Code 199 : จะให้ SET กลับมาดูดี ต้องยืนเหนือ 1,013 จุด

วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2553
ATT Code : จะให้ SET กลับมาดูดี ต้องยืนเหนือ 1,013 จุด
----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
19 พย. 53 ( +14.59 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ปรับตัวลง 979 – 982 จุด
ดัชนีในวันพฤหัส ปรับตัวขึ้นมาบริเวณแนวต้านตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วมงและ 25 วันพอดี

จากนี้ไป มีแนวโน้มที่จะปรับตัวกลับลงมาบริเวณ 979 – 982 ใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์นี้อีกครั้ง และ มีโอกาสที่ตลาด “อาจจะ” ย่ำฐานอีกสักระยะในกรอบ 979 – 1004 หรือ ระหว่างจุดต่ำสุดของสัปดาห์ ถึงบริเวณแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมง

ขณะที่แนวโน้มหลักของตลาด สำหรับภาพประมาณปลายเดือนนี้ มีโอกาสปรับตัวลงต่อแถว 905 - 935 จุด ใกล้แนวรับตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 สัปดาห์

Intraday - ลง 980 - 985
ตราบใดไม่เกิน 1012.20 จุดสูงสุดเช้านี้ ดัชนีปรับตัวลง 980 - 985 แล้วน่าจะแกว่งตัวขึ้นลง 980 - 1010 อีกหลายวันถึงสัปดาห์ เพื่อรอปรับตัวลงต่อไป 900 - 940 ปลายเดือน พย. - ต้นเดือน ธค.

หุ้นเด่น
ITD
ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมง ได้อีกครั้ง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 5.05จุดสูงสุดของสัปดาห์นี้ เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 5.20 – 5.40
( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 4.94 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTT ไม่น่าเกิน 322 - 325
BANPU แกว่งตัว 740 - 760
TRUE แกว่งตัว 5.65 – 6.05
PTTEP ต่ำกว่า 178 ลง 174.50 – 175
IVL ต่ำกว่า 47 ลง 45.75 - 46
PTL แกว่งตัว 33 – 35
PTTCH ต่ำกว่า 161.50 ลง 158 - 159
BBL ต่ำกว่า 149 ลง 145 - 146
PTTAR ต่ำกว่า 35 ลง 33.50 - 34
TOP ไม่เกิน 61 ลง 57 – 58
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ตลาดยังลุ้นขยับขึ้นต่อได้ แต่เน้นซื้อแล้วถือรอขาย มากกว่า ซื้อไล่ตาม!!
แนวโน้ม: FSS ยังคงคาดว่า SET จะแกว่งตัวขึ้นต่อเนื่องได้ ทั้งจากแรงขับเคลื่อนของเม็ดเงิน LTF และ RMF ที่คาดว่าจะมีเข้ามาในช่วงนี้มากเป็นพิเศษและนักลงทุนต่างประเทศที่ยังมียอดซื้อเข้ามาสลับ แสดงถึงการขายในช่วงที่ผ่านมาน่าจะเป็นเพียงการขายทำกำไรบางส่วนก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่ช่วงหยุดยาวใน
เทศกาลคริสมาสต์-ปีใหม่ตามคาดมากกว่า ประกอบกับภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกในเช้าวันนี้ถือว่าสดใสมากด้วย โดยเราแนะนำให้เข้าซื้อเก็งกำไรในหุ้นหลักๆ ของ
ตลาดเหมือนเดิม โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่เริ่มทยอยประกาศตัวเลขสินเชื่อเดือน ต.ค. ออกมาดีมาก อย่างไรก็ตามความกังวลต่อมาตรการคุมเข้มด้านเงิน
เฟ้อของจีนยังมีโอกาสที่จะกดดันต่อความมั่นใจของนักลงทุนอยู่ ดังนั้นตลาดขยับขึ้นมาจึงยังต้องตามระวังแรงขายกดดันครั้งใหม่ไว้ด้วย
กลยุทธ์: เพื่อไม่ให้ความเสี่ยงสูงจนเกินไป จึงแนะนำให้ซื้อแล้วเน้นถือเพื่อรอดูจังหวะขายทำกำไร มากกว่าที่จะซื้อไล่ราคาในระดับสูง โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่
PTTEP, PTT, BANPU, SCC, PTTCH, KBANK, SCB, BBL, TASCO, PTL, BGH,TUF, LPN, TTCL, HMPRO, GLOBAL
ประเด็นสำคัญวันนี้
• (+) เขียวทั่วภูมิภาค LTF-RMF เริ่มทำงาน กองทุนเริ่มซื้อ ตลาดยังติดตามการปรับขึ้นดอกเบี้ยของจีน (อาจเป็นวันนี้) ส่วนมาตรการ Capital control ในเอเชียยังมีอิทธิพลกับตลาด แต่สภาพคล่องที่ตึงตัวระยะสั้นเพราะเตรียมเงินจองซื้อหุ้น IPO ของGM ผ่อนคลายไปหลัง GM เข้าเทรดไปแล้ว ขณะที่ความวิตกกับหนี้ของไอร์แลนด์ผ่อนคลายลง ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า (บวกกับ Commodity) ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 6 วันแต่ก็ยังมีปริมาณเพียงร้อยกว่าล้านบาท (แนวโน้มต่างชาติยังคงเป็นการขายทำกำไรก่อนหยุดยาว) แต่กองทุนในประเทศซื้อถึง 1.2 พันล้านบาทหลังเม็ดเงิน LTF-RMF เริ่มทำงาน (Set in the city เริ่มวานนี้วันแรกถึง 21 พ.ย.)
• (+) Banks เข้าสู่ช่วง Investment cycle...สินเชื่อแบงก์ใหญ่มีจำนวนสูงเป็นประวัติการณ์ วานนี้ SCB แจ้งสินเชื่อเดือน ต.ค. ดีมากและดีเกินคาด +2.4%M-M(~2.25 หมื่นลบ.ภายในเดือนเดียว) และ +9.7%YTD (งบเดี่ยว) และ +7.5%YTD(งบรวม) เรายังคงแนะนำซื้อ เป้าหมาย 130 บาท ส่วน KTB รายงานสินเชื่อเดือน ต.ค.สูงสุดในรอบปีและเป็นประวัติการณ์ +1.1%M-M (1.28 หมื่นลบ.) และ+10.18%YTD แนะนำซื้อเช่นกัน เป้าหมาย 19 บาท ขณะที่ TMB เพิ่มขึ้น 0.88%MMแต่ยังลดลง 0.19%YTD เราปรับคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อของ TMB ปี 2010เป็น +1% จากเดิม +10 % ยังคงแนะนำขาย เป้าหมาย 1.50 บาท ช่วงนี้แบงก์อื่นๆ จะทยอยประกาศยอดสินเชื่อเช่นกันซึ่งเชื่อว่าจะได้เห็นตัวเลขที่ดีกับแบงก์ใหญ่ KBANK,BBL เรายังคงแนะนำ Overweight กลุ่มแบงก์โดยมี KBANK เป็นหุ้นเด่น
• (+) BANPU (-) RATCH BANPU (เป้า 950 บาท) ขาย RATCH (เป้า 43 บาท)ผ่าน Big lot 15 ล้านหุ้นที่ 35 บาท มีกำไรก่อนภาษี 405 ล้านบาทใน 4Q10 และอาจขายอีก เป็นลบกับ RATCH เพราะราคาขายต่ำกว่าราคาตลาด ขณะที่ผลกำไรก็ไม่โดดเด่น
• (+) กลุ่มติดตั้งโครงข่าย เอกสารเชิญประมูล (TOR) โครงข่าย 3G ของ TOT เสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบของอัยการ คาดว่าจะเปิดขายซองสิ้นเดือน พ.ย. นี้ประมูลเดือน ธ.ค. และประกาศรายชื่อผู้ชนะประมูล ม.ค. ปีหน้า เป็นประเด็นที่เก็งกำไรได้สำหรับ JTS, SAMTEL, SAMART, AIT, LOXLEY
• (-) คาดประมูล 3G บนคลื่นใหม่ปี 2012 ร่างพ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯผ่านความเห็นชอบจาก สส. และ สว.แล้ว เตรียมประกาศใช้เป็นกฎหมายสิ้นปีนี้หลังจากนี้จะเข้าสู่การสรรหา กสทช. 11 คน (คาด 6 เดือน) และจัดทำแผนแม่บท(คาดอีก 6 เดือน) รวมแล้วการจัดประมูลน่าจะอยู่ในปี 2012 กลางปี
• Fund Flow วานนี้ยังไหลออกต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน แม้จะเข้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยและอินโดแต่ปริมาณน้อยมาก เนื่องจากยังอยู่ในช่วงขายทำกำไรระยะสั้นหลังหมดข่าวดี แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มกระแสเงินทุนจากต่างชาติน่าจะกลับมาซื้อในตลาดหุ้นภูมิภาคแต่ยังไม่มากเพราะยังไม่มีปัจจัยบวกให้เห็นชัดเจน แต่หากดูจากค่าเงินภูมิภาคเอเชีย รวมถึงค่าเงินบาทแข็งค่าเพียงเล็กน้อย อาจเป็นเพียงแค่ซื้อกลับในส่วนที่ขายไปเท่านั้น


ข่าวภายในประเทศ
ทรูรับเจรจาซื้อฮัทช์ทุ่ม 3 พันล้านลุย HSPA AIS เซ็งทีโอทีไม่ขยับ DTAC ร้องกสทฯไม่เป็นธรรม TRUE รับแล้วดอดเจรจาซื้อฮัทช์จริง อุบรายละเอียดเรื่องราคา ระบุอยู่ในขั้นตอนการศึกษา มองทิศทางปีหน้าตลาดมือถือแข่งดุหากได้เปิดเอชเอสพีเอเชิงพาณิชย์ เล็งอัดเงินลงทุนอีกกว่า 3พันล้านบาท DTAC ไม่สบอารมณ์ขอเทสต์ 3 จีเพิ่มแต่ กสทฯ ไม่เคยอนุมัติพร้อมยื่นหนังสือถึงนายกฯ 22 พ.ย.นี้ ส่วนขาใหญ่ AIS เซ็งเจรจาทีโอทีไม่คืบ แม้ได้สิทธิ์เปิดเอชเอสพีเอเก็บเงินได้มาปีกว่าแล้ว (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 19-11-2010)
GSTEEL กำไร 2.3 พันล. หนี้หมดบุ๊ค 1.50 บาท GSTEELไตรมาส 4/53 กลายเป็นหุ้นเทิร์นอะราวด์ พลิกมีกำไร 2.3 พันล้านบาท จากโครงการปรับหนี้หุ้นกู้ ล้างหนี้ที่มีอยู่ 5.1 พันล้านบาทเกลี้ยง จับตา 22 พ.ย.เจ้าหนี้มาครบองค์ประชุมพร้อมใจโหวตผ่านแผนปรับหุ้นกู้ ดันต้นทุนเจ้าหนี้สูงกว่า
บาท ส่วนกำไรปรับโครงสร้างลากบุ๊คให้วิ่งไปไกล 1.30-1.50 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 19-11-2010)
PF ฟุ้งรายได้ปีหน้า 1.5 หมื่นลบ. เล็งตั้งกองทุนอสังหากลางปีหน้า เปิด 15 โครงการ "PF" ลั่นปีหน้ารายได้ทะลัก 1.5 หมื่นล้านบาท เดินหน้าเปิด 15 โครงการ ดันยอดขายแตะ 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนกลางปีหน้าลุยตั้งกองทุนรวมอสังหาฯ 2.5 พันล้านบาท เล็งโอนหอพักนักศึกษาเข้าเป็นสินทรัพย์ ส่วนรายได้ปีนี้ลั่นทำได้หมื่นล้านบาท และยอดขาย 1.1 หมื่นล้านบาท ล่าสุดได้ธ.กรุงไทยสนับสนุนทางการเงิน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 19-11-2010)
N-PARKเฮ! ได้ข่าวดีรับแจ้งบสก.ถอนฟ้องหนุนภาระหนี้สินลด "N-PARK" เฮ! บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ (บสก.) ถอนฟ้อง ส่งผลดี
ภาระหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตลดลง เนื่องจากเดิมโจทก์ได้ฟ้องขอให้บริษัทในฐานะผู้ค้ำประกัน ชำระเงินจำนวน 135.31 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 15% ต่อปีของเงินต้นจำนวน 47.09 ล้านบาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จแก่โจทก์ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 19-11-2010)
ARIP ไอพีโอ 0.90 บาทซื้อหุ้นรับส่วนลด30% ล่อใจรับเงินปันผลปีนี้ ARIP เคาะไอพีโอ 0.90 บาท ชูส่วนลด 35% ปันผลล่อใจ เปิดจอง 22-24 พ.ย.นี้ พร้อมเดินหน้าเข้าเทรด 2 ธ.ค.นี้ มั่นใจปีนี้-ปีหน้ารายได้โต 20% ต่อเนื่องหลังระดมเงินนำเงินขยายธุรกิจต่อเนื่อง เร่งเจรจาฟรีทีวีคาดได้
ข้อสรุปไตรมาส 1 ปีหน้า ลั่นปี 2555 จูงมือพันมิตรจัดอีเวนท์ต่างประเทศ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 19-11-2010)
BSBM ปีหน้ายอดขายโต 50% ลุ้นกำไรสุทธิปีนี้165 ล้านบาท BSBM ตั้งเป้าปริมาณขายปีหน้าเพิ่มขึ้น 50% เป็น 1.5-2 แสนตัน จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีปริมาณขาย 1 แสนตัน ขณะที่ 9 เดือน ทำได้แล้ว 7.7 หมื่นตัน หวังน้ำท่วมลดหนุนความต้องการใช้เพื่อซ่อมแซมบ้าน ดันยอดขายให้ไตรมาส4/53 พุ่ง คาดกำไรสุทธิในปี 2553 ที่ 165 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับปีก่อน โบรกฯ แนะซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 1.77 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 19-11-2010)

-----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนตุลาคม สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนตุลาคม หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนกันยายน สะท้อนให้เห็นว่าจังหวะการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในระดับปานกลาง แอตตาแมน ออซยิดิริม นักเศรษฐศาสตร์ของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด กล่าวว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจยังคงเคลื่อนไหวในช่วงขาขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะมีการขยายตัวในระดับปานกลางอย่างต่อเนื่องในระยะสั้น (ที่มา: อินโฟเควสท์ 19-11-2010)
สหรัฐอเมริกา: เฟดเผยกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติกขยายตัวเกินคาดเดือนพ.ย. บ่งชี้ภาคการผลิตสหรัฐฟื้นตัว ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกของสหรัฐขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 22.5 จุดในเดือนพ.ย. จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 1.0 จุด ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.0 จุด การขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของดัชนีกิจกรรมการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกของสหรัฐสะท้อนให้เห็นว่า ภาคการผลิตของสหรัฐยังคงฟื้นตัวแม้ในช่วงที่เศรษฐกิจยังคงเผชิญกับภาวะไม่แน่นอน โดยก่อนหน้านี้สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 56.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 54.0 จุด หลังจากขยายตัว 54.4 จุดในเดือนก.ย. (ที่มา: อินโฟเควสท์ 19-11-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 2,000 ราย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 2,000 ราย แตะระดับ 439,000 ราย ใกล้เคียงที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่440,000 ราย อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 4,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 443,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่รอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ต.ค.2551 (ที่มา: อินโฟเควสท์ 19-11-2010)
เอเชีย: ผู้ว่าแบงก์ชาติฟิลิปปินส์มั่นใจเศรษฐกิจปีหน้าขยายตัวได้ตามเป้าที่ 7-8% อมันโด เททังโก ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวได้ตามเป้าที่ระดับ 7-8% ในปีหน้า "ในช่วงที่ผ่านมานี้ เราได้เห็นว่าเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์มีศักยภาพในการขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้จะช่วยกระตุ้นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้มากขึ้นในอนาคต หรือกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า เม็ดเงินทุนที่เริ่มหลั่งไหลเข้ามาในระบบเศรษฐกิจมีส่วนช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้เร็วขึ้น" เททังโกกล่าว (ที่มา: อินโฟเควสท์ 18-11-2010)
เอเชีย: IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจฮ่องกงเป็น 6.75% ในปีนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจฮ่องกงเป็น 6.75% ในปีนี้ พร้อมสนับสนุนระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบผูกติดค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ไอเอ็มเอฟพิจารณาเห็นว่าเศรษฐกิจฮ่องกงกลับมาขยายตัวอย่างสดใสอีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลฮ่องกงดำเนินนโยบายอย่างทันท่วงทีในการรับมือกับวิกฤตการเงินโลก (ที่มา: อินโฟเควสท์ 18-11-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น