) ในเดือน พ.ค. ก็เพิ่มขึ้นถึง 146% Y-Y
หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับยานยนต์มีตั้งแต่ผู้ผลิตรถ ผลิตล้อรถ (ยาง) ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์ในรถ สินเชื่อเช่าซื้อรถ ได้แก่ SAT (TP=20), STANLY (TP=150), AH, IHL, KCE (TP=10), STA (TP ก่อนเพิ่มทุน 111 บ หลังเพิ่มทุน 87 บ), TRUBB, BAT-3K, CWT, GYT, HFT, IRC, TRU, AH, YNP, TISCO, KK

นอกจากนี้ กลุ่มเกษตรก็น่าสนใจ ดัชนีราคาสินค้าเกษตรเพิ่มอย่างต่อเนื่องและเพิ่มถึง 29% Y-Y ในเดือน พ.ค. สินค้าที่ราคาเพิ่มมากได้แก่ข้าว ยาง มันสำปะหลัง ข้าวโพด ผลปาล์มสด กุ้ง สำหรับหุ้นในกลุ่มนี้เราแนะนำ CPF (TP=24), GFPT (TP=10.7), TVO (TP=23), TUF (TP=45, under review), CFRESH (TP=5.80), ASIAN (TP=4.40)
----------------------------------------------------------------------------------



ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงอีกกว่า 2.6% เมื่อคืนนี้ จากความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะแนวโน้มการขาดสภาพคล่องมากกว่า 1 แสนล้านยูโรในระบบการเงิน จากการที่ธนาคารในยุโรปต้องชำระคืนเงินกู้ฉุกเฉินวงเงิน 4.42 แสนล้านยูโร หรือ 5.455 แสนล้านดอลลาร์ ในวันพฤหัสนี้

ดัชนี S&P500 ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน โดยวานนี้ปิดลดลง 33.33 จุดหรือคิดเป็น -3.10%

ดัชนี VIX Index ซึ่งวัดความวิตกของนักลงทุน ขยับพุ่งขึ้น22% สู่ระดับสูงสุดของวันที่ 35.39 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเดือน มิ.ย.นี้ด้วย

วานนี้กระแสเงินทุนต่างชาติมีการซื้อขายน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นเงินไหลเข้า ยกเว้นตลาดหุ้นไต้หวันที่เป็นขายสุทธิ ทั้งนี้อาจเป็นผลสืบเนื่องจากมีหุ้น Agbank ที่กำลังจะ IPO มูลค่ากว่า 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ และธนาคารยุโรปต้องจ่ายคืนหนี้ให้กับ ECB จำนวน 5. 4 แสนล้านดอลลาร์พร้อมกันในวันพฤหัสบดีนี้

แนวโน้ม Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติน่าจะไหลออกเนื่องจากตลาดเต็มไปด้วยปัจจัยลบ และสภาพคล่องตึงตัวจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น

ราคาน้ำมัน NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ดิ่งลงต่ออีก 2.31ดอลลาร์หรือคิดเป็น 2.95% มาปิดตลาดที่ 75.94
ดอลลาร์/บาร์เรล หลังคลายกังวลเรื่องพายุโซนร้อนอเล็กซ์แต่กลับมากังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกแทน

ราคาทองคำส่งมอบเดือน ส.ค. ที่ตลาด COMEX ปิดกลับมาบวก 3.80 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,242.40 ดอลลาร์/ออนซ์

BDI ปิดที่ 2447 จุด ลบอีก 35 จุด

----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
30 มิย.53 ( -5.31 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

แกว่งตัว 795 – 801 เพื่อรอปรับตัวลง 786 – 788 จุด
ภาพจากนี้ไป ดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบประมาณ 795 – 801 จุด และเป็นการแกว่งตัวรอบๆเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมง

จากนั้น ภาพระยะหนึ่งถึงสองสัปดาห์ข้างหน้า ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงต่อแถว 786 – 788 ใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว ... และ“อาจจะ” ใช้ระยะเวลาอีกสักพักแกว่งตัวในกรอบ 786 – 804 ?? .... เพื่อรอการปรับตัวลงต่อไปแถว 770 – 773 จุด ซึ่งเป็นบริเวณแนวรับตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน

----------------------------------------------------------------------------------
ตัวเลขเช้านี้ 30/06/53
ข้อมูลอื่นๆ ......SET ปิดที่ 799.09 จุด -5.31 จุด High 804.45 จุด low 794.68 จุด......แนวรับ 790-786 // 780 จุด แนวต้าน 800-808 // 812-820 จุด......PE SET 12.48 เท่า.........สัดส่วนการซื้อขาย ฝรั่งซื้อ 409.26 ล้าน กองทุนซื้อ 453.03 ล้าน…........โบรกเกอร์ ที่ net buy CS 1035, TNS 268, PHATRA 202, KSEC 133 และ UOB 118……...โบรกเกอร์ที่ net sell BLS -484, KEST -391, MACQ -299, ASP -295 และ CLSA -146........TFEX SET50 ปิดที่ 550.01 จุด -5.13 จุด.......S50U10 ปิดที่ 544.90 จุด -8.10 จุด .... high 551.50 จุด low 541.40 จุด OI 17,158 …….......status futureวานนี้ Foreign net SHORT 20 - Fund net SHORT 539 - Retail net LONG 559.............ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJ ปิด -268.22 จุด….ยุโรปปิด -2 ถึง -3%........ตลาดเอเซียเช้านี้ 9.25 น. NIX -204.13 จุด, HSKI -192.70 จุด, TWSE -126.55 จุด, KOSPI -21.68 จุดและ SHCOMP -23.81 จุด ......ดาวโจนส์ในตลาดล่วงหน้า +13 จุด.......ค่าเงิน - เงินบาท 32.43…เงินเยน 88.60……..COMODITY.... น้ำมัน NYMEX ส่งมอบ ส.ค. ปิดที่ 75.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล -2.31 ดอลล์.....ค่าการกลั่น 3.99 ดอลล์.......ทองคำ COMEX วานนี้ปิดที่ 1242.40 เหรียญ +3.80 ดอลลาร์......BDI ปิดล่าสุดอยู่ที่ 2447 จุด -35 จุด ….. ราคาสังกะสีในตลาด LME ล่วงหน้า 3 เดือนปิดล่าสุดที่ 1743.00 ดอลลาร์ต่อตัน -137.0 ดอลล์
สินค้าเกษตร...ราคาตลาดจริง (หน่วย : บาท/ กก.) ….ข้อมูลจาก WEB Site ของ AFET (www.afet.or.th)
ราคาประมูลยางแผ่นรมควันชั้น 3 (29/06/10) Hatyai A.M. 113.03 บ. -2.90 บ. // FOB.BKK 118.35 บ. -0.75 จุด
ราคาข้าวขาว 5% (29/06/10) 13.38 บ. +0.03 บ.
ราคาข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 (29/06/10) 28.95 บ. +0.10 บาท

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-โยกซื้อหุ้นจีน!!

ดัชนีตลาดหุ้นวันที่ 29 มิ.ย.53 ปิดที่ 799.09 จุด ลดลง 5.31 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 22,855 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 409.26 ล้านบาท

ฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ ระบุว่า สาเหตุหลักที่ทำให้หุ้นไทยและเอเชียปรับตัวลดลง เพราะนักลงทุนส่วนหนึ่งได้ขายหุ้นออกมาเพื่อถอนเม็ดเงินลงทุน เตรียมไปจองซื้อหุ้น IPO ของธนาคารเพื่อการเกษตรของจีน (Agriculture Bank of China) ที่เตรียมที่จะระดมทุนกระจายหุ้น คาดว่าจะมีการกำหนดราคา IPO สัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ มองแนวโน้มตลาดว่าน่าจะฟื้นตัวได้บ้าง จากแรงซื้อของกองทุน และนักลงทุนสถาบันเพื่อแต่งตัวเลขปิดงวดบัญชีไตรมาส 2 แต่แรงกดดันจากการขายหุ้นเพื่อนำเงินไปจองซื้อหุ้นแบงก์เพื่อการเกษตรของจีน น่าจะทำให้ดัชนีไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ 800 จุดขึ้นไปได้

แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เลือกซื้อหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2 จะออกมาดี เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะตลาดผันผวน โดยแนะนำหุ้นแบงก์ เช่น BBL กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เช่น LPN และ PS

มีข่าวตลาดหลักทรัพย์ร่วมลงนามกับ กบข. และสมาคมบริษัทจัดการลงทุนในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อเพิ่มทางเลือกลงทุน "Employee's Choice" สำหรับสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และ กบข. โดยส่งเสริมการเลือกรูปแบบลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง และกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวหาความรู้เรื่องการลงทุน เพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้น

"จรัมพร โชติกเสถียร" เผยว่า การผลักดันให้นายจ้างที่จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และ กบข. มีนโยบายการลงทุนมากกว่าหนึ่งแบบสำหรับสมาชิก หรือ Employee's Choice มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้พนักงาน หรือลูกจ้างที่มีอายุต่างกัน และมีความต้องการในการลงทุนที่ต่างกัน มีโอกาสเพิ่มทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น เพราะการมีนโยบายการลงทุนเดียวอาจไม่ตอบสนองต่อลูกจ้างได้ทั้งหมด

ขณะที่ "โสภาวดี เลิศมนัสชัย" เลขาธิการ กบข.ระบุว่า ตั้งแต่เดือน ก.ค.53 เป็นต้นไป กบข.จะให้สมาชิกเลือกแผนการลงทุนเองได้ โดยออกแบบ แผนการลงทุนให้เลือก 4 แผน คือ แผนตลาดเงิน มีระดับความเสี่ยงต่ำสุด ลงทุนเฉพาะตราสารหนี้ที่มีกำหนดไม่เกิน 1 ปี, แผนตราสารหนี้ ลงทุนในตราสารหนี้ทั้งระยะสั้นและยาว เน้นผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราเงินฝาก, แผนหลัก เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงไม่น้อยกว่า 60% โดยสมาชิกที่ไม่ประสงค์เลือกแผนการลงทุนใด กบข.จะบริหารเงินออมตามแผนนี้ และแผนสุดท้ายคือ แผนผสมหุ้นทวี ลงทุนในตราสารทุนหรือหุ้นมากขึ้น ซึ่งมีระดับความเสี่ยงสูงสุด แต่มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากที่สุดเช่นกัน!!

FSS: ยังทยอยเลือกหุ้นเข้ารับได้ เพื่อรอลุ้นขายทำกำไรเมื่อตลาดดีดขึ้นรอบใหม่...!
แนวโน้ม:
ความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกกลับมากดดันความมั่นใจของนักลงทุนอีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปรับตัวลดลงกันว่า 2% เมื่อคืนวานนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เปิดทำการด้วยการปรับตัวลงกันกว่า 1% ด้วย ทั้งนี้ความกังวลหลักๆ มาจากการที่ธนาคารในยุโรปจะต้องชำระคืนเงินกู้ฉุกเฉินวงเงิน 4.42 แสนล้านยูโร หรือ 5.455 แสนล้านดอลลาร์ ในวันพฤหัสนี้(1 ก.ค.) ทำให้นักลงทุนวิตกต่อปัญหาการขาดสภาพคล่องในระบบการเงินโลก จึงเริ่มถอยออกจากสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ รวมถึงตลาดหุ้นด้วย ซึ่ง FSS คาดว่า SET เช้านี้ก็น่าจะปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค และมีแนวโน้มที่จะไหลลงไปใกล้ๆ กับจุดต่ำสุดในรอบที่ผ่านมาแถว 790-786 จุดอีกครั้ง และอาจจะหลุดต่ำกว่าลงไปแถว 780-778 จุดได้ด้วย อย่างไรก็ตามเรายังคาดว่าการปรับตัวลงของ SET ในช่วงนี้จะเป็นเพียงระยะสั้นก่อน และยังมีโอกาสที่จะกลับมาฟื้นตัวกลับขึ้นมาหาเป้าหมายแถว 800-820 จุดได้อีกครั้งในช่วงต้นเดือน ก.ค. ทั้งนี้แรงซื้อของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ก็ยังมียอดซื้อสุทธิสลับเข้ามาเป็นพักๆ ให้เห็น ซึ่งคาดว่ามาจากอิทธิพลการแข็งค่าของเงินหยวน จึงถือว่าตลาดปรับลงช่วงนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก
กลยุทธ์: เลือกหุ้นเข้ารับเป็นรายตัว เพื่อลุ้นเทรดดิ้งขึ้นไปขายทำกำไรเมื่อตลาดแกว่งขึ้นอีกครั้งได้อยู่ โดยหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ DTAC, KK, TMB, BBL, KBANK, KH, TTW, PDI, LST, HANA, QH, BECL, TSTH, ESSO เป็นต้น

ประเด็นสำคัญวันนี้
-กลุ่มอสังหาฯ แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 2H10 และทั้งปี 2010 ยังไปได้ดี
แม้จะมีภาวะความไม่สงบทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา โดยคอนโดมีเนียมราคา 1-3 ล้านบาทเป็นยังเป็นที่นิยมเป็นอันดับหนึ่งในตลาด รองลงมาเป็นทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวตามลำดับ LPN และ PS มีการดำเนินงานสอดคล้องกับแนวโน้มดังกล่าว โดย LPN เป็นผู้นำคอนโดมีเนียมราคากลาง-ล่าง และ PS เป็นผู้นำตลาดทาวน์เฮาส์ราคากลาง-ล่าง และรุกเปิดโครงการคอนโดมีเนียมเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ซึ่งจะเน้นทำเลในเมืองและใกล้รถไฟฟ้าเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม LPN เต็มมูลค่าไปแล้ว เราแนะนำให้เปลี่ยนมาลงทุนใน PS ที่ยังมี Upside 14% จากราคาเป้าหมาย 20.20 บาท
-ครม.ต่อมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน ผลการประชุม ครม.วานนี้มีมติให้ต่อมาตรการค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า รถไฟ รถเมล์ฟรี ออกไปอีก 6 เดือน จนถึงสิ้นเดือน ธ.ค.2553 และเห็นชอบขยายเวลาการตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวีและแอลพีจีสำหรับภาคขนส่งและภาคอุตสาหกรรมออกไปอีก 6 เดือน จนถึงเดือน ก.พ. 2554 ส่วนค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือ ค่าเอฟที ให้คงไว้ในระดับปัจจุบันถึงสิ้นปี 2553
-CPF เราปรับประมาณการกำไรปีนี้เพิ่ม 9% และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 24 บาทจากเดิม 20 บาท คาดกำไร 2Q10 เติบโตสูงถึง 31% Q-Q และ 32% Y-Y จากราคาเนื้อสัตว์ที่สูงขึ้น ขณะที่ธุรกิจในต่างประเทศ (19% ของยอดขายรวม)ก็เติบโตดีเช่นกันในขณะที่บริษัทล็อคราคาข้าวโพดไว้พอใช้ถึงเดือน ส.ค. นี้ และกากถั่วเหลืองพอใช้ถึงเดือน พ.ย. นี้ ทำให้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 2Q10 จะสูงเป็นประวัติการณ์ -TAPAC-W1 เข้าเทรดวันนี้ ประเมินมูลค่าได้ 0.73 บาท เป็นวอร์แรนท์ที่แจกให้ผู้ถือหุ้นเดิมฟรีในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมได้ 1 TAPAC-W1 โดยวอร์แรนท์มีอายุ 3 ปี อัตราส่วนการใช้สิทธิคือ 1 TAPAC-W1 ซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ในราคา 2.30 บาท/หุ้น ใช้สิทธิได้ครั้งแรกคือ 31 ม.ค. 2554 (6 เดือนนับจากเข้าตลาด) และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 31 พ.ค. 2556 เราประเมินมูลค่า TAPAC-W1 ตามทฤษฎีได้เท่ากับ 0.73 บาท/หุ้น (อ้างอิงจากราคาแม่ 2.70 บาท)

ข่าวภายในประเทศ
-ตลท.โรดโชว์หุ้นเด่น
‘จรัมพร’ ชู ‘บจ.’ แกร่ง หุ้นใน SET100 ปันผลต่อเนื่อง 3 ปี เฉลี่ย 4% ตลท. จับมือ ทิสโก้ และ ดอยช์แบงก์ ดันท็อปครีม 10 บจ.ไทยโรดโชว์อังกฤษ 12-13 ก.ค.นี้ อาทิ BBL, BAY, TISCO, PTT, RATCH, TOP, CPALL, CPN, CP, MINT มาร์เก็ตแคปรวม 1.2 ล้านล้านบาท เรียกความเชื่อมั่นมาลงทุนหุ้นไทย ด้าน “จรัมพร” มั่นใจสินค้าดีของไทยมีอีกมาก หลังพบ 70 บริษัทใน SET100 จ่ายปันผลต่อเนื่อง 3 ปี เฉลี่ย 4% สูงกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ส่วนกองทุนที่เข้าฟังข้อมูลมีเม็ดเงินลงทุนในตลาดอาเซียนสูงถึง 4 แสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-06-2010)
-PS พรีเซล 2 หมื่นล้านเชียร์ซื้อเป้า 21.30 บาท PS แรงดีไม่มีตก Q2 ยอดขายทะลักสูงสุด 11,000 ล้านบาท ทำนิวไฮรอบ 17 ปีอีกครั้ง นับแต่ตั้งบริษัทมา ดันยอดขายสะสมครึ่งปีแรกพุ่งแตะ 20,000 ล้านบาท พร้อมแบ็กล็อก 23,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดวงการอสังหาฯ “ประเสริฐ” มั่นใจรายได้ปีนี้ตามนัด 24,000 ล้านบาท โบรกฯเชียร์ซื้อเป้า 21.30 บาท ปรับประมาณการกำไรปีนี้เพิ่มขึ้น 9% มาที่ 4.12 พันล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-06-2010)
-TRUBB น่าเก็บแนวต้าน 9 บาท หุ้นพื้นฐานแกร่ง TRUBB มีสภาพคล่องมากขึ้นหลังแตกพาร์บาท และถึงจะแขวน XD โบรกฯมองราคาล่าสุด วานนี้แม้ราคาปรับลงจากราคาปิดก่อนหน้าที่ 11.50 บาท ก็จัดว่าราคาเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับราคาที่น่าจะปรับลงมาที่ 7.15 บาท หลังจ่ายปันผลเป็นหุ้น จำนวน 5 หุ้นเดิมได้ 3 หุ้นใหม่ โดยจากสัญญาณทางเทคนิคลุ้นแนวต้าน 9 บาท เชื่อพื้นฐานธุรกิจเติบโต (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-06-2010)
-RS-SPORT แจ่มรับบอลโลก บอลโลกดันรายได้ท่วมหุ้นสื่อ RS งบสปอนเซอร์เข้าเป้า “เฮียฮ้อ” การันตี 550 ล้านบาท ดันงบไตรมาส 2 หรูแน่ ขณะที่ SMM แก้มปริลูกค้าแห่ลงโฆษณาทะลักเฉียด 100% ด้าน SPORT งาบรายได้อีก 70 ล้านบาท หนังสือพิมพ์ อีเวนต์ งานทีวีโต ฟาก MCOTBEC รับอานิสงส์ตามติด (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-06-2010)
-LOXLEY ปันผล 5.4% หุ้นต่ำบุ๊ค – เป้า 2.30 บ. “ล็อกซเล่ย์” ข่าวดีเพียบ รอบิ๊กบอสตัดสินใจล้างขาดทุน เพื่อจ่ายเงินปันผล คาดปี’53 ปันผล 0.10 บาท หรือไม่ต่ำกว่า 5% ส่วนคดีหวยออนไลน์มีสิทธิ์ชนะ หลังดีเอสไอถอนออกจากบอร์ด วันที่ 7 ก.ค.นี้ กองสลากฯรายงานบอร์ดล็อกซเล่ย์ เรียกค่าเสียหาย 3 พันล้านบาท จากความล่าช้าของโครงการ พบราคาหุ้นต่ำมากเมื่อเทียบกับพื้นฐานบริษัท แถมราคาบุ๊คอยู่ที่ 2.30 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-06-2010)
-NWR จ่อคว้างานโรงไฟฟ้ามาเลย์ ครึ่งปีหลังลุยประมูลงานใหม่ 3.5 หมื่นล้านบาท NWR จ่อเซ็นสัญญาสร้างโรงไฟฟ้าในมาเลเซีย มูลค่า 3,000 ล้านบาทราวเดือนก.ค.นี้ ดันงานใหม่ในมือทะลุ 4,000 ล้านบาทตามเป้าที่ตั้งไว้ ลุ้นได้งานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินร่วมกับ “ซิโน-ไทย” ส่วนครึ่งปีหลังเดินหน้าเข้าประมูลงานกว่า 3-3.5 หมื่นล้านบาท หวังได้งานไม่ต่ำกว่า 10% ดันผลงานทั้งปีแจ่ม โบรกฯมองพื้นฐานดีจากรายได้ที่ขึ้นใน อนาคต ขณะที่แผนลดจำนวนหุ้น ทำให้มีโอกาสจ่ายปันผลได้อีกครั้ง แนะซื้อราคาเหมาะสมก่อนลดทุน 0.48 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-06- 2010)
-DRT ทุ่ม 480 ล้านขยายสายผลิตที่ 10 DRT ทุ่ม 480 ล้านบาท ขยายสายการผลิตที่ 10 ไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด กำลังผลิต 72,000 ตัน หลังสายการผลิตที่ 9 เดินเครื่องผลิตเต็ม 100% ปรับสัดส่วนสินค้าไม้สังเคราะห์เพิ่มเป็น 40% ลดส่วนกระเบื้องหลังคาเหลือ60% “อัศนี” ชี้ตลาดไม้สังเคราะห์มีโอกาสเติบโตสูง คาดทยอยรับรู้รายได้จากสายการผลิตใหม่ครึ่งหลังปี 2555 ปีละ 300-500 ล้าน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-06-2010)
-คลังปรับตัวเลขศก.เกิน 6% มั่นใจลงทุนเอกชนพุ่งเกิน 10%-ธปท.โดดหนุนคลัง สศค.ปรับเป้าจีดีพีปีนี้โตเกิน 6% จากเดิม 4.5% ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจโลกฟื้นเร็วเกินคาด ส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวสูง ขณะที่การลงทุนของภาคเอกชนกลับมาขยายตัวที่ 10.2% ต่อปี จากปีก่อนที่หดตัวถึง -12.8% ส่วนปัจจัยเสี่ยง คือปัญหาการเมืองและหนี้ยุโรป ด้าน ธปท. หนุนคลัง มั่นใจจีดีพีปีนี้ขยายตัวดี (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-06-
2010)

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.

ไทยรัฐ - หุ้นมะกันรูดเกือบ270จุด-น้ำมันลด


นักลงทุนผิดหวังข้อมูลเศรษฐกิจ ฉุดดัชนีหุ้นสหรัฐดิ่งลงเกือบ 270 จุด ส่วนราคาน้ำมันดิบ ลดลง 2.31 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 75.94 ดอลลาร์สหรัฐฯ...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นว่า ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ นักลงทุนผิดหวังทั้งข้อมูลเศรษฐกิจในจีนที่อาจเกิดการชะลอตัว ขณะที่ในยุโรปก็มีความวิตกกังวลจากการผละงานประท้วงของชาวกรีซที่ไม่พอใจแผน รัดเข็มขัดของรัฐบาล รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐในเดือนพฤษภาคม ลดลงกว่า 10 จุด ไปอยู่ที่ระดับ 52.9ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ดิ่งลง 268.22 จุด หรือ ลดลง 2.65% ไปปิดที่ 9,870.30 จุด แนสแดคปิดที่ 2,135.18 จุด ลดลง 85.47 จุด หรือ ลดลง 3.85% และเอสแอนด์พีลดลง 33.33 จุด หรือลดลง 3.10% ไปปิดที่ 1,041.24 จุด ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคมปีที่แล้ว

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 2.31 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3% ไปปิดที่ 75.94 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ข่าวต่างประเทศ
ยุโรป: ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจยุโรปปรับตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. หลังเศรษฐกิจโลกฟื้น ความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปปรับตัวดีขึ้นเหนือความคาดหมายในเดือน มิ.ย. หลังจากที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้น และเงินยูโรที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค คณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริหารและผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจใน 16 ประเทศที่ใช้เงินยูโรปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 98.7 จุด
จากระดับ 98.4 จุดในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าความเชื่อมั่นจะลดลงแตะ 98.1 จุด ทั้งนี้ เงินยูโรอ่อนตัวลงมาแล้ว 15% ในปีนี้ ส่งผลให้ สินค้าของยุโรปในต่างประเทศมีความได้เปรียบมากขึ้น ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกก็เป็นไปอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น (ที่มา: อินโฟเควสท์ 29-06-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐ รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 52.9 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 62.8 จุด จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 62.7 จุด (ที่มา: อินโฟเควสท์ 30-06-2010)
จีน: ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจีนเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 5 เดือน บ่งชี้ศก.ชะลอตัว สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ของจีนขยับตัวขึ้นเพียง 0.3% ซึ่งเป็นระดับที่เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 5 เดือน ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของจีนปรับตัวขึ้นน้อยกว่าที่เพิ่มขึ้น 1.7% ตามรายงานเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจที่ซบเซา ส่งผลกระทบให้ตลาดหุ้นจีนเผชิญช่วงขาลง (ที่มา: อินโฟเควสท์ 29-06-2010)
จีน: สภาหอการค้าอียูเผยรบ.จีนแทรกแซงตลาดมากไป ชี้ส่งผลต่อความน่าดึงดูดใจด้านการลงทุน สภาหอการค้าสหภาพยุโรปในจีนชี้การดำเนินธุรกิจในประเทศจีนถูกปกคลุมด้วย บรรยากาศการค้าที่ไม่เป็นธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากรัฐบาลมักยื่นมือเข้าแทรกแซงตามอำเภอใจซึ่งทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่ขาดความน่าดึงดูดใจในการดำเนินธุรกิจ ผลสำรวจจากบริษัทยุโรป 500 แห่งในจีนระบุว่า 36% เชื่อว่านโยบายของรัฐบาลจีนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาขาดความเป็นธรรม ขณะที่มีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากขึ้นมองว่า สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงในอนาคต (ที่มา: อินโฟเควสท์ 29-06-2010)
เอเชีย: เกาหลีใต้เผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.พุ่งเกินคาด 21.5% บ่งชี้ศก.สามารถต้านวิกฤตหนี้ยุโรปได้ สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้รายงานในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ในเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 21.5% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 20.8% เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้ซึ่งขับเคลื่อนด้วยการ ส่งออกนั้น สามารถต้นทานผลกระทบที่เกิดจากวิกฤตหนี้สาธารณะของยุโรปได้ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 30-06-2010)

----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น