Code167:กรอบแคบที่967-973

วันพฤหัสที่ 30กันยายน 2553

ATT Code :กรอบแคบที่967-973

MARKET WAVEanalysis
30 กย. 53 ( +10.38 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

แกว่งตัว 967 – 973 จุด
ภาพระยะสั้นวันพฤหัสนี้ ดัชนีไม่น่าปรับตัวลงต่ำกว่า 966 – 967 จุด แถวจุดต่ำสุดวันพุธ

จากนั้น ตลาด “อาจจะ” ใช้ระยะเวลาสักพัก แกว่งตัวในกรอบ 967 – 973 หรือระหว่างจุดต่ำสุดถึงจุดสุงสุดของวันพุธ
การปรับตัวขึ้น เกิน 973.03 จุดสูงสุดวันพุธ ดัชนีสามารถขึ้นต่อได้บริเวณ 993 จุด

สำหรับภาพระยะหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้านี้ หรือเท่ากับระยะทางประมาณจุดต่ำสุดของวันที่ 20ถึงจุดสูงสุดของวันที่ 23 กย.

หุ้นเด่น
10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTTAR ไม่ต่ำกว่า 26.50 ขึ้น 29 – 30
PTT แกว่งตัว 290 - 295
BAY เกิน 24.70 ขึ้น 25 – 25.50
PTTCH เกิน 136 ขึ้น 137 – 139
TRUE ต่ำกว่า 4.96 ลง 4 – 4.10
PTTEP เกิน 153 ขึ้น 154 - 155
SCC แกว่งตัว 325 – 342
BANPU แกว่งตัว 690 - 720
SCB ไม่ต่ำกว่า 101.50 ขึ้น 107 – 110
KTB รายละอียดใน “หุ้นเด่น”

BBL
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวัน ทยอยซื้อแถว 153.50 – 154.50 หรือซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 155.50 กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายสองสามวัน 159.50 -163.50( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 152.00 )

KTB
ปรับตัวทะลุกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวันขึ้นมาได้ ทยอยซื้อแถว 16.30 – 16.50 หรือซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 16.60 จุดสูงสุดวันพุธเป้าหมายสองสามวัน 17.10 – 17.60( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 16.10 )

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS:จุดถัดไปที่ต้องระวังแรงขายคือ 980 เพราะมีสิทธิย้อนลงหา 960 หรือต่ำกว่า...
แนวโน้ม: จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแค่
ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา 3 วันทำการ นักลงทุนต่างประเทศก็มียอดซื้อสุทธิเข้ามาเกือบถึง
หมื่นล้านบาทแล้ว ส่งผลให้ SET ยังแกว่งตัวขึ้นได้ค่อนข้างร้อนแรง อย่างไรก็ตามความ
กังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐ ก็ถือว่ายังเป็น
แรงกดดันต่อความมั่นใจของนักลงทุนอยู่ ดังนั้นตลาดจึงมีโอกาสที่จะขยับขึ้นสลับกับการ
แกว่งตัวผันผวนเป็นระยะๆ ขณะที่เมื่อวานนี้ SET ก็ขยับขึ้นมาทำจุดสูงสุดในกรอบแนวต้าน
ทางเทคนิคที่ 970-980 จุดและมีแรงขายให้เห็นในระหว่างวันด้วย ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศ
เช้านี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ระหว่างการปรับพักฐาน ทำให้ FSS ยังคาดว่าแนวโน้มที่ SET จะมีการ
แกว่งพักตัวตามมาหลังการขยับขึ้นในแต่ละรอบยังเป็นไปได้ ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้แบ่ง
ส่วนขายทำกำไรบ้างเมื่อตลาดขยับขึ้น โดยช่วงนี้ยังต้องระวังการไหลย้อนลงจากบริเวณ
970-980 จุดเพื่อย้อนลงไปแถว 960 จุดหรือต่ำกว่าไว้ด้วย
กลยุทธ์: แนะนำให้แบ่งส่วนขายทำกำไรบ้างเมื่อตลาดขยับขึ้น และจังหวะเลือกหุ้นเข้ารับ
ยังน่ารอเมื่อตลาดปรับตัวลง โดยหุ้นที่ยังน่าสนใจและราคาต่ำกว่าราคาตามพื้นฐานมากๆ
ได้แก่ SIRI, LPN, BCP, IRPC, GLOW, KCE, TASCO, HANA, GFPT, AMATA, PTTEP,
DTAC, SPALI, DELTA, VNG, ADVANC, TTCL, CPALL, PS, GLOBAL, TTW และ PTTAR
เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
• (0) BAY คาดกำไรใน 3Q10 +2.7% Q-Q แต่ลดลง -5.1% Y-Y BAY อยู่ใน
ระหว่างการควบรวมบริษัทในเครือเป็นหนึ่งเดียวซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ทุกอย่างใน ~1Q12
ระหว่างนี้ค่าใช้จ่ายจึงสูงกว่าปกติ รวมทั้งนโยบายการตั้งสำรองหนี้สูญในระดับสูงราว
200bps ต่อสินเชื่อ ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2010 – 2011 ขยายตัวเพียง 3% ต่อปี
เราประเมินราคาเป้าหมาย 27 บาท ลดคำแนะนำจากเดิมซื้อเป็นถือ เพราะราคาหุ้นที่
ขยับขึ้นมาทำให้ upside แคบลงเป็นเพียง 9% แนะนำให้เปลี่ยนตัวเป็นเป็น SCB,
KBANK ที่มี PE ต่ำกว่า (PE~ 13 เท่า)
• (0) GSTEEL ลุ้นการประชุมเจ้าหนี้ 1 ต.ค. นี้ว่าจะยอมรับแผนการปรับโครงสร้างหนี้
หรือไม่ โดยบริษัทมีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด 4 ต.ค. นี้ US$170 ล้าน บริษัทจะขอลดหนี้
60% เหลือ US$68 ล้าน และขยายเวลาการชำระออกไปอีก 5 ปีเป็น 4 ต.ค. 2558 และ
ขอลดดอกเบี้ยจาก 10.5% เหลือ 1% เราคิดว่าน่าจะมีโอกาสมากกว่าที่เจ้าหนี้จะแปลง
หุ้นกู้เป็นทุน เพราะเจ้าหนี้จะเสียหายมากกว่าหากเลือกทางเลือกอื่น (ถ้าขายหุ้นกู้ทิ้ง
ราคาตลาดต่ำมากเพียง US$0.3 ต่อหน่วย) หากแปลงสภาพ ต้นทุนจะอยู่ที่ 1.4 – 1.5
บาท/หุ้น ส่วนผู้ถือหุ้นเดิมถูก dilute 23% เราไม่แนะนำหุ้น GSTEEL แม้ว่าแผนจะผ่าน
แต่ก็มีหุ้นตัวอื่นที่น่าสนใจกว่ามากเช่น DCC, TASCO, NWR, SYNTEC, SEAFCO
• Fund Flow วานนี้ไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคมากกว่า 2 วันที่ผ่านมา และเป็นซื้อสุทธิ 15
วันติดต่อกัน ทั้งนี้เป็นเพราะการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐส่วนใหญ่บ่งชี้ว่า
เศรษฐกิจสหรัฐยังอ่อนแอทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดอาจจะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่
ระบบรอบ 2 โดยมาตรการแรกที่นักลงทุนคาดกันว่าเฟดอาจะเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มอีกกว่า
1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาพันธบัตรสหรัฐปรับขึ้นแต่อัตรา
ผลตอบแทนจะต่ำลงและยังเป็นตัวกดดันให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายไม่สามารถปรับขึ้นได้
อีกนาน หากเป็นเช่นนี้ต่อไปก็จะส่งผลให้เกิดกระแสเงินทุนไหลเข้าประเทศที่มีอัตรา
ดอกเบี้ยที่สูงกว่าซึ่งก็คือเอเชียที่มีภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตแข็งแกร่งที่สุดในโลก ดังนั้น
แนวโน้มกระแสเงินทุนต่างชาติจะยังคงไหลเข้าต่อเนื่องเช่นเดิมจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐ
จะฟื้นตัวอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันค่าเงินยูโรที่แข็งค่าจะส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์
ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนค่าเงินเอเชียและค่าเงินบาทก็ยังมีแนวโน้มแข็งค่าและทำสถิติใหม่
ต่อเนื่องเช่นกัน อย่างไรก็ตามเนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง กลยุทธ์การ
เก็งกำไรช่วงนี้น่าจะเป็น Sell into Strength และ Buy on Weakness เพราะยิ่งสูงก็ยิ่ง
หนาวนั่นเอง

ข่าวภายในประเทศ
สภาผู้แทนฯ ไม่เห็นด้วยกับกรณีวุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ มีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 2 สภาการประชุมสภาผู้แทนฯ วานนี้ (29 ก.ย.10) มีวาระสำคัญ คือการพิจารณากรณีที่วุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ผลการลงมติปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ 296 เสียง ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขเพิ่มเติมของวุฒิสภา เพราะเห็นว่าวุฒิสภาแก้ไขเกินความจำเป็น เช่น การเพิ่มจำนวนคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. จากเดิม 11 เป็น 15 คน และมีการเพิ่มสัดส่วนผู้เชียวชาญด้านความมั่นคงร่วมเป็นกรรมการกสทช. กรณีการเพิ่มอายุผู้ดำรงตำแหน่งจากเดิม 65 ปี เป็น 70 ปี จากนั้นที่ประชุมได้มีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 2 สภา จำนวน 22 คน ขึ้นมาพิจารณาแก้ไขปรับปรุงร่วมกันอีกครั้ง แบ่งสัดส่วนเป็น ส.ส. 11 คน และ ส.ว. 11 คน โดยไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาการพิจารณา (Source – กรมประชาสัมพันธ์) ความเห็น: การต้องตั้งกรรมาธิการร่วมจาก 2 สภาขึ้นมาพิจารณาแก้ไขปรับปรุงร่วมกันอีกครั้งร่างพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ
น่าจะเป็นสิ่งที่ตลาดคาดไว้บ้างแล้ว แต่ยังไม่ถึงกับเพิ่มความเป็นไปได้อย่างมีนัยฯ ว่าพ.ร.บ.ดังกล่าวจะล่าช้าโดยผ่านสภาฯ ไม่ทันภายในสิ้นปีนี้ตามที่รัฐบาลมุ่งหวัง อย่างไรก็ตาม คงคาดว่าแม้พ.ร.บ.จะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี และมีการจัดตั้งกสทช.ภายในกลาง 2H11 แต่จากขั้นตอนต่อไปต่างๆ คาดว่ากว่าจะมีการประมูล 3G ภายใต้การดำเนินการของกสทช.ต้องใช้เวลาจากนี้อีก 1-3 ปี คำแนะนำ: เรายังคงประเมินราคาเป้าหมายของหุ้นกลุ่มมือถือภายใต้สัมปทานปัจจุบัน 2G โดยคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่ม “Neutral” คำแนะนำรายตัว ราคาหุ้น ADVANC ที่ rebound ขึ้นมารับคาดการณ์ปันผลพิเศษ รวมคิดเป็น Dividend yield ระดับ 10.8% ปัจจุบันราคาหุ้นมีส่วนลด 7.4% จากราคาเป้าหมายเดิมที่ 102 บาท คำแนะนำจากเดิม “ซื้อ เป็น “ซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว” หรือ “ถือ” ส่วน DTAC ราคาหุ้นยังมีส่วนลด 12.6% จากเป้าหมาย 47 บาท คง Rating “BUY”
GSTEEL นัดชี้ชะตาศุกร์นี้ ปรับหนี้ 170 ล้านเหรียญ GSTEEL ผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มทุน 5.1 พันล้านหุ้น รองรับเจ้าหนี้หุ้นกู้แปลงหนี้เป็นทุน ลุ้นเจ้าหนี้ยอมรับเงื่อนไขปรับโครงสร้างหนี้ 1 ต.ค.นี้ เพื่อลดหนี้จาก 170 ล้านเหรียญ เหลือ 68 ล้านเหรียญ ขยายระยะเวลาคืนหนี้อีก 5 ปี ลดดอกเบี้ยจาก 10.5% เหลือ 1% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-09-2010)
SAT กินรวบอีโคคาร์ Q3 รายได้ 1.5 พันล้าน SAT กินรวบงานอีโคคาร์ คว้าเพิ่มอีก 3 เจ้า มิตซูบิชิ ซูซูกิ โตโยต้า เข้าคิวรออเดอร์งาน ด้าน"วีระยุทธ" ลั่นขณะนี้มีอีโคคาร์อยู่ในมือแล้ว ถึง 5 เจ้า พร้อมการันตีงบไตรมาส 3 ยอดขายเกิน 1,500 ล้านบาท ขานรับอุตสาหกรรมขาขึ้น หนุนยอดขายรวมทั้งปีโต 45% ตามเป้าแน่ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-09-2010)
SAMTEL-AIT แจ่มรับ 3G SAMTEL-JTS-LOXLEY-AIT อ้าแขนรับข่าวดี ครม.ไฟเขียวขยายเน็ตเวิร์ก 3 จีทั่วประเทศ โบรกฯประสานเสียงเชียรซื้อเชื่อได้ดีพร้อมกันถ้วนหน้า บอร์ด กทช. ลงมติให้ส่งหนังสือถามความคืบหน้า หลังทีโอที-กสทฯขออัพเกรดคลื่นความถี่เป็น HSPA (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-09-2010)
TICON ปีหน้ารายได้เกิน 3 พันล้าน ทุ่ม 2 พันล้านขยายทีพาร์ค-สร้างโรงงาน-แวร์เฮาส์ "ไทคอน" ลั่นปีหน้ารายได้สูงกว่าปีนี้ที่คาดทำได้ตามเป้า 3,000 ล้านบาท รับอานิสงส์ชิ้นส่วนยานยนต์-อิเล็กฯขยายการลงทุนเพิ่ม พร้อมทุ่มงบกว่า 2,000 ล้านบาท ขยายโลจิสติกส์พาร์คเพิ่มอีก 1แห่ง และก่อสร้างโรงงาน-แวร์เฮาส์เพิ่มกว่า 130,000 ตารางเมตร ขณะที่ปีหน้าเล็งเพิ่มทุน TFUND-TLOGIS มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ส่วนการขายหน่วยลงทุน TFUND มูลค่า 1,715 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 4-8 ต.ค. คาดขายเกลี้ยง เหตุราคาขายต่ำกว่าราคาตลาด (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-09-2010)
SIRI เพิ่มยอดขาย 2.5 หมื่นล้าน Q4 ยอดขายพุ่ง 9 พันล้าน รุกตลาดต่ำกว่า 3 ล้านบาท "แสนสิริ" เพิ่มเป้ายอดขายที่ดินปีนี้แตะ 2.4-2.5หมื่นล้านบาท หลังไตรมาส 3 ยอดขายพุ่งทำนิวไฮ 6.8 พันล้านบาท ดันยอดขาย 9 เดือนปีนี้ทะลัก 1.6 หมื่นล้านบาท แถม Q4 ไตรมาสเดียวคาดทำยอดขายสูงถึง 9 พันล้านบาท รับอานิสงส์ลงบุกตลาดบ้าน-คอนโดฯต่ำกว่า 3 ล้านบาท พร้อมเพิ่มงบซื้อที่ดินปีนี้เป็น 1 หมื่นล้านบาท จากเดิม 7พันล้านบาท ขณะที่ 8-10 ต.ค.นี้ จัดงาน "Sansiri Iconic Living" ตั้งเป้ายอดขายในงาน 5.5 พันล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-09-2010)
MODERN งานล้นไตรมาส 3 พุ่ง 51% ปีนี้ทุบสถิติกำไร 400 ล้าน เชียร์ซื้อเป้าหมาย 64 บาท MODERN ลุ้นกำไรไตรมาส 3/53 พุ่ง51.2% แตะ 95 ล้านบาท จากปริมาณงานในมือสูงกว่า 1,000 ล้านบาท เชื่อกำไรไตรมาส 4/53 โตต่อเนื่องหนุนกำไรปีนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง400 ล้านบาท ส่วนเงินปันผลระหว่างกาล 2.50 บาท ดิวิเดนด์ยีลด์สูงถึง 4.9% คาดทั้งปีจ่าย 4.75 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-09-2010)
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.

ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา: ดอลล์ร่วงหนัก จากกระแสคาดเฟดเล็งใช้มาตรการ QE ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะยิ่งฉุดดอลลาร์ให้ร่วงลงอีก (ที่มา:อินโฟเควสท์ 30-09-2010)
จีน: แบงก์ชาติจีนยันใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายปานกลางต่อไป พร้อมปล่อยหยวนยืดหยุ่นมากขึ้น ธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ (29 ก.ย.) ผ่านแถลงการณ์ทางเว็บไซต์ว่า จีนจะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายปานกลางต่อไป ในขณะเดียวกันก็จะทำให้นโยบายมีความยืดหยุ่นและตรงจุดมากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นอกจากนี้ แบงก์ชาติจีนยังให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าปรับปรุงกลไกอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย (ที่มา: อินโฟเควสท์ 29-09-2010)
เอเชีย: เกาหลีใต้เผยยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนส.ค.อ่อนตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่าเกาหลีใต้มียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอ่อนตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจากมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ร่วงลง โดยยอดเกินดุลเดือนส.ค.ของเกาหลีใต้อยู่ที่ 2.07 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจากระดับที่ได้มีการทบทวนไว้เมื่อเดือนก.ค.ที่ 5.82 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ปริมาณการค้าที่สูงขึ้นได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเกาหลีใต้ รวมทั้งการที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยก็มีส่วนช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน แบงค์ชาติเกาหลีใต้ได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.25% เมื่อเดือนส.ค.และก.ย. หลังจากที่ได้ขึ้นดอกเบี้ยไป 0.25% ในเดือนก.ค. จากระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่2% โดยเศรษฐกิจเกาหลีใต้ขยายตัว 7.6% ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ซึ่งถือเป็นสถิติการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 10 ปี (ที่มา: อินโฟเควสท์29-09-2010)
เอเชีย: เวียดนามคาดยอดค้าปลีกทะยาน 25.4% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของเวียดนามคาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกจะขยายตัว 25.4% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 1,146 ล้านล้านดอง (5.884 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ สำหรับเดือนกันยายนเดือนเดียว เวียดนามคาดว่ายอดค้าปลีกจะอยู่ที่ราว 134.88 ล้านล้านดอง (6.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ยอดค้าปลีกในภาคการค้าคาดว่าจะขยายตัวมากเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบรายปีที่ 26.4% แตะที่ 905.1 ล้านล้านดอง (4.646 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้(ที่มา: อินโฟเควสท์ 29-09-2010)
เอเชีย: เวียดนามคาด FDI 9 เดือนแรกแตะ $1.2 หมื่นล้าน หวั่นพลาดเป้าทั้งปี กระทรวงการวางแผนและการลงทุนของเวียดนามคาดว่าเวียดนามสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ได้ 1.219 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.ปีนี้ ลดลง 12.7% จากปีที่แล้ว ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรก ได้มีการอนุมัติโครงการใหม่ 720 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 23.50% ในแง่ของจำนวนโครงการ และพุ่งขึ้น 48.05% ในแง่ของมูลค่า เมื่อเทียบเป็นรายปี และตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ มูลค่าเงินลงทุนที่เข้ามาดำเนินการจริง (FDIdisbursement) อยู่ที่ 8.05 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.8% จากปีก่อน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 29-09-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น