Code 130 : ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น

วันพฤหัสที่ 5 สิงหาคม 2553

ATT Code : ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น
กลุ่มแบงค์เป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้เช้านี้หุ้นแบงค์ตัวใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น BBL Kbank SCB บวกขึ้นมากันทั่วหน้า เป็น Lead ให้ SET กลับมายืนเหนือ 870 ได้

CS ปรับเพิ่มเป้าหมาย SCB, BBL, KBANK, KTB, TMB

ข่าวหุ้น : หุ้นไทยพักเที่ยงผ่าน 870 จุดปิดบวก 0.85%
- ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ปิดตลาดในภาคเช้า เวลา 12.30 น. ที่ระดับ 874.75 จุด บวก 7.41 จุด หรือ 0.85% มูลค่าการซื้อขาย 18,116.60 ล้านบาท
- หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ SCB, TRUE, KBANK, KTB และ STA
- บรรยากาศการซื้อขายระหว่างวันดัชนีเปิดตัวในแดนบวก และยืนเหนือจุดทดสอบที่ 870 จุด จากนั้นมีแรงซื้อสลับกับเทขายทำกำไรเล็กน้อย แต่แรงซื้อที่มากกว่าส่งดัชนีปรับตัวขึ้นไปได้เรื่อยๆจนมาปิดระดับที่ 874 จุด

----------------------------------------------------------------------------------
ข่าวหุ้น : Breaking News
05/08 09:55 - SITHAI “ณพล”ทยอยขายหุ้น
05/08 09:53 - RS “สุวัฒน์” ขายหุ้นหนัก
05/08 09:51 - สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐเช้านี้อ่อนตัว แต่ยังยืนเหนือ 82 ดอลลาร์
05/08 09:48 - 3 หุ้นเด่นบล.เกียรตินาคิน
05/08 09:37 - BTS พรุ่งนี้ลูกหุ้นเข้าเทรด
05/08 09:29 - Citi หิ้ว CCP ไปโชว์ตัวต่างประเทศ
05/08 09:27 - CCP เสี่ยงติด Cash Balance ส่วน SLC เข้าเกณฑ์แล้ว
05/08 09:11 - 30 หุ้นฝรั่งไล่ซื้อ 30 หุ้นฝรั่งเทขายวานนี้
05/08 08:49 - 4 หุ้นเด็ด เทคนิคเด่น
05/08 08:47 - หุ้นเด่น จานร้อน บล.ฟิลลิป
05/08 07:12 - ข้อมูลจ้างงาน,ภาคบริการสหรัฐฯขยายตัวส่งดอลล์ทะยานขึ้น
05/08 07:00 - ทองพุ่งทะลุ 1,200 ดอลล์รับข้อมูลศก.สหรัฐฯปรับตัวดีขึ้น
05/08 06:55 - ดอลล์แข็งค่าส่งน้ำมันดิบขยับตัวลดลงหลังปิดแดนบวก 4 วันติด
05/08 06:48 - สหรัฐฯเผยดัชนี ISM ภาคบริการเดือนก.ค.ขยายตัวเพิ่มขึ้น
05/08 06:38 - ดาวโจนส์ปิดบวก 0.4% รับข้อมูลศก.ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: ผันผวนทางบวก
ภาพรวมเศรษฐกิจยังคงเปราะบาง แต่การปรับขึ้นของดัชนีเป็นอิทธิพลของสภาพคล่องที่ไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง คาด SETI วันนี้ยังผันผวนอิงทางบวกได้ต่อจากแรงหนุนของการฟื้นตัวของดัชนีดาวโจนส์หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสูงกว่าคาด และการซื้อสุทธิของต่างชาติอย่างต่อเนื่องกว่าพันล้านบาทวานนี้ แต่ความผันผวนระหว่างวันยังอยู่ในระดับสูง จากภาวะซื้อมากเกินไปทางเทคนิค แต่เนื่องจากดัชนีฟื้นตัวยืนเหนือระดับ 860 ได้อย่างแข็งแรง แม้ปรับขึ้นได้ค่อนข้างจำกัด แต่ Downsideก็มีไม่มากด้วยเช่นกัน จึงอยู่ในลักษณะ Sideways up ได้ต่อ
กลยุทธ์การลงทุน: ระยะสั้นเลือกเล่นหุ้นรายตัวแบบ Selective trading เลือกหุ้นที่มีผลประกอบการดี หรือ ยังคง Laggard กลุ่ม/ตลาด เป็นหลักแนวต้าน: 873-878 แนวรับ: 862-857
การจัดพอร์ตระยะสั้น - หุ้น 50%: เงินสด 50%
หุ้นแนะนำ:
1. ADVANC ซื้อสะสม FV 115 บาท Laggard คาดปันผลครึ่งปี 3 บาท
2. PTT ซื้อสะสม FV 320 บาท Laggard คาดปันผลครึ่งปี 4.75 บาท
3. MINT เก็งกำไร FV 13.80 บาท Laggard
4. STANLY เก็งกำไร FV 190 บาท การฟื้นตัวของอุตฯยานยนต์
5. MAJOR เก็งกำไร FV 14 บาท คาดผลประกอบการดี
6. TCAP เก็งกำไร FV 35.40 บาท แนวโน้มผลประกอบการขาขึ้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ สิ่งที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของลงทุน คือ การประกาศผลการทดสอบ Stress Test ครั้งที่ 2 ของธนาคารพาณิชย์ในจีน (ยังไม่ทราบกำหนดเวลาที่แน่นอน) โดยเปลี่ยนมาใช้กรณีเลวร้ายสุด คือ ให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ของจีนลดลง 50-60% (vs. เดิม 30%) ส่วน SET วันนี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบเหมือนเดิม (+/- 5 จุด) เพื่อรอย่อยผลประกอบการ 2Q10 ที่จะทยอยประกาศออกมา ระวัง BTS CCP & SLC

สัปดาห์หน้า5หุ้นใหญ่ขึ้นเครื่องหมาย XD
วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 09:35:10 น.
บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ เทศกาลปันผลระหว่างกาลเริ่มแล้ว พรุ่งนี้ TPC @ 0.50 แต่ไม่กระทบ SET ส่วนสัปดาห์หน้ามี 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผลระหว่างกาล ได้แก่ DCC SCC PTTEP SCCC & TTW ซึ่งมีมาร์เก็ตแค็ปรวมกัน 9.2 แสนลบ. (13% ของตลาด) แต่ในทางทฤษฎีแล้วจะมีผลให้ SET ลดลงเพียง 2 จุด (0.2%) เท่านั้น หากกำหนดให้ราคาหุ้นตัวอื่นคงที่ แต่หุ้นที่ XD ราคาลงไปเท่ากับปันผลที่จ่าย

ส่องกล้องหุ้นรายตัว
โบรกฯแนะ AMATA ยังพุ่งต่อเนื่องเป้าต่อไป12บ.
วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 09:26:23 น.
บล.เอเซียพลัสแนะนำหุ้นเด่นวันนี้ AMATA หลังจากถูกรับได้ที่ 10.40 บาท ถึง 5 วันติดต่อกัน ล่าสุดราคาได้ปรับตัวพุ่งขึ้นจาก 10.40 จนมาปิดตัวที่ 11 บาท ด้วยปริมาณการซื้อขายที่มากที่สุดในรอบ 8 วัน ทั้งนี้อาการขยับตัวพุ่งขึ้นหลังจากนิ่งมานาน พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายสูงระดับนี้ โดยทางเทคนิคบ่งชี้ชัดเจนว่า มีโอกาสสูงที่ราคาจะขยับตัวขึ้นต่อ โดยคาดว่า 12 บาทคือเป้าหมายที่เป็นไปได้
ทั้งนี้แนะนำ "ซื้อ" และตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 10 บาท โดยมีแนวรับอยู่ที่ 10.40 บาท และแนวต้านอยู่ที่ 12.00 บาท

TK รีเทิร์น! โบรกฯชี้มีลุ้นทะลุ7.5 บ.ไปต่อถึง8บ.
วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 09:15:22 น.
บล.เอเซียพลัสแนะนำหุ้นเด่นวันนี้ TK โดยหลังจากที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายวิจัยเขียนถึงทางเทคนิคไปเมื่อ 21 ก.ค.53 และวางเป้าไว้ที่ 8 บาท แต่หลังจากนั้นราคา TK กลับปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามยังดีที่ลงต่ำสุดแค่เพียง 6.50 บาท ก่อนที่จะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมาจนล่าสุดขยับขึ้นมาอยู่ที่ 7.20 บาท ส่งสัญญาณการฟื้นตัวพร้อมวิ่งต่ออย่างชัดเจน ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงเขียนถึงอีกครั้ง โดยเชื่อว่า TK จะ Break 7.5 บาทและไปต่อได้ถึง 8 บาทได้
ทั้งนี้แนะนำ "ซื้อ" โดยมีแนวรับอยู่ที่ 6.80 บาท และแนวต้านอยู่ที่ 8.00 บาท

BAYผลงานเข้าเป้าเรื่องร้ายกลายเป็นดี
บล.ฟิลลิป วิเคราะห์ภาพโดยรวมของ BAY ยังมีผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้า สินเชื่อ Performing (Good loans) ครึ่งแรกของปีเพิ่มขึ้น 3.2% เทียบเป้าทั้งปีที่ 8% หรือ 48 พันล้านบาท

ทั้งนี้สินเชื่อสุทธิที่โตในอัตรา ที่ต่ำกว่านั้นส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขาย NPL ออกไป CASA เฉลี่ยที่ 41% ของเงินฝากขณะสินเชื่อ Retailอยู่ที่ 42% NIM เฉลี่ยที่ 5% ตามเป้า ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมโตได้เกินเป้าที่ 30% โดยขยายตัวแล้ว 52%Cost/Income (ไม่รวมรายการพิเศษ) ยังต่ำกว่าเป้าที่ 56% ด้าน NPL ลดลงต่ำกว่าเป้าแล้ว

ธนาคารยังมุ่งหน้าในเรื่อง OneBAY ซึ่งจะเป็นการรวบรวมระบบต่างๆ เข้าด้วยกัน ในเริ่อง Collection sConsolidation ได้เสร็จเรียบร้อนแล้วในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมาขณะ Customer ServiceConsolidation (ปัจจุบันเสร็จ 50%) จะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 และ Data Center Consolidation(ปัจจุบันเสร็จ 30%) จะแล้วเสร็จในไครมาสแรก 2555

กำไรครึ่งปีแรกเทียบเท่า 46.6% ของประมาณการทั้งปี 2553 ที่ 9.02 พันล้านบาท โดยทาง ฝ่ายได้ปรับกำไรลงมาที่ 8.84 พันล้านบาทเพื่อสะท้อนค่าการตลาดที่สูงขึ้นในครึ่งหลัง ราคาพื้นฐานปรับลงมาที่ 24.20 บาท/หุ้นอิง P/BV ที่ 1.5 เท่า

ปรับกำไรMAJORเพิ่มหนังฟอร์มยักษ์รอเพียบ
บล.ฟิลลิป ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 53 ของ MAJOR เพิ่มขึ้น หลังปัญหาทางด้านการเมืองคลี่คลาย ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มกลับมาใช้จ่ายมากขึ้น พร้อมกับฟันธงตัวบริษัทจะเติบโตต่อเนื่องถึงปี 54

บล.ฟิลลิป คาดการณ์กำไรใน 2ออกมาดี เพราะปัญหาการเมืองที่คลี่คลายลงไปมาก ซึ่งจะส่งผลต่อ Sentiment เชิงบวกของบริษัท อีกทั้งในครึ่งปีหลังยังมีภาพยนตร์ใหญ่ที่จะเข้าฉายอย่าง Harry Potter7.1 : Harry Potter and the Deathly Hallows, The Chronicles of Narnia: The Voyage of theDawn Treader และตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาค 3 ที่ตอนนี้ยังไม่มีการเลื่อนฉาย

จึงปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้รวมในปี 2553 ที่ 6,231.47 ล้านบาท และปรับลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้สอดคล้อง กำไรสุทธิปรับตัวขึ้นจาก 516.48 ล้านบาท เป็น 546.26 ล้านบาท และหากรวมกำไรจากบริษัทร่วมที่ได้จากการขายโครงการซูซูกิจ อเวนิว กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นเป็น 658.26 ล้านบาท

ในปี 2554 คาดจะยังเติบโตได้แข็งแกร่งจากภาพยนตร์ภาคต่อจากต่างประเทศ เช่น X-Men: FirstClass, Transformers 3, Harry Potter and the Deathly Hallows 7.2, The Twilight Saga: BreakingDawn, Mission: Impossible IV, Final Destination 5 Pirates of the Caribbean: On StrangerTides เป็นต้น และตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาค 4 และหากไม่มีปัญหาประท้วงทางการเมืองก็จะส่งผลดีกว่าในปีนี้

คาดรายได้รวมจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 6,715.03 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 620.73ล้านบาท อิงราคาพื้นฐานที่ 19 เท่าบวกกำไรจากโครงการซูซูกิในปี 2553 จะอยู่ที่ 12.50 บาทและเพิ่มเป็น 14 บาทในปี 2554 ยังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยใช้ราคาพื้นฐานปี 2554

KGI จัดให้ 3 หุ้นเด่นทางเทคนิคเช้านี้
บล.KGI แนะนำ 3 หุ้นเด่นทางเทคนิคเช้านี้

ERAWAN (ราคาปิดวานนี้ 2.36 บาท)
สัญญาณ: ซื้อ
เครื่องชี้: ดี แนะนำ: เก็งกำไรเร็ว
ความเห็น: แรงเหวี่ยง 2.48 ให้ขายตัดขาดทุนหากราคาต่ำกว่า 2.30

SSEC (ราคาปิดวานนี้ 1.15 บาท)
สัญญาณ: ซื้อ
เครื่องชี้: ดี
แนะนำ: เก็งกำไรเร็ว
ความเห็น: แรงเหวี่ยง 1.21 ให้ขายตัดขาดทุนหากราคาต่ำกว่า 1.13

UEC (ราคาปิดวานนี้ 2.78 บาท)
สัญญาณ: ซื้อ
เครื่องชี้: ดี
แนะนำ: เก็งกำไรเร็ว
ความเห็น: แรงเหวี่ยง 2.88 ให้ขายตัดขาดทุนหากราคาต่ำกว่า 2.74

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย.
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-โยกออกจากน้ำมัน!!

ดัชนีหุ้นวันที่ 4 ส.ค.53 ปิดที่ 867.34 จุด เพิ่มขึ้น 2.86 จุด มี มูลค่าการซื้อขาย 30,951 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,037 ล้านบาท

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ชี้ว่าเงินลงทุนต่างชาติยังเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นขนาดใหญ่ของไทยช่วยดันตลาดบวก แต่แรงขายทำกำไรระยะสั้นที่ออกมาทำให้ดัชนีขึ้นไปได้ไม่ไกล ขณะที่มองแนวโน้มตลาดระยะสั้น ยังต้องติดตามการเข้าซื้อของต่างชาติ รวมถึงค่าเงิน โดยหากค่าเงินบาทยังคงแข็งค่า สะท้อนว่าเงินยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นซึ่งจะช่วยประคองไม่ให้ ดัชนีปรับตัวลดลงมาก

แนะกลยุทธ์ให้เก็งกำไรในหุ้นใหญ่อย่างระมัดระวัง!!

โฟกัสหุ้นรายตัว รอบนี้ THAI ชะลอตัวมาที่ 34.50 บาท ลดลง 1.25 บาท หลังผู้บริหารยันเดินหน้าร่วมทุนไทเกอร์ แอร์เวย์ส ตั้งโลว์คอสต์ ไทย ไทเกอร์ แอร์เวย์ส Thai Tiger Airways แม้จะมีเสียงติงจากหลายฝ่าย ขณะที่นักวิเคราะห์ด้านเทคนิค บล.ฟิลลิป ชี้สัญญาณของ THAI ยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวขาขึ้น แต่ระยะสั้นมีสัญญาณพักฐาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นแรง แนะให้รอซื้อเมื่ออ่อนตัว ประเมินแนวรับอยู่ที่ 34 บาท และแนวต้านอยู่ที่ 37 บาท

มาดูกลยุทธ์หุ้นพื้นฐานกันบ้าง บล. เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า หลังได้แนะให้ทยอยสะสมหุ้นปิโตรเลียมมาโดยตลอด นับจากผล Stress Test ของธนาคารในยุโรปที่ออกมาฟื้นความเชื่อมั่นระยะสั้นต่อนักลงทุนทั่วโลก และหนุนให้ค่าเงินยูโรฟื้นตัว สวนทางกับ Dollar Index ที่อ่อนตัว และเป็นตัวหนุนให้ราคาน้ำมันตลาดล่วงหน้า (Nymex) ขึ้นกว่า 10 เหรียญฯต่อบาร์เรล ในรอบ 1 เดือน สู่ระดับ 82.47 เหรียญฯต่อบาร์เรล แตะจุดสูงสุดเดิมในรอบกว่า 2 เดือนไปแล้ว

จึงเชื่อว่าขณะนี้ราคาน้ำมันดิบโลกและค่าเงินยูโรได้ตอบรับข่าวดีนี้ไปมากพอแล้ว จึงแนะให้นักลงทุนระยะสั้นทยอยหาจังหวะขายทำกำไรหุ้นปิโตรเลียมทั้ง PTTEP, BANPU, LANNA และ PTT

แล้วโยกไปหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น คือ BBL, SCB, BLA, THRE หรือกลุ่มที่มีสถานะเป็น net cash ในกลุ่มค้าส่งค้าปลีก เช่น MAKRO, BIGC และ STANLY เป็นต้น.

FSS: SET มีแนวโน้มแกว่งตัวขึ้น-ลงในกรอบ 860-874 จุด หรือหลุดต่ำกว่า 860 ได้
แนวโน้ม: ตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้แม้ว่าส่วนใหญ่จะปิด หรือเคลื่อนไหวในด้านบวก แต่เป็นการขยับบวกในกรอบค่อนข้างแคบ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดีเป็นหลัก ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียยังเปิดทำการด้วยการเป็นบวกเป็นลบแคบๆ ส่วนตลาดหุ้นไทยเองแม้จะยังปิดเป็นบวกต่อเนื่องเมื่อวานนี้ แต่ก็ยังคงมีแรงขายระหว่างวันกดดันอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ FSS คาดว่า SET จะยังคงขยับขึ้นได้ในกรอบจำกัดแถว 870-874 จุด และมีโอกาสที่จะยังแกว่งตัวผันผวน หรือถึงขั้นปรับพักตัวย้อนลงไปแกว่งต่ำกว่า 860 จุดได้ ดังนั้นแม้ว่านักลงทุนต่างประเทศจะยังคงมียอดซื้อสุทธิต่อเนื่องแต่ก็ถือว่าจังหวะแกว่งตัวของตลาดเริ่มมีความเสี่ยง เราจึงยังแนะนำให้แบ่งส่วนขายทำกำไรบ้างโดยเฉพาะเมื่อ SET ขยับขึ้นต่อ และถ้าจะเข้าซื้อก็ต้องใช้วิธีเลือกเป็นรายตัวไปมากกว่ารวมทั้งน่าจะรอซื้อเมื่อตลาดอ่อนตัวลง
กลยุทธ์: ยังเน้นเลือกเข้าเทรดดิ้งในหุ้นที่ขยับขึ้นไม่มาก หรือราคามีการปรับตัวลงมาบ้างในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะมีข่าวสนับสนุนเพื่อความปลอดภัย เช่น BAY, BANPU,CK, ITD, STEC, SEAFCO, ADVANC, DTAC, LPN, SIRI, QH, AP, ROJNA, HEMRAJ,MCOT, BEC, SSI, TSTH, TKS, PDI และ MINT เป็นต้น ขณะที่ PTTEP , PTT , TTW น่า
รอหาจังหวะซื้อใหม่เมื่อราคาปรับลง ส่วน BECL เริ่มระวังแรงขายแถว 19 บาท และ TICON ระวังแรงขายแถว 13 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) นายกฯ คาด GDP 1H10 โต 10% จากคำกล่าวดังกล่าวหมายความว่า GDP2Q10 ต้องโตไม่ต่ำกว่า 8.2% Y-Y (และ -3.4% Q-Q) ทั้งนี้ สภาพัฒน์ฯ จะรายงานGDP ของไทย 23 ส.ค. นี้
(-) STA เราปรับลดคำแนะนำจากเดิมซื้อเป็น ‘ขาย’ เพราะ STA ได้ผ่านช่วงที่มีกำไรที่ดีที่สุดไปใน 2Q10 แล้ว โดยใน 1H10 มีกำไรเฉลี่ยไตรมาสละ 1 พันล้านบาท แต่เชื่อว่ากำไรใน 2H10 จะลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียวคือไตรมาสละ 400 – 500 ล้านบาทสำหรับการเพิ่มทุน Dual listing ในสิงคโปร์น่าจะเสร็จสิ้นใน 3Q10 ราคาเป้าหมายแบบFully diluted จะลดลงเหลือ 20 บาท ต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
(0) AMATA คาดการณ์กำไร 2Q10 -5.7% Q-Q เพราะขายที่ดินได้น้อยลง แต่ดีขึ้นมากถ้าเทียบกับ 2Q09 ที่ขายที่ดินได้เพียง 1 ไร่และมีผลประกอบการขาดทุน สำหรับการขายที่ดินใน 1H10 = 252 ไร่ บริษัทตั้งเป้าปีนี้ 900 ไร่แต่เราคาด 700 ไร่ซึ่งไม่น่ายากเกินเพราะมีลูกค้าเดิม บริษัทแคนาดอล กรุ๊ปกำลังขยายกำลังการผลิตและมีอีหลายรายที่เจรจาอยู่ แต่ราคาหุ้นใกล้เต็มมูลค่าของเราที่ 11.35 บาท แนะนำเพียงถือรอขาย
(+) MAJOR คาดกำไรปกติ 2Q10 -2% Q-Q แต่โต 9 เท่า Y-Y กำไรในครึ่งปีหลังน่าจะยังดีต่อเนื่องจากหนังต่างประเทศและหนังไทยฟอร์มยักษ์ใหม่ๆ ที่จะทยอยเข้าฉายและหลายเรื่องเป็นหนัง 3D (ที่ราคาตั๋วหนังสูงกว่าหนังธรรมดา) แนะนำซื้อโดยมีราคาเป้าหมายปีหน้า 14.80 บาท
Foreign Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าต่อเนื่อง แต่ปริมาณเบาบาง ซึ่งเราเชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่รอผลการประกาศตัวเลขจ้างงานสหรัฐในวันศุกร์นี้ แต่อย่างไรก็ตามหากสังเกตจากค่าเงินยูโรต่อดอลลาร์ยังคงแข็งแกร่ง ประกอบกับการประกาศตัวเลขดัชนีISM ของภาคบริการปรับขึ้นดีกว่าคาดจากทั้งฝั่งอเมริกาและยุโรป รวมถึงตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนจาก ADP เดือน ก.ค เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ประกอบกับค่าเงินบาทและค่าเงินในภูมิภาคเอเชียยังคงแข็งแกร่ง ดังนั้นเชื่อว่ากระแสเงินทุนต่างชาติจะยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียต่อเนื่องเช่นกัน

ข่าวภายในประเทศ
TRUE เทิร์นอะราวด์! ปรับหนี้ลูก 3 หมื่นล้านเป้าหมายเกิน 5.30 บาท ดึงพันธมิตรลงทุน 3จี TRUE พร้อมกลับมาผงาดอีกครั้ง อัพไซด์เหลือเพียบ เคาะ ราคาเป้าหมายใหม่ 5.30 บาท แนวโน้มบริษัทมีสัญญาณดี หลังจากรีไฟแนนซ์หนี้ทรูวิชั่นส์ประสบความสำเร็จกู้เงินใหม่ได้12,000 ล้านบาท จับแผนปรับหนี้ทรูมูฟ 3,000 ล้านบาท พร้อมโดดหาพาร์ทเนอร์หลังได้ไลเซนส์ 3 จี ก่อนวิ่งเข้าตลาดฯเตรียมจดทะเบียนในอีก 3ปีข้างหน้า (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 5-08-2010)
KCE โตไม่หยุด! งบ Q3 รายได้แจ่มลุ้น 60 ล้านเหรียญ KCE มั่นใจยอดขายไตรมาส 3 โตไม่หยุด พุ่งกระฉูด 60 ล้านดอลลาร์ ผู้บริหารชี้ ได้เวลาเข้าไฮซีซั่น ปัจจัยหนุนเพียบ เศรษฐกิจดี อุตสาหกรรมรถยนต์ตื่น ราคาต้นทุนวัตถุดิบลดลง การันตียอดขายทั้งปีโตตามนัด 240 ล้านดอลลาร์แน่ แถมได้ลูกค้ายุโรปตุนเพิ่มอีก 3-4 เจ้า ฟากวงการเงินชี้ กำไรไตรมาส 3 ขั้นต่ำ 190 ล้านบาท ทุบสถิติใหม่อีกรอบ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 5-08-2010)
PERM ไตรมาส 2 พลิกกำไร 22 ล้าน ยอดขายกระฉูด120% รับราคาเหล็กปรับเพิ่มขึ้น PERM โชว์ผลประกอบการไตรมาส 2/53 พลิกกำไรสุทธิ 22 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 120% ราคาขายเหล็กอยู่ในระดับดี ตลท.ขึ้นเครื่องหมาย H เหตุไม่ส่งงบฉบับเต็ม "ชูเกียรติ" รับเกิดปัญหาด้านเทคนิค หลังปลดเครื่องหมายราคาหุ้นขานรับปรับตัวเพิ่มขึ้นทันที(ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 5-08-2010)
JUBILE ปีนี้โต 20% ร่วมมือพันธมิตรรุก3 คอลเลคชั่น JUBILE ย้ำยอดขายทั้งปีโต 20% อัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกวา 40% จับมือพันธมิตรส่ง
3 คอลเลคชั่นใหม่สู่ตลาด หวังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม เล็งเปิดสาขา 3 สาขาใหม่ในต่างจังหวัดภายในสิ้นปีนี้ โบรกฯยังแนะซื้อ คาดเป้าหมาย 4.82บาท คาดจ่ายปันผลครึ่งแรก 0.15 บาท ให้ผลตอบแทน 3.7% ส่วนครึ่งปีหลังแจ่ม (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 5-08-2010)
DEMCO จ่อคว้างานเพิ่ม 3 พันล้านสรุปปลาย Q3 เชื่อรับรู้รายได้ปี54 DEMCO จ่อคว้างานประมูลเพิ่ม 3,000 ล้านบาท กว่า 10 โครงการคาดทยอยทราบผลเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ เชื่อรับรู้รายได้ในปี'54 ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ดี โบรกฯ มองรายได้ถึง 930 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 241% จากปีก่อน และ 105% จากไตรมาสก่อน ส่วนกำไรแตะ 65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 292% จากไตรมาส (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 5-08-2010)
SIRI รุกเปิดแนวราบ 11 โครงการ Q3 ผุดทาวน์เฮาส์แบรนด์ใหม่2ทำเลทอง 1.5 พันลบ. "แสนสิริ" บุกตลาดแนวราบ ครึ่งปีหลังลุยเปิดบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ 11 โครงการ มูลค่ารวม 1.44 หมื่นล้านบาท ประเดิม Q3 เปิดทาวน์เฮาส์แบรนด์ใหม่ "ทาวน์ อเวนิว" 2 โครงการ มูลค่ารวม 1.5 พันล้านบาท บน 2 ทำเลทอง "พระราม 2 - ศรีนครินทร์" ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท และ 3.99 ล้านบาท สร้างยอดขายก่อนเปิดอย่างเป็นทางการ 30% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 5-08-2010)

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.

ข่าวต่างประเทศ
ยุโรป: ยอดค้าปลีกยูโรโซนทรงตัวในเดือนมิ.ย. เหตุปชช.ลังเลใช้จ่ายขณะอัตราว่างงานอยู่ในระดับสูง สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรปหรือ ยูโรสแตท เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. ในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 16 ประเทศ ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดือนก่อน ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ และสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงลังเลในการใช้จ่ายเงิน แม้ว่าวิกฤตหนี้สาธารณะในภูมิภาคจะเริ่มคลี่คลายลงแล้วก็ตาม เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ในยูโรโซนไม่เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ค. ซึ่งในเดือนนั้น ยอดค้าปลีกขยายตัว 0.4% ขณะที่เมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. ขยายตัว 0.4% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค. (ที่มา: อินโฟเควสท์ 04-08-2010)
ยุโรป: ดัชนี PMI ภาคบริการ-ภาคการผลิตยุโรปเดือนก.ค.ขยายตัว ส่งสัญญาศก.ฟื้นตัวต่อเนื่อง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการและภาคการผลิตในยุโรปขยายตัวเร็วขึ้นในเดือนกรกฎาคม นับเป็นส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาร์กิต อิโคโนมิค เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการและภาคการผลิตยุโรป ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 56.7 จุดในเดือนกรกฎาคม จากระดับ 56 จุดในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 04-08-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วร่วงเกินคาด 2.8 ล้านบาร์เรล สต็อกเบนซินเพิ่มขึ้น 7 แสนบาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ค.ร่วงลง 2.8 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 358 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ดังกล่าวยังสูงกว่าระดับของปีที่แล้วอยู่ประมาณ 2.4% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 04-08-2010)
สหรัฐอเมริกา: ADP เผยภาคเอกชนในสหรัฐเพิ่มการจ้างงาน 42,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัย
ด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วประเทศเพิ่มการจ้างงาน 42,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่มีการจ้างงานเพียง 19,000 ตำแหน่ง และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 40,000 ตำแหน่ง การเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของ ADP มีขึ้นก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) เดือนก.ค. ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.จะลดลง 65,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ค.จะอยู่ที่ 9.6% เพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 9.5% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 05-08-2010)
เอเชีย: ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 6.5% แม้เงินเฟ้อพุ่งเร็วสุดในรอบ 15 เดือน ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 6.5% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทำสถิติการคงดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเวลา 12เดือน แม้ตัวเลขเงินเฟ้อในอินโดนีเซียพุ่งขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบ 15 เดือนหลังจากราคาอาหารทะยานขึ้นก็ตาม (ที่มา: อินโฟเควสท์ 04-08-2010)

----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น