Code 91 : มีข่าวดีมาบอก

วันพฤหัสที่ 10 มิถุนายน 2553

ATT Code : มีข่าวดีมาบอก

หลังจากที่ช่วงบ่ายของเมื่อวาน มีข่าดีจากจีนได้ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีมาก และมูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส ประกาศปรับอันดับความน่าเชื่อถือของ KTB ก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยวันนี้รับข่าวดี แต่ก็ไม่ได้บวกมากมายเท่าไหร่ โดยมาเปิดที่ 765.69 จุด +1.48จุด ลุ้นให้ยืนผ่านแนวต้านที่ 766 ก่อน ส่วน TFEX เปิดที่ 530 จุด +1 จุด แนวต้านที่ 532 และ 537 ภาคเช้า SET ปิดที่ 764.02 จุด -0.19จุด V. 7,889 ต่างชาติ Net Sell 320 mb. ส่วน TFEX ปิดที่ 528.80 จุด -0.20 จุด

ภาคบ่าย SET ปิดที่ 768.16 จุด +3.95 จุด V.18,388 mb. ถือว่าปิดได้ดีมาก เดือบHigh โดยสามารถยืนเหนือ 766 ได้ ทำให้ Shot ต่อไปก็ต้องมองที่ 772 ถ้าผ่านได้ ก็ 777 ส่วน TFEX ปิดที่ 534 จุด +5 จุด ผ่านแนวที่ 532 ได้แล้ว ก็ดูที่ High ที่ผ่านมา ที่ 537

ส่วนแนวโน้มในวันพรุ่งนี้ มีทิศทางที่สดใส เพราะ
1.วันนี้ SET และ TFEX ปิดดี สูงกว่าเมื่วาน
2.ช่วงปิดตลาด ตลาดหุ้นยุโรป ยืนในแดนบวก 0.5-1%
3.Future Dow Jones + 100 จุด
แต่ถ้าผิดทาง ไม่เป็นไปดั่งที่คาด ก็มีแนวรับ ที่ 760-763

------------------------------------------------------------
มีข่าวดีจากไทยรัฐ มาบอก
-มูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส ของ KTB สู่มีเสถียรภาพ จากเดิม เชิงลบ
-แบงก์ชาติออกมาระบุว่า เศรษฐกิจไทยได้ส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น
-การจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือวิกฤติหนี้ยุโรป
-จีนได้ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีมาก
--------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-มีข่าวดีหนุน!!
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 มิ.ย.53 ปิดที่ 764.21 จุด เพิ่มขึ้น 6.80 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 15,798.91 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 75.07 ล้านบาท

หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด นำโดย TCAP ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.15 บาท, KTB ปิดที่ 12.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท, CPF ปิดที่ 17.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท, BANPU ปิดที่ 598.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาทและ PTT ปิดที่ 245.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟาร์อีสท์ ชี้ว่า มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน หลังจากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส ประกาศปรับอันดับความน่าเชื่อถือตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุนสกุลเงินต่างประเทศที่ B2 ของ KTB สู่มีเสถียรภาพ จากเดิม เชิงลบ รวมถึงแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (BFSR) ซึ่งอยู่ที่ D- และอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากสกุลบาทระยะยาว/ระยะสั้นที่ A3/Prime-1

ขณะที่แบงก์ชาติออกมาระบุว่า เศรษฐกิจไทยได้ส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น ทำให้มีแนวโน้มการปรับประมาณการขยายตัว GDP เพิ่มขึ้น จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 3.5%-5.8% เพราะได้รับแรงหนุนจากภาคการส่งออกที่ฟื้นตัว

นอกจากนี้ แนวทางการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือวิกฤติหนี้ยุโรป น่าจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ในช่วงระยะกลางและระยะยาว ถือเป็นปัจจัยที่ดีต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

ดังนั้น จึงมองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยระยะสั้นว่า มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ คาดว่าดัชนีมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 770 จุดได้

แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เล่นรอบตามการแกว่งขึ้น-ลงของตลาด โดยเฉพาะเน้นหุ้นในกลุ่มหลักๆ เช่น หุ้นพลังงาน, ธนาคาร และอสังหาฯ ด้านเทคนิคประเมินแนวรับไว้ที่ 758-760 จุด

ด้าน บล.เคจีไอ ชี้ว่า จีนได้ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีมาก โดยเฉพาะการส่งออกที่เดิมคาดกันว่าเดือน พ.ค.ส่งออกจีนจะโตประมาณ 30% แต่ออกมาจริง ส่งออกจีนโตถึง 50% เป็นตัวผลักดันให้ตลาดหุ้นทั่วภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงรวมถึงหุ้นไทย เพราะทำให้นักลงทุนกลับมามีความหวังมากขึ้นว่าจีนจะช่วยค้ำยันเศรษฐกิจโลกได้ และยังช่วยลดทอนความวิตกกับปัญหาหนี้ยุโรปลงได้

ทั้งนี้ การที่เศรษฐกิจจีนยังดีอยู่มาก ทำให้คาดกันว่าความต้องการซื้อสินค้าโภคภัณฑ์จากจีนจะเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี และถ่านหิน!!

FSS:ยังเน้นเล่นสั้นๆ ตามรอบไปก่อน..ขึ้นยังเน้นขาย / จังหวะซื้อถือยังรอต่ำ!!
แนวโน้ม: FSS ยังคาดหมายการแกว่งตัวผันผวนของ SET ต่อเนื่อง เช่นเดียวกับในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา คือมีทั้งบวกและลบสลับกันไป แต่แนวโน้มโดยรวมยังมองโอกาสของการที่ดัชนีจะไหลลงไปแถวจุดต่ำเดิมในรอบก่อนแถว 720-714 จุด หรือลุ้นลงไปหา 700 จุดต้นๆ ได้ เพราะเชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศยังมีความกังวลต่อสถานการณ์หนี้สินในยุโรป ซึ่งจะทำให้แรงซื้อยังไม่กลับเข้ามาในตลาดหุ้นภูมิภาคอย่างจริงจังมากนัก คงเป็นเพียงการทยอยเข้ารับสลับขายเป็นระยะๆ อยู่ก่อน ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศก็คงมีลักษณะคล้ายๆ กัน แบบที่เราเห็นในตลาดหุ้นสหรัฐที่เป็นบวกเป็นลบสลับขึ้นลงในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดคืนวานนี้ก็ย้อนกลับมาปิดเป็นลบกว่า 40 จุดจากแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานโดยเฉพาะหุ้นบีพีอีกครั้ง ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้ขายทำกำไรก่อนเมื่อตลาดขยับขึ้นในช่วงนี้ เพื่อเตรียมเงินสดไว้รอทยอยเข้าซื้ออย่างจริงจังมากขึ้นเพื่อถือลงทุนในระยะกลางเมื่อ SET ปรับตัวลงไปต่ำกว่า 715 จุดก่อน
กลยุทธ์: ยังแนะนำเพียงเทรดดิ้งสั้นๆ ตามรอบ และขายทำกำไรเมื่อตลาดบวกด้วย ส่วนจังหวะซื้อเพื่อถือลงทุนยังแนะนำให้รอการแกว่งตัวลงไปแถว 715-710 จุดโดยประมาณก่อนค่อยพิจารณาเข้ารับต่อไป
ประเด็นสำคัญวันนี้
-กบข. มองหุ้นไทย 2H10 ยังดี คาดดัชนีปีนี้สูงกว่าปีก่อน 15% (หรือเท่ากับ 845 จุด) เชื่อเม็ดเงินต่างชาติยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทย
-ผู้จัดการกองทุนมองตลาดหุ้นเกิดใหม่สดใส ผลสำรวจของ HSBC ชี้ผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่มองตลาดหุ้นยุโรปไม่สดใส แนะโยกเงินเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลกและตลาดพันธบัตร ขณะเดียวกันไม่มีผู้จัดการกองทุนรายใดเลยที่แนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) แต่ผลสำรวจระบุว่าผู้จัดการกองทุนมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นเอเชียมากขึ้น
-PTTAR & IRPC ในที่สุด Deal การควบรวมก็เลื่อนจากกลางปีนี้เป็นไตรมาสแรกปีหน้า สร้างความผิดหวังให้นักลงทุนที่เก็งกำไรด้วยข่าวนี้ อย่างไรก็ตาม PTTAR ปรับลงมาแล้ว 11% ส่วน IRPC ลงมา 8% ทำให้ราคาเริ่มมี upside จากราคาตามพื้นฐาน ในทาง Fundamental จึงแนะนำซื้อ แต่ระยะสั้นในทางเทคนิคทั้ง PTTAR และ IRPC มีแนวโน้มลงทั้งคู่ แนวรับของ PTTAR 23.50-24.00 บาท ส่วน IRPC 3.80-4.00 บาท
-มาบตาพุดคืบหน้า คณะกรรมการ 4 ฝ่าย กำลังจะได้ข้อสรุปประเภทโครงการที่อาจรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและจะส่งให้ ครม. พิจารณาอนุมัติภายในเดือนนี้และเตรียมประกาศเป็นกฎกระทรวง หลังจากนั้นโครงการต่างๆ จะยื่นขอปลดล็อก เร็วสุดคือต้น 4Q10 ดำเนินการผลิตได้ เป็นข่าวบวกกับ PTT PTTCH และ SCC
-CPF สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้ประกาศปรับขึ้นราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มทุกภูมิภาค เนื่องจากผลผลิตหมูออกสู่ตลาดไม่เพียงพอกับความต้องการบริโภค ปัจจุบันราคาหมูภาคใต้ขยับขึ้นเป็น 68 บาท/กก. ส่วนภาคอื่นๆ ปรับขึ้นเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในเพดานราคาที่ก.พาณิชย์กำหนดคือ 62 - 63 บาท/กก. สูงกว่าจุดคุ้มทุนของ CPF ที่อยู่ที่ 52 บาท/กก. รายได้จากการขายเนื้อสุกรคิดเป็น 15% ของรายได้รวมของ CPF เรายังแนะนำซื้อ CPF โดยมีราคาเป้าหมาย 20 บาท
-หุ้นขนาดเล็กมาแรง ในช่วงที่ผ่านมาหุ้นตัวเล็กที่เดิมไม่ค่อยมีสภาพคล่องกลับมีราคาปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เราจึงหันมาพิจารณาหุ้นที่มีราคาต่ำกว่า Book value ในปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็มีกำไรอยู่แล้ว และมี PE (ที่ประเมินในเบื้องต้น) ค่อนข้างต่ำ ที่น่าสนใจได้แก่ SITHAI (BV=17.8 บาท), NOBLE (BV=8.8), PLE (BV=2.6) JTS (BV=2.54), AH (BV=15.9), SIRI (BV=7.1), SYNTEC (BV=1.4), SICCO (BV=6.4), PRIN (BV=3.0), SENA (BV=2.4)
-เก็งกำไรหุ้นที่มีโอกาสเข้า SET50 รอบใหม่นี้มี BLA, IVL, TPIPL ส่วนหุ้นที่ออกมี BECL, MCOT, TSTH

--------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ไทยรัฐ-หุ้นสหรัฐปิดตลาดติดลบเล็กน้อย
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลง จากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุนที่วิตกกังวลมากขึ้นต่อสถานการณ์น้ำมันรั่วไหล นอกอ่าวเม็กซิโก...

10 มิ.ย. ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีปรับเพิ่มในช่วงแรก หลังจากนายเบน เบอร์นานกี ประธานธนาคารสหรัฐ (เฟด) ระบุระหว่างเข้าให้ปากคำต่อกรรมธิการวุฒิสภาว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

แม้ตลาดแรงงานและอสังหาริมทรัพย์จะไม่แข็งแรงมากนัก ก่อนที่ในช่วงท้ายนักลงทุนจะเทขายหุ้นทำกำไร โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังรัฐบาลขีดเส้นตายให้บีพีเร่งทำแผนแก้ไขการรั่วไหลของน้ำมันนอกอ่าวเม็กซิโกให้เป็นที่น่าพอใจภายใน 72 ชั่วโมง

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ พุ่งขึ้น 2.39 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ 74.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ 9,899.63 จุด ลดลง 40.35 จุด แนสแดคปิดที่ 2,158.85 จุด ลดลง 11.72 จุด และเอสแอนด์พีปิดที่ 1,055.66 จุด ลดลง 6.34 จุด

News Comment
• กรุงไทยแก้มปริมูดี้ส์เพิ่มเครดิต: มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารกรุงไทย หรือ KTB ซึ่งอยู่ที่ระดับ "D-" อันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากสกุลเงินบาทระยะยาว/ระยะสั้นที่ "A3/Prime-1" และอันดับความน่าเชื่อถือตราสาร HybridTier 1 สกุลเงินต่างประเทศที่ "B2" เป็น "มีเสถียรภาพ" จากเดิมที่เป็น "เชิงลบ" โดยมีเหตุผลจากพื้นฐานด้านการเงินของธนาคารที่แข็งแกร่งขึ้น (ที่มาโพสต์ทูเดย์ 10/6/2010) ความเห็น: เป็นข่าวดีสำหรับ KTB ซึ่งได้รับการปรับแนวโน้มให้เป็น มีเสถียรภาพ ให้เทียบเท่ากับธนาคารอื่นๆที่มีอันดับเครดิตเป็น มีเสถียรภาพ อยู่แล้ว ทั้งนี้มูดี้ส์เพิ่งจะทบทวนอันดับเครดิตของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยไปเสร็จสิ้นเมื่อไม่นานมานี้ (19 พ.ค.2010) โดยคงอันดับและคงแนวโน้ม ดังนั้นไม่น่าจะมีธนาคารใดได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตตาม KTB ออกมาอีกในเร็วๆนี้


• ปตท.เลื่อนแผนควบลูก IRPC หายใจได้อีกเฮือก สิ้นงบ Q2 มาว่ากันใหม่ ศาลอุทธรณ์สั่งย้อนคดีทีพีไอ ปตท. ยังไม่ปรับสูตรควบรวม PTTARIRPCยอมรับเลื่อนไปเป็นไตรมาส 1/54 หลังบอร์ดสั่งศึกษาข้อมูลโครงสร้างทั้ง 2 บริษัทเพิ่มเติม ขณะที่ศาลอุทธรณ์สั่งย้อนคดีทีพีไอใหม่ กรณีคลังส่งคนเข้าบริหารกิจการทีพีไอ ล่าสุด PTT จับมือ SCG ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็กพัฒนาเทคโนโลยีให้ได้มาตรฐานสิ่งแวดล้อม (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 10-06-2010)
• SAT ครึ่งปีกำไร350 ล้านขานรับยานยนต์ไปได้สวย SAT กำไรทะลัก แค่งวด 6 เดือน สูงกว่าปี 52 ทั้งปี ด้านวงการชี้มีลุ้นเห็นขั้นต่ำ 350 ล้านบาทขณะที่ไตรมาส 2 งบยังหรูขั้นต่ำ 150 ล้านบาท แถมพร้อมใจกันปรับประมาณการ วางเป้ายอดขายทั้งปีแตะ 6,000 ล้านบาท ขานรับอุตสาหกรรมยานยนต์ชัดเจน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 10-06-2010)
• อิสลามแบงก์ฮุบนวลิสซิ่ง IBANK เข้าถือหุ้น NVL จำนวน 465.50 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.20 บาท แจงซื้อจากผู้ถือหุ้นเดิม 265.50 ล้านหุ้นด้วยวิธีการทำคำเสนอซื้อบางส่วน และดำเนินการซื้อหุ้นเพิ่มทุนเสนอขายเฉพาะเจาะจง 200 ล้านหุ้น ด้านโบรกฯเชื่อหลัง IBANK ฮุบ NVL ดันบริษัทเติบโตต่อเนื่องคาดมีสิทธิจ่ายเงินปันผลให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นได้ พร้อมพลิก ROE เป็นบวกหลังติดลบ 1.39% ณ ไตรมาส 1/53 (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 10-06-2010)
• ลาก CIMBT ก่อนเชือดฟรีโฟลตต่ำพีอี 80 เท่า ระวัง “ขาใหญ่” ลากหุ้น CIMBT ไปเชือด หลังดันราคาขึ้นมาให้หวือหวา ไล่หุ้นโชว์ ก่อนเทขายใส่ หมดพอร์ต งานนี้ถ้าเจ้ามือเลิกเล่น รับรองสภาพคล่องหาย หลังโฟลตในกระดานน้อยมาก แค่ 2.88% ส่วนการเก็งกำไรข่าว กลุ่ม CIMB BANK BERHARD เข้ามาทำ dual listing ไม่สามารถทำให้พื้นฐานของ CIMBT ดีขึ้น เป็นเพียงแค่ผู้ถือหุ้นใหญ่เท่านั้น ตะลึงราคาหุ้นสูงกว่าบุ๊ค 6.3 เท่า แถมพีอีก็เกิน 80 เท่า โบรกฯเลี่ยงไม่กล้าให้ราคาเป้าหมาย (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 10-06-2010)
• DIMET หั่นเป้ารายได้พิษการเมืองลูกค้าหนีเพิ่มตลาดสีทาอาคาร DIMET เสียงอ่อนหั่นเป้ารายได้งวดปี 52/53 เติบโตลดลง 0-5% จากเดิม 10%โดนพิษทางการเมืองวุ่น กระทบลูกค้าส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ชะลอการลงทุน แต่ปัจจุบันปัญหาคลี่คลาย เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของลูกค้า หันเน้น
ผลิตภัณฑ์สีทาอาคารมากขึ้น หลังมีความต้องการจำนวนมาก ตลาดมีมูลค่าสูงถึง 1.5 หมื่นล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 10-06-2010)
• SNC น่าเก็งกำไรเป้า 11.50 บาทรับไตรมาส 2 คาดรายได้โต 40% SNC น่าเล่นเก็งกำไร แนวต้าน 11.50 บาท หลังราคาหุ้นพุ่ง 12% รับรายได้ไตรมาส 2 ที่คาดจะโต 40% จาก 1,500 ล้านบาทในปีก่อน “สมชัย” การันตีรายได้-กำไรทั้งปีเป็นไปตามเป้า หลังการฟื้นตัวของยอดขายและการได้งานต้นน้ำเพิ่มขึ้น พร้อมยังเดินหน้าหาออเดอร์ใหม่ต่อเนื่อง (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 10-06-2010)
• หุ้นปูนซีเมนต์คึกรับกำไรกระเตื้อง SCC เป้า 320 บ. หุ้นปูนดี๊ด๊า รับรายได้-กำไรปี 2553 ดีขึ้นตามความต้องการใช้ฟื้นตัว จากการลงทุนภาครัฐและเอกชน คาดอัตรากำไรสุทธิทรงตัวในระดับสูง โบรกฯแนะซื้อ SCC มองกำไรพร้อมขยายตัวที่ 12.6% ในปี 2553 ให้ราคาเป้าหมายที่ 320 บาท (ที่มา:นสพ.ข่าวหุ้น 10-06-2010)
• SST ขายสินทรัพย์ 630 ล้านตั้งกองทุน หุ้นใหญ่ชี้ส่งผลดีดันธุรกิจโต-ขออนุมัติผู้ถือหุ้น 14 ก.ค.นี้ บอร์ดทรัพย์ศรีไทย อนุมัติขายทรัพย์สินมูลค่า ไม่ต่ำกว่า 630 ล้านบาทให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ทรัพย์ศรีไทย ซึ่งอยู่ระหว่างขออนุมัติจัดตั้งจากก.ล.ต. หวังนำเงินมาขยาย กิจการ ด้านผู้ถือหุ้นใหญ่เชื่อส่งผลดีทำให้ SST มีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้อนุมัติโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง (EJIP) เตรียมเสนอขออนุมัติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 14 ก.ค.53 นี้ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 10-06-2010)
• MINT หั่นเป้ารายได้เหลือโต8%ปลายปีบริหารโรงแรมเพิ่ม 2 แห่ง MINT หั่นเป้าเติบโตรายได้ปีนี้เหลือ 5-8% จากความเสียของธุรกิจโรงแรม ในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. ประมาณ 50 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% ของรายได้รวม ด้าน “ประภารัตน์” มั่นใจธุรกิจอาหารช่วยหนุน มองกำลังซื้อมีต่อเนื่อง คาดปลายปีเข้ารับบริหารโรงแรมเพิ่ม 2 แห่งที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 10-06-2010)
• “หุ้นกู้ดั๊บเบิ้ลเอ”ยอดจองล้นทะลัก ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดจองหุ้นกู้ 8 มิ.ย. ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างล้นหลามจนยอดจองล้น แต่มีประชาชนจำนวนมากจองไม่ทันและเรียกร้องให้มีการเปิดรับเพิ่ม ดั๊บเบิ้ล เอ จึงตัดสินใจประกาศเปิดรับแจ้งความจำนงต่อไปอีก 2 วันจนถึงวันที่ 10 มิถุนายนตามกำหนดเดิม และจะจัดสรรหุ้นกู้เพื่อกระจายการจัดสรรหุ้นกู้ให้ผู้ลงทุนรายย่อย (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 10-06-2010)
• ชนิตรแนะลงทุนหุ้น 5 ตัวกลางเล็กปันผล - พื้นฐานดี ผู้จัดการตลาด mai แนะลงทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กที่พื้นฐานดี มีปันผลสูง หากไม่มีต่างชาติ ถือหุ้นอยู่จะดีมาก “ข่าวหุ้นธุรกิจ” เลือก 5 หุ้นตัวอย่างขนาดกลาง-เล็กที่ไร้เงาต่างชาติถือหุ้น อาทิ SABINA, IHL, TYM, STEEL และ TMI มีทั้งที่พลิกจากขาดทุนเป็นกำไร กับมีกำไรเติบโตไม่ต่ำกว่า 200% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 10-06-2010)
• เพิกถอนไลเซนส์ WSD ต่อจากถูกกล่าวโทษฐานฉ้อโกง รายงานข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า สำนักงาน ก.ล.ต. เพิกถอนการจดทะเบียนบริษัท WSD Financial (NZ) Ltd. จากการเป็นผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทผู้ค้าสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับผู้ลงทุนสถาบัน ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2553 (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 10-06-2010)
--------------------------------------------------------
Technical View : FSS
“ช่วงนี้ตลาดขยับขึ้นยังเน้นขายทำกำไรไว้ก่อน เพราะยังเสี่ยงต่อการแกว่งลงต่อเนื่องไปหา 740 และ 720 จุดตามลำดับได้ นอกจากผ่าน 773 จุดขึ้นได้ถึงจะตามเทรดดิ้งต่อ...”
แนวรับ : 754-750*** , 740-720
แนวต้าน : 768-773*** , 800
--------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น