Code 194 : ข่าวร้าย จีนลง 5% ข่าวดีอสังหาเด้ง

วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2553

ATT Code : ข่าวร้าย จีนลง 5% ข่าวดีอสังหาเด้ง

----------------------------------------------------------------------------------
ธปท.กำหนดปล่อยกู้อสังหาฯ คอนโด ที่ 90% มีผล 1 ม.ค.54 และปล่อยกู้อสังหาฯ แนวราบให้ LTV ที่ 95% มีผล 1 ม.ค.55 ผลกระทบต่อทั้งกลุ่มไม่มาก เพราะส่วนใหญ่ผ่อนดาวน์ประมาณ 10%

ธปท.กำหนดปล่อยกู้อสังหาฯ คอนโด ที่ 90% มีผล 1 ม.ค.54 และปล่อยกู้อสังหาฯ แนวราบให้ LTV ที่ 95% มีผล 1 ม.ค.55 เป็นมาตรการคุมการปล่อยสินเชื่อเพื่อลดการแข่งขันของสถาบันการเงิน

แต่คาดมีผลกระทบไม่มากต่อทั้งกลุ่มที่อยู่อาศัย เพราะคอนโดฯ ส่วนใหญ่ผ่อนดาวน์ 10% อยู่แล้วส่วนบ้านแนวราบผ่อนดาวน์ 5%-10% แต่ยังมีเวลาปรับตัวให้ได้ตามเกณฑ์เพราะเริ่มในปี 55 แนะนำ “ซื้อ” LPN SPALI และ PS


xBT> CHINA:ข่าวลือจีนเตรียมขึ้นดอกเบี้ยฉุดหุ้นจีนทรุด 5%
เซี่ยงไฮ้--12 พ.ย.--รอยเตอร์

หุ้นจีนร่วงลงมากที่สุดในวันเดียวเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์นับตั้งแต่เดือนพ.ค. โดยดิ่งลง 5.2% ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเทขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มการเงิน
และกลุ่มทรัพยากร จากข่าวลือเรื่องการคุมเข้มนโยบายการเงินเพิ่มเติม ณ เวลา 13.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีคอมโพสิตที่ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 2,981.6 หลังจากปิดพุ่งขึ้น 1% เมื่อวานนี้ ซึ่งดัชนีพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.
เทรดเดอร์กล่าวว่า การดิ่งลงของสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าหลังมีข่าวลือเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีจะผันผวนมากขึ้นจนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่ทางการดำเนินมาตรการเพื่อดูดซับสภาพคล่องในระบบการเงิน ซึ่งรวมถึงการเพิ่มเพดาน
กันสำรองของธนาคารพาณิชย์ในสัปดาห์นี้--จบ--
----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
12 พย. 53 ( -12.42 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

พอมีโอกาสปรับตัวขึ้น “ชั่วคราว”1042 - 1045 จุด
ภาพระยะสั้นวันศุกร์นี้ ดัชนีพอมีโอกาสอยู่บ้างที่จะปรับตัวขึ้น “ชั่วคราว” แถว 1042 –1045 ใกล้แนวต้านตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงอีกครั้งแต่ตราบใด ไม่เกิน 1049.18 จุดสูงสุดเดิมของวันพฤหัส ภาพตลาดระยะหนึ่งถึงสองสัปดาห์ข้างหน้า มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อแถว 1000 – 1005 จุด ( หรือต่ำกว่า ? ) ซึ่งเป็นบริเวณแนวรับตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน และเป็นการปรับฐานตามอัตราส่วนFibonacci Ratio 38.2% นับจากจุดต่ำสุดของวันที่ 20 กย. ถึงจุดสูงสุดของวันที่ 10 พย.

หุ้นเด่น
SMT
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะชั่วโมง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 17.90กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 18.20 – 18.80( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 17.30 )

IVL
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวัน รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 45.00 กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน47.50 – 49.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 42.75 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTL แกว่งตัว 37 – 41
PTTAR ไม่เกิน 37.50 ลง 32 – 34
PTT ไม่เกิน 342 ลง 310 – 320
BANPU ไม่เกิน 812 ลง 770 – 780
CPF ไม่ต่ำกว่า 22 ขึ้น 22.70 – 23
TOP ไม่เกิน 65.25 ลง 58 - 60
IVL รายละเอียดใน ”หุ้นเด่น”
PTTCH ไม่เกิน 165.50 ลง 145 – 150
TVO แกว่งตัว 32.50 - 35
STA ต่ำกว่า 34.25 ลง 33 – 33.50
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS : ตลาดเริ่มปรับตัวลงให้ได้เข้าซื้อแล้ว โดยแนะนำให้ทยอยเข้าเป็นระดับๆ !!
แนวโน้ม: ตลาดหุ้นไทยวานนี้ได้รับแรงกดดันจากข่าวนักลงทุนต่างประเทศขาย หุ้นในตลาดเกาหลีหนักสุดในรอบ 12 ปี ส่งผลให้ SET ช่วงบ่ายปรับตัวลงกว่า
1% นอกจากนี้ความกังวลเกี่ยวกับหนี้สินในยุโรปก็ยังกดดันความมั่นใจในตลาด หุ้นทั่วโลกอยู่ โดยเช้านี้ตลาดหุ้นหลายประเทศยังคงปิดลบและเคลื่อนไหวใน
ด้านลบเป็นหลัก แม้ว่าตลาดเกาหลีจะพลิกกลับมาฟื้นตัวได้ แต่จากยอดขายของนักลงทุนต่างประเทศในบ้านเราที่เริ่มมีมากขึ้น น่าจะยังส่งผลกดดันให้ SET อยู่
ระหว่างการปรับพักตัวลงต่อเนื่องได้ ซึ่ง FSS มองว่าโอกาสที่ดัชนีหุ้นไทยจะแกว่งลงไปแถว 1020 จุดและลุ้นต่ำกว่ายังมีความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามการ
ปรับตัวลงของ SET เรายังมองเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นเข้าซื้อ เพราะถึงแม้ว่านักลงทุนต่างประเทศอาจจะเข้าสู่ช่วงขายรับรู้กำไรก่อนหยุดปีใหม่ แต่แรงซื้อจาก
กองทุนในประเทศน่าจะสามารถช่วยเข้ามาพยุงตลาดแทนได้
กลยุทธ์: จังหวะการเข้าซื้อยังแนะนำให้รอช่วงตลาดไหลลงต่ำ โดยทยอยค่อยๆ
เข้ารับ โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ PTTEP, PTT, BANPU, SCC, PTTCH, KBANK, SCB, BBL, TASCO, PTL, BGH, TUF, LPN, TTCL, HMPRO, GLOBAL เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
• (-) ต่างชาติขายขายล็อคกำไรต่อ การขายของต่างชาติเกิดขึ้นทั่วทั้งเอเชีย ตลาดที่ ถูกขายหนักสุดคือตลาดหุ้นเกาหลีซึ่งเป็นตลาดที่ถูกซื้อมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก อินเดีย ทั้งนี้เป็นไปตามฤดูกาลที่มักขายก่อนถึงวันหยุดยาว ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ยังคงกลับทิศ (แข็งค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 3) และผู้จัดการกองทุนเริ่มแนะนำให้ถือเงินสดมากขึ้น รวมทั้งใกล้จะหมดข่าวดีเรื่องผลประกอบการ 3Q10 กลุ่มที่เป็นเป้าในการขายระยะนี้ จึงเป็น Big cap โดยเฉพาะกลุ่มที่เชื่อมโยงกับดอลลาร์ (commodity)
• (+) กลุ่มที่อยู่อาศัยยังมีความเสี่ยงแม้หุ้นถูกแล้วก็ตาม 5 บจ.ที่ประกาศงบแล้ว (AP, LH, LPN, QH, SPALI) ส่วนใหญ่ต่ำกว่าคาด กำไรปกติรวม -49% Q-Q, 60% YY แต่แนวโน้มจะดีขึ้นตั้งแต่ 4Q10 ราคาหุ้นที่ปรับลงมาได้สะท้อนผลประกอบการที่แย่ใน 3Q10 ไปแล้วแต่ยังมีความเสี่ยงจากมาตรการคุมเข้มของแบงก์ (ลดวงเงินกู้ เพิ่มเงินดาวน์) จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มนี้ไปก่อนจนกว่าจะมีความชัดเจน โดยบริษัทที่มีความเสี่ยงคือคอนโดที่มีฐานลูกค้าระดับกลาง-ล่าง เช่น SPALI, LPN, AP, PS ขณะที่บ้านแพง (LH, QH) จะเสี่ยน้อยกว่า
• (+) IVL ปรับเป้าหมายเพิ่มเป็น 40 บาท หลังซื้อโรงานเม็ดพลาสติก PET ประเทศจีน กำลังผลิต 4 แสนตัน/ปี คิดเป็น 24% ของกำลังผลิต PET รวมในปัจจุบัน เป็นก้าวแรกที่ทำธุรกิจในจีนซึ่งเป็นตลาดสำคัญของการผลิตและบริโภค PET คาดว่าการซื้อกิจการจะเสร็จสิ้นใน 1Q11 ปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเผยมูลค่าในการซื้อและแหล่งเงินทุนแต่เราประเมินมูลค่าที่เข้าซื้อกิจการครั้งนี้น่าจะอยู่ที่ US$4.5-5.4 พันล้าน ซึ่งถ้ากู้เพิ่ม D/E จะเพิ่มเป็น 1.2 เท่าค่อนข้างตึงตัว อย่างไรก็ตาม เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 40 บาท ราคาหุ้นเกินเป้าหมายแล้วแต่อุตสาหกรรมเม็ดพลาสติก PET สดใส แนะนำซื้ออ่อนตัว
• (+) GFPT ดีกว่าคาด กำไรสุทธิ +29% Q-Q, -10% Y-Y ดีกว่าเราและ consensus คาด แต่แนวโน้มจะชะลอตัวอีก 2 ไตรมาสข้างหน้าเพราะโรงงานใหม่ที่ยังผลิตไม่ถึง จุดคุ้มทุน แม้ว่าราคาหุ้นจะถูกในแง่ของ Valuation แต่ยังสามารถรอซื้อได้ ไม่ต้องรีบร้อน
• (0) บริษัทส่วนใหญ่ประกาศผลประกอบการวันนี้ TVO, TRUE, BIGC, PS, MAJOR, AMATA, MCOT, BEC, BH
• Fund Flow วานนี้ไหลเข้ามากกว่าปกติ โดยเฉพาะตลาดหุ้นเกาหลีใต้ที่นักลงทุน ต่างชาติขายสุทธิกว่า 1.17 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีข่าวว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้ จะมีมาตรการสกัด Fund flow ขณะที่ตลาดอื่นมีซื้อขายสลับ อย่างไรก็ตามเนื่องจากภาวะตลาดช่วงนี้เต็มไปด้วยปัจจัยลบ ไม่ว่าจะเป็นความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ สาธารณะของประเทศในแถบยุโรป และความกังวลเกี่ยวกับสงครามค่าเงินซึ่งอาจทำให้ มีมาตรการควบคุมการไหลเข้าออกของเงินในช่วงนี้ ดังนั้นจึงส่งผลให้ค่าเงินยูโรและ ค่าเงินเอเชียอ่อนค่าลง รวมถึงค่าเงินบาทด้วย แต่เราเชื่อว่าเป็นการขายทำกำไรปกติ แต่ไม่ได้ถอดใจขายหุ้นทิ้ง ช่วงที่ผ่านมาแนะนำ ให้ขายทำกำไรอย่างต่อเนื่อง และเข้า ซื้อเก็งกำไรเมื่อตลาดย่อ ช่วงนี้อาจต้องกลับมาตั้งหลักใหม่

ข่าวภายในประเทศ
IVL-THAI เข้า MSCI ‘จรัมพร’ ดึงฝรั่งเข้า ดัชนี MSCI Global Small Cap เพิ่มอีก 5 หุ้น MSCI เพิ่มหุ้น IVL กับ THAI เข้าไปคำนวณใน MSCI Emerging Market ส่วน MSCI Global Small Cap Indices เพิ่มหุ้นไทย 5 ตัว PTL, STPI, JAS, BTS และ SAT “จรัมพร” มั่นใจหุ้น IVL กับ THAI สร้างเสน่ห์ให้ตลาดหุ้นไทยดึงเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง IVL ไฟเขียวซื้อกิจการโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 12-11- 2010)
GLOW ปี 54 กำไรกระโดดบันทึกรายได้ 2 โรงไฟฟ้า GLOW ไตรมาส 4/53 ได้โรงไฟฟ้าถ่านหิน ขนาด 115 เมกะวัตต์ หนุน ขณะที่กำไรไตรมาส 3/53 พุ่งกว่า 76.34% ตามอัตรากำไรจากการดำเนินงานและความต้องการกลุ่มลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ปี'54 แนวโน้มดีต่อเนื่องเริ่มเปิดโรงไฟฟ้าพลังความร้อน ร่วม ขนาด 382 เมกะวัตต์และโครงการโรงไฟฟ้า IPP 660 เมกะวัตต์ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 12-11-2010)
SAMART ผนึกพันธมิตรชิงเค้ก 3G “วัฒน์ชัย” ลุ้นปีหน้าโตก้าวกระโดด ไตรมาส 3 กำไร 192 ล้าน SAMART ใส่เกียร์ห้าพร้อมเจรจาพันธมิตรต่างชาติโดดยื่นซองประมูล 3 จี ทีโอทีกว่า 19,000 ล้านบาท คาดอีก 1-2 สัปดาห์ได้ข้อสรุป ระบุโครงการนี้ใครก็อยากได้ เพราะเม็ดเงินมหาศาลได้สิทธ์ทำคนเดียวทั้งประเทศ หากชนะงานดันรายได้ปี 2554 โต 100% ล่าสุดโชว์งบไตรมาส 3 ฟันกำไรสุทธิ 192 ล้านบาท (ที่มา: นสพ. ข่าวหุ้น 12-11-2010)
TRC แจ่ม Q3 พลิกกำไร 57 ล้าน เชื่อปีนี้รายได้ไม่ต่ำ 1.7 พันล. TRC ไม่ทำให้ผิดหวังไตรมาส 3/53 พลิกเป็นกำไร 57 ล้านบาท จากขาดทุนปี
ก่อน 258.58 ล้านบาท เนื่องจากตัดขาดทุนจากการด้อยค่าการลงทุนในบริษัทย่อย และค่าปรับจากความล่าช้าของโครงการ บวกกับการรับรู้กำไรจาก การขายหุ้นราชเพลิน “สมัย” ลั่นปีนี้พลิกเป็นกำไรชัวร์ ตั้งเป้ารายได้ใกล้เคียง 1,700 ล้านบาท มีงานในมือไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ 2 ป  (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 12-11-2010)
RS ตั้งกลยุทธ์ปี 54 จับรวบฐานลูกค้าหนุนรายได้โต 20% อาร์เอส ดิจิตอล เร่งกำหนดแผนงานปี 2554 ชูกลยุทธ์ ผนวกและควบรวมฐานลูกค้า Mobile และ On-line เข้าไว้ด้วยกัน เชื่อทั้ง 2 กลุ่มเป็นฐานลูกค้ากลุ่มเดียวกัน มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบความทันสมัย ชี้ภาพรวมตลาดดิจิตอลยังอยู่ในช่วง ขาขึ้น วางเป้าปี 2554 ฟาดรายได้ 600 ล้านบาท และเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 12-11-2010)
UAC กำไรไตรมาส 3 กระฉูด 333% บันทึกเงินลงทุน BBF จ่ายปันผลทันที 0.10 บาท UAC โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 3/53 29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 333% เหตุบุ๊คส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมทุน BBF อีก 15.65 ล้านบาท “กิตติ ชีวะเกตุ” เอาใจนักลงทุน ประกาศแจกปันผล 0.10
บาทต่อหุ้น คุยไตรมาส 4/53 รายได้สดใส มั่นใจทั้งปี 2553 รายได้เติบโตตามเป้า 10% จากปี 2552 ที่มีรายได้อยู่ที่ 706.57 ล้านบาท (ที่มา: นสพ. ข่าวหุ้น 12-11-2010)
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.

ข่าวต่างประเทศ
จีน: กระทรวงการคลังจีนเผยรายได้การคลังเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 14.8% กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า รายได้การคลังของจีนในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 14.8% แตะระดับ 7.8603 แสนล้านหยวน (1.1866 แสนล้านดอลลาร์) อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราการขยายตัวของรายได้การคลังอาจชะลอตัวลงในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 11-11-2010)
จีน: สนง.สถิติแห่งชาติจีนเผยยอดค้าปลีกเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 18.6% สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกสินค้า อุปโภคบริโภคประจำเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 18.6% แตะระดับ 1.43 ล้านล้านหยวน (2.1579 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) นายเฉิน ไหล่หยุน โฆษกของ NBS กล่าวว่า แม้ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ของจีนปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็ขยายตัวช้ากว่าในเดือนก.ย.ราว 0.2% ขณะที่ยอดค้าปลีกในช่วงเดือนม.ค.-ต.ค.อยู่ที่ระดับ 12.53 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 18.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ NBS ระบุว่า อัตราการอุปโภคบริโภคในเขตเมืองพุ่งขึ้น 18.9% ต่อ ปีในเดือนต.ค. แตะระดับ 1.24 ล้านล้านหยวน ขณะที่อัตราการอุปโภคบริโภคในพื้นที่ห่างไกล เพิ่มขึ้น 16.8% แตะระดับ 1.889 แสนล้านหยวน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 11-11-2010)
เอเชีย: ผู้ว่าแบงก์ชาติเกาหลีใต้ชี้เศรษฐกิจประเทศดีขึ้นต่อเนื่อง คาดโต 6% ปีนี้ คิม ชุงซู ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ กล่าวว่าสภาพ เศรษฐกิจเกาหลีใต้กำลังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวราว 6% ในปีนี้ และ 4.5% ในปีหน้า นายคิมกล่าวในการแถลงข่าวที่ศูนย์สื่อของการประชุมสุดยอดจี20 ว่า ตลาดปริวรรตเงินตราและตลาดการเงินเกาหลีใต้ขาดเสถียรภาพเป็นอย่างมากหลังเกิดวิกฤตการเงินโลก แต่สถานการณ์ก็ดีขึ้นมากตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ของปี 2552 (ที่มา: อินโฟเควสท์ 11-11-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น