Code 106 : วันหยุดครึ่งปีของธนาคาร

วันพฤหัสที่ 1กรกฏาคม 2553

ATT Code : วันหยุดครึ่งปีของธนาคาร
วันนี้เป็นวันหยุดครึ่งปีของธนาคาร ทำให้โบรกเกอร์และตลาดหลักทรัพย์ก็หยุดไปด้วย แต่ก็ดีเหมือนกัน เพราะเมื่อคืน DJIA ก็ยังลบอยู่ 96 จุด ปิดที่ 9774 จุด เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับภาวะเศรษฐกิจ ก้ต้องดูต่อคืนนี้ว่าจะดีดกลับขี้นมาได้บ้างรึป่าว

----------------------------------------------------------------------------------
High Light :
ข่าวไทยรัฐออนไลน์ : ข่าวเศรษฐกิจ
ซีพีเอฟซื้อใจชาวบ้านผุดคาราวานของถูก หยุดส่งออกแก้ไข่ไก่แพง
ราคาน้ำตาลเด้งขึ้นสุดกู่
กรณ์ ลังเล ใช้มาตรการฟรีตลอดชีพ

Norsorpor.com : เศรษฐกิจ
ราคาน้ำตาลเด้งขึ้นสุดกู่
อาหารส่งออกแสนล้านไทยพุ่งขึ้นอันดับ7โลก
สินค้าแพงทำเงินเฟ้อมิ.ย.พุ่ง3.3%
ช.การช่างคว้าประมูลงานสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน2สัญญา รวมมูลค่ากว่า 2หมื่นล้าน
อายิโนะโมะโต๊ะ ทุ่ม 3.4 พันล้านขยายลงทุนในไทย

Special Report
Special Report : จับตา กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม ครึ่งปีหลัง ฟื้นหรือทรุด

Blog ดร. กอบ
ประเด็นคำถามสำหรับครึ่งหลังของปี 53
การป้องกันวิกฤต
เงินไหลเข้ากับการเกิดวิกฤต
Stress Test ในยุโรป
ความคืบหน้าของปัญหาและการแก้ไขปัญหาในยุโรป

ตลาดการเงิน : ตลาดทุน
SET & External Stock Market Indexes


KELive วิเคราะห์รายหุ้น
CCET (3.76 บาท : ขายทำกำไร) รายงานการจัดตั้งโรงงานใหม่ในมาเลเซียตามคาด
PTTE13CB Derivatives Warrant Strategy (30/6/10)
KBAN13CB Derivatives Warrant Strategy (30/6/10)
DTAC (36.00 บาท : ซื้อ) คาดหมายกำไรปกติไตรมาส 2/53 โต 58% yoy แต่ชะลอตัวลงตามฤดูกาล 12% qoq เป็น 2.16 พันล้านบาท
TAPAC-W1: ประเมินราคาวอแรนท์

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-ทิสโก้แจกหุ้น!!
ดัชนีหุ้นวันที่ 30 มิ.ย.52 ปิดที่ 797.31 จุด ลดลง 1.78 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 21,731.15 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 923.93 ล้านบาท

หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด ADVANC ปิดที่ 86.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท, CPF ปิดที่ 20.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท, PTT ปิดที่ 246 บาท ลดลง 4 บาท, IVL ปิดที่ 22 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท และ BTS ปิดที่ 0.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย มองทิศทางตลาดระยะสั้นว่า ยังต้องรอดูตัวเลขการว่างงานของสหรัฐฯ ที่จะเป็นปัจจัยชี้นำการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่จะมีผลต่อการขึ้นลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลกรวมทั้งประเด็นการชำระหนี้ของธนาคารในยุโรป หากกระแสข่าวหรือการรายงานตัวเลขออกมาไม่ดี ก็จะมีผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน

แนะกลยุทธ์การลงทุน หากดัชนีดีดตัวขึ้น ให้ "ขายทำกำไร" ออกมา ด้านเทคนิคให้แนวรับไว้ที่ 786 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 808-809 จุด

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป แนะกลยุทธ์ ให้เลือกลงทุนหุ้นรายตัวที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2 จะเติบโตดี เช่น หุ้นธนาคารพาณิชย์ แนะนำ BBL ส่วน บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบแนวรับ-แนวต้าน โดยเน้นหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เหล็ก และสินค้าเกษตร ทั้งนี้ ให้แนวรับไว้ที่ 786-790 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 808-810 จุด

ปิดท้าย "วิวัฒน์ เตชะพูนผล" หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล. ทิสโก้ คาดว่าช่วงปลายไตรมาส 3 มีโอกาสที่เม็ดเงินต่างชาติจะไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทย ส่วนแนวโน้มหุ้นไทยระยะสั้นสัปดาห์หน้า มีความเสี่ยงที่จะปรับฐานลง เนื่องจากช่วงปลายสัปดาห์นี้ ธนาคารพาณิชย์ในยุโรปจะมีการชำระหนี้ที่ครบกำหนด จำนวน 4.4 หมื่นล้านยูโร ประกอบกับสัปดาห์หน้า สภาพคล่องจะหดหายไปจากการที่นักลงทุนเตรียมเงินไปจองซื้อหุ้น Agricultural Bank of China มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2.2 หมื่นล้านเหรียญฯ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ตลาดปรับฐานถือเป็นจังหวะที่จะเข้าทยอยซื้อหุ้น โดยแนะหุ้น DTAC, STEC, CK, TCAP, BBL, KTB, KBANK, LPN, PS, SPALI, HEMRAJ, AMATA, BTS, SAT, CPF และ TUF

และหากดัชนีดาวโจนส์ไม่ปรับตัวลงหลุดระดับ 9,700 จุด ประเมินว่าสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.ค. มีโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุ 810 จุดได้ และปรับขึ้นมาที่ 840 จุด ได้ในช่วงปลายเดือน!!


----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ไทยรัฐ -หุ้นมะกันปรับลด นักลงทุนผิดหวัง ภาวะเศรษฐกิจ

ปิดตลาดสหรัฐวันสุดท้ายในไตรมาส 2 ของปี หุ้นปรับลดลง หลังนักลงทุนผิดหวังข้อมูลด้านตลาดแรงงาน ท่ามกลางความไม่มั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ...

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในไตรมาส 2 ของปี เป็นไปอย่างเบาบาง นักลงทุนเทขายหุ้นเป็นส่วนใหญ่ หลังผิดหวังข้อมูลที่ระบุบริษัทเอกชนมีการจ้างงานใหม่ในเดือนมิถุนายน เพียง 13,000 ตำแหน่ง แม้จะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินหลายแห่งบ้างก็ตาม สร้างความไม่มั่นใจต่อนักลงทุนว่า เศรษฐกิจของประเทศกำลังฟื้นตัวอย่างเต็มที่จริงหรือไม่

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 31 เซนต์ ไปปิดที่ระดับ 75.63 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 9,774.02 จุด ลดลง 96.28 จุด แนสแดคปิดที่ระดับ 2,109.24 จุด ลดลง 25.94 จุด และเอสแอนด์พีปิดที่ระดับ 1,030.71 จุด ลดลง 10.53 จุด.

----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น