Code 148 : รายใหญ่ใจร้าย ทุบได้ลงคอ

วันพฤหัสที่ 2 กันยายน 2553

ATT Code : รายใหญ่ใจร้าย ทุบได้ลงคอ
SET ปิดที่ 920.54 จุด +1.20 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท โดยวันนี้ในช่วงก่อนปิดตลาดไม่นานได้มีการประกาศของศาลปกครองออกมาว่าให้โครงการที่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในมาบตาพุด สามารถดำเนินการต่อได้ แต่ก็เหมือนว่าเป็นการ Sale on Fact มีการทุบหุ้นลงมา และการตามด้วยการ Panic ของรายย่อย ทำให้ จากที่บวกอยู่ 3 จุด ลงมาลบ 6 จุดอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีการซื้อกลับคืนมาปิดบวกได้ ต้อขอบอกว่ารายใหญ่เท่านั้นที่สามารถทุบหุ้นตัวใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับมาบตาพุดให้ลงมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งความาจริงแล้วมีเพียง 2 บริษัทเท้านั้นที่ต้องปรับปรุงโครงการใหม่ แต่ก็กระทบกับ PTTCH และ SCC นอกนั้นไม่เกี่ยว แต่ก็เป็นการ Panic ทั้งตลาด แต่การให้ข่าวของสื่อนั้นควรที่จะออกข่าวตอนตลาดปิดแล้ว จะทำให้มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นน้องที่สุด

----------------------------------------------------------------------------------
02/09 12:46 - BANPU:OUTPERFORM rating, with a target price of Bt770.
02/09 12:41 - KBANK locks in funds before rates rise further.
02/09 12:38 - SCB affiliate sale long-term positive
02/09 12:23 - DTAC ร่วง! ถูกโจมตีขาดคุณสมบัติประมูล 3G โบรกยังแนะซื้อ เป้า 62 บ.
02/09 12:18 - ฮั่งเส็งปิดเที่ยงทะยาน 1.2%
02/09 12:16 - 'มูดี้ส์' ตัดสินใจก่อนสิ้นปีนี้ปรับเพิ่มความน่าเชื่อถือไทยหรือไม่
02/09 12:07 - ไทยเครดิต คาดเทนเดอร์หุ้น SICCO เสร็จใน 3-5 เดือน
02/09 11:33 - BANPU คึกคัก หลังขายหุ้นในบริษัทลูก 8.72%
02/09 11:10 - AMATA พุ่ง! 12.33% หลังปรับเป้าที่ดินขึ้น 2 พันไร่
02/09 10:47 - SMT กรรมการ ทยอยขายหุ้น
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-

FSS: ตลาดกลับมาลุ้นขึ้นอีกครั้ง เน้นถือต่อเนื่อง..ส่วนเข้าใหม่รอจังหวะอ่อนตัวได้!!
แนวโน้ม: ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของทั้งจีนและออสเตรเลียเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคขยับบวกขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่เมื่อคืนนี้ตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐก็ออกมาดีเกินคาด ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปก็สามารถปิดเป็นบวกกันกว่า 2% ยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ยังเปิดบวกต่อเนื่องจากวานนี้ ส่วนตลาดหุ้นไทยนั้นช่วงนี้กลับมาแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคอีกครั้ง จึงทำให้ FSS คาดว่า SET วันนี้จะยังคงเดินหน้าบวกต่อขึ้นไปได้เพราะแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศเองก็เริ่มกลับมามียอดสูงในระดับ 1.8-2.5 พันล้านบาทต่อวันอีกครั้ง นอกจากนั้นในช่วงบ่ายวันนี้จะมีคำพิจารณาของศาลปกครองกลางคดีโครงการในมาบตาพุด ซึ่งมีแนวโน้มที่จะออกมาเป็นปัจจัยบวกให้กับหุ้นที่เกี่ยวข้อง เช่น PTT, PTTCH, SCC,GLOW และอีกหลายบริษัทได้ รวมทั้งแรงซื้อในหุ้นกลุ่มแบงก์ที่เริ่มกลับมาดูหนักแน่นขึ้นอีกครั้งในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาจากการขยับขึ้นของราคาหุ้น KTB, SCB, KBANK, BBL น่าจะยังผลักดันSET ให้บวกต่อเนื่องได้ อย่างไรก็ตามสำหรับการเข้าเทรดดิ้งเล่นตามรอบ ก็ยังต้องตามระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้น ซึ่งคาดว่าจะยังมีแรงกดดันให้ตลาดแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวันได้ เหมือนในช่วงที่ผ่านมา
กลยุทธ์: ยังถือหุ้นเพื่อรอหาจังหวะขายทำกำไรเมื่อตลาดขยับขึ้นแรงได้ ส่วนจังหวะซื้ออาจรอช่วงตลาดแกว่งตัวย้อนลงค่อยเข้ารับจากความผันผวนของตลาดที่อาจเกิดขึ้น โดยเรายังเน้นเลือกหุ้นที่ราคาตลาดต่ำกว่าราคาตามปัจจัยพื้นฐานมากๆ เป็นหลัก ได้แก่ SCB, KBANK, BAY, TCAP,KCE, HANA, DELTA, LPN, QH, SIRI, SPALI , DCC, ROJNA, GFPT, TTW และ BTS เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
• (+) จับตาศาลตัดสินคดีมาบตาพุดวันนี้ ศาลฯ อาจยกฟ้องโครงการที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งจะเป็นบวกกับ PTT, PTTCH, SCC, GLOW, TTCL, TNDT, QLT, TRCหลังจากวานนี้ ครม.ไฟเขียวประกาศ 11 ประเภทกิจการรุนแรงไปแล้ว
• (+) TASCO เราปรับราคาเป้าหมายปีหน้าขึ้นเป็น 110 บาทจากเดิม 60 บาท โดยปรับกำไรในช่วง 5 ปีข้างหน้าขึ้นเฉลี่ย 25% ต่อปี และ re-rate PE ขึ้นเป็น 12 เท่า
• (+) BANPU ต้องการขายหุ้น 98.5 ล้านหุ้น (11%) ของ ITMG เพื่อนำเงินไปลงทุนในCentennial และลดภาระการกู้เงิน เรามองเป็นบวกมากกว่าลบ การขาย ITMG ทำให้กำไรของ BANPU ลดลงเพียง 3.6% ในขณะที่ Centennial มีถ่านหินสำรอง 406 ล้านตัน สูงกว่า ITMG ที่มีเพียง 280 ล้านตันเท่านั้น
• (+) STEC เราปรับราคาเป้าหมายไปใช้ปีหน้าเป็น 15 บาท จากเดิมที่ 8 บาท (ปีนี้)โดยอิง PBV 3 เท่า ซึ่งเป็นระดับ PBV ในช่วง 2005 ที่มีระดับ Backlog 2.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังต่ำกว่า Backlog ในปัจจุบัน 3.4 หมื่นล้านบาท
• (+) Fitch มีมุมมองที่ดีต่อธนาคารพาณิชย์ไทย Fitch จัดชั้นธนาคารไทยว่ามีความแข็งแกร่งทาง Macro ระดับสูงสุด คำถามจากห้องประชุมว่าธนาคารใดมีความสามารถในการแข่งขันมากที่สุด ผู้บรรยาย (Mr.Vincent Milton, MD) ระบุว่ายกให้ SCB ล่าสุดกลุ่มธนาคารไทยซื้อขายที่ PBV ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเล็กน้อย แต่เติบโตมั่นคงและดีกว่า เราเชื่อว่ากลุ่มธนาคารจะได้รับการ re-rating ในปีหน้า Top Picks ของเราคือKBANK และ SCB ส่วนหุ้นที่ laggard อยู่ได้แก่ SCB, KBANK, KTB, TCAP และ TISCO
• Fund Flow วานนี้ยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องจากวันก่อน แต่ขายหนักเฉพาะตลาดหุ้นไต้หวันที่ต่างชาติขายสุทธิสูงถึง 399 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเกาหลีใต้ขายสุทธิ 43.8 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยแต่ไม่มากทำให้โดยรวมดูเป็น
เงินไหลออกอย่างไรก็ตามเชื่อว่าแนวโน้มกระแสเงินทุนจากต่างชาติจะยังไหลเข้าเนื่องจากข่าวดีจากตัวเลขผลผลิตอุสาหกรรมทั้งจีน สหรัฐและออสเตรเลียปรับขึ้นกันทั่วหน้าเชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนมั่งใจว่าเศรษฐกิจโลกไม่ชะลอตัวมากกว่าที่เคยกลัวกันค่าเงินบาทยังคงแข็งแกร่ง

ข่าวภายในประเทศ
กมธ.สื่อสารระบุ DTAC ขาดคุณสมบัติประมูล3G: โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสื่อสารและโทรคมนาคม เปิดเผยว่า กมธ.ฯ ได้หารือร่วมกัน ถึงกรณีปัญหาการถือหุ้น การดำเนินกิจการ และการถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยคนต่างด้าวที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโทรคมนาคมภายหลังจากมีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบการถือครองหุ้นในบริษัทที่ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันว่า DTAC มีสัดส่วนผู้ถือครองหุ้นเป็นคนต่างด้าวสูงกว่าผู้ถือหุ้นคนไทย โดยต่างชาติ ถือหุ้น 79.22% คนไทยถือหุ้น 20.78% โดยจะนำเสนอให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกลต., กทช. เพื่อให้พิจารณา ส่วนจะมีผลต่อการประมูลไลเซ่น 3G หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (Source: ไอ.เอ็น.เอ็น 1ก.ย.10) ความเห็น: ข่าวดังกล่าว อาจเป็น Sentiment เชิงลบต่อราคาหุ้น DTAC อย่างไรก็ตาม (1) กมธ.ดังกล่าว ไม่ได้มีหน้าที่ในการพิจารณาคุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้าร่วมประมูล (Pre-qualification) เป็นอำนาจหน้าที่ของกทช. และ (2) เกณฑ์การพิจารณา Pre-qualification จะยึดตามพ.ร.บ.ต่างด้าวปี 2001 ที่กำหนดการถือถือหุ้นของคนต่างชาติไม่เกิน 49% จึงไม่น่าจะมีปัญหา (มิฉะนั้นก็จะเป็นปัญหากับ ADVANC ด้วย แต่กรรมาธิการมิได้นำมาพิจารณา อ้างว่าเป็นประเด็นทางกฎหมายที่อยู่ระหว่างการพิจารณาโดยศาล) ขณะที่ร่างประกาศเกณฑ์การครอบงำกิจการโดยต่างชาติยังมีแนวโน้มการเลื่อนการทำ Public Hearing ออกไป คำแนะนำ ระยะสั้น ราคาหุ้นอาจมีแรงกดดันในทางลบ แต่หากราคาอ่อนตัวลงมาก อาจเป็นจังหวะเก็งกำไรอีกครั้ง ราคาเป้าหมายรวม 3G เดิมที่ 54 บาท
ลุ้นศาลตัดสินเชิงบวก หุ้นมาบตาพุดกระหึ่ม! PTT-PTTCH อัพไชด์เกิน 20% TTCL แจ่มสุดหุ้นรับเหมาฯ วันนี้ลุ้นศาลตัดสินคดีมาบตาพุดออกมาเชิงบวก กระตุ้นบรรยากาศลงทุนโดยรวมสดใส ปตท. ดี๊ด๊าโรงแยกก๊าซ 6 ไม่ติดกลุ่มรุนแรงลุ้นเดินเครื่องภายในปีนี้ จับตาหุ้น PTT-PTTCHSCC-TTCL-GLOW พร้อมลุยได้อัพไซด์กว่า 20% รับข่าวดีเพียบ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 2-09-2010)
CK เซ็นไซยะบุรีมูลค่า7.6 หมื่นล.ไม่เกินเดือนต.ค. CK เซ็นไซยะบุรี มูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาท ต.ค.นี้ ดันงานในมือทะลุ 1 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ รองรับการรับรู้รายได้อีก 5 ปีข้างหน้า เชื่อได้เซ็นสัญญาสายสีน้ำเงินเร็ว ส่งผลให้รายได้ปีนี้โตกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ขณะที่มีงานรอรับรู้อีกหลายพันล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม จะเติบโตก้าวกระโดดในปี 54 โบรกฯ ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายใหม่เป็น 10.51 บาท เหลืออัพไซด์อีก 24% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 2-09-2010)
TPOLY โรงไฟฟ้าชีวมวลเริ่มคืบหน้า “เจริญ” การันตีรายได้ปีนี้โตกว่า 20% TPOLY แย้มโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 9.5 เมกะวัตต์คืบ คาดจะเริ่มก่อสร้างได้ไตรมาส 2/54 รับรู้รายได้จากการขายไฟให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เฉลี่ยปีละ 180 ล้านบาท ขณะที่อยู่ระหว่างการปรับโครงการทางการเงินอาจต้องเพิ่มทุน กรณีไม่สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้เพียงพอ “เจริญ” มั่นใจกำไรปีนี้โตจากปีก่อน ตามรายได้ที่คาดว่าจะโตขึ้น 20% หลังตุนงานในมือกว่า 3,900 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 2-09-2010)
STAราคาสะดุดหลังเลื่อนขายหุ้นปีนี้กำไร2.7พันล้านรับราคายางสูง STA ปรับลงหลังจากเลื่อนเสนอขายหุ้นในตลาดหุ้นสิงคโปร์ เนื่องจากตลาดทุนทั่วโลกผันผวน โบรกฯมองระยะสั้นเป็นบวกกว่าลบ คาดไม่เกิดไดลูชั่น ประกอบกับราคายางในปัจจุบันยังสดใส โดยยืนตัวสูงเหนือ 100บาทต่อกิโลกรัม สำหรับยางแท่ง คาดมีแนวโน้มปรับกำไรปี 53 ขึ้นจาก 2,775 ล้านบาท คำแนะนำซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 22.90 บาท (ที่มา:นสพ.ข่าวหุ้น 2-09-2010)
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.ขยายตัวเกินคาดและทำสถิติขยายตัวเป็นเดือนที่ 13 สถาบันจัดการด้านอุปทานของ
สหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 56.3 จุด จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 55.5 จุด ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่
13 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 53.0 จุด ดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐมีการ
ขยายตัว และดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตหดตัวลง (ที่มา: อินโฟเควสท์ 02-09-2010)
จีน: จีนเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.7% สมาพันธ์โลจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนส.ค.อยู่ที่ระดับ 51.7% เพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก.ค. ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือ
ระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตมีการขยายตัว ส่วนดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวในภาคการผลิต ทั้งนี้ นับเป็นเดือนที่ 18 ติดต่อกันที่
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 01-09-2010)
เอเชีย: เกาหลีใต้เผยดัชนี CPI เดือนส.ค.ขยายตัว 2.6% แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลาง สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้
เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อภายในประเทศ ขยายตัวขึ้น 2.6% ต่อปี ในเดือนส.ค. แต่ยังต่ำกว่ากรอบเป้าหมายที่
ธนาคารกลางเกาหลีใต้กำหนดไว้ที่ 2-4% เนื่องจากบริษัทของรัฐบาลให้ความสำคัญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 01-09-2010)
เอเชีย: S&P ชี้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวช้าเหตุแนวโน้มศก.โลกผันผวน-ดีมานด์ในประเทศซบเซา สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เปิดเผยว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังชะลอตัว เนื่องจากปัจจัยหลายประการ เช่น แนวโน้มที่ไม่แน่นอนของ
เศรษฐกิจโลก ดีมานด์ในประเทศที่ซบเซา และสถานการณ์ที่รัฐบาลไม่สามารถผลักดันนโยบายต่างๆให้เดินหน้าได้ ในรายงานเรื่อง 'Japan's
Export-Led Recovery Running Out Of Steam นั้น S&P คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่นจะขยายตัว 2.5% ในปีนี้
ก่อนที่อัตราการขยายตัวจะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 1.6% ในปีหน้า (ที่มา: อินโฟเควสท์ 01-09-2010)
เอเชีย: อินโดนีเซียเผยยอดส่งออกทะยาน 29% ในเดือนก.ค. หลังดีมานด์สินค้าโภคภัณฑ์สูง สำนักงานสถิติแห่งชาติของอินโดนีเซีย
เปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนกรกฎาคมขยายตัว 29% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 1.249 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์สินค้า
โภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก (ที่มา: อินโฟเควสท์ 01-09-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น