Code 483 : 30/08/54 ลงมาปิด Gap พอดีเป๊ะ... แล้วเด้งขึ้น ผ่าน EMA5 เป็น Buy Signal ไม้ 2... ถ้าผ่าน 1058 EMA10 Next Station 1070...

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม 2554
ATT Code : ลงมาปิด Gap พอดีเป๊ะ... แล้วเด้งขึ้น ผ่าน EMA5 เป็น Buy Signal ไม้ 2... ถ้าผ่าน 1058 EMA10 Next Station 1070...

กรอบเล็ก... Trading Range อยู่ที่ 1048 - 1058...
กรอบใหญ่... Trading
Range อยู่ที่ 1026 - 1073...

* ระยะ Day >>> Buy Signal ไม้ 2 หลังจากผ่าน EMA5 ขึ้นมา...

* ระยะ Week 29 - 2 ก.ย..54 >>> Still in Bear Market...
กรอบเล็ก 1025 - 1055... กรอบใหญ่ 1007 - 1070...

Week ที่แล้ว 22 - 26 ส.ค. 54 ... ยังอยู่ในโซน Bear Market แต่มีการ Rebound ท่ายสัปดาห์...

Main Indy = ทุกตัวเป็น Sell Signal... MACD below Signal Line / MACD Osc under Zero line เป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว...
Minor Indy = ทุกตัวเป็น Sell Signal เหมือนกัน... ADX = Bearish Market
เกิดเป็น Dead Cross แล้ว... หลังจาก EMA5 ตัด EMA10 ลงมา...
- SETI ทำ High ที่ 1069.76 จุด... มี Low ที่ 1012.158 จุด...
- SETI อยู่ระหว่าง EMA25 กับ BBB...

* ระยะ Month 1-31 ส.ค. 54 >>> SETI เป็นลักษณะ UpTrend... แต่มี Sell Signal เกิดขึ้นกับ Candlestick...
กรอบ 1080 - 1148....

- เดือนที่แล้ว กรกฎาคม ทำ New High 1136.26 จุด... มี Low ที่ 1059.78 จุด...
- ปัจจุบัน Candlestick = Black Candle เป็น Bearish engulfing = Reversal / ส่งสัญญาณลบ...
- ระวังอย่าให้หลุดเส้น EMA5 / EMA10...
---------------------------------------------------------------------------
*** แนวโน้มหลัก : Under BBA = Bearish market... แต่เกิด Buy Signal ไม้ 2 หลังจากผ่าน EMA5 ขึ้นมา...***
Trading
Range อยู่ที่ 1037 - 1070...

1. เข้าที่...
วันทำการก่อนหน้า SETI ปิดที่ 1055.63 จุด +18.41 จุด... Volume เบาบาง 26,017MB...
- SETI : บวกตาม HSKI... เกิด Buy Signal หลังจากผ่าน EMA5 ขึ้นมา... D
- EMA5 ตัด EMA10 ลงมา... เป็น Dead Cross = Down Trend... ยังไม่ D
- EMA5 ตัด BBA ลงมา.... ส่งสัญญาณลบอยู่... ไม่ D
- EMA10 ตัด EMA25 ลงมา.... ส่งสัญญาณลบอยู่... ไม่ D
- Chart Pattern ... White Candle... D

- Main Indicators... เริ่มมีสัญญาณดี Buy Signal บ้างแล้ว... D
MACD Osc.. under Zero Line... กลับมามีค่าเป็นบวก เป็นวันที่ 2 แล้ว... D ขึ้น
***MACD cross Signal ลงมา ทำให้เกิด Sell Signal ขึ้นมา... และ MACD ก็ต่ำกว่าเส้น Zero Line ลงมาแล้ว... แต่ Macd ไม่ห่างจาก Signal Line ตาม Macd Osc... เกือบ D
*** SSTO และ RSI... เกิดเป็น Buy Signal แล้ว... D มาก

- Minor Indicators... เริ่มมีสัญญาณดีขึ้นตาม main indy....
%R กลับมาเป็น Buy Signal แล้ว... D
CCI ตัด -100 ขึ้นมาแล้ว เป็น Buy Signal.. D
ADX : พลิกกลับมาให้สัญญาณลบน้อยลง เนื่องจาก DI ทั้ง 2 ตัว ห่างกันน้อยลง... D ขึ้น

----------------------------------------------------------------------------
2. ระวัง...
- ถ้าดัชนีลงมาต่ำกว่าที่ 1048... ก็มีโอกาสที่จะลงไปที่ 1037 ได้อีกครั้ง...

-----------------------------------------------------------------------------
3. ไป...
- แนวโน้มวันนี้ >>> ลงมาปิด Gap พอดีเป๊ะ... แล้วเด้งขึ้น ผ่าน EMA5 เป็น Buy Signal ไม้ 2... ถ้าผ่าน 1058 EMA10 Next Station 1070...

- สัญญาณบวก : Continue Pattern >>> เกิด Buy Signal หลังจาก SETI ดีดขึ้นมาผ่าน 1049 EMA5 ... ถ้าดัชนีสามารถยังยืนเหนือกว่า 1058 ก็เป็น Buy Signal ไม้ 2... ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน EMA75ที่ 1070 ได้...
*** ถ้าผ่าน 1070 ขึ้นมาไ้ด้ก็จะมีเป้าหมายที่ 1073...

- สัญญาณลบ : Reversal Pattern >>> ถ้าดัชนีหลุดแนวรับที่ 1048 ลงมา... ก็เป็นสัญญาณลบ โดยมีโอกาสที่จะลงมาทดสอบแนวรับที่ 1037 ได้...
*** ถ้าหลุด 1037 ลงมา ก็จะเป็น Sell Signal โดยมีเป้าหมายที่ 1026 EMA200 ได้...

----------------------------------------------------------------------------
แนวรับ... 1048 / 1037 / 1026...
แนวต้าน... 1058 / 1070 / 1073...


-----------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
30 สค. 54 (+18.41 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ยังมีโอกาสขึ้นต่อ 1062 - 73 จุด
แนวโน้มในสัปดาห์นี้ตราบใด ไม่ต่ำกว่า1037.22 จุดต่ำสุดของวันจันทร์และเส้นค่าเฉลี่ย25 ชั่วโมง

ดัชนียังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้แถว 1062 – 73 จุด แต่ไม่น่าจะผ่านแนวต้านตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันไปได้ และมีโอกาสปรับตัวกลับลงมาบริเวณ 1015 – 25ใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้วอีกครั้ง

ตลาดน่าจะใช้ระยะเวลา อีกหลายสัปดาห์แกว่งตัวขึ้นลงในกรอบ 1013 – 73 จุดหรือระหว่างจุดต่ำสุดสัปดาห์ที่แล้ว ถึงบริเวณใต้เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน

หุ้นเด่น
KTB
ปรับตัวขึ้นมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงพอดีรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 18.90 จุดสูงสุดวันจันทร์และเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าว เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 19.40 – 19.70( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 18.50 )

LH
ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงได้อีกครั้ง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 6.85จุดสูงสุดวันจันทร์ เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน7.05 – 7.15 ( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 6.75 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTT ไม่น่าเกิน 329 – 334
KBANK ไม่ต่ำกว่า 124 ขึ้น 129 - 130
BANPU ต่ำกว่า 624 ลง 610 - 614
SCC ต่ำกว่า 328 ลง 318 – 321
TOP ต่ำกว่า 67.25 ลง 64 - 65
BBL เกิน 154.50 ขึ้น 159 – 160
PTTCH ต่ำกว่า 134 ลง 127 – 130
PTTEP ต่ำกว่า 169 ลง 164 - 165
IRPC ต่ำกว่า 4.72 ลง 4.60 – 4.66
JAS ต่ำกว่า 2.16 ลง 2 – 2.10

-----------------------------------------------------------------------------
คอมเมนต์โบรกเกอร์....... 30/08/54

บล.บัวหลวง...............MINT แข็งแกร่ง พื้นฐาน 17 บาท จาก 1)บ.S&P ทำการซื้อหุ้นคืน (6.36ลห.จากหุ้นรวม 104.7ลห.) ได้ทำให้MINT มีสัดส่วนถือหุ้นS&P เพิ่มขึ้นเป็น 26.28%(จาก24.62%) ตามกฏตลาดเมื่อผถห.รายเดียว 25% ผถห.นั้นต้องเสนอซื้อหุ้นทีเหลือทั้งหมด ทั้งนี้ MINT เสนอซื้อ S&P ที่ 70 บาทต่อหุ้นและช่วงเสนอซื้อ 9ก.ย-13ต.ค 2)ราคาเสนอซื้อที่ 70 บาทคิดลด 13.6% จากราคาตลาดที่ 81 บาทชัดเจนว่าMINT ไม่ได้พยายามที่จะเข้าซื้อกิจการ แต่ถูกบังคับด้วยสัดส่วนการถือหุ้น และ 3)สัดส่วนถือหุ้นของMINT เพิ่มขึ้นเป็น 60% และมีอำนาทในการควบคุมการบริหาร คำนวณว่า MINT ต้องใช้เงินทั้งหมด 2.4 พันลบ. โดยสมติฐานเงินทั้งหมดได้มาจากการกู้ยืม โดยกำไรจากการเข้าซื้อ S&P จะทำให้ประมาณกำไรปี 55 เพิ่ม 5% "ซื้อ" เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตกำไรสูง

คู่หูคู่หุ้น................HEMRAJ เติบโต เป้าหมาย 2.80 บาท มองว่ากำไรใน 2H/54 มีแนวโน้มจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจาก 1H/54 เพราะมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจำนวนมากในช่วงครึ่งปีหลัง (มีBacklog ณสิ้นQ1/54 รวม 1 พันลบ.) อีกทั้งมีงบดุลแข็งแกร่ง มีหนี้สินต่ำเพียง 0.56 เท่า เชื่อว่ามีความพร้อมทางการเงินเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลงทุนเชิงรุก รวมถึงการขยายกิจการในธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจที่อยู่อาศัยและธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม เราเชื่อว่าราคาหุ้นยังมีปัจจัยบวกอีกมาก ประกอบด้วยเพิ่งจะปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายทิ่ดินในปี 54 ขึ้นเป็น 1,700 ไร่จาก 1,200 ไร่ และผลกำไรที่คาดจะออกมามากแข็งแกร่งใน 2H/54 รวมถึงค่าเงินบาที่แข็งค่าต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมาก และผลกำไรที่คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 55 หลังโครงการ GHECO-ONE มีความคืบหน้า เชื่อว่าจะเปิดดำเนินงานได้ก.พ55 แนะนำ "BUY" มีอัพไซด์ 22.8% เทคนิคสัญญาณกลับตัว สามารถยืนเหนือ 2.26 ได้ จะมีต้านต่อไป 2.40 และ 2.62 บาท

เด็กแนว.................SENA ครึ่งปีแรกกำไร 210 ลบ.ทุบสถิติที่เคยเห็นและมากกว่าคาดไว้เยอะ ครึ่งปีหลังรายได้ยังไม่ตกเพราะจะมีการโอนคอนโดอย่างน้อย 2 ตึกมูลค่ารวมเกือบพันลบ. จึงทำให้รายได้ทั้ปีโตอย่างแรงและกำไร Conservative 393 ลบ. พื้นฐานแค่พี/อี 6 เท่าที่ 3.50 บาท มีUpside 47% และมีอัตราปันผล 9.2% สูงสุดในกลุ่ม เทคนิคลุ้นเด้งปิดGAP ที่แนว 2.56 บาท.......................SVI การยกเลิกแผนเข้าซื้อกิจการในยุโรปแสดงว่าบ.ไม่มั่นใจไม่อยากเสี่ยง และไม่ต้องกลัวรายได้ชะลอ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นนวัตกรรมที่โลกต้องใช้ยังไงก็โตไม่หยุด ล่าสุดญี่ปุ่นเข้ามารับออเดอร์เรียบร้อย ขณะที่ผลกำไรQ2 โต 44% ทั้งปีโตกว่าปีก่อน 40% ราคาพื้นฐานหลายโบรกให้เฉลี่ยแถว 6 บาท ถือว่าสูงกว่าราคาปัจจุบันไม่น้อย สัญญาณกราฟ Oversold แนวโน้มดีดกลับไปตั้งฐานแถว 4.20 บาทก่อนค่อยว่ากัน

บาดตาเซียน...................แม้ใครจะว่าร้อยเล่ห์ แต่ก็ยังรัก.....LOXLEY แค่ยืน 3.80 ก็มีลุ้นผ่าน 4 ได้ต่อไป เป้าหมายกรอบสามเหลี่ยมเดิมที่ใหญ่กว่านั้นคือ 4.50-4.60 (จากการที่ไม่ต่ำกว่า 3.20 ) สรุปให้น้ำหนัก มองแนวโน้มรวมๆ เป็นเชิงบวก กลยุทธ์ ยังคงซื้อเก็บได้ รอผ่าน 4 (หวัง 4.50-4.60 ก่อน)

กระซิบหน้าจอ………………PTT ประกอบธุรกิจก๊าซธรรมชาติครบวงจรและธุรกิจปิโตรเลียม รวมทั้งบ.ในเครือ รายงานQ2/54 มีกำไร 32,528 ลบ. +91%YoY -6%Qo
Q สาเหตุหลักเนื่องจากส่วนแบ่งกำไรของบ.โรงกลั่นและปิโตรเคมี(รวมPTTCH) +266%YoY เป็น 10,409 ลบ. เป็นผลกำไรในธุรกจปิโตรเคมีโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์เพิ่มขึ้นจาก Spread ที่สูงขึ้น และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 1,064 ลบ. "ซื้อ"(รับ 320 ต้าน 340)....................................
KH มีรพ.เครือ 6 สาขา 6แห่ง จากรายงานQ2/54 มีกำไร 174.23 ลบ. +21.7%QoQ และคาดว่าQ3/54 ของทุกปีถือเป็นช่วง Peak Season ของธุรกิจรพ.เอกชน ที่ผู้ป่วยใช้บริการจำนวนมากเนื่องจากช่วงปลายฤดูฝน-ต้นฤดูหนาวที่อากาศปป.อย่างรวดเร็วนำไปสู่โรคระบาดต่างๆ "ซื้อ"(รับ 6.40 ต้าน 7.20)

บล.ฟิลลิป...................SAT เป้าหมาย 33.25 บาท เพราะการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ คาดยอดขายครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นถึง 27% เมื่อเทียบครึ่งปีแรก ซึ่งถือว่าดีกว่าที่ประเมินไว้ นอกจากนี้ Margin ในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น 18% เนื่องจากยอดผลิตรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยคาดครึ่งปีหลังการผลิตรถยนต์ 1 ล้านคันเพิ่มขึ้น 22% จากครึ่งปีแรกจากเป้าทั้งปีของส.อ.ท. ที่ 1.8 ล้านคัน เพื่อชดเชยส่วนที่ชะลอตหลังเกิดสึนามิ ส่วนปีหน้าการเพิ่มรถยนต์ Eco-Car จะเป็นส่วนต่อยอดการเติบโต "ซื้อ".............................BCP ชงบอร์ดปันผลวันนี้ วงในแบไต๋จ่ายพิเศษ 1 บาท ผู้บริหารเผยไฟไหม้จีนหนุนราคาน้ำมันตลาดสิงคโปรค์ขยับช่วงสั้นพร้อมปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลิตรละ 0.60สต. ครึ่งแรกโชว์กำไร 4,445.34 ลบ. โบรกปรับเป้ากำไรทั้งปีเพิ่ม 6,730 ลบ. +139.25% จากปีก่อน แนะนำเป็น "ซื้อ" (จากถือ) เป้าหมาย 26.75 บาท

บล.กรุงศรีอยุธยา..................SPALI เป้าหมาย 15.90 บาท เนื่องจากบ.มีแผนเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังมูลค่า 1.47 หมื่นลบ.และมีที่ดินสำหรับพัฒนาเป็นโครงการใหม่เพิ่มเติม 1.12 หมื่นลบ.ตั้งแต่ปี 55 เป็นต้นไป ซึ่งยังไม่รวมโครงการที่อยู่ระหว่างจัดทำรูปแบบใกล้ทำเลรัชดาภิเษกที่บ.เพิ่งชนะการประมูลซื้อจากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ฝ่ายวิจัยประเมินว่าภายหลังการเริ่มต้นโครงการขนาดใหญ่บนที่ดินรัชดาภิเษก ความหลากหลายในแง่รูปแบบและขนาดโครงการของSPALI จะขยับมาใกล้เคียงกับ Mixed Developer รายใหญ่อื่นๆ ส่วนแนวโน้มQ3/54 จะเติบโตสูงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงจากโครงการคอนโดฯทั้ง 3 แห่งจะเข้ามาสนับสนัน Net Profit Margin "ซื้อ"

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส…………CPN เป้าหมาย 38 บาท กลับมาเปิดสาขาลาดพร้าวได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก ได้ใช้งบลงทุนรวม 3.6 พันลบ.ในการปรับปรุง บ.ตั้งเป้ายอดขายสาขาลาดพร้าวช่วง 4 เดือนในช่วงที่เหลือปีนี้ที่ 1.8 พันลบ. และจะคุ้มทุนได้ใน 5-6 ปีหลังปิดปรับปรุง อย่างไรก็ดีเป็นจิตวิทยาทางบวกแต่ราคาหุ้นทะยาน 38% แต่ต้นปี ได้สะท้อนข่าวนี้ไปพอควร พบว่าพี/อีปี54 และ 55 สูงเป็น 41 และ 31 เท่า ราคาพื้นฐานมีอัพไซด์เพียง 3% จึงแนะนำเพียง "ถือ".......................ตลาดผันผวนสอยหุ้นยิลด์สูง สอยหุ้นปันผลตอบแทนปันผลเฉลี่ย 7-12% เข้าพอร์ต ฟากเซียนจับปากกา แนะสอยดาวเด่น 9 ตัว หลัวโชว์พื้นฐานแจ่ม ยิลด์สูง "เพิ่มน้ำหนักการลงุทน"ใน KGI SIRI TMT MCOT PF DELTA QH DTAC TISCO

บล.ธนชาต...................IVL เป้าหมาย 61 บาท แม้รายงานข่าวว่าพายุเฮอริเคนไอรีนปะทะพื้นที่ชายฝั่งของรัฐนอร์ทแคโรไลนาถึงรัฐเมน โดยนอร์ทแคโรไลนาฝั่งตะวันออกมีความเสี่ยงต่อพายุเฮอริเคนมากที่สุด ซึ่งรัฐนี้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์อย่าง ไก่ หมู ยาสูบ ฝ้าย ถั่วลิสง และถั่วเหลือง โดยกำลังการผลิต 2 รง.คิดเป็น 12% ของการผลิตรวม (PTA+PET+โพลีเอสเตอร์) อย่างไรก็ตามผู้บริหารคาดว่าบ.จะไม่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคน เนื่องจากรง.ตั้งห่างจากชายฝั่ง 250 ไมล์ นอกจากนี้บ.ได้ประกันภัยเสี่ยงทุกชนิด ส่วนราคาหุ้นปรับตัวลง 36% จากระดับสูงสุดของปีนี้ ปัจจัยพื้นฐานยังไม่ปป. P/E 11.7 เท่า และ 11เท่าในปี 55 เทียบกับระดับเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 13 เท่า ทั้งที่ให้ ROE ที่สูงสุดที่ 30% เที่ยบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 21% "ซื้อ"..................................STA ยิ้มรัฐขยับราคาขายยาง ล่ำซำจีนสต๊อกสินค้าเต็มแมกซ์ ฟุ้งครึ่งปีหลัง ธุรกิจยางพารากระเตื้องต่อเนื่อง หลังค่ายรถยนต์เดินหน้ากำลังการผลิตเต็มสูบพ่วงรัฐจ่อขยับราคาขายขึ้น คาดแรงซื้อต่างชาติแรงหลังอินโดนีเซีย-จีน สั่งสินค้าสนั่นแถมปลายปีจีนย่องเก็บสต๊อกยางเต็มโกดัง กูรูแนะ "ซื้อ" ราคาผ่านจุดต่ำสุด พื้นฐานเริ่ด คาดไตรมาส 3 เริ่มฟื้นต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ส่วนไตรมาส 4 ผลงานแรงสุดโต่ง เป้าหมาย 45 บาท มีอัพไซด์ 63%

บล.ไอร่า....................ITD บุกมาเลย์สร้างเมืองใหม่ จัดหนักครึ่งปีหลัง เดินหน้าโครงการใหม่หลายหมื่นลบ. ส่วนโครงการทวายใกล้คลอดเต็มแก่หลังเดินหน้าสร้างเส้นทางเข้าออกเรียบร้อยแล้ว โรกสบช่องแนะสอยด่วนหลังข่าวดีรุมตอม แถมงานใหม่จ่ออีก 1 แสนลบ. หลังพม่า-ลาวอัดบิ๊กโปรเจ็กต์ไม่ขาย "ซื้อ" เป้าหมาย 4.86 บาท

บล.กิมเอ็ง ...... KELIVE_Banking Sector (Positive): กลุ่มเช่าซื้อ ปัจจัยบวกสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆมีมุมมองในเชิงบวกสำหรับธนาคารกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อ (TISCO, TCAP) มากขึ้นเรื่อยๆ หลังทิศทางอัตราดอกเบี้ยเริ่มสงสัญญาณการชะลอการขึ้น ขณะที่นโยบายลดภาษีรถคันแรกของรัฐบาลใหม่ น่าจะช่วยกระตุ้นยอดซื้อรถยนต์ในประเทศ และช่วยผลักดันการขยายตัวของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ให้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เราได้ปรับคำแนะนำสำหรับ TISCO ขึ้นจาก ถือ เป็น ซื้อเมื่ออ่อนตัว โดยคงราคาเป้าหมายที่ 43.5 บาท และยังคงแนะนำ ซื้อ TCAP เป็น หุ้น Top pick ราคาเป้าหมาย 38 บาท…… BANPU แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 880 บาท.มีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นภายหลังจากเข้าประชุมร่วมกับผู้บริหารของ BANPU ในวันศุกร์ที่ผ่านมา CEO ของ BANPU ได้ชี้แจงและตอบข้อสงสัยได้ค่อนข้างชัดเจนในประเด็นต่างๆ ที่เราได้เคยแจ้งถึงมุมมองเชิงลบภายหลังจากการประชุมนักวิเคราะห์ในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาก่อนหน้า ได้แก่ความเสี่ยงของการปรับลดลงของราคาถ่านหิน และผลประกอบการของ CEY ที่ออกมาค่อนข้างผิดหวัง เราประเมินว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงในช่วงสัปดาหที่ผ่านมาสะท้อนความกังวลไปแล้วและ เป็นโอกาสที่ดีให้นักลงทุนระยะยาวเริ่มทยอยสะสมหุ้น BANPU ที่ยังคงมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แม้ว่าในระยะสั้นความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจทำให้เกิดความกังวลต่อสินทรัพย์เสี่ยง แต่ถ่านหิน เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ผันผวนน้อยกว่าสินค้าชนิดอื่น .....

หยิบเงินหยิบทองวันนี้.......ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดบวกเป็นวันที่ 2 อีก 1.7% ผลักดันให้ SET INDEX ทะลุแนว 1,050 จุดขึ้นมาปิดที่ 1,055.63 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 26,017 ล้านบาทเท่านั้น เพราะภาพการลงทุนยังขาดความชัดเจน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 8 อีก 1,829 ล้านบาท ……มุมมองต่อ SET INDEX วันนี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แนวต้าน 1,060/65 จุดน่าจะยังต้องใช้เวลาในการทะลุผ่าน แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายโดยรวมชะลอตัวลง ซึ่งง่ายต่อการผลักดัน SET INDEX ก็ตาม แต่ด้วยภาพการลงทุนที่ไม่ชัดเจน กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง อีกทั้ง Prop Trade กลับมาสะสมหุ้นในอัตราเร่ง วานนี้ซื้อสุทธิถึง 1,231 ล้านบาท ย่อมกลายเป็นจุดเสี่ยงต่อ SET INDEX ช่วงสั้นๆ ได้เช่นกัน …….แม้ว่าในด้านปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย และตลาดหุ้นไทยในมุมมองของ KimEng จะยังเป็นบวก หลังรัฐบาลประกาศลดราคาน้ำมันดีเซล และเบนซินลง 3-8 บาท/ลิตร และทำให้ราคาน้ำมันแก๊ซโซฮอล์ ลดลงแล้วเช่นกัน แรงกดดันต่อเงินเฟ้อลดลง อำนาจการใช้จ่ายภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น แต่ความผันผวนของกระแสเงินทุนต่างชาติ และภาพเศรษฐกิจโดยรวมในสหรัฐฯ และยุโรปยังต้องจับตามอง .......KimEng ยืนยันให้นักลงทุน ทยอยขายทำกำไร เมื่อ SET INDEX ดีดตัวขึ้นแรง และทยอยสะสมเมื่อ SET INDEX ปรับฐานลงแรง โดยที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง…..กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: KimEng แนะนำ ขายทำกำไรอีก 10% ของพอร์ตบริเวณ 1060 +/- ทยอยสะสม TCAP / VNT และ ขายทำกำไร AP/ BJC

บล.เครดิตสวิส ........ BANPU - Maintain Outperform TP Bt885.00

บล.ซิตี้กรุ๊ป ......... คงเป้าหมาย SET INDEX ที่ 1,150 จุด ยังแนะนำ Overweight กลุ่มธนาคารและที่ดิน Top pick คือ KBANK, TISCO, PTT, PTTCH, SPALI, MINT TICON

บล.เมอริลลินซ์ ....... KH – Raise TP to Bt8.00 (From Bt7.00) Maintain BUY Still top pick in the sector

Fund Survey ……….. Fund Flows Tracking: Flows ซื้อ BANK/PROP/Consumer เช้านี้แกร่ง ส่วน ENERG ซื้อปานกลาง สลับเข้า Commodities อื่นๆได้แก่ STA,CPF,IVL โดยรวมต่างชาติ (FI) ขายลดลง ลักษณะตั้งขายเมื่อรีบาวด์ ต่างชาติรอจังหวะ Downgrade รายตัวแต่ยังไม่ใช่ช่วงนี้หลังการเข้าตรวจ CLSA ขณะที่ช่วงนี้ LI จัดหนักจากเงินสดในมือที่อยู่ในระดับสูง คาดว่า SET น่าจะผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้ว 1000 จุด น่าจะเป็นจุดเข้าซื้อสำคัญ อย่างไรก็ดี LI พร้อมขายทำกำไรทันทีหากต่างประเทศปรับตัวลงแรง สรุปแล้วกลยุทธ์ช่วงนี้คือ SET ขึ้นลงรอบละ 7-10% ต้องขายทำกำไร Lock Profit อย่าหวังยาว กรณี Best Case คาด SET ทดสอบ 1100 กรณีฐาน 1072 จุด สำหรับพอร์ต 1M ให้ทยอยขายเมื่อทดสอบ 1072 และขายให้หมดเมื่อทดสอบ 1100 จุด ส่วนพอร์ต 3M ลดจาก 50% ลงสู่ 40% ที่ 1072 จุด

บล.เคที ซีมิโก้ ......... ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ทั้งดาวโจนส์ ยุโรป และเอเชีย หลังเมื่อคืนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเริ่มออกมาดีขึ้น ส่วนเรื่องปัญหาหนี้สินยุโรปเวลานี้ก็ดูเงียบลง แต่ปัญหายังไม่ได้หมดไป ……. โดยช่วงนี้ถือว่าเป็นการเล่นหุ้นบนความคาดหวังที่จะมีมาตรการ QE3 ซึ่งสุดท้ายก็ต้องรอดูว่าจะมีออกมาจริงหรือเปล่า ด้านปัจจัยภายในประเทศเวลานี้ถือว่าค่อนข้างดี ตัวเลขการส่งออกเดือนก.ค.ก็เติบโตเป็นประวัติศาสตร์ แต่ก็ต้องจับตาดูว่านักลงทุนต่างชาติจะหยุดขายเมื่อไหร่

บล.พัฒนสิน ....... คาดดัชนีฯ ขึ้นต่อ แนวรับ 1,047-1,044จุด แนวต้าน1,067/1,075จุด วันนี้แนะนำ KBANK BBL PTTEP BANPU PTTCH IVL SCC SAT….. (+) ตลาดหุ้นโลกฟื้นตัวขึ้นมา ทดสอบระดับ 50% ของที่ปรับลดลงไป (+) รัฐบาลเตรียมออกมาตรการประชานิยม เพิ่มเติม ส่งผลบวกต่อหุ้นบางกลุ่ม

-----------------------------------------------------------------------------

หุ้นมีข่าวbyแม่หมอ(เช้า) 30/8/54

หุ้นมีข่าวเชิงบวก

กลุ่มพลังงาน

PTT ML target 340 - ประกาศปันผล6บาทXD6/9/54 -คาดกำไร 3Q54 ดีต่อเนื่อง -หุ้นบริษัทใหม่ PTTGC (PTTCH+PTTAR) จะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในเดือน ต.ค.54 จะได้ประโยชน์จากมูลค่าหุ้นเพิ่มในระยะยาว -รอการขายหุ้น IPO ในโรงกลั่น SPRC ใน 1Q55- สนใจลทุนโรงงานปิโตรของเทมาแสคในอินโด

BANPU CS Maintain Outperform TP 885 -KEST แนะซื้อ ราคาเหมาะสม 880 บาท P/E ต่ำ นักลงทุนตื่นข่าวจีนลดนำเข้าถ่านหิน 15% จับตาตัวเลขกำไรครึ่งหลังสดใส หลังกำลังผลิตจากออสเตรเลีย-อินโดนีเซีย เพิ่มกว่า 2.7 ล้านตันส่วนปัญหา CEY แจ้งกำไรขั้นต้นต่ำ เกิดจากมาตรฐานทางบัญชีเท่านั้น และเชื่อว่าจะปรับตัวสูงขึ้นกว่า 30% ในปี 2554-2555 และราคาถ่านหินยังแข็งแกร่ง 120 ดอลลาร์ต่อตัน แนะ "ซื้อ" รับปันผลครึ่งปีแรกที่ 8 บาท

IVL ไม่ได้รับผลกระทบพายุเฮอริเคนไอรีน มั่นใจทั้งปีโตตามเป้าใหม่ 110% เด้งรับ Q3 สวย ดีมานด์-ยอดขายพุ่ง รับดีมานด์ PTA-PET ยังสูง คาด margin จะดีขึ้นในช่วง 3Q11ASPมอง มีมูลค่า และการดำเนินงานมีส่วนต่างของผลกำไรที่สูงขึ้น การเติบโตของอุตสาหกรรมใยโพลีเอสเตอร์จะช่วยเพิ่มรายได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้และปีต่อๆไป โดยคาดการณ์เป้าหมายในระยะ 12 เดือน ที่ 71 บาท

PTTCH KEST แนะนำ ซื้อเป้า 195 บาท เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการที่โดดเด่น ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความตึงตังของตลาด และ การควบรวมกับ PTTAR ที่จะแล้วเสร็จในภายในเดือน ต.ค. คาดกำไรปี 54-55 โตดี,รับผลดีควบ PTTAR/upside สูง

TOP KEST แนะซื้อเป้า 87 บาท ปัจจัยบวกจากฤดูเฮอร์ริเคนและการลดราคาน้ำมันในประเทศ Operating cash flow ที่สูงมาก ส่งผลให้มีเงินสดเหลือ และน่าจะมีการลงทุนครั้งใหญ่เพื่อผลักดันกำไรให้เติบโตในอนาคต - JPM เชื่อว่า ESSO จะสร้าง synergy ให้ ได้มากหาก เข้าซื้อ -benefits from lower local fuel tax, US hurricane season

PTTAR ค่าการกลั่นยังทรงตัวระดับสูง 8.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล บวกสเปรดราคาพาราไซลีนฟื้นตัวมาอยู่ที่ระดับ 630 ดอลลาร์ต่อตัน และราคาน้ำมันอยู่เหนือระดับ 105 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรล และควบรวมกิจการจบตุลาคมนี้

PTTEP เริ่มผลิตน้ำมันในโครงการเวียดนาม16-1แล้วปีนี้เพิ่มกำลังผลิตน้ำมันดิบเป็น 4 หมื่นบาร์เรลต่อวันและก๊าซอีก 30 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน JPM แนะนำ Buy TP@165 -UBS ปรับ ลงจาก 194 สู่ 176 (NEUTRAL)

VNT KEST แนะซือ้เป้าหมาย22บาท ไต้หวันขาดแคลนพีวีซีหนัก ประกาศกำไรจาก400เป็น784ล้าน แนวโน้มวงจรธุรกิจ PVC ที่ความต้องการใช้ที่เติบโตสูงทั้งจากประเทศจีนและะมีส่วนสนับสนุนให้ผลประกอบการในปี 2554 เติบโต 24.2% yoy

ESSO ML/RBS แนะนำ Buy TP11.90 /14 ส่วนต่างกำไรการกลั่น PX ขยายตัว ปรับคาดการณ์รายได้ปี 11-12 เพิ่มขึ้น 18% คาด TOP ยังไม่สามารถเข้ามาซื้อได้เร็วๆนี้

IRPC'เท8พันล้านผุดโรงงานผลิตไอน้ำ

กลุ่มวัสดุ

SCC ราคาปรับลงจาก 387 ลงมา311 บาท รับผลบวกราคาน้ำมันลง คาดเข้าสู่แนวโน้มกำไรขาขึ้นที่ชัดเจนตั้งแต่ครึ่งปีหลัง2554 แม้กำไรไตรมาส2อาจอ่อนตัวลง การลงทุนเข้าซือ้กิจการเพื่อสร้างการเติบโตระยะปานกลางถึงยาว ครึ่งปีแรกกำไรโต13%

กลุ่มสื่อสารไอซีที

ADVANC CITIเป้าหมายขึ้นเป็น 140.70 บาท เชื่อว่าราคาหุ้นกลุ่มมือถือของไทยน่าสนใจ โดยคาดว่าจะเกิดการประมูล 3G บน 2.1 GHz ได้ในปีหน้า และเป็น upside ต่อประมาณการ ขณะที่ราคาหุ้นแม้ว่าจะขึ้นมามาก

DTAC CITI ปรับ เป้าหมายขึ้นเป็น 75.25 บาทเชื่อว่าราคาหุ้นกลุ่มมือถือของไทยน่าสนใจ โดยคาดว่าจะเกิดการประมูล 3G บน 2.1 GHz ได้ในปีหน้า และเป็น upside ต่อประมาณการ ขณะที่ราคาหุ้นแม้ว่าจะขึ้นมามากแล้ว

กลุ่มขนส่ง

TTA จับตาเกมยื้อหุ้นยังไม่จบ ล่าสุดกองทุนต่างชาติกระจาย BLS/ฟิลลิป แนะ "ซื้อ"ชี้เป้า 24/25.50 บาทโดยมีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้นต่อธุรกิจเดินเรือและธุรกิจบริการใต้ทะล- KEST แนะขาย ราคาเหมาะสม 22.17 บาท

THAI CS ให้เป้าหมาย TP 39.10 คาดกำไร 2H54 จะฟื้นตัวได้ดี จาก cabin factor ที่เพิ่มขึ้นเป็น 77-78% ในเดือน ก.ค. - ส.ค. จาก 2Q54 ที่ต่ำเพียง 66% คาด 3Q54 จะมีกำไร 2.7 พันล้านบาท และ 3.6 ล้านบาทใน 4Q54

กลุ่มบันเทิงสื่อ

BEC RBS - Pricing power improving - Raise TP to Bt50.00 (From Bt42.00)

RS มั่นใจรายได้ทั้งปี 3,100 ล้านบาท ชี้ทีวีดาวเทียมพีคไม่หยุดมีสิทธิทำรายได้ทะลัก 400 ล้านบาท มองอัตรากำไรสุทธิทั้งปี 10%เดินสายโรดโชว์เต็มสูบปักธงรายได้แตะ3.1พันล้าน

กลุ่มแบงค์

TCAP ส่งซิกสินเชื่อเช่าซื้อมีแววทะลุเป้า 8-10% ด้าน "อนุชาติ ดีประเสริฐ" ลั่นนโยบายรัฐบาล ฉุดน้ำมันหด ส่งสินเชื่อเช่าซื้อทะลุเป้า จับตาความต้องการรถยนต์ทะลักไตรมาส 4/2554 นี้ แย้มการประชุม กนง.อีก 2 ครั้ง ส่อแววเปลี่ยนทิศ เพราะแรงกดดันจากเงินเฟ้อลดลง

กลุ่มพาณิชย์

LOXLEY สลากชงรัฐขายหวย 1.5 หมื่นล.คาดขายหวยออนไลน์ได้งวดแรกสิ้นปีนี้จะได้รับค่าธรรมเนียม 0.75 บาทต่อการทำรายการ 1 ครั้งผ่านเครื่องออกสลากออนไลน์- มีกำไรเติบโตสูงจากรายได้ร่วมโครงข่ายขยาย 3G TOT มูลค่า 5.599 พันลบ. - เล็งเดินหน้าพลังงานทดแทน

กลุ่มไฟแนนซ์

BLA CITI ให้เป้า65บาท กำไรเพิ่มจาก602 ล้านเป็น1291ล้าน บุ๊คกำไรSICCO เข้าไตรมาสสาม375ล. ผู้บริหารคาดผลดำเนินงานครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง เร่งขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เล็งกัมพูชาที่แรก รับผลบวก ลดคุ้มครองฝากสคฝ.เงินไม่เกิน 50 ล้าน

กลุ่มเกษตร อาหาร

STA ยิ้มรัฐขยับราคาขายยาง ล่ำซำจีนสต๊อกสินค้าเต็มแม็กซ์ นายกสมาคมยางคาดปี 54 ไทยน่าจะส่งออกยางพาราได้ไม่ต่ำกว่า2.9 ล้านต้นเพิ่มขึ้น5% จากปีก่อน- คาดว่าจะรายงานกำไร Q2/54 ลดลง 44%YoY และ 50% จะฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในQ2/54อุตสาหกรรมยานยนต์ในญี่ปุ่นเริ่มฟื้นคาดแรงซื้อต่างชาติแรงหลังอินโดนีเซีย-จีน สั่งสินค้าสนั่นแถมปลายปีจีนย่องเก็บสต๊อกยางเต็มโกดัง

KBS พื้นฐานแกร่ง คาดราคาน้ำตาลโลกทรงตัวในระดับสูง เชื่อปีนี้กำไร 765 ล้านบาท

กลุ่ม HOME

SIAM ประกาศกำไรเพิ่มจากปีก่อน 77เป็น307ล้าน

กลุ่มยานยนต์

IHL รายได้ครึ่งหลัง 1,100 ล้านบาท ค่ายรถเดินเครื่องเต็มกำลัง ลูกค้าหันนิยมเบาะหนัง ดันออเดอร์ผลิตเข้าทะลัก ลุยเปิดช่องทางใหม่' ออเดอร์บานฉ่ำ/รายได้พุ่ง อานิสงส์ลดภาษีรถยนต์คันแรก

กลุ่มอสังหา

SENA เด่นสุดในกลุ่มอสังหาฯเหตุกำไรโตต่อเนื่อง-จ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาดปีนี้โชว์รายได้สูง 1,690 ล้านบาททำกำไรสุทธิพุ่ง 370 ล้านบา

กลุ่มรับเหมา

ITD เดินหน้าโครงการใหม่หลายหมื่นล้าน ล่าสุดเตรียมบุกมาเลย์ผุดเมืองใหม่คาดชัดเจนเร็วๆ นี้ ส่วนโครงการทวายใกล้คลอดเต็มแก่หลังเดินหน้าสร้างเส้นทางเข้าออกเรียบร้อยแล้ว แถมงานใหม่จ่ออีก 1 แสนล้านบาท หลังพม่า-ลาวอัดบิ๊กโปรเจ็กต์ไม่ขาด

กลุ่ม MAI

LHK คาดกำไร-รายได้ Q2/54 ดีกว่า Q1/54 ขานรับทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัว มั่นใจกำไรสุทธิปีนี้ ไม่ต่ำกว่าปีก่อนญี่ปุ่น"จ่อถือหุ้นเพิ่ม49%

GUNKUL เผยกำไร-รายได้ปีนี้โต 100% จากปีก่อน หลังทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ คาดปีหน้าลุยเปิดโรงไฟฟ้าต่างประเทศอีก 1 แห่ง

SYMC ตั้งเป้าปีหน้าโต 15% เกาะเทรนด์การใช้ WiFi-3G พร้อมทุ่ม 300 ล้านบาทขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่ม

UKEM ยันพื้นฐานไม่เปลี่ยนหลังซดกำไรครึ่งแรกกระฉูดที่ 119 ล้านบาท ส่วนครึ่งหลังเชื่อเข้าเป้า พร้อมปูพรมยอดขายปีนี้แตะที่ 3 พันล้านบาท

AGEเทรดพาร์ใหม่ปลายก.ย.นี้ ปิดสมุดบัญชีผู้ถือหุ้นวันที่ 30 สิงหาคมนี้ เตรียมใช้สิทธิประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 14 กันยายนนี้ เพื่อขออนุมัติเปลี่ยนมูลค่าที่ตราไว้จาก หุ้นละ 1 บาทเป็น 25 สตางค์ เผยพร้อมเทรดปลายเดือนกันยายนนี้

TRT เซ็นงานหม้อแปลงขนาดใหญ่ของ กฟผ. มูลค่า 162 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อกเพิ่มเป็น 1.85 พันล้านบาท โซ้ยยาวถึงปีหน้า พร้อมจ้องสอยงานใหม่ 4.90 พันล้านบาท เสริมรายรับอนาคต แถมวาดฝันปี 2555 รายได้ขยายตัว 10%

หุ้นมีข่าวเชิงลบ

JAS รับผลลบทางจิตวิทยาเรื่อง รัฐบาลจะให้ใช้WIFI ฟรี 3เดือน - กลุ่ม VI ขายออกมา - นวพ ลงร่วง ไม่เกี่ยวพื้นฐาน เหตุนักลงทุนตื่นตูมผวา 3G กระทบธุรกิจ 3BB แถมปลายสัปดาห์ก่อนเจอชอร์ตเซล 70 ล้าน

SCAN-SMC แขวนSPห้ามซื้อขายหุ้นเหตุกลต.สั่งแก้งบพบเงื่อนงำในบัญชี

หุ้นมีข่าวทั่วไป

BCP เผยรัฐลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันทำยอดขายน้ำมันกลุ่มโซฮอล์ลด 18% แต่ยอดขายเบนซินพุ่ง 200% : เผยเฉือนเนื้อลดราคาแก๊สโซฮอล์ 60 สตางค์ต่อลิตร ทำขาดทุน 50 ล้านบาทต่อเดือน ยิ่งลักษณ์เตรียมหารือ ครม. วันนี้ ประชุมบอร์ดคาดการณ์เงินปันผล 1H54 @ 0.60 -1บาท

KSL เผย บอร์ดมีมติงดออกหุ้นเพิ่มทุน PO จำนวน 2 พันลบ. เหตุยังมีสภาพคล่องเพียงพอใช้ขยายธุรกิจ   

MINT ทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์หุ้น S&P ราคาหุ้นละ 70 บาท ช่วงเสนอซื้อวันที่ 9 ก.ย.-13 ต.ค.54

IECเปิดทาง2บ.ย่อยเพิ่มทุนเสริมสภาพคล่อง

KTBสินเชื่อก.ค.ชะลอตัวมั่นใจไม่วืดเป้าทั้งปีโต10%

30 ส.ค. THAI13CA รับส่วนเพิ่ม DW 10,000,000 หน่วย
AH XD หุ้นละ 0.16 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
KCE XD หุ้นละ 0.10 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
MONTRI XD หน่วยลงทุนละ 0.35 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
TLOGIS XR 1 : 0.5495 @ 11.10 บาท
LPN จ่ายปันผล หุ้นละ 0.21 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
PTTAR จ่ายปันผล หุ้นละ 0.84 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
PTTCH จ่ายปันผล หุ้นละ 3.32 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
TUF จ่ายปันผล หุ้นละ 0.91 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)

31 ส.ค. ROJNA-W3 หลักทรัพย์ใหม่ 386,369,385 หน่วย
IT จ่ายปันผล หุ้นละ 0.16 บาท (รอบ 1 เม.ย.-30 มิ.ย.54)
MCS จ่ายปันผล หุ้นละ 0.30 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
MNIT จ่ายปันผล หน่วยลงทุนละ 0.183 บาท (รอบ 1 เม.ย.-30 มิ.ย.54)
MNIT2 จ่ายปันผล หน่วยลงทุนละ 0.185 บาท (รอบ 1 เม.ย.-30 มิ.ย.54)
MNRF จ่ายปันผล หน่วยลงทุนละ 0.195 บาท (รอบ 1 เม.ย.-30 มิ.ย.54)

1 ก.ย. GBX-W1 ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
IVL08CA ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
AYUD XD หุ้นละ 0.50 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
EGCO XD หุ้นละ 2.50 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
SPORT XD หุ้นละ 0.08 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
FSS XR 2.50 : 1 @ 1.60 บาท
BOL จ่ายปันผล หุ้นละ 0.04 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
PM จ่ายปันผล หุ้นละ 0.10 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
PT จ่ายปันผล หุ้นละ 0.10 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
QLT จ่ายปันผล หุ้นละ 0.20 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
UBIS จ่ายปันผล หุ้นละ 0.05 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)

2 ก.ย. EASTW XD หุ้นละ 0.12 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
SCB XD หุ้นละ 1.00 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
SCB-P XD หุ้นละ 1.00 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
UOBKH XD หุ้นปันผล 1 หุ้นเดิมต่อ 0.42 หุ้นใหม่
ADVANC จ่ายปันผล หุ้นละ 4.17 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)
PSL จ่ายปันผล หุ้นละ 0.15 บาท
SCCC จ่ายปันผล หุ้นละ 7.00 บาท (รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.54)

------------------------------------------------------------------------------

****Market Savvy : Flows ซื้อ BANK/PROP/Consumer เช้านี้แกร่ง ส่วน ENERG ซื้อปานกลาง สลับเข้า Commodities อื่นๆได้แก่ STA, CPF, IVL

· Thailand Market Wrap : SET ปิดที่ 1055.63 จุด (+1.77%) ตามตลาดภูมิภาค ซื้อมากในหุ้น Big Cap นำโดย ENERG (+3.37%), PETRO (+3.76%) และ BANK (+1.16%) แรงกดดันภายนอกเริ่มผ่อนคลาย โดยตลาดคาดหวังว่า Fed อาจมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายเดือน ก.ย. อีกทั้งปัจจัยภายในยังได้รับแรงหนุนจากนโยบายรัฐบาลซึ่งเริ่มดำเนินการแล้ว และราคาหุ้นที่มีการปรับตัวลงค่อนข้างมากจากช่วงก่อนหน้า ขณะที่ต่างชาติยังคงขายต่อเนื่อง 1.8 พันลบ ซึ่งเป็นการขายสุทธิ 8 วันติดต่อกัน

· Global Market : EU (DAX +2.4%, CAC +2.2%), DJ +2.3% รับปัจจัยบวกจาก 1) ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเกินคาด จาก 0.1% สู่ 0.8% ในเดือน ก.ค. (Consensus 0.5%) มากสุดในรอบ 5 เดือน จากอุปสงค์รถยนต์ที่แข็งแกร่ง หนุนให้คลายความวิตกเกี่ยวกับการเข้าสู่ภาวะถดถอยของ US ไปได้ชั่วคราว 2) การควบรวมกิจการระหว่างยูโรแบงค์ซึ่งเป็นธนาคารอันดับ 2 ของกรีซ และ อัลฟา ซึ่งเป็นธนาคารอันดับ 3 ของกรีซ หนุนภาพรวมภาคการธนาคารของกรีซแข็งแกร่งขึ้น 3) พายุไอรีนเริ่มอ่อนแรงลงจนกลายเป็นไซโคลนและเคลื่อนตัวออกจากรัฐที่สำคัญของ US มุ่งสู่แคนาดาแล้ว อย่างไรก็ตามมีปัจจัยลบเล็กน้อยจาก ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอการปิดขาย (pending home sales) ลดลง 1.3% ในเดือน ก.ค. ปรับตัวลดลงตามคาด

· Economics Watch : โพลล์รอยเตอร์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบ US อาจเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจทรงตัว ด้านภาคอสังหา คาดตัวเลขราคาบ้าน US จะลดลง 4.6% ใน เดือน มิ.ย. ส่วนความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. คาดที่ระดับ 52

· Commodities : WTi +2.23% สู่ $87.27/bbl แรงหนุนจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาดจาก 0.1% สู่ 0.8% ในเดือน ก.ค. (Consensus 0.5%) มากสุดในรอบ 5 เดือน ซึ่งกดดันให้ Gold -0.32% สู่ $1791.6/Oz ด้าน Soybean +1.6% จากความวิตกกังวลภาวะแห้งแล้งในเขตมิตเวสต์ของ US กระทบแนวโน้มผลผลิตถั่วเหลือง, Sugar -1.1% สู่ 29.89 cent/Oz แรงขายทำกำไร ขณะที่ยังมีปัจจัยบวกหนุนจากแนวโน้มผลผลิตจากบราซิลที่ปรับตัวลดลงและอุปสงค์จากจีนที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

Strategy: Flows ซื้อ BANK/PROP/Consumer เช้านี้แกร่ง ส่วน ENERG ซื้อปานกลาง สลับเข้า Commodities อื่นๆได้แก่ STA,CPF,IVL โดยรวมต่างชาติ (FI) ขายลดลง ลักษณะตั้งขายเมื่อรีบาวด์ ต่างชาติรอจังหวะ Downgrade รายตัวแต่ยังไม่ใช่ช่วงนี้หลังการเข้าตรวจ CLSA ขณะที่ช่วงนี้ LI จัดหนักจากเงินสดในมือที่อยู่ในระดับสูง คาดว่า SET น่าจะผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้ว 1000 จุด น่าจะเป็นจุดเข้าซื้อสำคัญ อย่างไรก็ดี LI พร้อมขายทำกำไรทันทีหากต่างประเทศปรับตัวลงแรง สรุปแล้วกลยุทธ์ช่วงนี้คือ SET ขึ้นลงรอบละ 7-10% ต้องขายทำกำไร Lock Profit อย่าหวังยาว กรณี Best Case คาด SET ทดสอบ 1100 กรณีฐาน 1072 จุด สำหรับพอร์ต 1M ให้ทยอยขายเมื่อทดสอบ 1072 และขายให้หมดเมื่อทดสอบ 1100 จุด ส่วนพอร์ต 3M ลดจาก 50% ลงสู่ 40% ที่ 1072 จุด

-----------------------------------------------------------------------------

ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 2% รับข่าวแบงก์กรีซควบกิจการ
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นมากกว่า 2% ในวันจันทร์ ขณะที่การควบกิจการระหว่างธนาคารขนาดใหญ่ 2 แห่งของกรีซเป็นข่าวเชิงบวกจากยุโรปซึ่งประสบปัญหาหนี้สิน
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 254.71 จุดหรือ 2.26% สู่ 11,539.25, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 33.28 จุดหรือ 2.83% สู่ 1,210.08 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 82.26 จุดหรือ 3.32% สู่ 2,562.11
ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 6.5 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค, ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งต่ำกว่าปริมาณเฉลี่ยต่อวันของปีที่แล้วที่ 8.47 พันล้านหุ้น โดยประมาณ 90% ของหุ้นที่ซื้อขายในตลาดนิวยอร์คปิดในแดนบวก และหุ้น 85% ในตลาด Nasdaq ปิดในแดนบวก
การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหม่ของสหรัฐ และช่วยหนุนหุ้น 10 กลุ่มในดัชนี S&P โดยมีหุ้นในดัชนี S&P เพียง 5 ตัวที่ปิดตลาดในแดนลบ ขณะที่ดัชนีความผันผวน (VIX) ซึ่งเป็นตัววัดความวิตกของนักลงทุนร่วงลง 9.3% แต่ปริมาณการซื้อขายที่ระดับต่ำ ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างมาก
การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือนในเดือนก.ค. ซึ่งสนับสนุนมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะไม่กลับเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่จำนวนสัญญาขายบ้านลดลง 1.3% ตามคาดในเดือนก.ค.(รอยเตอร์)

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:ตัวเลขผู้บริโภคหนุนน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 1.9 ดอลล์
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นกว่า 2 % ในวันจันทร์ ในขณะที่สหรัฐรายงานว่า ปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคทะยานขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 5 เดือนในเดือนก.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่กลับเข้าสู่ภาวะถดถอย
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนต.ค.ทะยานขึ้น 1.90 ดอลลาร์ หรือ 2.23 % มาปิดตลาดที่ 87.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.11-87.62 ดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.47% สู่ 111.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 110.53-112.73 ดอลลาร์
โรงกลั่นน้ำมันทางชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐไม่ได้รับความเสียหายมากนักจากพายุเฮอริเคนไอรีนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 ส.ค.ในวันพุธนี้ โดยโพลล์รอยเตอร์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจทรงตัว (รอยเตอร์)

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ราคาทองร่วงลงขณะตลาดหุ้นพุ่งขึ้น
ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดตลาดในแดนลบในวันจันทร์ ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นเนื่องจากนักลงทุนต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากยิ่งขึ้น โดยราคาทองในตลาดสปอตดิ่งลง 2.2 % ในช่วงแรก ก่อนจะลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้บ้างเมื่อนักลงทุนบางรายเข้าช้อนซื้อ
นักลงทุนบางรายยังคงเพิ่มการถือครองทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากไม่เชื่อว่าข่าวดีต่างๆที่ออกมาในวันจันทร์จะดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน
ราคาทองเคลื่อนตัวในกรอบแคบในวันจันทร์ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากวันจันทร์นี้เป็นวันหยุดธนาคารในตลาดลอนดอน ส่วนบริษัทในนิวยอร์คก็มีพนักงานมาทำงานน้อย หลังจากพายุเฮอริเคนพัดถล่มชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
การแข็งค่าของดอลลาร์มีส่วนกดดันราคาทอง โดยดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนและฟรังก์สวิส หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
นักลงทุนบางรายตั้งข้อสังเกตว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ไร้ทิศทาง และการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐในอนาคต อาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาทองเคลื่อนตัวในกรอบแคบในระยะใกล้
สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันจันทร์มีดังต่อไปนี้
ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)
ทองเดือนธ.ค. 1,791.60 - 5.70
เงินเดือนก.ย. 40.546 - 40.60 (เซนต์)
พลาตินั่มเดือนต.ค. 1,825.00 - 1.90
พัลลาเดียมเดือนก.ย. 753.95 - 2.40 (รอยเตอร์)

ตลาดเงินนิวยอร์ค:ดอลล์แข็งค่ารับข้อมูลการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐแกร่ง
ดอลลาร์ทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับเยนและฟรังก์สวิสในวันจันทร์ ขณะที่ข้อมูลการใช้จ่ายที่แข็งแกร่งของผู้บริโภคสหรัฐได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 76.820 เยน เทียบกับระดับปิดวันศุกร์ที่ 76.600 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4510 ดอลลาร์ และ 111.48 เยน เทียบกับระดับปิดวันศุกร์ที่ 1.4497 ดอลลาร์ และ 111.13 เยน
การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจดีดตัวขึ้นอย่างมากในเดือนก.ค.จากเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม ยอดทำสัญญาขายบ้านที่อ่อนแอบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงซบเซา
ดอลลาร์และยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส โดยฟรังก์ถูกกดดันมาตั้งแต่วันศุกร์ หลังธนาคารยูบีเอสของสวิสฯขู่เก็บค่าธรรมเนียมการฝากเงินโดยมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้นการใช้บัญชีเพื่อกักตุนฟรังก์เพราะความผันผวนของตลาดการเงิน
ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเยน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนดอลลาร์ แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร (รอยเตอร์)

ตลาดเงิน Emerging Asia:วอน,ริงกิตแข็งค่า เก็งเฟดออกมาตรการกระตุ้น
วอนและริงกิตดีดตัวขึ้น ขณะที่กลุ่มนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์เพิ่มสัดส่วนการถือครองเงินเอเชียส่วนใหญ่ ท่ามกลางดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงหลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจจะออกมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
วอนแข็งค่าขึ้นขณะที่กลุ่มนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์ขายดอลลาร์ และจากอุปสงค์ของนักลงทุนในต่างประเทศ
ดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนค่าลง สวนกระแสเงินเอเชียที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่กลุ่ม leveraged account และกลุ่มนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์ ซื้อคืนดอลลาร์ก่อนวันหยุด นักลงทุนหลายคนคาดว่าธนาคารกลางสิงคโปร์เข้าซื้อคืนดอลลาร์ด้วย ขณะที่คนอื่นๆปฏิเสธจความเป็นไปได้ดังกล่าว
บาท/ดอลลาร์ภาคบ่ายแกว่งตัวในกรอบแคบ ตามแรงซื้อขายระหว่างวัน ที่สลับกันเข้ามาในตลาด ขณะที่นักลงทุนยังคงรอการชี้นำ จากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 29.97/30.03 จาก 29.96/30.00 ช่วงเช้า ขณะที่ในตลาด offshore อยู่ที่ 29.98/30.01 จาก 29.97/99 ช่วงเช้า (รอยเตอร์)

ดัชนีค่าระวางเรือ ไม่มีรายงานเนื่องจากตลาดปิดทำการวันหยุด วันจันทร์ (รอยเตอร์)

30-08-11>> แนวโน้มขาลง...
ถึงแม้ว่า SETI ดีดตัวขึ้นมา แต่มีมูลค่าการซื้อขายเบาบางลง และ MACD ปิดต่ำกว่าเส้น Zero Line รวมทั้ง MACD ให้ค่าสัญญาณลบ จึงทำให้มีแนวโน้มในระยะสั้นเป็นขาลง ดังนั้นในระยะสั้นแนะนำ "ขาย"

PTTEP ปิด 170.00 บาท
แท่งเทียนมีสีขาวพร้อมวอลุ่มหนุน และ Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวก แนวโน้มเป็นขาขึ้น
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวต้านที่ 178.00-180.00 บาท แนวรับที่168.00-167.00 บาท Cut Loss หากราคาปิดต่ำกว่า 166.00 บาท

THCOM ปิด 9.85 บาท
ไม่สามารถผ่าน Neck Line บริเวณ 10 บาทขึ้นมาได้ ประกอบกับIndicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณลบ แนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 9.95-10.10 บาท แนวรับที่ 9.50-9.00บาท

JAS ปิด 2.18 บาท
ทำจุดต่ำสุดใหม่ในระยะสั้น และ Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณลบและ MACD ปิดต่ำกว่าเส้น Zero Line แนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 2.24-2.28 บาท แนวรับที่ 2.00-1.80 บาท

TOG ปิด 3.64 บาท
แท่งเทียนปิดมีสีดำยาวเต็มแท่ง และ MACD ปิดต่ำกว่าเส้น Zero Lineและ ปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น แนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 3.70-3.74 บาท แนวรับที่ 3.60-3.50 บาท

-----------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น