Code 160 : SET เกิน 927 ลุ้นต่อที่ 937

วันอังคารที่ 21 กันยายน 2553
ATT Code : SET เกิน 927 ลุ้นต่อที่ 937

SET เย็นนี้ ปิดที่ 937.21 จุด +14.15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.2 หมื่นล้านบาท โดยตลาดสามารถเปิดโดดไปที่ 929 จุด บวกไป 6 จุด โดยมี Banpu เป็นตัวนำตลาด แต่แล้วก็มีแรงขายใหนุ้น PTT ออกมา ทำให้ตลาดหลุด 927 จุด ลงไปที่ 925 จุด หลังจากนั้นหุ้นปูนก็ดันตลาดขึ้นมาอีกตัว พอช่วงบ่ายตัวใหญ่ๆ ส่วนมาก็มีแรงซื้อกลับขึ้นมา ดันให้ตลาดทะลุ 930 ขึ้นมา จนมาปิดเป็น High ที่ 937.21 จุด ถื่อว่าดีมาก โดยแนวโน้มในวันพรุ่งนี้ ถ้ายังสามารถยืนอยู่ที่ 937 ได้ ก้มีสิทธิลุ้นต่อไปที่ 947 จุด แต่ถ้ามีแรงขายออกมาก็อย่าให้หลุด 930 แล้วกัน

----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
21 กย. 53 ( -0.51 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338


แกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยม 918 - 928 จุด
ดัชนีกำลัง แกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยมระหว่าง 918 – 928 หรือระหว่างจุดต่ำสุดถึงจุดสูงสุดของวันจันทร์ การปรับตัวขึ้น เกิน 928.65 จุดสูงสุดของวันจันทร์ได้ ดัชนีสามรถปรับตัวขึ้นต่อแถว939 - 944 ใกล้จุดสูงสุดของสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะเดียวกัน ถ้าต่ำกว่า 917.01 จุดต่ำสุดวันศุกร์ ดัชนีมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวกลับลงไปแถว 902 – 907 ใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว

ภาพโดยรวมแล้ว คาดว่า ตลาดน่าจะยังคงแกว่งตัวในกรอบ 902 – 944 อีกนานหลายวันถึงหลายสัปดาห์

หุ้นเด่น
AP

กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะชั่วโมง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 7.95 กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายระยะสัปดาห์
8.60 – 8.80( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 7.60 )

LH
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะชั่วโมง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 7.25 กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายระยะ
สัปดาห์ 7.90 – 8.10( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 6.90 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
TRUE แกว่งตัว 4.80 – 5.20
TMB เกิน 2.62 ขึ้น 2.68 – 2.78
ADVANC แกว่งตัว 89 - 91
BANPU แกว่งตัว 644 – 652
KBANK แกว่งตัว 102 - 107
PTT แกว่งตัว 283 - 287
DTAC แกว่งตัว 38 – 40
IVL ไม่น่าเกิน 26.25 – 26.75
CPF แกว่งตัว 24.20 – 25.25
QH แกว่งตัว 2.62 – 2.70

Intraday - ขึ้น 938 - 943
ไม่ต่ำกว่า 917.01 จุดต่ำสุดวันศุกร์ ดัชนีขึ้นต่อได้แถว 938 - 943 หนึ่งถึงสองวันนี้

IVL
ปรับตัวทะลุกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวันขึ้นมาได้ ทยอยซื้อแถว 26.00 – 26.50 หรือซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 26.75 จุดสูงสุดวันอังคาร เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 27.25 – 27.75 (ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 25.75)

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS:ยังสามารถทยอยเลือกหุ้นเข้ารับต่อเนื่อง เพื่อรอรอบดีดขึ้นใหม่ของตลาด...

แนวโน้ม: เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวผันผวนอยู่ใต้ระดับดัชนี 927 จุด แม้ว่าจะมีจังหวะผ่านขึ้นได้เล็กน้อยในช่วงต้นชั่วโมง แต่ก็ยังไม่สามารถยืนอยู่ได้นานนัก เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุน นอกจากนี้ SET ยังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของการเปิดประมูล 3Gที่กดดันราคาหุ้นในกลุ่มสื่อสารอยู่ ซึ่งยังต้องรอความชัดเจนจากศาลปกครองสูงสุดที่นัดพิจารณาคดีในเช้าวันที่ 23 ก.ย.นี้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายวานนี้เราเริ่มเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอาหาร พอสมควร ขณะที่กลุ่มพลังงานก็เริ่มทรงตัวได้ดี ซึ่งในเช้านี้ยังมีข่าวบวกจากที่ทางการออสเตรเลียไฟเขียวให้ BANPU ซื้อ Centennial ได้แล้วด้วย ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ถือว่าบรรยากาศค่อนข้างสดใส แม้ว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียจะเปิดบวกไม่มากเท่ากับฝั่งสหรัฐและยุโรปที่บวกกันถึงกว่า 1% แต่ FSS ก็คาดว่าน่าจะทำให้ SET สามารถขยับเคลื่อนไหวในด้านบวกตามไปด้วย โดยเฉพาะถ้าดัชนีสามารถขยับขึ้นไปยืนเหนือระดับดัชนี 927 จุดที่ชนอยู่ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาได้อย่างมั่นคง ก็คาดว่า SET จะสามารถแกว่งบวกต่อเนื่องขึ้นไปลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่า 944.64 จุดได้ในที่สุด เพียงแต่ระหว่างทางที่แกว่งขึ้นก็ยังต้องระวังจังหวะแกว่งตัวผันผวนด้วย โดยเฉพาะในช่วงท้ายสัปดาห์นี้จากผลการตัดสินของศาลปกครองสูงสุดเกี่ยวกับการอุทธรณ์ของ กทช. ที่กล่าวไว้ข้างต้น
กลยุทธ์: ยังเลือกหุ้นเข้ารับเมื่อตลาดปรับตัวลงได้ โดยมีหุ้นที่น่าสนใจในช่วงนี้ได้แก่ กลุ่มรับเหมา (STEC, CK, TTCL, SEAFCO, SYNTEC) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (TSTH, TASCO,DCC) กลุ่มที่อยู่อาศัย (SPALI, LPN) และกลุ่มอาหาร (TVO) รวมถึงหุ้นที่ราคาตลาดยังต่ำกว่าราคาตามพื้นฐานพอควร เช่น KCE, SIRI, GFPT, HANA, AMATA, SCB, PTTEP, VNG,
DELTA, LPN, BCP, IRPC, PTTAR, CPALL, KBANK, BANPU, PS, BAY, GLOW, TTW และQH เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
• (+) ส่งออกเดือน ส.ค. เพิ่มตามคาด +23.9% Y-Y, +5.7%M-M และทำให้งวด8M10 +32.6%Y-Y สินค้าที่เติบโตได้ทั้ง Y-Y, M-M ได้แก่ชิ้นส่วนรถยนต์อิเล็คทรอนิคส์ ยาง น้ำมันสำเร็จรูป ตลาดที่ขยายตัวได้โดดเด่นสุดคือสหรัฐฯ รองลงมา
คือยุโรป ส่วนอาเซียนแผ่วลงจากเดือนก่อน
• (-) ลุ้นระทึกกับศาลปกครองสูงสุดพรุ่งนี้ ถ้าศาลปกครองสูงสุดยืนตามศาลปกครองกลาง คาดว่าราคาหุ้น TRUE และ DTAC จะปรับลดลงอีกหลังจากที่เมื่อวานเริ่มรีบาวนด์โดยเฉพาะ TRUE ที่อายุสัมปทานเหลือเพียง 3 ปี ขณะที่ถ้ารอ กสทช. จัดประมูล 3G
อย่างเร็วคือ 2 ปี ขณะที่ทั้ง ADVANC และ DTAC น่าจะจ่ายปันผลพิเศษได้ทั้งคู่ แต่ถ้าศาลปกครองสูงสุดกลับคำตัดสินของศาลปกครองกลาง กทช. จะเดินหน้าประมูล 3G ใน2 – 3 วันข้างหน้า ราคาหุ้นทั้ง 3 ตัว รวมไปถึงกลุ่มแบงก์ และหุ้นเก็งกำไรขนาดเล็กJAS, JTS, SAMART, SAMTEL จะถูกเก็งกำไรอีกครั้ง TRUE น่าจะถูกเก็งกำไรมากสุด ซึ่งถ้าชนะประมูล เราจะแนะนำขาย Sell on fact หลังประกาศผลอยู่ดี
• (+) สินเชื่อเดือน ส.ค. ส่งสัญญาณเร่งตัวขึ้น +0.8%M-M SCB มีสินเชื่อขยายตัวโดดเด่นที่สุด 2.4%M-M แต่ถ้าดูงวด 8 เดือนแรก KTB มีสินเชื่อโตแรงสุด +9.5%YTDขณะที่สินเชื่อทั้งกลุ่ม +3.7%YTD ด้านกลุ่มเช่าซื้อ TISCO, KK สินเชื่อก็ยังเติบโตแข็งแกร่ง เราคาดว่ากำไรของกลุ่มแบงก์น่าจะเพิ่ม 9-10%Y-Y เก็งกำไรระยะสั้น TCAP,KTB และ SCB จากผลประกอบการที่น่าสนใจ
• (+) BANPU ออสเตรเลียไฟเขียวซื้อ Centennial (CEY) บริษัทกำลังอยู่ระหว่างทำ Tender offer หุ้น CEY ซึ่งเลื่อนวันสุดท้ายของการรับซื้อหุ้นออกไปเป็น 5 ต.ค. นี้ ล่าสุดมีผู้มาเสนอขายแล้ว 17% รวมกับที่ BANPU ถือ 20% เงื่อนไขคือ BANPU ต้องมีหุ้นอย่างน้อย 50.1% ซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะสำเร็จ ยังคงแนะนำซื้อ เป้าหมาย 780 บาท
• Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน แม้ปริมาณจะไม่มากก็ตาม ค่าเงินเอเชียที่ยังแข็งแกร่ง รวมถึงค่าเงินยูโรกลับมาแข็งค่าขึ้นอีก แสดงให้เห็นว่าความต้องการเงินดอลลาร์ลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี (Yield) ยังไม่ได้ปรับขึ้น แม้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น ซึ่งหากเหตุการณ์จะยังเป็นเช่นนี้อยู่เราก็ยังคงเชื่อว่ากระแสเงินทุนจากต่างชาติก็จะยังไหลเข้าภูมิภาคเอเชียต่อเนื่องเช่นเดิมแม้ปริมาณอาจจะไม่มากและค่าเงินบางประเทศทรงตัว
หรืออ่อนตัวเลขน้อยจากวานนี้

ข่าวภายในประเทศ
ร้ายกลายเป็นดี 3G ล่ม! AIS-DTAC ปันผลพิเศษ กทช.ลั่นทุกไลเซนส์โมฆะทันที หากศาลตัดสินไม่มีอำนาจ ผู้ถือหุ้น ADVANC-DTACไม่ได้จนแต้มกันซะทีเดียว หากประมูลไลเซ่นส์ 3G ล่ม ข่าวร้ายกลายเป็นดี มีลุ้นรับปันผลพิเศษเหตุเงินสดกระแสเงินสดล้นมือ ล่าสุดเอไอเอส มีแช่ในกระเป๋ากว่า 40,000 ล้านบาท แนะซื้อสะสมเชื่อราคาหุ้นปรับลงต่ำกว่าพื้นฐานแล้ว กทช.ลั่นทุกไลเซ่นส์เป็นโมฆะทันที หากศาลปกครองสูงสุดชี้ขาดว่ากทช.ไม่มีอำนาจ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 21-09-2010)
CK โอดเหล็กขึ้นราคาทำต้นทุนรถไฟฟ้าเพิ่ม “ปลิว” ยอมรับงานสร้างรถไฟฟ้าสีน้ำเงินสุดหิน เผยกังวลราคาเหล็ก เพราะต้องนำเข้า ล่าสุดวางแผนบริหารความเสี่ยงโดยสั่งซื้อล่วงหน้า แต่ระวังไม่ให้กระทบสภาพคล่องบริษัท และปัญหาสินค้าคงคลัง ส่วนกรณี ITD พลิกรับงานสัญญา 1แทน ไม่มีข้อข้องใจ พร้อมยอมรับผลพิจารณาของ รฟม. (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 21-09-2010)
คลังเสนอปันผลหุ้น TMB ดีลขายหุ้นให้ ING ใกล้จบ ประธานบอร์ดแบงก์ทหารไทยเตรียมหารือคณะกรรมการแบงก์จ่ายปันผล ลั่นปีนี้มีกำไรสุทธิจ่ายได้แน่นอน ส่วนดีลกับไอเอ็นจีใกล้จบ รอ “อารีพงศ์” มาสานต่อเดือนหน้า ด้านพันธมิตรใหม่ ไอเอฟซีเจรจาผ่านฝ่ายการเมือง ขณะที่ประธานแบงก์กรุงไทยยอมรับคลังมีนโยบายลดส่วนหุ้นแบงก์กรุงไทย (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 21-09-2010)
IHLไตรมาส 3 แจ่ม! บาทแข็งต้นทุนลดรายได้ 1.9 พันล้าน IHL งบไตรมาส 3 หรูตามอุตสาหกรรม “องอาจ” ย้ำชัดโตได้ต่อเนื่องไม่มีเบรก ชี้เงินบาทแข็งยิ่งติดปีกให้บริษัท หนุนต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบหนังถูกลงทะลัก ฟากวงการเงินชี้กำไรไตรมาส 3 ฟื้นตัวไม่หยุดลูกค้าออเดอร์งานแน่นดันยอดขายทั้งปีทะลุ 1,900 ล้านบาท แนะให้นักลงทุนลุยเก็บหุ้นถูกแถมปัจจัยบวกรอดันราคาอีกเพียบ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 21-09-2010)
PRIN แย้ม Q3 ยอดขายต่ำกว่าเป้า ย้ำทั้งปีตามนัด 5,500 ล้านบาท อีก 2 ปีลุยขยายตจว. "ปริญสิริ" เผยปรับโครงสร้างองค์กรใหม่กระทบยอดขาย Q3 ต่ำกว่าเป้า แต่ทั้งปียังมั่นใจทำได้ตามนัด 5,500 ล้านบาท เหตุยังเหลือ 3 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 2,600 ล้านบาทที่จ่อเปิด 4 เดือนที่เหลือ ส่วนรายได้มั่นใจทำได้ตามเป้า 5,000 ล้านบาท ขณะอีก 2 ปีข้างหน้ารุกขยายตลาดแนวราบออกไปในต่างจังหวัด เชื่อ 3 ปีข้างหน้าอสังหาฯยังสดใส (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 21-09-2010)
GFPT อัพไซด์เพียบกว่า 20%ไร้ผลกระทบบาทแข็ง Q3 คาดกำไรพุ่ง 21% GFPT เหลืออัพไซด์กว่า 20% ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ ราคาเป้าหมาย 10.22 บาท คาดไตรมาส 3/53 กำไรสุทธิพุ่ง 21% แตะ 348 ล้านบาท เชื่อผลกระทบจากค่าเงินบาทจำกัด ลุ้นมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 14 ล้านบาท ส่วน GFN อยู่ในช่วงกำลังทดสอบ น่าจะเริ่มผลิตได้ไตรมาส 4/53 (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 21-09-2010)
MBK ขึ้น XD พรุ่งนี้รับปันผล 2.50 บ. ไตรมาส 3 หรูลุ้นแนวต้าน105 บาท MBK แขวนป้าย XD พรุ่งนี้ คาดได้รับความสนใจรับเงินปันผล2.50 บาท โบรกฯมองมีโอกาสลุ้นแนวแนวต้านที่ 103-105 บาท ด้านผลการดำเนินงานในปี 2553/54 (สิ้นสุดเดือน มิ.ย. 54) คาดรายได้โต 10%แตะ 6.6 พันล้านบาท และกำไรโต 30% เชื่อ Paradise Park และธุรกิจลีสซิ่งหนุน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 21-09-2010)

EFinance Thai :กลุ่มสื่อสารไม่พ้นบ่วงกรรม
ADVANC-DTAC-TRUE กุมขมับ!! 3G ไม่พ้นวิบากกรรม แม้ศาลปกครองสูงสุดชี้ขาด 23 ก.ย.นี้ นักวิเคราะห์ชี้หากศาลฯมีคำสั่งระงับการประมูลไลเซนส์ 3G ฉุดหุ้นสื่อสารร่วงต่อ แต่หากมีคำสั่งยกเลิกระงับประมูล 3G หนุนราคารีบาวน์แค่เล็กน้อย เพราะยังถูกกดดันจากการพิจารณาคดีกรณี กสท ฟ้องให้พิจารณาอำนาจของ กทช. แนะลงทุนด้วยความระมัดระวัง เชียร์เก็บ ADVANC เหตุราคายังต่ำกว่าพื้นฐานไม่รวม 3G
หุ้นกลุ่มสื่อสารยังไม่พ้นมรสุม!! แม้ศาลปกครองสูงสุดนัดฟังคำสั่งอุทธรณ์กรณีระงับประมูลใบอนุญาต(ไลเซนส์) 3G วันที่ 23 กันยายนนี้ เนื่องจากไม่ว่าศาลจะมีคำสั่งออกมาอย่างไรก็ยังมีประเด็นให้ต้องลุ้นกันต่อไป โดยหากศาลปกครองสูงสุดยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นให้ระงับการประมูลไลเซนส์ 3G ก็จะส่งผลให้หุ้นกลุ่มสื่อสารปรับตัวลดลงได้อีก
แต่หากศาลปกครองสูงสุดยกเลิกคำสั่งระงับของศาลปกครองชั้นต้นและปล่อยให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)ดำเนินการประมูลไลเซนส์ 3G ต่อไปได้ จะส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารรีบาวน์ขึ้นเล็กน้อยในระยะสั้นๆเท่านั้น แต่ภาพรวมยังเป็นลบ เพราะถูกกดดันจากการพิจารณาคดีที่ บมจ. กสท.โทรคมนาคม(CAT)ฟ้องให้ศาลปกครองชี้ขาดว่า กทช.มีอำนาจในการออกใบอนุญาต 3G หรือไม่
ดังนั้น ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ จึงยังไม่ใช่วันปลดล็อกของหุ้นกลุ่มสื่อสาร ขณะที่นักวิเคราะห์หลายสำนักยังคงให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มดังกล่าวเป็นลบ อย่างไรก็ตามยังคงแนะนำซื้อหุ้น บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ ADVANC และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด (มหาชน)หรือ DTAC เนื่องจากราคาหุ้นยังต่ำกว่าราคาเหมาะสม ที่ยังไม่ได้รวมเรื่อง 3G

***** นักวิเคราะห์มอง ADVANC-DTAC-TRUE ยังไม่พ้นกรรม
นักวิเคราะห์จาก บล.คันทรี่กรุ๊ป กล่าวถึง กรณีที่ศาลปกครองสูงสุดนัดฟังคำสั่งอุทธรณ์กรณีประมูล 3G ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ว่า หากศาลฯสั่งระงับการประมูลโครงการ 3G จะส่งผลให้หุ้นกลุ่มสื่อสารปรับตัวลงได้อีก แต่ถ้าหากศาลฯเปิดทางให้มีการเปิดประมูล 3G ต่อไปได้ จะส่งผลให้หุ้นกลุ่มสื่อสารปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แค่ในระยะสั้นเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดแล้วจะต้องรอคำวินิจฉัยของศาลปกครองตัดสินว่า กทช.มีอำนาจจัดประมูลหรือไม่
" นักลงทุนเก็งกำไรเรื่อง 3G ไปมากแล้ว โดยเฉพาะ ADVANC, DTAC ราคาลงมาใกล้ๆ กับตอนก่อนที่จะปรับขึ้น"นักวิเคราะห์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับมุมมองการลงทุนในหุ้นกลุ่มสื่อสารเป็น "ต่ำกว่าตลาด" ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ยังคงแนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" สำหรับ ADVANC กับ DTAC เพราะพื้นฐานหุ้นยังดีอยู่ โดยทั้ง 2 บริษัทมีการจ่ายปันผลที่ดีต่อผู้ถือหุ้น ประกอบกับราคาหุ้นปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานที่เหมาะสมในปีหน้า(ยังไม่รวม 3G) ซึ่ง บล.คันทรี่กรุ๊ป ประเมินไว้ที่ 94 บาท และ 46 บาท ตามลำดับ และแนะนำ "ขาย" TRUE ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 3.46 บาท
ด้านนางสาววราภรณ์ วิบูลคณารักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. เคที ซีมิโก้ กล่าวในประเด็นเดียวกันนี้ว่า หากศาลฯ สั่งระงับโครงการประมูล 3G ก็คงไม่ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารอย่างมีนัยสำคัญ เพราะก่อนหน้านี้ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารรับข่าวไปแล้ว และหากศาลฯ เปิดทางให้มีการประมูล 3G ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารอาจจะรีบาวน์เล็กน้อย เพราะศาลปกครองเพียงแค่ระงับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเท่านั้น แต่เรื่องทั้งหมดได้เข้าสู่กระบวนการของศาลแล้ว ซึ่งต้องพิจาารณากันถึงอำนาจของ กทช.
"การรีบาวน์กลับ ก็คงแค่เข้ามาเก็งกำไรว่าใครจะชนะการประมูล แต่ความเสี่ยงก็ยังมีอยู่ ศาลแค่เพิกถอนคำสั่ง แต่อย่าลืมว่าศาลรับฟ้องไปแล้ว"นางสาววราภรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ แนะนำให้ระมัดระวังการลงทุนในหุ้นกลุ่มสื่อสาร โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มนี้เป็น "ต่ำกว่าตลาด"
นักวิเคราะห์จาก บล.กิมเอ็ง กล่าวว่า ได้ปรับน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มสื่อสารตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และแนะนำ "ถือ" ADVANC กับ DTAC เพราะราคาที่เหมาะสมในอีก 1 ปีข้างหน้าซึ่งยังไม่รวม 3G ถือว่าไม่แพง คืออยู่ที่ 104 บาท และ 50 บาท ตามลำดับ

***** เกียรตินาคินมองหุ้นสื่อสารผันผวนก่อนศาลฯชี้ขาด
นักวิเคราะห์บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ในระยะสั้นราคาหุ้น ADVANC, DTAC และ TRUE ยังคงถูกกดดันต่อเนื่องจากความไม่แน่นอน ก่อนที่ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งในวันที่ 23 ก.ย.นี้ แต่ประเมินว่ากรอบการปรับตัวของราคาหุ้นดังกล่าวจะไม่มากเนื่องจากก่อนหน้านี้ราคาหุ้นได้ปรับตัวลงไปพอสมควร
ทั้งนี้ ในวันที่ 23 ก.ย. ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งออกมาแบ่งเป็น 2 กรณี กรณีแรกมีคำสั่งให้ยืนตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น จะส่งผลลบต่อหุ้นสื่อสาร แต่หุ้นที่จะได้รับผลกระทบน้อยที่สุดคือ ADVANC เพราะเป็นผู้ประกอบการที่มีธุรกิจขนาดใหญ่ จึงมีความได้เปรียบในเชิงธุรกิจ และยังได้ประโยชน์จากในอนุญาต 3G ไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับรายอื่นที่เข้าประมูล อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่มีความน่าลงทุนด้วย โดยบริษัทมีโอกาสที่จะจ่ายเงินปันผลพิเศษเพิ่มเติมจากเดิมที่คาดว่าจะจ่ายในอัตรา 6 บาทต่อหุ้น หลังจากที่ได้จ่ายปันผลระหว่างการไปแล้วในอัตรา 3 บาทต่อหุ้น เนื่องจากไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินในการลงทุน 3G
ขณะที่ TRUE ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากหากมีใบอนุญาต 3G จะเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับประโยชน์สูงสุดในการขยายโครงข่ายจากปัจจุบัน โดยกรณีดังกล่าวแนะนำให้ซื้อลงทุน ADVANC ให้ราคาเหมาะl,ไม่รวมประเด็น 3G ที่ 102 บาท
ส่วนกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งระงับประมูลของศาลปกครองชั้นต้น ส่งผลให้สามารถดำเนินการประมูลต่อและออกใบอนุญาตได้ ก็จะเป็นอานิสงส์ต่อราคาหุ้นของกลุ่มสื่อสารทั้งหมด โดยกลยุทธ์การลงทุนแนะนำซื้อลงทุน ADVANC ให้ราคาเหมาะสมรวมประเด็น 3G ที่ 106 บาท และซื้อเก็งกำไร DTAC ให้ราคาเหมาะสมรวมประเด็น 3G ที่ 50 บาท และ TRUE ให้ราคาเหมาะสมรวมประเด็น 3G ที่ 5.10 บาท

***** ศาลปกครองสูงสุดนัดฟังคำสั่ง 23 ก.ย.นี้
นายพรชัย มนัสศิริเพ็ญ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด เปิดเผยว่า ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งให้รับคำอุทธรณ์คำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา กรณีที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับการประมูลใบอนุญาต 3G และเมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งรับคำอุทธรณ์ดังกล่าวแล้ว จะมีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องของผู้ถูกฟ้องร้องคดีทั้งสองที่ขอให้ศาลมีคำสั่งระงับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นต่อไป ทั้งนี้ศาลปกครองสูงสุดให้นัดฟังคำสั่งอุทธรณ์ในวันที่ 23 กันยายน 53 เวลา 09.00 น. โดยศาลจะเปิดรับคำยื่นแก้อุทธรณ์ถึงภายในวันที่ 22 กันยายนนี้

***** กทช.ลั่นพร้อมประมูล 3G ภายใน 2 วัน หากศาลฯยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว
พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์ กรรมการ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 ก.ย.นี้หากศาลปกครองสูงสุดยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกรณีระงับการเปิดประมูลใบอนุญาต 3G กทช.ก็สามารถดำเนินการเปิดประมูลใบอนุญาต 3G ได้ภายใน 2 วัน หรือภายในวันที่ 25 ก.ย.นี้ และสามารถออกใบอนุญาตได้ภายใน 45 วันหลังจากการประมูลเสร็จสิ้น หรือภายในช่วงกลางเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งหวังว่าศาลปกครองสูงสุดจะให้ความเมตตา แต่หากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งระงับการประมูล กทช.ก็พร้อมปฏิบัติตามทันทีอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ กทช. ได้แจ้งผู้ร่วมประมูลทั้ง 3 ราย ให้รอคำสั่งศาลปกครองสูงสุดในวันที่ 23 ก.ย.นี้ หลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดได้รับคำยื่นอุทธรณ์ของ กทช. ให้ทุเลาคำสั่งคุ้มครอง โดยสั่งให้ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายในวันที่ 22 ก.ย.53

***** กทช.ชี้หากวืดประมูล 3G ครั้งนี้ ต้องรอไปอีก 2-3 ปี
นายต่อพงศ์ เสลานนท์ กรรมการ ออกใบอนุญาต 3G กทช. กล่าวว่า ความเห็นของ กทช. กับรัฐบาลยังมีความแตกต่างกรณีที่จะเร่งรัดการออกกฎหมายจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้เสร็จภายใน 30-90 วัน เนื่องจาก กทช. เชื่อว่าขั้นตอนการจัดตั้ง กสทช.และเปิดประมูลใบอนุญาต 3G อาจต้องใช้ระยะเวลา 2-3 ปี โดยขั้นตอนปัจจุบันอยู่ระหว่างให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แก้ไขใน 13 ประเด็นข้อกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 147 ซึ่งจะต้องมีการจัดตั้งกรรมาธิการร่วมในการพิจารณาแก้ไข โดยไม่ได้มีการระบุเวลาว่าจะสามารถแล้วเสร็จได้เมื่อไหร่ และหลังจาก พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้วเสร็จก็จะต้องนำเสนอเพื่อขอทูลเกล้าฯ และหากมีการตีกลับก็จะต้องกลับมาพิจารณาใหม่
สำหรับขั้นตอนทั้งหมดจะประกอบด้วย 7 ขั้นตอนหลัก คือ 1. กระบวนการออกกฎหมายในรัฐสภา 2.การเสนอทูลเกล้าฯ เพื่อขอลงพระปรมาภิไธย 3. การสรรหาคณะกรรมการ กสทช. 4. การประกาศแผนแม่บทคลื่นความถี่แห่งชาติ 5.การออกกฎเกณฑ์การประมูล 6.ขั้นตอนการประมูล และ 7. การออกใบอนุญาต
ด้านพันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์ กรรมการ กทช. กล่าวว่า ในสิ้นเดือนนี้ คณะกรรมการ กทช. จำนวน 3 คน จะครบวาระ ซึ่งไม่ได้มีความกังวลกับประเด็นดังกล่าว เนื่องจากหากคณะกรรมการทั้ง 3 คนครบวาระก็ยังสามารถทำหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าจะมีคณะกรรมการใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน

***** คลังหัวใสเล็งยกระดับสัมปทาน 2G เป็น 3G ให้ กสท-ทีโอที
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาให้ บมจ.กสท โทรคมนาคม(กสท) และบมจ.ทีโอที ยกระดับการให้สัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 2G เป็นระบบ 3G และอาจมีการขยายเวลาสัมปทานให้กับผู้ประกอบการรายเดิมออกไปอีก หากการเปิดประมูล 3G ไม่สามารถทำได้ โดยปัจจุบันอุปกรณ์และเครื่องมือที่มีอยู่ ก็สามารถที่จะยกระดับสัมปทานจาก 2G เป็น 3G ได้ ซึ่งหากใช้แนวทางนี้ ก็ไม่ต้องมีการประมูลใหม่ และจะส่งผลดี ทำให้การพัฒนาด้านโทรคมนาคมเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่สะดุด โดยได้มีการหารือกับคณะกรรมการกฤษฏีกาในเบื้องต้นบ้างแล้ว ถึงแนวทางการยกระดับสัมปทานดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการกฤษฏีกา เห็นว่าน่าจะทำได้
สำหรับการคงสัมปทานให้ผู้ประกอบการรายเดิม พร้อมทั้งขยายเวลาของสัมปทานออกไปนั้น ในเบื้องต้นเห็นว่า คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)นั้น ทำได้ ไม่น่ามีปัญหา ส่วนกรณีที่ศาลปกครองสูงสุด นัดฟังคำสั่งในวันที่ 23 ก.ย.นี้ รัฐบาลต้องรอความชัดเจนจากศาลฯก่อน ซึ่งหากศาลฯเห็นว่ากทช.ยังติดเงื่อนไขทางกฎหมาย ไม่สามารถประมูลได้ รัฐบาลพร้อมเดินหน้า เร่งตั้งกรรมาธิการร่วมรัฐสภา เพื่อแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติมตามข้อเสนอของวุฒิสภา เพื่อให้สามารถตั้งองค์กร กสทช.จัดสรรคลื่นความถี่ให้ได้โดยเร็ว

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ข่าวต่างประเทศ

สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยทรงตัวในเดือนก.ย. สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB)/เวลส์ ฟาร์โก เปิดเผยว่าดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย.ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 13 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 14 จุด ส่วนดัชนีแนวโน้มการซื้อบ้านในอีก 6 เดือนข้างหน้า ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 18 จุด ทั้งนี้ ดัชนีที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าจำนวนผู้สร้างบ้านที่มีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดที่อยู่อาศัยมีมากกว่าผู้ที่มีมุมมองเป็นลบ แต่ดัชนีที่เคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าจำนวนผู้สร้างบ้านที่มีมุมมองเป็นลบต่อตลาดที่อยู่อาศัยมีมากกว่าผู้ที่มีมุมมองเป็นบวก (ที่มา: อินโฟเควสท์ 21-09-2010)
จีน: จีนเผยยอดนำเข้าก๊าซ LNG เดือนส.ค.ทะยานเกือบ 2 เท่า แตะ 1 ล้านตัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลว่า ยอดนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในเดือนสิงหาคมของจีนพุ่งขึ้นเกือบ 2 เท่าจากยอดนำเข้าก๊าซ LNG จำนวน 462,484 ตันในเดือนเดียวกันของปี 2552 โดยแหล่งข่าวระบุว่า การนำเข้าก๊าซ LNG ส่วนใหญ่ เพื่อส่งต่อให้กับโรงงานในมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของจีน ส่วนรายงานยอดการส่งออกและนำเข้าสินค้าในเดือนสิงหาคมของกรมศุลกากรของจีน ซึ่งเปิดเผยเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 53 ระบุว่า จีนมียอดนำเข้าน้ำมันดิบ157.87 ล้านตันในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2553 เพิ่มขึ้น 22.6% เมื่อเทียบปีต่อปี ในขณะที่การนำเข้าผลิตภัณฑ์จากน้ำมันในช่วงเดียวกันแตะ23.88 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 8.5% เมื่อเทียบกับปี 2552 (ที่มา: อินโฟเควสท์ 20-09-2010)
เอเชีย: เวียดนามนำเข้ารถจักรยานยนต์จากไทยมากเป็นอันดับ 1 ในช่วง 8 เดือนแรก กรมศุลกากรเวียดนามระบุในรายงานว่า เวียดนามนำเข้ารถจักรยานยนต์ 63,000 คันในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ลดลง 13.58% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับมูลค่าการนำเข้าในช่วงเวลาดังกล่าวลดลง 7.26% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉพาะในเดือนสิงหาคมเดือนเดียว เวียดนามนำเข้ารถจักรยานยนต์จำนวน 11,450 คัน มูลค่า 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 64.7% ในแง่ของมูลค่า และเพิ่มขึ้น 68.3% ในแง่ของปริมาณ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 20-09-2010)
เอเชีย: สิงคโปร์เผยอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกฟื้นตัวเร็วกว่าอุตสาหกรรมอื่น ข้อมูลล่าสุดจากคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสิงคโปร์ระบุว่า อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกของสิงคโปร์ฟื้นตัวจากวิกฤตการเงินโลกเร็วกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ เดอะ บิสิเนส ไทม์ส รายงานโดยอ้างข้อมูลจากคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสิงคโปร์ว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกสิงคโปร์ขยายตัวถึง 60.6% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และคาดว่าจะขยายตัวแบบเลขสองหลักไปจนถึงช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า โดยภาคส่วนเซมิคอนดักเตอร์ดีดตัวมากที่สุดถึง 89.3% จากปีที่แล้ว แซงหน้าการขยายตัวของอุตสาหกรรมอื่นทั่วโลก (ที่มา: อินโฟเควสท์ 20-09-2010)

----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น