Code 198 : หวัง Rebound ตามฮ่องกง ยืนสัก 1,000 จุด

วันที่ พฤศจิกายน 2553
ATT Code : หวัง Rebound ตามฮ่องกง ยืนสัก 1,000 จุด
----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
18 พย. 53 (-10.60 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ไม่น่าเกิน 1005 - 10 จุด
จากสัญญาณ RSI Bullish Divergence ในภาพระยะชั่วโมง ตราบใดไม่ต่ำกว่า 978.52 จุดต่ำสุดของวันพุธ ดัชนีมีโอกาสปรับตัวกลับขึ้นไปได้แถว 1005 – 10 จุด บริเวณ แนวต้านตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย25 ชั่วโมง

จากนั้น ตลาด “อาจจะ” ใช้ระยะเวลาอีกสักระยะแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบ 978 – 1010หรือระหว่างจุดต่ำสุดของวันพุธ ถึงบริเวณแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงขณะที่แนวโน้มหลักของตลาด มีโอกาสปรับตัวลงต่อแถว 940 – 960 จุด (หรือต่ำกว่า ?)

สำหรับภาพประมาณปลายเดือนนี้ เท่ากับอัตราส่วนการปรับตัวของ Fibonacci Ratio38.2% นับจากการปรับตัวขึ้นมาในเดือน มิย. ปีนี้

Intraday - ไม่เกิน 1004 - 09
ไม่ต่ำกว่า 986.85 จุดต่ำสุดเช้านี้ ยังพอขึ้นต่อได้แถว 1004 - 09 .... ก่อนจะปรับตัวลงต่อไป
ต่ำกว่า 986.85 เป็นสัญญาณปรับตัวลง 979 - 982
แล้วอาจจะแกว่งตัวออกข้าง ... ก่อนจะปรับตัวลงต่อไป

แนวโน้มหลักยังคงเป็น "ขาลง" 940 - 960 หรือต่ำกว่า

หุ้นเด่น
PTL
ปรับตัวทะลุกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะชั่วโมง ทยอยซื้อแถว 33.00 - 33.75 หรือซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 34.00 จุดสูงสุดวันพุธเป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 35.00 – 36.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 33.00 )35 - 36

PTTEP
RSI Bullish Divergence ในภาพระยะชั่วโมงรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 177.00 จุดสูงสุดเวลา 16.00 น. วันพุธ เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน179.00 – 180.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 176.00 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTT เกิน 318 ขึ้น 321 – 325
PTL รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
TRUE เกิน 5.95 ขึ้น 6.10 – 6.20
BANPU เกิน 764 ขึ้น 778 - 784
IVL ต่ำกว่า 45.75 ลง 40 - 43
PTTAR ไม่น่าเกิน 35.50 – 36.50
PTTCH เกิน 162 ขึ้น 164 - 165
ITD ไม่น่าเกิน 5.05 – 5.10
PTTEP รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
BBL เกิน 147.50 ขึ้น 149 – 151
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย

ช่วงนี้ต้องระวังแรงขายแถว 980-985 ...แต่ลุ้นแรงซื้อจาก 967-960 ได้
แนวโน้ม: ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงไปเคลื่อนไหวแถว 980 จุดแล้วเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาพอควร เนื่องจากปรับตัวลงมาเกือบ 5% ในช่วงเวลาเพียง 2 วันทำ
การ ขณะที่เข้าสู่ช่วงงาน Set in the city ซึ่งปกติจะมียอดขายกองทุน LTF และRMF มากเป็นพิเศษ ซึ่งคาดว่าจะเป็นเม็ดเงินส่วนเพิ่มที่จะเข้ามาพยุงตลาดแทนนักลงทุนต่างประเทศที่เริ่มขายทำกำไรต่อเนื่องอยู่ในช่วงนี้ได้ ประกอบกับภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกในเช้าวันนี้ถือว่าดีขึ้นจากในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ดังนั้น FSS จึงคาดว่า SET มีแนวโน้มที่จะรีบาวด์กลับขึ้นได้อีกครั้ง โดยมีโอกาสที่จะขยับขึ้นไปแกว่งตัวเหนือ 1000 จุดอีกครั้งได้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศยังคงขายทำกำไรต่อเนื่อง และความกังวลต่อมาตรการคุมเข้มด้านเงินเฟ้อของจีนก็น่าจะยังกดดันต่อความมั่นใจของนักลงทุนอยู่พอควร ตลาดขยับ
ขึ้นไปจึงยังต้องตามระวังแรงขายกดดันอีกครั้งไว้ด้วย
กลยุทธ์: เลือกหุ้นเข้าซื้อเพื่อลุ้นตลาดดีดกลับขึ้นไปแกว่งตัวเหนือ 1000 จุดอีกครั้งได้ โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ PTTEP, PTT, BANPU, SCC, PTTCH, KBANK,SCB, BBL, TASCO, PTL, BGH, TUF, LPN, TTCL, HMPRO, GLOBAL
ประเด็นสำคัญวันนี้
• (-) GDP ของสเปน 3Q10 ไม่โต ตอกย้ำความกลัววิกฤตหนี้ยุโรป GDP 3Q10 +0%Q-Q ลดลงจาก 2Q10 ที่ยัง +0.3%Q-Q จากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและการลงทุนที่แย่ลง เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตอกย้ำความวิตกปัญหาหนี้สินในกลุ่ม PIIGs ซ้ำเติมที่กังวลกับการขึ้นดอกเบี้ยของจีน และมาตรการCapital control ของประเทศในกลุ่มเอเชียอยู่แล้ว แนวโน้มต่างชาติยังคงขายหุ้นไทยต่อเพราะแม้หลุด 1 พันจุดแต่ยัง +35% จากต้นปีและกำไรค่าเงินบาทอีก 10%
• (+) PTL ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 73 บาท จากการปรับประมาณการกำไรปีนี้ (สิ้นสุด มี.ค. 201) เพิ่ม 33% เนื่องจากส่วนต่างระหว่างราคาขาย
PET Film กับราคาวัตถุดิบกว้างกว่าคาดเป็น US$2,600-3,000/ตันหลังปรับราคาของ PET Film ขึ้นอีกราว US$600/ตัน ซึ่งบริษัทยังได้รับอานิสงส์เช่นนี้ต่อไปอีก 2 ไตรมาสเป็นอย่างน้อย และแนวโน้มธุรกิจก็ยังสดใสต่อไปอีก 1 ปีข้างหน้าจนกว่า supply ใหม่จะเข้าตลาด เรายังคงแนะนำซื้อ
• (+) TISCO แนะซื้อรับปันผล สินเชื่อเดือน ต.ค. ลดความร้อนแรงโดยเพิ่มเพียง 0.3% M-M เพราะมีการจ่ายชำระคืนสินเชื่อในกลุ่มสินเชื่อขนาดใหญ่แต่ก็คาดว่าสินเชื่อปีนี้จะเติบโตสูง 28% และโต 14% ในปีหน้า คาดกำไรปีนี้โตดีมาก 47% แต่โตชะลอลงเป็น 5% ในปีหน้า ประเด็นการซื้อ TISCO อยู่ที่เงินปันผลที่คาดว่าจะจ่าย 2.10 บาท/หุ้น คิดเป็น Yield 5.4% ขณะที่ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 45 บาท
• (-) SEAFCO ปรับราคาเป้าหมายลงเล็กน้อยเป็น 6.40 บาท จาก 6.70บาท เพราะกำไรใน 2H10 ที่น่าจะพลาดเป้าของเราจากความล่าช้าของ
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน อย่างไรก็ตาม เราคงประมาณการปีหน้าไว้ตามเดิมโดยรายได้หลักจะมาจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีน้ำเงินและทำให้พลิกเป็นกำไร
ได้ ยังคงแนะนำซื้อ
• (0) SCIB ใครยังถือหุ้น SCIB โอกาสสุดท้ายในการขายให้กับแบงก์ธนาชาติ19 พ.ย. นี้ที่ 32.50 บาท แต่ใครที่ซื้อเมื่อ 16 พ.ย. ไม่สามารถนำมาขายได้
• Fund Flow ไหลออกเป็นครั้งแรกในทุกตลาดหุ้นภูมิภาค ในปริมาณที่มากพอสมควร ทำให้ดูแล้วกลายเป็นข่วงขายทำกำไรระยะสั้น ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะไม่มีปัจจัยบวกใหม่แต่กลับมีปัจจัยในเชิงลบ โดยเฉพาะแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของจีนเพื่อชะลอเศรษฐกิจ รวมถึงการควบคุ้มราคาสินค้าหมวดอาหาร นอกจากนี้ทางสหรัฐก็จะมีการทำการทดสอบแบงก์รอบใหม่อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบร้ายแรงที่ขั้นต้องขายหุ้น ค่าเงินเอเชีย รวมถึงค่าเงินบาทแม้จะอ่อนตัวบางแต่ก็ยังมีเสถียรภาพ ดังนั้นยังมองแนวโน้ม Fund Flow ชะลอ แต่ถือว่าเป็นโอกาสสะสมหุ้นต่อเนื่อง

ข่าวภายในประเทศ
กลต.สอบดีลเสริมสุข BBL ปัดให้กู้หมื่นล้าน ตะลึง! เอสเอสฯเป็นโฮลดิ้ง ทุนชำระแค่ 12.5 ล้านบาท ดีลเทนเดอร์ SSC ส่อเค้าวุ่น ผู้บริหารBBL ยืนยันปฏิเสธข้ออ้าง “เอสเอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์” เรื่องปล่อยกู้หมื่นล้านบาท ระบุชัดไม่ได้ปล่อยกู้ให้แต่อย่างใด หากกู้จริงต้องผ่านมติบอร์ดของแบงก์ ตะลึง! เป็นเพียงแค่โฮลดิ้งกัมปะนี มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท แต่ชำระแล้วเพียงแค่ 12.5 ล้านบาท ก.ล.ต. สั่งตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกแบบเร่งด่วน มีสิทธิเข้าข่ายแจ้งเท็จ “ไทยเบฟฯ” ปฏิเสธข่าวลงทุนเสริมสุข (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 18-11-2010)
CK เริ่มบันทึกกำไรน้ำงึม 2 ไซยะบุรีเซ็นสัญญาปีหน้า CK จ่อบุ๊คกำไรพิเศษขายไฟฟ้าโครงการน้ำงึม 2 ไตรมาส 4/53 ประมาณ 95 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อย SEAN อีก 27 ล้านบาท ส่วนตั้งแต่ปี'54 เป็นต้นไปจะรับรู้รายได้จากการขายไฟ 400-450 ล้านบาทต่อปี ขณะที่มั่นใจซ็นงานไซยะบุรีได้ภายในเดือนมี.ค.54 รับรู้รายได้ทันที (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 18-11-2010)
AIS-TRUE-DTAC ฉลุย! ทีโอทีเปิดทางทำ MVNO ทีโอทีลั่นขายซองทีโออาร์ประมูลเน็ตเวิร์ก 3 จีสิ้นเดือนพ.ย.นี้ เฟสแรกได้ใช้งานรับสงกรานต์ปี'54 ที่เหลือครอบคลุม 12 จังหวัดเศรษฐกิจพ่วง กทม. ใน 180 วันนับจากเซ็นสัญญาจ้างผู้รับเหมาอย่างเป็นทางการ อ้าแขนรับ AIS-DTAC-TRUE โดดทำตลาดได้รูปแบบเอ็มวีเอ็นโอ มีโครงข่ายเป็นของตัวเองแล้ว (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 18-11-2010)
ตลท.ย้ำบจ.ไทยแกร่ง LTF-RMF หนุนดัชนีทะลุพัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยืนยันพื้นฐานบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่ง “จรัมพร” ขอนักลงทุนมั่นใจ ยังมี
เงินจาก LTF-RMF ไหลเข้าตลาดหุ้นประคองดัชนีทะลุ 1 พันจุดสิ้นปีนี้ ด้าน บลจ.กรุงไทย ยันธันวาฯนี้ นักลงทุนแห่ซื้อ LTF อีก 1 หมื่นล้านบาท แนะ
นักลงทุนเน้นมองระยะยาวเป็นหลัก “สุกิจ” แนะซื้อพลังงาน กับกลุ่มแบงก์ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 18-11-2010)
IHL 9 เดือนกำไรพุ่ง 500% ครึ่งหลังปันผล 40 สตางค์ IHL บินเหนืออุตสาหกรรมกำไร 9 เดือนพุ่ง 218 ล้านบาท โตทะลุ 500% “องอาจ” การันตีไตรมาส 4 งบสวยแน่ ออเดอร์งานเข้าแน่น หนุนรายได้ทั้งปีโตตามเป้า 1,800 ล้านบาท วงการเงินชี้ Q4 กำไรพุ่ง 80 ล้านบาท จ่ายปันผลครึ่งหลัง
อีก 40 สตางค์ สอท. โชว์ยอดผลิต 10 เดือน 1,349,919 คัน โตขึ้น 76% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 18-11-2010)
RAIMON ลั่นปีหน้ารายได้ 4 พันล. Q4 โชว์กำไรต่อเนื่อง ปีนี้ตามนัด 3.5 พันล้าน "RAIMON" มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้า 3,500 ล้านบาท
ยอดขายสิ้นปีนี้พุ่งสูง 5,000 ล้านบาท พร้อมโชว์แบ็กล็อก 7,800 ล้านบาท บุ๊ครายได้ไตรมาส 4 กว่า 1,300 ล้านบาท พร้อมโชว์กำไรต่อเนื่องจาก Q3
ส่วนปีหน้ารายได้โตแตะ 4,000 ล้านบาท ทำยอดขายไม่ต่ำ 4,000 ล้านบาท ลุยเปิดคอนโดไฮเอ็นด์ "ซายร์ วงศ์อมาตย์" มูลค่า 2,800 ล้านบาท พร้อม
ทุ่มเงิน 315 ล้านบาท ซื้อหุ้น 15% ของโครงการเดอะริเวอร์คืนจากกลุ่มไอเอฟเอฯ คาดแล้วเสร็จสิ้นปีนี้ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 18-11-2010)
STAR ปรับแผนใหม่รุกตลาดในประเทศย้ำงบ Q4 โตต่อเนื่อง STAR ปรับแผนเพิ่มความเข้มข้นตลาดในประเทศหลังวิกฤตน้ำท่วมส่งผลให้ความต้องการสินค้าสุขภัณฑ์เพื่อซ่อมแซมอาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัยเพิ่ม หวังขยับสัดส่วนรายได้ปีหน้าเป็น 50% จาก 35% ในปี 2553 ขณะเดียวกันเดินหน้าเจาะตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง เน้นแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดผลงานไตรมาส 4 ปี 2553 โตต่อเนื่อง (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 18-11-2010)
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วร่วงลงเกินคาด 7.29 ล้านบาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 12 พ.ย.ร่วงลง 7.29 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 357.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.11 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 158.79 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 2.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 2.66 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 207.68 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับลงเพียง800,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.6% แตะระดับ 84% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 18-11-2010)
สหรัฐอเมริกา: กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยตัวเลขสร้างบ้านเดือนต.ค.ร่วงหนักสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านใหม่เดือนต.ค.ร่วงลง 11.7% สู่ระดับ 519,000 หลังต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 600,000 หลังต่อปี บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะซบเซา ส่วนตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 550,000 หลังในเดือนต.ค. (ที่มา: อินโฟเควสท์ 18-11-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยดัชนี CPI เดือนต.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% หนุนมุมมองเฟดระบุเงินเฟ้อยังต่ำ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ดัชนีซีพีไอเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 0.3% ขณะที่ดัชนีซีพีไอพื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ยังคงทรงตัวในเดือนต.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 18-11-2010)
จีน: ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจีนไตรมาส 3 ร่วงลงครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส เหตุวิตกภาวะเงินเฟ้อ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของจีนในไตรมาส3 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า ราคาสินค้าและบริการจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แถลงการณ์จากบริษัทนีลสัน และ ศูนย์วิเคราะห์และติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสำนักงานสถิติจีนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของจีนร่วงลงสู่ระดับ 104จุดในไตรมาส 3 จากระดับ 109 จุดในไตรมาสก่อนหน้านี้ ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคชาวจีน 3,500 คนทั่วประเทศระบุว่า สัดส่วนของผู้บริโภคที่คาดว่าราคาสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้นอีกในปีหน้านั้นอยู่ที่ระดับ 76% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 70% ในไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยความวิตกกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญประการแรกที่มีผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเขตชนบท (ที่มา: อินโฟเควสท์ 17-11-2010)
จีน: นักวิเคราะห์คาดแบงก์ชาติจีนอาจขึ้นดอกเบี้ยศุกร์นี้ ขณะแรงกดดันเงินเฟ้อพุ่งสูง หนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตี้ เจอร์นัล รายงานโดยอ้างการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่า มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจีนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันศุกร์ที่ 19 พ.ย.นี้ เมื่อพิจารณาจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่รุนแรง สถานการณ์ด้านราคาสินค้าที่แพงขึ้นได้จุดกระแสคาดการณ์ถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า จีนจะเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อไปจนถึงปีหน้า นักวิเคราะห์กล่าวว่า ธนาคารกลางจีนมักประกาศขึ้นดอกเบี้ยในวันศุกร์ หรือวันที่ 20 ของเดือน ดังนั้น วันศุกร์ที่ 19 พ.ย.นี้จึงน่าจะเป็นวันที่ธนาคารกลางจีนตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย (ที่มา: อินโฟเควสท์ 17-11-2010)
จีน: จีนเผยยอดการค้าผลิตภัณฑ์แร่กับต่างประเทศ 3 ไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 49% หวัง หมิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติของจีน เปิดเผยข้อมูลสถิติในที่ประชุม China Mining Conference & Expo ครั้งที่ 12 ว่า การค้าผลิตภัณฑ์แร่กับต่างประเทศของจีนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ โดยนายหวังระบุว่า การส่งออกและนำเข้าผลิตภัณฑ์แร่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 5.24 แสนล้านดอลลาร์ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี เมื่อเทียบกับยอดการค้าของปี 2552 ที่ 4.99 แสนล้านดอลลาร์ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 17-11-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น