Code 132 :ค่าเงินแข็งสุดรอบ 2 ปี หลุด 32 แล้ว

วันที่ สิงหาคม 2553
ATT Code : ค่าเงินแข็งสุดรอบ 2 ปี หลุด 32 แล้ว

ข่าวหุ้น : โบรกชี้หุ้นไทยผันผวนสูงค่าเงินแข็งสุดรอบ 2 ปี วันศุกร์ฝรั่งไล่เก็บแบงก์
วันจันทร์ที่ 09 สิงหาคม 2010 เวลา 09:37:28 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่าเงินบาทเมื่อเปรียบเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐเช้านี้แข็งค่าขึ้น โดยล่าสุด ณ เวลา 9.20 น.ซื้อขายอยู่ที่ 31.97 บาท แข็งค่าขึ้น 0.05 บาท สูงสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่วันศุกร์ จากข้อมูลการซื้อขายผ่าน NVDRพบว่า หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายจำนวนมาก เป็นหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ BBL SCB KTB KBANK และBAY ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนบวกและแดนลบ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดสัปดาห์นี้หุ้นปรับฐาน แนะซื้อหุ้นที่ฟื้นตามธุรกิจท่องเที่ยว และราคาหุ้นขึ้นน้อยคือ MINT, MAKRO ตามด้วยหุ้นฟื้นตามการก่อสร้างรถไฟฟ้าฯ คือ BMCL รวมถึงหุ้น PER/PBV ต่ำ คือ SYNTEC, MKบล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: ปรับฐานระหว่างวันปัจจัยภายนอกอิงทางลงหลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่แย่กว่าคาดกดดันตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป และราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนปัจจัยภายในด้านการเมืองถือว่าทรงตัว หากแต่กระแสเงินลงทุนต่างชาติที่ยังไหลเข้ามาในภูมิภาครวมถึงตลาดหุ้นไทยน่าจะเป็นตัวช่วยประคองการปรับฐานระหว่างวันที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ได้ ขณะที่ค่าเงินบาททรงตัวด้านแข็งค่าอยู่แถว 32 บาท/ดอลลาร์ ในเช้าวันนี้ (7.45น.) โดยรวมมองตลาดอาจมีความผันผวนสูง แต่ดัชนีขยับไปไม่ได้ไกล เข้าข่ายไม่กล้าขึ้นแรง แต่ก็ไม่ยอมลง
กลยุทธ์การลงทุน: ระยะสั้นเลือกเล่นหุ้นรายตัวแบบ Selective trading เลือกหุ้นที่มีผลประกอบการดี / มีปันผลระหว่างการ หรือ ยังคง Laggard กลุ่ม/ตลาดเป็นหลักแนวต้าน : 885-892 แนวรับ : 869-864บล.เอเซียพลัสระบุในบทวิเคราะห์ดังนี้ เป็นสัปดาห์ของการปรับฐาน ดัชนีใกล้ 880 จุด แนะขายหุ้นแพง (อาหาร/อสังหาฯ) ราคาขึ้นแรง (สื่อสาร) และ ธ.พ. หลังรัฐเบรกให้ลด NIM รวมถึงหุ้น Global Plays หลังฟื้นตัวตามราคาน้ำมันดิบโลก โดยแนะให้ซื้อหุ้นที่ฟื้นตามธุรกิจท่องเที่ยว และราคาหุ้นขึ้นน้อยคือ MINT, MAKRO ตามด้วยหุ้นฟื้นตามการก่อสร้างรถไฟฟ้าฯ คือ BMCL รวมถึงหุ้น PER/PBV ต่ำ คือ SYNTEC, MK
--------------------------------------------------------------------------------
ข่าวหุ้น : Breaking News
09/08 09:10 - QLT ปันผลระหว่างกาล 0.10 บาทต่อหุ้น
09/08 09:08 - 4 หุ้นเด็ด สัญญาณเทคนิคเด่น
09/08 09:03 - (เพิ่มเติม) NBC กำไรสุทธิไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 123%
09/08 08:57 - หุ้นเด่น จานร้อน บล.ฟิลลิป
09/08 08:47 - NBC ปันผลไตรมาส 2 อีก 0.12 บาท รวมครึ่งปีจ่าย 0.22 บาท
09/08 08:39 - 30 หุ้นฝรั่งไล่ซื้อ 30 หุ้นฝรั่งทิ้งวันศุกร์
09/08 08:24 - STEC กำไรสุทธิไตรมาส 2 เพิ่ม 123%
09/08 08:22 - DELTA ไตรมาส 2 กำไรเพิ่ม 267%
09/08 08:18 - ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) วันศุกร์ปิดบวก 52 จุด
09/08 08:13 - ราคาทองวันศุกร์ปิดบวกติดต่อเป็นวันที่ 8
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - ทิศทางหุ้น 09/08/53




ภาวะการซื้อขายหุ้น
แนวโน้มในสัปดาห์นี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย และบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีแกว่งตัว ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความต่อเนื่องของกระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ภูมิภาคเอเชีย ผลการประชุมนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่ 10 ส.ค. รวมทั้งการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ และจีน ทั้งนี้ คาดว่า ดัชนีมีแนวรับที่ 865 และ 845 จุด แนวต้านที่ 882 และ 924 จุด

ภาวะตลาดเงินและตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นยังนิ่ง โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการทยอยไหลกลับเข้ามาของสภาพคล่องหลังจากการเบิกถอนเงินสดของลูกค้าในช่วงสิ้นเดือน ทั้งนี้ ดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ประเภทกู้ยืมข้ามคืน (Overnight) หนาแน่นตลอดทั้งสัปดาห์ ที่ระดับ 1.37%
ขณะที่เงินบาทในประเทศแข็งค่าขึ้นทดสอบระดับ 32.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ เงินบาทแข็งค่าทะลุระดับ 32.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์ และในวันศุกร์ เงินบาทแข็งค่ามายืนที่ระดับประมาณ 32.04 (ตลาดเอเชีย)

FSS:แม้ว่าจะยังเข้าเทรดดิ้งต่อได้ แต่ต้องเน้นเลือกเป็นรายตัว และขายทำกำไรบ้าง!
แนวโน้ม: ตลาดหุ้นไทยและภูมิภาคยังค่อนข้างแข็งแกร่ง จากเม็ดเงินของนักลงทุนต่างประเทศที่ยังคงมีเข้ามาในเอเชียอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเมื่อคืนวันศุกร์ดัชนีดาวโจนส์จะปิดปรับตัวลง จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก ส่งผลให้ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นยุโรปปิดเป็นลบกัน แต่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่กลับเปิดทำการด้วยการบวกต่อ แม้ว่าจะยังมีกรอบการขึ้นที่จำกัดก็ตาม ทำให้ FSS คาดว่า SET ก็น่าจะยังมีโอกาสแกว่งตัวเป็นบวกได้อยู่ แต่จะเป็นการขยับบวกจากการขึ้นของหุ้นเป็นรายหลักทรัพย์มากกว่า โดยเฉพาะเราเริ่มเข้าสู่ช่วงท้ายของการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/53 ของ บจ.ต่างๆ ซึ่งยังมีหลายบริษัทที่มีแนวโน้มผลประกอบการที่ดี อย่างไรก็ตามหลังการประกาศผลการดำเนินงานรายไตรมาสผ่านพ้นไปแล้ว ต้องเริ่มระวังแรงขายทำกำไรหลัง SET ขยับขึ้นมามากพอควรแล้ว และความกังวลต่อการชะลอตัวที่ค่อนข้างรุนแรงของทั้งเศรษฐกิจสหรัฐและจีนอาจส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้ ดังนั้นเรายังคาดว่า SET จะอยู่ในลักษณะขึ้นแบบแกว่งตัวผันผวน และยังมีสิทธิที่จะตามมาด้วยกรปรับพักตัวลง ซึ่งมีโอกาสที่จะย้อนลง
ไปแกว่งแถว 860 จุดหรือต่ำกว่าได้ด้วย จึงยังแนะนำให้แบ่งส่วนขายทำกำไรบ้างโดยเฉพาะเมื่อ SET ขยับขึ้นต่อ และถ้าจะเข้าซื้อก็ต้องใช้วิธีเลือกเป็นรายตัวไปมากกว่า รวมทั้งน่าจะรอซื้อเมื่อตลาดอ่อนตัวลง
กลยุทธ์: ยังเลือกเข้าเทรดดิ้งในหุ้นที่ขยับขึ้นไม่มาก หรือราคามีการปรับตัวลงมาบ้างในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะมีข่าวสนับสนุนเพื่อความปลอดภัย เช่น BAY, BANPU, CK,ADVANC, LPN, SIRI, QH, AP, ROJNA, HEMRAJ, MCOT, BEC, SSI, TSTH, TKS และPDI เป็นต้น ขณะที่ PTTEP , PTT , TTW, BECL, TICON, DTAC, STEC รอหาจังหวะซื้อใหม่เมื่อราคาปรับลง และหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างตัวอื่นๆ ถ้าราคาขึ้นต่อให้เริ่มมองหาจังหวะขายทำกำไรบ้าง
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) สหรัฐฯ มีคนตกงานเพิ่ม สหรัฐฯ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค.ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 อีก 1.31 แสนราย ส่วนการจ้างงานของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนก่อนแต่น้อยกว่าคาด ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ 9.5% อังคารนี้มีการประชุม FOMC ตลาดคาดว่าตลาดแรงงานที่ยังอ่อนแอทำให้ Fed จะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียงแต่ต้องติดตามการพูดถึงแนวโน้มเศรษฐกิจ
(-) TOP กำไรสุทธิ -47% Q-Q, -84% Y-Y เป็นไปตามคาด แนวโน้ม 2H10 ดีขึ้นเพราะค่าการกลั่นและราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มในกรอบจำกัด เราเชื่อว่า TOP ผ่านbottom ไปแล้ว ราคาเป้าหมายปีหน้า 53 บาท แนะนำทยอยซื้อหรือซื้อเมื่ออ่อนตัว
(+) ADVANC กำไรดีกว่าคาด -2% Q-Q, +16% Y-Y ประกาศปันผล 3 บาท XD17 ส.ค. จ่ายเงิน 3 ก.ย. เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 113 บาท (รวม 3G)ราคาหุ้นวิ่งรับข่าว 3G มา 2 เดือนเศษแล้ว อาจแกว่งในกรอบจำกัดจนกว่าจะประมูลจริง
(+) MAKRO กำไรดีกว่าคาด -8% Q-Q, +50% Y-Y จากการขยายสาขาเพิ่ม 3แห่งในครึ่งปีแรก และจะขยายอีก 1 สาขาที่หนองคายเดือน ก.ย. นี้ เราปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายปีหน้าขึ้นเป็น 135 บาท บริษัทประกาศจ่ายปันผล 2 บาท/หุ้น XD 18 ส.ค. จ่ายเงิน 3 ก.ย.
(+) DELTA กำไรดีกว่าคาด +24% Q-Q, +267% Y-Y UBS จะพาบริษัทโรดโชว์กลางเดือนหน้า เราแนะนำซื้อราคาเป้าหมายปีหน้า 36 บาท
Foreign Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน แม้ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติซื้อขายเบาบางมาก เนื่องจากส่วนใหญ่รอประกาศตัวเลขอัตราการว่างงานสหรัฐ ซึ่งผลที่ออกมาแย่กว่าคาด แต่ไม่มาก ดังนั้นแนวโน้มกระแสเงินทุนจากต่างชาติน่าจะยังคงไหลเข้าต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ เพราะค่าเงินยูโรยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่สำคัญค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าต่ำกว่า 32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ไปแล้ว หุ้นกลุ่ม Market Cap ใหญ่น่าจะได้ประโยชน์จาก Fund Flow ที่ยังไหลเข้าต่อเนื่อง

ข่าวภายในประเทศ
ตลท.ดึงฟันด์โฟลว์เข้าต่างชาติลงทุนหุ้นไทยเครดิตสวิส ปรับเป้ากลุ่มแบงก์ ชู SCB ราคา 120 บาท ตลท.โรดโชว์ได้ผลฟันด์โฟลว์ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยเพียบ ยันปลายสิงหาฯนี้ยกทีมพร้อม “คลัง” ไปโรดโชว์ที่สิงคโปร์อีกรอบตอกย้ำความเชื่อมั่น นายกสมาคมนักวิเคราะห์มองดัชนีไทยปรับขึ้น 20% สูงเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย รองอินโดนีเซียและอันดับ 3 ของตลาดหุ้นทั่วโลก ข้อดีทำให้ต่างชาติหันมองหุ้นไทยมากขึ้น ประเมินฟันด์โฟลว์จะไหลเข้าอีก เหตุหุ้นพลังงานยังไม่ไปไกล นักลงทุนนิยมเล่นหุ้นนอก SET50 เพิ่มขึ้นถึง 100% บล.เครดิตสวิส ปรับเป้าหุ้นกลุ่มแบงก์ยกแผงชู SCB เป้าหมาย 120 บาทเบียด KBANK ให้แค่ 124 บาท ให้ราคา TISCO 38 บาท รับครึ่งหลังได้อีก (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-08-2010)
DELTA โรดโชว์ยุโรป กองทุนซื้อเป้า 36 บาท DELTA เนื้อหอม เดินสายโรดโชว์เป็นว่าเล่น ล่าสุด UBS พาไปยุโรปกลางเดือนหน้า หลังประสบความสำเร็จจากการไปพบกองทุนต่างชาติที่สหรัฐฯ งานนี้กองทุนทั้งในและต่างประเทศจ้องตาเป็นมันหลังโครงสร้างธุรกิจขยายไปสู่ธุรกิจยานยนต์กับโซลาร์ ดันมาร์จิ้นกำไรพุ่ง ครองตำแหน่งบริษัทมาร์จิ้นสูงสุดต่ออีก ส่วนงบไตรมาส 2 กำไร 1 พันล้านบาท เติบโต 231% แถมไตรมาส 3 กำไรขยับขึ้นอีก 1.2 พันล้านบาท ทำพื้นฐานเปลี่ยนราคาพื้นฐานถูกปรับจาก 25 บาท เป็น 36 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-08-2010)
AGE ทีเด็ดถ่านหินปีนี้กำไรโต10 เท่าเป้าหมาย 9.50 บ. AGE ดาวเด่นกลุ่มถ่านหิน ลุ้นปีนี้โชว์กำไรเติบโต 10 เท่าตัว จากปีก่อนที่มีกำไร 10ล้านบาท “สมยศ” มั่นใจกำไรสุทธิไตรมาส 2/53 ขยับเพิ่มจากไตรมาสก่อนที่ 25 ล้านบาท ขณะที่ช่วงครึ่งหลังปีนี้ยังเด่นกว่า เหตุราคาถ่านหินแตะ100-110 เหรียญสหรัฐต่อตัน พร้อมขยายฐานลูกค้าเพิ่ม โบรกฯแนะซื้อ เป้าหมาย 9.50 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-08-2010)
MCS งบ Q2 โชว์กำไร140 ล้านครึ่งหลังรายได้เหล็ก 5 พันตัน MCS เผยผลประกอบการไตรมาส 2/53 กำไร 140 ล้านบาท เติบโต 27%เนื่องจากราคาเหล็กโครงสร้างไปญี่ปุ่นอยู่ในเกณฑ์ดี และต้นทุนราคาวัตถุดิบถูก ส่วนไตรมาส 3-4 เติบโตต่อเนื่อง โดย Q3/53 จะรับรู้งานโครงสร้างเหล็กสะพานไต้หวัน 3,500-5,000 ตัน และ รับรู้งานเหล็กโครงสร้างในประเทศที่เหลือ 2,500 ตัน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-08-2010)
ทรูวิ่งรับ 3จี-ขาดทุนน้อย AIS เงินล้นเป้าเกิน 100 บ. TRUE วิ่งฉิวรับประมูล 3 จีพ่วงข่าวทุนนอกรุมตอมเพียบ แถมร่างครอบงำต่างชาติ เตะตัดขาคู่แข่งทั้ง ADVANC-DTAC ห้ามไม่ให้มีฝรั่งนั่งเก้าอี้บริหารงานในไทย โบรกฯมองงบไตรมาส 2 นี้ขาดทุนร่วม 237 ล้านบาท ทรูมูฟ-ทรูออนไลน์ยังซึม แต่ได้ทรูวิชั่นส์พยุงตัว ส่วน AIS ไม่ทำให้ผิดหวังกำไรไตรมาส 2 แตะ 4,900 ล้านบาท จ่ายปันผล 3 บาท กระแสเงินสดอื้อซ่า 23,000 ล้านบาท โบรกฯเชียร์เก็บได้เลย ให้ราคาก่อนมี 3G ที่ 104 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-08-2010)
HANA ไตรมาส 2 กำไรทะลัก 600 ล้าน โชว์ตัวเลขครึ่งปีโตกว่า 70% ราคาอัพไซด์กว่า 20% HANA กำไรเด่นหุ้นอิเล็กทรอนิกส์อุตสาหกรรมตื่นหนุน Q2 ฟาดกำไรทะลักเกิน 600 ล้านบาท ขณะที่งวดครึ่งปีกำไรโต บานขั้นต่ำ 1,200 ล้านบาท สูงกว่าเดิมร่วม 70% ราคาต่ำเป้าหมายเพียบ อัพไซด์เหลือ 20% ขณะที่ DELTA โชว์ประกาศงบวันนี้ กำไรพุ่งทะลุ 900 ล้านบาท ดันครึ่งปีแรกฟาดกำไรเละขั้นต่ำ 1,800 ล้าน
บาท โตขึ้นเกิน 100% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-08-2010)
NWR ฮุบงานสร้างเขื่อนมาเลเซีย 3 พันล้าน เซ็นสัญญาเดือนหน้าปีนี้ล้างขาดทุนเกลี้ยง NWR ตกลงสร้างงานเขื่อนผลิตไฟฟ้าที่มาเลเซียมูลค่า 3,000 ล้านบาทแล้ว เหลือแค่เซ็นสัญญาคาดเซ็นกลางเดือนก.ย.หนุนงานในมือโตจาก 1.1 หมื่นล้านบาท จับมือผู้รับเหมาใหญ่เข้าประมูลรถไฟฟ้าสายสีแดง ย้ำรายได้ทั้งปีใกล้เคียงปีก่อน 3,400 ล้านบาท ลุ้นจ่ายปันผล หลังล้างขาดทุนสะสม 1,000 ล้านบาทหมด (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น9-08-2010

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา: โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ-ญี่ปุ่น หลังรบ.เริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและญี่ปุ่น โดยคาดว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2554 ของญี่ปุ่นจะขยายตัวเพียง 1.4% ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.7% พร้อมกับปรับลดคาดการณ์จีดีพีปี 2553 ของญี่ปุ่นลง 0.1% เหลือเพียง 3.3% ขณะเดียวกันโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีของสหรัฐในปี 2554 ลงสู่ระดับ 1.9% จากเดิม 2.5% และคาดว่าจีดีพีในปีนี้จะขยายตัวในอัตรา 2.7%(ที่มา: อินโฟเควสท์ 09-08-2010)
จีน: นักวิเคราะห์คาดผลผลิตอุตสาหกรรมจีนเดือนก.ค.ขยายตัวช้าลง หลังรัฐบาลใช้แผนคุ้มครองสิ่งแวดล้อม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ของจีนจะขยายตัวเพียง 13.4% หลังจากขยายตัวได้แข็งแกร่งถึง 13.7% ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากรัฐบาลจีนใช้มาตรการคุมเข้มด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการที่ธนาคารกลางจีนผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์ควบคุมเงินกู้ที่ปล่อยให้กับอุตสาหกรรมที่สร้างมลภาวะสูง และอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (ที่มา: อินโฟเควสท์ 09-08-2010)
เอเชีย: ญี่ปุ่นเผยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนมิ.ย.หดตัวลง 18.2% กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนมิ.ย.ปรับตัวลดลง 18.2% จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ระดับ 1.047 ล้ายล้านเยน ส่วนยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ระดับ 8.53 ล้านล้านเยน พุ่งขึ้น 47.3% จากปีที่แล้ว สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นมาตรวัดการค้าระหว่างประเทศ ที่รวมถึง
สินค้า การบริการ รายได้จากการลงทุน รายได้จากการนำเข้าและส่งออก (ที่มา: อินโฟเควสท์ 09-08-2010)
เอเชีย: เศรษฐกิจสิงคโปร์โต 17.9% ในช่วงครึ่งปีแรก คาดขยายตัว 13 - 15% ตลอดทั้งปี นายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง ของสิงคโปร์เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของประเทศขยายตัว 17.9% ในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ และรัฐบาลคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจทั้งปีนี้จะขยายตัว 13 - 15% โดยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันชาติสิงคโปร์ นายลีกล่าวว่า เศรษฐกิจที่ขยายตัวได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งปีแรก เป็นผลของความ
ร่วมมือร่วมใจกันของชาวสิงคโปร์ในการรับมือกับช่วงวิกฤต ซึ่งช่วยให้ชาวสิงคโปร์อาศัยความได้เปรียบเมื่อปัจจัยแวดล้อมทั่วโลกฟื้นตัวขึ้น (ที่มา:อินโฟเควสท์ 08-08-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น