Code 204 : ข่าว PTTEP ค่อนข้างออกมาในเชิงบวก

วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2553

ATT Code : ข่าว PTTEP ค่อนข้างออกมาในเชิงบวก
----------------------------------------------------------------------------------
Hot News
PTTEP: Key takeaway from conference call : ค่อนข้างออกมาในเชิงบวก
· ผลการสบสืบส่วนเป็นไปตาม ปตท.สผ. คาด เนื่องจาก ปตท. สผ. ได้ทำงานและประสารงานกับกระทรวงพลังงานของออสเตรเลียต่อเนื่องในช่วงสอบสวนเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา
· กระทรวงพลังงานยืนยันอย่างไม่เป็นทางการที่จะให้ ปตท.สผ ดำเนินกิจการในโครงการมอนทาราต่อไป แม้จะอยู่ในช่วงทบทวนสัปทานก็ตาม การดำเนินงานของปตท.สผ ในแหล่งมอนทารายังไม่ได้เปลี่ยนแปลงการดำเนินงานผลิตน้ำมันดิบแต่อย่างใด นอกจากนี้ตามกฏหมายจะมีการทบทวนสัปทานมอนทาราเท่านั้น ไม่ได้โยงไปถึงแหล่งอื่นของปตท.สผ ในออสเตรเลีย และ สัปทานนี้ปตท. สผ สามารถขายสัปทานมอนทาราต่อไปได้
· ท้ายที่สุดแล้วคำตัดสินจากรัฐบาลออสเตรเลีย ซึ่งปตท.สผ คาดว่าผลการทบทวนการให้สัปทานของมอนทาราจะออกมาเป็นบวก และอาจมีเสียค่าปรับเพียงเล็กน้อยตามที่บริษัทคาด
· ความคืบหน้าการฟ้องร้องกับอินโดนีเชียมีการพูดกับ 2 ครั้ง และพร้อมเปิดเจรจาข้อมูลที่ได้รับจากอินโดเชียเช่นเดิม
· ปตท. สผ คาดว่าผลการทบทวนอันดับเครดิตอาจจะออกมา 50: 50 กรณีของ S&P ทบทวนอันดับเครดิตของปตท.สผ จะใช้เวลา 90 วัน เรื่องนี้บริษัทจะชี้แจงให้บริษัทจัดอันดับเครดิตทราบ สำหรับหนี้สินที่เพิ่มขึ้นมาก ขณะนี้ปตท.สผ ก็มีแผนที่จะทำให้หนี้สินลดลงในอนาคต ได้แต่การขายสัดส่วนการถือหุ้นในแหล่งเอ็ม 9 ในพม่า รวมถึงการขายลูกหนี้การค้าจากปตท. แม่ที่มีเป็นจำนวนมาก
Comments: การชี้แจงของปตท. สผ ค่อนข้างเป็นบวก แม้จะยังมีความเสี่ยงอยู่ค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าในช่วงสั้นนี้ราคาหุ้นจะยังถูกกดดันต่อเนื่องจนกว่าจะมีคำตัดสินออกมา ส่วนปัจจัยพื้นฐานของปตท. สผ ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากกระทรวงพลังงานออสเตรเลียยืนยันอย่างไม่เป็นทางการที่จะให้ปตท. สผ ดำเนินการผลิตน้ำมันดิบในแหล่งมอนทาราต่อไป ไม่ได้สั่งให้หยุด ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับว่ากรณีที่เราถูกยึดใบขับขี่แต่เรายังเป็นเจ้าของรถอยู่มีสิทธิที่จะขายรถคันนี้ได้ ระยะยาวเรายังแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมายที่ไม่หักโครงการมอนทารายังอยู่ที่ 195 บาท/หุ้น
Short News
CHINA:จีนประกาศคุมเข้มภาคอสังหาฯวันนี้ สกัดการทำ IPO-เพิ่มทุน-ปรับโครงสร้าง เซี่ยงไฮ้--26 พ.ย.--รอยเตอร์

Citi: 2011 SET target 1,060. SET50 target 740. OW Energy, Materials, Banks

CS: 2011 SET target 1,176. Top picks: AP, BGH, KBANK, LPN, MINT, SCB, TISCO, THAI, TOP

SPALI (BUY) - 4Q10 กำไรจะฟื้นขึ้นเต็มที่ ส่วน LTV ไม่กระทบมาก
* คาดจ่ายปันผลปี 2010 ที่ 0.62 บาท คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 5.8% ต่อปี โดยจ่าย 1H10 ไปแล้ว 0.30 บาท เหลือจ่ายครึ่งหลังประมาณ 0.32 บาท
* แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2011 ที่ 14.80 บาท ใช้ PE ที่ 9 เท่า โดยมีปัจจัยหนุนจาก Backlog ที่รองรับไปถึงปี 2013 และโครงการที่ยังเปิดใหม่ต่อเนื่อง รวมทั้งความสามารถในการบริหารโครงการให้มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคู่แข่ง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันที่จะสูงขึ้นในอนาคต

Cash Balance จาก ตลท.: สำหรับสัปดาห์นี้(19-25 พ.ย. 53) คาดว่ามีเพิ่มอีก 3 ตัว ได้แก่ IVL13CB , BAY13CA และ TOP13CA (ต้องเทรดในบัญชีดังกล่าวจากวันที่ 29 พ.ย.-17 ธ.ค.)
สำหรับปัจจุบันมีหุ้นค้างในบัญชีดังกล่าว 2 ตัว คือ TPP (เทรดถึง 3 ธ.ค.) และ LOXLEY (เทรดถึง 9 ธ.ค.)

ADVANC:ข่าวความร่วมมือด้าน Data Roaming และการเป็น MVNO กับ TOT...ยังต้องรอการสรุปที่เป็นทางการ
จากหนังสือพิมพ์ Post Today มีข่าวความร่วมมือ ADVANC กับ TOT เรื่องเชื่อมต่อโครงข่าย 3G ของ TOT ให้บริการด้าน Data และเรื่อง MVNO: เมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) มีการพูดคุยระหว่าง 2 บริษัท ใน 3 เรื่อง คือ (1) TOT เปิดให้ ADVANC ใช้โครงข่าย 3G ของ TOT เพื่อให้บริการ Data (Data Roaming) ประมาณ 5 หมื่นเลขหมาย (2) ADVANC ขอเป็น MVNO บริการ 3G บนคลื่น 1900 MHz ของ TOT และ (3) การให้ TOT เช่าใช้เสาสถานีฐานของ ADVANC สำหรับบริการ 3G ของ TOT ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า ADVANC จะเสนอแผนการให้บริการ Data Roaming ต่อ TOT อีกครั้ง ความเห็น: การพูดคุยเพื่อทำ Data Roaming กับเครือข่าย 3G ของ TOT มีความล่าช้ามาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เราจึงยังไม่แน่ใจว่าคราวนี้จะได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ หากเป็นจริง เป็นข่าวดีต่อ ADVANC แต่ไม่ใช่ Big-deal เนื่องจากยังจำกัดการ Roaming เพียงระดับ 5 หมื่นเลขหมาย จากฐานลูกค้าทั้งหมดของ ADVANC ประมาณ 30 ล้านราย ส่วนเรื่องการขอเป็น MVNO ระบบ 3G บนคลื่น 1900 MHz ของ TOT มีคู่แข่งคือ DTAC และ TRUE แม้ ADVANC อาจได้เปรียบบ้าง เนื่องจากเป็นคู่สัญญาสัมปทาน (ระบบ 2G บนคลื่น 900 MHz) กับ TOT อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณาอื่นๆ อีก โดยเฉพาะจากมาตรา 46 ของพ.ร.บ.คลื่นความถี่ฯ ใหม่ กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ต้องประกอบกิจการด้วยตนเอง จะมอบหมายให้ผู้อื่นประกอบกิจการแทนไม่ได้ Deal นี้ จึงไม่ง่ายนัก คำแนะนำ: คง Rating ADVANC “BUY”เป้าหมาย 104 บาท โดยมองเป็น Dividend Play จากคาด Dividend yield ระดับ 10-12%
----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
26 พย. 53 ( -9.55 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

มีโอกาสปรับตัวลง 980 – 985 จุด
แนวโน้มในวันศุกร์นี้ ในกรณีปรับตัวขึ้นดัชนีไม่น่าจะไปได้เกิน 1005 - 07 บริเวณแนวต้านตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงตลาดยังคงถือว่า มีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงบริเวณ 980 - 985 ใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้วอีกครั้ง .. และ “อาจจะ” แกว่งตัวในกรอบ 980 – 1020 หรือระหว่างจุดต่ำสุดสัปดาห์ที่แล้วถึงจุดสูงสุดของสัปดาห์นี้ อีกสักระยะ

ขณะที่การปรับตัวลง ต่ำกว่า 978.52 จุดต่ำสุดสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงต่อเดือนหน้าแถว 905 – 955 จุด ใกล้แนวรับตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 สัปดาห์

หุ้นเด่น
QH
ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉี่ย 25 ชั่วโมงได้อีกครั้ง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 2.10จุดสูงสุดวันพฤหัส เป้าหมายสองสามวัน2.16 – 2.20( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 2.04 )2.16 – 2.20

PS
ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉี่ย 25 ชั่วโมงได้อีกครั้ง รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 19.10จุดสูงสุดวันพฤหัส เป้าหมายสองสามวัน19.70 – 20.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 18.50 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
PTT มีโอกาสลง 280 - 290
TRUE มีโอกาสลง 5.30 – 5.60
IVL ต่ำกว่า 48.25 ลง 45 - 47
BANPU มีโอกาสลง 740 - 750
TMB เกิน 2.26 ขึ้น 2.30 – 2.40
PTTEP มีโอกาสลง 155 - 160
CPF มีโอกาสลง 23 – 23.50
PTTAR มีโอกาสลง 34 - 35
PTTCH ต่ำกว่า 155 ลง 150 – 152
IRPC ต่ำกว่า 4.54 ลง 4.30 – 4.40

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS : ถ้าตลาดดีดขึ้นยังไม่ต้องรีบร้อนซื้อ เพราะโอกาสรอซื้อต่ำยังมีอยู่!!
แนวโน้ม: ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจบลงตามที่ตลาดคาดการณ์กันไว้ คือร่างแก้ไขฉบับที่รัฐบาลเป็นผู้เสนอผ่านวาระ 1 เรียบร้อยทั้ง 2 ฉบับ ทำให้คาดว่า
จะไม่มีผลต่อ SET ขณะที่ความกังวลต่อการลุกลามของปัญหาหนี้สินในยุโรปรวมถึงความวิตกต่อมาตรการคุมเข้มของทางการจีน ยังกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่
พอควร โดยเช้านี้ตลาดหุ้นในเอเชียก็ถือว่ายังมีแรงขายให้เห็น ส่วนตลาดหุ้นไทยยังมีประเด็นของ PTTEP จากเรื่องการรั่วไหลในมอนทารากดดันราคาหุ้นในกลุ่มPTT ซึ่งถือเป็นหุ้นกลุ่มหลักที่มีอิทธิพลกับ SET ค่อนข้างมาก ดังนั้น FSS จึงยังคาดว่าแนวโน้มที่ SET จะแกว่งตัวลงไปที่จุดต่ำสุดเดิมแถว 980 จุดหรือใกล้เคียงยังมีความเป็นไปได้ ดังนั้นยังแนะนำให้รอหาจังหวะกลับเข้ารับเมื่อตลาดปรับตัวลงต่ำอยู่เช่นเดิม
กลยุทธ์: ยังรอหาจังหวะเลือกหุ้นรับเมื่อตลาดปรับตัวลง ดังนั้นถ้าช่วงนี้ดีดขึ้นก่อนจึงยังไม่ต้องรีบร้อนเข้าซื้อไล่ราคา ซึ่งหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ BANPU, KBANK,KTB, SCB, TASCO, PTL, AMATA, PS, SPALI, AP, CK, VNG, MAJOR,HEMRAJ เป็นต้น

ประเด็นสำคัญวันนี้
• (-) เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ 3Q10 ชะลอมากกว่าตลาดคาด โดยเพิ่ม 6.5%Y-Y,-0.5%Q-Q ขณะที่ตลาดคาด +7.3%Y-Y, +0.9%Q-Q ชะลอลงจาก 2Q10 ที่+8.2%Y-Y, +1.4%Q-Q และเป็นการลดลง Q-Q เป็นไตรมาสแรกนับตั้งแต่ต้นปี2009 ทั้งนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียที่เศรษฐกิจในครึ่งหลังปีนี้เริ่มชะลอตัวเพราะเศรษฐกิจของ G3 (สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น) ที่ยังไม่ฟื้น และสิ่งที่เหมือนกันคือการบริโภคในประเทศที่แข็งแกร่งและเป็นเครื่องจักรสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจในเอเชียในปีหน้า
• (+) สภาลงมติรับรับร่างแก้ไข รธน. ทั้ง 2 ฉบับของรัฐบาล ตามคาด ทั้งในม. 190 (การลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องขอความเห็นจากรัฐสภาโดยคณะรมต.เป็นผู้เสนอ) และม. 93-98 (ระบบเลือกตั้งเขตเดียวเบอร์เดียว) ส่วนร่างแก้ไข รธน.ฉบับของ คปพร. (หมอเหวง) และของ สส.พรรคร่วมรัฐบาล ตกไป ส่วนเสื้อเหลืองนัดชุมนุม 11 ธ.ค. นี้ ขั้นต่อไปจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อพิจารณาวาระ 2และ 3 ซึ่งต้องไปรอประชุมสภาสมัยหน้า เพราะสมัยนี้จะปิดประชุม 28 พ.ย. นี้
• (+) กลุ่มบ้านกลับมาสดใสเพราะคาดว่าสัปดาห์หน้า 1 ธ.ค. กนง.มีโอกาสคงอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ มาตรการป้องกันฟองสบู่ในกลุ่มบ้านและคอนโดก็ถือว่า
เป็นข่าวดี แนะนำ SPALI (เป้าหมาย 14.80 บาท) PS (เป้าหมาย 27 บาท)
• (+) GLOBAL ราคาหุ้นผ่านการพักฐานไปแล้ว ณ ราคาปัจจุบันมี PE 20 เท่าถือว่าค่อนข้างเมื่อเทียบกับการเติบโตของกำไรเฉลี่ย 27% ในปี 2011 – 2012 การขยายสาขายังเดินหน้าตามแผน และได้ประโยชน์จากการซ่อมบ้านเรือนหลังน้ำลด
• (0) SYMC เริ่มเทรดวันนี้วันแรก บมจ. ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น ให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูงในประเทศ ได้รับ License 15 ปีจาก กทช. เริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือน มี.ค. 2550 ภายใต้แบรนด์ "Symphony" โดยอยู่ในกลุ่ม ICT มีPar 1 บาท ราคาจอง IPO 8.80 บาท บล.ธนชาติเป็นลีดอันเดอร์ไรท์
• (0) PTTEP มี Conference call กับนักวิเคราะห์ 9.00 น. วันนี้
• Fund Flow วานนี้นิ่งและมีปริมาณการซื้อขายเบาบางมาก ไหลเข้าตลาดหุ้นไต้หวัน แต่ขายสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ส่วนประเทศอื่นขายสุทธิเล็กน้อย ทั้งนี้เป็นเพราะช่วงนี้มีทั้งปัจจัยบวกและลบเข้าสู่ตลาดพร้อมกันทำให้มองทิศทางการลงทุนค่อนข้างยาก ปัจจัยลบจากปัญหาหนี้สินของยูโรโซนแม้จะผ่อนคลายแต่ยัง
ไว้ใจไม่ได้ ขณะเดียวกันมีปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐดูดีขึ้นมากกว่าคาดในระยะสั้น แต่ระยะยาวเฟดก็มีการปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีหน้าลง ส่วนประเด็นใหม่ที่ต้องจับตาคือ เรื่องปัญหาหนี้ของดูไปที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งยังแก้ไขไม่เสร็จอาจจะกลับมาเป็นกังวลอีกครั้งได้ ค่าเงินดอลลาร์ที่ยังแข็งค่าต่อเนื่องจะส่งผลให้กระแสเงินทุนจากต่างชาติช่วงนี้ชะลอตัวต่อเนื่อง หากค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง เราแนะนำให้เข้าเก็งกำไรในหุ้นส่งออก อย่าง TUF ที่คาดว่ากำไรไตรมาสที่ 4 จะออกมาดีจากการรับรู้กำไรจาก MWBand
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.

ข่าวต่างประเทศ
ยุโรป: ยูโรสแตทเผยยอดสั่งซื้อใหม่ของภาคอุตสากรรมในยูโรโซนหดตัว 3.8% เดือนก.ย. ยูโรสแตท ซึ่งเป็นสำนักงานสถิติของอียู รายงานว่า ยอดคำสั่งซื้อใหม่ในภาคอุตสาหกรรมของกลุ่มยูโรโซนลดลง 3.8% ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบกับตัวเลขของเดือนสิงหาคมที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง5.1% ส่วนยอดคำสั่งซื้อใหม่ใน 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ลดลง 2.5% ในเดือนกันยายน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนสิงหาคม(ที่มา: อินโฟเควสท์ 25-11-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค.ร่วงเกินคาด 8.1% กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค.ร่วง8.1% แตะระดับ 283,000 หลัง จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 308,000 หลังจาก ซึ่งร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 310,000 หลังในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงซบเซา อันเนื่องมาจากอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับที่สูงมาก รายงานของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่าราคาบ้านใหม่โดยเฉลี่ยในเดือนต.ค.อยู่ที่ 248,200 ดอลลาร์ ลดลง 8% โดยยอดขายบ้านใหม่ครอบคลุมถึง บ้านเดี่ยว อพาร์ทเมนท์ และคอนโดมิเนียม (ที่มา: อินโฟเควสท์ 25-11-2010)
จีน: จีนเผยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดพุ่งแตะ 1.023 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 สำนักปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยว่าจีนมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 1.023 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ พุ่งขึ้น 1.03 เท่าจากปีที่แล้ว บ่งชี้ว่าจีนกำลังได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากเงินทุนไหลเข้า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของจีนลดลง 8% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 1.242 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับในไตรมาส 2 ไตรมาสเดียวยอดเกินดุลอยู่ที่ 7.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ พุ่งขึ้น 30% เมื่อเทียบรายปี (ที่มา: อินโฟเควสท์ 25-11-2010)
เอเชีย: ญี่ปุ่นเผยยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 7.8% เดือนต.ค. ขณะยอดเกินดุลการค้าทะยาน 2.7% กระทรวงการคลังของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดการส่งออกของญี่ปุ่นมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 7.8% ในเดือนตุลาคม เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 5.7236 ล้านล้านเยน และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันในขณะที่ยอดการนำเข้าขยายตัว 7.8% ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นเป็น 8.219 แสนล้านเยน หรือ 2.7% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 25-11-2010)
เอเชีย: เวียดนามเผยยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย.พุ่ง 16% จากเดือนต.ค. หวั่นกระทบค่าเงินดอง สำนักงานสถิติเวียดนามเผยยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 16% แตะระดับ 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนต.ค. ซึ่งภาวะดังกล่าวอาจสร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินดองที่อ่อนค่าลงอย่างหนักในปีที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ยอดส่งออกของเวียดนามในเดือนพ.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 4% แตะระดับ 6.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 6.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนต.ค. ขณะที่ยอดนำเข้าทะยานขึ้น 5% แตะ 7.7พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนต.ค. ส่งผลให้ในช่วง 11 เดือนของปีนี้เวียดนามมียอดส่งออกเพิ่มขึ้น 24.5% แตะ6.428 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดนำเข้าทะยานขึ้น 19.8% แตะระดับ 7.494 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 25-11-2010)
เอเชีย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกาหลีใต้เดือนพ.ย.ดีดตัว จากกระแสคาดเศรษฐกิจฟื้น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเกาหลีใต้เดือนพ.ย.ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า บรรยากาศการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะช่วยกระตุ้นรายได้ภาคครัวเรือน และสร้างปัจจัยหนุนต่อแนวโน้มการจ้างงาน ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 110 จุด จากระดับ 108 จุดในเดือนต.ค. ซึ่งผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นจากการสอบถามความเห็นของประชาชน 2,138 ครัวเรือน ใน 56 เมืองระหว่างวันที่ 12 - 19พ.ย. ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่เกาหลีเหนือจะยิงปืนใหญ่ไปยังเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา (ที่มา: อินโฟเควสท์ 25-11-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น