
DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์บวกสัปดาห์ก่อนเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 เดือน
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดตลาดสัปดาห์ก่อนปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์แรกในรอบกว่า 1 เดือน ขณะที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพิ่มความหวังเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นในการประชุมเฟดในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 134.72 จุดหรือ 1.21%สู่ 11,284.54, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 17.53 จุดหรือ 1.51% สู่ 1,176.80และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 60.22 จุดหรือ 2.49% สู่ 2,479.85
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์บวก 4.3%, ดัชนี S&P เพิ่มขึ้น 4.7%และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 5.9%
ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 7.9 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค, ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq เท่ากับปริมาณเฉลี่ยต่อวันที่ 7.9 พันล้านหุ้น โดยมีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วนประมาณ 5 ต่อ 1 ในตลาดนิวยอร์ค และประมาณ 4 ต่อ 1 ในตลาด Nasdaq
ตลาดปรับตัวลงในช่วงแรกหลังจากนายเบอร์นันเก้ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนการที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ตลาดปรับตัวขึ้นในเวลาต่อมานำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากนักลงทุนลงความเห็นว่าเฟดเปิดโอกาสสำหรับการดำเนินการใดๆ แม้เทรดเดอร์จำนวนมากเชื่อว่า เฟดมีทางเลือกที่จำกัดในการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ตาม
ดัชนีความผันผวน (VIX) ซึ่งวัดความวิตกของตลาดนั้นลดลง หลังจากที่มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแถลงของนายเบอร์นันเก้
ดัชนี VIX ลดลง 10.2% สู่ 35.69 หลังร่วงลงในช่วงเช้าถึง 14%สู่ระดับต่ำสุดของวันที่ 34.33
นายเบอร์นันเก้แถลงที่เมืองแจ๊คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่งกล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายของเฟดจะประชุมเป็นเวลา 2 วันในเดือนก.ย.แทนการประชุมวันเดียวเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
ขณะที่แสดงความเชื่อมั่นในระยะยาวนั้น นายเบอร์นันเก้กล่าวว่า เฟดพบว่าสถานการณ์ที่ผ่านมามีปัญหา และมองว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ระดับต่ำ
หุ้นกลุ่มบริษัทประกันอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวไร้ทิศทางหลังร่วงลงในช่วงต้นสัปดาห์จากความวิตกว่า ความเสียหายที่รุนแรงจากพายุเฮอริเคนไอรีนจะส่งผลให้มีการเคลมประกันจำนวนมาก
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดปรับตัวขึ้น โดยหุ้นซิสโก ซิสเทมส์,ไมโครซอฟท์ และอินเทลนำดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นมากที่สุด
ส่วนดัชนี S&P หุ้นกลุ่มเทคโนโลนีสารสนเทศพุ่งขึ้น 2.3%--จบ--
ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:น้ำมันดิบปิดบวก 7 เซนต์,คาดเฟดจะกระตุ้นศก.
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดปรับขึ้นในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมถึงแม้นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการหนุนเศรษฐกิจก็ตาม
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนต.ค.ปรับขึ้น 7 เซนต์ หรือ 0.1 % มาปิดตลาดที่ 85.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 82.95-85.64 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนบวกขึ้น 74 เซนต์หรือ 0.67 % สู่ 111.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 109.30-111.70ดอลลาร์
เทรดเดอร์ปรับตัวรับพายุเฮอริเคนไอรีนที่พัดมาถึงชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐในขณะที่สถานีขนถ่ายน้ำมัน, โรงกลั่นน้ำมัน, ท่อส่งน้ำมัน และกิจการอื่นๆในอุตสาหกรรมพลังงานปรับตัวรับพายุช่วงสุดสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบร่วงลงในช่วงแรกหลังจากนายเบอร์นันเก้กล่าวแถลงในงานประชุมเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางที่เมืองแจ็คสัน โฮลในรัฐไวโอมิง อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันปรับขึ้นในช่วงต่อมา โดยได้รับแรงหนุนจากการดีดขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท,ราคาทองแดง และราคาทอง
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันขยับขึ้นได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐขยายตัวเพียง 1 % ต่อปีในไตรมาสสอง และธอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงลงสู่ 55.7 ในเดือนส.ค. จาก 63.7 ในเดือนก.ค.--จบ--
ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองพุ่งขึ้น,คาดเฟดดำเนินมาตรการกระตุ้นศก.
ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 2.2 % ในวันศุกร์ หลังจากดิ่งลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ในขณะที่ถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันศุกร์ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า เฟดอาจพิจารณาเรื่องการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขอัตราการว่างงานที่ระดับสูง
ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดสหรัฐปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.9 % หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,759.50-1,812.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองขยับลงเป็นเวลาสั้นๆในช่วงแรก หลังจากนายเบอร์นันเก้ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนที่เฟดอาจนำมาใช้ แต่ราคาทองพุ่งขึ้นในช่วงต่อมา ในขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปยังประเด็นที่ว่า เฟดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในทางลบและเฟดตั้งใจที่จะพิจารณาว่าเฟดสามารถทำสิ่งใดได้บ้างในการประชุมกำหนดนโยบายในเดือนก.ย.
นายเบอร์นันเก้กล่าวว่า เฟดจะประชุมเป็นเวลาสองวันในเดือนก.ย. แทนที่จะประชุมเพียงวันเดียว โดยเฟดจะพิจารณาทางเลือกต่างๆในการดำเนินนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาทองยังคงมีแนวโน้มปรับขึ้นในระยะยาว ถึงแม้ราคาทองดิ่งลง 3 % ในสัปดาห์นี้ โดยราคาทองยังคงได้รับแรงหนุนจากความกังวลเรื่องวิกฤติหนี้ยุโรปขณะที่กรีซเผชิญกับปัญหาใหม่
นายเจมส์ ไรฟ์ ผู้จัดการพอร์ทลงทุนของบริษัทฮาเบอร์ ไทรลิกซ์ แอดไวเซอร์สกล่าวว่า ราคาทองได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ มากกว่าที่จะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3)
สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันศุกร์มีดังต่อไปนี้
ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)
ทองเดือนธ.ค. 1,797.30 + 34.10
เงินเดือนก.ย. 40.952 + 20.70 (เซนต์)
ส่วนราคาโลหะมีค่าที่ตลาด NYMEX ในวันศุกร์มีดังต่อไปนี้
ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)
พลาตินั่มเดือนต.ค. 1,826.90 + 4.50
พัลลาเดียมเดือนก.ย. 756.35 + 5.20 --จบ--
ตลาดเงินนิวยอร์ค:ดอลล์ร่วงหลัง"เบอร์นันเก้"แถลง,จับตาข้อมูลจ้างงาน
ดอลลาร์ร่วงลงในวันศุกร์หลังนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้การร่วงลงของดอลลาร์อาจเป็นไปอย่างจำกัดก่อนการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานสหรัฐ
ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 76.660 เยน เทียบกับระดับปิดวันพฤหัสบดีที่ 77.460 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4489 ดอลลาร์ และ 111.11 เยน เทียบกับระดับปิดวันพฤหัสบดีที่ 1.4378 ดอลลาร์ และ 111.41 เยน
ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในช่วงที่ผ่านมาทำให้เกิดความวิตกว่าสหรัฐอาจกลับเข้าสู่ภาวะถดถอย และนักลงทุนจะรอดูข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ได้แก่ การใช้จ่ายของผู้บริโภค, การผลิตและตลาดแรงงานเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนระมัดระวังเกี่ยวกับการลงทุนที่มีความเสี่ยง และจะเป็นแรงหนุนบางส่วนให้กับดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย
สภาพคล่องที่คาดว่าจะลดลงเนื่องจากวันหยุดธนาคารในอังกฤษในวันจันทร์และพายุเฮอริเคนที่อาจส่งผลกระทบหลายพื้นที่ของเขตอีสต์โคสต์ของสหรัฐในช่วงสุดสัปดาห์มีแนวโน้มที่จะจำกัดการลงทุนที่มีความเสี่ยง
นายเบอร์นันเก้แถลงที่เมืองแจ๊คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่งเมื่อวันศุกร์ว่า เฟดได้ปรับลดแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ และระบุว่าเฟดจะขยายการประชุมเดือนก.ย.เป็น 2 วันเพื่อพิจารณาทางเลือกต่างๆ
อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่าการสนับสนุนแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาวเป็นหน้าที่ของทำเนียบขาวและสภาคองเกรส
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานเดือนส.ค.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 80,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานทรงตัวที่ 9.1%
ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรและเยน
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ยูโรปรับตัวขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ขณะที่ดอลลาร์อ่อนลง 0.2% เมื่อเทียบกับเยน
ฟรังก์สวิสร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับทั้งดอลลาร์และยูโร หลังธนาคารยูบีเอสของสวิสฯเปิดเผยว่า อาจจะเก็บค่าธรรมเนียมเงินฝากสกุลฟรังก์อันเป็นความพยายามที่จะสกัดกั้นการใช้บัญชีเงินฝากเพื่อกักตุนฟรังก์สวิส
ดอลลาร์และยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสในวันศุกร์ และในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดอลลาร์และยูโรพุ่งขึ้น 2 และ 2.9% ตามลำดับเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส
ความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐและวิกฤติหนี้ยูโรโซนได้หนุนความต้องการฟรังก์สวิสและเยนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ในสองประเทศดังกล่าวพยายามที่จะถ่วงฟรังก์และเยนให้อ่อนค่าลง
ตลาดเงิน Emerging Asia:สกุลเงินเอเชียแข็งค่าวันนี้ จับตา"เบอร์นันเก้"
วอนหยุดสถิติการร่วงลง 4 สัปดาห์ติดต่อกันลงในสัปดาห์นี้ ส่วนดอลลาร์
สิงคโปร์แข็งค่าเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติตต่อกัน
นักลงทุนกำลังจับตาดูการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางประจำปีในวันนี้ แต่คาดว่าเขาจะไม่ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการออกมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะสร้างความผิดหวังต่อผู้ที่ยังคงคาดหวังมาตรการใหม่จากเฟด อาทิ มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 หรือ QE3 และอาจจะกดดันมากขึ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงสกุลเงินเอเชีย
นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า สกุลเงินเอเชียอาจจะไม่ได้รับปัจจัยหนุนมากนัก แม้นายเบอร์นันเก้ส่งสัญญาณการออกมาตรการ QE3 ก็ตาม เนื่องจากอาจจะตอกย้ำว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะเลวร้าย แต่เงินเอเชียอาจจะพุ่งขึ้นจากการอ่อนค่าลงของดอลลาร์
เงินเอเชียบางสกุลแข็งค่าขึ้นในสัปดาห์นี้จากการดีดตัวขึ้นของหุ้นในภูมิภาคท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับมาตรการ QE3 แต่กลุ่มนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์ และกองทุนเฮจด์ฟันด์บางรายลดสัดส่วนการถือครองสกุลเงินเอเชียลง ท่ามกลางความหวังที่ลดลงเกี่ยวกับมาตรการ QE3
ในสัปดาห์นี้ วอนปรับตัวขึ้นรวม 0.5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากที่ร่วงลงในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่วอนก็ยังคงอ่อนค่าลง 2.5% ในเดือนนี้ โดยไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ ณ สิ้นเดือนพ.ค.ได้
ดอลลาร์สิงคโปร์ปรับตัวขึ้น 0.3% ในสัปดาห์นี้ แต่ก็อ่อนค่าลง 0.4% จากปลายเดือนก.ค.
ดีลเลอร์และนักวิเคราะห์กล่าวว่า ถ้านายเบอร์นันเก้สร้างความประหลาดใจให้แก่ตลาดด้วยการส่งสัญญาณการออกมาตรการ QE3 สกุลเงินเอเชียก็อาจจะดีดตัวขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเพิ่มความน่าสนใจของเงินเอเชีย
วอนแข็งค่าขึ้น ขณะที่กลุ่มนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์ในประเทศและต่างประเทศขายดอลลาร์ออกมาเนื่องจากหุ้นเกาหลีใต้ดีดตัวขึ้น และยูโรปรับตัวแข็งแกร่ง
ดอลลาร์สิงคโปร์ดีดตัวขึ้น ขณะที่ได้รับแรงหนุนที่บริเวณ 1.2100 ต่อดอลลาร์สหรัฐ
รูเปียห์แข็งค่าขึ้น ขณะที่พบว่าธนาคารกลางอินโดนีเซียขายดอลลาร์เพื่อสกัดการอ่อนค่าของรูเปียห์
ENGLAND:ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index)ปิดวันศุกร์ลบ 41 จุด สู่ 1541
ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวันศุกร์ (26 ส.ค.) ลบ 41 จุดหรือ 2.59% สู่ระดับ 1541
ระดับสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ 1693 และระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 1043
ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554
ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-
วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)
25 ส.ค. 1582 -20
24 ส.ค. 1602 +37
23 ส.ค. 1565 +50
22 ส.ค. 1515 +53
19 ส.ค. 1462 +48
29-08-11>> แนวโน้มขาลง...
ถึงแม้ว่า SETI ดีดตัวขึ้นมา แต่ปิดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะสั้นทุกเส้น และยังไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ1040 ประกอบกับ MACD ปิดต่ำกว่าเส้น Zero Line จึงทำให้มีแนวโน้มในระยะสั้นเป็นขาลงดังนั้นในระยะสั้นแนะนำ "ขาย”
SCC ปิด 316.00 บาท
MACD ปิดต่ำกว่าเส้น Zero Line และ Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณลบ แนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 318.00-320.00 บาท แนวรับที่ 300.00-290.00 บาท
RCL ปิด 7.15 บาท
ปิดปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น ประกอบกับ Indicatorsทุกตัวให้ค่าสัญญาณลบ แนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 7.30-7.40 บาท แนวรับที่ 6.50-5.50 บาท
JAS ปิด 2.30 บาท
MACD และ Modified Stochastic ให้ค่าสัญญาณลบ และ MACDปิดต่ำกว่าเส้น Zero Line แนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 2.40-2.50 บาท แนวรับที่ 2.00-1.80 บาท
NBC ปิด 6.10 บาท
แท่งเทียนมีสีดำพร้อมวอลุ่มหนุน และทำจุดต่ำสุดใหม่ในระยะสั้นแนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 6.25-6.35 บาท แนวรับที่ 5.50-5.00 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น