Code 131 : สูงมีสูงกว่า ดีกว่าต่ำแล้วยังมีต่ำกว่า

วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม 2553
ATT Code : สูงมีสูงกว่า ดีกว่าต่ำแล้วยังมีต่ำกว่า
"ความผิดพลาดอันใหญ่หลวงในชีวิต คือ การกลัวอยู่ตลอดว่าคุณจะทําผิดพลาด"~ เอลเบิร์ต ฮับบาร์ด
----------------------------------------------------------------------------------
06/08 09:10 - 4 หุ้นเด่นเทคนิคขาขึ้น
06/08 09:07 - หุ้นเด่น จานร้อน บล.ฟิลลิปเช้านี้
06/08 07:54 - ดอลล์เทียบยูโรอ่อนลงก่อนเผยข้อมูลจ้างงาน
06/08 07:51 - น้ำมันดิบปิดลดลงรับรายงานศก.ไม่ดีพอ
06/08 07:48 - ทองปรับขึ้นต่อเนื่อง 7 วันติดหลังดอลล์อ่อน
06/08 07:46 - ดาวโจนส์ปิดลบ 0.05% หลังผิดหวังข้อมูลศก.
06/08 07:43 - ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดบวก 21 จุด

----------------------------------------------------------------------------------
ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวกรอบแคบ
ลุ้นหุ้นมาบตาพุดคลาย PTT PTTCH SCC
วันศุกร์ที่ 06 สิงหาคม 2010 เวลา 09:16:52 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหย่ปรับตัวอยู่ในแดนลบ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยคาดแกว่งตัวในกรอบแคบ เน้นเก็งกำไรหุ้นหลัดมาบตาพุด PTT PTTCH & SCC

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ปัจจัยภายนอกดูเป็นลบเล็กน้อยหลังตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และยอดค้าปลีกของสหรัฐออกมาน่าผิดหวัง เป็นผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐ และภูมิภาคเช้านี้อิงทาง แดนลบ หากแต่แรงซื้อสุทธิต่างชาติยังคงไหลเข้าไทยและภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินบาททรงตัวด้านแข็งค่า และปัจจัยภายในเป็นบวกมากขึ้น หลังนายก รัฐมนตรีคาดจะได้ข้อสรุปเรื่องมาบตาพุดไม่เกินวันที่ 23 ส.ค. นี้ คาดในวันนี้ตลาดจะ กลับเข้าสู่โหมดการเคลื่อนไหวแบบ Sideways ในกรอบแคบอีกครั้ง เพื่อรอดูตัวเลขการ จ้างงานรายเดือนของสหรัฐในคืนวันศุกร์นี้ และรอท่าทีของกลุ่มพันธมิตรฯ ต่อ กรณีปราสาทพระวิหาร หลัง “จำลอง” นัดภาคีต้านการขึ้นทะเบียนฯ ชุมนุมล้อม ทำเนียบเสาร์นี้ แม้ตลาดจะเปิดอ่อนตัวลง แต่แรงรับของต่างชาติน่าจะยังช่วยประคอง กรอบการอ่อนตัวไม่ให้ลึกมากได้

กลยุทธ์การลงทุน : ระยะสั้นเลือกเล่นหุ้นรายตัวแบบ Selective trading เลือกหุ้น ที่มีผลประกอบการดี หรือ ยังคง Laggard กลุ่ม/ตลาด เป็นหลัก
แนวต้าน : 885-892 แนวรับ : 869-864

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้
ความหวังเรื่องมาบตาพุด อาจช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี (PTT PTTCH & SCC) ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมาราคาหุ้นอ่อนกว่าตลาด ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง แนวต้านใหญ่รอบนี้ที่ ~900 จุด ก็อาจถึงเร็วกว่าที่คิด (จากที่คาดว่าจะใช้เวลา 2 สัปดาห์) แนะนำให้ทยอยขายทำกำไร เพราะ SET เสี่ยงที่จะลงมาทดสอบแถวๆ 820 จุด อีกครั้ง โดยเฉพาะหลังจากจบเทศกาลประกาศงบ 2Q (ภายใน 16 ส.ค.) และผลกระทบจากการขึ้นเครื่องหมาย XD (เริ่ม ส.ค.ถึงต้น ต.ค.) เราเลือก TUF เป็นหุ้นเด่นวันนี้

ประเด็นสำคัญวันนี้
23 ส.ค. ลุ้นมาบตาพุด วันถัดไปลุ้น 2G/3G หากไม่เลื่อนอีก จะถือเป็นข่าวดีมากที่นายกฯคาดว่าในวันที่ 23 ส.ค.นี้ จะได้ข้อสรุป 18 ประเภทกิจการที่เข้าข่ายเป็นอันตรายร้ายแรงต่อชุมชุม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหามาบตาพุด เบื้องต้นคาดว่าจะโครงการสำคัญอย่างโรงแยกก๊าซแห่งที่ 6 ของ PTT และโครงการโอเลฟินส์ของ PTTCH จะไม่เข้าข่าย 18 ประเภทดังกล่าว สุดท้ายศาลฯอาจกลับคำตัดสินให้กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะเป็นตัวปลดล็อคราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะครอบครัว PTT & SCC ได้เป็นอย่างดี และดีต่อภาพเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะกระตุ้นให้ฝรั่งอยากเข้ามาลงทุนทางตรงมากขึ้น วันรุ่งขึ้น (24) คาดว่าที่รายละเอียดเรื่องการแปรสัญญาสัมปทาน 2G จะนำเข้าสู่การพิจารณาของครม. หนุนให้การเกิดขึ้นของ 3G มีความเป็นธรรมมากขึ้น เราชอบ DTAC (ปิด 46.25, เป้า 62, Upside 34%) มากสุด

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น- เงินฝรั่งยังทะลัก!!
ดัชนีหุ้นวันที่ 5 ส.ค.53 ปิดที่ 874.92 จุด เพิ่มขึ้น 7.58 จุด มีมูลค่า การซื้อขาย 37,635.31 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,216.39 ล้านบาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ชี้เม็ดเงินต่างชาติยังไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงไทยสอดคล้องกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ดันหุ้นใหญ่ปรับตัวขึ้นยกแผง

ทั้งนี้ มองแนวโน้มตลาดระยะสั้น คาดว่ามีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อโดยเม็ดเงินลงทุนต่างชาติน่าจะยังไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องระวังแรงขายทำกำไร เมื่อดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย

ด้านเทคนิคตลาดอยู่ในช่วง Overbought ทำให้พร้อมที่จะพักตัวตลอดเวลา แต่ได้รับแรงหนุนจาก Fund Flow ที่เข้ามา ซึ่งนักลงทุนต้องระวังหากต่างชาติหยุดซื้อ ดัชนีหุ้นอาจชะลอตัวลงได้

แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้ Trading หรือ "ขึ้นขาย-ลงซื้อ" ด้านเทคนิคประเมินแนวรับไว้ที่ 865 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 875 จุด

งานสัมมนา "ซื้อหุ้นลุ้น 2 เด้ง กำไร & ปันผล" นั้น "วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล" กรรมการบริหาร บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า ดัชนีหุ้นปีนี้มีโอกาสแตะ 1,035 จุด จากกำไรบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มโต 17% และคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยุงภาวะเศรษฐกิจ ทำให้เชื่อว่ายังมีเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามา โดยหากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานบริษัทจดทะเบียน เชื่อว่าดัชนีจะอยู่ที่ 911 จุด

"จากต้นปี เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาในตลาดตราสารหนี้ ประมาณ 1 แสนล้านบาท เชื่อว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะโยกเข้าตลาดหุ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับช่วงเวลา" วิศิษฐ์กล่าว

ขณะที่ "พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ" จาก บล.ธนชาต ชี้ว่าราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นขณะนี้ ได้สะท้อนความคาดหวังแล้ว แต่ยังมีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย และคาดว่าจะได้เห็นดัชนียืนเหนือระดับ 1,000 จุดได้ ภายในครึ่งปีหน้าแต่ในปีนี้อาจยังไม่ได้เห็น เนื่องจากตลาดยังกังวลกับปัญหาคลื่นใต้น้ำทาง

การเมืองที่ทำให้การลงทุนสะดุด รวมทั้งการเติบโตอย่างเปราะบางของเศรษฐกิจในประเทศที่พัฒนาแล้ว

สำหรับหุ้นที่น่าจับตา คือ กลุ่มที่มีการลงทุนต่างประเทศ เช่น BANPU และ TUF ขณะที่ยังแนะหุ้น SCC แม้ระยะสั้นมีผลกระทบจากส่วนต่างปิโตรเคมีที่ลดลง แต่เชื่อว่ามูลค่าของราคาหุ้นยังน่าสนใจ และมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอรวมทั้งยังแนะนำหุ้น PTTEP

ส่วนกลุ่มแบงก์ แนะ BBL, KBANK, BAY รวมทั้งหุ้นที่มีกระแสเงินสดสูง เช่น CPALL!!

FSS:คาด SET ยังมีสิทธิไหลลงหา 860 จุด หรือหลุดต่ำกว่าได้ ดังนั้นขึ้นขายบ้าง!!
แนวโน้ม: แม้ว่าเมื่อคืนนี้ดัชนีดาวโจนส์จะปิดปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย แต่ในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐก็ปรับตัวลงพอควร จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาน่าผิดหวัง โดยเฉพาะจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ทำให้นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้นเพื่อรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในคืนวันนี้ก่อน ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสภาพตลาดหุ้นทั่วโลกพอควร ซึ่งคาดว่า SET ก็น่าจะได้รับอิทธิพลด้วยเช่นกัน แม้ว่านักลงทุนต่างประเทศในบ้านเราจะยังคงมียอดซื้อสุทธิต่อเนื่องในระดับกว่าพันล้านบาทต่อวัน แต่ก็ต้องระวังการขายทำกำไรระยะสั้นหลังจาก SETขยับขึ้นมามากพอสมควรแล้วด้วย ดังนั้น FSS ยังคาดว่า SET มีโอกาสที่จะยังแกว่งตัวผันผวน หรือถึงขั้นปรับพักตัวย้อนลงไปแกว่งแถว 860 จุดหรือต่ำกว่าได้ เราจึงยังแนะนำให้แบ่งส่วนขายทำ
กำไรบ้างโดยเฉพาะเมื่อ SET ขยับขึ้นต่อ และถ้าจะเข้าซื้อก็ต้องใช้วิธีเลือกเป็นรายตัวไปมากกว่า รวมทั้งน่าจะรอซื้อเมื่อตลาดอ่อนตัวลง
กลยุทธ์: ยังเลือกเข้าเทรดดิ้งในหุ้นที่ขยับขึ้นไม่มาก หรือราคามีการปรับตัวลงมาบ้างในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะมีข่าวสนับสนุนเพื่อความปลอดภัย เช่น BAY, BANPU, CK,ITD, SEAFCO, ADVANC, LPN, SIRI, QH, AP, ROJNA, HEMRAJ, MCOT, BEC, SSI,TSTH, TKS และ PDI เป็นต้น ขณะที่ PTTEP , PTT , TTW, BECL, TICON รอหาจังหวะซื้อใหม่เมื่อราคาปรับลงได้ ส่วน DTAC, STEC และ MINT ถ้าราคาขึ้นต่อให้เริ่มมองหาจังหวะทำกำไรบ้าง
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) HMPRO กำไรสุทธิ 2Q10 +10.3% Q-Q, +49% Y-Y ดีกว่าคาด 8% ถือว่าเป็นไตรมาสที่ดีมากเพราะมีเหตุการณ์การเมืองแต่ยอดขายสาขาเดิม (Same store sales growth) กลับยังเติบโตได้ถึง 18% Y-Y และยังมีพัฒนาการของ Gross margin ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำไรที่ดีกว่าคาดทำให้เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 12% และคาดว่ากำไรปีนี้จะเติบโต 39% ปีหน้าโต 10% ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9.30 บาท แนะนำซื้อ
(+) LPN กำไรสุทธิ 2Q10 +85% Q-Q, +26.8% Y-Y แต่มีการเปลี่ยนแปลงการบันทึกบัญชีจากเดิมรับรู้ตามงานที่เสร็จเป็นรับรู้เมื่อโอน ทำให้กำไรปกติ +98.5% Q-Q,
+28.2% Y-Y แนวโน้ม 3Q10 จะอ่อนตัวลงมาก Q-Q แต่จะฟื้นขึ้น 4Q10 บริษัทแจ้งจ่ายปันผล 0.18 บาท/หุ้น Yield 1.9% XD 17 ส.ค. จ่ายเงิน 30 ส.ค. ราคาหุ้นได้ปรับฐานลงมาแล้วและมี upside 30% จากราคาเป้าหมาย 12.45 บาท จึงซื้อได้
(+) สื่อสาร กทช. ไป roadshow ในประเทศแถบเอเชีย 4 ประเทศคือจีน เกาหลีญี่ปุ่น มาเลเซีย เป้าหมายต่อไปคือประเทศ UAE ขณะนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลแล้ว 4ราย หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ 3G ยังคึกคักได้อยู่โดยเฉพาะ TRUE ที่ราคาพุ่ง 36% ในเดือนนี้
(+96% YTD) เพราะตลาดเชื่อว่าถ้า 3G เกิดได้จริง TRUE จะต้องเพิ่มทุนหาพันธมิตรจึงมีการคาดเดาราคาหุ้นเพิ่มทุน ในช่วงปี 2002 – 2006 TRUE เคยเพิ่มทุนทั้ง XR และPP ที่ราคา 6.50 – 8.40 บาท อย่างไรก็ตาม สัปดาห์หน้า TRUE จะประกาศงบ 2Q10ซึ่งคาดว่าจะขาดทุนสุทธิ 1.4 พันล้านบาท มีโอกาสติด cash balance สูงไม่สัปดาห์หน้าก็สัปดาห์ถัดไป นักลงทุนควรใช้ความระวังในการเทรดดิ้ง
Foreign Fund Flow วานนี้เม็ดเงินยังไหลเข้าในเอเชียแต่เป็นปริมาณลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยเริ่มมีการขายในตลาดเกาหลีหลังจากที่ซื้อมาตลอดก่อนหน้านั้น สวนทางกับตลาดอินโดนีเซียที่ขายมาก่อนหน้า เพิ่งเริ่มกลับเป็นซื้อเมื่อวานเป็นวันแรกใน
รอบสัปดาห์ สำหรับตลาดไทย เป็นการซื้อเพิ่มขึ้นทั้งวานนี้ และในรอบสัปดาห์ก็เป็นการซื้อมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีนัยสำคัญเท่ากับอินเดีย ฟิลิปปินส์ และไต้หวันที่เป็นเป้าหมายในการซื้อของต่างชาติ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังรอผลการประกาศตัวเลขจ้างงานสหรัฐในวันศุกร์นี้ แต่เชื่อว่าในระยะกลาง-ยาว กระแสเงินทุนต่างชาติจะยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียต่อเนื่อง

ข่าวภายในประเทศ
ปลัดคมฯ อัดปิยสวัสดิ์ นอมินีเทมาเส็กรึไง? “มาร์ค-กรณ์” ทำเนียน! อุ้มกระเตงดีดีบินไทย “ปลัดคมนาคม” ย้อนถาม “ปิยสวัสดิ์” เป็นนอมินีเทมาเส็กหรือไม่ จวกควรกลับไปดูแผนร่วมทุนกับนกแอร์ในอดีต ที่ต้องการสกัดต่างชาติเข้ามาหากินเส้นทางบินในประเทศและภูมิภาค แต่สุดท้ายกลับทำเอง ไม่ต่างอะไรกับเช่นที่เคยด่า“ไทยแอร์เอเชีย”มาแล้ว ส่งชี้แจงภายใน 10 วัน ขณะที่“มาร์ค-กรณ์” โดดอุ้มพร้อมให้ท้ายดีดีบินไทยเต็มที่(ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 6-08-2010)
CITI ดันบจ.โรดโชว์ พา CCP พบกองทุน ซิตี้ กรุ๊ป (CITI) พา 5 บจ.โรดโชว์สิงคโปร์ วันที่ 11-12 ส.ค.นี้ มีทั้ง AOT, BTS, IRPC, TICON ส่วนCCP งานนี้ติดโผด้วย เหตุเป็นหุ้นก่อสร้างที่ได้รับอานิสงส์เมกะโปรเจ็กต์ และพร้อมจะเติบโตแบบก้าวกระโดด แถมมี Backlog ในมืออีก 1.7พันล้านบาท วันนี้ (6 ส.ค.) ราคาหุ้นวิ่งฉิว หลังรอด Cash Balance หวุดหวิด เทรดไม่เกิน 110 ล้านบาท ส่วน SLC ไม่รอดโดนเทรดเงินสดอาทิตย์หน้า (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 6-08-2010)
IVL หุ้นดีสุดกลุ่มปิโตรฯ ฝรั่งเชียร์ซื้อพื้นฐาน 26 บ. The Royal Bank of Scotland ชูหุ้น IVLให้ราคาพื้นฐาน 26 บาท ตะลึงกำไรเฉลี่ยเติบโตปีละ 25% จากปี 53-55 มาร์จิ้นพุ่ง 10-15 % สูงกว่าอุตสาหกรรม หลังพบว่ามีความโดดเด่นสุดในกลุ่มปิโตรเคมี เพราะสามารถหลีกเลี่ยงจากการตกต่ำของธุรกิจปิโตรเคมีได้จากการมีผลิตภัณฑ์หลักอย่าง PTA กับ PET แถมยังเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก มีฐานผลิตอยู่ 3 ทวีปใหญ่จับลูกค้าตลาดใหญ่ได้ทั่วโลก (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 6-08-2010)
บิ๊กอสังหาฯ ลั่นไม่ฟองสบู่! ยอดซื้อคอนโดดีมานด์จริง บิ๊กอสังหาฯประสานเสียงปีนี้ไม่เกิดฟองสบู่แน่นอน เหตุซัพพลาย-ดีมานด์ยังสมดุล ด้าน“ประทีป” ซีอีโอ SPALI สอนมวยแบงก์ชาติไม่เข้าใจผู้บริโภค คนนิยมซื้อคอนโดมากขึ้น เพราะ “เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม” เปลี่ยนไป ราคาน้ำมันแพง ต้องการลดค่าใช้จ่าย ครอบครัวเล็กลง สิ่งแวดล้อมในเมืองดีขึ้น หนุนคนเลือกอยู่คอนโดในเมืองมากขึ้น ขณะที่ “LH-SIRI-PS” ยันยอดซื้อคอนโดปัจจุบัน 80-90% ซื้อเพื่ออยู่จริง ส่วนซื้อเก็งกำไรหรือลงทุนสัดส่วนน้อยมาก (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 6-08-2010)
BEC รับ 2 เด้งปันผลดี-โฆษณาเพียบ ไตรมาส 2 กำไร 800 ล้าน แนวโน้มครึ่งหลังสดใส BEC หุ้นดี 2 เด้ง กำไรโตปันผลงาม ลูกค้าแห่ลงโฆษณาแน่นเอี้ยด มีรายได้บอลโลกช่วยหนุน ดันกำไรไตรมาส 2 โตขึ้นเกิน 800 ล้านบาท ขณะที่กำไรงวดครึ่งปีแรกฟาดทะลุ 1,500 ล้านบาทแถมปันผลให้ผู้ถือหุ้นสูงถึง 65 สตางค์ ด้านวงการชี้ครึ่งปีหลังโตต่อไม่หยุด เม็ดเงินโฆษณาตื่น มีลุ้นขึ้นค่าโฆษณาอีกรอบ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 6-08-2010)
LPN โชว์กำไร Q2 สูงสุดรอบ 21 ปี ตุนแบ็กล็อก 1.37 หมื่นล้าน ปันผลระหว่างกาล 0.18 บาท “LPN” ปลื้มงบ Q2 ทุบสถิติสูงสุดรอบ21% โชว์กำไรสุทธิ 502.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.91% เหตุโกยรายได้ 3,078.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.89% ขณะที่ครึ่งปีแรกสร้างยอดขาย4,433.13 ล้านบาท คิดเป็น 46.18% ของเป้าทั้งปี 9,600 ล้านบาท พร้อมตุนแบ็กล็อก 13,740 ล้านบาท บุ๊ครายได้ปีนี้และปีถัดไป ครึ่งปีหลังลุยเปิดเพิ่ม 4 โครงการ มูลค่ารวม 4,730 ล้านบาท ขณะที่บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.18 บาท/หุ้น กำหนดจ่าย 30 ส.ค.นี้ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 6-08-2010)

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ข่าวต่างประเทศ
ยุโรป: ธนาคารกลางยุโรปมีมติตรึงดอกเบี้ยที่ 1% ตามคาด ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 1% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ นอกจากนี้ อีซีบีได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ 1.75%และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนที่ 0.25% ด้วย ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจในยูโรโซน หรือ 16 ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร จะฟื้นตัวขึ้น แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งนัก และเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ จึงทำให้มีการคาดหมายกันว่า อีซีบีจะคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปอีกหลายเดือน(ที่มา: อินโฟเควสท์ 05-08-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้น 19,000 ราย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว พุ่งขึ้น 19,000 ราย สู่ระดับ 479,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีนี้ และบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังอ่อนแอ ในขณะที่บริษัทหลายแห่งยังคงลดการจ้างงาน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 06-08-2010)
เอเชีย: อินโดนีเซียเผย GDP ไตรมาส 2 ขยายตัว 6.2% ทำสถิติขยายตัวรวดเร็วสุดในรอบกว่า 1 ปี สำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียเปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ขยายตัว 6.2% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้ความจำที่ธนาคารกลางต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ลดน้อยลง (ที่มา: อินโฟเควสท์05-08-2010)
เอเชีย: ญี่ปุ่นเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.328 หมื่นล้านดอลลาร์ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นประจำเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 1.063.51 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.328 หมื่นล้านดอลลาร์จากเดือนมิ.ย.ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง เนื่องจากการลดลงของอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐช่วยให้มูลค่าพันธบัตรสหรัฐและตราสารหนี้ประเภทอื่นๆที่ญี่ปุ่นถือครองอยู่นั้น ปรับตัวสูงขึ้น (ที่มา: อินโฟเควสท์ 06-08-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น