Code 189 : ขึ้นได้ใจ เหนือความคาดหมาย

วันพฤหัสที่ 4 พฤศจิกายน 2553
ATT Code : ขึ้นได้ใจ เหนือความคาดหมาย
SET ปิดที่ 1031.61 จุด +16.41 จุด ขึ้นได้ใจ เหนือความคาดหมายจริงๆ
----------------------------------------------------------------------------------

MARKET WAVE Analysis
4 พย. 53 (+8.62 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ปรับฐาน “ชั่วคราว” 1003 - 1005 จุด
แนวโน้มในวันพฤหัสนี้ ดัชนีมีโอกาสปรับฐาน “ชั่วคราว” แถว 1003 – 1005 จุดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมง จากนั้น ตลาดอาจจะใช้ระยะเวลาอีกสัก
พัก (อาจเป็นสัปดาห์) ย่ำฐานแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบ 1003 – 1019 หรือระหว่างจุดต่ำสุดของวันอังคารถึงจุดสูงสุดของวันพุธ

ขณะที่ ภาพระยะหนึ่งถึงสองสัปดาห์ข้างหน้า ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อแถว 1050 จุด หรือระยะทางเท่ากับจุดต่ำสุดของวันที่ 29 ตค. ถึงจุดสูงสุดของวันที่ 3 พย. ... ก่อนที่จะมีการปรับฐานใหญ่ต่อไป

หุ้นเด่น
SCB
ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้อีกครั้ง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 106.00จุดสูงสุดวันอังคาร เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน108.00 – 110.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 104.50 )108 -110

ITD
ปรับตัวทะลุกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวันขึ้นมาได้ ทยอยซื้อแถว 5.25 – 5.30 หรือซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 5.40 จุดสูงสุดวันพุธเป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 5.50 – 5.75( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 5.15 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTT ต่ำกว่า 313 ลง 308 – 310
SCC ต่ำกว่า 331 ลง 326 - 328
PTTAR ต่ำกว่า 33.25 ลง 32 – 32.50
PTTCH ต่ำกว่า 159 ลง 155 – 157.50
TOP ต่ำกว่า 57 ลง 55 - 56
PTTEP ต่ำกว่า 180 ลง 177 – 179
CPF แกว่งตัว 22.80 - 24
TRUE ต่ำกว่า 5 ลง 4.80 – 4.88
ITD รายละเอียดใน ”หุ้นเด่น”
STA ต่ำกว่า 31.50 ลง 29 - 30
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS : ต้องระวัง Sell on Fact ตลาดขึ้นเน้นขาย แล้วรอรับใหม่ตอนปรับตัวลง!!
แนวโน้ม: หลังจากเมื่อคืนนี้ผลการประชุมเฟดออกมาตามคาด ซึ่ง SET ขยับขึ้นมารอรับข่าวพอควรแล้ว ทำให้ FSS คาดว่ามีแนวโน้มที่จะมีแรงขายทำกำไร
ออกมาก่อนในช่วงถัดจากนี้ ซึ่งมีสิทธิทำให้ตลาดปรับพักตัวกลับลงไปต่ำกว่า1000 จุดอีกครั้งได้ ดังนั้นตลาดขยับขึ้นจึงต้องเริ่มระวังแรงขายกดดัน ก่อนที่เม็ด
เงินใหม่จากการอัดฉีดของเฟดจะเริ่มเข้ามาซื้อหุ้นอีกครั้ง และยังมีเม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF ที่คาดว่าจะมีเข้ามาในช่วงท้ายปีอีกด้วย จึงทำให้เรายัง
มองว่าการปรับตัวลงของตลาดจะเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นเข้ารับอยู่ โดยเน้นที่หุ้นพื้นฐานดีในแต่ละกลุ่มเป็นหลักเช่นเดิม
กลยุทธ์: ช่วงนี้ตลาดขยับขึ้นจึงแนะนำให้แบ่งส่วนขายทำกำไรบ้าง ส่วนจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อแนะนำให้รอรอบปรับพักตัวลงของตลาดก่อนดีกว่า โดยหุ้นที่
น่าสนใจได้แก่ PTTEP, PTT, BANPU, SCC, PTTCH, KBANK, SCB, BBL,CPALL, TASCO, PTL, RCL, MINT, BGH, TUF, STEC, ITD, CK เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
· (+) Fed อัดฉีดเงิน US$ 6 แสนล้าน ในระยะ 6 เดือนข้างหน้า ผ่านการซื้อพันธบัตรรัฐบาล แม้ว่าจะเป็นไปตามที่ตลาดคาด แต่เชื่อว่าการ sell on fact จะไม่รุนแรงและเป็นเพียงระยะสั้นมากๆ เพราะสิ่งที่ทุกคนรู้คือ ดอลลาร์จะอ่อนค่าต่อเนื่องยาวนาน จึงเป็นผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยง (หุ้น + โภคภัณฑ์) เราคาดว่าวันนี้หุ้นกลุ่มพลังงาน และ Soft commodities (PTT, PTTCH, PTTAR, PTTEP, BANPU, PDI, TVO, KSL, LST, STA) จะนำตลาด เรายังแนะนำถือ สำหรับนักลงทุนระยะกลาง – ยาว ส่วนระยะสั้น Sell into strength ตามแนวต้าน 1020-1025 จุด
· (-) Banks & Residential Property Banks ธปท.เบรกสินเชื่อคอนโด กระทบสินเชื่อที่อยู่อาศัยชะลอตัว แต่สินเชื่อธุรกิจรายใหญ่จะกลับมาทดแทน ธนาคารที่มีส่วนแบ่งในการตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ SCB, KTB และ BBL ส่วนธนาคารที่มีสัดส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยต่อสินเชื่อรวมสูงสุดได้แก่ SCB (~25%), TMB (~16%) และ KTB (~15%)
· (+) PTT ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 375 บาทจากเดิม 325 บาท แนวโน้มกำไร 3Q10 จะดีมาก เพิ่มขึ้น 29% Q-Q และ 26% Y-Y ส่วนใหญ่มาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 5.2 พันล้านบาท ส่วนกำไรปกติทรงตัว Q-Q และ Y-Y แต่จะดีขึ้นตั้งแต่ 4Q10 หลังจากที่โรงแยกก๊าซหน่วยที่ 6 สามารถเดินเครื่องได้ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป
· (+) กลุ่มหลักทรัพย์กำไรดีกว่าคาด หลักทรัพย์ที่เราศึกษา (ASP, BLS, KEST, PHATRA) ประกาศกำไร 3Q10 ครบแล้ว โดย +94%Q-Q, +59%Y-Y ดีกว่าคาดทั้งหมดเพราะกำไรจากพอร์ต อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นส่วนใหญ่เกินพื้นฐานแล้ว มีเพียง BLS ที่ PE ต่ำสุด 7.2 เท่า และให้ Yield จากเงินปันผลสูงสุด (~13%) เราแนะนำ BLS เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มนี้
· (-) KCE กำไรสุทธิตรงตามคาด แต่กำไรปกติแย่กว่าคาดมาก สะท้อนว่าปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบหนักกว่าที่เราคาด แนวโน้ม 4Q10 ชะลอตัวต่อ ระยะ 3–6 เดือนข้างหน้าไม่มีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น ผู้ที่ลงทุนสั้น ไม่จำเป็นต้องซื้อ ส่วนผู้ที่ถือยาวได้ ราคาที่ปรับลงวันนี้เป็นโอกาสในการสะสม เพราะ PE 5.5 เท่าถูกสุดในกลุ่ม
· (0) บจ.ที่ประกาศผลประกอบการวันนี้ มี ADVANC (เที่ยง), LPN, HMPRO พรุ่งนี้ DELTA, GLOBAL

ข่าวภายในประเทศ
JAS วิ่งไกลถึง 2.50 บาทพีอีลดฮวบเหลือ 38เ ท่า “เสี่ยปู่”ลั่นลุยถือข้ามปี เชื่ออนาคตกำไรก้าวกระโดด JAS วิ่งได้ไกลถึง 2.50 บาท หลัง
กำไรไตรมาส 3 เติบโตก้าวกระโดด กำไรต่อหุ้น (EPS) พุ่งอีก 0.048 บาท ทำให้ค่า P/E ปรับลงเหลือ 38 เท่า แถมบริษัทเจียดงบอีก 300 ล้านบาท
ไล่ซื้อหุ้นคืน 10% “เสี่ยปู่” ยอมรับเก็บหุ้น JAS มองอนาคตดี หวังถือยาวข้ามปีหลังผลประกอบการเติบโตแบบมีศักยภาพ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 4-11-
2010)
PS เบียด LPN ตกบัลลังก์ขึ้นแชมป์ตลาดคอนโด PS เริงร่ายอดขายพุ่ง 34,000 ล้านบาท ถึงสิ้นปีนี้ลั่นทำได้เกิน 38,000 ล้านบาท เหตุรอเปิดอีก
9 โครงการ ขณะที่คุยปีนี้เตรียมล้มแชมป์เก่า LPN ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งตลาดคอนโดฯ โกยยอดขายทะลักกว่า 15,000 ล้านบาท ครองมาร์เก็ตแชร์สูงสุด
15-20% โบรกฯแนะซื้อเป้า 33 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 4-11-2010)
SAT งบ Q3 สุดเริ่ดโชว์กำไร 210 ล้านรายได้ทั้งปีพุ่ง 45% SAT งบไตรมาส 3 สุดหรูทุบสถิติทั้งยอดขายและกำไร “วีระยุทธ” ลั่นไตรมาส 4 โตต่อไม่เลิก ออเดอร์งานเข้าแน่นเอี้ยดตามอุตสาหกรรม รายได้ทั้งปีพุ่งเกิน 45% ขณะที่ 6 โบรกฯการันตียอดขาย 1,600 ล้านบาท กำไรแตะ 210 ล้าน
บาท ด้าน KCE กำไรไตรมาส 3 พุ่ง 165 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 4-11-2010)
HMPRO กำไร Q4 พีคเอ็กซ์โปทะลุ 650 ล้าน HMPRO โชว์ยอดขาย HomePro EXPO ทะลุเป้า 650 ล้านบาท คาดรับรู้ไตรมาส 4/53 ประมาณ30% ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่น เชื่อกำไรพีคสุด โบรกฯมองกำไร Q4 สูงถึง 450-550 ล้านบาท ทั้งปีแตะ 1,589 ล้านบาท โต 39% จากปีก่อน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 4-11-2010)
SYMC ลั่นสัปดาห์หน้าเคาะราคาขายหุ้น IPO ชูปันผล-ส่วนลดจูงใจ "ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น" เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 72 ล้านหุ้นได้
กลางพ.ย.นี้ ส่วนราคาขายคาดสรุปสัปดาห์หน้า ชูปันผล-ส่วนลดล่อใจนักลงทุนซื้อหุ้น พร้อมเล็งเข้าเทรดใน SET วันที่ 26 พ.ย.นี้ หวังนำเงินขยาย
พื้นที่บริการในนิคมอุตสาหกรรม 120 ล้านบาท ติดตั้งโครงข่ายใยแก้ว 122 ล้านบาท ยันรายได้ปีนี้มากกว่าปีที่แล้ว (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 4-11-2010)
ITD เซ็นงานท่าเรือพม่าพ.ย.นี้ เก็งกำไรช่วงสั้นเป้า 5.72 บาท ITD จ่อเซ็นโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายในพม่า มูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาทในเดือน
พ.ย.นี้ ส่งผลดีในระยะยาว คาดปีนี้พลิกเป็นกำไร 671 ล้านบาท รับรายได้งานก่อสร้างและบริการ 42,659 ล้านบาท จากปริมาณงานในมือที่รอรับรู้กว่า
4.5 หมื่นล้านบาท โบรกฯ แนะเก็งกำไรระยะสั้น-กลาง ตามกระแสลงนามกับพม่า เป้าหมายปีหน้า 5.72บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 4-11-2010)
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.

ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยจำนวนชาวอเมริกันยื่นล้มละลายในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.4% จากเดือนก.ย. สถาบัน American Bankruptcy Institute เผยจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอล้มละลายในเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4% จากเดือนก.ย.มาอยู่ที่ระดับ 132,173 คน ส่งผลให้ในปีนี้มีชาว
อเมริกายื่นล้มละลายแล้วทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน อย่างไรก็ตาม จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นล้มละลายในเดือนต.ค.ปรับตัวลดลง 2.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลา
เดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอ้างอิงฐานข้อมูลของศูนย์วิจัย National Bankruptcy Research Center (ที่มา: อินโฟเควสท์ 3-11-2010)
จีน: จีนเผยดัชนี PMI นอกภาคการผลิตเดือนต.ค.ชะลอตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน สมาพันธ์โลจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีน (CFLP) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) นอกภาคการผลิตของจีนในเดือนต.ค.ขยายตัวที่ระดับ 60.5 จุด ซึ่งลดลง 1.2% จากเดือนก.ย. และเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมนอกภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว และดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับบ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมนอกภาคการผลิตหดตัวลง ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันที่ดัชนีPMI นอกภาคการผลิตของจีนเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 จุด (ที่มา: อินโฟเควสท์ 3-11-2010)
จีน: ธนาคารกลางจีนคาด CPI ขยายตัวที่ราว 3% ปีนี้ แต่ยังเผชิญแรงกดดันเงินเฟ้อในปีหน้า ศูนย์วิจัยการเงินของธนาคารกลางจีนระบุในรายงานว่า อัตราการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในปีนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งบ่งชี้ว่า หลังจากที่จีนได้ขึ้นดอกเบี้ยไปเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น หน่วยงานด้านการกำกับดูแลการเงินของจีนมองว่า จีนจะสามารถดูแลแนวโน้มราคาสินค้าให้อยู่ภายในเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 3-11-2010)
เอเชีย: สิงคโปร์เผยดัชนี PMI ภาคการผลิตขยายตัว 1.2% เดือนต.ค.หลังยอดส่งออกดีดตัว สถาบันการจัดซื้อและการจัดการวัสดุของสิงคโปร์ (SIPMM) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสิงคโปร์ ขยายตัวขึ้น 1.2% แตะระดับ 50.7 จุด ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และนับเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตมีการขยายตัว และดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตหดตัว (ที่มา: อินโฟเควสท์ 3-11-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น