Code 478 : 23/08/54 Hammer... ลุ้นผ่าน EMA5... Rebound ตามตลาดต่างประเทศ...

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม 2554
ATT Code : Hammer... ลุ้นผ่าน EMA5... Rebound ตามตลาดต่างประเทศ...

กรอบเล็ก... Trading Range อยู่ที่ 11068 - 1073...
กรอบใหญ่... Trading
Range อยู่ที่ 1047 / 1086...

* ระยะ Day >>> ช่วงบ่ายมีแรงซื้อกลับเข้ามา จนเป็น Hammer... มีโอกาส Rebound...

* ระยะ Week 22-26 ส.ค.54 >>> Main Indy still sell signal = Move Down...
กรอบเล็ก 1057 - 1072... กรอบใหญ่ 1033-1080...

Week ที่แล้ว 15-19 ส.ค. 54 ... ก็ยังผันผวนอยู่... สุดท้ายก็ลงมาต่ำกว่า BBA = Bearish market...
Main Indy = ทุกตัวเป็น Sell Signal... MACD below Signal Line / MACD Osc under Zero line เป็นสัปดาห์ที่ 2 แล้ว...
Minor Indy = ทุกตัวเป็น Sell Signal เหมือนกัน... ADX = Bearish Market
ใกล้จะเกิด Dead Cross แล้ว... รอการ confirm EMA5 ตัด EMA10 ลงมา...
- SETI ทำ High ที่ 1102.77 จุด... มี Low ที่ 1066.08 จุด...
- SETI อยู่ระหว่าง EMA5 กับ EMA25... และหลุด BBA แล้วด้วย...

* ระยะ Month 1-31 ส.ค. 54 >>> SETI เป็นลักษณะ UpTrend... แต่มี Sell Signal เกิดขึ้นกับ Candlestick...
กรอบ 1080 - 1148....

- เดือนที่แล้ว กรกฎาคม ทำ New High 1136.26 จุด... มี Low ที่ 1059.78 จุด...
- ปัจจุบัน Candlestick = Black Candle เป็น Bearish engulfing = Reversal / ส่งสัญญาณลบ...
- ระวังอย่าให้หลุดเส้น EMA5 / EMA10...
---------------------------------------------------------------------------
*** แนวโน้มหลัก : Under BBA = Bearish market... เกิด Hammer มีโอกาสลุ้น Rebound เหนือ EMA5***
Trading
Range อยู่ที่ 1054 - 1086...

1. เข้าที่...
วันทำการก่อนหน้า SETI ปิดที่ 1067.84 จุด -1.36 จุด... Volume 33,911 MB...
- SETI : ลงไปปิด Gap แล้วก็มีแรงซื้อกลับขึ้นมา ตามตลาดต่างประเทศ...
- EMA5 ตัด EMA10 ลงมา... เป็น Dead Cross = Down Trend... มีโอกาสไหลลงต่อ... ไม่ D
- EMA5 ตัด BBA ลงมา.... ส่งสัญญาณลบอยู่... ไม่ D
- EMA10 ตัด EMA25 ลงมา.... ส่งสัญญาณลบอยู่... ไม่ D
- Chart Pattern ... Hammer... แนวโน้ม D

- Main Indicators... ชะลอการลง.... ไม่แย่
MACD Osc.. under Zero Line... มีค่าลบเป็นวันที่ 2... ยังไม่ D
***MACD cross Signal ลงมา ทำให้เกิด Sell Signal ขึ้นมา... และ MACD ก็ต่ำกว่าเส้น Zero Line ลงมาแล้ว... และ Macd หลับมาห่างจาก Signal Line อีกครั้ง ตาม Macd Osc... ไม่ D
*** SSTO และ RSI... พลิกกลับมาเป็น Sell Signal ใหม่... ไม่ D

- Minor Indicators... ไม่ได้ชะลอตาม main indy....
%R + CCI มีสัญญาณลบเกิดขึ้น... ไม่ D
CCI Under Zero = Bearish Market... ไม่ D
ADX : พลิกกลับมาให้สัญญาณลบใหม่ เนื่องจาก DI ทั้ง 2 ตัว ห่างกันมากขึ้น... ไม่ D

----------------------------------------------------------------------------
2. ระวัง...
- ถ้าดัชนีลงมาต่ำกว่าที่ 1067... ก็มีโอกาสที่จะลงไปที่ 1051 ได้อีกครั้ง...

-----------------------------------------------------------------------------
3. ไป...
- แนวโน้มวันนี้ >>> Hammer... ลุ้นผ่าน EMA5... Rebound ตามตลาดต่างประเทศ...

- สัญญาณบวก : Reversal Pattern >>> ถ้าดัชนีสามารถกลับมายืนเหนือ EMA75 ที่ 1073 ได้... ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน ที่ Target 1076 ได้...
*** ถ้าผ่าน 1076 ขึ้นมา ก็จะเป็น Buy Signal โดยมีเป้าหมายที่ 1080 / 1086...

- สัญญาณลบ : Continue Pattern >>> ถ้าดัชนีหลุดแนวรับที่ 1067 ลงมา... ก็มีโอกาสที่จะลงมาปิด Gapที่ 1056 ได้...
*** ถ้าหลุด 1056 ลงมา ก็จะเป็น Sell Signal โดยมีเป้าหมายที่ 1054 / 1051 / 1047 ได้...

----------------------------------------------------------------------------
แนวรับ... 1068 / 1062 / 1054...
แนวต้าน... 1073 / 1075 / 1080 / 1086...



-----------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
23 สค. 54 (-1.36 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ไม่น่าเกิน 1074 – 77 จุด
แนวโน้มในวันอังคารนี้ ในกรณีปรับตัวขึ้น ดัชนีไม่น่าขึ้นไปได้เกิน 1074 – 77 จุดแนวต้านตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25ชั่วโมง (หรือ กรณีมากสุดไม่เกิน 1102.77จุดสูงสุดสัปดาห์ที่แล้วและเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน)

ขณะที่การปรับตัวลง ต่ำกว่า 1051.72 จุดต่ำสุดของวันจันทร์ ภาพดัชนีระยะสัปดาห์มีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงต่อแถว 1000 - 10 จุดหรือ เท่ากับระยะทางนับจากจุดสูงสุดของวันที่18 สค. ถึงจุดต่ำของวันที่ 22 สค.

หรือ อาจจะลงได้ถึงบริเวณ 985 – 990?หรือ ประมาณระยะทางนับจากจุดสูงสุดของวันที่ 1 สค. ถึงจุดต่ำของวันที่ 9 สค.

หุ้นเด่น
LPN
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะชั่วโมง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 11.50กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 12.20 – 12.70 ( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 11.00 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTT ไม่น่าเกิน 320 – 323
BANPU ต่ำกว่า 628 ลง 560 – 600
KBANK ไม่น่าเกิน 130 – 132
SCB ไม่น่าเกิน 117.50 – 120
PTTCH ไม่น่าเกิน 142 – 144
BBL ไม่น่าเกิน 158 - 159
KTB ไม่น่าเกิน 20 – 20.60
BAY ไม่น่าเกิน 25.75 – 26.50
ITD เกิน 4.60 ขึ้น 4.70 – 4.80
ADVANC เกิน 114.50 ขึ้น 117 - 118

-----------------------------------------------------------------------------

ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ปิดบวก 0.34% จากแรงซื้อเก็งกำไร
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์หลังร่วงลง 4 สัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนลังเลที่จะเข้าซื้อหุ้นล็อตใหญ่ ขณะที่ไม่มีปัจจัยกระตุ้นการเข้าซื้อ โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ยังคงนำตลาด
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 37.00 จุดหรือ 0.34% สู่ 10,854.65, ดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 0.29 จุดหรือ 0.03% สู่ 1,123.82 และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 3.54 จุดหรือ 0.15% สู่ 2,345.38
ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 8.46 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค, ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ใกล้เคียงปริมาณเฉลี่ยต่อวันของปีที่แล้วที่ 8.47 พันล้านหุ้น แต่มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวก 4 ต่อ 3 ในตลาดนิวยอร์ค และ 7 ต่อ 6 ในตลาด Nasdaq
ปัจจัยที่อาจกระตุ้นตลาดได้แก่การแสดงสุนทรพจน์ของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมธนาคารที่เมืองแจ๊คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่งในวันศุกร์นี้ โดยตลาดหวังว่า นายเบอร์นันเก้จะระบุถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมซึ่งอาจหนุนตลาด
มีการคาดการณ์ในตลาดการเงินว่า นายเบอร์นันเก้จะใช้การแถลงสุนทรพจน์ในวันศุกร์นี้เพื่อส่งสัญญาณเกี่ยวกับมาตรการทางการเงินใหม่ในการสนับสนุนเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม นายเบอร์นันเก้มีแนวโน้มที่จะดำเนินมาตรการอย่างค่อยเป็นค่อยไป อาทิ การซื้อพันธบัตรรอบใหม่หรือ QE3 (รอยเตอร์)

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐ
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดพุ่งขึ้นท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวนในวันจันทร์ ในขณะที่การปรับขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทช่วยหนุนราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.ทะยานขึ้น 1.86 ดอลลาร์ หรือ 2.26 % มาปิดตลาดที่ 84.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 81.13-84.67 ดอลลาร์ โดยสัญญาเดือนก.ย.ครบกำหนดส่งมอบในช่วงปิดตลาดวันจันทร์
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนร่วงลง 26 เซนต์ สู่ 108.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลงแตะจุดต่ำสุดของวันที่ 105.15 ดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ได้รับแรงกดดันจากความหวังที่ว่า ลิเบียจะเริ่มต้นผลิตน้ำมันอีกครั้งในเร็วๆนี้ ในขณะที่สงครามกลางเมืองลิเบียใกล้จะสิ้นสุดลง
ราคาน้ำมันลดช่วงบวกลงในช่วงเที่ยง เนื่องจากพยากรณ์อากาศระบุว่า พายุเฮอริเคนไอรีน ซึ่งถือเป็นพายุเฮอริเคนลูกแรกของปีนี้ ไม่มีแนวโน้มที่จะพัดผ่านแหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก
บริษัทเจพีมอร์แกนปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลง 9 ดอลลาร์ สู่ 115 ดอลลาร์/บาร์เรลสำหรับปี 2012 และระบุว่าราคาน้ำมันดิบจะได้รับแรงกดดันจากตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดลง และจากการที่ลิเบียส่งออกน้ำมันอีกครั้ง
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 ส.ค.ในวันพุธนี้ (รอยเตอร์)

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองพุ่งขึ้นทำนิวไฮใกล้ 1,900 ดอลล์
ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้นเกือบ 2 % สู่สถิติสูงสุดใกล้ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันจันทร์ ในขณะที่ภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกทำให้นักลงทุนคาดการณ์กันว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินลงต่อไป ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความน่าดึงดูดให้แก่ทองในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ
ราคาสัญญาทองเดือนธ.ค.ปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.1 % หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,858.00-1,899.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นักลงทุนจับตามองถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในงานประชุมประจำปีของธนาคารกลางในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาทองอาจได้รับแรงหนุนเล็กน้อย ถ้าหากนายเบอร์นันเก้ไม่ได้ประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3) ในวันศุกร์นี้
ราคาทองมีโอกาสปรับฐานลงอย่างรุนแรง หลังจากราคาทองพุ่งขึ้นมาแล้ว 6 % ในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา และทะยานขึ้นมาแล้ว 400 ดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนก.ค.
ราคาทองทะยานขึ้นมาแล้ว 33 % จากช่วงต้นปีนี้
ดัชนีความผันผวนของราคาทองพุ่งขึ้น 13 % สู่ 33 ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง
ส่วนในช่วงการซื้อขายวันอังคารนั้น ราคาทองสปอตได้ขึ้นไปทำสถิติสูงสุดที่ 1,912.09 ดอลลาร์ ส่วนราคาสัญญาทองเดือนธ.ค.อยู่ที่ 1,912.90 ดอลลาร์
สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันจันทร์มีดังต่อไปนี้
ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)
ทองเดือนธ.ค. 1,891.90 + 39.70
เงินเดือนก.ย. 43.325 + 89.30 (เซนต์)
พลาตินั่มเดือนต.ค. 1,905.70 + 30.80
พัลลาเดียมเดือนก.ย. 765.10 + 16.30 (รอยเตอร์)

ตลาดเงินนิวยอร์ค:ดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินผลตอบแทนสูง,จับตา"เบอร์นันเก้"
ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินของประเทศที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ ในวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจดำเนินมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งหนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง
ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 76.800 เยน เทียบกับระดับปิดวันศุกร์ที่ 76.520 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4361 ดอลลาร์ และ 110.30 เยน เทียบกับระดับปิดวันศุกร์ที่ 1.4395 ดอลลาร์ และ 110.18 เยน
ยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์จากความวิตกว่าสหภาพยุโรปดำเนินการล่าช้าเกินไปในการแก้ไขวิกฤติหนี้และธนาคาร ขณะที่ทางการสวิตเซอร์แลนด์พยายามที่จะถ่วงฟรังก์ลง
เฟดจะจัดการประชุมประจำปีที่รัฐไวโอมิ่งในสัปดาห์นี้ และความปั่นป่วนของตลาดในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงสัญญาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในสหรัฐได้หนุนการคาดการณ์ที่ว่า นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดอาจจะบ่งชี้ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉุกเฉิน
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลีย, ดอลลาร์นิวซีแลนด์และดอลลาร์แคนาดา
ยูโรปรับตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยุโรปเพิ่มขึ้น หลังจากนางแองเจลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีปฏิเสธข้อเรียกร้องในการร่วมออกพันธบัตรยูโรเพื่อเป็นช่องทางการกู้ยืมสำหรับประเทศที่อ่อนแอในยูโรโซน
ยูโรและดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส หลังธนาคารกลางสวิสเข้าแทรกแซงตลาดฟอร์เวิร์ดประเภท 1 เดือนเพื่อสกัดกั้นนักลงทุนจากการเข้าซื้อฟรังก์
ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเยน แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ (รอยเตอร์)

ตลาดเงิน Emerging Asia:แรงซื้อเก็งกำไรหนุนวอน,เปโซแข็งค่าวันนี้
วอนและเปโซปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่กลุ่มนักเก็งกำไรเข้าซื้อสกุลเงินเอเชียบางสกุลในช่วงขาลง แต่ต่อมาสกุลเงินเอเชีย อ่อนค่าลง หลังจากแข็งค่าขึ้นในช่วงแรก จากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และวิกฤติหนี้ของยูโรโซน
รูเปียห์อ่อนค่าลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยรอบ 55 วันจากความต้องการดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนของผู้นำเข้าเพื่อนำไปชำระบัญชี การขายหุ้นจำนวนมากของนักลงทุนต่างชาติเมื่อวันศุกร์ เป็นปัจจัยกดดันรูเปียห์ด้วย
บาท/ดอลลาร์อ่อนค่าลงตามยูโรที่อ่อนค่าลง นักลงทุนไม่ได้รับผลกระทบจากข้อมูลที่ว่า เศรษฐกิจไทยหดตัวลงเกินคาดในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก ซึ่งจะบดบังแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย โดยบาท/ดอลลาร์ภาคบ่ายแกว่งตัวในกรอบแคบ เพื่อรอดูความชัดเจนของทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศ ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 29.82/84 จาก 29.81/84 ช่วงเช้า ขณะที่ในตลาด offshore อยู่ที่ 29.80/85 จาก 29.80/82 ช่วงเช้า (รอยเตอร์)

ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ (22 ส.ค.) บวก 53 จุด หรือ 3.63% สู่ระดับ 1515
ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554
ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-
วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)
19 ส.ค. 1462 +48
18 ส.ค. 1414 +43
17 ส.ค. 1371 +27
16 ส.ค. 1344 +38
15 ส.ค. 1306 +19 (รอยเตอร์)

23-08-54POEMS>> แนวโน้ม Sideways Down...
SETI ปิดปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้น EMA(75) วัน และ Indicators ทุกตัวยังให้ค่าสัญญาณลบไม่ว่าจะเป็น MACD, RSI และ Modified Stochastic จึงทำให้มีแนวโน้มในระยะสั้นเป็น Sideways Down โดยหากหลุดต่ำกว่า 1030 จุด จะกลับเป็นขาลง
ดังนั้นในระยะสั้นแนะนำ "ขาย

PTTCH ปิด 139.00 บาท
ปิดปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้นพร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับ Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณลบ
แนวโน้มเป็นขาลง แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 140.50-141.50 บาท แนวรับที่ 137.50-133.50 บาท

IRPC ปิด 5.05 บาท
แท่งเทียนมีสีดำ ประกอบกับ Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณลบ
แนวโน้มเป็นขาลงแนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 5.15-5.25 บาท แนวรับที่ 4.75-4.50 บาท

TMB ปิด 1.82 บาท
ปิดปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น ประกอบกับ Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณลบ แนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 1.85-1.87 บาท แนวรับที่ 1.65-1.50 บาท

TOP ปิด 67.75 บาท
MACD ปิดต่ำกว่าเส้น Zero Line ประกอบกับ Indicators ทุกตัวให้ค่าสัญญาณลบ แนวโน้มเป็นขาลง
แนะนำ "ขาย" แนวต้านที่ 68.75-69.25 บาท แนวรับที่ 65.00-60.00บาท


-----------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น