Code 186 : HSKI อีกแล้ว ที่ดันหุ้นไทยบวก ลุ้นยืน 1,000

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2553
ATT Code : HSKI อีกแล้ว ที่ดันหุ้นไทยบวก ลุ้นยืน 1,000
และแล้ว SET ก็สามารถปิดเหนือ 1,000 จุดขึ้นมาได้ มาปิดที่ระดับ 1,003.24 บวกไป 18.78 จุด สุโข่ย จริงจริง
-------------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
1 พย. 53 (-2.77 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ไม่น่าเกิน 987 - 992 จุด
ดัชนีในวันจันทร์ ไม่น่าปรับตัวขึ้นเกิน987 – 992 จุด บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงและ แนวโน้มจากนี้ไปการปรับตัวลง
ต่ำกว่า 979.34 จุดต่ำสุดของวันศุกร์ อาจจะทำให้เกิดรูปแบบคล้าย Double Top ?

นอกจากนั้นเนื่องจากสภาวะ RSI Overbought & Bearish Divergence ในภาพระยะสัปดาห์การปรับตัวลง ต่ำกว่า 970 จุด

นอกจากจะเป็นการปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย25 วันแล้ว ยังถือเป็นการเกิด “สัญญาณขาย”ในเครื่องมือ Point & Figure อีกด้วย และตลาดมีโอกาสปรับฐานใหญ่แถว 900 – 940 จุดในระยะต่อไป


หุ้นเด่น
PTTEP
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวัน รอซื้อตามมื่อปรับตัวเกิน 174.50 กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายสองสามวัน178.50 – 185.50( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 169.00 )178.50 – 185.50

ITD
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวัน รอซื้อตามมื่อปรับตัวเกิน 5.05 กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายระยะสัปดาห์5.40 – 5.85( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 4.78 )

Intraday
STEC
ปรับตัวทะลุกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะวันขึ้นมาได้ รอซื้อตามมื่อปรับตัวเกิน 14.10 จุดสูงสุดสัปดาห์ที่แล้ว เป้าหมายสองสามวัน 14.80 – 17.00 ( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 13.40 )

SET แกว่งตัวในกรอบ 980 - 1000 เกิน 1005 ขึ้นต่อ 1050 - 1060 ต่ำกว่า 975 ลง 900 - 910

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTL แกว่งตัว 32 – 34.50
PTTCH ไม่น่าเกิน 143 – 144
BANPU ไม่น่าเกิน 782 - 788
PTT แกว่งตัว 299 - 305
JAS ต่ำกว่า 1.52 ลง 1.46 – 1.48
TASCO ไม่น่าเกิน 77.25 – 78
SCC ไม่น่าเกิน 321 - 323
TCAP ต่ำกว่า 39.50 ลง 38 – 38.50
PTTAR ไม่น่าเกิน 30 – 30.50
PTTEP รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS:
ตลาดปรับลงน่าทยอยเข้ารับ...เพื่อลุ้นโอกาสดีดขึ้นเหนือ 1000 จุดต่อได้
แนวโน้ม: SET ยังมีโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นได้ แต่ช่วงต้นสัปดาห์อาจจะยังอยู่ในลักษณะแกว่งตัวผันผวนอยู่บ้าง เนื่องจากนักลงทุนยังรอดูผลการประชุม Fed
วันที่ 2 – 3 พ.ย. นี้ก่อน นอกจากนี้ยังรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์และการประชุมธนาคารกลางที่สำคัญ 5 แห่ง (ออสเตรเลีย อินเดีย BOE ECBBOJ) ด้วย อย่างไรก็ตามจากภาวะเศรษฐกิจบ้านเราที่ยังคงดีอยู่อย่างต่อเนื่องรวมทั้งเป็นช่วงประกาศผลการดำเนินงานของ บจ. ต่างๆ ทำให้เราคาดว่าจะยังคงมีแรงซื้อเข้ามาเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัว ซึ่งจะทำให้ตลาดปรับตัวลงไม่มาก และยังมีสิทธิที่จะเคลื่อนไหวในด้านบวกให้เห็นได้อยู่ โดยหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กจะเป็นตัวนำตลาดเหมือนสัปดาห์ก่อน
กลยุทธ์: เรายังมองว่าเป็นโอกาสดีในการสะสมหุ้นเมื่อตลาดปรับตัวลง โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่แนะนำได้แก่ PTTEP, PTT, BANPU, SCC, PTTCH, KBANK, SCB,BBL ส่วนหุ้นขนาดกลาง – เล็ก แนะนำ CPALL, TASCO, PTL, RCL, MINT,BGH, TUF เป็นต้นประเด็นสำคัญวันนี้
• (+) GDP 3Q10 ของสหรัฐฯ ดีตามคาด ขยายตัว 2% โตติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 และดีขึ้นจาก 2Q10 ที่ขยายตัว 1.7% ได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของประชาชนที่แข็งแกร่ง ชดเชยการลงทุนด้านอสังหาฯ ที่ยังซบเซาได้
• (+) เศรษฐกิจไทยเดือน ก.ย. ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคการผลิต(ขยายตัวดีในอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิคส์และชิ้นส่วนรถยนต์) ท่องเที่ยว ส่งออก
และการลงทุน (โดยเฉพาะหมวดก่อสร้าง) มีเพียงการใช้จ่ายของประชาชนที่ชะลอเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวสูงไปแล้ว
• (+) สัปดาห์นี้เลือกซื้อหุ้นตามแนวรับ สัปดาห์นี้หุ้น Big cap. ยังถูกกดดันจากการขายของต่างชาติและดอลลาร์อ่อนค่าจนกว่าการผ่านพ้นการประชุม Fed คืนวันพุธ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีในการสะสมหุ้น Big cap. ที่แนวรับ 980 จุด (แนะนำPTTEP, PTT, BANPU, SCC, PTTCH, KBANK, SCB, BBL) ขณะที่หุ้นขนาดกลาง- เล็กจะยังนำตลาด (แนะนำ CPALL, TASCO, PTL, RCL, MINT, BGH, TUF)
• (-) ขาย TSTH, GSTEEL, GJS ก่อนประกาศงบ หลังจาก SSI ประกาศผลขาดทุนชนิดผิดคาดใน 3Q10 เหตุเพราะต้นทุนวัตถุดิบสูง เราเชื่อว่ามีโอกาสสูงมากที่ TSTH, GSTEEL, GJS จะมีผลการดำเนินงานขาดทุนด้วยเหตุผลเดียวกันเราแนะนำให้ขายหุ้นเหล่านี้ก่อนประกาศผลประกอบการ สำหรับ BSBM จะเป็นผู้ผลิตเหล็กต้นน้ำรายเดียวที่มีกำไรแต่ก็คาดว่าจะลดลงมาก Q-Q
• (-) IRPC แย่กว่าคาดมาก กำลังทบทวนประมาณการ แนะนำถือ
• (-) TUF กำไรต่ำกว่าตลาดคาด จากค่าใช้จ่ายด้านภาษีที่ไม่ได้ลดลงตามที่คาดหวังไว้ เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 70 บาท
• (+) เก็งกำไร PTL ต่อ ราคาหุ้นยังซื้อขายที่ PE ไม่สูงนัก 11.5 เท่าแม้ราคาหุ้นจะปรับขึ้นมามากแล้วก็ตาม ปัจจัยหนุนคือโครงสร้างอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนไปจากSupply ในตลาดโลกที่ลดลง Demand เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุน (เม็ดพลาสติก) ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เราประเมินมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้น 45 – 47 บาท
• (0) NVL เปลี่ยนชื่อเป็น IAM (บมจ.บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง) วันนี้
• วันนี้มี DW เข้าใหม่ 2 ตัวคือ KTB01CA กับ KTB01PA
• Fund Flow กลับมาไหลออกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังไหลเข้าต่อเนื่อง 6 วันติดต่อกันในตลาดหุ้นภูมิภาค แต่ปริมาณการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากนักลงทุน
ส่วนใหญ่รอผลการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้หรือวันพุธนี้ว่าจะมีมาตรการอัดฉีดเม็ดกระตุ้นเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใดและนานแค่ไหน ซึ่งเราเชื่อว่าเฟดน่าจะประกาศ
อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบค่อนข้างแน่นอน เพราะหลังจากประกาศตัวเลขจีดีพีสหรัฐเติบโต 2% ตามที่นักเศรษฐศาสตร์คาด แต่อัตราการเติบโตระดับนี้ก็ยังไม่พอที่จะ
ทำให้การจ้างงานและเศรษฐกิจฟื้นตัวอยู่ชัดเจน แต่จะขึ้นอยู่กับว่าเฟดจะอัดฉีดเม็ดเงินมากหรือน้อยเท่าไรจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะมีผลกระทบต่อตลาดในสัปดาห์
นอกจากนี้ผลการเลือกตั้งสหรัฐน่าจะมีผลต่อการตัดสินใจของเฟดด้วย ในขณะที่ญี่ปุ่นเลื่อนการประชุมธนาคารเร็วขึ้น ฉะนั้นในสัปดาห์นี้เราจะเห็นเม็ดเงินกระตุ้น
เศรษฐกิจรอบใหม่ของ 2 ประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจ ผลที่ตามมาเราเชื่อว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าและค่าเงินเอเชียและค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้น
ดังนั้นแนวโน้มกระแสเงินทุนจากต่างชาติจะยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาค


ข่าวภายในประเทศ
SGP ยอดขาย 2 ล้านตัน รับโอนแก๊สจากจีนQ4 ฟันกำไรลงทุนนอก เป้าหมาย 23.4 บ. SGP อนาคตรุ่ง ยอดขาย LPG โต 100% จากปีละ 1-1.2 ล้านตันต่อปีเป็น 2-2.2 ล้านตันต่อปี รับอานิสงส์เทกโอเวอร์ BP ZHUHAI LPG Limited (BPZH) ถ้ำเก็บ LPG ของจีนจบ พร้อมรับโอนสินทรัพย์ภายในไตรมาส 4 ส่วน Cogel รับโอนปีหน้า ดันยอดขาย LPG ในจีนเพิ่มเป็น 4 แสนตัน พร้อมรับผลดียอดขายโตต่อเนื่อง จากภายในประเทศเวียดนาม และสิงคโปร์ ดันกำไรไตรมาส 3 เพิ่มอีก 30% ปรับราคาเหมาะสม 23.40 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 1-11-2010)
TMI รายได้ปีนี้โต 20%เพิ่มสินค้าดันยอดขาย TMI ไตรมาส 3 แจ่ม ส่วนไตรมาส 4 เข้าไฮซีซั่นทั้งปีรายได้โต 17-20% หลังอัดงบกว่าล้านบาท
รุกเพิ่มแบรนดิ้ง กระตุ้นยอดขาย ปันผลปีนี้จ่ายไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ปัญหาบาทแข็งยึดรักษาสัดส่วนการนำเข้าวัตถุดิบกับการส่งออกให้เหมาะสม (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 1-11-2010)
TOP เป้าใหม่ 67 บาทค่ากลั่นสูง-ปิโตรฟื้น “ซิตี้กรุ๊ป” ปรับเพิ่มราคาหุ้น TOP เป็น 67 บาท จากเดิม 55 บาท มั่นใจได้รับผลดีจากค่าการกลั่นและส
เปรดอะโรเมติกส์ฟื้นตัว ลุ้นกำไรไตรมาส 3 ทะลุ 1,900 ล้านบาท ผู้บริหารเผยราคาน้ำมันยืน 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หนุนค่าการกลั่นขยับเพิ่มเป็น
6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 1-11-2010)
หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลกำไรแอบหรู BGH ฟาดเกิน 600 ล้านบาท KH โชว์ทะลุ 180 ล้านบาท หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลแรงซุ่ม หน้าฝนหนุนกำไรงวด
ไตรมาส 3 สวยหรู วงการชี้ BGH สุดเด่น มีสิทธิฟาดกำไรสุทธิทะลุ 600 ล้านบาท ชี้ไตรมาส 4 ยังไปได้สวย แถมน้ำท่วมยังไม่กระเทือน ขณะที่ KH
กำไรเด่นตามติด ลุ้นโชว์กำไรสุทธิ Q3 พุ่งเกิน 180 ล้านบาท ลูกค้าแห่ใช้บริการแน่น (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 1-11-2010)
QLT มั่นใจไตรมาส 3 ฟื้นตัว PTT-BCP ดันรายได้เติบโต “ควอลลีเทค” ส่งซิกไตรมาส 3/53 รายได้ฟื้นตัวจากไตรมาส 2/53 หลังสัญญาณ
เศรษฐกิจในประเทศ และการลงทุนเริ่มกลับมาหนุนกลุ่มลูกค้าเก่า-ใหม่เข้ามาใช้บริการงานทดสอบ และตรวจสอบเพิ่มขึ้น เล็งคว้างานใหม่ต่อยอดเพิ่มหลังลูกค้าหลักปตท.และบางจากเร่งผุดโครงการลงทุนใหม่เพียบทั้งปีรายได้โตใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้ 279.71 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 1-11-2010)
DCC-DCON-DRT ยอดขายกระโดด หลังน้ำท่วมงานซ่อมบ้านใหม่เพียบ หุ้นวัสดุก่อสร้างอนาคตสดใสนำทัพโดย DCON-DRT-DCC อานิสงส์หลังน้ำท่วมยอดขายสินค้าพุ่งเนื่องจากประชาชนซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย แถมไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซั่น เผยไตรมาส 4/53 รายได้
สวย ทั้งปีนี้ผลประกอบการเติบโตตามเป้าหมาย พร้อมออกโปรดักต์ใหม่ออกมามากขึ้น (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 1-11-2010)
AIS-TRUE ยื่นขอทำตลาดมือถือ3จี ทีโอทีเชื่อรายได้ปีละ 1,500 ล้านบาท งานติดตั้งระบบใช้เพียงรายเดียว บอร์ดทีโอทีเร่งดำเนินการ 3 จี ทีโอทีรวบรวมทีโออาร์ส่งอัยการสูงสุดตรวจความเรียบร้อย ก่อนประกาศขายแบบ-ซองได้เดือนธ.ค.นี้ ระบุผู้ชนะมีเพียงรายเดียวได้รับสิทธิ์ทำทั้งประเทศ อ้างต้องการให้ระบบเชื่อมต่อกันได้ไร้ปัญหา มั่นใจเปิดบริการได้ไตรมาส 2 ปีหน้า หลังจากนั้นทยอยเฟสที่เหลือให้เสร็จตามมติ ครม. วาดแผนการตลาดมีรายได้จาก 3 จีปีแรก 1,500 ล้านบาท ระบุเอไอเอส-ทรูมูฟส่งบริษัทลูกขอทำเอ็มวีเอ็นโอ-โรมมิ่งแล้ว (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 1-11-2010)
-----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น