Code 136 : จับตาประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่าง พรบ.งบประมาณฯ

วันอังคารที่ 17 สิงหาคม 2553

ATT Code : จับตาประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่าง พรบ.งบประมาณฯ
FSS: เศรษฐกิจของหลายประเทศยังแสดงถึงแนวโน้มการชะลอตัว ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของสหรัฐ จีน และญี่ปุ่น การรีบาวด์ขึ้นในช่วงนี้จึงคาดว่าจะมีกรอบการขึ้นที่ค่อนข้างจำกัด และยังมีแนวโน้มที่จะปรับพักตัวลงต่อเนื่องอีกครั้งได้ รวมถึง SET ก็เช่นกัน นอกจากนี้ในบ้านเรายังมีประเด็นเรื่องของการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่าง พรบ.งบประมาณฯ ในช่วงกลางถึงปลายสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งคาดว่านักลงทุนบางส่วนยังกังวลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลพอควร

ภาคเช้า SET เปิดที่ 862.18 จุด +1.63 จุด สามารถเปิดขึ้นมายืนเหนือเส้น 10 วันที่ 862 แต่ตอนปิดภาคเช้า SET ก็กลับมาปิดลบ 0.44 จุด ที่ 860.11 จุด โดยหุ้นกลุ่มสื่อสารตัวเล็กๆ ที่เกี่ยวข้องกับ 3 G เริ่มวิ่งแล้ว เช่น JAS Samart True Thcom เป็นต้น


ภาคบ่าย SET ปิดตลาดที่ 865.78 จุด +5.23 จุด กลุ่มพลังงาน แบงค์ และกลุ่มสื่อสาร มีแรงซื้อและดันตลาดพลิกกลับมาบวกให้ในช่วงบ่าย สามารถกลับมายืนเหนือเส้น 5 วัน มที่ 865 ได้ ถือว่าสวยงามมาก พร้อมกับตลาดยุโรปก็เปิดมาบวกเกือบ 1% น้ำมันก็บวก 1% DJ Future ก็บวก 0.5% พรุ่งนี้ลุ้น STO ตัดขึ้น และ SET มีเป้าหมายแรกที่ 870 และ 875 เป็นลำดับต่อมา

--------------------------------------------------------------------------------
FSS : HeadLine
CPF ... JPM initiate coverage with OverWeight , Price Target Bt35
SIRI กำไรปกติ 2Q10 ลดลง 23.5% Q-Q และ 27.0% Y-Y ดีกว่าคาด
CK: 2Q10 ขาดทุนดำเนินงานปกติ 136 ล้านบาทแต่มีกำไรสุทธิเป็นบวกที่ 22 ล้านบาท

--------------------------------------------------------------------------------
ข่าวหุ้น : Breaking News
17/08 09:05 - หุ้นเด่น จานร้อน บล.ฟิลลิป
17/08 08:06 - ราคาทองแดงปิดพุ่งหลังสต็อกลดลง
17/08 08:02 - ดอลลาร์ร่วงลงในวันจันทร์ หลังทะยานขึ้นแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
17/08 07:58 - ราคาทองคำพุ่งสูงสุดในรอบ 1 เดือน
17/08 07:55 - ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐร่วงลงเกินคาดในเดือนส.ค.
17/08 07:53 - ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดบวก 20 จุด
17/08 07:47 - ตลาดหุ้นยุโรปนิ่ง นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจโลก
17/08 07:43 - เศรษฐกิจสหรัฐและญี่ปุ่นอ่อนแอ ฉุดราคาน้ำมันดิบ NYMEX ร่วง
17/08 07:38 - ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 1.14 จุด เศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญาณชะลอตัว
16/08 17:21 - THAI ไตรมาส 2 พลิกมีกำไร 1.55 พันล้านบาท

----------------------------------------------------------------------------------
ตัวเลขเช้านี้ 17/08/53
ข้อมูลอื่นๆ ......SET ปิดที่ 860.55 จุด -1.61 จุด High 865.11 จุด low 857.51 จุด......แนวรับ 855 // /850-847 จุด แนวต้าน 865-870 จุด......PE SET 13.38 เท่า.........สัดส่วนการซื้อขาย ฝรั่งซื้อ 398.56 ล้าน กองทุนขาย 1833.58 ล้าน……...โบรกเกอร์ ที่ net buy CS 773, DBSV 573, AYS 486, PHATRA 457 และ KEST 388………..โบรกเกอร์ที่ net sell MACQ -1958, UBS -827, BLS -535, FSS -233 และ BSEC -175 .......TFEX SET50 ปิดที่ 585.69 จุด -0.04 จุด.......S50U10 ปิดที่ 580.90 จุด -1.40 จุด .... high 584.40 จุด low 577.10 จุด OI 22,015 ….......status futureวานนี้ Foreign net LONG 1023 - Fund net SHORT 2415 - Retail net LONG 1392............ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJ ปิด -1.14 จุด…......ตลาดเอเซียเช้านี้ 9.35 น. NIX -67.82 จุด , HSKI -44.26 จุด, TWSE +12.97 จุด, KOSPI +6.85 จุด และSHCOMP +7.08 จุด.....ดาวโจนส์ในตลาดล่วงหน้า +3 จุด.....…...COMODITY.... น้ำมัน NYMEX ส่งมอบ ก.ย. ปิดที่ 75.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปป. -0.15 ดอลลาร์.............ทองคำ COMEX ปิดที่ 1,226.20 เหรียญ ปป. +9.60 ดอลล์ ......ค่าการกลั่น 4.73 ดอลล์......BDI ปิดล่าสุดอยู่ที่ 2488 จุด ปป. +20 จุด …...ราคาสังกะสีในตลาด LME ล่วงหน้า 3 เดือนปิดล่าสุดที่ 2073.00 ดอลลาร์ต่อตัน ปป. +26.0 ดอลล์

----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
17 สค. 53 ( -1.61 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ปรับตัวลง 856 – 858 จุด
แนวโน้มในวันอังคารนี้ ดัชนีมีโอกาส ปรับตัวลง 856 - 858 ใกล้จุดต่ำสุดของวันจันทร์ จากนั้น มีโอกาสที่ดัชนีจะดีดตัวกลับขึ้นไปแถว 863 – 865 ใกล้จุดสูงสุดของวันจันทร์อีกครั้ง
สำหรับภาพระยะสัปดาห์ มีโอกาสที่ ดัชนีจะแกว่งตัวขึ้นลง ตลอดทั้งสัปดาห์ในกรอบ ระหว่าง 856 – 865 หรือระหว่างจุดต่ำสุดของ สัปดาห์ที่แล้วกับเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมง
ขณะที่แนวโน้มหลัก ยังคงอยู่ในช่วงของ การปรับฐาน มีเป้าหมายประมาณปลายเดือนนี้ บริเวณ 832 – 839 จุด หรือประมาณระยะทาง ในการปรับตัวลงเท่ากับอัตราส่วน Fibonacci Ratio 38.2% ที่ปรับตัวขึ้นมาในรอบนี้





----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-ใครหย่าย...!!

ดัชนีหุ้นวันนี้ปิดที่ 860.55 จุด ลบ 1.61 จุด โดยระหว่างวันแกว่งตัว ในกรอบ 857.51-865.11 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 28,048 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 398.56 ล้านบาท

หุ้น STEC ทำราคาสูงสุดกว่า 4 ปี หลังผู้บริหารคาดกำไรสุทธิปีนี้ดีกว่าปีก่อน และมีงานในมือสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีงานก่อสร้างที่รอเซ็นสัญญาอยู่ราว 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้สิ้นปีนี้งานในมือของบริษัทจะอยู่ราว 3.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในช่วง 3 ปีนี้ โดยงานในมือที่ระดับดังกล่าวถือว่าสูงสุดในรอบ 48 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา

ยุคนี้ก็รู้กันอยู่ว่า...ใครใหญ่... (มือ) ใครยาว สาวได้สาวไป!!

ล่าสุด STEC ปิดที่ 8.90 บาท บวก 0.55 บาท

ขณะที่หุ้น THAI ทำราคาสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี หลังผู้บริหารระบุว่า คณะกรรมการเห็นชอบแผนการจัดการเงินกู้จากสถาบันการเงินภายในประเทศวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท โดยวงเงินกู้ดังกล่าว เป็นไปตามการจัดหาเงินทุน

ตามแผนปรับโครงสร้างทางการเงิน และเงินบางส่วนจะใช้ในการจัดหาเครื่องบิน ตามแผนรัฐวิสาหกิจ 5 ปี

โดย THAI แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 1,552.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 5,403.40 ล้านบาท ขณะที่งวดรวม 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 12,276.44 ล้านบาท ล่าสุด THAI ปิดที่ 39.75 บาท บวก 2.25 บาท

ส่วน AOT น่าช้ำใจ ไตรมาส 2 ขาดทุนสุทธิ 516.23 ล้านบาท แย่ลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลกำไรสุทธิ 1,313.77 ล้านบาท ส่วนงวดรวม 6 เดือน 2,058.78 ล้านบาท ล่าสุด AOT ปิดที่ 38.50 ลบ 0.75 บาท ขณะที่ TRUE ไตรมาส 2 ขาดทุนสุทธิ 448.32 บาท แย่ลงกว่างวดเดียวกันกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,224.27 ล้านบาท

ปิดท้ายนักวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง มองหุ้น PTT กลับมาทะยานบวกแรง 5 บาท มาที่ 255 บาท ว่าเป็นการดีดกลับทางเทคนิคหลังปรับฐานลงมามากในสัปดาห์ที่ผ่านมา อีกทั้งมีแรงซื้อเก็งกำไรจากกรณีมาบตาพุดหลังรัฐบาลคาดว่าจะประกาศประเภทกิจการรุนแรง 23 ส.ค.นี้

ขณะที่ผู้บริหาร PTT ยืนยันโรงแยกก๊าซธรรมชาติแหล่งที่ 6 ของ PTT มีมาตรฐานสูงสุด!!

FSS:ลุ้นตลาดรีบาวด์กลับขึ้น แต่กรอบจำกัด..จึงยังน่ารอจังหวะซื้อตอนลงอยู่
แนวโน้ม: หลังจากความวิตกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกดดันความมั่นใจของนักลงทุนในช่วงตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้วมาจนถึงต้นสัปดาห์นี้ ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงกันมาพอสมควร เช้านี้หลายตลาดจึงเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง ส่งผลให้เริ่มขยับกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเป็นบวกได้ รวมถึงตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ด้วย อย่างไรก็ตามตัวเลขเศรษฐกิจของหลายประเทศยังแสดงถึงแนวโน้มการชะลอตัว ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของสหรัฐ จีน และญี่ปุ่น การรีบาวด์ขึ้นในช่วงนี้จึงคาดว่าจะมีกรอบการขึ้นที่ค่อนข้างจำกัด และยังมีแนวโน้มที่จะปรับพักตัวลงต่อเนื่องอีกครั้งได้ รวมถึง SET ก็เช่นกัน นอกจากนี้ในบ้านเรายังมีประเด็นเรื่องของการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่าง พรบ.งบประมาณฯ ในช่วงกลางถึงปลายสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งคาดว่านักลงทุนบางส่วนยังกังวลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลพอควร ดังนั้นถ้า SET ขยับขึ้นจึงยังควรมองหาจังหวะขายทำกำไร โดยเฉพาะในหุ้นที่ราคาขยับขึ้นมาสูงมากแล้ว ส่วนจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อ FSS ยังแนะนำให้รอช่วงตลาดปรับตัวลงอีกครั้งจะปลอดภัยกว่า
กลยุทธ์: ตลาดดีดขึ้นยังน่าทยอยขายทำกำไรบ้าง โดยจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อครั้งใหม่ ยังแนะนำให้รอช่วงตลาดปรับพักตัวลงต่อ โดยหุ้นที่น่าสนใจทยอยเข้ารับเมื่อตลาดปรับตัวลงต่อเป็นลำดับแรกๆ คือหุ้นที่ราคาตลาดต่ำกว่าราคาตามปัจจัยพื้นฐานมากๆ เช่น KCE,HANA, DELTA, SCB, TCAP, KBANK, BBL, SEAFCO, DCC, QH, LPN, SPALI, BANPU,ROJNA, MAJOR, TVO และ CPALL เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) ผลประกอบการ 2Q10 -13% Q-Q, +7% Y-Y หุ้นใน FSS Coverage มีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ไม่รวมรายการพิเศษ 1.03 แสนล้านบาท -13.2% Q-Q,+6.8% Y-Y กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีฉุดลงมากที่สุด เพราะกำไรปกติ -13.4% Q-Qส่วนกลุ่มอสังหาฯ กำไรลดลงถึง 29% Q-Q เพราะนอกจากจะเผชิญปัญหาการชุมนุมที่ทำให้ยอดขายตกแล้ว ผู้ประกอบการยังมีต้นทุนภาษีธุรกิจเฉพาะเพิ่มขึ้นเพราะหมด
มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐตั้งแต่สิ้นไตรมาสแรก ทำให้ต่างเร่งโอนไปตั้งแต่ไตรมาสแรกกันมาก
(+) กลุ่มที่มีกำไรฟื้นตัวชัดเจนต่อเนื่องจากไตรมาสแรก ได้แก่กลุ่มเกษตรและอาหาร (กำไร +26% Q-Q) กลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ (+22% Q-Q) กลุ่มหลักทรัพย์(+15% Q-Q) กลุ่มบันเทิง (+8% Q-Q) และกลุ่มแบงก์ (+3% Q-Q)

(+) กลุ่มกำไรจะโตต่อเนื่องใน 2H10 ได้แก่กลุ่มแบงก์ อิเล็คทรอนิคส์ เกษตรและอาหารเฉพาะที่มีการขยายกำลังการผลิต (GFPT, TVO, TUF) ขณะที่ CPF, STA,TRUBB กำไร peak ไปแล้ว นอกนั้นมีกลุ่มค้าปลีก บันเทิง รับเหมา กลุ่มอสังหาฯที่กำไรโตต่อในครึ่งปีหลังได้แก่ PS, LPN, SPALI

Foreign Fund Flow วานนี้ไหลออกต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่สูญเสียอัตราการฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ Risk Appetite หายไป หรือความอยากที่จะเสี่ยงน้อยลง อย่างไรก็ตามช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของทิศทางเศรษฐกิจโลกว่าจะกลับมาชะลอตัวเพิ่มหรือจะขยายตัวต่อเนื่อง ค่าเงินยูโรยังคงอ่อนตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นแนวโน้ม Fund Flow ระยะสั้นนี้อาจยังไหลออกต่อเนื่อง แต่ปริมาณจะไม่มาก สำหรับค่าเงินบาทเช้านี้ยังแข็งค่าต่อเนื่องแสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย เพราะมองว่าเศรษฐกิจไทยยังเติบโตดีต่อเนื่อง


ข่าวภายในประเทศ
AH กำไรท่วม117 ล้านหักปากกาเซียนทิ้ง! AH หักปากกาเซียนกำไรไตรมาส 2 พุ่งเดือด 117 ล้านบาท ครึ่งแรกฟาดกำไรท่วม 172 ล้านบาท
แถมเซอร์ไพรส์อัดปันผลระหว่างกาล 26 สตางค์ สูงกว่าที่คาดเกินเท่าตัว ฟากโบรกฯเดินหน้าปรับประมาณการใหม่ทันที ยอดขายปีนี้พุ่ง 10,000
ล้านบาท ขณะที่กำไรทะลุ 370 ล้านบาท แถมราคาหุ้นยังต่ำบุ๊ค 15.90 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 17-08-2010)
เจพีฯดัน CPF พุ่งเป้าสูงปรี๊ด35 บ. ฟันกำไรหุ้นบาน เจพี มอร์แกน ให้ราคาเป้าหมายหุ้น CPF สูงปรี๊ด 35 บาท หลัง ROEเติบโตขึ้น 25.6% สูง
อย่างมีนัยสำคัญ หลังล็อกราคาต้นทุนเนื้อสัตว์ล่วงหน้า 11 เดือนดันมาร์จิ้นเติบโตสูง อาหารแปรรูปขยายตัวดี แถมมีกำไรจากแคปปิตอล เกน ใน
พอร์ตลงทุนสูงถึง 3.1 หมื่นล้านบาท หลังราคาหุ้น CPALL, TRUE, Charoen Pokphand Ent Taiwan และอื่นๆ ที่ถืออยู่ พุ่งขึ้นตามภาวะตลาด ทำกำไรต่อหุ้นจากการลงทุน (PER CPF share) พุ่งขึ้นอีก 4.19 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 17-08-2010)
TYM แจ่มโชว์กำไรกระฉูด 757%ราคาเหล็กขึ้นรายได้ 1.8 พันล้าน TYM โชว์กำไรไตรมาส 2/53 เติบโต 757% อยู่ที่ 72.40 ล้านบาท
เนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้น 1,812.5 ล้านบาท จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาขายเหล็ก และปริมาณการขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น ดันกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 7.6%
“บุญชัย” แย้ม ครึ่งปีหลังมีโอกาสเติบโตในทิศทางที่ดี ย้ำทั้งปีโต 10% เตรียมแผนลงทุนใหม่ในอนาคต ส่วนการหาพันธมิตรยังไม่คืบ (ที่มา: นสพ.
ข่าวหุ้น 17-08-2010)
เอกชนระทึกร่างครอบงำต่างด้าวศุกร์นี้ กทช.แอบงุบงิบเร่งรีบทำประชาพิจารณ์ กทช.เล็งคลอดร่างบริการโทรคมนาคมพื้นฐานชนบทกำกับผู้ชนะประมูลไลเซนส์ 3 จี กำหนดกฏเหล็กต้องให้บริการบรอดแบนด์ในพื้นที่ห่างไกลรวม 45,000 โรงเรียน กรอบเวลา 5 ปี ความเร็ว 2 เมกฟรี 60 เดือน แทนการจ่ายค่าธรรมเนียม 4% คาดชงเสนอบอร์ดได้ปลายเดือนส.ค.นี้ โอเปอเรเตอร์ 5 รายดอดขอซองประมูล 3 จี ฟากกทช. “สุธรรม” เล็งเปิดประชาพิจารณ์ร่างครอบงำต่างด้าววันศุกร์นี้นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) กล่าวว่าคณะทำงานโครงการโทรศัพท์สาธารณะในพื้นที่ห่างไกล (USO) ได้เตรียมบรรจุหลักเกณฑ์การให้บริการ USO สำหรับผู้ได้รับใบ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 17-08-2010)
AMATA ปลื้มรับเพิ่ม 200 ไร่ ขายที่ดินผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ “AMATA” เซ็นสัญญาขายที่ดินกว่า 200 ไร่ในนิคมฯอมตะนคร ให้กับบริษัทผลิต
มอเตอร์ไซค์จากยุโรปและจีน 4 ราย ตั้งโรงงานประกอบมอเตอร์ไซค์สำเร็จรูปขนาดใหญ่ เพื่อขายในประเทศและส่งออก พร้อมซุ่มเจรจาขายที่ดินให้กับผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ค่ายยุโรปอีก 1 ราย คาดสรุปผลเร็วนี้ โบรกฯแนะ”ซื้อ” ราคาเหมาะสม 14.90 บาท คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัว(ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น17-08-2010)
TMI ฟุ้งกำไร-รายได้โตเกินเป้า 20% เล็งรุกขยายตลาดอินเดีย-อินโดนีเซีย คาดสรุปปีนี้ TMI มั่นใจปีนี้กำไร-รายได้โตมากกว่าเป้าที่ 17-20% หลังครึ่งปีแรกโชว์กำไรเพิ่มกว่า 81% และรายได้เพิ่มกว่า 16% ล่าสุดเจาะตลาดอียิปต์ พร้อมรุกเข้าอินเดีย-อินโดนีเซีย คาดสรุปได้ภายในปีนี้ เชื่อได้รับอานิสงส์จากค่าเงินหยวนแข็ง เพิ่มโอกาสการแข่งขันในตลาดโลก ส่วนโมเดิร์นเทรดยังอยู่ระหว่างการเจรจา 1-2 ราย คาดได้ข้อสรุปปีนี้ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 17-08-2010)

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ดาวโจนส์ปิดลบ น้ำมันร่วง15เซนต์
หุ้นสหรัฐฯปิดตลาดวันที่ 16 ส.ค.ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,302.10 จุด ลดลง 1.14 จุด ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 15 เซนต์ ไปปิดที่ 75.24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล.....

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯวันที่ 16 ส.ค.หลังจากดัชนีปรับลดลงมาตลอดการซื้อขาย 4 วัน ในวันนี้ดัชนีกลับมาแกว่งตัวกระจัดกระจายในกรอบแคบ ๆ ทั้งบวกและลบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจมากระตุ้นตลาด ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 15 เซนต์ ไปปิดที่ 75.24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,302.10 จุด ลดลง 1.14 จุด หรือ 0.01% ดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 1,079.38 จุด เพิ่มขึ้น 0.13 จุด หรือ 0.01% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 2,181.87 จุด เพิ่มขึ้น 8.39 จุด หรือ 0.39%

ตลาดหุ้นสำคัญของยุโรป ดัชนี FTSE 100 ตลาดลอนดอน ปิดที่ 5,276.10 จุด เพิ่มขึ้น 0.66 จุด หรือ 0.01% ดัชนี DAX ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต ปิดที่ 6,110.57 จุด เพิ่มขึ้น 0.16 จุด หรือ 0.00% และดัชนี CAC 40 ตลาดปารีส ปิดที่ 3,597.60 จุด ลดลง 13.31 จุด หรือ 0.37% ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนต์ ตลาดลอนดอน ปิดที่ 74.85 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 26 เซนต์

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดที่ 1,224.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 9.60 ดอลลาร์สหรัฐ.

ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้สร้างบ้านร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ(NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้สร้างบ้านที่มีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงสู่ระดับ 13 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว และเป็นสถิติที่ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ นอกจากนี้ บ้านถูกยึดจำนองซึ่งมีราคาถูกและมีอยู่เป็นจำนวนมากในตลาด ยังส่งผลให้กลุ่มผู้ซื้อลดความสนใจที่จะเข้าซื้อบ้านหลังใหม่ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 17-08-2010)
เอเชีย: จีนแซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก หลัง GDP ญี่ปุ่นโตน้อยกว่าคาด ญี่ปุ่นสูญเสียอันดับประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกให้กับจีน หลังจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของญี่ปุ่นขยายตัว0.4% ต่อปี หรือขยายตัว 0.1% ต่อไตรมาส ถึงแม้ว่าจะทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส แต่ตัวเลขจีดีพีก็ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จะขยายตัว 2.3% ต่อปี และ 0.6% ต่อไตรมาส ซึ่งเป็นผลมาจากดีมานด์ทั่วโลกชะลอตัวลงและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มเห็นผลน้อยลง (ที่มา: อินโฟเควสท์ 16-08-2010)
เกาหลีใต้เผยยอดเกินดุลการค้าเดือนก.ค.พุ่งต่อเนื่องหลังส่งออกดีดตัว สำนักงานศุลกากรเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้าในเดือนก.ค. 5.51 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นยอดเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 หลังจากที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ยอดการส่งออกของเกาหลีใต้ในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 28.3% แตะ 4.09 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้าขยายตัว 28% แตะ 3.54 หมื่นล้านดอลลาร์ สำนักข่าวยอนฮัพรายงาน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 16-08-2010)
เอเชีย: ปธน.อินโดนีเซียคาดเศรษฐกิจในประเทศขยายตัว 7.7% ในปี 2557 นายซูซิโล บัมบัง ยุดโดห์โยโน ประธานาธิบดีอินโดนีเซียกล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มขยายตัว 7-7.7% ภายในปี 2557 ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เศรษฐกิจอินโดนีเซีย ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขยายตัว 5.9% หลังจากที่การบริโภค การส่งออก และการลงทุนปรับตัวสูงขึ้น สำหรับทั้งปีนี้รัฐบาลคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 5.9% ขณะที่หลายฝ่ายเชื่อว่าอาจทะลุ 6% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 16-08-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น