Code 92 : ฝรั่งขาย แต่ตลาดโลกหนุน ลุ้น 777

วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2553

ATT Code : ฝรั่งขาย แต่ตลาดโลกหนุน ลุ้น 777


เมื่อวานนี้ ฝรั่งทำ Surprise มีการ Short Futures 800 สัญญา พร้อมกับขาย 2 พันล้านอยู่ฝั่งเดียว นอกนั้นที่เหลือซื้อกันหมด ยังมองไม่ออกว่าวันนี้จะออกมายังไง แต่ถ้าเชื่อตามกราฟก็สบายใจดี บวกกับตลาดโลกเขียวกันทั่วหน้า โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดกลับมาเป็นบวกไปกว่า 273 จุดหรือเป็นบวกเกือบ 3% ทำให้ SET เช้านี้ เปิด 774.58 จุด +6.42 จุด ผ่าน 772 มาได้ แต่จะยืนต้านแรงขายได้หรือไม่ ต้องติดตามดู ถ้าผ่านได้ ก็ดูแนวต้านที่ 777 - 780 ถ้าไม่ผ่าน ก็ดูแนวนับที่ 766 อย่างไรก็ตาม ก็ให้ระมัดระวังจังหวะแกว่งตัวผันผวนของ SET ด้วย ส่วน TFEX เปิดที่ 539.10 จุด +4.80 จุด ผ่านแนวต้านที่ 537 มาได้ ต่อก็มีแรง Short ออกมา ก็ต้องดูว่าจะยืนรับที่ 537 ไหวมั้ย ถ้าไม่ไหว ก็มาดูแนวรับที่ 532

ภาคเช้า SET ปิดตลาดที่ 769.42 เพิ่มขึ้น 1.26 จุด V.10,775.72 ลบ. ต่างชาติขาย 420 ล.บ.... ส่วน TFEX ปิดที่ 532.6 จุด -1.70จุด

ภาคบ่าย SET ปิดที่ 769.55 จุด +1.39 จุด V.19,695 mb. โดยช่วงบ่าย SET โดนแรงขายออกมา ทำให้ลงไปที่ 766.78 จุด แต่ก็มีแรงรับขึ้นมาปิดเกือบ 770 ได้ ก็ถือว่า ไม่ได้แยะมาก แต่ก็ไม่ดีเท่าไหร่ ไม่สามารถยืนเหนือ 772 ได้ เนื่องจากเจอความผันผวนและการเก็งกำไรกัน ส่วน TFEX ปิดที่ 533.20 จุด -1.10 จุด

ส่วนแนวโน้มในวันจันทร์ คาดว่าคงต้องขึ้นอยู่กับตลาดต่างประเทศเป็นหลัก เพราะถ้าต่างชาติยังขายในบ้านเรา แต่ตลาดต่างประเทศคลายความกังวลเรื่องต่างๆ หรือมีข่าวดีเกิดขึ้น ตลาดก็มีโอกาสที่จะขยับขึ้นได้อยู่ และอีกกรณีถ้าตลาดยุโรปยังไม่คลีคลายไปมาก ต่างชาติก็อาจจะโยกเงินมาลงทุนในแถบเอเซียได้ ทำให้มีโอกาสที่จะ Sideway up ได้ แต่อาจะไปอย่างช้าๆ

HighLight
-ซื้อเก็งกำไร ตัวที่ยัง laggard กว่ากลุ่มเช่น PTTCH, SCB, PS, SPALI, SYNTEC
-เก็งกำไรหุ้นที่มีโอกาสเข้าคำนวณ SET50 ในรอบใหม่ได้แก่ BLA, IVL, TPIPL

--------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น- ฝรั่งลักปิด–ลักเปิด!!

ดัชนีหุ้นวันที่ 10 มิ.ย.53 ปิดที่ 768.16 จุด เพิ่มขึ้น 3.95 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 18,388.16 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,111 ล้านบาท

หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด นำโดย IVL ปิดที่ 18.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท, CPF ปิด 17.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท, PTT ปิด 245.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, SCB ปิด 82.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท และ PTTCH ปิดที่ 96.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส มองแนวโน้มตลาดระยะสั้นคาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบแคบ เพราะไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามาหนุน แต่ยังคงต้องติดตามปัจจัยต่างประเทศ ทั้งทิศทางราคาน้ำมัน และตลาดหุ้นต่างประเทศ

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้เทรดดิ้งระยะสั้น ด้านเทคนิคให้แนวรับไว้ที่ 760-755 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 770-775 จุด

มีบทวิเคราะห์สถาบันวิจัยนครหลวงไทย แนะเก็งกำไรหุ้น PTTAR และ IRPC โดยคงราคาเหมาะสมที่ 31.50 บาท และ 5.10 บาท แม้แผนการควบรวมอาจล่าออกไป โดยหากได้ข้อสรุปและบอร์ด PTT อนุมัติทันภายใน Q3/53 การดำเนินการควบรวมก็จะเสร็จสิ้นในราว Q1/54

โดยเห็นว่าการลงทุนใน PTTAR และ IRPC ยังควรต้องให้น้ำหนักกับปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเป็นสำคัญ ซึ่งในปี 2553 มองว่าทั้ง 2 บริษัท ยังคงเป็นหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการค่อนข้าง outperform กว่ากลุ่มโรงกลั่นอื่น จากการมีสัดส่วนรายได้และกำไรจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์ในสัดส่วนสูง ซึ่งกำไรของธุรกิจปิโตรเคมีถือว่าค่อนข้างดีกว่ากำไรจากธุรกิจโรงกลั่น

ขณะที่ยังคงประเมินรูปแบบการควบรวมจะเป็น PTTAR เพิ่มทุนเพื่อซื้อหุ้นทั้งหมดของ IRPC โดยประเมิน SWAP Ratio ที่ 6.18 หุ้น IRPC เท่ากับ 1 หุ้น PTTAR

ขณะที่ บล.ทรีนีตี้ แนะถือหุ้น CPALL ให้ราคาเป้าหมายที่ 28 บาท แต่ช่วงสั้นให้ขายทำกำไรและไปหาจังหวะรอซื้อที่ราคา 25-26 บาท

ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ใกล้เคียงกับราคาเป้าหมายเราที่ 28 บาทแล้ว ทางพื้นฐานยังคงคำแนะนำถือ เพื่อรับปันผลในระดับ 3.5% โดยมองว่ากำไรไตรมาส 2 ปี 53 น่าจะอ่อนตัวลงจากไตรมาสแรก จากผลกระทบทางการเมือง และผลของฤดูกาล

ราคาหุ้นปัจจุบันไม่ถือว่าถูก ทำให้มองว่า Upside ค่อนข้างจำกัด.

FSS : ตลาดต่างประเทศช่วยหนุน ดังนั้นยังตามเทรดดิ้งต่อได้ แต่ซื้อถือยังน่ารอต่ำ!
แนวโน้ม:
แม้ว่าเมื่อวานนี้นักลงทุนต่างประเทศจะยังกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยมากถึงกว่า 2 พันล้านบาท แต่จากสถานการณ์ตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ที่ค่อนข้างสดใส คาดว่าจะทำให้ SET สามารถเคลื่อนไหวในด้านบวกต่อเนื่องจากวานนี้ได้ หลังจากที่คืนวานดัชนีดาวโจนส์ดีดกลับมาเป็นบวกไปกว่า 273 จุดหรือเป็นบวกเกือบ 3% โดยได้รับแรงหนุนจากสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งในตลาดตราสารหนี้ของยูโรโซน เนื่องจากมีอุปสงค์เข้ามาอย่างมากในการเปิดขายพันธบัตรของสเปน ซึ่งตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็ตอบรับข่าวดังกล่าวด้วยการเปิดบวกกันมากกว่า 1% ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม FSS ยังแนะนำให้ระมัดระวังจังหวะแกว่งตัวผันผวนของ SET ด้วย เนื่องจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศที่ยังมีออกมาค่อนข้างมากอีกครั้งวานนี้ ซึ่งเรายังมองว่าโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะยังมีแรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศกดดันอาจจะยังมีต่อเนื่องไปอีกพักหนึ่งได้ ทำให้แนวโน้มที่ SET จะแกว่งตัวลงไปแถว 715 จุดหรือต่ำกว่ายังเป็นไปได้อยู่
กลยุทธ์: แม้ว่ายังลุ้นตลาดบวกต่อ แต่ก็เสี่ยงต่อการแกว่งตัวผันผวน ดังนั้นแนะนำเพียงเข้าซื้อเพื่อเทรดดิ้งตามรอบต่อไปก่อน โดยเน้นขายทำกำไรเมื่อตลาดเข้าใกล้ 790 จุดหรือสูงกว่าเล็กน้อย โดยหุ้นที่แนะนำได้แก่ตัวที่ยัง laggard กว่ากลุ่มเช่น PTTCH, SCB, PS, SPALI, SYNTEC รวมทั้งเก็งกำไรหุ้นที่มีโอกาสเข้าคำนวณ SET50 ในรอบใหม่ได้แก่ BLA, IVL, TPIPL ส่วนจังหวะซื้อเพื่อถือลงทุนยังแนะนำให้รอการแกว่งตัวลงไปแถว 715 จุดหรือต่ำกว่าก่อนค่อยพิจารณาเข้ารับต่อไป

ประเด็นสำคัญวันนี้
-ธนาคารโลกเตือนอาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรอบ 2 ในบางประเทศ
ข้อมูลปัจจุบันจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. ชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังแข็งแกร่งในประเทศส่วนใหญ่ ยกเว้นในยุโรปตะวันตกซึ่งการฟื้นตัวชะงักงัน ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาจะขยายตัว 5.7% - 6.2% ในช่วงปี 2010 – 2012 สูงกว่าการขยายตัวของประเทศพัฒนาแล้ว และสูงกว่าปีที่แล้วที่อยู่ที่ 1.7% แต่หากวิกฤตการณ์ในยุโรปแย่ลงและลุกลามออกไป การขยายตัวของประเทศกำลังพัฒนาจะลดลง
- การคาดการณ์น้ำมันเริ่มเสียงแตก OPEC ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้เหลือ 940,000 บาร์เรล/วัน ลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อน 10,000 บาร์เรล/วัน ในขณะที่ IEA คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกอาจเติบโตขึ้น 1.68 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2010 เพิ่มขึ้น 70,000 บาร์เรลวันจากตัวเลขคาดการณ์ครั้งที่แล้วอุปสงค์น้ำมันในจีนยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่ง
-ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ย ตามความคาดหมาย และปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 มาอยู่ที่ 1.213 ดอลลาร์/ยูโร เม็ดเงินย้ายกลับมาที่สินทรัพย์เสี่ยง ตลาดหุ้นและน้ำมันปรับขึ้น ทองปรับลง US$7.7
-ผู้ว่า ธปท. คาดว่าปีนี้น่าจะเห็นดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นอย่างน้อย 1 ครั้ง มองปัญหาเศรษฐกิจยุโรปกระทบภาคส่งออกของไทยไม่มาก ส่วนการเมืองในช่วงที่ผ่านมากระทบ GDP 0.9% ค่าเงินบาทขณะนี้อยู่ในระดับกลางของภูมิภาค ถือว่ามีเสถียรภาพ เผยว่าการประชุม กนง. ครั้งหน้า (14 ก.ค.) จะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกและการเมืองในประเทศว่านิ่งหรือไม่
-ดัชนีความเชื่อมั่นเพิ่มครั้งแรกใน 4 เดือน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค. อยู่ที่ 75.5 เพิ่มจาก 75.0 ในเดือน เม.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นเกือบทุกรายการปรับตัวดีขึ้นในรอบ 4 เดือนหลังการชุมนุมคลี่คลาย ยกเว้นความเชื่อมั่นในปัจจุบัน
-ซื้อเก็งกำไร Laggard – PTTCH, SCB, PS, SPALI, SYNTEC ดัชนีที่ปรับขึ้นมา 3.7% จาก 740 จุด (1 มิ.ย.) ถึงเมื่อวานนี้ ชัดเจนว่ากลุ่มที่ Outperform เป็นกลุ่ม Domestic เช่นกลุ่มมือถือ (+9% นำโดย DTAC +14%) รองลงมาเป็นกลุ่ม Property (+6% นำโดย LPN +13%) กลุ่ม Petro (+6% นำโดย IVL +10%) กลุ่มแบงก์ (+5% นำโดย CIMBT และ TCAP) สำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น จึงน่าซื้อตัวที่ laggard กว่ากลุ่มได้แก่ PTTCH, SCB, PS, SPALI, SYNTEC
-เก็งกำไรหุ้นที่มีโอกาสเข้า SET50 รอบใหม่นี้มี BLA, IVL, TPIPL ส่วนหุ้นที่ออกมี BECL (แนะขายเพราะปีหน้าต้องเพิ่มส่วนแบ่งรายได้ให้การทางฯ), MCOT (ยังน่าสนใจเพราะ PE ต่ำสุดและให้ Dividend yield สูงสุดในกลุ่ม), TSTH (ผลประกอบการดีไม่เท่า SSI)

News Comment
• กบข.-แบงก์ซุ่มเก็บ IVL เข้า SET50 กลางเดือนนี้ งบไตรมาสสองหรูสุดกลุ่มเคมีภัณฑ์ เป้าราคา 25 บ. ตะลึง แบงก์กรุงเทพ-กบข.- กสิกร-CITY BANK แห่ตุนหุ้น IVL ก่อนเข้าSET 50 ตลาดหลักทรัพย์ฯพร้อมแจ้งหุ้นติด SET 50 วันที่ 15 มิ.ย.นี้ กูรูเชื่อหลังจากติด SET 50 กองทุนต่างประเทศแห่เข้าไล่เก็บหุ้นแน่นอน ส่วนพื้นฐานยังเป็นหุ้น Top pick ของกลุ่มเคมีภัณฑ์ แม้จะมีความกังวลวิกฤตยุโรป แต่ PET ยังขาด
อีกมาก ด้านไตรมาส 2 งบสวยสุดในกลุ่มเคมีภัณฑ์ รับอานิสงส์จากแผนขยายกำลังการผลิต กับการเข้าเทกโอเวอร์ เพื่อก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งของ โลก พื้นฐานเป้าหมายเกิน 25 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-06-2010)
• เทนเดอร์ “เสริมสุข”วุ่น ไอ้โม่งดอดซื้อบิ๊กล็อต เทนเดอร์ SSC วุ่น หลังมีไอ้โม่งดอดซื้อบิ๊กล็อต 12.11% จำนวน 32.21 ล้านหุ้น ในราคา 29 บาท ไม่รู้ใครขายใครซื้อ งานนี้ไม่หมูอย่างที่คิด ด้านที่ปรึกษาทางการเงินยัน เป๊ปซี่-โค ไม่ได้ทำดีล เนื่องจากอยู่ระหว่างการทำคำเสนอซื้อ ฝั่ง“เสริมสุข” เชื่อไม่มีการทำเทนเดอร์ฯ รอบสอง หากต้องล้มโต๊ะ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-06-2010)
• PYLON-SEAFCO ครึ่งหลังแจ่ม PYLON-SEAFCO ครึ่งปีหลังรับรู้รายได้งานฐานรากเพียบ อานิสงส์งานโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง “ณรงค์” เผยไตรมาส 3/53 พลิกกำไร เหตุรับรู้งานรถไฟฟ้ามูลค่า 600 ล้านบาท โอด Q2/53 โดนพิษการเมืองเล่นงาน ด้าน “บดินทร์” เชื่อหลังการเมืองสงบปริมาณงานเพิ่มขึ้น ทั้งภาครัฐและเอกชน ไตรมาส 2/53 รายได้ฟื้นจากไตรมาส 1/53 หลังตุนแบ็กล็อก 300 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-06-2010)
• EMC รอเซ็นงานใหม่ 2 พันล้านผลงานทั้งปีแจ่มรายได้โต 20% EMC ส่งซิกรอเซ็นงานใหม่มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ไตรมาส 2/53 หนุนงานในมือเพิ่มขึ้นจาก 3,500 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้ฟื้นตัวในเกณฑ์ดี มั่นใจทั้งปีสร้างผลงานได้ตามเป้าที่ตั้งไว้เติบโตประมาณ 15-20% เนื่องจากมีงานทยอยรับรู้ในปีนี้ 60% กว่า 4,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงานกว่า 2 หมื่นล้านบาท คาดได้งานไม่ต่ำกว่า 20% (ที่มา:
นสพ.ข่าวหุ้น 11-06-2010)
• AOT ครึ่งหลังรายได้ทรุด1.6 พันล้าน เจอโลว์ซีซั่นกระหน่ำซ้ำ เชื่อตัวเลขทั้งปีไม่ขาดทุน เอ็มดี AOT ยอมรับผลประกอบการครึ่งปีหลังรายได้ทรุด 1.5-1.6 พันล้านบาท เหตุปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศ แถมกระหน่ำด้วย Low season แต่มั่นใจทั้งปีไม่ขาดทุน เพราะได้ 6 เดือนแรกช่วยหนุน หลังฟันกำไรถึง 2.5 พันล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-06-2010)
• PA เลื่อนวันประชุมผู้ถือหุ้นขอขายสินทรัพย์เพิกถอนหุ้นพร้อมเพิ่มเติมความเห็น IFA บอร์ด PA มีมติเพิ่มเติมความคิดเห็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) กรณีขายสินทรัพย์และการขอเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมอนุมัติเลื่อนวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นจากเดิมวันที่ 25 มิ.ย.53 เป็นวันที่ 28 มิ.ย.53 ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯนายอเล็กซ์ ที-เฮง โฮ รองประธานกรรมการ บริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์
จำกัด (มหาชน) หรือ PA แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2553 มีมติให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายสินทรัพย์ของบริษัทและบริษัทย่อย และการขอเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-06-2010)
• ESTAR ปลื้มการเมืองไม่กระทบ 2 คอนโดยอดขายทะลัก 1.3 พันล้าน Q4 ผุด 2 โครงการ “ESTAR” เผยยอดขายดีต่อเนื่อง ไร้ผลกระทบปัญหาการเมืองไม่สงบ พิสูจน์จาก 2 คอนโดฯใหม่ “เดอะบรีซ นราธิวาสฯ-แวนเทจ รัชดาฯ” ยอดขายทะลักเกือบ 1,300 ล้านบาท รับอานิสงส์ช่วงการเมืองวุ่นวายลูกค้าแห่จองซื้อจำนวนมาก ทั้งปีมั่นใจตามเป้า โกย 1,850 ล้านบาท บุ๊ครายได้ 800 ล้านบาท ขณะที่ Q4 เล็งเปิดเพิ่ม 2 โครงการ ทุ่มงบซื้อที่ดินในปีนี้ 1,000 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-06-2010)
• ค้าปลีกอัดแคมเปญรับบอลโลก 2010 หวังกระตุ้นกำลังซื้อ-กวาดยอดขาย ค้าปลีก BIGC-MAKRO-CPALLแข่งเดือด อัดแคมเปญเกาะกระแสฟุตบอลโลก 2010 กระตุ้นกำลังซื้อ โดย BIGC ส่ง “บิ๊กซี ดวลแข้ง ดวลราคา” ลุ้นรับรางวัลมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ด้าน MAKRO ออก "ช้อปลุ้นโชคกับบอลโลก 2010" รับรางวัลกว่า 8 แสนบาท ส่วน CPALL จัดจำหน่ายโปสการ์ดทายผลบอลโลกผ่าน 7-Eleven (ที่มา: นสพ.ข่าว หุ้น 11-06-2010)
• SINGER จังหวะดีขอเทิร์นอะราวด์ขานรับยอดขายแอร์พุ่ง ดันรายได้ปีนี้โตกว่า 10% SINGER ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10% คาดแตะ 2,000 ล้านบาท “บุญยง” ปลื้มยอดขายเครื่องปรับอากาศ 4 เดือนพุ่ง 20% พร้อมรุกตลาดครึ่งปีหลังเดินหน้าออกสินค้าใหม่ ตู้เติมเงินโทรศัพท์และตู้แช่ ด้านงบลงทุนตั้งไว้ 120 ล้านบาท แบ่งเป็นขยายสาขา-และการตลาด คาดครึ่งปีหลังผุดอีก 5 สาขา (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-06-2010)
• 3 ผู้บริหารแห่เทขาย HTECH ต้นมิ.ย.รวมกว่า 4.40 ล้านหุ้น 3 ผู้บริหาร HTECH “พูนศักดิ์-ชัว-วิบูลย์” เทขายหุ้นกระจาย ตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. รวมกว่า 4.40 ล้านหุ้น ในช่วงราคา 2.98-3.06 บาท ด้าน KIAT ขายรวม 1 ล้านหุ้น ส่วนพื้นฐานธุรกิจ แนวโน้มไตรมาส 2/53 ยังเติบโต ต่อเนื่อง “พีท” ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 350 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-06-2010)
• ดัชนีเชื่อมั่นพ.ค.พุ่งรอบ4เดือนผลดีการเมืองสงบ-เศรษฐกิจฟื้น ม.หอการค้าเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่น โอกาสหางานทำ และรายได้เดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน หลังเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองคลี่คลาย เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ประชาชนกล้าบริโภคมากขึ้น แนะรัฐบาลเร่งผลักดันโครงการไทยเข้มแข็ง รักษาเสถียรภาพค่าเงิน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-06-2010)
• SCIB ถอนตัวจากตลาดหุ้นรวมกับธนชาตได้ในQ3/54 แบงก์นครหลวงไทย (SCIB) พร้อมเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังธนชาตเก็บหุ้นได้แล้ว 99.24% คาดกระบวนการควบรวมแล้วเสร็จในไตรมาส 3 /54 (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-06-2010)
• ทีโอทีหวังลูกค้าบรอดแบนด์ 2 ล้านรายตั้งเป้าหมายสูงรายได้ปีหน้าหมื่นล้าน ทีโอทีหวังเพิ่มฐานลูกค้าบรอดแบนด์ 2 ล้านรายในปี 2554 หวังรายได้เข้า 10,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้รวม มั่นใจสิ้นปีนี้ยอดลูกค้าเกินกว่า 1.3 ล้านรายแล้ว จากเดือนเม.ย.ฉลองลูกค้าครบ 1 ล้านรายไปแล้ว กินแชร์ในตลาดรวม 40% ฝากถึงกทช.แม้จะไม่ให้สิทธิ์เข้าประมูล 3.9 จี ก็ไม่ว่ากัน แต่ควรเห็นใจหน่อยเพราะ 3จี
ทีโอทียังค้างเติ่งในครม. เปรยอยากให้ “จุติ” เข้าฟื้นฟูองค์กรจริงจัง เพราะหากไม่รวมสัมปทานรายได้ก็เข้าขั้นโคม่าแล้ว (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-06-2010)
• มาร์คยันปีนี้ไม่มีเลือกตั้ง 20 บิ๊กกองทุนขานรับ “อภิสิทธิ์” เปิดทำเนียบต้อนรับ 20 ผู้บริหารกองทุน ยืนยันไม่เลือกตั้งปีนี้ อยากฟื้นฟูประเทศก่อนและสร้างความปรองดอง นายกฯอยากเห็นจีดีพีปีนี้โต 6% มั่นใจตัวเลขนักท่องเที่ยวปีนี้ 14 ล้านคน ด้านเอกชนพอใจมาร์คชี้แจง ระบุภาพรวมเริ่มดีหลังเหตุการณ์จลาจลสงบ นายกฯสัญญาไม่ขึ้นภาษี ดึงเอกชนร่วมทุนโครงการยักษ์ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-06-2010)

--------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ไทยรัฐ-ดัชนีหุ้นสหรัฐฯพุ่งขึ้นกว่า200จุด
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งขึ้น 273.28 จุด ไปปิดที่ระดับ 10,172.53 จุด ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์สหรัฐ ไปอยู่ที่ระดับ 75.48 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล....

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ดัชนีเพิ่มขึ้นจากข้อมูลตัวเลขการส่งออกของจีนในเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 48.5% ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเรื่องภาวะหนี้สินของประเทศในยุโรป ขณะที่จำนวนผู้ว่างงานในประเทศที่ยื่นขอความช่วยเหลือจากรัฐสัปดาห์ที่ผ่าน มา ลดลง 3,000 คน เหลือ 456,000 คน

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์สหรัฐ ไปอยู่ที่ระดับ 75.48 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งขึ้น 273.28 จุด ไปปิดที่ระดับ 10,172.53 จุด แนสแดคปิดที่ระดับ 2,218.71 จุด เพิ่มขึ้น 59.86 จุด และเอสแอนด์พีปิดที่ระดับ 1,086.84 จุด เพิ่มขึ้น 31.15 จุด.

--------------------------------------------------------
Technical View : FSS
“ทางเทคนิคยังต้องรอดัชนีผ่านแนวต้าน 773 จุดขึ้นก่อน ถึงจะตามเทรดดิ้ง เพื่อรอขายทำกำไรรอบถัดไปที่แนวต้าน 780-800 จุดต่อไป แต่ถ้ายังไม่ผ่าน 773 จุดขึ้นก็ยังเสี่ยงแกว่งลงไปหา 740 และ 720 จุดตามลำดับได้...”
แนวรับ : 760-754*** , 750 , 740-720
แนวต้าน : 773*** , 780-790 , 800

--------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น