Code 476 : 19/08/54 ไม่ผ่านแนวต้านที่ 1103... เลยลงมาอยู่ที่แนวรับ 1089... SETI พร้อมจะไป แต่ตลาดรอบบ้านไม่เอื้อ... มีโอกาสที่จะมาทดสอบแนวรับที่ 1084 / 1072....

วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2554
ATT Code : ไม่ผ่านแนวต้านที่ 1103... เลยลงมาอยู่ที่แนวรับ 1089... SETI พร้อมจะไป แต่ตลาดรอบบ้านไม่เอื้อ... มีโอกาสที่จะมาทดสอบแนวรับที่ 1084 / 1072....


กรอบเล็ก... Trading Range อยู่ที่ 1084 - 1098...
กรอบใหญ่... Trading
Range อยู่ที่ 1072 - 1105...

* ระยะ Day >>> SETI พร้อมจะไป แต่ตลาดรอบบ้านคอยกดดันตลาด... ไม่ D

* ระยะ Week 15-19 ส.ค.54 >>> กรอบเล็ก 1056-1079... กรอบใหญ่ 1033-1094...

Week ที่แล้ว 8-11 ส.ค. 54 ... ค่อนข้างผันผวน... ลงมาต่ำกว่า BBA = Bearish market...
Main Indy = Sell Signal... MACD below Signal Line / MACD Osc under Zero line
Minor Indy = Sell Signal... ADX = Bearish Market
Dead Cross รอการ confirm...
- SETI ทำ High ที่ 1087.16 จุด... มี Low ที่ 1033.38 จุด...
- SETI อยู่ระหว่าง BBA กับ EMA25...

* ระยะ Month 1-31 ส.ค. 54 >>> SETI เป็นลักษณะ UpTrend... แต่มี Sell Signal เกิดขึ้นกับ Candlestick...
กรอบ 1080 - 1148....

- เดือนที่แล้ว กรกฎาคม ทำ New High 1136.26 จุด... มี Low ที่ 1059.78 จุด...
- ปัจจุบัน Candlestick = Black Candle เป็น Bearish engulfing = Reversal / ส่งสัญญาณลบ...

---------------------------------------------------------------------------
*** แนวโน้มหลัก : Under BBA = Bearish market... Sideway... Next Station EMA5***
Range 1072 - 1105...

1. เข้าที่...
วันทำการก่อนหน้า SETI ปิดที่ 1089.09 จุด -4.42 จุด... Volume 45,087 MB...
- SETI : Parabolic กดดัน SETI ทำให้ลงมาสู่แนวรับที่ EMA25... ไม่ D
- EMA5 ตัด EMA10 ลงมา... เป็น Dead Cross = Down Trend... แต่มีแนวโน้มที่จะเกิด Golden Cross... เกือบ D
- EMA5 ตัด BBA ลงมา.... ส่งสัญญาณลบอยู่... ไม่ D
- EMA10 ตัด EMA25 ลงมา.... ส่งสัญญาณลบอยู่... ไม่ D
- Chart Pattern ... Black Candle... ไม่ D

- Main Indicators... บางตัวเริ่มมี Buy Signal แล้ว...
MACD Osc.. under Zero Line... แต่เิริ่มมีมีค่าเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 6 แล้ว... ดีขึ้นเรื่อยๆ... D
***MACD cross Signal ลงมา ทำให้เกิด Sell Signal ขึ้นมา... และ MACD ก็ต่ำกว่าเส้น Zero Line ลงมาแล้ว... แต่ Macd เริ่มจะมีการ Cross over เส้น Signal เข้ามาทุกที... เกือบ D
*** SSTO และ RSI... เป็น Buy Signal แล้ว... D

- Minor Indicators... สัญญาณทรงๆ....
%R + CCI มีค่าเพิ่มขึ้น เป็น Buy Signal... สัญญาณดีขึ้นเรื่อยๆ... D
CCI over Zero = Bull Market... D
ADX : ให้สัญญาณกลับตัว อาจจะเกิดเป็น Bull Market ในระยะเวลาอันใกล้... เกือบ D

----------------------------------------------------------------------------
2. ระวัง...
- ถ้าดัชนีหลุดแนวรับที่ 1084... ก็มีโอกาสที่จะลงไปที่ 1072 ได้...

-----------------------------------------------------------------------------
3. ไป...
- แนวโน้มวันนี้ >>> เลยลงมาอยู่ที่แนวรับ 1089... SETI พร้อมจะไป แต่ตลาดรอบบ้านไม่เอื้อ... มีโอกาสที่จะมาทดสอบแนวรับที่ 1084 / 1072....

- สัญญาณลบ : Continue Pattern >>> ถ้าดัชนีหลุดแนวรับที่ 1087 ลงมา... ก็มีโอกาสที่จะลงมาทดสอบแนวรับ ที่ Target 1084 ได้...
*** ถ้าหลุด 1084 ลงมา ก็จะเป็น Sell Signal โดยมีเป้าหมายที่ 1072 ได้...

- สัญญาณบวก : Reversal Pattern >>> ถ้าดัชนีไม่ต่ำกว่าแนวรับ 1089 ขึ้นไปได้... ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน ที่ Target 1098 ได้...
*** ถ้าผ่าน 1098 ขึ้นมา ก็จะเป็น Buy Signal โดยมีเป้าหมายที่ 1102 / 1105...

----------------------------------------------------------------------------
แนวรับ... 1084 / 1077 / 1072...
แนวต้าน... 1098 / 1105 / 1102...



-----------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
19 สค. 54 (-4.42 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ต้องไม่ต่ำกว่า 1076 จุด
ดัชนีในวันพฤหัส ปรับตัวขึ้นไปแถวแนวต้านตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันพอดี แต่ไม่สามารถผ่านไปได้

ถ้าในสัปดาห์หน้า สามารถปรับตัวขึ้นเกิน 1102.77 จุดสูงสุดของวันพฤหัส และเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าวได้ ดัชนีมีโอกาสขึ้นต่อแถว 1143 – 48 ใกล้จุดสูงสุดเดิมของปีนี้ (แต่ไม่น่าจะผ่านไปได้ และมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวกลับลงไปบริเวณ 1135 – 45 จุด อีกครั้ง )

ขณะเดียวกันการปรับตัวลง ต่ำกว่า 1076จะทำให้ตลาดเกิดจุดเปลี่ยนเป็น “สัญญาณขาย”ในเครื่องมือ Point & Figure และ ดัชนีมีความเสี่ยงเร็วกว่าที่คาด ในการปรับตัวกลับลงไปบริเวณ 1035 – 45 จุด

หุ้นเด่น
LH
ยังปรับตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้ รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 7.00 จุดสูงสุดวันพฤหัส เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 7.20 – 7.50( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 6.85 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
BBL ต่ำกว่า 160 ลง 154 – 156
INTOUCH เกิน 38.75 ขึ้น 40 – 41
SCB ต่ำกว่า 116.50 ลง 114 – 115
KBANK ต่ำกว่า 132 ลง 124 – 126
PTT ต่ำกว่า 323 ลง 310 - 315
TOP ต่ำกว่า 69.75 ลง 68 – 69
PTTCH ต่ำกว่า 146 ลง 142 - 144
KTB ต่ำกว่า 19.80 ลง 18.20 – 18.60
ADVANC แกว่งตัว 112 - 118
PTTEP ต่ำกว่า 164.50 ลง 159 – 161

-----------------------------------------------------------------------------

DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ปิดทรุด 3.68% จากวิตกเศรษฐกิจถดถอย

ตลาดหุ้นสหรัฐทรุดตัวลงในวันพฤหัสบดีจากความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งส่งผลให้ดัชนีหุ้นสำคัญดิ่งลงหลังการปรับตัวผันผวนอย่างหนักเช่นเดียวกับในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดทรุดลง 419.63 จุดหรือ 3.68%สู่ 10,990.58, ดัชนี S&P 500 ปิดดิ่งลง 53.24 จุดหรือ 4.46% สู่ 1,140.65และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 131.05 จุดหรือ 5.22% สู่ 2,380.43

ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นสู่ 1.14 หมื่นล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค,ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในสัปดาห์นี้

นักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับภาวะของภาคธนาคารยุโรปตั้งแต่ก่อนเปิดตลาดและรายงานภาคการผลิตที่น่าผิดหวังของสหรัฐฉุดดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงมากถึง 528 จุดและกระตุ้นให้มีแรงซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อาทิ ทอง

ดัชนีความผันผวน (VIX) ซึ่งวัดความวิตกของนักลงทุนพุ่งขึ้น 38% สู่ 43.56

หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นไอบีเอ็มและยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ถ่วงดัชนีดาวโจนส์ลงมากที่สุด ขณะที่หุ้นออราเคิลฉุดดัชนีNasdaq ลง

นักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง หลังผลสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียบ่งชี้ว่า กิจกรรมการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกร่วงลงในเดือนส.ค.สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2009

หุ้นฮิวเลตต์-แพคการ์ดดิ่งลง 6.1% หลังเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาส

หุ้นกลุ่มธนาคารฉุดตลาดลงด้วย โดยดัชนี KBW หุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลง 5.6%

รายงานข่าวของวอลล์สตรีท เจอร์นัลระบุว่า ผู้ควบคุมด้านกฏระเบียบกำลังตรวจสอบฐานะการเงินของสาขาในสหรัฐของธนาคารรายใหญ่ที่สุดของยุโรป

หุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วง 6.3% และหุ้นมอร์แกน สแตนเลย์ดิ่งลง 4.8%

นักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนเลย์ได้ปรับลดแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และระบุว่าสหรัฐและยูโรโซนใกล้ที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย--จบ--

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:กังวลศก.ถดถอยกดน้ำมันดิบรูดลง 5.2 ดอลล์

ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงเกือบ 6 % ในวันพฤหัสบดีในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอชุดใหม่จากสหรัฐทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนหลังจากนักลงทุนวิตกกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและปัญหาหนี้ยุโรปอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.รูดลง 5.20 ดอลลาร์ หรือ 5.94 % มาปิดตลาดที่ 82.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และเคลื่อนตัวในช่วง 81.15-87.53 ดอลลาร์ในระหว่างวัน

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนดิ่งลง 3.61 ดอลลาร์สู่ 106.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยร่วงผ่านค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันลงมาด้วย

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียรายงานว่า ดัชนีกิจกรรมภาคโรงงานในภูมิภาคมิดแอตแลนติกของสหรัฐดิ่งลงในเดือนส.ค. โดยรูดลงจาก 3.2ในเดือนก.ค. สู่ -30.7 ในเดือนส.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2009โดยดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 0 บ่งชี้ถึงการหดตัวในภาคการผลิต

สหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9,000 รายสู่ 408,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับขึ้น 0.5 % ในเดือนก.ค. หลังจากร่วงลง 0.2 % ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีเดือนก.ค.ได้รับแรงหนุน

จากราคาน้ำมันเบนซินที่ระดับสูง

บริษัทออยล์ มูฟเมนท์ของอังกฤษคาดการณ์ว่า ปริมาณการส่งออกน้ำมันทางทะเลของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ไม่รวมแองโกลาและเอกวาดอร์อาจลดลง 120,000 บาร์เรลต่อวันในช่วง 4 สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ก.ย.

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกที่อยู่ห่างจากแหลมกราเซียส อา ดิออสในนิคารากัวไปทางทิศตะวันออก-ตะวันออกเฉียงเหนือราว 200 ไมล์ มีโอกาส 80 % ที่จะกลายเป็นพายุไซโคลนในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า--จบ--

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองสปอตพุ่งขึ้นทำนิวไฮที่ 1,828.5 ดอลล์

ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 2.1 % ในวันพฤหัสบดี และทำสถิติสูงสุดที่ 1,828.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะงักงัน และความกังวลเรื่องภาคธนาคารยุโรปกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทอง

ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดตลาดทะยานขึ้น 1.6 % หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,786.80-1,832.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองปรับขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียรายงานว่า ดัชนีกิจกรรมภาคโรงงานในภูมิภาคมิดแอตแลนติกของสหรัฐดิ่งลงในเดือนส.ค. โดยรูดลงจาก 3.2 ในเดือนก.ค. สู่ -30.7 ในเดือนส.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2009 โดยดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 0 บ่งชี้ถึงการหดตัวในภาคการผลิต

ยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐดิ่งลง 3.5 % สู่ 4.67 ล้านยูนิตต่อปีในเดือนก.ค.ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 8 เดือน

นักลงทุนเทขายหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆเพื่อเข้าซื้อทองและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยมีแนวโน้มว่าราคาทองอาจปิดตลาดสัปดาห์นี้ในแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่7 ติดต่อกัน

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่ราคาทองจะทะยานขึ้นเหนือ2,000 ดอลลาร์ เพราะว่าความสนใจลงทุนในกองทุน ETF ทองอ่อนแอลง และราคาทองพุ่งขึ้นมาแล้ว 350 ดอลลาร์ในช่วงหนึ่งเดือนครึ่งที่ผ่านมา

บริษัท GFMS ระบุว่า ราคาทองอาจพุ่งขึ้นแตะ 1,900 ดอลลาร์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับปัญหาเศรษฐกิจโลกและต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ดี ไม่มีแนวโน้มว่าราคาทองจะทะยานขึ้นแตะ 2,000 ดอลลาร์

สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันพฤหัสบดีมีดังต่อไปนี้

ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)

ทองเดือนธ.ค. 1,822.00 + 28.20

เงินเดือนก.ย. 40.688 + 33.70 (เซนต์)

ส่วนราคาโลหะมีค่าที่ตลาด NYMEX ในวันพฤหัสบดีมีดังต่อไปนี้

ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)

พลาตินั่มเดือนต.ค. 1,847.70 + 6.90

พัลลาเดียมเดือนก.ย. 757.00 - 18.90 --จบ--

ตลาดเงิน Emerging Asia:ขายทำกำไรกดดันดอลล์สิงคโปร์นำสกุลเงินเอเชียร่วง

ดอลลาร์สิงคโปร์ร่วงทะลุแนวรับระยะสั้นจากแรงขายทำกำไรของวาณิชธนกิจ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแทรกแซงตลาด และอัตราดอกเบี้ยติดลบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนลดสัดส่วนการถือสกุลเงินเอเชีย เนื่องจากตลาดหุ้นปรับตัวลง ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่อ่อนแอต่อสกุลเงินเอเชีย

นักวิเคราะห์และดีลเลอร์คาดว่า เงินเอเชียอาจมีการปรับฐานมากขึ้น ถ้าข้อมูลสหรัฐในวันนี้เพิ่มความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับภาวะถดถอยอีกครั้ง

นักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสอง และผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจในเขตมิด-แอตแลนติก

เนื่องจากความวิตกดังกล่าว ผู้กำหนดนโยบายในเอเชียบางส่วนเริ่มจึงทบทวนนโยบายการต่อสู้กับเงินเฟ้อแล้ว

หลายคนคาดว่าธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) จะปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อชะลอการแข็งค่าอย่างมากของดอลลาร์สิงคโปร์

ในปีนี้ ดอลลาร์สิงคโปร์เป็นสกุลเงินที่แข็งค่าขึ้นมากที่สุดในภูมิภาค โดยพุ่งขึ้น 6.2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยจากมุมมองที่ว่า MAS จะปล่อยให้ดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ

แต่การปรับฐานของสกุลเงินเอเชียในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีท่าทีว่าจะยุติแนวโน้มแข็งค่าในระยะยาว

"เศรษฐกิจโลกอาจจะชะลอตัวลง แต่เราคาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศเกิดใหม่และประเทศพัฒนาแล้วจะแตกต่างกันมากขึ้น อันเนื่องจากเหตุการณ์ในปัจจุบัน ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกนาน ซึ่งหยวน, ดอลลาร์ไต้หวัน และดอลลาร์สิงคโปร์ก็น่าจะแข็งค่าขึ้นต่อไป" บาร์เคลย์ แคปิตอลระบุ

ดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนค่าลงต่ำกว่าแนวรับระยะใกล้ที่ 1.2090 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่ทำไว้เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ขณะที่วาณิชธนกิจและธนาคารในสหรัฐซื้อคืนดอลลาร์

วอนปรับตัวลง 0.3% ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศขายวอน ขณะที่หุ้นร่วงลง

ดีลเลอร์บางรายระมัดระวังต่อการที่เจ้าหน้าที่เข้าแทรกแซงขายดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวอนแข็งค่าทะลุระดับ 1,070 ต่อดอลลาร์

ENGLAND:ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index)ปิดบวก 43 จุด สู่ 1414

ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ (18 ส.ค.) บวก 43 จุดหรือ 3.14% สู่ระดับ 1414

ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554

ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-

วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)

17 ส.ค. 1371 +27

16 ส.ค. 1344 +38

15 ส.ค. 1306 +19

12 ส.ค. 1287 +10

11 ส.ค. 1277 +12

19-08-54POEMS>> แนวโน้ม Sideways...
SETI ปิดปรับตัวลดลง แต่ RSI และ Modified Stochastic ให้ค่าสัญญาณบวก จึงทำให้มีแนวโน้ม
ในระยะสั้นเป็น Sidewaysดังนั้นในระยะสั้นแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร

TPIPL ปิด 13.80 บาท
ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นพร้อมปริมาณการซื้อขายหนุน รวมทั้ง Indicatorsทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวก แนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 14.50-15.00 บาท แนวรับที่ 13.50-13.30 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 13.00 บาท

CYBER ปิด 1.46 บาท
แท่งเทียนมีสีขาวพร้อมปริมาณการซื้อขายหนุน รวมทั้ง Indicatorsทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวก แนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 1.56-1.60 บาท แนวรับที่ 1.43-1.41 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 1.38 บาท

KAMART ปิด 1.53 บาท
ราคาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกเส้น รวมทั้ง Indicatorsทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวก แนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 1.60-1.65 บาท แนวรับที่ 1.50-1.48 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 1.46 บาท

RASA ปิด 1.54 บาท
แท่งเทียนมีสีขาวพร้อมปริมาณการซื้อขายหนุน รวมทั้ง MACDสามารถปิดเหนือเส้น Zero Line แนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 1.60-1.75 บาท แนวรับที่ 1.51-1.49 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 1.46 บาท

-----------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น